ทีนี้ มาว่ากันต่อ...
เรื่องของกฎหมายบ้าง...
ว่าไป พี่ที่เป็นทนายเขาบอก เมืองไทยเรื่องคดีข่มขืนนี่
มักไม่มีใครแจ้งความ ด้วยเหตุแห่งความอับอาย
เพราะต้องไปให้การในชั้นศาล
ซึ่งระบบกฎหมายของไทย เรื่องแบบนี้สืบจากสุภาพสตรี
อาทิ พิสูจน์ทางการแพทย์
(อันนี้ ไม่น่าอายเท่าไหร่ เพราะกระทำในสถานที่มิดชิด และผลตรวจน์ทางวิทยาศาสตร์ ทำแค่ครั้งเดียว)
แต่หาก หลังเกิดเหตุ ไม่ได้ไป รพ.โดยทันที คงยุ่งหน่อย
แต่ตอนไปให้การในชั้นศาล ผู้ที่ให้ปากคำในชั้นศาลมากที่สุดคือโจทก์(ผู้หญิงที่ไปแจ้งความน่ะแหละ)
ต้องตอบคำถามต่างๆมากมาย
ในขณะที่จำเลย(ฝ่ายชาย) แทบไม่ต้องทำอะไรเลย ปฏิเสธอย่างเดียว
ดังนั้น กว่าที่โจทก์จะปรักปรำให้ศาลเชื่อถือได้ ไม่ทราบเหมือนกันว่า ต้องเล่าสิ่งที่น่าอดสูใจมากไปแค่ไหน
อีทีนี้ พี่เค้าก็ว่าต่อ
ไม่เหมือนที่อเมริกา..
ที่นั่น หากมีการแจ้งเรื่องข่มขืน
โดยกฏหมายจะเซฟโจทก์(ผู้หญิง)มากที่สุด
และจะสืบจากฝ่ายชาย(จำเลย)แทน..
ดังนั้น เพื่อพิสูจน์ให้ได้ว่าไม่ได้ทำ ฝ่ายชายต้องเคลียร์ตัวเองให้ได้ในทุกๆเรื่อง....
ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าที่พี่ทนายความเล่ามา จริงหรือไม่
เลยถามตอนนี้เลย สำหรับผู้รู้กฎหมาย อยู่อเมริกา หรือเคยอยู่อเมริกา.....
จริงรึป่าวครับ
นายซับมั่วแล้ว ปัจจุบัน กฎหมายไทย ไม่ได้ให้ผู้เสียหายไปขึ้นศาลแล้ว
ในคดีเรื่องเพศ โดยการสอบสวนปากคำให้พนักงานสอบสวนหญิง อัยการ
และนักสังคมสงเคราะห์ เป็นผู้สอบสวนปากคำ แล้วบันทึกวีดีทัศน์ไว้
ผู้เสียหายไม่ต้องไปขึ้นศาล กฎหมายนี้ออกมาตั้งแต่ ปี ๔๕
ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไหนจ้า ศึกษาข้อมูลหน่อย ตาซับ