แตนเคยเจอต่อยที่หูครับ นั่งกินเหล้าอยู่จะเข้าห้องน้ำดันเดินไปชนกิ่งไม้ เจอเข้าทั้งซ้ายขวาเลย
หากเพื่อนๆ เป็นอีกคนที่ชอบเปิบพิศดาร กินแมลงทอดเป็นขนมขบเคี้ยวละก่อ ระวังให้ดีอาจเป็นอันตรายรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้นะจ๊ะ โดยเฉพาะเมนูยอดฮิตอันดับ 1 อย่างดักแด้หนอนไหมทอด
สาธารณะสุขออกมาเตือนพวกชอบเปิบพิศดาร กินแมลงทอดสุ่มเสี่ยงรับสารฮีสตามีน และผู้ที่เป็นโรคหืดหอบ อาจแพ้รุนแรงอันตรายถึงขั้นเสียชีวิต หลังพบผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เวียนหัวรุนแรง พูดไม่ได้
นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 21 มีนาคม ว่า กระแสความนิยมบริโภคแมลงประเภทต่างๆ ในประเทศไทยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากเดิมที่ชาวชนบทนิยมนำมาปรุงเป็นกับข้าว ด้วยวิธีทอด ปิ้ง ย่าง คั่ว หมก อ่อม แกง ยำ และตำน้ำพริก แต่ขณะนี้กลายเป็นการบริโภคเป็นอาหารว่าง ปริมาณการบริโภคแมลงทุกชนิดปีละประมาณ 2 ตัน แม้อาหารประเภทนี้จะมีคุณค่าทางโภชนาการ เนื่องจากมีโปรตีนสูง แต่ขณะเดียวกันก็มีความเสี่ยงในการปนเปื้อนสารอันตราย เช่น สารกำจัดศัตรูพืช
จากรายงานพบว่า..ผู้ป่วยโรคอาหารเป็นพิษจากการกินแมลงทอด เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล 118 ราย จาก 7 จังหวัด ได้แก่ สิงห์บุรี นครศรีธรรมราช ตรัง สงขลา สุราษฎร์ธานี ชัยนาท และนครราชสีมา ซึ่งผู้ป่วยจะมีอาการภายหลังกินแมลงทอดเฉลี่ย 4 ชั่วโมง ส่วนใหญ่มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะรุนแรง พูดไม่ได้ ตัวสั่น เหงื่อออก ใจสั่น บางรายมีอาการชา ในจำนวนนี้มี 78 ราย หรือร้อยละ 66 จำเป็นต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล โดยผู้ป่วยทุกราย อาการหายอย่างรวดเร็ว หลังจากที่แพทย์ให้การรักษาด้วยยาแก้แพ้ และสารน้ำเกลือแร่ และน้ำเกลือ
โดยแมลงทอดที่นิยมกินมี 7 ชนิด ได้แก่ ดักแด้หนอนไหม หนอนไม้ไผ่ แมงดานา ตั๊กแตนแคระ แมลงกระชอน จิ้งโกร่ง และจิ้งหรีด แต่ที่กินมากเป็นอันดับ 1 หรือประมาณร้อยละ 90 คือ ดักแด้หนอนไหมทอด รองลงมาคือ ตั๊กแตนทอด ร้อยละ 14 ซึ่งมีแหล่งรับซื้อแมลงมาจากตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
"กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้ทำการตรวจสอบ ตัวอย่างดักแด้หนอนไหมทอด จ.สุราษฎร์ธานี พบสารฮีสตามีน (Histamine) ซึ่งเป็นสารก่อให้เกิดภูมิแพ้ตกค้างอยู่ในร่างกาย โดยพบสูงถึง 875 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม อย่างไรก็ตาม มาตรฐานกำหนดปริมาณฮีสตามีนในอาหารระดับสูงสุดของแต่ละประเทศแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับชนิดอาหาร โดยมีได้ตั้งแต่ 100-200 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม แต่ของประเทศไทยกำหนดให้มีได้น้อยกว่า 50 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม"
ซึ่งผู้ป่วยที่มีอาการภายหลังรับสารฮีสตามีนจะรุนแรงมากน้อย ขึ้นอยู่กับปริมาณที่กินเข้าไป แต่ในกลุ่มที่มีประวัติภูมิแพ้หรือหอบหืด จะตอบสนองได้เร็วกว่ากลุ่มอื่นๆ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงกิน
ดักแด้หนอนไหม และหนอนของตัวต่อ เพราะอาจเกิดอาการแพ้รุนแรงขั้นเสียชีวิตได้
ส่วนทางด้าน นพ.คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ โฆษกกรมควบคุมโรค สธ. กล่าวว่า จากการสอบสวนเส้นทางของแมลงทอดที่มีรายงานผู้ป่วย 7 จังหวัด พบว่ารับดักแด้หนอนไหมมาจากแหล่งเดียวกันคือ ตลาดโรงเกลือ ทั้งนี้ คนไทยและประเทศเพื่อนบ้านนิยมกินแมลงทอด และมีการป่วยอยู่เนืองๆ แต่ไม่ทราบสาเหตุ สำหรับประเทศไทยเริ่มมีรายงานการแพ้สารชนิดนี้ในปี 2550 ในกลุ่มที่ทำงานในโรงงานปลากระป๋อง จ.สมุทรปราการ ซึ่งนำปลาทูน่ามาทิ้งในอุณหภูมิห้อง ก่อนจะนำมาทำเป็นอาหาร โดยอาหารจำพวกปลาจะมีสารฮีสตามีน เมื่ออยู่ในอุณหภูมิระหว่าง 5-60 องศาเซลเซียส แบคทีเรียจะเปลี่ยนกรดอะมิโนฮีสตาดีน (Histadine) เป็นฮีสตามีน และพบในแมลงเกือบทุกชนิดที่คนไทยกิน
แต่พบมากในหนอนตัวต่อ มีมากถึง 5,221 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม และดักแด้หนอนไหม 5,197 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ซึ่งความร้อนไม่สามารถทำลายสารฮีสตามีนได้