เรื่องบางเรื่องในวิชาประวัติศาสตร์ไม่มีการสอนแบบลึกๆเลย
เป็นเรื่องอันตรายครับ
ประวัติศาสตร์ไทยเกือบทั้งหมด เป็นเรื่องพงศาวดาร ซึ่งเป็นคำรวมที่มาจาก พงศ กับ อวตาร ดังนั้นจึงเป็นบันทึกเหตุการณ์ของพระมหากษัตริย์ ไม่มีภาคประชาสังคม หรือการค้า และยังได้รับการตรวจชำระโดยพระมหากษัตริย์ รัชกาลถัด ๆ มา ตัวอย่างเช่นพระราชพงศาวดาร ฉบับพระราชหัตถเลขา ที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงแก้ไขและพระราชทานพระบรมราชาธิบายไว้เป็นช่วง ๆ ดังนั้นการวิจารณ์ หรือนำไปเปรียบเทียบกับเอกสารที่ชาวต่างประเทศบันทึกไว้ ถ้ากระทำนอกรั้วสถาบันการศึกษา ก็เป็นเรื่องที่เสี่ยงต่อมาตรา 112
นอกจากนั้น เราต้องเข้าใจเหตุการณ์ในสมัยนั้นด้วยว่าเป็นช่วงที่เราต้องเผชิญกับลัทธิล่าเมืองขึ้นจากประเทศตะวันตก การเผยแพร่เอกสารทางประวัติศาสตร์ในช่วงนั้น จึงต้องแฝงไว้ด้วยมาตรการป้องกันการเสียดินแดน
เมื่อก่อนผมมองแบบพวกหัวก้าวหน้าที่ชอบออกมาประท้วงแบบแปลกๆกันทุกวันนี้
แต่เมื่อเห็นสถานะการณ์โลก ประเทศทางแอฟริกา ตะวันออกกลาง เอเชียใต้ ตลอดจนถึงยุโรปตะวันออก ที่เห็นประชาชนยึดมั่นความเป็นชนเผ่า หรือนิกาย มากกว่าความเป็นคนของรัฐใดรัฐหนึ่ง ข้ามพรมแดนไปทำสงครามกันมั่วไปหมด
จึงทราบซึ้งถึงพระปรีชาชาญ ที่ทรงเล็งเห็นผลในอนาคต ในการดำเนินนโยบายทางประวัติศาสตร์แบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
ไม่เช่นนั้นเราคงเห็น ไทยเชื้อสายมอญ ไทยทวาย ไทยกระเหรี่ยง ไทยขแมร์ ไทยลาว ข้ามพรมแดนไปก่อจราจลกันมั่วไปหมด แบบอิรัค ซีเรีย
แต่นโยบายนี้เราสร้างรวมตัวในอัตลักษณ์ใหม่ ต่างจากเพื่อนบ้าน เราถึงอยู่เป็นสุขทั่วทุกวันนี้
คำว่า "ไทยเชื้อสายมอญ ไทยทวาย ไทยกระเหรี่ยง ไทยขแมร์ ไทยลาว" เป็นแนวคิดที่ถูกโฆษณาชวนเชื่อในสมัยจอมพล ป.ที่สืบเนื่องมาจากลัทธิคลั่งชาติของเยอรมันกับญี่ปุ่น พยายามปลูกฝังว่า คนไทยเป็นเชื้อชาติบริสุทธิ์ มึความยิ่งใหญ่ในอดีต แต่รักสงบ ต้องอพยพลงมาสู่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาเพราะถูกรุกราน มีผลทำให้คนไทยมองตัวเองเป็นศูนย์กลาง เรียกชาติพันธุ์อื่นที่พูดภาษาตระกูลไทย-ลาว ว่าเป็นคนไทย เชื้อสายนั้น เชื้อสายนี้
บางครั้งก็พลาด ไปเรียกคนที่พูดภาษาไทยใน อินเดีย-บังคลาเทศ ว่าเป็นไทยอาหม ทั้ง ๆ ที่คำว่าอาหม เป็นคำที่เสียงเพี้ยนมาจาก "สยาม" อยู่แล้ว
มีนักวิชาการบางท่าน เสนอแนวความคิดว่าภาษาไทย เดิมทีเดียวน่าจะเป็นภาษากลางในทางการค้าของสุวรรณภูมิ และความที่สุโขทัย อยุธยา สุพรรณบุรี ควบคุมเส้นทางการค้าระหว่าง อ่าวเมาะตะมะ - อ่าวตังเกี๋ย, ลุ่มแม่น้ำโขง, ลุ่มแม่น้ำสาละวิน, ลุ่มแม่น้ำกก ออกสู่อ่าวไทย จึงได้ใช้ภาษาไทยเป็นภาษาถิ่น