สมัยกรุงแตกครั้งที่2 ไม่ใช่ทัพใหญ่เค้าใช่มั้ยครับ เหมือนเคยอ่านเจอว่าเป็นแค่ทัพหน้านี่ละ เพราะทางพม่าติดศึกกับจีนพอดี แต่อยุธยาอ่อนแอสุดๆเลยโดนดีแตก
ทัพกษัตริย์ครับ เอกสารไทยกับพม่าตรงกันว่าพระเจ้าอลองพญายกทัพมาเอง ที่ไม่ตรงกันคือไทยบอกว่าพระเจ้าอลองพญาคุมยิงปืนใหญ่ แล้วปืนระเบิดตายถึงยกทัพกลับ ส่วนเอกสารพม่าบอกว่าป่วยตายเอง ตอนหลังพม่ารู้ว่าไทยเขียนแบบนี้ยังชอบใจ เพราะตายในสนามรบมีเกียรติกว่าตายเพราะโรคบิดแบบที่พม่าบันทึกไว้
ศึกเสียกรุง พ.ศ.2306 นำทัพโดยพระเจ้ามังระ ซึ่งตามเสด็จพระเจ้าอลองพญาตั้งแต่ศึกใน พ.ศ.2303 ท่านจึงรู้ลู่ทางดี และใช้วิธีตัดรอนกำลังหัวเมืองรอบ ๆ ของไทยเสียก่อน เตรียมเรือมาสำหรับอพยพในฤดูน้ำหลาก ที่พระเจ้ามังระสำรวจพื้นที่ไว้ล่วงหน้า พอน้ำเหนือหลาก ก็ไม่ต้องถอนทัพกลับ แต่ใช้วิธีไปตั้งค่ายตามคุ้งน้ำที่แม่น้ำไหลอ้อมเกือบเป็นวงกลม ขุดคูลัดให้มีน้ำล้อมรอบเป็นแนวระวังป้องกัน และจัดกำลังทางเรือปิดล้อมกรุงศรีอยุธยา ไทยเป็นฝ่ายจะอดตายเอง
พระเจ้าอลองพญา เป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด หนึ่งในสามพระองค์ของพม่า องค์แรกคือพระเจ้าอโนรธามังช่อ สมัยพุกาม, บุเรงนองแล้วก็พระเจ้าอลองพญา ถัดจากนั้นก็ไม่มีอีกเลย จนถึงยุคของนายพลอองซาน พ่อของอองซาน ซูจี นั่นแหละ
และที่บอกว่าไทยอ่อนแอ ปล่อยให้ฝ่ายในมีอำนาจเท่ากับพระมหากษัตริย์ ตรงนี้น่าจะเป็นเรื่องที่ฝ่ายไทยใส่ร้ายป้ายสีกันเอง เพื่อหาผู้รับผิดชอบการเสียกรุง เอกสารพม่ารวมทั้งของชาวตะวันตกกลับบอกว่าพระเจ้าเอกทัศน์มีพระราชกิจที่ดีหลายเรื่อง เช่นกำหนดมาตรฐานการค้าขาย ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา บริจาคทรัพย์ให้แก่คนยากจน
แต่เราก็ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า ราชวงศ์บ้านพลูหลวง มีแนวความคิดในเรื่องต่อต้านชาวต่างชาติ มาตั้งแต่ปลายรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์ ซึ่งทำให้การค้าระหว่างประเทศตกต่ำลง