๏ฟฝ๏ฟฝ็บบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝสน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาปืน
เมษายน 29, 2024, 05:04:03 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: อวป. มีจำหน่ายที่ สนามยิงปืนราชนาวี/สนามยิงปืนบางบัวทอง/สนามยิงปืนศรภ./
/สนามยิงปืนทอ./
สิงห์ทองไฟร์อาร์ม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
โพลล์
คำถาม: ท่านเห็นด้วยกับคำสั่งห้ามโอนปืนโครงการ ก่อน 5 ปี มากน้อยเพียงไร  (ปิดการโหวต: เมษายน 13, 2010, 09:48:24 PM)
เหมาะที่สุด 5 ปีหนะดีแล้ว - 45 (57.7%)
ไม่เหมาะ สัก 1 ปีก้อพอแล้ว - 22 (28.2%)
ไม่เห็นด้วย ไม่ต้องโอนเลยเว้นแต่มรดก - 11 (14.1%)
จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 73

หน้า: [1] 2 3
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ห้ามโอนปืนโครงการ ก่อน 5 ปี  (อ่าน 9347 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
renold
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: เมษายน 08, 2010, 09:48:24 PM »

หลายๆท่านเห็นว่า กรมการปกครอง มีคำสั่งห้ามโอนปืนโครงการต่างๆ 5 ปี มันทำให้เกิดปัญหา การซื้อปืนในราคาโครงการ น้ำลายหก แล้วเอาไปต่อขายในราคาปืนท้องตลาด โดนชก คิดว่าเหมาะสมหรือไม่ นักนิยมปืนทั้งหลาย น่าจะมาตั้งกติกา  เยี่ยมปืนโครงการที่ขายต่อ ราคาไม่น่าจะเทียบเท่ากับปืนท้องตลาด ไหว้..แบบว่า น่าจะให้โอกาส ปชช.ทั่วไปที่ไม่มีสิทธิซื้อปืนโครงการ ได้ครอบครองอาวุธปืนในราคาที่ไม่สูงจนเกินไป ไหว้
บันทึกการเข้า
Ruk™-รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 643
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4012



« ตอบ #1 เมื่อ: เมษายน 08, 2010, 10:02:50 PM »

    การซื้อปืนสวัสดิการในราคาถูก เพื่อเก็งกำไรและนำมาขายต่อ ผมไม่เห็นด้วยมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
ดูเป็นการให้อภิสิทธิ์คนบางกลุ่มมากเกินไป และไม่ใช่วัตถุประสงค์ของการเปิดโครงการปืนสวัสดิการ
แต่ละโครงการ
    จึงไม่เห็นด้วยหากจะมีการนำมาขายต่อเพื่อทำกำไร หากเป็นเช่นนั้นจริง ประชาชนซึ่งเป็นคนส่วน
ใหญ่ของประเทศก็ควรมีสิทธิ์ซื้อปืนสวัสดิการได้ด้วย
บันทึกการเข้า

คุณอาจเผาและทำลายบ้านเมืองเราได้ แต่คุณไม่สามารถทำลายความรักชาติศาสนาและพระมหากษัตริย์ของเราไปได้
HS3JBX ทองพูน นุโยนรัมย์ : (คำขวัญประจำจังหวัด) ราชธานีเก่า อู่ข้าวอู่น้ำ เลิศล้ำกานต์กวี คนดีศรีอยุธยา
renold
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #2 เมื่อ: เมษายน 08, 2010, 10:05:47 PM »

เห็นกันออกบ่อย ในห้องขายปืนของเวป ที่มีที่มาจากกรมการปกครอง
บันทึกการเข้า
Audy452 ♥ รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1180
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 14952



« ตอบ #3 เมื่อ: เมษายน 08, 2010, 10:09:38 PM »

5 ปีขายเป็นราคาปืนเก่า....ถึงตอนนั้นใครๆก็มีปืนอยู่แล้ว....คงขายไม่ได้ถ้าขายราคาแพงๆครับ
บันทึกการเข้า

Sungnoen
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 46
ออฟไลน์

กระทู้: 780



« ตอบ #4 เมื่อ: เมษายน 08, 2010, 10:27:37 PM »


เผื่อภายภาคหน้าจะชอบรุ่นใหม่ๆบ้าง
บันทึกการเข้า
CT_Pro4
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 537
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4869



« ตอบ #5 เมื่อ: เมษายน 09, 2010, 04:02:12 AM »

    การซื้อปืนสวัสดิการในราคาถูก เพื่อเก็งกำไรและนำมาขายต่อ ผมไม่เห็นด้วยมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
ดูเป็นการให้อภิสิทธิ์คนบางกลุ่มมากเกินไป และไม่ใช่วัตถุประสงค์ของการเปิดโครงการปืนสวัสดิการ
แต่ละโครงการ
    จึงไม่เห็นด้วยหากจะมีการนำมาขายต่อเพื่อทำกำไร หากเป็นเช่นนั้นจริง ประชาชนซึ่งเป็นคนส่วน
ใหญ่ของประเทศก็ควรมีสิทธิ์ซื้อปืนสวัสดิการได้ด้วย



...ชัดเจนครับ...  เยี่ยม เยี่ยม เยี่ยม
บันทึกการเข้า

Every problem contains the seeds of its own solution.- Stanley Arnold
rucha
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #6 เมื่อ: เมษายน 09, 2010, 07:43:04 AM »

คล้ายๆ เรื่อง เขายายเที่ยง นะครับ
บันทึกการเข้า
sorrachat - รักในหลวง
HS7FVZ
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 63
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 577



« ตอบ #7 เมื่อ: เมษายน 09, 2010, 07:51:43 AM »

โหวตแล้วครับ
บันทึกการเข้า

ผึ้งน้อย พเนจร ศรีษะนี้มอบให้พระเจ้าแผ่นดิน
hello9pk
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #8 เมื่อ: เมษายน 09, 2010, 09:17:04 AM »

การซื้อขายเป็นการพอใจกันทั้งสองฝ่าย มิได้มีใครไปบังคับมิใช่หรือ
บันทึกการเข้า
kit ๖๗๖๗ รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 122
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1484



« ตอบ #9 เมื่อ: เมษายน 09, 2010, 09:28:54 AM »

โหวตแล้วครับ ข้อ ๑
บันทึกการเข้า

มีเพียงสิ่งเดียวในชีวิตที่จะสามารถพิชิตได้โดยไม่ต้องใช้ความพยายามมากมายคือความล้มเหลว
kaittisak291
Full Member
***

คะแนน 15
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 108



« ตอบ #10 เมื่อ: เมษายน 09, 2010, 09:48:55 AM »

 ไหว้ พอดีผมก็ได้ปืนสวัสดิการมา 3 กระบอก G 19 ดำ สป.มท. CZ 2075 A สน.อส. โอนไม่ได้เว้นแต่มรดก และ G 26 ดำ สน.สก.โอนได้ภายใน 5 ปี  ในส่วนความคิดของผมนะครับ....อยากจะให้โอนได้ภายใน 5 ปี แต่ต้องให้ได้เฉพาะสามี ภรรยา บุตร ฯ เท่านั้น หรือผู้สืบทอดตระกูล...ไม่สามารถนำไปจำหน่ายหรือขายต่อแก่ผู้อื่นที่ไม่ใช่ญาติ...การโอนเราสามารถตรวจเช็คได้ตามหมายเลขทะเบียนปืน...ถ้าไม่ใช่ห้ามซื้อขาย...จะเป็นการป้องกันการซื้อในราคาถูกแล้วนำไปขายต่อในราคาที่แพง..หรือหาผลกำไรจากอาวุธปืนสวัสดิการ...ช่วงที่ผมจองปืน G 26 ดำ ของ สน.สก. ผมอยู่ชุดที่ 3 ลองดูที่ข้อมูลคนที่จองปืนในชุดนั้น..ท่านเชื่อหรือไม่ว่ามีเจ้าหน้าที่ท่านหนึ่ง..จองปืนในชุดที่ 3 นี้อยู่ถึง 7 กระบอก..มีขนาดและรุ่นเดียวกันด้วย..คือจอง G 19 ดำ จำนวน 3 กระบอก..G 26 ดำ จำนวน 2 กระบอก...คนเดียวนะครับ..ส่วนปืนในชุดอื่นไม่ทราบว่าท่านจองอีกหรือเปล่า...ก็ลองให้ สมช. ลองพิจารณาดูว่าจองปืนแล้วรับปืนไปแล้ว..จะนำปืนไปเพื่อทำสิ่งใด...แต่ก็งงเหมือนกันว่าทางอำเภอออก ป. 3 ให้ได้อย่างไร 7 กระบอก Huh... ไหว้
บันทึกการเข้า

การเดินทางของชาวเรา http://www.100friend.net/forum/
mchaivis
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 80
ออฟไลน์

กระทู้: 720



« ตอบ #11 เมื่อ: เมษายน 09, 2010, 10:12:48 AM »

ผมว่าอย่าไปร้อนรุ่มเรื่องทำนองนี้เลยครับ
ใครมีสิทธิ์ก็ใช้สิทธิ์ตามที่มี
ส่วนใครจะซื้อปืนหวังมาขายต่อ
โดยคิดว่าราคาขายต่อจะเท่ากับราคาปืนมือสองทุกวันนี้ อาจคิดผิดก็ได้
ถึงเวลาที่ปืนสวัสดิการโอนได้ คงไหลบ่าออกมาเหมือนสายน้ำ
ไหนปืนจากร้านค้าอีก ที่คงไม่ยอมให้ปืนสวัสดิการมาโจมตีแน่นอน
และคนที่รู้ว่าต้นทุนในการซื้อกระบอกละเท่าไหร่ จะยอมซื้อในราคาที่แพงเกินความเป็นจริงหรือ
บันทึกการเข้า
yakdee
ความดีไม่มีขาย อยากได้ต้องทำเอง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 64
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1147



« ตอบ #12 เมื่อ: เมษายน 09, 2010, 10:30:19 AM »

ขออนุญาตครับ

โหวตแล้วจะมีผลเปลี่ยนแปลงต่อคำสั่งห้ามโอนภายใน 5 ปีอย่างไรหรือไม่  ถ้าไม่..ก็เปล่าประโยชน์

ปืนสวัสดิการ คือปืนที่นำมาให้ผู้มีหน้าที่ที่ต้องใช้อาวุธปืนตามปกติ  สามารถซื้อได้ในราคาต่ำ เพราะตัดทอนภาษี และค่าโควต้าออกไปแล้ว...หมายความว่า  เป็นกรณีที่รัฐส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่สามารถซื้ออาวุธได้อย่างถูกต้อง ในราคาถูกกว่าชาวบ้าน....เพราะเจ้าหน้าที่ของรัฐมีรายได้ไม่เพียงพอกับการซื้อปืนตามราคาหน้าร้านฯ  แสดงว่า รัฐมีความเข้าใจและเข้าถึงความจำเป็นของเจ้าหน้าที่...แต่ละเลยปัญหาความปลอดภัยของประชาชนที่มีความจำเป็นต้องมีและใช้อาวุธปืนด้วยเช่นกัน  เนื่องจากประชาชนธรรมดา ๆ ไม่มีสิทธิซื้ออาวุธปืนในราคาต่ำเท่ากับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่จัดสวัสดิการให้มาเช่นนี้

นโยบายเป็นเรื่องนี้  มีช่องว่างให้เกิดกลุ่มหาประโยชน์จากปืนสวัสดิการฯ  ในยุคแรก เจ้าหน้าที่ของรัฐทำตัวเป็นตัวแทนในการซื้อหาอาวุธราคาต่ำในโครงการฯ แล้วมาจำหน่ายแก่ประชาชน  จากประสบการณ์ที่พบมา  ก็ฝากหน้าร้านขายอาวุธปืนให้ช่วยหาลูกค้า หรือแทรกขายเช่นเดียวกับปืนร้านฯ  ได้ราคาส่วนต่างเหนาะ ๆ แล้วยังไม่กระเทือนโควต้าของร้านอีกด้วย   ยุคต่อมานโยบายมีความเข้มข้น เพราะมีการจำหน่ายแพร่หลาย คนอนุมัติโครงการคิดได้ว่า ประโยชน์ที่เกิดจากผลต่าง ไม่ได้ตกอยู่กับรัฐหรือประชาชน  แต่ตกอยู่กับคนกลางหรือตัวแทนที่เป็นเจ้าหน้าที่ที่ยินยอมให้ใช้สิทธิและชื่อของตนเองในการซื้อขาย  ก็เลยมีข้อกำหนดห้ามโอนตลอดชีวิต เว้นแต่การตกทอดมรดกเท่านั้น ที่ทราบมาก็เป็นสวัสดิการของตำรวจ เท่ากับตัดโอกาสทำมาหากินกับช่องว่างดังกล่าว  คนที่อ้างว่าเสียหายกับนโยบายห้ามโอนเช่นนี้  ก็คือเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตัดใจซื้ออาวุธปืนมาแล้ว ใช้ไม่คล่อง ไม่เหมาะมือ ซื้อตามเพื่อน ฯลฯ จำเป็นต้องถือครอบครองอาวุธปืนกระบอกนั้นไปจนตาย....เพราะว่าโอนไม่ได้..

แต่ต่อมา  มีการผลัดใบของผู้มีอำนาจ นโยบายก็เปลี่ยน  กลายเป็นห้ามโอน 5 ปี เกิดขึ้นมา ซึ่ง การห้ามโอน 5 ปี ก็มีอยู่ในบางโครงการในขณะที่บางโครงการฯ ห้ามโอนตลอดชีวิต..  โดยไม่มีข้อมูลว่า 5 ปีนั้นมาจากการศึกษาผลกระทบและผลได้ผลเสียอย่างไร  เนื่องจากกฎหมายบ้านเมืองของเรา การกำหนดระยะเวลาในส่วนที่จะเป็นคุณเป็นโทษกับประชาชน  ไม่เคยแสดงให้เห็นได้ในทางวิชาการว่า เกิดขึ้นจากมูลเหตุใด  จึงแปลความได้ว่า  เป็นไปตามอำเภอใจของผู้กำหนดกฎหมายเท่านั้น  

ท้ายนี้  จึงต้องถามว่า  นโยบายจำกัดอาวุธปืนของร้านค้าที่ยังดำเนินอยู่ โดยเปิดช่องว่างให้เกิดการจำหน่ายอาวุธปืนอย่างแพร่หลายในโครงการสวัสดิการเช่นนี้ ควรมีอยู่ต่อไปหรือไม่  มากกว่าจะมาถามว่า กี่ปี จึงจะดี...

การเปิดเสรีในการถือครองอาวุธปืนฯ ไม่ได้ทำให้รัฐต้องเกรงกลัวว่าจะเป็นการสนับสนุนให้เกิดอาชญากรรม  เพราะอาชญากรรมก็เกิดขึ้นทุกวันอยู่แล้ว เพียงแต่อาวุธปืนเป็นปัจจัยที่ง่ายที่สุดในแง่ของการใช้และเป็นผล   การดูแลอย่างมีประสิทธิภาพของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับอาวุธปืนต่างหากล่ะที่ต้องเข้มแข็ง มีข้อมูล  ไม่ยินยอมต่อการร้องขอของผู้ยิ่งใหญ่กว่าหน้าที่ (เส้นใหญ่) ก็จะทำให้การมีและใช้อาวุธปืนสามารถควบคุมไม่ให้ใช้ก่ออาชญากรรมง่ายขึ้น  และอาวุธปืนก็จะไม่กลายเป็นผู้ร้ายในเรื่องนี้...

ช่วงนี้การเมืองร้อนระอุ...แต่ยังมีการใช้อาวุธสงครามกันอย่างไม่สะทกสะท้านกลางเมืองหลวง  เท่ากับรัฐไม่มีความรู้ในการดูแลเรื่องอาวุธปืน  หรือพยายามไม่เรียนรู้ก็อาจเป็นไปได้  

ทั้งหมดนี้ไม่ใช่การกล่าวหาอย่างอคติ  แต่เป็นเกร็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อประโยชน์ต่อเพื่อสมาชิกด้วยกันที่จะทราบถึงความจริงบางส่วนของโครงการฯ  เท่าที่ความรู้เล็กน้อยของผมมีอยู่เท่านั้น  สมาชิกท่านอื่นอาจมีความรู้และทราบรายละเอียดดีกว่า  โปรดช่วยแนะนำแลกเปลี่ยนกันบ้างก็ได้ครับ  ขอบคุณท่านที่กรุณาอ่านมาจนถึงบรรทัดนี้  
บันทึกการเข้า

อย่าไปร้องขอฯจากคนอื่น  ถ้าไม่เคยให้อะไรกับใคร
ทำทุกอย่างต้องจริงใจ  แล้วท่านจะได้..จากใจจริง
ทุก ๆ สิ่งที่ว่าแน่แท้    ยังผันแปร..เปลี่ยนเป็นอื่น
ธรรมชาติไม่อาจฝืน   แต่ควรยืนหยัดอยู่..สู้อธรรม
looknoi
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 35
ออฟไลน์

กระทู้: 180


อย่าอยู่อย่างอยาก


« ตอบ #13 เมื่อ: เมษายน 09, 2010, 10:37:37 AM »

ผมขอแค่โอนมรดกได้ก็พอใจแล้ว ไม่ต้องตายแล้วโอนมันยุ่งยากครับ เศร้า
บันทึกการเข้า

คำขอโทษไม่ได้มีไว้ใช้พร่ำเพรือ เพราะทุกครั้งที่ขอโทษก็จะทำให้มิตรลดลง
ธำรง
Hero Member
*****

คะแนน 1734
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8577


.....รักในหลวง.....


« ตอบ #14 เมื่อ: เมษายน 09, 2010, 10:55:28 AM »

ขออนุญาตครับ

โหวตแล้วจะมีผลเปลี่ยนแปลงต่อคำสั่งห้ามโอนภายใน 5 ปีอย่างไรหรือไม่  ถ้าไม่..ก็เปล่าประโยชน์

ปืนสวัสดิการ คือปืนที่นำมาให้ผู้มีหน้าที่ที่ต้องใช้อาวุธปืนตามปกติ  สามารถซื้อได้ในราคาต่ำ เพราะตัดทอนภาษี และค่าโควต้าออกไปแล้ว...หมายความว่า  เป็นกรณีที่รัฐส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่สามารถซื้ออาวุธได้อย่างถูกต้อง ในราคาถูกกว่าชาวบ้าน....เพราะเจ้าหน้าที่ของรัฐมีรายได้ไม่เพียงพอกับการซื้อปืนตามราคาหน้าร้านฯ  แสดงว่า รัฐมีความเข้าใจและเข้าถึงความจำเป็นของเจ้าหน้าที่...แต่ละเลยปัญหาความปลอดภัยของประชาชนที่มีความจำเป็นต้องมีและใช้อาวุธปืนด้วยเช่นกัน  เนื่องจากประชาชนธรรมดา ๆ ไม่มีสิทธิซื้ออาวุธปืนในราคาต่ำเท่ากับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่จัดสวัสดิการให้มาเช่นนี้

นโยบายเป็นเรื่องนี้  มีช่องว่างให้เกิดกลุ่มหาประโยชน์จากปืนสวัสดิการฯ  ในยุคแรก เจ้าหน้าที่ของรัฐทำตัวเป็นตัวแทนในการซื้อหาอาวุธราคาต่ำในโครงการฯ แล้วมาจำหน่ายแก่ประชาชน  จากประสบการณ์ที่พบมา  ก็ฝากหน้าร้านขายอาวุธปืนให้ช่วยหาลูกค้า หรือแทรกขายเช่นเดียวกับปืนร้านฯ  ได้ราคาส่วนต่างเหนาะ ๆ แล้วยังไม่กระเทือนโควต้าของร้านอีกด้วย   ยุคต่อมานโยบายมีความเข้มข้น เพราะมีการจำหน่ายแพร่หลาย คนอนุมัติโครงการคิดได้ว่า ประโยชน์ที่เกิดจากผลต่าง ไม่ได้ตกอยู่กับรัฐหรือประชาชน  แต่ตกอยู่กับคนกลางหรือตัวแทนที่เป็นเจ้าหน้าที่ที่ยินยอมให้ใช้สิทธิและชื่อของตนเองในการซื้อขาย  ก็เลยมีข้อกำหนดห้ามโอนตลอดชีวิต เว้นแต่การตกทอดมรดกเท่านั้น ที่ทราบมาก็เป็นสวัสดิการของตำรวจ เท่ากับตัดโอกาสทำมาหากินกับช่องว่างดังกล่าว  คนที่อ้างว่าเสียหายกับนโยบายห้ามโอนเช่นนี้  ก็คือเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตัดใจซื้ออาวุธปืนมาแล้ว ใช้ไม่คล่อง ไม่เหมาะมือ ซื้อตามเพื่อน ฯลฯ จำเป็นต้องถือครอบครองอาวุธปืนกระบอกนั้นไปจนตาย....เพราะว่าโอนไม่ได้..

แต่ต่อมา  มีการผลัดใบของผู้มีอำนาจ นโยบายก็เปลี่ยน  กลายเป็นห้ามโอน 5 ปี เกิดขึ้นมา ซึ่ง การห้ามโอน 5 ปี ก็มีอยู่ในบางโครงการในขณะที่บางโครงการฯ ห้ามโอนตลอดชีวิต..  โดยไม่มีข้อมูลว่า 5 ปีนั้นมาจากการศึกษาผลกระทบและผลได้ผลเสียอย่างไร  เนื่องจากกฎหมายบ้านเมืองของเรา การกำหนดระยะเวลาในส่วนที่จะเป็นคุณเป็นโทษกับประชาชน  ไม่เคยแสดงให้เห็นได้ในทางวิชาการว่า เกิดขึ้นจากมูลเหตุใด  จึงแปลความได้ว่า  เป็นไปตามอำเภอใจของผู้กำหนดกฎหมายเท่านั้น  

ท้ายนี้  จึงต้องถามว่า  นโยบายจำกัดอาวุธปืนของร้านค้าที่ยังดำเนินอยู่ โดยเปิดช่องว่างให้เกิดการจำหน่ายอาวุธปืนอย่างแพร่หลายในโครงการสวัสดิการเช่นนี้ ควรมีอยู่ต่อไปหรือไม่  มากกว่าจะมาถามว่า กี่ปี จึงจะดี...

การเปิดเสรีในการถือครองอาวุธปืนฯ ไม่ได้ทำให้รัฐต้องเกรงกลัวว่าจะเป็นการสนับสนุนให้เกิดอาชญากรรม  เพราะอาชญากรรมก็เกิดขึ้นทุกวันอยู่แล้ว เพียงแต่อาวุธปืนเป็นปัจจัยที่ง่ายที่สุดในแง่ของการใช้และเป็นผล   การดูแลอย่างมีประสิทธิภาพของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับอาวุธปืนต่างหากล่ะที่ต้องเข้มแข็ง มีข้อมูล  ไม่ยินยอมต่อการร้องขอของผู้ยิ่งใหญ่กว่าหน้าที่ (เส้นใหญ่) ก็จะทำให้การมีและใช้อาวุธปืนสามารถควบคุมไม่ให้ใช้ก่ออาชญากรรมง่ายขึ้น  และอาวุธปืนก็จะไม่กลายเป็นผู้ร้ายในเรื่องนี้...

ช่วงนี้การเมืองร้อนระอุ...แต่ยังมีการใช้อาวุธสงครามกันอย่างไม่สะทกสะท้านกลางเมืองหลวง  เท่ากับรัฐไม่มีความรู้ในการดูแลเรื่องอาวุธปืน  หรือพยายามไม่เรียนรู้ก็อาจเป็นไปได้  

ทั้งหมดนี้ไม่ใช่การกล่าวหาอย่างอคติ  แต่เป็นเกร็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อประโยชน์ต่อเพื่อสมาชิกด้วยกันที่จะทราบถึงความจริงบางส่วนของโครงการฯ  เท่าที่ความรู้เล็กน้อยของผมมีอยู่เท่านั้น  สมาชิกท่านอื่นอาจมีความรู้และทราบรายละเอียดดีกว่า  โปรดช่วยแนะนำแลกเปลี่ยนกันบ้างก็ได้ครับ  ขอบคุณท่านที่กรุณาอ่านมาจนถึงบรรทัดนี้  

 เยี่ยม ต้อง + ให้คุณยักษ์ดีครับ

ผมขอแย้งเล็กๆ ตรงที่ทำตัวแดงไว้ ว่าปืนสวัสดิการไม่ใช่ราคาต่ำครับ มันคือราคาปืนที่ควรจะเป็นในการซื้อขายในตลาดปกตินี่แหละ ในความเป็นจริงปืนสวัสดิการเสียภาษีตามปกติ (อาจมากกว่าปืนร้านด้วยซ้ำ เพราะสำแดงเอกสารอันเดอร์แวลลูไม่ได้ครับ)

 
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 3
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.098 วินาที กับ 23 คำสั่ง