๏ฟฝ๏ฟฝ็บบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝสน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาปืน
พฤษภาคม 02, 2024, 06:56:01 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: “เรื่องของใครกันแน่”  (อ่าน 941 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
wiched
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 137
ออฟไลน์

กระทู้: 811



« เมื่อ: มิถุนายน 17, 2011, 09:33:30 AM »

   
         ในโลกนี้ เรื่องใหญ่ๆ มีเพียง 3 เรื่อง

เรื่องแรก คือ “เรื่องตัวเอง” เช่น
                       
                วันนี้ จะไปทำงานไหม จะกินอะไรดี
                พอใจไหม จะแต่งงานดีไหม
                จะช่วยคนอื่นดีไหม

สรุป- อะไรก็ช่าง ที่เราจัดการเองได้

เรื่องที่ 2 คือ “เรื่องคนอื่น” เช่น
             
                บังอรเอาแต่นอน ชีวิตครอบครัวสมชายมีปัญหา
                สมเกียรติท่าทางไม่ชอบเรา
                เราช่วยเขา แต่ไม่เห็นเขาขอบคุณเราเลย

สรุป- อะไรก็ช่าง ที่คนอื่นเป็นผู้ควบคุม

เรื่องที่ 3 คือ “เรื่องของสวรรค์” เช่น

              จะเกิดแผ่นดินไหวไหม
              จะเกิดสงครามไหม
              จะเข้าถึงนิพพานไหม

สรุป- อะไรก็ตาม ที่เหนืออำนาจควบคุมของมนุษย์ ถือเป็นเรื่องของสวรรค์

ปัญหาของมนุษย์ มาจาก

ลืมทำ “เรื่องตัวเอง”

ชอบยุ่ง “เรื่องคนอื่น”

กังวล “เรื่องของสวรรค์”


ฉะนั้น หากต้องการผ่อนคลาย  ง่ายนิดเดียว

จัดการ “เรื่องตัวเอง”

อย่ายุ่ง “เรื่องคนอื่น”

อย่ากังวล “เรื่องของสวรรค์”


แต่การ“รู้” เป็นเพียงปัญญาขั้นที่ 1 (สุตตะมายะปัญญา) ไม่ได้หมายความว่า ท่านจะ“ทำได้”

ท่านต้องวิเคราะห์และเข้าใจให้ถ่องแท้ก่อนว่า (อาจต้องหัดนั่งสมาธิ) ที่จริงในโลกนี้ ก็มีเพียง 3 เรื่องนี้จริงๆ (จินตามายะปัญญา)

คราวหน้า เมื่ออารมณ์บ่จอย รีบถามตัวเองว่า “นี่มันเรื่องใครกันแน่” และเมื่อท่านสงบลงได้ นั่นแหละ แสดงว่าท่าน“ทำได้” (ภาวนามายะปัญญา)

ไม่ทราบที่มาแต่หากบทความนี้มีความดีอยู่บ้างขอยกให้กับเจ้าของบทความครับ ไหว้
บันทึกการเข้า
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #1 เมื่อ: มิถุนายน 17, 2011, 09:36:37 AM »


                         แล้วคำว่า  มีจิตสาธารณะ  กับ  ชอบยุ่งเรื่องคนอื่นนี่แตกต่างหรือกันอย่างไรครับ  .....  ขอบคุณครับ

บันทึกการเข้า

                
RMAY
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #2 เมื่อ: มิถุนายน 17, 2011, 09:51:04 AM »


                         แล้วคำว่า  มีจิตสาธารณะ  กับ  ชอบยุ่งเรื่องคนอื่นนี่แตกต่างหรือกันอย่างไรครับ  .....  ขอบคุณครับ


มีจะมีเส้นบางๆ เล็กเล้กๆๆๆๆๆๆ กั้นกลางอยู่เครับ    ระหว่าง ความหวังดี กับ เจือก เรื่องเพื่อน ครับ   คิก คิก
บันทึกการเข้า
ชายเจษฎ์
ถูกใจ ใช่เลย คริ คริ
Hero Member
*****

คะแนน 1249
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10033


ํก็รักอ่ะ


« ตอบ #3 เมื่อ: มิถุนายน 17, 2011, 10:14:40 AM »


                         แล้วคำว่า  มีจิตสาธารณะ  กับ  ชอบยุ่งเรื่องคนอื่นนี่แตกต่างหรือกันอย่างไรครับ  .....  ขอบคุณครับ



จิตรสาธารณะนี่ช่วยแล้วเพื่อนไม่เดือดร้อนรำคาญครับ..........


ส่วนยุ่งเร่องเพื่อนนี่อธิบายยาก แต่ดูตัวอย่างได้ที่น้าหลวงครับ ชัดเจน... คิก คิก
บันทึกการเข้า

อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชา จะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสะ ทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ ฯ
RMAY
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #4 เมื่อ: มิถุนายน 17, 2011, 10:20:02 AM »

อย่ายุ่ง “เรื่องคนอื่น”

เรื่องที่ 2 คือ “เรื่องคนอื่น” เช่น
            
            บังอรเอาแต่นอน ชีวิตครอบครัวสมชายมีปัญหา
               สมเกียรติท่าทางไม่ชอบเรา
                เราช่วยเขา แต่ไม่เห็นเขาขอบคุณเราเลย

จากขัวข้อสีแดง   มาตี ความหมาย สีเขียว   สมควรแล้ว ครับ ที่ไม่ยุ่ง  แต่ข้อความสีฟ้านั้น ต้องดูครับ เป็นบางกรณี เช่น สมชายมีปัญหาเรื่องอะไร เราสามารถช่วยได้หรือไม่  
   แล้วเมื่อเราช่วยแล้วชีวิตเค้า ดีขึ้นหรือไม่ ปัญหาของเค้า คลี่คลายหรือไม่  ถ้า  เราช่วยให้ปัญหาของเค้าคลี่คลาย ถ้าเค้าเป็นเพื่อนเรา เราน่าจะช่วยเหลือกัน ไม่ใช่หรือครับ
 ทัศนะคติของคำว่า"เพื่อน"สำหรับผมคือ  เพื่อนมีไว้ช่วยเพื่อน
   จากข้อความสีน้ำเงิน  ถ้าคิดต้องการคำว่า"ขอบคุณ" แนะนำให้บริจาคเงิน เยอะๆ ให้กับ องค์กรใดองค์กรหนึ่งหรือ ว่า บริจาคเงินจำนวนมาก ให้ วัด /ศาลา/สาธารณะ ท่านจะได้มีชื่อ ติดไว้ บนบรอด์ ทำเนียบผู้บริจาค ครับ  
 แต่ไม่แนะนำให้ ช่วยเหลือ สัตว์  เพราะมันจะไม่"ขอบคุณ"ครับ ผมเลี้ยงแมว  ให้ข้าวมัน ก็เมี้ยว  นั่งเฉยๆก็เมี้ยว  เจอเพื่อนมันก็ เมี้ยว ครับ

  ถ้าวันนี้เพื่อนกันไม่ช่วยกัน แล้วใครจะช่วยครับ
ขอบคุณ   ครูต้น ที่เจือก ส่งซีดีแอนตี้ไวรัสมาให้ใช้ครับ
ขอบคุณ   ลุงปูและพี่มะเอ็ม พี่อนุชาติ ที่เจือกส่งมือถือมาให้ซ่อม ผมได้ค่าขนมเจ้าตัวเล็กครับ
ขอบคุณ   พี่พง ที่เจือก ส่งซีดีมาให้ครับ  
ขอบคุณ   ลุงแป๋งที่เจือกเป็นธุระ เรื่องซิมให้ครับ และสอนวิชามหาเวทดูดดาวให้ ตั้ง 2-3ชั่วโมง


แบบนี้หรือเปล่าครับ
ด้วยความเคารพ

คำว่า "อย่ายุ่ง “เรื่องคนอื่น” นั้น มีหลายประเภทหลายรูปแบบ  หลายเหตุการณ์  เหตุการณ์ ที่  ไม่ควรอย่ายุ่ง “เรื่องคนอื่น” นั้น ขอยกตัวอย่างครับ
 ข้าวใหม่ปลามัน สามีภรรยาประหยัดไฟแต่หัวค่ำ เป็นต้น แบบนี้ไม่ควรครับ

 ไหว้ ไหว้ ไหว้
บันทึกการเข้า
wiched
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 137
ออฟไลน์

กระทู้: 811



« ตอบ #5 เมื่อ: มิถุนายน 17, 2011, 10:54:15 AM »


                         แล้วคำว่า  มีจิตสาธารณะ  กับ  ชอบยุ่งเรื่องคนอื่นนี่แตกต่างหรือกันอย่างไรครับ  .....  ขอบคุณครับ





   พรหมวิหาร 4

- พรหมวิหาร แปลว่า ธรรมของพรหมหรือของท่านผู้เป็นใหญ่ พรหมวิหารเป็นหลักธรรมสำหรับทุกคน เป็นหลักธรรมประจำใจที่จะช่วยให้เราดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างประเสริฐและบริสุทธิ์ หลักธรรมนี้ได้แก่

    เมตตา   ความปรารถนาให้ผู้อื่นได้รับสุข
    กรุณา    ความปราถนาให้ผู้อื่นพ้นทุกข์
    มุทิตา    ความยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดี
    อุเบกขา การรู้จักวางเฉย


พี่ปูครับ ถ้าเรามองตาม พรหมวิหาร 4 แล้ว

จิตสาธารณะควรปฏิบัติตามหลัก เมตตา กรุณานะครับ(ความเห็นส่วนตัว)

อย่างไรก็ตามการสนทนาธรรมเป็นบุญอย่างหนึ่ง

ผิดถูกประการใดขอเชิญชี้แนะได้ครับ   ไหว้
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.066 วินาที กับ 21 คำสั่ง