๏ฟฝ๏ฟฝ็บบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝสน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาปืน
พฤษภาคม 07, 2024, 12:09:53 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ตะลึง!!! เด็กอินเดียวัย 9 ขวบ  (อ่าน 3108 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
swk317
stproject
Jr. Member
**

คะแนน 7
ออฟไลน์

กระทู้: 38



เว็บไซต์
« เมื่อ: มีนาคม 03, 2009, 07:02:29 PM »



เด็กหญิงชาวอินเดียนาม M. Lavinashree สามารถสอบผ่าน Microsoft Certified Professional หรือ MCP ด้วยวัยเพียง 9 ขวบกลายเป็นผู้ที่อายุน้อยที่สุดในโลกที่ได้รับใบประกาศนี้แซงหน้าเด็กหญิงชาวปากีสถานวัย 10 ขวบที่ได้รับไปก่อนหน้าโดยเธอได้รับคะแนนถึง 842 จากคะแนนเต็ม 1000 คะแนนซึ่งน้องคนนี้เคยสร้างสถิติมาก่อนหน้าด้วยการท่องกลอนความยาว 1,300 โครงด้วยภาษาทมิฬเมื่อวัยเพียง 3 ขวบ

   ในแต่ละวันเธอจะตื่นตอนหกโมงครึ่งและใช้เวลาในการเรียนคอมพิวเตอร์ประมาณสองชั่วโมงเธอเข้าเรียนคอสมัลติมีเดียนานหนึ่งปีเมื่อตอนชั้น Std. IIทำให้เธอเก่งในด้านอนิเมชั่น โปรแกรม Corel Draw, Photoshop, Illustrator, Flash, Dream Weaver และการออกแบบเว็บ

   นอกจากนี้พ่อของเธอวางแผนที่จะให้เข้าทดสอบ Microsoft CertifiedSystems Engineer และ Microsoft Certified Systems Administrator อีกด้วย


Credit: tvonline
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 03, 2009, 09:33:38 PM โดย swk317 » บันทึกการเข้า

Southlander
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 5711
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 48210



« ตอบ #1 เมื่อ: มีนาคม 03, 2009, 07:26:30 PM »

อือ...ก่อนอื่นขอโทษทุกท่านหากคำตอบผมจะออกมาแบบคนขวางโลก....ไม่ใช่ผมมองโลกในแง่ร้ายอะไรเพียงแต่อยากให้เรามองอะไร
ถึงแก่นแท้กันก่อน...อันนี้ไม่ได้หมายถึง จขกท. แต่ประการใดเพราะผมพูดแบบนี้กับแฟนตอนที่เธอมาชื่นชมเด็กๆที่เก่งคอมฯ

 วิทยาการในโลกนี้นั้นผมอยากกล่าวว่าไม่มีอะไรที่เป็นหลักสูตรเรียนลัดกันได้เลยก่อนที่เราๆท่านๆจะมีความรู้ในศาสตร์ด้านใดด้านหนึ่งนั้น
เราต้องผ่านขั้นตอนการเรียนรู้มาตามลำดับ อนุบาล ประถม มัธยม มหาลัย ในแต่ละระดับนั้นเราบ่มเพาะความรู้พื้นฐานกันมาก่อนที่เราจะ
เลือกสาขาเจาะลึกลงไปในแต่ละวิทยาการที่เราเลือก
 ในที่นี้ขอพูดเฉพาะเช่นคอมพ์เราเรียนรู้พื้นฐานอะไรมาบ้างก่อนจะเรียนคอมพิวเตอร์
เช่นคณิตศาสตร์ตั้งแต่ +-*/ รากที่สอง ยกกำลัง ดิฟ อินติเกรด เลขฐานต่างๆและการแปลงฐานเลขเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเรียนคอมพิวเตอร์
ก่อนจะเริ่มพัฒนาไปเป้นภาษาคอมพิวเตอร์ชั้นสูงต่อไปเช่น เบสิค ปาสคาล ซี ซีพลัส พลัส ซึ่งเป็นภาษาซอร์สโค๊ดเบื้องหลังสำหรับเบื้องหน้าที่ให้เรามา คลิ๊กๆนั่นคลิกๆนี่
 แล้วคุณคิดว่าความรู้มากมายเหล่านี้คุณจะจับมันมาดาวน์โหลดใส่สมองเด็ก 9 ขวบหมดในเวลาอันรวดเร็วหรือ...ตลกแล้ว
ผมจึงไม่อาจชื่นชมเด็กแบบนี้ว่าเก่งได้ แต่โปรแกรมที่เด็กเหล่านี้เล่นนั้นเป็นภาษาเบื้องหน้าแล้วเด็กมีความสนใจเป็นพิเศษเท่านั้นและผมชื่นชมเด็กตรงนี้..แต่หากจะเอามาทำงานผมเลือกคนที่เรียนและจบมาตามวัยวุติย์ปกติมากกว่า และไล่เด็กคนนี้ไปเรียนให้จบมหาลัยก่อน..เผลอๆผมอาจออกทุนให้เรียนจนจบด้วยถ้าผมเป็น บิล เกตต์ เพราะถือว่ามีความสามารถเกินเด็กวัยเดียวกันน่าส่งเสริมครับ


ไม่เชื่อลองถามเทพ คอมพิวเตอร์ เช่นพี่วัฒน์ และหลายๆท่านในดูซิว่าสิ่งที่ผมพูดจริงหรือเปล่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 03, 2009, 07:43:07 PM โดย Gunchon » บันทึกการเข้า

๏ทุกวันนี้ศึกไกลยังไม่ห่วง  แต่หวั่นทรวงศึกใกล้ไล่ข่มเหง
ถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเอง   จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง
                      
                             โดย:นภาลัย สุวรรณธาดา พศ.๒๕๑๐
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #2 เมื่อ: มีนาคม 04, 2009, 08:25:25 AM »

นายสมชายนี่แหละสอบ MCP ตัวแรก(Window 2000 - สมัยโน้นเป็นของใหม่) ได้ในครั้งเดียว... เพราะต้องสอบเป็นตัวอย่างให้ลูกน้องมันดู... แล้วไล่ให้พวกมันไปสอบให้ได้...

คือสมัยโน้นมีด็อตเน็ต (.NET) ออกใหม่ๆ แล้วไมโครซอฟต์บังคับว่าต้องมี MCP ในองค์กรเท่านั้นเท่านี้คน จึงจะได้สิทธิ์แปะตรา Microsoft Partner แล้วจะได้สิทธิ์ใช้ซอฟต์แวร์ฟรีเป็นรายการหางว่าว โดยถูกฏหมาย...

เคล็ดลับไม่มีอะไรหรอกครับ เราก็อ่านข้อสอบเก่าจากเว็บไซต์จำพวก www.brain-dumps.net แยะๆ แล้วก็เข้าไปสอบ... ซึ่งข้อสอบเก่าพร้อมเฉลยพวกนี้เราอ่านบ่อย ซ้ำๆหลายครั้งแล้วเข้าสอบ มันก็ได้เกือบเต็มอยู่แล้วครับ... (เหมือนนายสมชายกับเมียสอบ TOEFL ได้ 600 กว่าๆ)

สอบกี่ครั้งก็ได้เกือบเต็มทุกครั้งแหละ แต่ไม่ค่อยให้ไปสอบกันบ่อย เพราะมันเปลืองค่าสอบ... ฮา

ที่คนไทยสอบกันไม่ค่อยได้ ไม่ใช่เพราะไม่เก่งนะครับ แต่เป็นเพราะหลงทาง พยายามอ่าน Material เช่นหนังสือที่พิมพ์โดยไมโครซอฟต์เอง... หนังสือพวกนี้หลายเล่มยิ่งอ่านยิ่งงง เพราะแปลประโยคต่อประโยคจากภาษาอังกฤษ...

ที่จริงวิธีศึกษาคอมพิวเตอร์ที่ได้ผลดีที่สุดคืออ่านข้อสอบเก่าแล้วทดลองทำตามข้อสอบเก่า ดูว่ามันได้อย่างที่เขาเฉลยหรือไม่...

แต่คนไทยมักไม่ค่อยได้ทำแบบนี้ เป็นเพราะพื้นฐานภาษาอังกฤษไม่ดีครับ... คู่มือก็อ่านไม่ค่อยออก สะกด+ออกเสียงก็ไม่ถูก เลยสื่อสารกันไม่ค่อยได้... คนถามอยากจะถามก็ไม่รู้ว่าจะถามยังไง คนตอบก็ได้แต่เดาไปเดามา... เลยกลายเป็นคนไทยชอบนั่ง "งม" อยู่คนเดียวเพื่อหาคำตอบครับ คนที่รู้จริงจนได้เลยอมภูมิ เพราะตัวเองกว่าจะหาคำตอบได้แทบรากเลือด... ฮา

ในเมืองไทยเลยกลายเป็นว่าผู้ใช้งานทั่วไปเลยไม่รู้ว่าพวกคอมพิวเตอร์แมนคนไหนเก่งจริง... พวกที่จบสูงๆ ก็ไม่แน่ว่าจะเก่งจริง บางคนเก่งจริง บางคนแหกตาอาจารย์จับคู่กับคนเก่งแล้วตัวเอง Present โปรเจ็คจบ... นายสมชายเคยเป็นอาจารย์สอบโปรเจ็คจบ เจอพวกนี้ให้ทำโปรเจ็คแก้ตัวเกลี้ยงเลยครับ...

อาจารย์เองบางคนก็ไม่เก่ง... นศ. มาถามก็ไม่รู้ แต่ทำไก๋บอกให้ นศ. ค้นตรงโน้น ค้นตรงนี้ แล้วบอกว่า นศ. จะได้จำแม่น... ฮา
บันทึกการเข้า
~ Sitthipong - รักในหลวง ~
"วาจาย่อมมีน้ำหนัก หากหนุนด้วยสรรพอาวุธ"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2953
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 23203



« ตอบ #3 เมื่อ: มีนาคม 04, 2009, 09:07:44 AM »

อย่างที่ท่าน Gunchon  ว่าครับ เอาเข้าทำงานจริง ๆ ไม่ได้หรอกอายุเท่านี้  เพราะยังขาดทักษะในหลาย ๆ เรื่อง ความรู้พื้นฐานทางคอมพิวเตอร์ก็ไม่น่าจะรู้นะ
อีกอย่างข้อสอบก็ไม่น่าจะเจาะลึกมาก   ไหว้
บันทึกการเข้า



...ไม่มีใครทำขาวให้เป็นดำ  หรือทำผิดให้เป็นถูกได้ตลอด...
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #4 เมื่อ: มีนาคม 04, 2009, 09:15:18 AM »

นายสมชายนี่แหละสอบ MCP ตัวแรก(Window 2000 - สมัยโน้นเป็นของใหม่) ได้ในครั้งเดียว... เพราะต้องสอบเป็นตัวอย่างให้ลูกน้องมันดู... แล้วไล่ให้พวกมันไปสอบให้ได้...

คือสมัยโน้นมีด็อตเน็ต (.NET) ออกใหม่ๆ แล้วไมโครซอฟต์บังคับว่าต้องมี MCP ในองค์กรเท่านั้นเท่านี้คน จึงจะได้สิทธิ์แปะตรา Microsoft Partner แล้วจะได้สิทธิ์ใช้ซอฟต์แวร์ฟรีเป็นรายการหางว่าว โดยถูกฏหมาย...

เคล็ดลับไม่มีอะไรหรอกครับ เราก็อ่านข้อสอบเก่าจากเว็บไซต์จำพวก www.brain-dumps.net แยะๆ แล้วก็เข้าไปสอบ... ซึ่งข้อสอบเก่าพร้อมเฉลยพวกนี้เราอ่านบ่อย ซ้ำๆหลายครั้งแล้วเข้าสอบ มันก็ได้เกือบเต็มอยู่แล้วครับ... (เหมือนนายสมชายกับเมียสอบ TOEFL ได้ 600 กว่าๆ)

สอบกี่ครั้งก็ได้เกือบเต็มทุกครั้งแหละ แต่ไม่ค่อยให้ไปสอบกันบ่อย เพราะมันเปลืองค่าสอบ... ฮา

ที่คนไทยสอบกันไม่ค่อยได้ ไม่ใช่เพราะไม่เก่งนะครับ แต่เป็นเพราะหลงทาง พยายามอ่าน Material เช่นหนังสือที่พิมพ์โดยไมโครซอฟต์เอง... หนังสือพวกนี้หลายเล่มยิ่งอ่านยิ่งงง เพราะแปลประโยคต่อประโยคจากภาษาอังกฤษ...

ที่จริงวิธีศึกษาคอมพิวเตอร์ที่ได้ผลดีที่สุดคืออ่านข้อสอบเก่าแล้วทดลองทำตามข้อสอบเก่า ดูว่ามันได้อย่างที่เขาเฉลยหรือไม่...

แต่คนไทยมักไม่ค่อยได้ทำแบบนี้ เป็นเพราะพื้นฐานภาษาอังกฤษไม่ดีครับ... คู่มือก็อ่านไม่ค่อยออก สะกด+ออกเสียงก็ไม่ถูก เลยสื่อสารกันไม่ค่อยได้... คนถามอยากจะถามก็ไม่รู้ว่าจะถามยังไง คนตอบก็ได้แต่เดาไปเดามา... เลยกลายเป็นคนไทยชอบนั่ง "งม" อยู่คนเดียวเพื่อหาคำตอบครับ คนที่รู้จริงจนได้เลยอมภูมิ เพราะตัวเองกว่าจะหาคำตอบได้แทบรากเลือด... ฮา

ในเมืองไทยเลยกลายเป็นว่าผู้ใช้งานทั่วไปเลยไม่รู้ว่าพวกคอมพิวเตอร์แมนคนไหนเก่งจริง... พวกที่จบสูงๆ ก็ไม่แน่ว่าจะเก่งจริง บางคนเก่งจริง บางคนแหกตาอาจารย์จับคู่กับคนเก่งแล้วตัวเอง Present โปรเจ็คจบ... นายสมชายเคยเป็นอาจารย์สอบโปรเจ็คจบ เจอพวกนี้ให้ทำโปรเจ็คแก้ตัวเกลี้ยงเลยครับ...

อาจารย์เองบางคนก็ไม่เก่ง... นศ. มาถามก็ไม่รู้ แต่ทำไก๋บอกให้ นศ. ค้นตรงโน้น ค้นตรงนี้ แล้วบอกว่า นศ. จะได้จำแม่น... ฮา

ลืมสรุปครับ ว่าทำข้อสอบได้ ไม่ได้หมายความว่าทำงานได้ดี... แต่เป็นเพราะทำข้อสอบ+ดูเฉลยบ่อยๆ เลยรู้คำตอบได้ทั้งที่ไม่แน่ว่าจะเข้าใจได้จริงหรือไม่ครับ...
บันทึกการเข้า
coda
None of us is as smart as all of us.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1081
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20775



เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: มีนาคม 04, 2009, 09:23:57 AM »

...นายสมชาย ขอคำแนะนำการเตรียมสอบ TOEFL หน่อยครับ
บันทึกการเข้า

Check your monitor:

https://www.facebook.com/StudioCoda

"ยึดปืนคนดี  อัปรีย์จะครองเมือง"
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #6 เมื่อ: มีนาคม 04, 2009, 10:02:53 AM »

...นายสมชาย ขอคำแนะนำการเตรียมสอบ TOEFL หน่อยครับ

สมัยของนายสมชาย เมื่อก่อนโน้นเรียนพิเศษกับ อ.สงวน วงศ์สุชาติ ที่เสาชิงช้าครับ... เดี๋ยวนี้ไม่รู้ว่ายังสอนอยู่หรือไม่ แต่ถ้าไม่ได้สอนแล้วก็สามารถดูวิธีของนายสมชายเป็นแนวทางได้ครับ...

คือ TOEFL ไม่ใช่ข้อสอบวัดความสามารถภาษาอังกฤษ แต่เป็นข้อสอบวัดความสามารถว่าจะอยู่รอดได้ในสิ่งแวดล้อมที่เป็นภาษาอังกฤษ และสามารถเรียนหนังสือ+เรียนรู้ภาษาอังกฤษเพิ่มเติมในระหว่างนั้นได้หรือไม่ ครับ...

ความรู้ที่เน้นจะเป็นเรื่องความสามารถในการสื่อสาร ดังนั้นจะเน้นที่ Vocabulary และ Reading เป็นหลัก... ส่วนเรื่องอื่นเป็นเรื่องประกอบ เช่น Listening, Gramma, Writing เพราะพวกนี้ใช้เวลาเรียนรู้สั้นกว่าเรื่อง Vocab ที่ต้องการการซึมซับ อันเกิดจากการเรียนรู้ย้ำๆ ซ้ำๆ...

สมัยนายสมชายเรียนกับ อ.สงวนฯ ท่านจะเน้นเรื่อง Vocab คือการแตกคำศัพท์+การไล่หาคำศัพท์ที่เกี่ยวข้อง ทั้งความหมายเหมือน หรือความหมายใกล้เคียงกัน ในหมวดเดียวกัน... เช่น Big, Huge, Large, Gigantic, Colosium, Bulge, Great, Titanic, Fat, ฯลฯ พวกนี้อยู่ในกลุ่มความหมาย "ใหญ่โต"... ซึ่งเวลาเราเตรียมสอบ ก็สามารถไล่ความหมายในกลุ่มอื่นอีกแยะ เช่น สวย, ขี้เหร่, เล็ก, รวดเร็ว ฯลฯ ไปได้ไม่รู้จบ... วิธีการคืออ่านข้อสอบเก่าของ TOEFL แล้วเจอคำศัพท์ไหน ก็เปิดดิกฯ ตามรายทางไปเรื่อยครับ...

คือในห้องเรียน อ.สงวนจะแสดงให้เห็นวิธีค้นหาคำศัพท์ไล่หาเอาจากคำเหมือนในดิกชันนารี่ ซึ่งปัจจุบันใช้คอมพิวเตอร์ยิ่งสะดวกใหญ่ครับ... คือเราเรียนรู้วิธีจากในห้องเรียน แล้วมานั่งเปิดดิกเองข้างนอก ขณะเปิดก็ให้จดคำศัพท์ที่เปิดได้ลงสมุด เราจะไม่ได้กลับมาเปิดในสมุดท่องหรอกครับ แต่เป็นกระบวนการย้ำๆ ทั้งมือ+ตา ทำให้สมองเราจำได้ครับ...

ส่วนเรื่อง Gramma นั้น อ. สงวนเน้นเรื่องการแยกประโยคออกเป็นสามส่วน คือประธาน+กริยา+กรรม แล้วตัดคำขยายออก... Tense อะไรบอกว่าเป็นอดีต+ปัจจุบัน+อนาคต... ส่วนรายละเอียดแยกย่อย เช่น If Clause ฯลฯ ทั้งหลายไม่เคยเน้น... แต่ใช้วิธีตะลุยทำข้อสอบเก่า ทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า... จนจำในสมองได้เองตั้งแต่อ่านประโยคปุ๊บ รู้ทันทีว่ามีตัวเลือกอะไรบ้างครับ... ข้อสอบ TOEFL เองก็ออกซ้ำไปซ้ำมา จนเราจำได้เองเมื่อมองเห็นปุ๊บ...

เรื่องฟัง... สมัยโน้นแกให้ดูหนัง ซึ่งนายสมชายติดมาจนปัจจุบัน ชอบดูหนังเสียงอังกฤษ... สมัยนี้ยิ่งสะดวกใหญ่ที่มี Subtitle เป็นภาษาอังกฤษอ่านประกอบ... ให้โหลดบิตหนังใหม่ๆ ดูได้เลยครับ...

เรื่องเขียน... สมัยก่อนหัดเขียนกันเอง ไม่มีใครตรวจ เพราะ อ.สงวนตรวจไม่ไหว... แต่ปัจจุบันสามารถใช้ Ms Word ช่วยตรวจ Gramma ได้ด้วยครับ...

สรุปคือ...
1) หาที่เรียนที่มี อ.สอนตามแนว อ. สงวนฯ... ไม่เอาอาจารย์ทั่วไปที่เน้น Gramma นั่งสอนสามชั่วโมง ทำข้อสอบได้แค่ 20 ข้อ... แต่ให้หา อ. ที่เน้นศัพท์ และ Reading ก่อน ส่วนเรื่อง Gramma จะได้จากการอ่านไปเอง...

2) หาข้อสอบเก่าพร้อมเฉลย ให้ได้แยะๆ หลายปีย้อนหลังให้ได้มากที่สุด... หากพบ อ.คนที่สามารถไล่คำศัพท์ให้ดูเป็นตัวอย่าง ขอให้ทำให้ดูแค่ครั้งเดียว แล้วต่อไปเราทำเองครับ...

3) เมื่อคำศัพท์แน่นแล้ว ต่อไปจะสามารถหาความหมายได้ไม่ยาก โดยแกะจากรูปประโยค จะได้ Gramma โดยอัตโนมัติ... เมื่อทำเป็นแล้วสามารถทำกับหนังสืออะไรก็ได้ สมัยนายสมชายชอบอ่านนิยายทอม แคลนซี่, เฟดเดอริค ฟอร์ไซท์+America Handgunner+Shooting Times...

4) ฝึกเขียนกับ Microsoft Word...

5) ฝึกฟังกับภาพยนต์ที่มี Subtitle เป็นภาษาอังกฤษ...

6) จะใช้เวลาเตรียมสอบ+สอบซ้ำๆ ประมาณ 1 ปีครับ... กว่าจะไต่ได้ถึง 600 พร้อมกับได้ใบตอบรับจากมหาลัย... ดังนั้นต้องเตรียมหนังสือ Recommend และหลักฐานอื่น... พร้อมสอบชิงทุนไว้ล่วงหน้า...

เรื่องสอบชิงทุน... ระวังว่าได้ทุนแล้ว แต่ได้ TOEFL ช้า มหาลัยเมืองนอกก็ตอบกลับมาช้า จะถูกบังคับให้สละทุนครับ...
บันทึกการเข้า
coda
None of us is as smart as all of us.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1081
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20775



เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: มีนาคม 04, 2009, 10:05:50 AM »

...ขอบคุณมากๆ ครับ นายสมชาย ลูกชายผมกำลังเตรียมสอบ  ไหว้
บันทึกการเข้า

Check your monitor:

https://www.facebook.com/StudioCoda

"ยึดปืนคนดี  อัปรีย์จะครองเมือง"
coda
None of us is as smart as all of us.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1081
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20775



เว็บไซต์
« ตอบ #8 เมื่อ: มีนาคม 04, 2009, 10:09:28 AM »

...เราจะหาข้อสอบเก่าได้ที่ไหนครับ
บันทึกการเข้า

Check your monitor:

https://www.facebook.com/StudioCoda

"ยึดปืนคนดี  อัปรีย์จะครองเมือง"
ป๊อกแมน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 156
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2095



เว็บไซต์
« ตอบ #9 เมื่อ: มีนาคม 04, 2009, 10:20:17 AM »

ขอลงทะเบียนฟังครับ
บันทึกการเข้า

naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #10 เมื่อ: มีนาคม 04, 2009, 10:21:10 AM »

ลองดูว่า อ.สงวน วงศ์สุชาติยังเปิดโรงเรียนอยู่หรือเปล่าครับ... หากยังเปิดอยู่ จะสมัครเรียนเพื่อเอาข้อสอบเก่า กับนั่งเรียนเพื่อให้รู้วิธีศึกษา แล้วไปนั่งอ่านเองก็ยังคุ้มค่าครับ...

ครั้งสุดท้ายที่นายสมชายรู้ ค่าสมัครเรียนหมื่นกว่าบาทครับ... แต่คุ้มมากตรงข้อสอบเก่า+เฉลยนี่แหละครับ...
บันทึกการเข้า
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #11 เมื่อ: มีนาคม 04, 2009, 10:23:09 AM »

หาก อ.สงวนไม่เปิดสอนแล้ว... ลองให้น้อง ถามหาจากคนที่เคยเรียนที่อื่น ว่ามีที่ไหนแจกข้อสอบเก่าบ้างครับ...
บันทึกการเข้า
A B A C U S รั ก ใ น ห ล ว ง
สัตว์ โลก เดิน ไป ตาม แรง กรรม ดี ชั่ว อยู่ ที่ ใจ ตน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 206
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6398


มี ศัตรู เป็น บัณฑิต ดีกว่ามี มิตร เป็น ค น พ า ล


เว็บไซต์
« ตอบ #12 เมื่อ: มีนาคม 04, 2009, 10:32:45 AM »

...นายสมชาย ขอคำแนะนำการเตรียมสอบ TOEFL หน่อยครับ

สมัยของนายสมชาย เมื่อก่อนโน้นเรียนพิเศษกับ อ.สงวน วงศ์สุชาติ ที่เสาชิงช้าครับ... เดี๋ยวนี้ไม่รู้ว่ายังสอนอยู่หรือไม่ แต่ถ้าไม่ได้สอนแล้วก็สามารถดูวิธีของนายสมชายเป็นแนวทางได้ครับ...

คือ TOEFL ไม่ใช่ข้อสอบวัดความสามารถภาษาอังกฤษ แต่เป็นข้อสอบวัดความสามารถว่าจะอยู่รอดได้ในสิ่งแวดล้อมที่เป็นภาษาอังกฤษ และสามารถเรียนหนังสือ+เรียนรู้ภาษาอังกฤษเพิ่มเติมในระหว่างนั้นได้หรือไม่ ครับ...

ความรู้ที่เน้นจะเป็นเรื่องความสามารถในการสื่อสาร ดังนั้นจะเน้นที่ Vocabulary และ Reading เป็นหลัก... ส่วนเรื่องอื่นเป็นเรื่องประกอบ เช่น Listening, Gramma, Writing เพราะพวกนี้ใช้เวลาเรียนรู้สั้นกว่าเรื่อง Vocab ที่ต้องการการซึมซับ อันเกิดจากการเรียนรู้ย้ำๆ ซ้ำๆ...

สมัยนายสมชายเรียนกับ อ.สงวนฯ ท่านจะเน้นเรื่อง Vocab คือการแตกคำศัพท์+การไล่หาคำศัพท์ที่เกี่ยวข้อง ทั้งความหมายเหมือน หรือความหมายใกล้เคียงกัน ในหมวดเดียวกัน... เช่น Big, Huge, Large, Gigantic, Colosium, Bulge, Great, Titanic, Fat, ฯลฯ พวกนี้อยู่ในกลุ่มความหมาย "ใหญ่โต"... ซึ่งเวลาเราเตรียมสอบ ก็สามารถไล่ความหมายในกลุ่มอื่นอีกแยะ เช่น สวย, ขี้เหร่, เล็ก, รวดเร็ว ฯลฯ ไปได้ไม่รู้จบ... วิธีการคืออ่านข้อสอบเก่าของ TOEFL แล้วเจอคำศัพท์ไหน ก็เปิดดิกฯ ตามรายทางไปเรื่อยครับ...

คือในห้องเรียน อ.สงวนจะแสดงให้เห็นวิธีค้นหาคำศัพท์ไล่หาเอาจากคำเหมือนในดิกชันนารี่ ซึ่งปัจจุบันใช้คอมพิวเตอร์ยิ่งสะดวกใหญ่ครับ... คือเราเรียนรู้วิธีจากในห้องเรียน แล้วมานั่งเปิดดิกเองข้างนอก ขณะเปิดก็ให้จดคำศัพท์ที่เปิดได้ลงสมุด เราจะไม่ได้กลับมาเปิดในสมุดท่องหรอกครับ แต่เป็นกระบวนการย้ำๆ ทั้งมือ+ตา ทำให้สมองเราจำได้ครับ...

ส่วนเรื่อง Gramma นั้น อ. สงวนเน้นเรื่องการแยกประโยคออกเป็นสามส่วน คือประธาน+กริยา+กรรม แล้วตัดคำขยายออก... Tense อะไรบอกว่าเป็นอดีต+ปัจจุบัน+อนาคต... ส่วนรายละเอียดแยกย่อย เช่น If Clause ฯลฯ ทั้งหลายไม่เคยเน้น... แต่ใช้วิธีตะลุยทำข้อสอบเก่า ทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า... จนจำในสมองได้เองตั้งแต่อ่านประโยคปุ๊บ รู้ทันทีว่ามีตัวเลือกอะไรบ้างครับ... ข้อสอบ TOEFL เองก็ออกซ้ำไปซ้ำมา จนเราจำได้เองเมื่อมองเห็นปุ๊บ...

เรื่องฟัง... สมัยโน้นแกให้ดูหนัง ซึ่งนายสมชายติดมาจนปัจจุบัน ชอบดูหนังเสียงอังกฤษ... สมัยนี้ยิ่งสะดวกใหญ่ที่มี Subtitle เป็นภาษาอังกฤษอ่านประกอบ... ให้โหลดบิตหนังใหม่ๆ ดูได้เลยครับ...

เรื่องเขียน... สมัยก่อนหัดเขียนกันเอง ไม่มีใครตรวจ เพราะ อ.สงวนตรวจไม่ไหว... แต่ปัจจุบันสามารถใช้ Ms Word ช่วยตรวจ Gramma ได้ด้วยครับ...

สรุปคือ...
1) หาที่เรียนที่มี อ.สอนตามแนว อ. สงวนฯ... ไม่เอาอาจารย์ทั่วไปที่เน้น Gramma นั่งสอนสามชั่วโมง ทำข้อสอบได้แค่ 20 ข้อ... แต่ให้หา อ. ที่เน้นศัพท์ และ Reading ก่อน ส่วนเรื่อง Gramma จะได้จากการอ่านไปเอง...

2) หาข้อสอบเก่าพร้อมเฉลย ให้ได้แยะๆ หลายปีย้อนหลังให้ได้มากที่สุด... หากพบ อ.คนที่สามารถไล่คำศัพท์ให้ดูเป็นตัวอย่าง ขอให้ทำให้ดูแค่ครั้งเดียว แล้วต่อไปเราทำเองครับ...

3) เมื่อคำศัพท์แน่นแล้ว ต่อไปจะสามารถหาความหมายได้ไม่ยาก โดยแกะจากรูปประโยค จะได้ Gramma โดยอัตโนมัติ... เมื่อทำเป็นแล้วสามารถทำกับหนังสืออะไรก็ได้ สมัยนายสมชายชอบอ่านนิยายทอม แคลนซี่, เฟดเดอริค ฟอร์ไซท์+America Handgunner+Shooting Times...

4) ฝึกเขียนกับ Microsoft Word...

5) ฝึกฟังกับภาพยนต์ที่มี Subtitle เป็นภาษาอังกฤษ...

6) จะใช้เวลาเตรียมสอบ+สอบซ้ำๆ ประมาณ 1 ปีครับ... กว่าจะไต่ได้ถึง 600 พร้อมกับได้ใบตอบรับจากมหาลัย... ดังนั้นต้องเตรียมหนังสือ Recommend และหลักฐานอื่น... พร้อมสอบชิงทุนไว้ล่วงหน้า...

เรื่องสอบชิงทุน... ระวังว่าได้ทุนแล้ว แต่ได้ TOEFL ช้า มหาลัยเมืองนอกก็ตอบกลับมาช้า จะถูกบังคับให้สละทุนครับ...


ครับ
อาจารย์เยี่ยม เก่ง จัง
เกราได้ถูกจุดเลยครับ
เดี๋ยวผมต้องเซฟวิธีนี้ให้ลูกไปทำการบ้าน
น้องสาวผมคน 1 อยู่เมกาเป็น 10 ปีอัพ แกเปิดดิกทุกตัวทุกหน้าเลยครับ
ปัจจุบันกลับมาสอนที่มหิดล  สอนบรรดาหมอ ๆที่จะไปศึกษาต่อต่างประทศ
บันทึกการเข้า

coda
None of us is as smart as all of us.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1081
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20775



เว็บไซต์
« ตอบ #13 เมื่อ: มีนาคม 04, 2009, 10:36:52 AM »

...ขอบคุณอีกครั้งครับ  ไหว้
บันทึกการเข้า

Check your monitor:

https://www.facebook.com/StudioCoda

"ยึดปืนคนดี  อัปรีย์จะครองเมือง"
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.091 วินาที กับ 21 คำสั่ง