๏ฟฝ๏ฟฝ็บบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝสน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาปืน
เมษายน 27, 2024, 08:30:19 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 27 28 29 [30] 31 32 33 ... 65
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: คอปืน..คุยกันเรื่อง Hi-Def  (อ่าน 213195 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Sig228-kolok
KU47 AGGIE / SOTUS HS9VOL
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2947
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 40236



« ตอบ #435 เมื่อ: กันยายน 11, 2010, 01:36:27 PM »



 เยี่ยม ชมแล้วมันส์จริงๆ ใครอยาก test sub หรือเสียง Surround sound  ไม่ผิดหวังครับ เสียงซับหนักมาก ๆ ฉากรถแข่งสุดยอดจริงๆ

เรื่องนี้ผมดูในโรง ยังสดุดเลยครับลุงวัฒน์ สงสัยหนังวิ่ง  บู่ 

รอถึงสิ้นเดือนให้หนังเซ็ที่สี่ ออกมาครับลุงวัฒน์  น้ำลายหก
บันทึกการเข้า

ขายที่ดิน 20 ไร่ บริเวณคลอง 8 อ.ธัญบุรี จ.ปทุมฯ ไร่ละ 1.8 ล้าน โทร 086-2859988
กดที่นี่ >>http://www.wikimapia.org/#lat=14.0499777&lon=100.7824481&z=17&l=0&m=b
วัฒน์
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4114
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17223


เนรเทศยกโคตรดีกว่านิรโทษยกเข่ง


เว็บไซต์
« ตอบ #436 เมื่อ: กันยายน 11, 2010, 05:17:23 PM »

 เยี่ยม ชี้เป้าให้เพื่อนสมาชิกรับไว้พิจารณาดูครับ ในกรณีที่อยากบานไม่รู้โรย...


http://www.sangchaielectronic.com/products.php?category=Television
บันทึกการเข้า

ฟ้าและดินไม่เห็นไม่เป็นไร ไม่ได้หวังให้ใครจดจำ
แม้ยากเย็นแค่ไหน ไม่เคยบ่นสักคำ ไม่มีใครจดจำ แต่เราก็ยังภูมิใจ

จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา จะยอมรับโชคชะตาไม่ว่าดีร้าย
ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ถึงเวลาก็ต้องไป เหลือไว้แต่คุณงามความดี
วัฒน์
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4114
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17223


เนรเทศยกโคตรดีกว่านิรโทษยกเข่ง


เว็บไซต์
« ตอบ #437 เมื่อ: กันยายน 11, 2010, 05:29:59 PM »

 Smiley HD 720p กับ 1080p ต่างกันเยอะไหม

เปรียบเทียบกันที่ LCD TV ขนาด 32 นิ้ว  ถ้าจอ LCD TV ทั่วๆไปไม่ FULL HD ความละเอียดอยู่ที่ 1366 X 768  ซึ่งถ้าเปิดกับไฟล์ 720p  มันก็คือ 1280 x 720 จะเห็นว่าถ้าเทียบความละเอียดกันแล้วมันก็ต่างกันนิดหน่อยเวลาเปิด 720 p ก็จะเห็นว่ามันชัดเพียงพอแล้ว  แต่ถ้า LCD TV เป็น FULL HD 1080p (1920 x 1080) อันนี้ถ้าเอา 720p ไปเปิดมันก็จะต้อง up scale ขึ้นมา  เลยทำให้เห็นว่าเปิดเทียบกับ 1080p แล้วจะต่างกันพอสมควรครับ





บันทึกการเข้า

ฟ้าและดินไม่เห็นไม่เป็นไร ไม่ได้หวังให้ใครจดจำ
แม้ยากเย็นแค่ไหน ไม่เคยบ่นสักคำ ไม่มีใครจดจำ แต่เราก็ยังภูมิใจ

จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา จะยอมรับโชคชะตาไม่ว่าดีร้าย
ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ถึงเวลาก็ต้องไป เหลือไว้แต่คุณงามความดี
Sig228-kolok
KU47 AGGIE / SOTUS HS9VOL
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2947
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 40236



« ตอบ #438 เมื่อ: กันยายน 11, 2010, 07:44:36 PM »

เดี๋ยว ถ้าซื้อ TV ใหม่ เอา 50" ไปเลย กว่าจะได้ซื้อ LED ราคาคงลงมาเยอะ  Grin
บันทึกการเข้า

ขายที่ดิน 20 ไร่ บริเวณคลอง 8 อ.ธัญบุรี จ.ปทุมฯ ไร่ละ 1.8 ล้าน โทร 086-2859988
กดที่นี่ >>http://www.wikimapia.org/#lat=14.0499777&lon=100.7824481&z=17&l=0&m=b
Sig228-kolok
KU47 AGGIE / SOTUS HS9VOL
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2947
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 40236



« ตอบ #439 เมื่อ: กันยายน 12, 2010, 12:10:30 PM »

ลุงวัฒน์ครับ เฮียฮิมฝากขอบคุณมาครับ ตอนนี้ก็อปหนังจาก HDD  ของผมได้แล้วครับ .. ขอบคุณมากครับ  ไหว้
บันทึกการเข้า

ขายที่ดิน 20 ไร่ บริเวณคลอง 8 อ.ธัญบุรี จ.ปทุมฯ ไร่ละ 1.8 ล้าน โทร 086-2859988
กดที่นี่ >>http://www.wikimapia.org/#lat=14.0499777&lon=100.7824481&z=17&l=0&m=b
ภูปทุม-รักในหลวง
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 89
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 914



« ตอบ #440 เมื่อ: กันยายน 12, 2010, 01:51:35 PM »


    ผมโหลดคู่มือ XtremerPro มาอ่านแล้วครับ

      ในคู่มือดันโดดข้ามเรื่อง HDMI option ต่างๆ หรือว่าผมหาไม่เจอเองครับ  เศร้า ไหว้
บันทึกการเข้า

จะแน่วแน่แก้ไขในสิ่งผิด
.
Sig228-kolok
KU47 AGGIE / SOTUS HS9VOL
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2947
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 40236



« ตอบ #441 เมื่อ: กันยายน 13, 2010, 10:50:05 AM »

Smiley ถึงแม้กระแสทีวีสามมิติกำลังมาแรง แต่..ด้วยราคาที่ยังเกินเอื้อมและคอนเท็นที่ยังมีไม่มากนักจึงยังไม่เหมาะกับการใช้งานในช่วงนี้ วันนี้ Luffy ก็เลยจัด LED TV ตัวสุดคุ้มและเอื้อมถึงไม่ยากให้ได้ชมกัน นั่นคือ LG 42LE5500 นั่นเอง เจ้า LE5500 น่าจะเป็นหนึ่งในทางเลือกของผู้ที่ชื่นชอบความคมชัดของภาพและดีไซน์ที่สวยบางของ LED TV




Brand LG  Model 42LE5500 Size 42"  Type EDGE LED TV
 
Resolution Full HD 1920 x 1080p

Contrast 5,000,000:1

Response Time 2.4 ms

Panel Type S-IPS Hard Panel

HDMI Side (1) Back (3)

Refresh rate TruMotion 120/100Hz

Internet NetCast TV

Video Processor Dual XD Engine

Price  49,990


เมื่อวานไป เซียร์รังสิตมาครับ รุ่นนี้จัดโปรเฉพาะวันเสาร์ - อาทิตย์  ราคา 38,000 บาท ผ่อนได้ 10 งวดฟรีดอกเบี้นอีกต่างหาก แต่ไม่เบี้ยซื้อ  บู่
บันทึกการเข้า

ขายที่ดิน 20 ไร่ บริเวณคลอง 8 อ.ธัญบุรี จ.ปทุมฯ ไร่ละ 1.8 ล้าน โทร 086-2859988
กดที่นี่ >>http://www.wikimapia.org/#lat=14.0499777&lon=100.7824481&z=17&l=0&m=b
PsanP_IT.31(ไพศาล ๓)
๑๙๑๑ เลอะโคลน!!
Sr. Member
****

คะแนน 82
ออฟไลน์

กระทู้: 745


« ตอบ #442 เมื่อ: กันยายน 13, 2010, 01:31:21 PM »

Smiley ถึงแม้กระแสทีวีสามมิติกำลังมาแรง แต่..ด้วยราคาที่ยังเกินเอื้อมและคอนเท็นที่ยังมีไม่มากนักจึงยังไม่เหมาะกับการใช้งานในช่วงนี้ วันนี้ Luffy ก็เลยจัด LED TV ตัวสุดคุ้มและเอื้อมถึงไม่ยากให้ได้ชมกัน นั่นคือ LG 42LE5500 นั่นเอง เจ้า LE5500 น่าจะเป็นหนึ่งในทางเลือกของผู้ที่ชื่นชอบความคมชัดของภาพและดีไซน์ที่สวยบางของ LED TV




Brand LG  Model 42LE5500 Size 42"  Type EDGE LED TV
 
Resolution Full HD 1920 x 1080p

Contrast 5,000,000:1

Response Time 2.4 ms

Panel Type S-IPS Hard Panel

HDMI Side (1) Back (3)

Refresh rate TruMotion 120/100Hz

Internet NetCast TV

Video Processor Dual XD Engine

Price  49,990


เมื่อวานไป เซียร์รังสิตมาครับ รุ่นนี้จัดโปรเฉพาะวันเสาร์ - อาทิตย์  ราคา 38,000 บาท ผ่อนได้ 10 งวดฟรีดอกเบี้นอีกต่างหาก แต่ไม่เบี้ยซื้อ  บู่

 น้ำลายหก
Kirara Basso 29"....ของเก๋า เก่า...
พวกบอกไม่มีอะไหล่แล้ว....จะให้โม มั้ย?..... หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน


บันทึกการเข้า

จะสร้างสรรค์วันชื่นคืนสุข ม่ายเอาซานุก ปายเพียงวันๆ ! เอิ๊ก^-^
วัฒน์
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4114
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17223


เนรเทศยกโคตรดีกว่านิรโทษยกเข่ง


เว็บไซต์
« ตอบ #443 เมื่อ: กันยายน 13, 2010, 03:16:24 PM »

 Smiley สายสัญญาณ Fiber Optic



โครงสร้างของสาย Fiber Optic
ส่วนประกอบของ Fiber Optic ประกอบด้วยส่วนสำคัญหลัก 2 ประการ ได้แก่

• ส่วนที่เป็นแกนอยู่ตรงกลางหรือชั้นใน แล้วหุ้มด้วยส่วนที่เรียกว่า Cladding จากนั้นก็จะถูกหุ้มด้วยส่วนที่ป้องกัน (Coating) โดยที่แต่ละส่วนนั้นทำด้วยวัสดุที่มีค่าดัชนีหักเหของแสงที่มีค่าแตกต่างกัน

• แกน เป็นส่วนตรงกลางของ Fiber Optic และเป็นส่วนที่ใช้นำแสงอีกด้วย โดยมีค่าดัชนีของการหักเหของแสงส่วนนี้ จะต้องมากกว่าส่วนของ Cladding แล้วลำแสงที่ผ่านไปในแกน จะถูกขังหรือเคลื่อนที่ไปตาม Fiber Optic ด้วยขบวนการสะท้อนกลับหมดภายใน

• ส่วนของการป้องกัน เป็นชั้นที่ต่อจาก Cladding เป็นที่ใช้ป้องกันแสงจากภายนอกไม่ให้เข้ามาที่เส้น Fiber Optic อีกทั้งยังใช้ป้องกันมิให้แสงจากท่อนำแสง Fiber Optic ภายในให้ออกไปสู่ภายนอกได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังใช้ประโยชน์เมื่อมีการเชื่อมต่อเส้น Fiber Optic โครงสร้างภายในอาจประกอบด้วย ชั้นของ Plastic หลายๆ ชั้น นอกจากนี้ส่วนป้องกันยังทำหน้าที่เป็นตัวป้องกันการกระทำจากแรงภายนอกได้อีกด้วย ตัวอย่างของค่าดัชนีหักเห เช่น แกนมีค่าดัชนีหักเหประมาณ 1.48 ส่วนของ Cladding และส่วนป้องกันซึ่งทำหน้าที่ป้องกันแสงจากแกนออกไปที่ภายนอก และป้องกันแสงจากภายนอกรบกวนจะมีค่าดัชนีหักเหเป็น 1.46 และ 1.52 ตามลำดับ


แสดงโครงสร้างภายในของ Fiber Optic
         


ชนิดของ Fiber Optic
ภายใน Fiber Optic นั้น จำนวนของลำแสงที่เดินทางหรือเกิดขึ้นจะเป็นตัวบอก Mode ของแสงที่เดินทางภายใน Fiber Optic นั้นๆ กล่าวคือ ถ้ามีแนวของลำแสงอยู่ในแนวเดียว เรียกว่า Single Mode Fiber Optic (SMF) แต่ถ้าหากภายใน Fiber Optic นั้นมีแนวของลำแสงอยู่เป็นจำนวนมาก เราเรียกว่า Multi-Mode Fiber Optic (MMF)

นอกจากการแบ่งชนิดของ Fiber Optic ตาม Mode ของการทำงานแล้ว ยังสามารถแบ่งตามวัสดุที่ทำ เช่น เส้นใยที่ทำจากแก้ว Plastic หรือ Polymer และยังสามารถแบ่งได้ตามลักษณะของรูปร่าง ตามลักษณะของดัชนีหักเห เช่น Fiber ชนิด Step Index หรือ Graded Index เป็นต้น

Single Mode Fiber Optic
Single Mode Fiber Optic มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของแกนและ Cladding ประมาณ 5-10 และ 125 ไมครอน ตามลำดับ ซึ่งส่วนของแกนมีขนาดเล็กกว่า Fiber Optic ชนิด Multi-mode มาก และให้แสงออกมาเพียง Mode เดียว ลักษณะหน้าตัดของเส้น Fiber Optic แบบ Single Mode


แสดงลักษณะการทำงานภายในของ Single Mode Fiber Optic



Multimode Fiber Optic
Multimode Fiber Optic ส่วนใหญ่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของแกนและ Cladding โดยประมาณ 50 ไมครอน 62.5 ไมครอน โดยมี Cladding ขนาด 125 ไมครอน
เนื่องจากขนาดของเส้นผ่านศูนย์กลางของแกนมีขนาดใหญ่ ดังนั้นแสงที่ตกกระทบที่ด้ายปลาย Input ของสาย Fiber Optic จะมีมุมตกกระทบที่แตกต่างกันหลายค่า และจากหลักการสะท้อนแสงกลับหมดของแสงที่เกิดขึ้น ภายในส่วนของแกนทำให้มีแนวของลำแสงเกิดขึ้นหลาย Mode โดยแต่ละ Mode ใช้ระยะเวลาในการเดินทางที่แตกต่างกัน อันเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการแตกกระจายของแสง (Mode Dispersion)

Multimode Fiber Optic มี 2 แบบได้แก่ Step Index และ Grade Index


ตัวอย่างของ Multimode Fiber แบบ Step Index



แสดงตัวอย่างการทำงานภายในของ Grade Index Multimode ที่นิยมใช้ในระบบเครือข่ายทั่วไป



ขนาดสัดส่วนของ Fiber Optic

ขนาดสัดส่วนของ Fiber Optic มีดังนี้
• Grade Index Multimode Fiber
• Single Mode Fiber
ขนาดของ Core และ Cladding

ปัจจุบันนี้ มีขนาดของ Fiber Optic Cable ที่ใช้อยู่ ได้แก่
• 8/125
• 62.5/125
• 100/140


แสดง Fiber Optic มาตรฐานขนาดต่างๆ



ขนาดจำนวนของ Optical Fiber
ความแตกต่างระหว่าง Fiber Optic ทั่วไป พอจะสามารถแยกออกเป็น 3 แบบหลักๆ ได้แก่
• Simplex Cable
• Duplex Cable
• Multifiber Cable
แบบ Simplex Fiber Optic cable

เป็นสาย Fiber Optic ที่มีสาย Fiber Optic เพียงเส้นเดียวภายใน Cable Jacket เนื่องจากมีเพียง Fiber เส้นเดียวภายใน ดังนั้นปกติจะมี Buffer ขนาดที่ใหญ่กว่าทั่วไป รวมทั้งมี Jacket ที่หนากว่าปกติเช่นกัน

แบบ Duplex Cable
ภายในจะมีสาย Fiber Optic 2 เส้น ภายใน Jacket เดียวกัน สายประเภทนี้ได้รับความนิยมให้ใช้เป็น Fiber Back Bone และสามารถทำงานเป็น Full Duplex ได้

แบบ Multifiber Cable
เป็นสาย Fiber Optic ที่มีสาย Fiber ภายในหลายๆ เส้น มีตั้งแต่ 2 เส้นขึ้นไปจนถึงกว่า 100 เส้น หรืออาจมากถึง 300 เส้นก็ได้


ลักษณะของสาย Fiber Optic แบบ Multifiber หรือ Multicore
         


การเชื่อมต่อด้วยConnector
การเชื่อมต่อ Fiber Optic ยังสามารถทำได้โดยการใช้ Connector อีกด้วย ทำให้มีความสะดวกในการถอดได้ตามความจำเป็น Connector สำหรับ Fiber Optic มีหลายแบบ ดังนี้

FC Connector
FC Connector ได้รับการออกแบบโดย NTT ของญี่ปุ่น ที่ได้รับความนิยมมากในญี่ปุ่น รวมทั้งสหรัฐและยุโรป ส่วนมาก Connector แบบนี้ จะถูกนำไปใช้งานทางด้านเครือข่ายโทรศัพท์ เนื่องจาก Connector แบบนี้ อาศัยการขันเกลียวเพื่อยึดติดกับหัวปรับ ข้อดีของ Connector ประเภทนี้ ได้แก่ การเชื่อมต่อที่แน่นหนา แต่ข้อเสียคือการเชื่อมต่ออาจต้องเสียเวลามาก


แสดงลักษณะของ FC Connector



SC Connector
ออกแบบโดย AT&T สำหรับการเชื่อมต่อ Fiber Optic ภายในอาคารสำนักงาน ซึ่งเครือข่าย LAN ชนิดนี้ เหมาะสำหรับงานที่ต้องการถอดเปลี่ยน Connector อย่างรวดเร็ว โดยไม่สนใจความแน่นหนาของ Connector


แสดง SC Connector



FDDI Connector
ออกแบบโดย American National Standards Institute, (ANSI) สำหรับใช้งานบนเครือข่าย FDDI โดยเฉพาะ


แสดง FDDI Connector



Connector แบบ SMA
เป็น Connector อีกแบบหนึ่งที่ได้รับความนิยมมาก โดยเฉพาะในงานของ NATO และในกิจการทางทหารของสหรัฐ ออกแบบโดย Amphenol Corp.

แสดงลักษณะ SMA Connector



ST-Connector
เป็น Connector ที่ถูกนำมาใช้งานสำหรับสาย Fiber Optic ชนิด Single Mode และ Multimode มากที่สุด โดยที่ Connector ประเภทนี้ มีอัตราการสูญเสียกำลังแสงเพียงแค่ไม่เกิน 0.5 dB เท่านั้น วิธีการเชื่อมต่อก็เพียงสอดเข้าไปที่รู Connector แล้วบิดตัวเพื่อให้เกิดการล็อคตัวขึ้น เพิ่มความทนทาน ทำให้ไม่เกิดปัญหาเนื่องจากการสั่นสะเทือน ถูกนำมาใช้กับระบบ LAN Hub หรือ Switches


แสดงลักษณะของ ST-Connector และ อุปกรณ์ตัวแปลงสาย LAN ที่ใช้ ST Connector Jack (ขวา)



การสูญเสียของสัญญาณแสงในสาย Fiber Optic
การสูญเสียของสัญญาณแสงในสาย Fiber Optic เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดความผิดพลาดของข้อมูลข่าวสาร ทำให้การเชื่อมต่อสื่อสารด้วยระยะทางไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง (ปกติสาย Fiber Optic สามารถเชื่อมต่อได้ด้วยระยะทางที่ยาวเกินกว่า 1-2 กิโลเมตร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่า ท่านใช้สาย Fiber Optic แบบใด? แบบ Multimode หรือ Single Mode? รวมทั้งยังขึ้นอยู่กับโปรโตคอลของเครือข่าย อย่างไรก็ดี ปัจจัยหลักคือการสูญเสียของสัญญาณแสงในสาย ข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับการทำให้เกิดการสูญเสียของกำลังแสงในสาย มีหลายประการดังนี้

• ความสูญเสีย Power ของ Fiber Optic นั้นขึ้นอยู่กับความยาวคลื่นที่ใช้ ความยาวคลื่นยิ่งมากเท่าใด อัตราการสูญเสียของแสงจะน้อยลง เช่น การสูญเสียกำลังแสงบนความยาวคลื่น 1300 nm ได้แก่ <0.5 dB/กิโลเมตร
• สำหรับ Silica Glass นั้น ความยาวคลื่นสั้นที่สุดจะมีอัตราการสูญเสียมากที่สุด
• อัตราการสูญเสีย Power ที่น้อยที่สุด ได้แก่ ความยาวคลื่น 1550 nm
• หน่วยวัดที่แสดงการสูญเสียของ Power ได้แก่ Decibel (dB) โดยมีหน่วยคิดเป็น dB ต่อกิโลเมตร (dB/km)
• ค่านี้ถูกนำมาคำนวณ โดยเอาความยาวทั้งหมดของสาย Fiber Optic คิดเป็น Km
• การสูญเสียของ Fiber Optic สามารถมีสาเหตุหลายประการดังนี้
◦ Extrinsic
◦ Bending Loss เนื่องจากการโค้งงอของสายเกินค่ามาตรฐานที่ผู้ผลิตกำหนด
◦ การสูญเสียอันเนื่องมาจากการทำ Splice รวมทั้งการเข้าหัวสายที่ไม่สมบูรณ์
◦ การสูญเสียเนื่องจากรอยแตกหักเกิดขึ้นที่พื้นผิว
◦ การสูญเสียอันเนื่องจากมุมแสงไม่เป็นไปตามคุณลักษณะจำเพาะของผู้ผลิต (Numeric Aperture Mismatch)


แสดงลักษณะ Numeric Aperture]



แสดงลักษณะมุมรับแสงที่มีค่า Numeric Aperture 


จากรูปจะเห็นว่า ค่า Numeric Aperture เป็นค่าแสดงขนาดมุมรับแสงที่ถูกกำหนดโดยผู้ผลิต ดังนั้นการนำเอาสาย Fiber Optic ที่มีค่า Numeric Aperture ไม่เข้ากัน ส่งผลให้แสงสามารถเล็ดลอดออกไปจากสาย Fiber Optic ได้ มุมรับแสงมีรูปร่างคล้ายกับกรวย

ค่า Numeric Aperture (NA)
(ค่า NA เป็น Parameter ที่ใช้บอกขอบเขตหรืออาณาบริเวณที่ปลายของเส้น Fiber Optic สำหรับรับแสงเข้าไปในเส้น Fiber หรือปล่อยแสงออกมาจากเส้น Fiber ทั้งนี้ให้ลองเปรียบเทียบตอนปลายของเส้น Fiber เสมือนเป็นปากขวดใส่น้ำที่มีกรวยสอดอยู่ (ดังภาพล่าง) เมื่อต้องการกรอกน้ำใส่ขวดจะต้องควบคุมให้น้ำเข้าไปในกรวยเท่านั้น หากน้ำที่เทลงไปอยู่ในทิศทางหรือมุมที่กรวยนั้นรับไม่ได้ น้ำนั้นก็ไม่สามารถจะไหลเข้าขวดได้ ในทำนองเดียวกัน ลำแสงที่ส่งเข้าไปใน Fiber แล้วสามารถเดินทางอยู่ใน Core ตลอดระยะทาง จะต้องทำมุมกับปลายเส้น Fiber ให้อยู่ภายในขอบเขตของกรวยดังรูป B หากแสงที่ส่งเข้าไปในเส้น Fiber Optic ทำมุมมากกว่าความกว้างของปากกรวย (เส้น C) แสงอาจเดินทางเข้าไปในส่วนของ Core ของ Fiber Optic ก็ได้ แต่เมื่อแสงไปกระทบกับรอยต่อระหว่าง Core กับ Cladding ไปเรื่อยๆ พลังงานก็จะสูญเสียเพิ่มขึ้น และหมดไปในที่สุดเพียงชั่วระยะทางสั้นๆ ของการเดินทางในเส้น Fiber เท่านั้น


ปัญหาจากขนาดของแกน รวมทั้งรูปร่างของแกนท่อนำแสงไม่เข้ากัน (Core Size Mismatch) หรือ Profile Mismatch

แสดงลักษณะการเอาสาย Fiber Optic ที่มีขนาดต่างๆมาเชื่อมต่อกันทำให้เกิดการสูญเสียกำลังแสงได้



Intrinsic
• Loss Inherent to Fiber
• การสูญเสียที่เกิดจากการผลิต Fiber
• Freshnel Reflection

Bending Loss
Bending Loss เกิดจากปัญหาการโค้งงอของสายเกินค่ารัศมีความโค้งงอของสายตามปกติ (Minimum Bend Radius) อย่างไรก็ดี Bending Loss ยังสามารถเกิดขึ้นได้จากการองค์ประกอบย่อยๆ ดังนี้

• ความโค้งที่มีความแหลมบริเวณแกนของสาย
• ความไม่สมบูรณ์ของ Buffer และ Jacket โดยมีความคลาดเคลื่อนของการวางตำแหน่งระหว่างกันที่ห่างประมาณ 2-3 มิลลิเมตร
• การติดตั้งสายไม่ถูกวิธีหรือไม่เรียบร้อย
ปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ เรียกว่า Microbending สามารถเกิดขึ้นได้เมื่อความยาวของสายเพิ่มมากขึ้น

การสูญเสียเนื่องจากการเข้าหัว Connector และทำ Splice ไม่ดี
Splice Loss สามารถเกิดขึ้น ณ ที่ใดก็ได้ที่มีการตัดต่อและเชื่อมสายเข้าด้วยกัน โดยประกอบด้วย การ Loss 2 แบบ ได้แก่ Mechanical Loss และ Fusion Splicing Loss

• Mechanical Loss จะมีอัตราสูงที่สุด เมื่อเทียบกับ Fusion Splicing โดยมีอัตราการ Loss ตั้งแต่ 0.2 ไปจนถึง 1.0 dB ขึ้นไป
• Mechanical Loss จะมีอัตราสูงที่สุด เมื่อเทียบกับ Fusion Splicing โดยมีอัตราการ Loss ตั้งแต่ 0.2 ไปจนถึง 1.0 dB ขึ้นไป
• การ Loss ที่เกิดขึ้นสูง สามารถเกิดขึ้นได้จากองค์ประกอบหลายประการดังนี้
◦ Misalignments of Fiber Cores
◦ Poor Cleave
◦ Air Gap
◦ Contamination
◦ Index of Reflection Mismatch
◦ Core Diameter Mismatch

การ Loss ที่เกิดขึ้นจาก Connector
การสูญเสียที่เกิดขึ้นจาก Fiber Optic Connector สามารถมีระดับ 0.25 ไปจนถึง 1.5 dB และขึ้นอยู่กับชนิดของ Connector ที่ใช้งานอีกด้วย นอกจากนี้ยังมี Factor อื่นๆ ที่ทำให้เกิดการ Loss ของ Connector ดังนี้

• ปัญหาสกปรก หรือ Contamination บน Connector (ปัญหาที่เกิดบ่อยที่สุด)
• การติดตั้ง Connector ที่ไม่ถูกต้องไม่เรียบร้อย
• การชำรุดเสียหายที่เกิดขึ้นบนพื้นผิวของ Connector
• Poor Scribe (Cleave)
• Mismatched Fiber Cores
• Misaligned Fiber Cores
• Index of Reflection Mismatch

Loss Inherent to Fiber
การสูญเสียใน Fiber ที่ไม่สามารถจะขจัดไปได้ในระหว่างกระบวนการผลิต มีสาเหตุเกิดจาก Impurities ในกระจก รวมทั้งการดูดซึมของแสงในระดับของโมเลกุล การสูญเสียของแสงขึ้นอยู่กับความหนาแน่นเชิงแสง ส่วนประกอบของ Fiber Optic รวมทั้งโครงสร้างทางโมเลกุลของ Fiber ซึ่งเรียกว่า Rayleigh Scattering เมื่อแสงมากระทบกับส่วนประกอบดังกล่าว ก็จะเกิดการกระจายตัวของแสงไปยังทิศทางต่างๆ ขึ้น

การสูญเสียที่เกิดจากการแตกหักของพื้นผิว
เนื่องจากว่า สาย Fiber Optic มีส่วนที่ทำมาจาก Silica และกระจก ดังนั้นการโค้งงอสายมากเกินไปมีส่วนทำให้เกิดการแตกหัก รวมทั้งการติดตั้งที่ขาดระมัดระวัง

การดูแลรักษาสาย Fiber Optic
• Minimum Bend Radius สาย Fiber Optic ถูกกำหนดให้มี Minimum Bend Radius จากผู้ผลิต เพื่อเป็นเงื่อนไขของ Load ที่มีต่อสาย เช่น ช่วงที่มีการดึงสาย และในช่วงที่สายอยู่ในสภาวะที่ไม่ได้ Load เช่น ช่วงที่มีการติดตั้งสายเรียบร้อยแล้ว โดยสาย Fiber จะต้องไม่เกิดภาวะ Minimum Bend Radius ในท่อเกินไปกว่าที่กำหนดขึ้นโดยผู้ผลิต (สายที่อยู่ในท่อจะต้องไม่มีการงอไปงอมาเป็นงูเลื้อยมากเกินกว่าค่า Minimum Bend Radius )
• สาย Fiber และ Patch Cord ปกติจะมีค่า Minimum Bending ระหว่าง 2-3 ซ.ม และค่าของ Minimum Bending นี้ยังขึ้นอยู่กับ Operating Wavelength ของสายที่ใช้ และค่า Minimum Bending จะมากขึ้นมากขึ้นตามขนาดความยาวคลื่นที่ใช้
• การโค้งงอของสายที่มากเกินไป จะส่งผลให้เกิดความเสียหายแก่สาย Fiber ตรงที่ทำให้เกิด Attenuation เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากเกินค่าที่ผู้ผลิตตั้งไว้ นอกจากนี้จะทำให้สายเกิดความเสียหายอีกด้วย 


บันทึกการเข้า

ฟ้าและดินไม่เห็นไม่เป็นไร ไม่ได้หวังให้ใครจดจำ
แม้ยากเย็นแค่ไหน ไม่เคยบ่นสักคำ ไม่มีใครจดจำ แต่เราก็ยังภูมิใจ

จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา จะยอมรับโชคชะตาไม่ว่าดีร้าย
ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ถึงเวลาก็ต้องไป เหลือไว้แต่คุณงามความดี
วัฒน์
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4114
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17223


เนรเทศยกโคตรดีกว่านิรโทษยกเข่ง


เว็บไซต์
« ตอบ #444 เมื่อ: กันยายน 13, 2010, 03:19:47 PM »

 Smiley Onkyo HT-S5305  เล็ก ๆ แต่ได้ใจ



Onkyo HT-S5305 เป็นชุด HTiB แบบ 5.1 แชนเนล หีบห่อบรรจุภัณฑ์มีรูปสีประกอบ ให้เราได้เห็นหน้าค่าตากันก่อน ดูสวยงามไม่หยอก ขนาดกล่องใหญ่โตอยู่เหมือนกัน (ออกไปทางสูง) แต่ก็ไม่ลำบากในการขนย้ายสักเท่าไหร่ ถ้าวางดี ๆ คิดว่าเอาใส่เบาะหลังรถเก๋งน่าจะได้

หน้าตาของ AVR แบบเต็มๆ




Subwoofer แผงหน้าดำเงาแบบ Hi Gloss ผิวตัวตู้ดูดีด้วยเทกเจอร์แบบ Hair line กึงมันกึ่งด้าน



อุปกรณ์ภายในแพ็คเกจประกอบไปด้วยภาคขยายในรูปแบบ AV Receiver (หรือเรียกย่อ ๆ ว่า AVR) รุ่น HT-R538 และชุดลำโพงเซอร์ราวด์ 5.1 แชนเนล รุ่น HTP-538 ซึ่งเป็นรูปแบบลำโพงขนาดเล็ก หรือ แซทเทลไลท์ บวกกับ แอ็กทีฟซับวูฟเฟอร์ ขนาดย่อม ๆ ที่มีภาคขยายในตัว


ชุดอุปกรณ์ในเซ็ตครบครัน ทั้งสายสัญญาณซับวูฟเฟอร์ สายลำโพง แยกสีสำหรับแต่ละแชนเนลดูเข้าใจง่าย พร้อมรีโมต / คู่มือ / สายอากาศ AM/FM



นอกเหนืออุปกรณ์หลัก ยังมีแอ็คเซสซอรี่ส์ ที่จำเป็นต่อการใช้งาน อย่างรีโมตคอนโทรลไร้สาย สายลำโพง สายสัญญาณซับวูฟเฟอร์ สายอากาศวิทยุ AM/FM เรียกว่าติดตั้งระบบเสร็จ ก็ใช้งานได้เลย ไม่ต้องไปหาสายต่ออะไรให้วุ่นวายอีก อ้อ และที่ขาดมิได้ คือ คู่มือแบบเป็นทางการ สำหรับอ้างอิงการใช้งานโดยละเอียด และ Quick Start Guide


โฉมหน้าของ AVR ครับ



หากใช้เครื่อง Blu-ray Player ปล่อย Bitstream เสียง DTS HD MA มาที่ AVR ของ Onkyo เจ้า AVR ก็จะโชว์การถอดสัญญาณเสียง พร้อมโชว์โลโก้บนหน้าเครื่องให้เห็นชัดๆ



? AV Receiver : HT-R538
เริ่มจากอุปกรณ์หลักของซิสเต็มที่มีความสำคัญมากที่สุดคงหนีไม่พ้น AVR รุ่น HT-R538 ซึ่งบรรจุภาคถอดรหัสเสียง (Surround Decoder) อันเป็นมาตรฐานคอนเท้นต์ระบบเสียงรอบทิศทางอย่าง Dolby Digital และ DTS แน่นอนว่ารองรับไปถึงระบบเสียงระดับ HD ของบลูเรย์ อย่าง Dolby TrueHD และ DTS-HD MA

Input มากมาย เพียงพอสำหรับการใช้งาน ให้ HDMI Input มากถึง 3 ช่อง



HT-R538 รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ภาพและเสียงผ่านทางอินพุตที่มีมากมาย ทั้งอะนาล็อก และ ดิจิทัล จุดที่เน้นเป็นพิเศษย่อมเป็น HDMI อันเป็นมาตรฐานการเชื่อมต่อระบบภาพและเสียงแบบ Digital Hi-Def จำนวน 3 อินพุต และ 1 เอาต์พุต ซึ่งน่าจะเพียงพอกับความต้องการใช้งานในปัจจุบัน ความพิเศษของซิสเต็มนี้อยู่ตรงที่รองรับมาตรฐาน HDMI 1.4 ซึ่งสามารถรับและส่งผ่ารสัญญาณภาพแบบ 3D กับฟีเจอร์ Audio Return Channel ได้ นอกจากนี้ยังมีช่องต่ออุปกรณ์เสริม เช่น iPod Dock และอุปกรณ์ต่อพ่วงอื่น ๆ สำหรับเพิ่มเติมในอนาคต ผ่านทาง Universal Port และถ้าสังเกตทางด้านหน้า บริเวณด้านขวาของแผงหน้า จะมีช่องต่ออะนาล็อกอินพุตแบบ 3.5mm ให้ด้วย สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เล่นเพลงแบบพกพาผ่านทางช่องต่อนี้ก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ท่านที่ใช้งานหูฟัง สามารถใช้ HT-R538 เครื่องนี้เป็น Headphone Amp ได้อีกด้วย

ช่องสายลำโพงด้านหลังเครื่อง AVR



จำนวนจุดเชื่อมต่อสายลำโพงเท่ากับจำนวนภาคขยาย 5 แชนเนล (ไม่นับ Front Speakers B) ที่บรรจุอยู่ภายในขนาด 100 วัตต์ (วัดที่ 6-Ohm, 1kHz, 1 channel driven) ในส่วนของลำโพงคู่หน้า ซ้าย – ขวา เป็นแบบ ไบดิ้งโพสต์ ขนาดใหญ่ดูแข็งแรงดี สามารถใช้งานร่วมกับสายลำโพงขนาดใหญ่ที่เข้าหัวบานาน่าได้ (ต้องดึงจุกปิดออกก่อน) ส่วนแชนเนลอื่น ๆ เป็นแบบสปริงหนีบ สำหรับ Front Speakers B มีไว้ในกรณีที่ต้องการใช้งานลำโพงคู่หน้า 2 ชุด (อาจแยกลำโพงอีกชุดไว้ฟังเพลง) RCA เอาต์พุต สีม่วงที่เห็นข้าง ๆ คือ Sub Out สำหรับเชื่อมต่อสัญญาณ LFE (Low Frequency Effect) หรือ .1 แชนเนล เข้ากับแอ็คทีฟซับวูฟเฟอร์นั่นเอง

ขนาดของลำโพง Sattleline เทียบกับฝ่ามือ


ดีไซน์ของ "ลำโพงกลาง" มีโลโก้ Onkyo แปะอยู่ด้วย



ช่องต่อสายลำโพงแบบสปริงหนีบ เข้ากับสายลำโพงที่แถมมาเป็นอย่างดี



? 5.1 Speaker System : HTP-538
แน่นอนว่าเสียงที่เราจะได้ยินถูกขับขานออกมาจากชุดลำโพงขนาดเล็กชุดนี้ ซึ่งมีลักษะแบบลำโพงแซทเทลไลท์ ลำโพงคู่หน้า และคู่หลังเหมือนกัน จึงมิต้องกังวลในเรื่องของความกลมกลืน ขนาดเล็กพอดีมือ ตัวตู้โค้งเว้าสอบเข้าไปทางด้านหลัง เพื่อลดผนังตู้ส่วนที่ขนานกัน ป้องกันเสียงก้องอันไม่พึงประสงค์ ส่วนลำโพงเซ็นเตอร์จะมีขนาดที่ยาวกว่าเล็กน้อย สำหรับวางในแนวนอน ด้านหลังมีตัวอักษรกำกับเพื่อแยกแยะแต่ละแชนเนลเอาไว้พร้อมกับกำหนดสีที่ขั้วต่อลำโพงแบบสปริงหนีบ ไม่ให้สับสนในการติดตั้งเชื่อมต่อสายลำโพง มีรูเผื่อสำหรับแขวนผนังไว้พร้อมสรรพ เพียงแค่เจาะยึดผนังด้วยสกรูตัวเดียวก็สามารถแขวนได้เลย ตัวตู้เป็นวัสดุสังเคราะห์น้ำหนักเบา ผิวสีดำมันเงาดูดีทีเดียว

ลำโพงซับวูฟเฟอร์แบบแอ็คทีฟ สามารถปรับระดับวอลลุ่มได้ พร้อมสวิทช์เพาเวอร์



ลำโพงซับวูฟเฟอร์ในชุดนี้ เมื่อเป็นแอ็คทีฟซับวูฟเฟอร์ ย่อมสามารถปรับระดับวอลลุ่มได้โดยตรง (นอกเหนือจากการปรับระดับเสียงชดเชยที่ AVR) ข้อดีที่สำคัญ เหนือชุด HTiB ที่ใช้ซับวูฟเฟอร์แบบพาสซีฟ ซึ่งต้องอาศัยกำลังขับที่บรรจุอยู่ภายใน AVR คือ ช่วยให้การจ่ายกระแสเป็นไปอย่างสะดวกเต็มกำลัง เนื่องจากส่วนของภาคจ่ายไฟ และภาคขยายถูกแยกอิสระออกมาต่างหาก (ต้องเสียบปลั๊กเพื่อจ่ายกระแสไฟฟ้าเพิ่มให้กับซับวูฟเฟอร์อีกจุดหนึ่ง) โดยที่ไม่ดึงกำลังจาก AVR

ผลพลอยได้ยังช่วยลดทอนการรบกวนในส่วนของภาคขยายซับวูฟเฟอร์ มิให้รบกวนภาคขยายของแชนเนลหลัก อ้อ ซับวูฟเฟอร์รุ่นนี้ยังมีฟีเจอร์ Auto On/Off โดยจะเปิดทำงานเองเมื่อมีสัญญาณเสียงจาก AVR เข้ามา (ไฟสถานะเปลี่ยนจาก แดง เป็น น้ำเงิน) และเมื่อไม่มีสัญญาณ จะเข้าสู่โหมดสแตนบายโดยอัตโนมัติ (ไฟสถานะเปลี่ยนเป็นสีแดง) ทำให้สะดวกไม่ต้องลุกไปเปิด-ปิด ทุกครั้งที่ใช้ หรือเลิกใช้งาน แต่ถ้ามิได้ใช้งานเป็นเวลานานก็ปิดสวิทช์เมนเพาเวอร์ไปเลยดีกว่าครับ ช่วยกันประหยัดไฟ ลดโลกร้อน


การออกแบบติดตั้งไดรเวอร์ขนาด 6 นิ้ว แบบยิงพื้น



ติดตั้งไดรเวอร์ขนาด 6 นิ้ว ไว้ด้านล่างตัวตู้แบบยิงลงพื้น ตัวตู้มีขนาดไม่ใหญ่ ดีไซน์เน้นกะทัดรัด ออกไปทางสูงและลึก เห็นเล็ก ๆ แบบนี้ ทว่าเสียงความถี่ต่ำได้น้ำได้เนื้อ เติมเต็มห้องทดสอบขนาดกว่า 20 ตร.ม. ไม่ขาดตกบกพร่อง ส่วนหนึ่งเป็นอานิสงส์ของภาคขยาย กำลังขับสูงสุด 150 วัตต์ (Dynamic Power) ส่วนอัตราการตอบสนองความถี่ตามสเป็คอยู่ที่ 27Hz – 150Hz

? การติดตั้งลำโพง
ในขั้นตอนการติดตั้งลำโพงนั้น สิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะฝากเอาไว้สักเล็กน้อย คือ ไม่ควรละเลยการติดฐานยางที่ด้านใต้ตัวตู้ลำโพงหลัก (ฐานยางดังกล่าวมีมาให้ในแพ็คเกจ) ซึ่งไม่ว่าจะวางลำโพงบนชั้นวาง บนโต๊ะทำงาน บนขาตั้ง หรือแม้แต่การแขวนผนัง ฐานยางดังกล่าวมีส่วนช่วยให้การตั้งวางลำโพงมั่นคงขึ้น ในแง่ของการลดทอนการสั่นเมื่อลำโพงทำงาน และป้องกันการโยกคลอนในส่วนของลำโพงเซ็นเตอร์ ซึ่งจะมีผลกับการถ่ายทอดคุณภาพเสียงของลำโพงเช่นกัน แม้ว่าไม่ถึงกับเปลี่ยนเสียงลำโพงให้ดีขึ้นแบบผิดหูผิดตา ทว่ามีส่วนช่วยให้ซิสเต็มลำโพงสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังป้องกันการลื่นไถล ลดการเกิดรอยขีดข่วยที่ผิวใต้ลำโพง สุดท้ายย่อมส่งผลต่อศักยภาพการใช้งานโดยรวมไม่มากก็น้อย

หากเป็นการติดตั้งลำโพงโดยการแขวนชิดติดกับผนัง ให้ติดฐานยางรองที่ด้านหลังลำโพงในตำแหน่งศรชี้ เพื่อเป็นตัวรองรับระหว่างลำโพงกับผนัง ลดทอนการสั่นอันไม่พึงประสงค์



ในส่วนของลำโพงเซ็นเตอร์ การติดฐานยางช่วยให้ลำโพงไม่โยกเยก อีกทั้งถ้ากะตำแหน่งติดดี ๆ ยังเป็นปรับมุมก้มเงยได้อีกด้วย



หากเป็นการติดตั้งลำโพงโดยการแขวนชิดติดกับผนัง ให้ติดฐานยางรองที่ด้านหลังลำโพงในตำแหน่งศรชี้ เพื่อเป็นตัวรองรับระหว่างลำโพงกับผนัง ลดทอนการสั่นอันไม่พึงประสงค์






สำหรับตำแหน่งการติดตั้งลำโพงนั้นมิได้ตายตัว ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมภายในห้อง อย่างไรก็ดีโดยมาตรฐานที่ใช้อ้างอิงกันจะเป็นดังภาพ ซึ่งเป็นการจัดวางในห้องที่ถูกกำหนดให้เป็นห้องโฮมเธียเตอร์โดยเฉพาะ ระยะจอภาพ และตำแหน่งนั่งฟัง รวมไปถึงตำแหน่งบาลานซ์ลำโพงซ้าย – ขวา และตำแหน่งของลำโพงเซ็นเตอร์อยู่ในแนวกึ่งกลางห้อง  ระยะห่างของลำโพงซ้ายขวาขั้นต่ำ ไม่ควรน้อยกว่าความกว้างของจอภาพที่ใช้ หรือไม่น้อยกว่า 60 ซม. สามารถกำหนดให้มีระยะห่างมากกว่าได้ ตามความเหมาะสม ส่วนลำโพงเซอร์ราวด์ก็อยู่ตรงกับด้านข้างของตำแหน่งนั่งฟัง หรือเยื้องไปทางทางหลังเล็กน้อย สำหรับซับวูฟเฟอร์ ถ้าต้องการเน้นน้ำหนักเสียงความถี่ต่ำให้มีปริมาณมากขึ้น อาจวางบริเวณมุมห้อง แต่จุดนี้จะยากอยู่บ้างในการเซ็ตอัพเพื่อสร้างความกลมกลืนเข้ากับลำโพงหลักเมื่อเทียบกับตำแหน่งที่วางอยู่บริเวณ 1 ใน 3 ของความกว้างห้องที่มีระยะใกล้กับลำโพงหลักคู่หน้ามากกว่า


? การเซ็ตอัพระบบเสียง
 จุดสำคัญของระบบเสียงโฮมเธียเตอร์ ที่ประกอบไปด้วยลำโพงหลายแชนเนลทำงานประสานกัน คือ ความกลมกลืน หากไม่สามารถทำให้ลำโพงในระบบทำงานประสานกลมกลืนสอดคล้องไปด้วยกันได้ โอกาสจะได้เสียงที่ดีย่อมเป็นไปได้ยาก ต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่าเสียงดังกล่าวที่ได้ยิน เป็นเสียงที่อยู่นอกเหนือความคาดหวัง ความรู้สึก ขาด ๆ เกิน ๆ ย่อมลดทอนอรรถรสในการรับชมลงไปไม่มากก็น้อย กรณีนี้ถ้าฟังแล้วไม่รู้สึกแฮปปี้ ท่านจะโทษว่าเสียงของเขาไม่ดีคงไม่ได้ เพราะเป็นเสียงที่เกิดจากการเซ็ตอัพที่ไม่ถูกต้อง หรืออยู่นอกเหนือมาตรฐาน

แล้วการเซ็ตอัพตามมาตรฐานเป็นอย่างไร ถ้ามีระบบ Audyssey เหมือน Onkyo AVR รุ่นใหญ่ ๆ ก็คงจะดีไม่น้อย เพราะช่วยให้เราได้เสียงที่ดีตามมาตรฐานได้ง่ายยิ่งขึ้น (แต่อาจต้องมีการปรับแต่งนิดหน่อย ตามประสิทธิภาพของระบบและสภาพแวดล้อม) อย่างไรก็ดีถึงแม้ HT-S5305 จะไม่มีระบบ Audyssey ในเบื้องต้นเราสามารถเซ็ตอัพแบบแมนน่วลได้เองครับ ตามหลักการคร่าว ๆ ดังต่อไปนี้





จุดที่ผู้ใช้ต้องกำหนดโดยหลัก ๆ มีอยู่ 3 จุด จุดแรก คือ การกำหนดลักษณะลำโพงให้สัมพันธ์กับจุดตัดความถี่ของซับวูฟเฟอร์ ซึ่งอยู่ในเมนูหัวข้อ Sp Config ในกรณีของ HT-S5305 เป็นลำโพงแซทเทลไลท์ขนาดเล็ก ฉะนั้นแน่นอนว่าขนาดลำโพง Front Center และ Surround จึงเป็น Small ส่วนจุดตัดความถี่ให้ทดลองกำหนดค่าเริ่มต้นที่ 120Hz ก่อน หากพบว่าเสียงของลำโพงหลักและซับวูฟเฟอร์ยังไม่ประสานกลมกลืนกันดี ค่อยทำการเปลี่ยนแปลง



จุดที่ 2 การกำหนดระยะห่างของลำโพง (อ้างอิงการหน่วงเวลา) เพื่อให้เสียงของลำโพงในระบบมาถึงหูของผู้ฟังโดยสัมพันธ์กัน ซึ่งอยู่ในหัวข้อ Sp Distance ปกติหากลำโพงแชนเนลใดอยู่ใกล้หูมาก เสียงก็จะมาถึงหูผู้ฟังก่อนเสียงของลำโพงแชนเนลอื่นที่อยู่ห่างออกไป จริงอยู่ว่าความแตกต่างอยู่ในระดับมิลลิวินาที แต่มิใช่ว่าจะไม่สามารถรับรู้เสียทีเดียว การกำหนดในจุดนี้ในเบื้องต้น ให้ใช้ตลับเมตรวัดระยะห่างของลำโพงแต่ละตัวถึงจุดนั่งฟัง แล้วกำหนดค่าลงไป



จุดที่ 3 การกำหนดบาลานซ์ระดับเสียงของลำโพงในระบบ ซึ่งอยู่ในหมวด Level Cal ในเบื้องต้นสามารถใช้การฟังเปรียบเทียบอ้างอิงจากเสียงเทสโทนของระบบได้ แต่บางทีเสียงที่ได้ยินก็มักจะหลอกหู โดยเฉพาะระดับเสียงของซับวูฟเฟอร์ ซึ่งฟังแล้วอาจรู้สึกว่าเบากว่าระดับเสียงของลำโพงเชนเนลหลัก ส่วนใหญ่จึงมักเร่งระดับเสียงซับวูฟเฟอร์ขึ้นมาล้ำเกินแชนเนลอื่น ด้วยหวังว่าจะเพิ่มความกระแทกกระทั้นสะใจยิ่งขึ้น ถามว่าเป็นอะไรไหม ? ก็มิใช่เรื่องคอขาดบาดตายอะไร อันที่จริงหากมองว่าเป็นความพึงพอใจก็สามารถกระทำได้ แต่เสี่ยงที่เบสจะบวม อื้ออึง ขาดความผ่อนคลาย จนกลายเป็นการรบกวนโสตประสาทไป ถ้าเป็นไปได้ ใช้ตัวช่วยอย่าง Sound Level Meter จะได้ผลลัพธ์ที่แน่นอน เที่ยงตรงกว่าการอ้างอิงด้วยหูครับ ในส่วนของบาลานซ์ระดับเสียงนี้สำคัญมาก เพราะส่งผลถึงความกลมกลืนมากที่สุด เมื่อเทียบกับตัวแปรอื่น ๆ จึงควรให้ความสำคัญมากเป็นพิเศษ

หมายเหตุ: ตัวเลขที่ปรากฏในภาพ เป็นค่ากำหนดที่ใช้ในสภาพแวดล้อมภายในห้องทดสอบเท่านั้น

? คุณภาพ
เมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทางแล้ว ถึงเวลาฟังเสียงกัน ผมเชื่อว่าถ้าท่านเซ็ตอัพทุกอย่างลงตัวแล้ว จะต้องแฮปปี้กับเสียงของซิสเต็มนี้แน่นอน คุณภาพเสียงสามารถตอบสนองการใช้งานได้ทั้งดูหนัง ฟังเพลง สไตล์เสียงที่ออกไปทางนุ่มนวลของ HT-R538 ยังผลให้เสียงของซิสเต็มนี้เจือความอิ่มหวานอยู่เนือง ๆ แม้ลำโพงหลักมีขนาดเล็กก็จริง แต่เสียงที่ได้ยินก็ยังมีน้ำหนัก อิ่มเอิบอยู่ในทีจากการที่ได้เสียงของซับวูฟเฟอร์มาเสริมอย่างพอดี แนวเสียงที่จูนมาเน้นกระแทกระทั้น หนักแน่นเกินตัวของซับวูฟเฟอร์ ช่วยเพิ่มความสะใจในการรับชมภาพยนตร์และเล่นเกมได้ดี อาจส่งผลให้การรับฟังเพลงติดรุกเร้าหนักอกอยู่บ้างแต่ก็เพียงเล็กน้อย

ความเที่ยงตรงของเสียงโดยรวมยังนับว่าอยู่ในเกณฑ์ดีสำหรับซิสเต็มระดับเริ่มต้นที่มีราคาไม่แพง จุดสำคัญของซิสเต็มนี้อยู่ที่หากสามารถเซ็ตอัพสร้างความกลมกลืนระหว่างลำโพงหลักกับซับวูฟเฟอร์ได้ ทุกอย่างก็จะส่งผลไปในทางที่ดีอย่างน่าพอใจดังที่กล่าวไปแล้วข้างต้น ทั้งนี้ในส่วนของการเซ็ตอัพ แม้ไม่มีระบบ Auto Calibration ช่วยเหลือ แต่การรองรับฟีเจอร์ปรับแต่งต่าง ๆ ค่อนข้างครอบคลุมตามมาตรฐานการกำหนดค่าอ้างอิงในระบบโฮมเธียเตอร์แบบแมนน่วล จึงอยู่ในวิสัยที่ทำให้ระบบลงตัวได้ถ้ากระทำอย่างถูกต้องเหมาะสมกับสภาพการใช้งาน



จุดเชื่อมต่อจาก HT-R538 ค่อนข้างครบถ้วนตามสไตล์การออกแบบลักษณะเดียวกับ AVR ทั่วไป จึงมีความยืดหยุ่นในการรองรับอุปกรณ์ต่อพ่วงต่าง ๆ ได้มาก การขยับขยายซิสเต็มก็ทำได้ไม่ยาก แม้อินพุตต่าง ๆ จะมีจำนวนไม่มากมายอะไร แต่ก็นับว่าเพียงพอ ฟีเจอร์เสริมในส่วนของภาควิดีโอ แม้ไม่มี VDO Scaler และ VDO Up-Conversion แต่ถ้าหากใช้งานร่วมกับเพลเยอร์ในปัจจุบันที่มี VDO Scaler ในตัว และเชื่อมต่อทาง HDMI ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

รูปลักษณ์ภายนอกดูดีด้วยผิวลำโพงดำเงา วัสดุอาจเน้นเป็นวัสดุสังเคราะห์ก็จริง แต่ยังดูดี ผิวตัวตู้ลำโพงซับวูฟเฟอร์ด้านบนและด้านข้างนับว่าน่าสนใจ แทนที่จะเป็นผิวลายไม้ด้าน ๆ แบบเดิม ๆ ที่พบเห็นได้ทั่วไปจากลำโพงที่มีราคาไม่แพง ทว่า Onkyo เลือกที่จะใช้ผิวแบบใหม่ เท็กเจอร์แบบ Hair line ผิวกึ่งมันกึ่งด้าน ดูโมเดิร์นแหวกแนวดี

เครดิตที่มา : http://www.hdplayerthailand.com
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 13, 2010, 03:21:43 PM โดย วัฒน์ » บันทึกการเข้า

ฟ้าและดินไม่เห็นไม่เป็นไร ไม่ได้หวังให้ใครจดจำ
แม้ยากเย็นแค่ไหน ไม่เคยบ่นสักคำ ไม่มีใครจดจำ แต่เราก็ยังภูมิใจ

จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา จะยอมรับโชคชะตาไม่ว่าดีร้าย
ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ถึงเวลาก็ต้องไป เหลือไว้แต่คุณงามความดี
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #445 เมื่อ: กันยายน 13, 2010, 05:08:23 PM »

นายสมชายว่า หากไม่ใช่"หูทอง"แบบนักเล่นเครื่องเสียง... ชุดออนเกียวข้างบนแหละครับ จบเรื่องเลย ได้ทั้งฟังเพลง+ดูหนัง...

เอา Extreme กรอกภาพอัดใส่จอ+แล้วเอา Optical กรอกเสียงใส่ออนเกียว, จบเรื่องเลย... นายสมชายนั่งอ่านมาตั้งนานแล้ว อ่านไปอ่านมาชักรู้สึก HTPC ของนายสมชายมันงุ่มง่ามแฮะ...

คือบางทีเวลาลงซอฟต์แวร์โน่นนี่เข้าไปหน่อยแล้วเสียงมั่งภาพมั่งมันไม่เหมือนเดิม ต้องคอยนั่งจำว่าอีครั้งที่แล้วเราเซ็ตอะไรไว้เท่าไหร่ ม่ายงั้นไม่เหมือนเดิม... โดนเมียดุเข้าทีนึงปวดหัวเลย... จ๊ากซ์...
บันทึกการเข้า
PsanP_IT.31(ไพศาล ๓)
๑๙๑๑ เลอะโคลน!!
Sr. Member
****

คะแนน 82
ออฟไลน์

กระทู้: 745


« ตอบ #446 เมื่อ: กันยายน 13, 2010, 05:38:54 PM »

นายสมชายว่า หากไม่ใช่"หูทอง"แบบนักเล่นเครื่องเสียง... ชุดออนเกียวข้างบนแหละครับ จบเรื่องเลย ได้ทั้งฟังเพลง+ดูหนัง...

เอา Extreme กรอกภาพอัดใส่จอ+แล้วเอา Optical กรอกเสียงใส่ออนเกียว, จบเรื่องเลย... นายสมชายนั่งอ่านมาตั้งนานแล้ว อ่านไปอ่านมาชักรู้สึก HTPC ของนายสมชายมันงุ่มง่ามแฮะ...

คือบางทีเวลาลงซอฟต์แวร์โน่นนี่เข้าไปหน่อยแล้วเสียงมั่งภาพมั่งมันไม่เหมือนเดิม ต้องคอยนั่งจำว่าอีครั้งที่แล้วเราเซ็ตอะไรไว้เท่าไหร่ ม่ายงั้นไม่เหมือนเดิม... โดนเมียดุเข้าทีนึงปวดหัวเลย... จ๊ากซ์...

 ไหว้
โอวว์...แสดงว่า  ฮาร์ดไวฟฟ์ ซัดฮาร์ดแวร์...ทำให้รวนไปถึงซอร์ฟแวร์  Grin
ไหว้   

ที่บ้านผม...แค่อ้าปาก  ก็รวนไปหมดแล้ว... Grin
บันทึกการเข้า

จะสร้างสรรค์วันชื่นคืนสุข ม่ายเอาซานุก ปายเพียงวันๆ ! เอิ๊ก^-^
วัฒน์
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4114
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17223


เนรเทศยกโคตรดีกว่านิรโทษยกเข่ง


เว็บไซต์
« ตอบ #447 เมื่อ: กันยายน 13, 2010, 08:04:56 PM »

นายสมชายว่า หากไม่ใช่"หูทอง"แบบนักเล่นเครื่องเสียง... ชุดออนเกียวข้างบนแหละครับ จบเรื่องเลย ได้ทั้งฟังเพลง+ดูหนัง...

เอา Extreme กรอกภาพอัดใส่จอ+แล้วเอา Optical กรอกเสียงใส่ออนเกียว, จบเรื่องเลย... นายสมชายนั่งอ่านมาตั้งนานแล้ว อ่านไปอ่านมาชักรู้สึก HTPC ของนายสมชายมันงุ่มง่ามแฮะ...

คือบางทีเวลาลงซอฟต์แวร์โน่นนี่เข้าไปหน่อยแล้วเสียงมั่งภาพมั่งมันไม่เหมือนเดิม ต้องคอยนั่งจำว่าอีครั้งที่แล้วเราเซ็ตอะไรไว้เท่าไหร่ ม่ายงั้นไม่เหมือนเดิม... โดนเมียดุเข้าทีนึงปวดหัวเลย... จ๊ากซ์...

ปัญหาเมียบ่นนี่แก้ไม่ยากหรอกครับ จัดให้สักชุด...ยิ้มแก้มปริเลยครับ  คิก คิก
บันทึกการเข้า

ฟ้าและดินไม่เห็นไม่เป็นไร ไม่ได้หวังให้ใครจดจำ
แม้ยากเย็นแค่ไหน ไม่เคยบ่นสักคำ ไม่มีใครจดจำ แต่เราก็ยังภูมิใจ

จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา จะยอมรับโชคชะตาไม่ว่าดีร้าย
ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ถึงเวลาก็ต้องไป เหลือไว้แต่คุณงามความดี
ชายเจษฎ์
ถูกใจ ใช่เลย คริ คริ
Hero Member
*****

คะแนน 1249
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10033


ํก็รักอ่ะ


« ตอบ #448 เมื่อ: กันยายน 13, 2010, 10:02:24 PM »

นายสมชายว่า หากไม่ใช่"หูทอง"แบบนักเล่นเครื่องเสียง... ชุดออนเกียวข้างบนแหละครับ จบเรื่องเลย ได้ทั้งฟังเพลง+ดูหนัง...

เอา Extreme กรอกภาพอัดใส่จอ+แล้วเอา Optical กรอกเสียงใส่ออนเกียว, จบเรื่องเลย... นายสมชายนั่งอ่านมาตั้งนานแล้ว อ่านไปอ่านมาชักรู้สึก HTPC ของนายสมชายมันงุ่มง่ามแฮะ...

คือบางทีเวลาลงซอฟต์แวร์โน่นนี่เข้าไปหน่อยแล้วเสียงมั่งภาพมั่งมันไม่เหมือนเดิม ต้องคอยนั่งจำว่าอีครั้งที่แล้วเราเซ็ตอะไรไว้เท่าไหร่ ม่ายงั้นไม่เหมือนเดิม... โดนเมียดุเข้าทีนึงปวดหัวเลย... จ๊ากซ์...

ปัญหาเมียบ่นนี่แก้ไม่ยากหรอกครับ จัดให้สักชุด...ยิ้มแก้มปริเลยครับ  คิก คิก

อืมมมมมมมมม....เพิ่งโดนเมียบ่นมาเมื่อเย็นนี้เอง งั้นไปละครับลุงวัฒน์ เดี๋ยวเซ็ทชุดใหญ่ให้เลย ขอบคุณในคำแนะนำครับ  คิก คิก ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก
บันทึกการเข้า

อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชา จะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสะ ทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ ฯ
Sig228-kolok
KU47 AGGIE / SOTUS HS9VOL
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2947
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 40236



« ตอบ #449 เมื่อ: กันยายน 14, 2010, 12:11:27 AM »

เยี่ยม ชี้เป้าให้เพื่อนสมาชิกรับไว้พิจารณาดูครับ ในกรณีที่อยากบานไม่รู้โรย...


http://www.sangchaielectronic.com/products.php?category=Television

แวะไปร้านนี้มาแล้วครับ ของเขาถูกจริง  ราคาห้างว่ามีโปรโมชั่นลดแล้ว ยังสู้ที่นี่่ไม่ได้ครับ ที่จอดรถก็จอดตรง ธ.กสิกรไทย เลย กรมที่ดินมานิดเดียว แล้วเดินต่อไปอีกหน่อยตรงซอยอมรพันธ์ก็ถึงแล้ว แถมถ้าซื้อของในร้าน ทางร้านออกค่าจอดรถให้ด้วยครับ  Onkyo HT-S5305  ชุดนี้ถามราคาดูแล้วไม่ถึงสองหมืน ประมาณหมื่นแปดห้าร้อย ถ้าเป็นรุ่น 9100 ระบบ 7.1 สามหมื่่นปลายๆครับ  วันนี้ออกไปทำธุระแล้ว เลยไปสอย XT PRO ให้เพื่อนอีก 1 ชุด มีคนร่วมบานเพิ่มอีกแล้วครับ Grin
บันทึกการเข้า

ขายที่ดิน 20 ไร่ บริเวณคลอง 8 อ.ธัญบุรี จ.ปทุมฯ ไร่ละ 1.8 ล้าน โทร 086-2859988
กดที่นี่ >>http://www.wikimapia.org/#lat=14.0499777&lon=100.7824481&z=17&l=0&m=b
หน้า: 1 ... 27 28 29 [30] 31 32 33 ... 65
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.138 วินาที กับ 22 คำสั่ง