สหายเก่า..พันธสัญญา ๖๖/๒๕๒๓..กับความรู้สึกของแม่ผู้ชรา

(1/7) > >>

Pandanus:
นำเรื่อง :  จากกรณี พันธสัญญา ๖๖/๒๕๒๓ ใจความคร่าว ๆ ว่าผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ที่ยื่นคำร้องขอให้รัฐบาลช่วยเหลือตามนโยบาย 66/23 เมื่อ 30ปี ที่ผ่านมา ซึ่งการช่วยเหลือของรัฐให้การช่วยเหลือเป็นการตอบแทนคนละ 225,000 บาท เพื่อนำไปซื้อวัว 5ตัว ตัวละ หนึ่งหมื่นบาท ซื้อนา 5 ไร่ ไร่ละ 35,000บาท

Pandanus:
เรื่องของผม : พ่อและแม่ของผม เป็นหนึ่งในผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย อยู่ภายใต้นโยบาย ๖๖/๒๓ นี้ด้วย

 ท่านเข้าร่วมกับ ผกค.ในปี ๒๕๑๙  ออกตัวในปี ๒๕๒๖  ใช้ชื่อจัดตั้งว่า สหายน้อม และสหายจำเนียร  แต่พ่อของผม ถึงแก่อนิจกรรมไปเมื่อปี ๒๕๔๘ ด้วยโรคมะเร็ง

 ปัจจุบัน แม่ผม อายุ ๖๓ ปี สุขภาพแข็งแรงดี แต่มีน้ำตาลเกินอยู่บ่อย ๆ  เรามีกัน สี่คนพี่น้อง ร่ำเรียนจนจบปปริญญากันทั้งหมด

 ผมเป็นลูกคนสุดท้องและเป็นชายเพียงคนเดียว  เราประกอบอาชีพตามปรกติ มีรายได้พอเลี้ยงตัวและสร้างฐานะ แม่มีสวนยางแก่อยู่สวนหนึ่ง พอจะมีรายได้ตามอัตภาพ


วันดีคืนดี เมื่อสัก สองปีก่อน ช่วงการเมืองกำลังวุ่นวาย มีสหายเก่า มาแจ้งกับแม่ ให้ไปแจ้งชื่อเพื่อรับเงินจำนวนห้าแสนบาทจากรัฐบาล 

โดยให้นำหลักฐานทรัพย์สินทั้งหมด และรูปถ่ายลูกหลานทั้งหมดพร้อมสถานภาพไปแสดงด้วย แม่รับทราบแล้วก็เรียกลูก ๆ ทุกคนมาปรึกษา

พวกเรา มีข้อกังขาในเรื่องนี้กันมาก สอบถามผู้ใหญ่บ้าน ทางอำเภอและพรรคพวกที่ทำงานที่ศาลากลาง

 ไม่มีใครทราบเรื่องและให้รายละเอียดได้สักคน  จนเรื่องนี้ซาไป แต่เราทราบดี ว่าแม่..ยังคาใจ

Pandanus:
ถัดมาปี ๕๓ ต้นปี เรื่องนี้ กระพือซ้ำ เมื่อกลุ่มสหายเก่า ที่เคยร่วมกลุ่มกับพ่อแม่ผม เริ่มดำเนินการอะไรบางอย่าง

 ประมาณว่า ลงทะเบียนผู้ที่ตกค้าง...และสหายเก่าทั้งหมู่บ้านนอกจากแม่ ลงทะเบียนหมดแล้ว. 

ปัญหาอยู่ที่ ขณะนั้น กลุ่มแดงสยาม โดยสุรชัย แซ่ด่าน ก็กำลังรวบรวมกลุ่ม ผกค.เก่า เพื่อทำกิจกรรมทางการเมืองอยู่พอดี ซึ่งพวกเราไม่เห็นด้วยกับสุรชัยและเสื้อสีอะไรทั้งนั้น

และรับไม่ได้ กับการต้องตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองของกลุ่มเสื้อแดง ซึ่งเราไม่รู้ได้ว่า การรวบรวมชื่อและลงทะเบียนของกลุ่มสหาย จะเกี่ยวพันกับเรื่องนี้หรือไม่   

ประกอบกับ ผู้อ่านข่าววิทยุท้องถิ่น(ไม่ใช่วิทยุชุมชน)กล่าวถึงเรื่องนี้ ว่า ระวังจะตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง

Pandanus:
ต้นเหตุของปัญหา :

๑.    เราไม่เชื่อว่า รัฐจะให้เงินที่ว่า...แค่เงินคนจนกระตุ้นเศรษฐกิจสองพันบาทก็กลายเป็นประเด็นใหญ่โต แล้วนี่ตั้งหลายแสน

ถ้ารัฐจ่ายจริงก็เป็นเชื้อไฟชั้นดีให้กับฝ่ายค้าน...  เราไม่รู้ว่า ในพันธสัญญา ๖๖/๒๕๒๓ มีเรื่องนี้อยู่

๒.   เรากลัวว่า จะตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองโดยเอกสารใด ๆ ที่เราส่งไป

๓.   คำพูดปลอบแม่ที่ทำได้ขณะนั้นคือ ถ้าลงทะเบียนแล้วไม่สบายใจ ก็ไม่ต้องลง ก่อนมีเรื่องนี้ เราก็อยู่กันได้ ไม่มีเงินสองสามแสนนั้น เราก็อยู่ได้

 ถ้าเพื่อน ๆ ได้เงินนั้นมาจริง เราก็ยินดีด้วย อิจฉามั๊ย คงห้ามไม่ได้หรอก


แล้ววาระนั้น ก็จบลงแบบ คาใจแม่อีกครั้ง

Pandanus:
วันนี้ มีการจ่ายเงินที่ว่า ให้กับผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยที่ลงทะเบียนคัดกรองแล้ว ที่จังหวัดพิษณุโลก คนละ ๒๒๕,๐๐๐ บาท

 ผมรับฟังข่าวนี้จากรายการหมุนตามวันของคุณฟองสนาน  ทราบว่า จะหมุนเวียนจ่ายจนครบทุกจังหวัด  แน่นอน แม่และพี่ ๆ ผม ยังไม่รู้เรื่องนี้ที

 แต่ พรุ่งนี้ หรือวันต่อ ๆ ไป เขาจะต้องรู้  แล้วทำไมผมต้องเครียด.....??

เงินสองแสนกว่าบาท มากมั๊ย มากสิ แต่ผมหามาเองได้ พี่ผมคนไหน ๆ ก็หามาได้ แม้จะลำบากก็หาได้

ถ้าเพียงแม่บอกว่า แกอยากได้เงินจำนวนนั้น....

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป