๏ฟฝ๏ฟฝ็บบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝสน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาปืน
เมษายน 28, 2024, 06:38:53 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 788 789 790 [791] 792 793 794 ... 812
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ไลฟ์ สไตล์ ของ " สมิง วังม่วง " และพี่น้องคอปืน จังหวัด น่าน  (อ่าน 948927 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สมิง วังม่วง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 68
ออฟไลน์

กระทู้: 7628


tel. 0861810566


« ตอบ #11850 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2016, 06:23:53 AM »

อัพเดตราคาปืน กระสุน แหล่งซื้อ เดือน ก พ 2559 http://2013.gun.in.th/index.php?topic=66241.0  (สมัครสมาชิก)
บันทึกการเข้า

สมิง วังม่วง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 68
ออฟไลน์

กระทู้: 7628


tel. 0861810566


« ตอบ #11851 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 12, 2016, 10:03:51 AM »

.......ดับรามสูร........
.........เล่มที่ ๒ ตอนที่ ๒๓.........

ชั่วอึดใจใหญ่ๆ ไอ้โล้น...ก็ปั่นสามล้อเข้าไปจอดอยู่ข้างๆ รถเก๋งของผู้กองอังคาร...
ยังไม่ทันจะจอดสนิท ผู้กองอังคาร....ก็ถามขึ้นมาด้วยความร้อนใจ

" รายงานสภาพของโกดังให้ละเอียดที่สุดเท่าที่พวกลื้อเห็นมา "

" การระมัดระวังป้องกันแข็งแรงพอสมควร มียามรักษาการณ์สามจุด...
จุดอ่อนที่สุดอยู่ที่หน้าประตูด้านหน้า ซึ่งมียามรักษาการณ์ ๒ คน
อาวุธเอ็ม.๑๖ หนึ่งกระบอก ปืนพก ๒กระบอก สามารถที่จะหลอกให้เปิดประตูออกมาได้อย่างสบาย...ทางเข้าทางอื่นไม่มี "

ไอ้แสบ...ตอบด้วยน้ำเสียงเอาการเอางาน ลักษณะท่าทางเมาเหล้าหายไปเป็นปลิดทิ้ง

ผู้กองอังคาร...นิ่งไปชั่วอึดใจ แล้วหันไปถามไอ้โล้น...
ซึ่งขณะนี้ลงจากอานรถเดินอ้อมไปยืนที่ท้ายรถ เสมือนหนึ่งจะทำหน้าที่คุ้มกันเจ้านายของมันอยู่ในที่

" เรื่องกำลังหนุนของเราว่ายังไง รามาห์ "

ผู้กองอังคาร...เรียกชื่อจริงของไอ้โล้น...เป็นครั้งแรก

" ผมให้เงินไอ้อ้วน-ราม่า...ไป ๓,๐๐๐สามพันบาท
มันรับปากว่าจะเกณฑ์สามล้อที่หน้าสินประเสริฐโบล์วและที่หน้าหนองบัวลองให้มาสมทบพวกเราที่นี่...
โน่นครับ รู้สึกว่าจะมากันแล้ว "

ประโยคสุดท้ายไอ้โล้น...ลดเสียงกระซิบกระซาบพร้อมกับบุ้ยใบ้ให้มองดูขบวนรถสามล้อ
ซึ่งดับไฟวิ่งเข้ามาในสนามบินพาณิชย์ มองดูเหมือนกับงูกินหางไม่มีผิด

พอขบวนสามล้อวิ่งเข้ามาใกล้ๆ พอที่จะจำลักษณะท่าทางกันได้
ไอ้โล้น...ซึ่งยืนอยู่ท้ายรถก็หัวเราะฮึ ๆ ออกมาด้วยความขบขัน

" มึงขำอะไรวะไอ้โล้น "

ไอ้แสบ...ซึ่งนั่งอยู่บนเบาะสามล้อหันไปถามด้วยความเคลืองแคลงใจ

" กูขำฝรั่งตกอับขี่สามล้อว่ะ...
มึงดูโน่นไอ้แสบ...หัวหน้านอร์แมน...ลดตำแหน่งลงไปปั่นสามล้อนำหน้ามาโน่นเข้าท่าซะด้วยเจ้านายกู "

ไอ้โล้น...พูดพลางหัวเราะพลาง เมื่อมองเห็นนอร์แมน...หัวหน้าข่าวกรองค่ายรามสูร
ซึ่งในขณะนี้ใส่กางเกงขาสั้นเสื้อแขนยาวสีดำ สวมหมวกใบลาน
ผิวหนังที่ขาวซีดโดนยาขัดรองเท้าสีดำป้ายขมุกขมอมไปหมดทั้งตัว

ขบวนสามล้อเกือบ ๒๐ คันทยอยเข้ามาจอดเรียงรายอยู่รอบๆ รถผู้กองอังคาร...
นอร์แมน...เอื้อมือหยิบหมวกใบลานจากศีรษะลงมากระพือที่ใบหน้า ไอ้แสบ...ซึ่งนั่งอยู่บนเบาะหัวเราะก๊ากออกมาค่อนข้างดัง

"- ตรงอื่นอุตสาห์พรางสีดำจนมึดไปหมด แต่หัวหน้าก็พลาดจนได้...กรุณาสวมหมวกเถอะครับหัวหน้า "

ไอ้แสบ...พูดพลางหัวเราะพลาง
ที่มองเห็นนอร์แมน...ลืมเอายาขัดรองเท้าสีดำพรางบริเวณศีรษะที่ล้านเลี่ยนสะท้อนแสงจันทร์เป็นมันแพร็บอยู่นั้น

นอร์แมน...ยกหมวกขึ้นสวมศีรษะ ยิ้มอย่างอารมณ์ดีพร้อมกับเดินเข้าไปที่รถผู้กองอังคาร...
เปิดประตูเข้าไปนั่งตอนหลังแล้วพูดเบาๆ ...
" เหลืออีกสองชั่วโมง...ผมคิดว่าเราควรจะเริ่มปฏิบัติการได้แล้วผู้กอง "

ผู้กองอังคาร...ใช้กล้องสนามแรงสูงส่องดูที่หน้าประตูโกดัง " ย่งเส็ง " อีกครั้ง เขาปรับโฟกัสอยู่ครู่หนึ่งก็วางกล้องลงบนเบาะ
แล้วเอื้อมมือหยิบ "เอ็ม.-๑๖" สวมท่อเก็บเสียง ซึ่งวางอยู่ที่ซอกเบาะด้านหลังขึ้นมาตรวจดูแม๊กกาซีน
ปากก็พูดต่อไปด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ

" หน้าที่เปิดประตูโกดังเป็นหน้าที่ของสองคนนั่น "

ผู้กองอังคาร...พูดพลางพยักหน้าไปยังเพชฌฆาตรับจ้างทั้งสองซึ่งยืนคุยกันเงียบๆ อยู่ท้ายรถ
เมื่อเห็นนอร์แมน...ไม่พูดว่าอะไร เขาก็อธิบายต่อไปอีก...

" ทางเข้าด้านอื่นไม่มี...รั้วสังกะสีทำให้เกิดเสียงดัง เมื่อประตูเปิดออก พวกเราจะกรูกันเข้าไป
เป้าหมายของเราก็คือโกดังข้าวสาร
ส่วนเป้าหมายลวงก็คือบ้านหลังแรกที่ตั้งอยู่ทางด้านซ้ายมือนั่น ผมจะให้สามล้อเหล่านี้ชาร์ทเข้าไปที่ตึกหลังนั้น...
ส่วนพวกเราจะแยกไปที่โกดังข้าวสาร
หัวหน้ารออยู่ในรถนี่ ถ้าแผนงานสำเร็จ ผมจะกระแทกแฟร์เป็นสัญญาให้หัวหน้าทราบ "

" ผู้กอง...สามล้อเหล่านี้เป็นหน่วยปฏิบัติพิเศษของหน่วยงานเราที่กระจัดกระจายอยู่ตาม เมืองโคราช เพื่อแกะรอยฝ่ายตรงข้าม
ทุกคนเป็นทหารผ่านศึกจากเวียดนามและลาวมาแล้วอย่างโชกโชน
เอเย่นต์ของเราจัดหามาให้ผมภายในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง...
ส่วนสามล้อที่ " อ้วนรามา " จัดมาให้ ผมวางแผนลวงให้ไปชุมนุมอยู่ที่ " จอมสุรางค์-โฮเต็ล " โน่นแล้ว
ป่านนี้สายของเค.จี.บี...คงจะแห่กันไปที่โน่นหมดแล้ว...
ไม่ต้องห่วงผู้กองขีดความสามารถและอาวุธประจำกายของ สามล้อเพชฌฆาตพวกนี้ก็คือหน่าวยล่าสังหารดีๆ นี่เอง "

นอร์แมน...พูดพลางเอื้อมมือไปตบศีรษะหมอดาหลา...ด้วยความเอ็นดู

" ถ้าข่าวกรองของเรามีประสิทธิภาพพอสมควร...หมออาจจะพบกับเพื่อนเก่าจากมอสโคว์ที่โกดังโน่น "

หมอดาหลา...เหลือบตาหันมามองนอร์แมน....แล้วพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเคลือบแคลงใจ

" หัวหน้าคงจะไม่ได้หมายถึง " โรซ่า " นักเรียนจารกรรมรุ่นเดียวกับดิฉันละกระมังคะ
โรซ่า อยู่ถึงมอสโคว์โน่น...อิมพอสซิเบิลจริงๆ ถ้าเธอเดินทางเข้ามาถึงโคราชนี่"

" ถูกต้อง โรซ่าเดินทางเข้ามาในประเทศไทยก่อนเธอสองเดือนเต็มๆ เธอเข้ามาในฐานะพนักงานของสถานทูต
ต่อจากนั้นก็แทรกซึมเข้าไปในบริษัทการค้าแห่งหนึ่ง เพื่อหาข่าวกรองให้กับหน่วยงานของเธอ
โรซ่าเดินทางกลับมอสโคว์พร้อมๆ กับทีมฟุตบอลมหาวิทยาลัยรุสเซีย
ต่อจากนั้นก็เดินทางกลับเข้ามาประเทศไทยอีกครั้งในนามของ "เอลด้า"
ผลงานล่าสุดของโรซ่าก็คือ สังหารสายลับของ ซี.ไอ.เอ. ที่แกะรอยเธอจากสนามม้านางเลิ้ง
ด้วยการต้มน้ำมันเดือดๆ แล้วกรอกลงไปในปากด้วยความเ[---]้ยมโหดทารุณ
ถ้าข่าวกรองของเราไม่ผิดพลาด ผู้หญิงคนที่ชวน "เต๋า-โบว์ลิ่ง "
ขึ้นรถเมื่อตอนหลังจากเกิดยิงกันที่หน้าสินประเสริฐโบว์ลจะต้องเป็น โรซ่า...อย่างแน่นอน "

นอร์แมน...พูดพลางชะโงกหน้าลงไปดูวิทยุชนิดพิเศษ
ที่ส่งประกายสีแดงวาบวับวาบวับอยู่ที่เบาะข้างๆ ผู้กองอังคาร ... ด้วยความสนใจ

" ดิฉันขอภาวนาให้เป็นโรซ่าจริงๆ หยั่งที่ข่าวกรองของเราได้ข้อมูลมา
เมื่อสี่ปีที่แล้ว ดิฉันเสียที่โรซ่า...ที่มอสโคว์อันเป็นบ้านเกิดของเขาเอง
และคราวนี้เจอะกับเธออีกครั้งและที่สำคัญที่สุดพบกันคราวนี้ ภายในบ้านเกิดของดิฉันเสียด้วย
โรซ่า...เพื่อนรัก อีกไม่นานเกินรอเราจะได้พิสูจน์กันเสียที่ว่า ระหว่างเธอกับฉันใครจะมีฝีมือเหนือกว่ากัน
ประโยคสุดท้ายหมอดาหลา สุมาลิน... พึมพำเหมือนกับจะมีอดีตความเจ็บแค้นที่ยังลึกอยู่ภายในขั้วหัวใจ

หน่วยล่าสังหาร ซึ่งอยู่ในคราบของสามล้อลงจากอานแล้วพลิกเบาะรถหยิบเอาปืน " เอ็ม ๑๖ "
ซึ่งถูกถอดออกเป็นสองชิ้นขึ้นมาประกอบกันอย่างคล่องแคล่วว่องไว
แม๊กกาซีนชนิดโค้งซึ่งบรรจุได้ ๓๐ นัด ถูกพ่วงติดกันด้วยสก๊อตเทปสีดำเหมือนกันหมดทุกคน

ต่อจากนั้น สามล้อเพชฌฆาตทั้ง ๑๐ คนก็หยิบเศษผ้าสีขาวขึ้นมามัดเหนือต้นแขนซ้าย
แล้วสงบนิ่ง รอฟังคำสั่งการปฏิบัติงานอย่างเงียบเชียบ

" ไอ้โล้นกับไอ้แสบ...มีหน้าที่ไปเปิดประตูโกดัง
คนทางซ้ายมือสุดโน่นอยู่กับหัวหน้าที่นี่...
ที่เหลือเคลื่อนที่ไปซุ่มอยู่หน้าโกดังปฏิบัติได้ "

ผู้กองอังคาร...ออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเฉียบบขาด พร้อมกับเปิดประตูรถ
แต่ถูกนอร์แมน...เอื้อมมือมาตะครุบข้อมือเอาไว้เสียก่อน

" ผู้กอง...ผมขออวยพรให้แผนงานของผู้กองจงเป็นผลสำเร็จ
ปกติผมเป็นคนไม่เชื่อไสยศาสตร์มากนัก
แต่คราวนี้ผมได้สักการะท่านย่าโม...อันเป็นมิ่งขวัญของชาวโคราชตามคำแนะนำของหน่วยล่าสังหารชุดนี้แล้ว...
ปาฏิหาริย์และความศักดิ์สิทธิ์ของย่าโม...คงจะดลบันดาลให้ผู้กองและหมอดาหลา...ปลอดภัย...โชคดี"

ผู้กองอังคาร...ขนลุกซู่ขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
หมอดาหลา...ซึ่งเปิดประตูรถลงมาก่อนหยิบเศษผ้าสีขาวขึ้นพันต้นแขนซ้ายอย่างรีบเร่ง
ต่อจากนั้นก็ช่วยพันแขนให้กับผู้กองอังคาร...พร้อมกับกระซิบเบาๆ

" ผู้กองคงจะไม่รู้ ก่อนที่ดาหลา...จะมาที่สนามบินพาณิชย์
ดาหลา...ได้อธิษฐานกับท่านย่าแล้ว ดาหลา...อธิษฐานว่าอะไรผู้กองอยากรู้มั้ยค่ะ "

" ทำไมจะไม่รู้ หมออธิษฐานให้ผมปลอดภัยแล้วก็เป็นหัวใจของหมอดาหลา...ตลอดไปใช่ไหมครับ ? "

ผู้กองอังคาร...กระซิบตอบ...พร้อมกับชำเลืองไปรอบๆ เมื่อไม่มีใครสนใจก็แอบหอมแก้มหมอดาหลา...เอาดื้อ ๆ

" เพียะ "

ฝ่ามือหยาบกร้านกระทบใบหน้าของผู้กองอังคาร...เต็มแรง

" ไอ้ห่าโล้น...ยุงเมืองโคราชนี่ชุมฉิบหายเลยนิ เมื่อกี้นี้กูเห็นคุณหมอตบยุงให้ผู้กองเพียะเบ้อเริ่ม "

ไอ้แสบ...ลูกน้องตัวดีของผู้กองอังคาร...ซึ่งยืนแอบอยู่ท้ายรถพูดพลางยกมือขึ้นตบตามเนื้อตามตัววุ่นวายไปหมด

ผู้กองอังคาร...หันขวับ..." เอ็ม. - ๑๖ " สวมท่อเก็บเสียงถูกกวาดลำกล้องเข้าหา ไอ้แสบ...
มือข้างขวาดึง " ขอรั้งลูกเลื่อน " ไปจนสุด แล้วปล่อยให้ดันลูกปืนเข้ารังเพลิงเสียงดัง " เคร้ง "

ไอ้แสบ...ร้องเสียงหลง คว้าแขนไอ้โล้น..วิ่งเหยาะๆ ไปที่สามล้อ
พร้อมกับกระหืดกระหอบพูดออกมาแทบไม่เป็นภาษาคน

" ไปโว้ย...ไอ้โล้น...ยุงโคราชดุฉิบหายเลย...ขืนอยู่กูโดนยิงกบาลแยกแน่ ๆ "

ไอ้โล้น...กระโจนขึ้นไปนั่งบนเบาะ
ไอ้แสบ...คว้าแฮนด์รถกระโจนพรวดขึ้นไปนั่งออกแรงปั่นสุดชีวิต พารถสามล้อออกจากสนามบินอย่างรวดเร็ว...

" ลูกน้องของคุณแต่ละคน " สะเด็ดยาด " ทั้งนั้น อะไร้...ทำอะไรให้เด็กมันเห็นผู้กองนี่ "

ประโยคสุดท้าย หมอดาหลา...ลดเสียงกระซิบกระซาบด้วยท่าทางน่ารัก...

" หมอ...ช่วยกรุณาตบยุงให้ผมอีกครั้ง...นะครับ "

ผู้กองอังคาร...พูดพลางก้มลงควานหาแก้มหมอดาหลา...
คราวนี้ไม่มีเสียงดัง " เพียะ " มีแต่เสียงกำชับเบาๆ จากหมอดาหลา...ซึ่งยืนก้มหน้าด้วยความอุธัจ

" ทำรุ่มร่ามผู้กองนี่...ไปเถอะค่ะ "

หน่วยเพชฌฆาตล่าสังหารเริ่มเกาะขบวนมุ่งหน้าไปยังโกดังข้าวสาร
ซึ่งมองเห็นทะมึนๆ อยู่ในความมึดเบื้องหน้าด้วยความระมัดระวัง...

ด้วยการฝึกฝนผ่านมาอย่างจำเจ...ทุกคนจัดรูปขบวนเป็นแถวเรียงเดี่ยว
เคลื่อนที่เข้าไปจนกระทั่งถึงขอบถนนก็ขยายแถวออกเป็นแถวหน้ากระดาน แล้วหมอบซุ่มคอยทีอยู่ด้วยความสงบเงียบ

" สุริยนย่ำสนทะยวย...เอ๊ย รวยไม่รู้จักจนกาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว...เมื่อวานนี้
ชายชราอายุ ๔ ขวบ...ขี่ม้าสีขาวดำสนิท วิ่งลุยโคลนฝุ่นคลุ้ง...พกปืนสั้นยาวสองศอก "

เสียงแหกปากร้องเพลงดังเอ็ดอึงจากปากซอย...
ชั่วอึดใจ ไอ้แสบ...ก็ปั่นสามล้อคู่ชีพส่ายงอกแงกๆ มาจอดที่หน้าประตูหน้าโกดัง
ซึ่งอยู่ตรงหน้าบริเวณที่กลุ่มเพชฌฆาตล่าสังหารหมอบอยู่พอดิบพอดี

" ไอ้ซ่น...ปืนสั้นอะไรของมึงวะไอ้แสบ...ยาวตั้งสองศอก
แล้วก็ชายชราอายุ ๔ ขวบขี่ม้าสีขาวดำสนิท วิ่งลุยโคลนฝุ่นคลุ้ง...กูว่ามึงไม่บ้าก็เมานะมึงนะ "

ไอ้โล้น...ซึ่งนั่งอยู่บนเบาะ แสดงละครด้วยการพูดเสียงอ้อแอ้ๆ แล้วก้มลงโก่งคออาเจียนเสียงดังโอ๊กอ๊าก

" ปืนปัสตันของปู่กูโว้ยไอ้โล้น...
เอ๊ะไอ้บ้านหลังนี้มันเตะกูสลบเมื่อกี้นี้นี่หว่า ไม่ด๊าย ไม่ด้าย ต้องลงไปกัดกับมันให้หายข้องใจซะหน่อย "...

ไอ้แสบ...ทำเสียงอ้อแอ้ๆ พร้อมกับกระย่องกระแย่งลงจากรถ
เพื่อให้สมบทบาท ไอ้แสบ...ก็เลยล้มกลิ้งลงไปกับพื้นถนนเสียเลย

" คาย คายเตะกูเมื่อกี้นี้ โปรดออกมาหน่อยโว้ย
ออกมากัดกับกูให้โลกเขาลือกันทั่ว...ใครไม่ออกมาเป็นลูกหมาห้าร้อยสิบห้าชาติโว้ย "

ไอ้แสบ...พูดพลางคลานสี่ตีนมุ่งหน้าเข้าไปที่ประตูโกดังด้วยความทุลักทุเล
เล่นเอาดาหลา...ซึ่งนอนหมอบอยู่ที่ขอบถนนเบื้องหลังถึงกับยกมือปิดปากกลั้นเสียงหัวเราะแทบตาย

ไอ้แสบ...คลานถึงประตูโกดัง ก็ค่อยๆ ใช้มือท้าวฝาแล้วค่อยๆ พยุงตัวลุกขึ้นยืน
มือทั้งสองข้างระดมทุบข้างฝาแล้วแหกปากร้องตะโกนคับตรอก

" ซื้อเหล้าเซี่ยงชุนครึ่งขวดโว้ย...ไอ้ห่า ร้านค้าอะไรวะรีบปิดตั้งแต่หัวค่ำเชียวนะมึง ไม่เปิด...กูฉี่รดนะโว้ย "

พูดไม่พูดเปล่า ไอ้แสบ...ดันใช้ตำราเดิมรูดซิปยืนฉี่หน้าตาเฉย และจำเพาะเจาะจงฉี่ราดแผ่นสังกะสีเสียงดังเกรียวกราว

ช่องประตูเหล็กเปิดผัวะออกมาพร้อมกับมีเสียงตะโกนดังลั่น

" เฮ้ย...เมาก็ไปนอนซะโว้ย ไอ้ห่าหนวกหูฉิบหาย "

" คายว่ากูเมาวะ หนวกหูก็หาถุงมีชัยใส่หูมึงซะ รึจะแดกซ่นตีนคนเมาก็ขอเชิญออกมาแดกได้ "

ไอ้แสบ...ส่ายงอกแงกๆ อ้อแอ้ ท้าทายเข้าไปอีก

" มึง มึงตายแน่มึงวันนี้ " มีเสียงโวยวายพร้อมกับมีเสียงถอดกลอนประตูดังเกรียวกราวอยู่ข้างใน...



"อย่าตัดสินใครโดยไม่ได้ถามเขาสักคำ หรือ แค่ฟังคนอื่นเขามา ชีิวิตคนก็เหมือนสะพาน  มีขึ้นมีลง มีสูงมีต่ำ  สุดท้ายก็ตายเหมือนกัน" สมิง วังม่วง 0884763428





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 12, 2016, 10:06:05 AM โดย สมิง วังม่วง » บันทึกการเข้า

ต.แม่สาย
Moderator
Hero Member
*****

คะแนน 495
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6568



« ตอบ #11852 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 12, 2016, 10:03:28 PM »

 เยี่ยม ไหว้
บันทึกการเข้า

ผู้ใดทำใจให้เป็นกลางได้ ผู้นั้นจะพ้นจากความทุกข์ทั้งปวง
สมิง วังม่วง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 68
ออฟไลน์

กระทู้: 7628


tel. 0861810566


« ตอบ #11853 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 14, 2016, 12:31:36 PM »

เยี่ยม ไหว้
เยี่ยม ไหว้
ไหว้
บันทึกการเข้า

สมิง วังม่วง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 68
ออฟไลน์

กระทู้: 7628


tel. 0861810566


« ตอบ #11854 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 14, 2016, 12:32:40 PM »

....ดับรามสูร..........
..........เล่มที่ ๒ ตอนที่ ๒๔..........

" ออกมา ออกมา ไอ้ลูกหมา ถ้ามึงแน่จริงออกมากัดกะกูเดี๋ยวนี้...ไอ้เซดซาแม่ "

ไอ้แสบ...แหกปากตะโกนคับตรอก พร้อมกับระดมมือทั้งสองทุบฝาประตูโกดังถี่ยิบ

" โซโล่เข้าไอ้แสบ... ซ่นตีนของมึงเอาไว้ทำไมวะ อัดแม่มันเข้าไปเลย "

ไอ้โล้น...ซึ่งนั่งคอพับคออ่อนอยู่บนเบาะสามล้อแหกปากร้องหนุนด้วยความมันเขี้ยว
แล้วค่อยๆ กระย่องกระแย่งลงจากรถอย่างทุลักทุเล

" คืนนี้ซาหนุกแน่...[---]โล้น "

ไอ้แสบ...พูดพลางถอยหลังออกมาสองสามก้าว แล้ววิ่งส่ายงอกแงกกระโจนถีบประตูโกดังเต็มแรง

มันเป็นจังหวะเดียวกับที่บานประตูโกดังเปิดผัวะออกมาอย่างพอดิบพอดี
ชายฉกรรจ์รูปร่างเหมือนกับยักษ์ปักหลั่นโผล่พรวดออกมายืนจังก้าด้วยใบหน้าถมึงตึง

" เฮ้ย "

ยามโกดังร้องอุทานขึ้นมาสุดเสียง พร้อม ๆ กับยกเท้าถีบสวนออกไปตามสัญชาตญาณป้องกันตัว

" อั๊ก "

รองเท้าหนังเบอร์ ๔๔ กระทบหน้าอกไอ้แสบ...เต็มแรง
ร่างของไอ้แสบ...กระเด็นผางลงไปนอนจุกแอดๆ อยู่ที่พื้น แต่ทว่าปากยังไม่ยอมสิ้นฤทธิ์ ยังคงแหกปากร้องตะโกนอยู่เอ็ดอึง

" คาย คายขวางทางตีนกู อ้ายโล้น...มึง มึงช่วยแหกตาดูให้กูหน่อยโว้ย "

ไอ้โล้น...ไม่ตอบ
สายตาของมันลอบชำเลืองไปที่ประตูโกดังแล้วแอบยิ้มอยู่ในใจ
ที่มองเห็นร่างของเพื่อนคู่หูยามรักษาการณ์ประตูโกดังปรากฏกายออกมาอีกคน

" หณุมานชาญสมร กระบี่วานรไล่ถีบทศกรรฐ์ "

ไอ้โล้น...เชิดโขนกลางแปลงเสียงเอ็ดอึง แถมตั้งท่าเหมือนกับพระเอกจากกรมศิลปากรไม่มีผิด
มันเต้นหยึกหยักๆ อยู่ครู่หนึ่ง ก็กระโจนผึ๋งเข้าใส่ร่างของยามรักษาการณ์ที่ยืนจังก้า ขวางประตูอยู่ด้วยมาดของมวยกังฟูหลงเวที

ยามรักษาการณ์คนที่รูปร่างเหมือนกับยักษ์ปักหลั่นฉากแวบออกไปข้างๆ แล้วดีดแข้งขึ้นนาบซี่โครงไอ้โล้น...เต็มเหนี่ยว

" พลั่ก "

ร่างของไอ้โล้น...เอียงกระเท่เร่ลงไปกองกับพื้นพร้อมๆ กับที่มันแหกปากร้องออกมาสุดเสียง

" จวกเลย...ผู้กอง "

ผู้กองอังคารกับหมอดาหลา...ซึ่งหมอบอยู่คนละฟากถนน
วาดปากลำกล้องปืน " เอ็ม.๑๖ " ซึ่งสวมท่อเก็บเสียงขึ้นหาเป้าหมาย แล้วเหนี่ยวไกปล่อยกระสุนออกไปเกือบจะพร้อมๆ กัน

" ปุ...ปุ "

กระสุนขนาด .๒๒๓ ทะลวงผ่านท่อเก็บเสียงดังเหมือนกับเป่าถุงกระดาษ
แรงปะทะของมันส่งร่างยามรักษาการณ์ทั้งสองกระเด็นถอยหลังออกไปนอนตะแครงอยู่หน้าประตูโกดังซึ่งเปิดหราอยู่นั้น

" เร็ว...ไอ้โล้น "

ไอ้แสบ...ซึ่งนอนงอก่องอขิงอยู่ที่พื้นกระโจนพรวดวิ่งชาร์ทเข้าหาประตูด้วยท่าทางกระหายเลือด
พร้อมๆ กับกำชับเร่งเพื่อนคู่หูนอนพังพาบอยู่กับพื้นด้วยน้ำเสียงห้วนๆ

ไอ้โล้น...คลานพรวดเดียวถึงสามล้อ มันดึงผ้าขาวม้าที่คลุมวัตถุชิ้นหนึ่งซึ่งวางอยู่บนที่วางเท้าออก
แล้วอุ้มปืนกลมือ "เอ็ม.๖๐ " ขึ้นมากระชับอยู่ในอ้อมแขน หันรีหันขวาอยู่ครู่หนึ่ง ก็ดึงเบาะนั่งสามล้อออก
ก้มลงค้นหาอะไรอยู่ครู่หนึ่งก็หิ้วลังกระสุนติดมือก้าวยาวๆ ตามหลังไอ้แสบ...หายเข้าไปในช่องประตูโกดังอย่างรวดเร็ว

" มึงตั้งปืนคุ้มกันอยู่ที่นี่ กูจะเคลื่อนที่เข้าไปที่ตุ๊กตาจีนโน่น ผิดสังเกตมึงซัดทันที...ไอ้โล้น "

ไอ้แสบ...กระซิบกระซาบ พลางเบียดตัวเองเข้ากับมุมมืดของรั้วด้านใน
พอไอ้โล้นวาง " ขาทราย " ลงกับพื้นเรียบร้อย
เพชฌฆาตรับจ้างจากเมืองเพชรก็วิ่งซิกแซ็กเข้าไปหมอบอยู่ข้างหลังตุ๊กตาจีนตัวมหึมา
ที่ตระหง่านอยู่หน้าบันไดทางขึ้นตึกสองชั้นหลังโดดเดี่ยว ซึ่งตั้งอยู่ทางซ้ายมือสุดของบริเวณโกดังอันกว้างใหญ่ไพศาลนั้น

ไอ้แสบ...ชะเง้อดูเหตุการณ์รอบๆด้านอยู่ครู่หนึ่ง ก็หันมาดีดมือเบาๆ เป็นอาณัติสัญญาณ
ไอ้โล้น...พยักหน้าแล้วเอี้ยวตัวโผล่หน้าออกมานอกประตูดีดมือสองครั้งติดๆกัน
ผู้กองอังคาร...ซึ่งจ้องสายตาเขม็งอยู่ที่หน้าประตูแทบจะไม่หายใจ ไหวตัวเยือกพร้อมกับคำรามออกมาด้วยน้ำเสียงเ[---]้ยมเกรียม

" สิบคนชาร์ทเข้าไปที่ตึกทางซ้ายมือ ค้นหาและพยายามช่วยพวกเราออกมาให้ได้
ถ้าจำเป็นฆ่าให้หมด สองคนซ้ายมือตามอั๊วเข้าไปในโกดัง ปฏิบัติ..."

ผู้กองอังคาร...หันไปออกคำสั่งกับหน่วยล่าสังหารแล้วหันมาพยักหน้ากับหมอดาหลา...
ขยับจะพูด แต่ไม่ทันการเสียแล้ว
อดีตสาบลับคอมมิวนิสต์ผู้กลับใจกระโจนพรวดขึ้นมาอย่างลืมตัว แล้ววิ่งเหยาะๆ ติดตามกลุ่มล่าสังหาร
ซึ่งกำลังวิ่งกรูข้ามถนนมุ่งหน้าเข้าหาช่องประตู มองเห็นทะมึ่นอยู่ท่ามกลางแสงไฟสลัวๆ อยู่เหนือช่องประตูดังกล่าวนั้น

ผู้กองอังคาร...ใช้มือขวากดพานท้ายปืนยังพื้นดินแล้วโหย่งตัวลุกขึ้นจากท่าหมอบ
ต่อจากนั้นก็ดึงปืนเข้ามากระชับในซอนแขน วิ่งข้ามถนนติดตามกลุ่มล่าสังหารเข้าไปอย่างระมัดระวัง

พอกลุ่มล่าสังหารพ้นช่องประตูเข้าไป ก็วิ่งแยกออกจากกันอย่างเงียบเชียบ
ทั้งสิบคนที่อยู่ในคราบของสามล้อ วิ่งปร๊าดเข้าไปหมอบเรียงรายอยู่ข้างๆ ไอ้แสบ...
ส่วนผู้กองอังคาร หมอดาหลา และลูกน้องอีก ๒ คน ฉากแวบเข้าไปซุกอยู่ที่ฝาด้านหนึ่งของโรงรถ
อันเป็นปากทางที่จะเข้าสู่โกดังเก็บข้าวสารซึ่งมองเห็นทะมึ่นๆ อยู่ด้านในสุดของอาณาบริเวณที่กว้างใหญ่ไพศาลนั้น

" ปิดประตู...ไอ้โล้น...ล็อคกลอนแล้วทำกับระเบิดเอาไว้ด้วย...เลื่อนที่ตั้งปืนไปอยู่ที่กระถางต้นไม้โน่น...เฮ้ย...ไอ้แสบ..."

ผู้กองอังคาร...กำชับลูกน้องคู่ใจให้ปิดประตูโกดังแล้วหันไปเรียกไอ้แสบ..เบาๆ

ไอ้แสบ...หันควับกลับมา ผู้กองอังคาร...พยักหน้าไปที่โกดังเก็บของ และก็ดูเหมือนไอ้แสบจะอ่านใจขของลูกพี่ออก
มันก็ผละจากตุ๊กตาจีน วิ่งปร๊าดไปที่ปากทางเข้าโกดังแล้วหมอบลงที่บริเวณรั้วต้นไม้เตี้ยๆ
ซึ่งอยู่ห่างจากประตูเข้าโกดังไม่ถึง ๒๐ เมตร...

ส่วนไอ้โล้น...เอื้อมมือไปเปิด[---]บกระสุนออก แล้วหยิบลูกระเบิดผิวเกลี้ยงแบบ " เอ็ม.๒๖ " ขึ้นมาถอดสลักโยนทิ้ง
แล้วเดินอาดๆไปที่ประตูช่องทางเข้าออก จัดแจงดึงบานประตูปิดเข้ามา แล้วผลักกลอนซึ่งเป็นเหล็กแท่งยาวๆ ให้เข้าที่

จากช่องว่างระหว่าง " สลัก- กลอน "
ไอ้โล้น...ยัดลูกระเบิดลงไปขัดอยู่ในลักษณะให้กระเดื่องนิรภัยติดอยู่กับกลอนด้านใน
เสร็จแล้วเอื้อมมือเขย่าลูกระเบิดเช็คดูเพื่อความแน่นอนอีกครั้ง
จึงหันกลับมาอุ้มปืนกลมือ " เอ็ม.๖๐ " ซึ่งขณะนี้ใส่สายกระสุนเรียบร้อยแล้ว
วิ่งปร๊าดเข้าไปตั้งปืนอยู่บนกระถางต้นไม้ แบบที่ใช้ถังน้ำมันขนาด ๒๐๐ ลิตรผ่าครึ่งแล้วใช้ดินยัดเต็มไปหมด
จนมองดูเหมือนกับบังเกอร์ในสนามรบไม่มีผิด

ผู้กองอังคาร...ชำเลืองดูลูกระเบิดที่ขัดกับสลักกลอนประตู ด้วยฝีมือของลูกน้องแล้วยิ้มด้วยความพึงพอใจ
การดัดแปลงลูกระเบิดมือให้เป็น " กับระเบิด " อย่างง่ายๆ
ผู้ที่ดึงสลักกลอนออกจะทำให้ลูกระเบิดหลุดจากช่องสลัก
กระเดื่องจะตีกลับแล้วเกิดระเบิดภายในเวลาสี่วินาทีต่อมา
และแน่นอนเหลือเกิน ผู้ที่อยู่ในรัศมี ๑๐-๒๐ เมตรจากจุดระเบิด
จะต้องแหลกเหลวด้วยอำนาจสะเก็ดระเบิดที่กระจุยกระจายออกไปรอบทิศ
ไอ้โล้น...ใช้ประสพการณ์จากสนามรบมาดัดแปลงกรรมวิธี " ฆ่าคน " ได้อย่างวิเศษที่สุด
ผู้กองอังคาร...หันมาให้สัญญาณ ลูกน้อง แล้วเคลื่อนที่เข้าไปหมอบอยู่ข้างๆ ไอ้แสบ...
พลางกระซิบถามด้วยความเคลือบแคลงใจ

" ทำไมมันถึงเงียบยังงี้วะไอ้แสบ...ถ้าเป็นรังของมันจริงๆ อั๊วว่าป่านนี้พวกเราโดนจวกกันวินาศสันตะโรแล้ว
เฮ้ย...ดูที่ซ้ายมือนั่น...แสบ "

ประโยคสุดท้าย ผู้กองอังคาร...ลดเสียงลงกระซิบกับลูกน้องคู่ใจเบาๆ ...

ห่างออกไปทางซ้ายมือบริเวณหลังตึกสองชั้น ซึ่งมีหน่วยล่าสังหารวางแนวอยู่
ปรากฏว่าร่างของยามรักษาการณ์สองคนสะพายปืน " เอ็ม.๑๖ " เดินลัดเลาะริมรั้วสังกะสีมุ่งหน้ามาทางช่องประตูเข้าออก
คนทื่นำหน้าสุดจูงสูนัขตัวขนาดลูกม้า ซึ่งขณะนี้แสดงอาการลุกลี้ลุกลน หันรีหันขวาง เหมือนกับจะผิดสังเกตอะไรซักอย่างหนึ่ง

แสงสว่างที่สาดลงมาจากหลอดไฟเหนือรั้วลวดหนาม ซึ่งบังเอิญอยู่ตรงตำแหน่งที่สุนัขเดินอยู่พอดี
ส่องให้เห็นเขี้ยวอันขาววับเวลาอ้าปาก มีน้ำลายหยดเป็นฟองมองดูสยดสยอง
จนกระทั่งไอ้แสบ...ซึ่งหมอบอยู่ข้างๆ ถึงกับเอามือข้างหนึ่งขึ้นไปคลำคอหอยด้วยความเผลอตัว

" หมาสงครามเจ้านาย...ลักษณะแบบนี้ผมเคยเจอะมาแล้ว เป็นลูกผสมระหว่างพันธุ์ยุโรปกับหมาพันธุ์แม้ว...
ดุฉิบหายวายวอด...ดูท่าทางของมัน ผมรู้สึกว่ามันคงจะได้กลิ่นพวกเราเข้าให้แล้ว ไอ้ห่า...ทำไมถึงใจเย็นนักวะ "

ประโยคสุดท้ายไอ้แสบ...บ่นพึมพำด้วยความฉุนเฉียวในความใจเย็นของเพื่อนร่วมทีม
ซึ่งหมอบเรียงรายกันเป็นกระจุกอยู่ที่ตุ๊กตาจีนโปราณตัวมหึมานั้น

ผู้กองอังคาร...ยังไม่ทันจะตอบ หมาสงครามตัวขนาดลูกม้าเทศก็เห่ากรรโชกขึ้นมาอย่างเอ็ดอึง
กิริยาลุกลี้ลุกลนเปลี่ยนเป็นดุร้ายขึ้นมาอย่างปัจจุบันทันด่วน มันกระโจนรั้งเชือกจนหน้าแหงน
ทิศทางและเป้าหมายการเคลื่อนไหวของมันพุ่งเข้ามาที่ตุ๊กตาจีนโบราณจนสังเกตได้ชัด

" ฉิบหายแล้วเจ้านาย...ไอ้หมาบ้านั่นจับทิศทางของพวกเราได้แล้ว
ไม่เชื่อคอยดู ลองไอ้คนเลี้ยงปล่อยเชือก มันต้องชาร์ทพวกเราอย่างเด็ดขาด "

ไอ้แสบ...พูดพลางขยับปืน " เอ็ม.๑๖ " ซึ่งยืดมาจากศพของยามรักษาการณ์ด้วยท่าทางกระหายเลือด
แต่ยังไม่ทันจะเหนี่ยวไก ประสาทหูก็ได้ยินเสียงเป่าถุงกระดาษดังแว่วอยู่ข้าง ๆ

" ปุ...ปุ...ปุ "

อันดับแรก ร่างของสุนัขสงครามสีดำสนิทเผ่นกระโจนขึ้นสุดตัวแล้วไถลแถร่างดิ้นพราดๆ เหมือนกับโดนน้ำร้อน
และในช่วงเวลาติดๆ กัน ยามรักษาการณ์สองคนซึ่งยืนหันรีหันขวางอยู่ก็กระเด็นผางถอยหลังออกไปเหมือนกับโดนม้าดีด
คนอยู่หลังสุดคงจะโดนกระสุนไม่ค่อยจะจังเท่าใดนัก
พลิกตัวกลับแล้ววาดลำกล้องปืนขึ้นมาหวังจะยิงโต้ตอบแบบหมาจนตรอกในวินาทีสุดท้ายของชีวิต

" ปัง...ปัง...ปัง...ปัง...ปัง...ปัง "

ประกายไฟจากลูกส่องแสงสว่างแวบเป็นทาง เป้าหมายก็คือร่างของยามรักษาการณ์ที่นอนสุมอยู่ทางซ้ายมือสุด
จากแสงสว่างของไฟเหนือรั้วสังกะสี มองเห็นดินข้างๆ กระเด็นฉีกเป็นทางอย่างถนัดหูถนัดตา
และกระสุนชุดหนึ่งของ " เอ็ม. 60 " ก็ฉีกร่างของยามรักษาการณ์ผู้เคราะห์ร้ายขาดกระเด็นเป็นชิ้นๆ อย่างน่าสยดสยอง

" พอ...ไอ้โล้น...พอ...แผนแตกฉิบหายวายวอดหมดแล้ว
ฉิบหายไวเป็นลิงเลยนะมิง...ประเดี๋ยวเถอะพ่อของมึงได้แห่ออกมาเป็นฝูงหรอก
...นั่นๆ ผู้กอง พวกมันพาเหรดกันออกมาแล้ว "

ไอ้แสบ...ร้องห้ามเพื่อนคู่หูที่กำลังยิงปืนกลเบา "เอ็ม.๖๐ " อย่างมันเขี้ยวสุดเสียง
และในช่วงเวลาติดต่อกัน มันก็ชี้โบ๊ชี้เบ๊ ให้ผู้กองอังคาร...
มองดูชายฉกรรจ์อาวุธครบมือที่กำลังทะลักออกมาจากตึกสองชั้นและโกดังข้าวสารเหมือนกับผึ้งแตกรัง

" ยิง "

ผู้กองอังคาร...ร้องตะโกนขึ้นมาสุดเสียง

บัดดลนั้นเอง ห่ากระสุนนานาชนิดก็ถูกประเคนเข้าหาเป้าหมายเป็นจักรผัน
ทั้งปืนเก็บเสียง ปืนกล...ครางระงมเหมือนกับดนตรีเสียงประสานไม่มีผิด
ร่างของชายฉกรรจ์ซึ่งวิ่งหน้าเริดออกมาจากที่ต่างๆ ผงะหงายล้มระเนนระนาดไปคนละทางสองทาง

ชั่วอึดใจ พอกลุ่มเจ้าของโกดังตั้งตัวได้ ก็เริ่มยิงต่อสู้อย่างไม่คิดชีวิต
ห่ากระสุนที่ปลิวว่อนออกมา สามารถตรึงกลุ่มพวกล่าสังหารให้ซุกนิ่งอยู่กับพื้นชั่วขณะหนึ่ง...

ผู้กองอังคาร...พลิกร่างแล้วพุ่งชนหมอดาหลา...กระเด็นไปฟุบอยู่ในร่องน้ำข้างๆ ขอบถนน
ในขณะที่ผู้กองมือเพชฌฆาตกระโจนพรวดลงไปคร่อมร่างของสายลับคอมมิวนิสต์ผู้กลับใจเอาไว้
แนวต้นไม้เล็กๆ ซึ่งอาศัยเป็นที่กำบังแต่คราวแรกถูกลุ่มกระสุนแหลกลาญไม่มีชิ้นดี

" -กระจายกำลัง ออกไป...ชาร์ทเข้าไปที่ตึกให้ได้...ไอ้โล้นถล่มมันเข้าไปซีโว้ย "

ผู้กองอังคาร...ร้องตะโกนอย่างคั่งแค้น
เมื่อมองเห็นลูกน้องตกอยู่ในฐานะที่เสียเปรียบ แต่ก็เป็นเพียงชั่วระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น
พอตั้งหลักได้ หน่วยล่าสังหารก็สลุตกระสุนยิงตอยโต้แบบไม่เลี้ยง พร้อมๆ กับกลิ้งตัวเคลื่อนที่เข้าไปหาตัวตึกอย่างชนิดลืมตาย

หมอดาหลา...โผล่ศีรษะขึ้นมาเหนือร่องน้ำแล้วเปลี่ยนอิริยาบถเป็นท่านั่งยิง
อาศัยแสงไฟจากลำกล้องปืนเหนี่ยวไกล่า ทหารเลวของโกดังข้าวสารอย่างชนิดใจเย็น...

แต่ละนัด...แต่ละชุด ไม่มีพลาด
พอสิ้นเสียงกระสุนเก็บเสียงคราวใด ก็ปรากฏเสียงร้องโหยหวนขึ้นมาแทนที่
...แค่นั้นยังไม่หนำใจ...
เธอวางปืนลงกับพื้นแล้วล้วงกระเป๋าเสื้อหยิบเอาลูกมะนาวผิวเกลี้ยงขึ้นมา
ถอดสลักขว้างสุดแรงเกิดไปที่หน้าตัวตึกสองชั้นอันเป็นสมรภูมิย่อย ๆ แห่งนั้น

" บึ้ม "

เจ้ามะนาวผิวเกลี้ยงส่งเสียงกระหึ่มดังเกินตัว
จากแสงสว่างสีส้มที่สว่างแวบขึ้นมาจนปวดนัยน์ตา สาดให้เห็นร่างทหารเลวของ เค.จี.บี. ล้มกลิ้งเป็นระนาว

" ปัง...ปัง...ปัง...ปัง...ปัง..ปัง "

" เอ็ม.๖๐ จากฝีมือของไอ้โล้น...สลุตกระสุนด้วยระบบออร์โต ส่ายเดี๊ยะตั้งแต่หน้าตึกขึ้นไปถึงบันได
แล้วถล่มบานประตูด้านหน้าฉีกขาดออกไปเป็นทางมองเห็นถนัดหูถนัดตา..."

" พึ่บ"

ไฟฟ้าที่สว่างไสวอยู่ภายในโกดังดับพึ่บลงอย่างปัจจุบันทันด่วน
ความมืดคืบคลานเข้ามามองดูเหมือนกับรัตติกาลถูกปีกของพญามัจจุราชโอบอุ้มเอาไว้ทั้งแผง

ผู้กองอังคาร...เอื้อมมือลงไปที่ซ่นรองเท้าด้านในแล้วแกะวิทยุขนาดจิ๋วออกมาถือเอาไว้
ต่อจากนั้นก็เปิดสวิทซ์กรอกคำพูดลงไปอย่างเร็วจี๋

" นอร์แมนจากอังคาร... ขอแฟลร์สนับสนุนด้วยครับ...พยายามยิงให้อยู่เหนือโกดัง หรือค่อนไปทางขวามือหน่อย "

ชั่วอึดใจก็มีเสียงพึ่บดังลั่นอยู่บนท้องฟ้า วินาทีต่อมาก็ปรากฏแสงสว่างขนาด ๑๐,๐๐๐ แรงเทียนสว่างจ้าขึ้นเหนือโกดัง
มองเห็นร่มชูชีพขนาดเล็กประคองลูกแฟลร์ลอยต่ำลงมาอย่างช้า ๆ

จากแสงสว่างซึ่งสาดไปทั่วอาณาบริเวณ ไอ้โล้น...หันปากกระบอกปืน " เอ็ม.๖๐ " เข้าไปที่หน้าประตูโกดังข้าวสาร
ซึ่งขณะนี้ปรากฏร่างของชายฉกรรจ์ไม่น้อยกว่าสิบคนขึ้นไป วิ่งทะเร่อทะร่าออกมาด้วยความย่ามใจ
ไอ้โล้น...แสยะยิ้มแล้วบรรจงเหนี่ยวไกอย่างเลือดเย็น

" ปัง...ปัง...ปัง...ปัง...ปัง...ปัง "

กระสุนชุดแรกทะลุทะลวงเข้าไปเหมือนกับห่าฝนเหล็ก ๔-๕ คนในกลุ่มกระเด็นถอยหลังเหมือนกับโดนช้างเตะ
๓-๔ คนที่รอดจากห่ากระสุนทิ้งตัวลงหมอบกับพื้น แล้วกลิ้งเข้าหาที่กำบังอย่างลนลาน

" พึ่บ "

แฟลร์ลูกที่สองจากนอร์แมน...
ซึ่งจอดรถซุ่มอยู่กลางสนามบินพาณิชย์ถูกยิงลอยโด่งขึ้นมาสว่างอยู่เหนือโกดังข้าวสารอีกเป็นคำรบที่สอง

ผู้กองอังคารและหมอดาหลา...เปลี่ยนแม็กกาซีนอย่างคล่องแคล่วว่องไว แล้วคลานขึ้นมานั่งซดกับเพื่อนร่วมทีมอย่างชนิดลืมตาย

" เฮ้ย...ไอ้สิงห์...โดนยิง "

มีเสียงตะโกนมาจากตุ๊กตาจีนโบราณ
ซึ่งขณะนี้คอหักสะบั้นด้วยอำนาจกระสุนปืนอาร์ก้าที่ยิงสวนออกมาจากหน้าต่างซึ่งหักล่องแลงจวนจะหลุดแหล่ไม่หลุดแหล่อยู่นั้น

ผู้กองอังคาร...ใจหายวาบ หันไปตะโกนสั่งลูกน้องคู่ใจที่กำลังสลุตกระสุนเข้าใส่โกดังข้าวสารเสียงหลง

" ยิงคุ้มกันให้อั๊วไอ้โล้น...อั๊วจะเข้าไปเอาไอ้สิงห์...ออกมา "

ไอ้โล้น...หยุดยิง หันปากกระบอกมาที่ตึกสองชั้นเหนี่ยวไกปล่อยกระสุนออกไปพรืดใหญ่
แล้วกระโจนผลุงลงไปนอนหมอบที่พื้น ปากก็พูดเนือยๆ เหมือนไม่มีอะไรบังเกิดขึ้น

" ผมเองเจ้านาย...ขึ้นมายิงแทนผมที่ ผมจะเข้าไปฟัดกับมันเอง "

พอพูดเสร็จ
ไอ้โล้น...ก็คลานสี่ตีนเร็วจี๋มุ่งหน้าเข้าไปที่ตัวตึกสองชั้น โดยไม่สนใจไยดีกับห่ากระสุน ซึ่งฉวัดเฉวียนอยู่รอบ ๆ กายนั้น

ผู้กองอังคาร...โยนปืน " เอ็ม.๑๖ " ทิ้งแล้วกระโจนพรวดเดียวขึ้นไปบนกระถางต้นไม้
ต่อจากนั้นก็เริ่มสาดกระสุนเข้าหาช่องหน้าต่างที่มีแสงไฟวอมแวมอยู่อย่างบ้าคลั่ง...

เสียงแหลมเล็กของอาร์ก้าเงียบเสียงลงชั่วขณะ
ไอ้โล้น...คลานเข้าไปถึงร่างของผู้บาดเจ็บ มันอุ้มร่างอันโชกเลือดของเจ้าสิงห์ขึ้นหลัง
แล้วคลานกลับมาที่รังปืนของผู้กองอังคารอย่างทุลักทุเล

" ผู้กอง...โน่น หมาสงครามอยู่หน้าโกดังโน่น "

ไอ้แสบ...ซึ่งหมอบอยู่ที่รั้วต้นไม้แหกปากร้องออกมาสุดเสียง

ผู้กองอังคาร...วาดปากลำกล้องปืนกลับไปที่หน้าโกดังอีกครั้ง

พระเจ้าช่วย ! หมาสงครามฝูงเบ้อเร่อเกือบสิบตัววิ่งหน้าเริดเห่าขรมอยู่ท่ามกลางแสงแฟลร์ที่สว่างไสวนั้น

ผู้กองอังคาร...เหนี่ยวไก...เสียงดัง

" เช๊ะ "

อนิจจา...เจ้าปืนกลเบา " เอ็ม.๖๐ " อันทรงอานุภาพขัดลำเสียแล้ว

"อย่าตัดสินใครโดยไม่ได้ถามเขาสักคำ หรือ แค่ฟังคนอื่นเขามา ชีิวิตคนก็เหมือนสะพาน  มีขึ้นมีลง มีสูงมีต่ำ  สุดท้ายก็ตายเหมือนกัน" สมิง วังม่วง 0884763428
บันทึกการเข้า

สมิง วังม่วง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 68
ออฟไลน์

กระทู้: 7628


tel. 0861810566


« ตอบ #11855 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2016, 12:47:36 PM »

ตลาดปืนมือ 2 วันนี้ http://2013.gun.in.th/index.php?board=6.0  (สมัครสมาชิก)
บันทึกการเข้า

สมิง วังม่วง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 68
ออฟไลน์

กระทู้: 7628


tel. 0861810566


« ตอบ #11856 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 20, 2016, 10:48:51 AM »

...........ดับรามสูร............ผลงานของ สยมภู ทศพล
............เล่มที่ ๒ ตอนที่ ๒๕...........

ผู้กองอังคาร เหนี่ยวไกปืนกลเบา " เอ็ม.๖๐ " ติดต่อกันสองสามครั้ง ด้วยความเดือดดาลใจ
สายกระสุนสายสุดท้ายซึ่งเหลืออยู่ไม่ถึง ๕๐ นัด ส่ายและบิดจากรังเพลิงทำให้เกิดการ " ขัดลำ " อย่างช่วยเหลือไม่ได้
ผู้กองใจถึงเอื้อมมือไปจับปากลำกล้อง แต่ก็ต้องสะดุ้งสุดตัว
เมื่อสัมผัสกับความร้อน ที่เกิดจากการระดมยิงอย่างเ[---]้ยมเกรียม
จนกระทั่งปลายลำกล้องเปลี่ยนเป็นสีหมากสุกมองดูเหมือนกับเหล็กโดนไฟเผาไม่มีผิด

เสียงเห่ากรรโชกจากฝูงหมาสงคราม ที่วิ่งหน้าเริดอยู่หน้าโกดังข้าวสาร
ทำให้ผู้กองอังคารตัดสินใจอย่างบ้าระห่ำ
เสี่ยงชีวิตดึงกระสุนที่ขัดลำกล้องอยู่ใน " รังเพลิง " ของปืน " เอ็ม.๖๐ " ออกอย่างรวดเร็ว

ไอ้โล้น...ซึ่งคงจะจ้องสังเกตดูอากัปกริยาของลูกพี่มันอยู่ตลอดเวลา
เผ่นพราดเข้ามาที่กระถางต้นไม้แล้วกระชากแขนผู้กองอังคาร...ค่อนข้างแรง

" ผู้กอง...อย่าเอากระสุนออก ประเดี๋ยวระเบิดตายห่า...ผมเอง "
ไอ้โล้น...พูดพลางดึงผู้กองอังคาร...ลงมานอนหมอบอยู่ข้างๆ เจ้าสิงห์
ส่วนตัวมันเอง กระโจนแผล็วขึ้นไปดึง " ลูกพี่ " หวังจะงัดเอากระสุนที่ขัดลำออกมาอย่างชนิดเสี่ยงตาย

ตามปกติปืนกล " เอ็ม.๖๐ "
เมื่อทำการระดมยิงออกไปแล้ว ประมาณ ๓๐๐-๔๐๐ นัด จะต้องเปลี่ยนลำกล้องเนื่องจากความร้อนจัด
และสิ่งที่จะเป็นอันตรายอย่างยิ่งยวดก็คือ อีตอนกระสุนขัดลำ...

" ห้องรังเพลิง " ซึ่งร้อนจัดพร้อมที่จะเป็นชนวนให้กระสุนระเบิดได้ทุกวินาที
คือ ปัญหาใหญ่หลวงที่ทุกคนแก้ไม่ตก
เมื่อพลยิงดึงกระสุนที่ขัดลำออก เคยได้รับอุบัติเหตุกระสุนระเบิดใส่หน้าตาแหลกยับเยิน จนกระทั่งหูตาบอดมานักต่อนักแล้ว

" เผี้ยะ "

ประกายไฟสีเขียวสว่างแลบขึ้นมาที่ห้องลูกเลื่อน...
ไอ้โล้นยกมือทั้งสองขึ้นปิดดวงตา แล้วถีบตัวเองลงไปนอนคว่ำหน้ากับพื้น
ซึ่งพร้อมๆ กับบังเกิดเสียงระเบิดดังขึ้นมาสนั่นหวั่นไหว

" ปัง "

ความร้อนจากห้องลูกเลื่อนทำให้กระสุนที่ขัดลำ ระเบิดขึ้นมาอย่างปัจจุบันทันด่วน
แรงระเบิดที่ลูกอัดแน่นอยู่ใน " ห้องลูกเลื่อน " แปรสภาพเป็นดินระเบิดแรงสูง
ทำลายปืนกลเบา " เอ็ม.๖๐ " พังพินาศจนใช้การไม่ได้
เดชะบุญไอ้โล้นอาศัยประสพการณ์จากสนามรบกระโจนหลบลงไปได้เสียก่อน

" ยิง...ยิงซีโว้ย...ฆ่าไอ้หมากลุ่มนั้นให้หมด "

ผู้กองอังคาร...ร้องตะโกนพลางคลานเข้าไปหาหมอดาหลา...
ซึ่งขณะนี้กำลังสาละวนถอดท่อเก็บเสียงออกจากปลายลำกล้องปืนด้วยท่าทางฉุนเฉียว

" มีอะไรขัดข้อง...หมอ "

" ท่อเก็บเสียง...ยิงไม่ถึงสองแม็ค แตกละเอียดหมดแล้ว...ผู้กองเหลือกระสุนอีกกี่แม็คคะ ? "

หมอดาหลา...ย้อนถามพร้อมกับคลายเกลียวท่อเก็บเสียง (ซึ่งขณะนี้ส่วนปลายสุดของมันแตกออกเป็นเสี่ยงๆ )
ออกโยนทิ้งแล้วหันมาจ้องตาผู้กองอังคาร...เขม็ง

" เจ็ดแม็ค หมอมีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ "

ผู้กองมือเพชฌฆาตพูดพลางเอื้อมมือไปเช็ดใบหน้าอันผุดผาดของสายลับกลับใจ ซึ่งขณะนี้มอมแมมไปด้วยโคลนจนมองไม่ออก

" แม็คกาซีนไม่รู้ว่าตกหายตอนไหน ของดิฉันเหลืออยู่เพียงแม็คเดียวที่ติดอยู่ที่ปืนนี้เท่านั้น
...เอ๊ะ ทำไมหัวหน้าไม่ยิงแฟลร์มาอีก มืดๆ แบบนี้ ยิงหมาไม่ถูกแน่ "

ประโยคสุดท้ายหมอดาหลา...กระซิบกระซาบออกมา
พร้อมกับแหงนหน้าขึ้นไปมองดูลูกแฟลร์ ซึ่งลอยลับหายไปจากหลังคาโกดัง
ทำให้ความสว่างไสวที่เจิดจ้าอยู่มืดมิดลงในฉับพลัน

ผู้กองอังคาร...ยกปืนขึ้นประทับ เป้าหมายก็คือเสียงเห่าเอ็ดอึงที่กรรโชกกระชั้นอยู่ในความมืดเบื้องหน้า
เหนี่ยวไกด้วยระบบอัตโนมัติเต็มตัว ยิงสวนเข้าไปกลางกลุ่มสุนัขสงคราม มองเห็นประกายไฟแลบเป็นทาง
มองดูเหมือนกับลิ้นของพญามัจจุราชที่กราดเกี้ยว อยู่ท่ามกลางความมืดมิดของรัตติกาลที่น่าสยดสยองนั้น

การต่อสู้ได้ดำเนินต่อไปอย่างเ[---]้ยเกรียม และทวีความดุเดือดเลือดพล่านขึ้นทุกขณะ
หน่วยล่าสังหารซึ่งหมอบอยู่หลังตุ๊กตาจีนโบราณ วิ่งชาร์ทเข้าไปยึดบันไดทางขึ้นตึกสองชั้นเป็นผลสำเร็จ
ต่อจากนั้นชุดกล้าตาย ๓ คนซึ่งอยู่หน้าสุดก็ระดมยิงเบิกทางเข้าหาประตูช่องทางเข้าจนหักร่องแร่ง
แล้ววิ่งบุกตะลุยหายลับเข้าไปอย่างบ้าดีเดือด

ชั่วอึดใจ สองคนในชุดกล้าตายก็โผล่ออกมาส่งสัญญาณให้พรรคพวกตามเข้าไป
ต่อจากนั้นแทบทุกตารางนิ้วของอาณาบริเวณตัวตึกสองชั้น
ก็ตกอยู่ในความยึดครองของเพชฌฆาตรับจ้าง ซี.ไอ.เอ. อย่างสิ้นเชิง

" อังคารจากนอร์แมน...อังคารจากนอร์แมน...เปลี่ยน "

วิทยุติดต่อตัวขนาดจิ๋ว ซึ่งอยู่ในกระเป๋าเสื้อของผู้กองอังคาร...ดังกังวานขึ้นมาด้วยน้ำเสียงร้อนรน

ผู้กองอังคาร...ละมือซ้ายจากฝาครอบท่อแก๊สปืน " เอ็ม.๑๖ "
เอี้ยวตัวแล้วใช้มือข้างเดียวกันนั้น ล้วงกระเป๋าเสื้อหยิบวิทยุขึ้นมา
กดสวิทช์กรอกคำพูดตอบกลับไปอย่างรวดเร็ว

" นอร์แมนจากอังคาร...ขอแฟลร์สนับสนุนอีกด้วยครับ...มืดๆ แบบนี้พวกเราเสร็จแน่ "

" เหลือแฟลร์อีกลูกเดี่ยว...ผมขอให้คุณแก้ปัญหาด้วยการใช้ " แฟลร์กระทุ้ง " ที่พวกคุณมีติดตัวกันอยู่แล้ว
เร่งมือเข้าหน่อย เสียงปืนดังรุนแรงเหลือเกิน ผมกลัวตำรวจจาก " กองเมือง-สอง " จะแห่กันมาที่นี่ "

" นอร์แมน " หัวหน้าข่าวกรองค่ายรามสูร ซึ่งตั้งกองบัญชาการชั่วคราวอยู่ในสนามบินพาณิชย์
แก้ปัญหาด้วยการสั่งให้หน่วยจู่โจมเริ่มใช้ " แฟลร์กระทุ้ง " ส่องสว่างภายในโกดังข้าวสาร...

" สายโทรศัพท์...หัวหน้า...อย่าลืมสายโทรศัพท์ยังไง ๆ ก็ช่วยถ่วงเวลาตำรวจให้พวกผมบ้าง "

ผู้กองอังคาร...พูดวิทยุกำชับกลับไปอีก

" ผมให้ลูกน้องตัดสายทั้งหมดแล้ว ผู้กองไม่ต้องห่วง
เวลานี้สายโทรศัพท์ในย่านหนองไผ่ล้อมทั้งหมดเป็นอัมพาตไปหมดแล้ว
...ได้ร่องรอย " บังหมุด " แล้วหรือยัง "

" ยังครับ...หัวหน้า พวกเราเพิ่งจะยึดตึกกองบัญชาการของมันได้เดี๋ยวนี้เอง กรุณาสแตนบายวิทยุเอาไว้ด้วย
เฮ้ยไอ้แสบ...เอา ' แฟลร์กระทุ้ง' สำรองกระแทกขึ้นไปที่หน้าโกดังเดี๋ยวนี้ "

ประโยคสุดท้าย ผู้กองหันไปออกคำสั่งกับลูกน้องคู่ใจด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด

ไอ้แสบ...คลานเร็วจี๋ เข้าไปคว้าถุงผ้าใบที่วางอยู่ข้างๆ กระถางต้นไม้ขึ้นมาเปิดออกแล้วหยิบหลอดแฟลร์กระทุ้งขึ้นมา
ถอดฝาด้านหัวออก ต่อจากนั้นก็สวมฝาด้านหัวแฟลร์เข้าไปที่บริเวณท้ายสุดของตัวแฟลร์
แล้วใช้มือทั้งสองกำตัวแฟลร์แน่น กะระยะอยู่ครู่หนึ่ง
ก็กระแทกส่วนท้ายสุดซึ่งมี " แก๊ป - ระเบิด " ซ่อนอยู่ข้างในลงกับพื้นดินเต็มแรง

" แซดส์ส์ "

แก็ปซึ่งซ่อนอยู่ท้ายสุดของตัวแฟลาร์โดนแรงกระแทกระเบิดตูมออกมา
แรงระเบิดดันร่มแฟลร์ ซึ่งบรรจุอยู่ในหลอดพุ่งขึ้นท้องฟ้าเสียงดัง แซดส์ส์เหมือนกับตะไลที่ถูกจุดในงานมหกรรม

" พึ่บ "

แฟลร์ขนาด ๕,๐๐๐ แรงเทียน สว่างพึ่บบนท้องฟ้า...
แสงสว่างซึ่งห้อยอยู่ใต้ร่มชูชีพขนาดเล็กสาดลงมากลางกลุ่มหมาสงครามพอดิบพอดี

อาวุธทุกชนิดจากน้ำมือของเพชฌฆาตรับจ้าง ประเคนเข้าใส่หมาสงครามเป็นจักรผัน ฝูงหมาล้มระเนนระนาด
ที่รอดจากห่ากระสุน ๕-๖ ตัว อาศัยระยะทางที่กระชั้นชิดกระโจนพรวดเข้าหากลุ่มของผู้กองอังคาร...ด้วยท่าทางกระหายเลือด

หมาสงครามดัวหน้าสุดกระโจนผึ๋งเข้าใส่หน่วยล่าสังหารคนหนึ่ง
ซึ่งทะลึ่งลุกขึ้นยืนด้วยความตกใจสุดขีดสัญชาตญาณเอาตัวรอด
ทำให้เขาผู้นั้นหันหลังกลับทำท่าจะวิ่งหนีออกจากพื้นที่ดังกล่าว...แต่ไม่ทันการณ์เสียแล้ว
หมาสงครามซึ่งได้รับการฝึกมาอย่างช่ำชองกระโจนงับคอปกเสื้อด้านหลัง
แล้วใช้แรงอันมหาศาลฟัดเหวี่ยงร่างของหน่วยล่าสังหาร ซึ่งอยู่ในชุดสามล้อลงไปนอนแอ้งแม้งอยู่กับพื้น

ในช่วงเวลาที่ติดๆกัน ที่ฝ่ายของผู้กองอังคาร...ตั้งตัวไม่ติด
ฝูงหมาที่เหลือรอดจากห่ากระสุนปืนแยกย้ายกันเข้าตะลุมบอน หยั่งกับจะรู้ภาษามนุษย์

ไอ้โล้น...หัวเราะก๊าก มันแหกปากร้องขึ้นมาอย่างคึกคะนองเหมือนไม่มีอะไรบังเกิดขึ้น

" ไอ้แสบ...ของมึงตัวเมียทางซ้าย ของกูทางขวา...ฆ่าอย่างเดียวนะโว้ย อย่าเสือกข่มขืนด้วย ประเดี๋ยวฟ้าผ่าตายห่า "

ยังไม่ทันจะสิ้นเสียง หมาสงครามเขี้ยวขาววับก็กระโจนเข้าปะทะไอ้โล้น...
มันยกท่อนแขนซ้ายยัดพรวดเข้าไปที่ปาก ซึ่งอ้าแสยะ มองเห็นน้ำลายไหลยืดอยู่นั้น
ส่วนมือขวาฉกแวบลงไปที่กระเป๋ากางเกง แล้วดึงมีดดาบปลายปืนในซองพิเศษ
ซึ่งพกอยู่ในซองข้างๆ ต้นขาขวาขึ้นมาในชั่วพริบตาเดียว

แสงสว่างจากแฟลร์กระทบใบมีดขาววับ ไอ้โล้น...ออกแรงผลักหมาสงครามให้เบี่ยงตัวออกไปทางด้านซ้าย
เจ้าหมาสงครามดูเหมือนจะรู้ตัว มันพยายามใช้แรงอันมหาศาลสะบัดกระชากอย่างรุนแรง
ไอ้โล้น...คำรามออกมาอย่างกระหายเลือด แล้วเกร็งข้อมือกระแทกใบมีดเข้าหาช่องท้องหมาสงครามเต็มเหนี่ยว

" ซวบ "

ใบมีดขนาดหกนิ้วจมวูบหายเข้าไปในช่องท้องเกือบมิด ไอ้โล้นออกแรงดันใบมีดลากผ่านขึ้นมาในลักษณะชำแหละ
เจ้าหมาสงครามดิ้นจนกระทั้งปากหลุดจากท่อนแขนของเจ้าโล้น...มันส่งเสียงร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดรวดร้าว
ไอ้โล้น...กระชากมีดออก แล้วกระหน่ำแทงอย่างไม่ยั้งมือ
จนกระทั่งร่างของเจ้าหมาสงครามงอก่องอขิงลงไปนอนหายใจรวยรินอยู่ที่พื้น

ส่วนไอ้แสบ...กระโจนผึงขึ้นมายืนจังก้า มือซ้ายซึ่งจับอยู่ที่ครอบารางปืนเลื่อนปรู๊ดไปจับที่ปลายลำกล้อง
มือขวาละจากช่องลั่นไกขึ้นไปกำคอปืนแน่น พอร่างของหมาสงครามกระโจนผึงเข้ามา
มันก็ตีสวนด้วย " พานท้ายตั้ง " เต็มแรง

" พลั่ก "

พานท้ายปืนสัมผัสกับจมูกหมาสงครามเต็มเหนี่ยว
มันชะงัก...เลือดทะลักออกมาเป็นสาย แต่แทนที่มันจะยุติการโจมดี มันกลับตั้งหลักแล้วกระโจนเข้าใส่ไอ้แสบเป็นวาระที่สอง

ไอ้แสบ...ถอยหลังออกมานิดนึง แล้วตีสวนด้วยพานท้ายออกไปอีกครั้งหนึ่ง
คราวนี้เจ้าหมาสงครามหมุนคว้างเหมือนกับโดนช้างเตะ
ไอ้แสบอาศัยจังหวะดังกล่าว เปลี่ยนแม็คกาซีนชนิดพ่วงอย่างรวดเร็ว
พอหมาสงครามตั้งตัวติด ไอ้แสบ...ก็จ่อปากลำกล้องเข้าไปที่กลางลำตัว แล้วเหนี่ยวไกพรืดเดียวเกือบหมดแม็คฯ

ร่างของหมาสงครามดิ้นพราดเหมือนกับ ปลาดุกโดนทุบหัว
ไอ้แสบ...ผละจากร่างของหมาสงครามวิ่งปร๊าดเข้าไปที่พรรคพวกของมันอีกคน
ซึ่งขณะนี้กำลังโดนหมาสงครามอีกตัวกัดขย้ำบริเวณหัวไหล่อย่างไม่ปรานีปราศรัย

ไอ้แสบ..ยกปืนขึ้นประทับ แต่แล้วมันก็เปลี่ยนใจวิ่งเข้าไปเตะกลางลำตัวเต็มเหนี่ยว
เจ้าหมาสงครามปล่อยร่างหน่วยล่าสังหารแล้วกลับตัวกระโจนเข้าหาไอ้แสบ...ด้วยท่าทางกระหายเลือด

ไอ้แสบ...ทรุดตัวลงนั่งกับพื้น ปากลำกล้องถูกวาดเข้าหาร่างของไอ้หมาบ้าเลือด
มันเหนี่ยวไกปล่อยกระสุนชุดสุดท้ายเข้าปะทะร่างของหมาสงครามในลักษณะที่กำลังกระโจนตัวลอยอยู่กลางอากาศ
อำนาจของกระสุนขนาด .๒๒๓ จากปืน " เอ็ม.๑๖ "
ส่งร่างของเจ้าหมาสงครามเคราะห์ร้ายกระเด็นหวือไปนอนตะแคงอยู่ที่พื้น
ใกล้ๆ กับร่างของหน่วยล่าสังหารซึ่งนอนจมกองเลือดอยู่นั่นเอง

ต่อจากนั้น ไอ้แสบ...ก็หันควับไปที่ผู้กองอังคาร...แต่ภาพที่ปรากฏแก่สายตาของมันก็คือ

ทั้งผู้กองอังคารและหมอดาหลา...ต่างก็สังหารหมาสงครามสองตัวสุดท้ายเรียบร้อยแล้ว
ร่างอันเละเทะที่กองเป็นเศษสวะอยู่เบื้องหน้าแสดงให้เห็นถึงอำนาจของกระสุนปืน " เอ็ม.๑๖ " ว่าทรงอานุภาพเพียงไร

" เฮ้ย...ชาร์ทเข้าไปข้างใน...ลื้อเข้าไปเอาคนเจ็บนั่นมารวมกับไอ้สิงห์ ที่กระถางต้นไม้ "...

ประโยคสุดท้ายผู้กองอังคาร...หันไปบอกกับหน่วยล่าสังหารอีกคนด้วยท่าทางรีบร้อน
แล้วหันมาพยักหน้ากับเพื่อนร่วมทีมด้วยท่าทางเ[---]้ยมเกรียม

หมอดาหลา...ยิ้มเครียด แล้ววิ่งซิกแซ็กนำหน้ากลุ่มล่าสังหารเข้าไปในช่องทางเข้าออกโกดังด้วยท่าทางระมัดระวัง

ไอ้โล้น...ไอ้แสบ...ผู้กองอังคาร..แปรแถวออกเป็นรูป " ขบวนดาว่าว "
ขนาบซ้ายขนาบขวา คุ้มกันหมอดาหลา...วิ่งผ่านศพทหารเลวของ เค.จี.บี.
เข้าไปในประตูช่องทางเข้าออกด้วยความเหิมเกริมยิ่งกว่าทุกครั้ง

" ปัง...ปัง...ปัง...ปัง... "

อาร์ก้าเสียงแหลมเล็กครางหวิดหวิวสวนออกมาจากช่องประตู
หมอดาหลา...ซึ่งวิ่งอยู่หน้าสุด ทิ้งร่างลงกับพื้นด้วยท่าทางของนักยิมนาสติคชั้นยอด.

ต่อจากนั้นเธอก็พลิกร่างแอบเข้าไปหาขอบประตูด้านข้างๆ พร้อมๆ กับร้องตะโกนขึ้นมาสุดเสียง

" ผู้กอง...หลบออกไปก่อน...อย่าพึ่งเข้ามา "

แต่ไม่ทันการณ์เสียแล้ว...
ผู้กองมือเพชฌฆาตกลิ้งหลุนๆ เข้ามานอนฟุบอยู่ข้างๆ หมอดาหลา...พลางกระซิบถามด้วยน้ำเสียงร้อนรน

" หมอเจ็บหรือเปล่าครับ "

ในขณะที่พูดผู้กองอังคาร...ก็ใช้มือคลำไปบนร่างของหมอดาหลาด้วยท่าทางห่วงใย

" ผู้กอง...กลิ้งเข้าไป " บร็อค " ทางซ้ายมือนั่น...ไม่ต้องห่วง...เราจะใช้ระเบิดมือแหวกทางเข้าไป "

หมอดาหลา...ยกมือผลักหน้าอกผู้กองอังคาร...
แล้วขยับตัวหยิบระเบิดมะนาวขนาดจิ๋วออกมายื่นส่งให้เพชฌฆาตรับจ้าง ซี.ไอ.เอ. ปากก็พูดต่อไปอีกด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ

" บอกให้ลูกน้องตัวดีสองคนนั่นของผู้กอง...ด้วย ยิงโฉ่งฉางแบบนั้นระวังจะโดนพวกเดียวกันเอง... "

" อย่าห่วงหมอ...ไอ้โล้น...คือทหารเจนศึกที่ผ่านการรบจากป่าทึบในอินโดจีนและมาเลยเซียมาแล้ว
มันจะตายแทนหมอได้ทันที่...ถ้าหมอออกคำสั่งให้มันลุยเข้าไปข้างในนั่น...ช่วยคุ้มกันให้ผมด้วย...ผมจะคลานไปด้านโน้น "

สองสามประโยคสุดท้าย ผู้กองอังคาร...กระซิบเสียงเครียด

หมอดาหลา...ยกปืน " เอ็ม.๑๖ " แหย่เข้าไปในช่องประตู
แล้วเหนี่ยวไกส่ายลำกล้องด้วยระบบอัตโนมัติเต็มตัว...รวดเดียวเกือบหมดแม็ค ฯ

ในขณะที่เสียงปืนรัวเป็นประทัดแตกอยู่นั้น
ผู้กองอังคาร...ก็คลานสี่ตีนเร็วจี๋ ผ่านช่องทางเข้าออกประตูโกดังไปยังอีกด้านหนึ่งได้อย่างปลอดภัย

อาร์ก้ายังระดมยิงออกมาอย่างชนิดต่อเนื่องกันและชักจะถี่และหนาแน่นขึ้นทุกที
จนไอ้โล้น...ซึ่งหมอบอยู่ข้างหลังผู้กองอังคาร...สบถออกมาดังๆ

" ไอ้ห่ารบกันมืดๆ แบบนี้ มันจะมันอะไรวะ...ระวังผู้กองผมจะกระทุ้งแฟลร์เข้าไปในช่องประตูนั่น "

" เฮ้ยอย่าเพิ่งไอ้โล้น...เดี๋ยวๆ รอให้อั๊วโยนระเบิดเข้าไปก่อน...มึงค่อยกระทุ้งแฟลร์ "

ผู้กองอังคาร...หันมาคำราม แล้วปลดสลักนิรภัยเอี้ยวตัว ขว้างลูกระเบิดเข้าไปสุดแรงเกิด...

ชั่วอึดใจต่อมา ก็บังเกิดแสงสว่างสีเขียวปนส้มแวบขึ้นมาจนปวดนัตย์ตา
ตามติดๆ ด้วยเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว...เศษไม้และเศษสังกะสีบนหลังคาโดนสะเก็ดระเบิดร่วงเกรียวกราวดังลั่นอยู่ข้างใน

ไอ้โล้น...กระแทกแฟลร์ลูกสุดท้าย ด้วยการตั้งระยะให้ลูกแฟลร์วิ่งเข้าไปในช่องประตู
และก็ได้ผล...ลูกแฟลร์วิ่งหายเข้าไปในประตูโกดังข้าวสาร แล้วกระทบกับหลังคาดังโครมใหญ่
...ชั่วอึดใจลูกแฟลร์ก็ร่วงลงมาสว่างจ้าอยู่เหนือกองกระสอบข้าวสารที่พะเนินเทินทึกอยู่นั้น...

อาร์ก้าเงียบเสียงลงไปแล้ว ก่อนที่ทุกคนจะตัดสินใจอะไรต่อไป ไอ้แสบ...ก็พรวดพราดวิ่งชาร์ทเข้าไปในช่องประตูอย่างรวดเร็ว...

เหมือนกับโชคช่วย ไม่มีเสียงปืนยิงโต้ตอบออกมาแม้แต่นัดเดียว
ไอ้โล้น...วิ่งชาร์ทเข้าไปเป็นคนที่สอง ติดตามด้วย ผู้กองอังคารและหมอดาหลาตามลำดับ...

" ฉิบหาย...แฟลร์ไหม้กระสอบข้าวสารแน่ ผู้กอง... "

ไอ้โล้น...กระซิบกระซาบพร้อมกับพุ้ยโบ๊ให้เจ้านายของมันดูลูกแฟลร์ที่สว่างจ้าอยู่เหนือกองกระสอบข้าวสารนั้น

ผู้กองอังคาร...ไม่ตอบ เขากวาดสายตาชำเลืองไปที่เสาต้นหนึ่ง แล้วยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจ

" ไอ้แสบ สะพานไฟอยู่โน่น...จัดการเร็ว "

ไม่ต้องสั่งเป็นคำรบสอง ไอ้แสบ...ผละจากกองกระสอบข้าวสารวิ่งปร๊าดไปที่ต้นเสา
...อึดใจต่อมา ไฟฟ้าก็สว่างพึ่บขึ้นมาทั่วบริเวณ...

แฟลร์ซึ่งสว่างไสวอยู่บนกระสอบข้าวสารสิ้นฤทธิ์ลงในเวลาเดียวกับไฟฟ้าที่เปิด
...ทำให้กระสอบข้าวสารรอดพ้นจากไฟไหม้ได้อย่างหวุดหวิด

" ปัง...ปัง...ปัง...ปัง... "

เสียงแหลมเล็กของอาร์ก้าครางระงมอยู่ด้านในสุดของกระสอบข้าวสาร
แนวกระสุนเจาะกระสอบข้าวสารที่กลุ่มของผู้กองอังคารแอบซ่อนอยู่ กระจุยกระจายไม่มีชิ้นดี
บางกระสอบฉีกขาด ข้าวสารไหลร่วงลงกับพื้นมองเห็นถนัดตา

หมอดาหลา...พลิกตัวเข้าไปในซอกกระสอบพร้อมกับชี้มือส่งสัญญาณให้ไอ้โล้น...ปีนขึ้นไปบนกองกระสอบข้าวสาร
โดยหวังที่จะให้ลูกน้องตัวดีของผู้กองอังคาร...อ้อมไปจัดการกับมือซุ่มยิงที่แอบอยู่ด้านขวามือโน่น

" อย่าเพิ่งหมอ...ดู กระสอบข้าวสารลูกที่โดนยิงโน่น "

ผู้กองอังคาร...กระซิบกระซาบพร้อมกับชี้มือให้ดูกระสอบข้าวสารลูกข้างๆ
ที่โดนยิงจนข้าวสารไหลลงกองกับพื้นเกือบครึ่งกระสอบ

ไอ้โล้น...คลานเข้าไปหากระสอบข้าวสารใบดังกล่าวอย่างรวดเร็วแทบไม่ต้องให้เจ้านายของมันสั่งการ
มันล้วงมือลงไปในกระสอบข้าวสารอยู่ชั่วอึดใจก็ตะโกนออกมาค่อนข้างดัง

" ปืนลูกพี่...ปืนครก ๘๒ พร้อมด้วยกระสุน... "

ผู้กองอังคารคลาน...พรวดเดียวเข้าไปถึงกระสอบข้าวสาร
ความรู้สึกในขณะนั้นตื่นเต้นจนสุดระงับ เขาแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองที่มองเห็น
ไอ้โล้น...ค่อยๆ ยกปืนครก ๘๒ ของเวียดนามเหนือออกมาจากกระสอบข้าวสารที่โดนยิงจนพรุนไปหมดนั้น

" ดูกระสอบข้าง ๆ ด้วย...ไอ้โล้น "

ผู้กองอังคาร...พูดแทบไม่หายใจ พร้อมๆ กับแก้เชือกที่ปากกระสอบข้าวสารอีกลูกหนึ่งด้วยความร้อนรน

" ปืน...ปืนทั้งนั้นผู้กอง...กระสอบนี้เป็นปืนครก ๖๑ พร้อมด้วยกระสุน ๖
นัด...ฉิบหายแล้ว นี่มันคลังอาวุธของเวียดนามเหนือนี่หว่า "

ประสาทหูของผู้กองอังคาร...อื้อไปหมด
ภาพที่ปรากฏแก่สายตาของเขาในขณะนี้ก็คือ กระสอบข้าวสาร
ซึ่งอาจจะเกือบทุกกระสอบแน่นเอี๊ยดไปด้วยอาวุธร้ายแรงของเวียดนามเหนือ

อา ! เวียดนามเหนือเหิมเกริมถึงกับสะสมอาวุธสงครามเอาไว้ในใจกลางเมืองโคราชเชียวหรือนี่

"อย่าตัดสินใครโดยไม่ได้ถามเขาสักคำ หรือ แค่ฟังคนอื่นเขามา ชีิวิตคนก็เหมือนสะพาน  มีขึ้นมีลง มีสูงมีต่ำ  สุดท้ายก็ตายเหมือนกัน" สมิง วังม่วง 0884763428

บันทึกการเข้า

สมิง วังม่วง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 68
ออฟไลน์

กระทู้: 7628


tel. 0861810566


« ตอบ #11857 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 24, 2016, 08:58:49 AM »

อัพเดคราคาปืน และกระสุน แหล่งซื้อ http://2013.gun.in.th/index.php?topic=66241.0  (สมัครสมาชิก)
บันทึกการเข้า

สมิง วังม่วง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 68
ออฟไลน์

กระทู้: 7628


tel. 0861810566


« ตอบ #11858 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 28, 2016, 09:24:40 AM »

..........ดับรามสูร...........ผลงานของสยมภู ทศพล
............เล่มที่ ๒ ตอนที่ ๒๖............

ไอ้โล้น...ใช้มีดพกตัดเชือกที่ผูกปากกระสอบข้าวสารออก
แล้วถีบกระสอบข้าวสารลงนอนกับพื้นกระสอบแล้วกระสอบเล่า
ภาพที่ปรากฏแก่สายตาในขณะที่เมล็ดข้าวสารไหลลงมากองกับพื้น
ทำให้ผู้กองอังคาร...ประสาทแทบช๊อค

อาวุธสงครามเวียดนามเหนือ ไม่ว่าจะเป็นปืนครก...ปืนกลเบา...ปืนอาร์ก้า...ลูกระเบิดมือ...สากกระเบือของจีนแดง
ยัดทะนานเอี๊ยดอยู่ในกระสอบข้าวนั้น
ผู้กองอังคาร...กวาดสายตามองดูกระสอบข้าวสารที่กองพะเนินเทินทึกอยู่รอบๆ ตัวด้วยความรู้สึกที่เย็นเยียบไปถึงไขสันหลัง
เดชะบุญทีมงานของเขาบังเอิญเข้ามาพบคลังอาวุธสงครามนี่เสียก่อน
ถ้าปล่อยเวลาให้เนิ่นนานออกไปอีกเล็กน้อย...อะไรมันจะเกิดขึ้น ! นรกเท่านั้นที่จะให้คำตอบได้

" ปัง...ปัง...ปัง...ปัง...ปัง... "

เสียงแหลมเล็กของอาร์ก้าดังกังวานสวนออกมาจากมุมในสุดของโกดัง
แนวกระสุนวิ่งปร๊าดเข้าหาชั้นกระสอบข้าวสารที่ซ้อนเป็นบังเกอร์อยู่เบื้องหน้า
เพชฌฆาตรับจ้างทั้งสองมองดูเห็นกระสุนส่องสว่างเป็นทาง กระสอบข้าวสารโดนอำนาจกระสุนฉีกขาดกระจุยกระจาย
ไอ้โล้น...ซึ่งโผล่ศีรษะออกไปนอกกระสอบ กระโจนแผล็วเข้ามาหมอบอยู่ข้างๆ เจ้านายของมัน
พลางกระซิบออกมาด้วยน้ำเสียงเครียด ๆ

" พวกมันซ่อนอยู่ข้างหลังโน่นอีกคน...ผู้กองช่วยยิงคุ้มกันให้ผมด้วย "

ไอ้โล้น...พูดพลางขยับตัวขึ้นจะปีนขึ้นไปบนกองกระสอบข้าวสาร
แต่ผู้กองอังคารเอื้อมมือไปยึดชายแขนเสื้อลูกน้องคู่ใจเอาไว้แน่น พลางกระซิบกรอกหูด้วยน้ำเสียงกระหายเลือด

" เฉยๆไอ้โล้น...มึงกะกูอยู่ที่นี่...ช่วยกันตรวจดูกระสอบข้าวสารรอบๆนี่ให้หมด ทางโน้นให้ลูกน้องนอร์แมน...จัดการ "

" ว้า...ข้าวสารเป็นตันกว่าจะเปิดดูหมด ไอ้ห่าจิกโน่นก็ใส่เรายับเท่านั้น...ผมไปเองดีกว่าน่าเจ้านาย "

ผู้กองอังคาร...ยึดแขนเสื้อไอ้โล้น...แน่น แล้วหันไปออกคำสั่งกับหมอดาหลา...ซึ่งหมอบอยู่ห่างออกไปทางซ้ายมือเบา ๆ

" หมอสั่งสามล้ออ้อมขึ้นไปเก็บไอ้พวกนั้นด้วย ไอ้แสบ...ออกไป " บร๊อค " ทางซ้ายมือ หมอเข้ามาหาผมที่นี่ "

แทบไม่ต้องสั่งกันเป็นครั้งที่สอง ทุกคนปฏิบัติตามคำสั่งอย่างรวดเร็ว
หน่วยล่าสังหารซึ่งอยู่ในคราบของสามล้อ ปีนขึ้นไปหมอบอยู่บนกองกระสอบข้าวสารอยู่ชั่วอึดใจ
ก็เริ่มคลานสี่ตีนไปบนกองกระสอบข้าวสารที่ยาวเหยียดนั้นอย่างระมัดระวัง...
ทันใดนั้นเอง สิ่งที่ไม่คาดฝันก็ได้บังเกิดขึ้น

" บึ้ม "

เสียงระเบิดสนั่นหวั่นไหว ประกายไฟสีเขียวสุกใสสว่างแวบขึ้นมาบนกองกระสอบข้าวสารนั้น
ร่างของหน่วยล่าสังหารซึ่งคลานอยู่ กระจุยกระจายเหมือนกับหมูบะช่อ
เศษอวัยวะบางชิ้นปลิวหวือลงมาตกอยู่ตรงหน้าไอ้โล้น... ทำให้มันร้องตะโกนขึ้นมาด้วยความตกใจ

" เฮ้ยนี่แขนใครวะ...อ้าวฉิบหายโดนระเบิดซะแล้วเพื่อนกู
ผู้กอง ผู้กองอย่างเพิ่งให้ใครขึ้นไป ผมยังไม่แน่ใจว่า จะเป็นระเบิดมือหรือว่ากับระเบิด...ผมเอง "

คราวนี้ไม่มีใครหยุดยั้งไอ้โล้น...ได้อีกแล้ว
มันผละจากกองอาวุธสงครามที่เพิ่งจะยกออกจากกระสอบข้าวสาร มุ่งหน้าขึ้นไปข้างบนบริเวณที่เกิดระเบิดด้วยท่าทางร้อนรน

ไอ้โล้น...คลานหายขึ้นไปชั่วอึดใจ ก็คลานกลับลงมาด้วยท่าทางตื่นเต้น พร้อมละล่ำละลักออกมาแทบไม่เป็นภาษาคน

" กับระเบิด กับระเบิดทั้งนั้นผู้กอง ผมสู้ไม่ไหวขอ " เอ็ม.๗๒ " ผมซัก ๒ กระบอก...ผมจะยิงเคลียร์ทำลายมันเอง "

" เฮ้ยมึงจะเล่นจรวดต่อสู้รถถังเลยรึไง กูว่าประเดี๋ยวตำรวจได้แห่กันมาเป็นโขลงหรอกมึง "

ผู้กองอังคาร...พูดพลางหันไปมองดูไอ้แสบ...ซึ่งลูกน้องคู่ใจก็เหมือนจะอ่านใจลูกพี่ออก
มันคลานเร็วจี๋เข้ามา พร้อมกับถอด " เอ็ม.๗๒ " ซึ่งสะพายอยู่บนไหล่ส่งให้ทั้ง ๒ กระบอก แล้วคลานกลับไปอย่างรวดเร็ว...

" กว่าตำรวจจะมา ผมก็เล่นพวกมันฉิบหายวายวอดไปหมดแล้ว
คราวนี้แหละมึง ไอ้พวกจัญไรทั้งหลายกูจะระเบิดโคตรพ่อโคตรแม่มึงให้ยับไปกับมือเลยที่เดียว "

ไอ้โล้น...สบถ พลางรับ "เอ็ม.๗๒ " จากมือผู้กองอังคาร...ปีนกลับขึ้นไปบนกองกระสอบข้าวสาร
แล้วคลานเร็วจี๋เข้าไปที่ศพของหน่วยล่าสังหาร ต่อจากนั้นก็ขยับตัวลงนอนคว่ำหน้ากับพื้น
ปืน " เอ็ม.๗๒ " ทั้ง ๒ กระบอก ถูกปลดล็อคกางออกเป็นสองท่อน
มันบรรจงหยิบกระบอกหนึ่งขึ้นมานอนประทับให้ศูนย์เล็ง ซึ่งเป็นยางแนบกับดวงตาข้างขวา
แล้วค่อยๆ ปลดห้ามไก ต่อจากนั้นก็ปรับระยะมองดูกับระเบิดที่วางดักอยู่เบื้องหน้านิดนึง แล้วเหนี่ยวไกอย่างใจเย็น

" แว๊ด...บึ้ม...บึ้ม...บึ้ม "

เสียงแรกเป็นเสียงจรวดแม๊กนีโต ที่ถูกจุดด้วยระบบไฟฟ้า ทะลวงออกจากลำกล้องไฟเบ้อ
เสียงสุดท้ายเป็นเสียงระเบิดในขณะที่จรวดกระทบพื้น
และเสียงระเบิดที่แทรกซ้อนขึ้นมาอีกสองครั้ง เป็นเสียงกับระเบิดที่โดนอำนาจจรวดแม็กนีโตทำลายลงอย่างย่อยยับ...

" พอ พอไอ้โล้น...มึงคุ้มกันให้กูด้วย กูจะชาร์ทเข้าไปเอง "

ไอ้แสบ...ซึ่งคลานเข้าไปสมทบตั้งแต่เมื่อไรไม่มีใครสังเกตเห็น คำรามออกมาอย่างกระหายเลือด
แล้วคลานอย่างเร็วจี๋ผ่านหน้าไอ้โล้น...ออกไปอย่างบ้าดีเดือด
เล่นเอาไอ้โล้น...ซึ่งกำลังจะหยิบ " เอ็ม๗๒ " กระบอกที่สองขึ้นมายิงต่อ ถึงกับชะงัก
ต้องวางปืนลงกับพื้นแล้วหยิบ " เอ็ม๑๖ " ขึ้นมากระชับอยู่ในมือ ปากก็สบถออกมาด้วยความฉุนเฉียว

" ไอ้ฉิบหาย ซ่านักมึง ประเดี๋ยวก็เจอดีจนได้ เฮ้ยระวัง...ซ้ายมือ "

ประโยคสุดท้าย ไอ้โล้น...ตะโกนออกมาสุดเสียงเมื่อมองเห็นประกายไฟแว่บออกมาทางมุมกระสอบซ้ายมือ

" ปัง...ปัง...ปัง...ปัง "

อาร์ก้าครางเป็นประทัดแตกอยู่เบื้องหน้า
ด้วยสัญชาตญาณไอ้แสบ...พลิกตัววูบไปทางซ้ายมือตั้งแต่ได้ยินไอ้โล้น...ตะโกนบอก
ทำให้แนวกระสุนพลาดจากเป้าหมายอย่างหวุดหวิด พื้นกระสอบที่ไอ้แสบ...นอนหมอบอยู่เมื่อกี้นี้ขาดกระจุยเป็นทาง

ไอ้โล้น...กัดกราม ยก " เอ็ม.๑๖ " ขึ้นประทับเหนี่ยวไกรวดเดียวเกือบหมดแม็ก
ทำให้เสียงปืนที่ยิงโต้ตอบอยู่เงียบเสียงลงในบัดดล แค่นั้นยังไม่หนำใจ
ไอ้โล้นโยน " เอ็ม.๑๖ " ลงกับพื้น แล้วหยิบ " เอ็ม.๗๒ " ขึ้นมา
ปลดห้ามไกยิงถล่มเข้าไปในจุดที่พลซุ่มยิงของ เค.จี.บี. แอบซ่อนอยู่ด้วยความรวดเร็วจนมองดูไม่ทัน

" เเว็ด...บึ้ม "

แม่นยำเหมือนกับผีจับยัด
กระสอบข้าวสารถล่มทะลายลงไปทับร่างของพลซุ่มยิงซึ่งแอบอยู่เบื้องหลังเข้าอย่างเหมาเหม็ง
เสียงร้องแหกปากอย่างตระหนกตกใจที่ดังลั่นอยู่เบื้องหน้า เงียบเสียงไปในบัดดล
เป็นเครื่องพิสูจน์ได้อย่างดีว่า ขณะนี้พลซุ่มยิงของ เค.จี.บี. หมดฤทธิ์เสียแล้ว

ไอ้แสบ...ถือโอกาสทองคลานเร็วจี๋เข้าไปที่ปลายสุดของโกดัง แล้วกระหน่ำยิงกราดเข้าไปตามมุมต่างๆอย่างถี่ยิบ
อยู่ชั่วอึดใจก็กระโจนแผล็วลงไปหมอบอยู่หน้าห้องทำงาน ซึ่งสร้างเรียงรายอยู่เบื้องหน้าอย่างระมัดระวัง...

ประตูห้องทางซ้ายมือเปิดผลัวะออก พร้อมๆกับมีวัตถุชิ้นหนึ่งกระเด็นออกมา
ไอ้แสบ...ยกปืนขึ้นประทับ แล้วเหนี่ยวไกด้วยสัญชาตญาณอันชาชิน
แต่เมื่อวัตถุนั้นกระทบพื้น
ไอ้แสบ...ก็ต้องสบถออกมาด้วยความเดือดดาลใจเมื่อมองเห็นหมอนข้างสวมเสื้อสตรีกลิ้งโค่โร่อยู่เบื้องหน้า

มีเสียงปืนรัวเป็นประทัดแตกอยู่ในห้อง
ชั่วอึดใจร่างได้สัดส่วนของ " โรซ่า " จอมจารสตรีของโซเวียตก็กระโจนผลึงออกมาอย่างรวดเร็ว
ชุดสีดำที่เธอใส่กระทบกับแสงไฟมันระยับ เธอใช้ปืนอาร์ก้ากราดนำทางออกมาด้วยท่าทางคล่องแคล่วว่องไว

ไอ้แสบ...ยกปืนขึ้นแล้วเหนี่ยวไก แต่เหมือนกับโชคช่วยกระสุนเจ้ากรรมหมดแมคกาซีนพอดิบพอดี
มือไวเท่าความคิดมันละมือจากช่องลั่นไก แล้วใช้นิ้วชี้กดปุ่มล็อคแมคกาซีนออก
ในขณะเดียวกันก็ใช้มือซ้ายดึงก้นแมคกาซีน " พ่วงท้าย " ออก
แล้วพลิกข้อมือยัดแมคกาซีนอีกทางหนึ่งเข้าไปในช่องอย่างชนิดแทบไม่หายใจ

ในช่วงเวลาที่ไอ้แสบ...เปลี่ยนแม็คฯ
โรซ่า หรือ " เอ็ลด้า " ก็ฉากแว่บเข้าไปข้างๆ กระสอบข้าวสาร แล้วเริ่มสาดกระสุนเข้าใส่ไอ้แสบ...เป็นจักรผัน

" เจอะแล้ว...ผมเจอะผู้หญิงแล้วผู้กอง...ระวังอยู่ทางซ้ายมือของผมนี่ "

ไอ้แสบ...แหกปากตะโกนออกมาสุดเสียงพร้อมๆ กับสาดกระสุนเข้าใส่ " เอ็ลด้า " อย่างชนิดไม่เลี้ยง.

จากคำพูดของไอ้แสบ...ทำให้หมอดาหลา..ซึ่งหมอบอยู่เบื้องล่างขยับตัวขึ้นมาด้วยท่าทางตื่นเต้น
ดวงตาฉายแสงวาวโรจน์ คำพูดที่เ[---]้ยมเกรียมเกินตัวพรั่งพรูออกมาด้วยความลืมตัว

เจอะกันแล้ว...แม่เพื่อนยาก เราจะได้คิดบัญชีกันเสียที มันเป็นเรื่องส่วนตัว...ผู้กองไม่เกี่ยว

หมอดาหลา...พูดพลางกระโจนแผล็วขึ้นไปบนกองกระสอบข้าวสาร
ประสาทหูทั้งสองข้างอื้ออึงไปด้วยเสียงปืนที่สาดเข้าใส่กันอย่างหูดับตับไหม้
ความรู้สึกส่วนตัวที่พุ่งขึ้นมาอย่างปัจจุบันทันด่วน มันคือความแค้นที่สุมหัวใจอยู่แรมปี...

หมอดาหลา...วิ่งผ่านร่างของไอ้โล้น...ไปด้วยความลืมตัว
ไอ้โล้น...แหย่เท้าออกสกัดร่างของหมอดาหลา..ล้มคว่ำลงกับพื้น พร้อมกับที่ห่ากระสุนอาร์ก้าวิ่งสวนเข้ามาอย่างน่าหวาดเสียว

" ขอบคุณ ขอบคุณมาก ดิฉันใจร้อนเกินไป คุณลงไปเคลียร์ในห้องเหล่านั้นได้แล้ว...ทางนี้ปล่อยดิฉันเอง "

หมอดาหลา...ละล่ำละลักขอบอกขอบใจลูกน้องของผู้กองอังคาร...
แล้วเริ่มคลานลงไปหมอบอยู่ข้างๆ ไอ้แสบ...ด้วยความระมัดระวังตัวยิ่งกว่าครั้งแรก

" ลักษณะท่าทางของผู้หญิงคนเมื่อกี้นี้เป็นยังไง " หมอดาหลา...กระซิบถามไอ้แสบ..ด้วยความเคลือบแคลงใจ

" ผิวขาว...หน้าตาเหมือนกับคนยุโรปสวมชุดดำ ท่าทางคล่องแคล่วเหมือนกับผู้ชาย...หมอระวังหน่อยนะครับ "

ไอ้แสบ...กระซิบตอบพร้อมกับสลุตกระสุนกราดเข้าไปอย่างชนิดต่อเนื่องกัน

หมอดาหลา...เผยอริมฝีปากยิ้มอย่างสะใจ แล้วตะโกนขึ้นดังๆ

" เอ็ลด้า...นี่ฉันดาหลา...พูด
ยินดีมากที่พบกับเธออีกครั้ง เธอจะใช้ชื่อว่า โรซ่า หรือ เอ็ลด้า ไม่สำคัญ ถ้าเธอจำสหายเก่าแก่ของเธอได้ โปรดออกมาสู้กัน "

เสียงปืนที่ยิงโต้ตอบหยุดนิ่งไปชั่วขณะ
ชั่วอึดใจต่อมาก็ปรากฏเสียงหัวเราะแหลมเล็กเหมือนกับเสียงหัวเราะของแม่มดในภาพยนตร์ผี
ดังแว่วๆ อยู่เบื้องหลังกระสอบข้าวสาร
พอเสียงหัวเราะหยุด ก็มีเสียงพูดภาษาไทยค่อนข้างแปร่งเล็กน้อย กังวานออกมาด้วยน้ำเสียงท้าทาย

" สวัสดีตอนกลางคืนดาหลา...โลกกลมเหลือเกินนะสหาย มอสโคว์กับโคราชเป็นระยะทางเกือบค่อนโลก
มันเรื่องอะไรที่ฉันจะออกไปสู้กับเธอ แน่จริงเข้ามาจับฉันซิดาหลา...
คนเรามันเคยแพ้กันอยู่แล้ว มันก็ต้องแพ้กันอยู่วันยังค่ำ...แน่จริงเข้ามาเลยสหาย "

พอพูดจบ " เอ็ลด้า " ก็สาดกระสุนเข้ามาที่บริเวณกระสอบข้าวสารจนไอ้แสบ..กับหมอดาหลา...ต้องกดศีรษะลงกับพื้น

พอสิ้นเสียงกระสุนหมอดาหลา...ก็ขยับตัวทำท่าเหมือนกับจะขยับลุกขึ้นยืน
ไอ้แสบ...ใช้มือข้างหนึ่งกดหลังหมอดาหลาพลางกระซิบ

" ใจเย็นครับหมอ...สถานการณ์ขณะนี้เราเป็นต่อครึ่งต่อครึ่ง เพื่อนของหมอกำลังยั่วยุให้หมอออกไป
ใจเย็นๆ ครับ...ผมคิดว่า ประเดี๋ยวกระสุนของเขาก็คงจะหมด "

หมอดาหลา...ยังไม่ทันจะตอบว่าอะไร
ประสาทหูทั้งสองข้างก็อื้ออึงไปด้วยเสียงกัมปนาทของระเบิดซึ่งกระหึ่มขึ้นมาอยู่เบื้องหน้านั้น...

" ลูกกระสุนปืนครก...โครยิงปืนครก "

ไอ้แสบ...ร้องตะโกนขึ้นมาด้วยความตื่นตระหนก

" ผู้กองอังคาร ผู้กองอังคาร...ซัดปืน " ครก 61 " เข้าแล้วโว้ย
แกยิงแบบจังโก้...โดยไม่ใช้ฐานยิง ไอ้ห่ายืนยิงหยั่งกับพระเอกหนังไทยเลยว่ะ... "

ไอ้โล้น...ซึ่งคลานลงมาสมทบกระหืดหระหอบพูดด้วยท่าทางตื่นเต้น

" วี้ด...บึ้ม "

ปืนครก ๖๑ หรือ " ค.๖๑ " ลูกที่สอง จากฝีมือการยิงของผู้กองอังคาร...ถูกยิงเข้ามาอีก
เป้าหมายก็คือกองกระสอบข้าวสารที่เอ็ลด้า...ซ่อนตัวอยู่ด้านในสุดของโกดัง
คราวนี้ตำแหน่งกระสุนตกเขยิบเข้าไปใกล้ตำแหน่งที่ " เอ็ลด้า " ซ่อนอยู่
จนกระสอบข้าวสารบางกระสอบถล่มทะลายลงเป็นทาง...

" อย่ายิงผู้กอง...อย่ายิง อย่าเพิ่งให้มันตาย "

หมอดาหลา...ร้องตะโกนออกมาเหมือนกับคนเสียสติพร้อมกับผลุดลุกขึ้นส่ายปืนยิงกราดเข้าไปด้วยระบบอัตโนมัติเต็มตัว

" วี้ด...บึ้ม "

นัดที่สามจาก ค.๖๑ ซึ่งใช้วิธียิงแบบไม่ต้องใช้ฐานยิง คำรามขึ้นมาอีกครั้ง
คราวนี้แม่นยำเหมือนกับผีจับยัด กระสุนตกโครมลงบนกองกระสอบข้าวสารพังทะลายลงอย่างไม่มีชิ้นดี
และจับพลัดจับผลูหล่นลงมาทับ " เอ็ลด้า " เข้าอย่างจังเบอร์...

กระสุนอาร์ก้าจาก " เอ็ลด้า " เงียบสนิทเป็นปลิดทิ้ง
หมอดาหลา...ยิงกราดนำทางเข้าไปอีกครั้ง แล้วลุกขึ้นวิ่งชาร์ทเข้าไปอย่างรวดเร็ว

ซึ่งพร้อมๆกับไอ้แสบ...ไอ้โล้นและผู้กองอังคาร...แยกย้ายกันเข้าไปเคลียร์ห้องต่างๆ อย่างชนิดแข่งกับเวลา

ไอ้โล้น...วิ่งปร๊าดเข้าไปที่ห้องแรก มันใช้ " เอ็ม.๑๖ " ยิงลูกกุญแจหักสะบั้น
แล้วเปิดผลัวะเข้าไปอย่างชนิดเสี่ยงตาย แต่มันก็ต้องรีบปิดอย่างรวดเร็ว
เมื่อได้ยินเสียงเห่ากรรโชกของสุนัขสงครามดังเอ็ดอึงอยู่ภายในห้องนั้น

" อะไรวะ...[---]โล้น...มีอะไรอยู่ข้างใน "

" หมา...หมาสงครามทั้งนั้น
ไอ้ห่ามันขังหมาให้อดอาหารแบบนี้เองนี่หว่า...มันถึงได้หิวโหยนัก
พอเจอะหน้ากูมันจะแดกกูท่าเดียว...เฮ้ยขอ " เอ็ม.๒๖ " ซักลูกวะ...เพื่อนฝูง "

ไอ้แสบ..หัวเราะก๊าก ล้วงมือหยิบลูกเกลี้ยงลูกสุดท้ายจากกระเป๋าแล้วโยนละลิ่วไปให้ดื้อ ๆ

ไอ้โล้น...ร้องเสียงหลง เอื้อมมือตะครุบลูกระเบิดได้อย่างหวุดหวิด ปากละล่ำละลักออกมาแทบไม่เป็นภาษาคน

" [---]แสบ...เล่น เล่นฉิบหายบรรลัยจักรอะไรก็ไม่รู้
ระเบิดของมึงถอนสลักแล้วเอากิ๊บยัดไว้ทุกลูกกูรู้...ไอ้ห่า ถ้ากิ๊บมันหลุด กูก็เละเท่านั้น "

ไอ้แสบ...หัวเราะก๊าก แล้วฉากแว่บเข้าไปที่ห้องถัดไป ระเบิดกุญแจออกแล้วค่อยๆ เปิดประตูเข้าไปด้วยความระมัดระวัง

" เฮ้ย...ไอ้เต๋ากับไอ้หมุด...อยู่นี่ ช่วยกันหน่อยโว้ย "

พอไอ้แสบ...มองเห็นภาพข้างในถนัดหูถนัดตา ก็ร้องตะโกนขึ้นมาสุดเสียง
ไอ้โล้นชะงักนิดนึง แล้วค่อยๆ ดึงกิ๊บที่ยัดรูสลักนิรภัย ต่อจากนั้นก็กำระเบิดแน่น
ก้าวโหย่งๆ ไปที่ประตู ค่อยๆ แง้มออกโยนลูกระเบิดเข้าไปในห้องด้วยอาการใจเย็น

ชั่วอึดใจก็บังเกิดเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว เสียงระเบิด เสียงร้องครวญครางของสุนัขสงครามฟังไม่ได้ศัพท์
ไอ้โล้น...แง้มประตูดูนิดนึง และผละออกมาด้วยท่าทางเงียบ ๆ เหมือนไม่มีอะไรบังเกิดขึ้น

ผู้กองอังคาร...ไอ้แสบ...ไอ้โล้น...วิ่งกรูกันเข้าไปในห้อง ซึ่งไอ้เต๋า - โบว์ลิ่งและบังหมุด... ถูกคุมขังอยู่ด้วยท่าทางร้อนรน
โดยลืมคิดถึงหมอดาหลา...ซึ่งขณะนี้วิ่งชาร์ทเข้าไปที่บริเวณ " เอ็ลด้า " โดนระเบิดอยู่อย่างสิ้นเชิง

หมอดาหลา...วิ่งเข้าไปถึงกองกระสอบข้าวสารซึ่งถล่มทะลายลงด้วยท่าทางร้อนรน
เพียงวูบเดียวที่สายตาของเธอมองเห็นกระสอบข้าวสาร ความรู้สึกก็บอกกับตัวเองว่าขณะนี้เธอเสียสหายคู่แค้นของเธอเสียแล้ว

ไม่มีร่างของเอ็ลด้า...ปรากฏอยู่ที่กองกระสอบข้าวสาร !

และสภาพของกองข้าวสารที่ถล่มลงมาก็อยู่ในสภาพที่ไม่น่าจะจบซีวิตของจอมจารสตรีจากโซเวียตคนนี้ได้ !

ปัญหาใหญ่หลวงขณะนี้คือ ขณะนี้ " เอลด้า " ซุกซ่อนอยู่ที่ไหนกันแน่...

มีเสียงเคลื่อนไหวทางด้านขวามือ...
หมอดาหลา...วาดปืนขึ้นพร้อมกับเหนี่ยวไกด้วยสัญชาตญาณการต่อสู้ที่ฝึกมาอย่างจำเจ

พระเจ้าช่วย ! กระสุน " เอ็ม.๑๖ " แมคสุดท้ายทำพิษเสียแล้ว มันถูกยิงจนเกลี้ยงแมคกาซีนจนไม่รู้สึกตัว...

มีเสียงหัวเราะแหลมเล็กปรากฏออกมาจากมุมกระสอบข้าวที่พังทะลายนั้น
พร้อมๆ กับร่างในชุดดำสนิทเป็นมันระยับของ " เอลด้า " ก็ฉากแว่บออกมายืนจังก้า
" อาร์ก้า " คู่มือที่กระชับอยู่ในซอกแขนค่อยๆ ยกขึ้น เป้าหมายก็คือร่างของหมอดาหลา...ซึ่งยืนจังงังอยู่เบื้องหน้านั้น

แต่ก็เพียงชั่วอึดใจหนึ่งเท่านั้น พอหมอดาหลาตั้งสติได้ เธอก็ใช้สายตาลอบชำเลืองไปที่ตัวปืนอย่างพินิจพิจารณา
ชั่วครู่หนึ่งแววตาของเธอก็ฉายแสงแห่งความหวังขึ้นมาเรืองรอง

" ไม่มีประโยชน์...เอลด้า...ทิ้งปืนของเธอซะกระสุนหมดแล้ว มันจะมีประโยชน์อะไรกัน "

เอ็ลด้าหยุดยิ้ม เธอก้มลงมองดูปืนด้วยอาการฉุนเฉียว แล้วโยนโครมลงกับพื้น
ต่อจากนั้นเธอก็ค่อย ๆ ถอยหลังออกไปยังพื้นที่แคบ ๆ ซึ่งมิดชิดพอสมควร

" เธอรอเวลานี้มานานแล้วไม่ใช่เหรอสหาย...เอาซิเราจะได้พิสูจน์กันเสียทีว่า
เมื่อสี่ปีก่อนโน้น ฝีมือของฉันมันจะฟลุ้คหยั่งที่เธอเคยเคลือบแคลงใจหรือเปล่า...เข้ามาเลยสหาย "

เอ็ลด้า...กระดิกนิ้วเรียกพลางย่อตัวลงพร้อมๆ กับก้าวเท้าซ้ายออกมาข้างหน้า
มือทั้งสองยกขึ้นตั้งการ์ดในมาดของ คาราเต้ชั้นมหากาฬ

หมอดาหลา..ขยับตัวสืบเท้าเข้าไปหาเอ็ลด้า..ด้วยระมัดระวัง ปากก็สำทับออกมาด้วยน้ำเสียงเ[---]้ยมเกรียม

" วันนี้เธอจะได้รู้รสของมวยไทย เอ็ลด้า...สี่ปีที่ฉันฝึกฝนมาคงจะช่วยสอนให้เธอรู้ว่า
มวยไทยคือศิลปการต่อสู้ที่มีพิษสงที่สุดในโลกเข้ามา...เอ็ลด้า "

ประโยคสุดท้าย หมอดาหลา...กระซิบออกมาด้วยความย่ามใจ

"อย่าตัดสินใครโดยไม่ได้ถามเขาสักคำ หรือ แค่ฟังคนอื่นเขามา ชีิวิตคนก็เหมือนสะพาน  มีขึ้นมีลง มีสูงมีต่ำ  สุดท้ายก็ตายเหมือนกัน" สมิง วังม่วง 0884763428

บันทึกการเข้า

สมิง วังม่วง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 68
ออฟไลน์

กระทู้: 7628


tel. 0861810566


« ตอบ #11859 เมื่อ: มีนาคม 01, 2016, 12:23:40 PM »

1/3/59  ขออนุญาติ อัพเดตโครงการอาคาพาณิชย์ผม ครับ

บันทึกการเข้า

สมิง วังม่วง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 68
ออฟไลน์

กระทู้: 7628


tel. 0861810566


« ตอบ #11860 เมื่อ: มีนาคม 05, 2016, 06:58:09 PM »

อัพเดตราคาปืน กระสุน แหล่งกระสุน http://2013.gun.in.th/index.php?topic=66241.0  (สมัครสมาชิกด้วย)
บันทึกการเข้า

สมิง วังม่วง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 68
ออฟไลน์

กระทู้: 7628


tel. 0861810566


« ตอบ #11861 เมื่อ: มีนาคม 12, 2016, 09:00:33 AM »

อัพเดตตลาดปืนมือ 2 วันนี้ (มีคิมเบอร์ ทีมแมททูของผมด้วยครับ)  http://2013.gun.in.th/index.php?board=6.0  (สมัครสมาชิกด้วย)
บันทึกการเข้า

สมิง วังม่วง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 68
ออฟไลน์

กระทู้: 7628


tel. 0861810566


« ตอบ #11862 เมื่อ: มีนาคม 13, 2016, 11:33:20 AM »

...........ดับรามสูร............
............เล่มที่ ๒ ตอนที่ ๒๗...........ผลงานของ สยมภู ทศพล

เอ็ลด้า...ขยับตัวเต้นสลับขาอยู่ไปมา พร้อมๆ กับคำรามข่มขวัญอยู่ในลำคอตลอดเวลา
ส่วนแพทย์สาว...มือฉมังของ ซี.ไอ.เอ. สำรวมสติมั่นจ้องสายตา สังเกตอากัปกิริยาเพื่อนคู่แค้นเขม็ง

" ย๊าก "

เอ็ลด้า...ตะเบ็งเสียงสุดแรงเกิด พร้อมๆกับสปริงตัวลอยขึ้นมาจากพื้น
ปลายเท้าขวาเหยียดตรงพุ่งมาข้างหน้า ในลักษณะกระโจนถีบ
เป้าหมายก็คือ บริเวณคอหอยของหมอดาหลา...ที่ยืนจังก้าอยู่เบื้องหน้านั้น...

ดาหลา...ฉากแวบออกไปข้างๆ แล้วเตะสวนตูมขึ้นไปที่ต้นขาของเอ็ลด้า..สุดแรงเกิด

" พลั่ก "

แข้งสัมผัสต้นขาด้านล่างเต็มเหนี่ยว
ร่างของเอ็ลด้า...ซึ่งกำลังลอยอยู่กลางอากาศชะงักกึกแล้วเอียงคว่ำลงกับพื้นเหมือนกับนกปีกหัก
แต่เหมือนกับปาฏิหาริย์ เอ็ลด้า...หกตัวกลับกลางอากาศ เอาเท้าทั้งคู่สัมผัสกับพื้นอย่างสวยงาม

" เก่งขึ้นมากสหาย...สี่ปีที่จากกันมา เธอมีความสามารถเพิ่มขึ้นอย่างน่ากลัว
แต่ความสามารถขนาดนี้ คว้ำฉันไม่ได้เด็ดขาด...ระวัง "

ประโยคสุดท้ายเอ็ลด้า...คำรามออกมาอย่างกระหายเลือด แล้วกระโจนพรวดเข้าหาหมอดาหลา...จนมองดูแทบไม่ทัน
มือขวาที่ยกตั้งฉากอยู่ข้างหน้าฟาดโครมลงมาสุดแรงเกิด

หมอดาหลา...ขยับตัวถอยหลังหลบฝ่ามือที่แข็งเหมือนกับเหล็กไปได้อย่างหวุดหวิด
เอ็ลด้า...สืบเท้าเข้าประชิด
หมอดา...หลาขยับเท้าขวา ทำท่าเหมือนกับจะเตะ
เอ็ลด้า...หลงกล ยกมือทั้งสองขึ้นปิดเหมือนกับเป็นอัตโนมัติ
หมอดาหลา...กระตุกเท้าขวากลับ พร้อมๆ กับดีดแข้งซ้ายขึ้นหาเป้าหมายซึ่งปราศจากการป้องกันเต็มเหนี่ยว

" พลั่ก "

ปลายเท้าซ้ายพลาดจากปลายคางกระทบกับซอกคอเต็มเหนี่ยว
เอ็ลด้า...ผงะ
หมอดาหลา...สืบเท้าเข้าไป แล้วเตะกระหน่ำซ้ายขวาแบบไม่เลี้ยง

เอ็ลด้า...โงนเงนเหมือนกับต้นไม้โดนพายุ มือทั้งสองยกขึ้นปิดป้องสะเปะสะปะ
แต่ก็เป็นชั่วอึดใจหนึ่งเท่านั้น...พอตั้งตัวได้ เธอก็พุ่งตัวเองกระเด็นถอยหลังออกไปนอนกลิ้งอยู่กับพื้น
แล้วสปริงตัวกระโดดขึ้นมายืน ด้วยท่าทางที่แปลกใจในฝีมือของหมอดาหลา...อยู่ครามครัน

" เข้ามา เข้ามาเอ็ลด้า...นี่คือบทแรกของศิลปมวยไทยที่เธอควรจะเรียนรู้ไว้ก่อนตาย เธอจะได้รับบทเรียนที่แพงที่สุดในชีวิต "

หมอดาหลา...พูดพลางสืบเท้าเข้าไปหาเอ็ลด้า...ด้วยความย่ามใจ
เอ็ลด้า...แสยะยิ้มพร้อมกับค่อยๆ ยกมือซ้ายขึ้นมาแกะกระดุมข้อมือขวาออกอย่างช้าๆ
กระทำอากัปกิริยาเสมือนกับจะถลกแขนเสื้อเพื่อความถนัดถนี่ในการต่อสู้
แต่แล้วเธอก็สลัดข้อมือดึงมีดพกจากท่อนแขนขวาออกมากำชับอยู่ในมือ แสงไฟจากเพดานสะท้อนคมมีดแวววับ

หมอดาหลา...สะดุ้งสุดตัว สายตาจ้องจับที่มีดไม่กระพริบ
เท้าทั้งสองที่เคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา หยุดตรึงอยู่กับที่ชั่วขณะ
รวบรวมสติสัมปชัญญะ พร้อมที่จะป้องกันการจู่โจมซึ่งจะติดตามมาในวาระต่อไป

" ปัง...ปัง...ปัง...ปัง "

" เอ็ม.๑๖ " แผดเสียงคำรามเป็นประทัดแตกอยู่ทางเบื้องหลัง
ห่ากระสุนที่พรั่งพรูผ่านร่างของหมอดาหลา...ออกไป มันเฉียดฉิวผิวหนังร้อนฉ่า
ร่างของเอ็ลด้า...ซึ่งยืนจังก้าเป็นเป้านิ่งอยู่เบื้องหน้าสะดุ้งเฮือกขึ้นมาสุดตัว
แล้วกระเด็นแวบไปนอนพังพาบอยู่บนกองกระสอบข้าวสาร ซึ่งพังทะลายลงมาเป็นบางส่วนนั้น

หมอดาหลา...หันหลังกลับ พร้อมกับสบถออกมาด้วยน้ำเสียงฉุนเฉียว

" ฆ่า ฆ่ามันทำไม มันเป็นเรื่องส่วนตัวของชั้น "

ผู้กองอังคาร...ซึ่งเผ่นออกมาจากห้องทำงานของโกดังข้าวสารตั้งแต่เมื่อไรไม่มีใครสังเกตุเห็น
ยืนพิงกระสอบข้าวสาร ปืน เอ็ม.๑๖ ซึ่งกระชับอยู่ในมือขณะนี้ ทิ่มลำกล้องลงยันกับพื้นโกดังด้วยท่าทางเนื่อยๆ

" ผู้กอง ผู้กองฆ่ามันทำไม มันเป็นเรื่องของดิฉัน คนอื่นไม่เกี่ยว "

หมอดาหลา...พูดพลางกระโจนเข้ามาหาผู้กองอังคาร...ด้วยความลืมตัว

ผู้กองอังคาร...ฉากแวบ แล้วใช้มือข้างหนึ่งตะครุบร่างของหมอดาหลา...เข้ามาแนบอก
ริมฝีปากก้มลงแนบกับใบหู คำพูดที่เฉียบขาดสำทับออกมาเหมือนกับจะเตือนสติอยู่ในที

" หมอ หมอ นี่มันเรื่องจริง ไม่ใช่นวนิยายในภาพยนตร์ ผมปล่อยเอาไว้ไม่ได้
มันคือบุคคลชั้นบริหารของ เค.จี.บี เร็ว ตำรวจกำลังมา เฮ้ย พวกเอ็งพา ไอ้หมุดกับไอ้เต๋า...ออกมาทางนี้เร็วเข้า "

ประโยคสุดท้าย ผู้กองอังคาร...หันไปกำชับกับลูกน้องซึ่งกำลังประคับประคอง บังหมุดกับไอ้เต๋าโบว์ลิ่ง...
เดินออกมาจากห้องด้วยท่าทางทุลักทุเล

หมอดาหลา...ได้สติขยับตัวออกจากอ้อมกอดของผู้กองอังคาร ก็พอดีประสาทหูได้ยินเสียงวิทยุดังลั่นจากกระเป๋าเสื้อ

" อังคารจากนอร์แมน...รถตำรวจกำลังข้ามทางรถไฟ กำลังวางแผนหลอกให้ตำรวจไปที่อื่น
ทำตามแผน ๓ ขณะนี้มีรถ ยี.เอ็ม.ซี. จอดซุ่มอยู่ข้างหลังโกดังเรียบร้อยแล้ว...เลิกกัน "

ผู้กองอังคาร...ไม่ตอบวิทยุ เขายกปืนยิงกราดไปที่ร่างของเอ็ลด้า...อีกครั้ง เพื่อความแน่ใจ
แล้วหันหลังกลับเดินนำหน้ากลุ่มคนทั้งหมดไปยังผนังด้านในสุดของโกดังซึ่งเป็นสังกะสีนั้น...

" พวกเราสูญเสียกี่คนวะไอ้โล้น... "
ผู้กองอังคาร...เอ่ยถามเรียบ ๆ

" สามคนผู้กอง...บาดเจ็บคนนึง ไอ้คนที่โดนหมากัดนั่นแหละครับ
ผมสั่งให้พวกเราออกไปตัดหัวทิ้งหมดแล้ว ส่วนคนเจ็บรู้สึกว่าพวกเราจะเอาออกไปข้างนอกแล้ว
นั่น...พวกเราเข้ามาแล้วครับ "

ประโยคสุดท้ายไอ้โล้น...ลดเสียงกระซิบกระซาบลงพร้อมกับบุ้ยปากไปยังหน้าประตูโกดัง
ซึ่งขณะนี้พวกเพชฌฆาตรับจ้างซึ่งอยู่ในคราบสามล้อเมืองโคราช กำลังเกาะกลุ่มทยอยกันเข้ามาในโกดังเป็นงูกินหาง

คนที่เดินนำหน้าสุดหิ้ววัตถุรูปร่างเหมือนกับลูกมะพร้าวมาพวงใหญ่
แต่เมื่อเดินเข้ามาใกล้พอเห็นชัด หมอดาหลา...ซึ่งยืนอยู่ข้างๆ ผู้กองอังคาร...ถึงกับอุทานออกมาเบา ๆ

" อุ๊ยตาย...ศีรษะคน...ผู้กอง "

" ครับ...ของพวกเราเอง มันจำเป็นต้องตัดเอาไป ดีกว่าที่จะทิ้งหลักฐานเอาไว้
เฮ้ย...ช่วยกันกระทุ้งฝานี่ออก...พวกเราจะเคลื่อนย้ายออกทางนี้ "

ประโยคสุดท้าย ผู้กองอังคาร...ออกคำสั่งอย่างเฉียบขาด

ชั่วอึดใจ ฝาสังกะสีด้านหลังโกดังก็โดนกระทุ้งออก
ต่อจากนั้นเพชฌฆาตรับจ้างทั้งหมดก็ทยอยออกไปสู่ความมืดเบื้องหน้า
ซึ่งมีรถ ยี.เอ็ม.ซี. ขนาดใหญ่จอดซุกซ่อนเอาไว้แล้ว ตามแผนของยอดเสนาธิการจากค่าย " รามสูร "

ในขณะที่รถตำรวจโผล่จากโค้งถนน เข้าบริเวณหนองไผ่ล้อม
นอร์แมน...ซึ่งจอดรถซุ่มอยู่ในสนามบินพาณิชย์
ก็จัดแจงใช้น้ำมันราดรถสามล้อแล้วเข็นมารวมกัน จุดไฟเผาไหม้วินาศสันตะโร
ต่อจากนั้น ก็พารถวิ่งตัดสนามบินพาณิชย์ เลี้ยวขวาผ่านโกดัง หายลับไปในเส้นทางสถานีรถไฟอย่างรวดเร็ว
.........

เฮลิคอปเตอร์สีขาวสลับน้ำเงินบินหึ่งๆ อยู่บนท้องฟ้าเหนือสถานทูตชาติมหาอำนาจชาติหนึ่งอยู่ชั่วครู่
ก็เริ่มตีวงแล้วร่อนลงบนลานจอดรถ ซึ่งตั้งอยู่บนดาดฟ้าหลังคาตึกหลังหนึ่งอย่างนิ่มนวล

" นอร์แมน " หัวหน้าข่าวกรองค่ายรามสูร กระโจนแผล็วลงมาจากห้องโดยสาร
มือข้างหนึ่งถือกระเป๋าเจมส์บอนด์ใบขนาดเขื่อง...เขาก้มศีรษะหลบใบพัดจากแกนโรเตอร์
วิ่งเหยาะๆ หายลับเข้าไปที่ช่องประตูด้านตรงข้ามกับคอปเตอร์ด้วยท่าทางร้อนรน

นอร์แมน...หยุดให้พนักงานรักษาความปลอดภัยเช็คบัตรผ่านที่หน้าห้องลิฟท์อยู่ชั่วครู่
ก็พาตัวเองลงลิฟท์ไปยังห้องใต้ดินอย่างรวดเร็ว...

อีกสามนาทีต่อมา เขาก็ปรากฏกายอยู่ภายในห้องยุทธการ
ซึ่งขณะนั้นเจ้าหน้าที่ต่างๆ ของ ซี.ไอ.เอ. ได้รอการเดินทางของเขาอยู่พร้อมหน้าแล้ว

" ผมผิดนัดไป ๑๕ นาที เจอะฝนที่โคราชต้องบินขึ้นสูง ก็เลยเสียเวลาไปเกือบครึ่งชั่วโมงเต็มๆ ผมขอโทษ... "

นอร์แมน...พูดพลางหย่อนตัวลงนั่ง พร้อมๆ กับเปิดกระเป๋าเจมส์บอนด์หยิบรูปขนาดโปสการ์ดออกมาวางบนโต๊ะ

" เป็นภาพจากศูนย์อพยพที่หนองคาย...สายของเราแอบถ่ายมาได้อย่างสดๆ ร้อนๆ
ภาพแรกเป็นนายทหารเวียดนามเหนือยศพันตรี ที่ลอบเข้าหรือจงใจข้ามมากับประชาชนลาวจากฝั่งซ้าย
จากแฟ้มประวัติในค่ายรามสูร บ่งเอาไว้ว่าบุคคลผู้นี้สำเร็จวิชาจารกรรมจากมอสโคว์
ตำแหน่งสุดท้ายก่อนไซ่งอนแตก...
บุคคลผู้นี้ เป็นผู้บังคับกองพันทหารราบที่ ๖๗๓ ของเวียดนามใต้ ซึ่งสูญหายไปในการรบที่สะพานเดื๊อกวินห์...
พอสงครามสงบ นายพันตรีเดนตายผู้นี้ก็ลอบเข้ามาในเวียงจันทน์ เพื่อควบคุมการทำงานของคณะรัฐบาลลาว
ต่อจากนั้นก็ใช้ชื่อปลอมเป็นคนลาวว่า " นายคำจันทร์ มณีวงศ์ "
อพยพหนีข้ามแม่น้ำโขงเข้ามาประเทศไทยเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว โดยมีบาดแผลโดนยิงที่หัวไหล่ด้านขวา
ลองดูภาพนี้ก่อน...หมอ...บางทีคุณอาจจะรู้จักเพราะผ่านมอสโคว์มาเช่นกัน "

นอร์แมน...พูดพลางเลื่อนภาพโปสการ์ดดังกล่าวส่งให้กับหมอดาหลา... พร้อมกับพูดต่อไปอีก

" พันตรี โฮ วัน ฮัน หลบหนีจากค่ายอพยพที่หนองคาย
ในขณะที่เดินทางเข้ากรุงเทพฯ ได้ฆ่าสายมือดีของเราที่โคราชตายสองคนด้วยยาพิษที่ยังวิจัยไม่ออก
ผลการวิจัยขั้นแรก รู้แต่เพียงว่าเป็นยาที่สกัดจากต้นไม้ในคิวบา บางทีหมออาจจะรู้ดีกว่าคนอื่น "

หมอดาหลา...รับภาพขนาดโปสการ์ดที่มีรูปของชายฉกรรจ์ขึ้นไปพินิจพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง ก็อุทานออกมาด้วยความตื่นเต้น

" รังสรรค์...ชายผู้นี้ชื่อรังสรรค์ เป็นคนไทย...เรียนจารกรรมรุ่นเดียวกับดิฉันที่มอสโคว์ แต่ทว่าเขาสำเร็จก่อนดิฉัน ๒ ปี
รังสรรค์...เป็นคนที่มี ไอ.คิว.สูงมาก เขาสามารถพูดภาษาในแหลมอินโดจีนได้ทั้งหมด
เป็นคนทางภาคเหนือ...ดิฉันไม่แน่ใจจะเป็นเชียงรายหรือเชียงใหม่
หัวหน้าแน่ใจหรือคะ ว่าบุคคลผู้นี้คือ พันตรี โฮ วัน ฮัน ของกองทัพบกเวียดนามเหนือ "

ประโยคสุดท้ายหมอดาหลา...หันไปถามนอร์แมน...อย่างเคลือบแคลงใจ

" ครับถูกต้อง...พันตรี โฮ วัน ฮัน นาย " คำจันทร์ มณีวงศ์ " หรือ " นายรังสรรค์" ก็คือคนๆ เดียวกัน
สปายร้อยหน้าผู้นี้สร้างความหายนะให้กับ ซี.ไอ.เอ. มานับครั้งไม่ถ้วน
เขาจะมีบัตรประชาชนของทุกๆ ชาติที่เค้าเคยอาศัยอยู่ ขณะนี้เรายังจับทิศทางของบุคคลผู้นี้ไม่ได้
ผลงานล่าสุดของเขาก็คือ จับพนักงานค่ายรามสูรผู้หนึ่งไปซุกซ่อนเอาไว้ยังที่แห่งหนึ่งซึ่งเรายังค้นหาไม่พบ "

" แล้วเครื่องค้นหากระแสคลื่นวิทยุของเราล่ะครับ...หัวหน้า "

ผู้กองอังคาร...ซึ่งนั่งเงียบขรึมอยู่ตลอดเวลา เอ่ยถามขึ้นมาอย่างเคลือบแคลงใจ

" ใช้ไม่ได้ผล
สัญญาณจากเครื่องวิทยุที่ซุกซ่อนอยู่ในรองเท้าของพนักงานค่ายรามสูรทุกคน
ที่ออกจากค่ายพัก ได้ถูกถอดออกหรือไม่ก็ถูกดัดแปลงให้แจ้งทิศทางเท็จ...
หน่วยค้นหาของเราประสบความล้มเหลวมาแล้ว...ตำแหน่งที่สัญญาณวิทยุแจ้งมา...เป็นตำแหน่งเท็จ "

นอร์แมน...พูดออกมาด้วยท่าทางฉุนเฉียว พร้อมกับลุกขึ้นยืนด้วยความกระสับกระส่าย
เขาเดินไปมาอยู่ ชั่วอึดใจก็โพล่งออกมาอีกครั้งด้วยความร้อนใจ

" พนักงานค่ายรามสูรที่หายไป...เป็นคนแกะรอย...นายรังสรรค์
และโดยเฉพาะสมุดรหัสประจำวันของแผนกวิทยุก็พลอยหายไปด้วย
มันไม่น่าจะเป็นไปได้...ทำไม่...ทำไม พนักงานวิทยุคนนั้นจึงต้องเอาสมุดรหัสติดตัวไปด้วย ผมไม่เข้าใจจริงๆ "

ทุกคนในห้องยุทธการนิ่งเงียบ ไม่มีใครออกความเห็น
ผู้กองอังคาร...ใช้สายตาชำเลืองไปที่รูปอย่างเนือยๆ
แต่แล้วเขาก็เบิกตากว้างออกมาด้วยความตื่นเต้น เมื่อมองเห็นภาพดังกล่าวนั้นถนัดถนี่

หมอดาหลา...ซึ่งนั่งจ้องดูอากัปกิริยาของผู้กองอังคาร...อยู่ตลอดเวลารับส่งภาพดังกล่าวให้ เสมือนหนึ่งจะอ่านจิตใจออก

ผู้กองอังคาร...รับรูปมาดู ชั่วอึดใจก็เงยหน้าขึ้นมองนอร์แมน... แล้วกระซิบออกมาด้วยเสียงเครียด ๆ

" ใครจะว่าไอ้หมอนี่ชื่อ พันตรี โฮ วัน ฮัน , คำจันทร์ มณีวงศ์หรือว่านายรังสรรค์ ก็ตามที
แต่ผมขอยืนยันว่า [---]ตัวนี้เป็นนักล้วงระดับชาติ ชื่อไอ้เรือง รังของมันอยู่ที่ท่าเขียวไข่กา บางกระบือ โน่น
ไอ้ห่าจิกนี่เป็นสายลับไม่ได้หรอกครับ ขณะนี้ติดแคปซูลงอมแงม อนาคตของมันก็คือ สิงห์อมควัน...หัวหน้า "

นอร์แมน...จ้องหน้าผู้กองอังคาร...เขม็ง
ไอ้โล้น...ซึ่งนั่งอยู่ใกล้ๆ ถือวิสาสะแย่งรูปจากมือผู้กองอังคาร...ไปดูเอาดื้อๆ อยู่ครู่หนึ่ง ก็หัวเราะก๊ากออกมาสุดเสียง

" โธ่ถัง อุตส่าห์อธิบายประวัติไอ้ห่าจิกคนนี้เป็นคุ้งเป็นแคว...ประเดี๋ยวผมจะไปลากคอมันมาที่นี่
ใช่ครับมันชื่อไอ้เรือง.... " เรืองศักดิ์ หุบกระโทก " อดีตแมงดาท่าเขียวไข่กา
ซึ่งเคยเชิดฉิ่งกับทหารม้ายานเกราะมาแล้วอย่างโชกเลือด จนต้องญาติดีกัน
เพราะไอ้หอกนี่มันทนมือทนตีน...โธ่ถังคุณหมอก็พูดเป็นเล่นไปได้ว่าไอ้หอกนี่เคยเรียนที่มอสโคว์ "

นอร์แมน...นิ่งเงียบ เขาดึงรูปจากมือไอ้โล้น...ไปดูด้วยความพินิจพิจารณา แล้วพึมพำออกมาเบาๆ

" คำยืนยันของหมอ...ของผู้กองและมิสเตอร์โล้น...คือข้อมูลที่ผมต้องการคำตอบ
ข้อมูลของ ซี.ไอ.เอ. ไม่เคยพลาด บุคคลผู้นี้อาจจะเป็นได้ทุกอย่างตามที่พวกคุณเคยรู้จัก
แต่ขณะนี้ปัญหาใหญ่หลวงที่สุดที่เราจะต้องแก้ให้ได้ก็คือบุคคลในภาพดังกล่าวนี้อยู่ที่ไหน "

" ไม่เป็นปัญหาเจ้านาย...อีกสองชั่วโมงผมกับไอ้แสบ จะเอาไอ้ขี้ยาระดับชาติคนนี้มาที่แผนกนี้ให้ได้
มันจะเป็นใคร...ประเดี๋ยวเราจะได้พิสูจน์กัน "

ไอ้โล้น...ทะลุกลางปล้องขึ้นมาอย่างเหลืออด

" เอามันไปที่สถานีที่สอง หลังวัดประชาระบือธรรมผมจะรอพวกคุณอยู่ที่นั่นเลิกกัน "

นอร์แมน...ตัดบทอย่างห้วน ๆ แล้วลุกออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว

เสียงหวูดเรือด่วนสายบ้านแพนดังกังวานก้องแม่น้ำเจ้าพระยา
ความเร็วของเรือที่กำลังวิ่งแหวกสายน้ำอยู่กึ่งกลางแม่น้ำ
ทำให้บังเกิดคลื่นมหาศาลวิ่งทยอยกันเข้ามากระทบฝั่งเป็นระลอก ความรุนแรงของมันทำให้ดินตามชายตลิ่งพังลงเป็นแถว
เด็กๆ ที่เล่นน้ำอยู่ตามชายฝั่งหัวเราะชอบอกชอบใจพร้อมกับดำผุดดำว่ายโต้คลื่นกันอย่างสนุกสนาน

อากาศมืดลงทุกขณะ...ในไม่ช้าทั่วอาณาเขตของท่าน้ำเขียวไข่กาก็มัวซัวลง
จนกระทั่งบางบ้านซึ่งแออัดยัดเยียดอยู่นั้น ต้องรีบจุดตะเกียงขึ้นมาอย่างปัจจุบันทันด่วน

จากอดีตถึงปัจจุบัน...
ถึงแม้ว่าความเจริญในด้านวัตถุของกรุงเทพมหานครจะรุดหน้าไปอย่างไม่หยุดยั้ง
ตึกรามบ้านช่องที่ผุดขึ้นมาเหมือนกับดอกเห็ด จนมองดูเหมือนกับว่าไม่มีที่ว่างพอที่จะหายใจได้ก็ตามที
แต่ทว่าภายในสลัมซึ่งอยู่ห่างจากตึกรามบ้านช่องไม่กี่สิบเมตร ก็ยังคงยืนสภาพเดิมอย่างเหนียวแน่น...

อุปกรณ์ทุกชนิดเท่าที่จะหาได้ เป็นต้นว่า ลังสบู่หรือกล่องกระดาษ
ถูกนำมาสร้างบ้านอยู่อย่างง่าย ๆ แออัดยัดเยียดกันอยู่ภายในสลัม ซึ่งเรียงรายเป็นพืดอยู่ในพื้นที่แคบๆ นั้น

อาชีพหลักของชาวสลัมมีแทบทุกชนนิด
บางคนก็ทำงานมีหลักฐาน บางคนก็เป็นข้าราชการ ทหาร และตำรวจ อยู่สลัมมานาน จนกระทั่งไม่อยากจะย้ายไปอยู่แห่งอื่น
อุตสาห์แต่งบ้านเรือนที่ละเล็กละน้อย จนกระทั่งใหญ่โต
มีอุปกรณ์เครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ทีวี...ตู้เย็น...พัดลม
บางคนก็เลยเถิดมีจนกระทั้งรถเก๋งขี่...
ถึงจะไม่มีที่จอด พวกเขาก็แก้ปัญหาด้วยการอาศัยที่จอดตามปั้มซึ่งคิดเป็นรายเดือน สบายตัวไป

สลัมในละแวกเดียวกัน กลายเป็นนิคมของโสเภณีอย่างช่วยเหลือไม่ได้
โสเภณีค้างปีตั้งแต่รุ่นญี่ปุ่นขึ้น ปลดระวางตัวเองเป็นแม่เล้าระดับชาติ
อาศัยประสบการณ์ในอดีตปกครองโสเภณีรุ่นลูก ทำมาหากินกันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน

" [---]...มืดแล้วนะมึง เปิดไฟแต่งเนื้อแต่งตัวเตรียมทำงานได้แล้ว
เฮ้อ...อีจิ๋วออกไปท่าน้ำซื้อ " ของ " ให้พี่เรืองเค้าด้วย...อีห่าอย่าเสือกช้านะมึง...พี่เรืองกระทืบมึงตายห่าไม่รู้ด้วย "

เสียงห้าวลึกของแม่เล้า รูปร่างอ้วนเหมือนกับหมูตอนดังคับตรอก
ชั่วอึดใจเจ้าของเสียงก็เดินย้ายก้นแผละๆ ออกจากประตูที่จวนจะพังแหล่ มุ่งหน้าไปยังเรือนทรงประหลาดซึ่งตั้งอยู่ติดๆ กันนั้น

ไอ้แสบ , ไอ้โล้น , ผู้กองอังคาร...ซึ่งเดินเมาสะเงาะสะแงะอยู่ในนตรอก หยุดชะงักกึก
ส่วนแม่เล้าพอเห็นลักษณะท่าทางของเพชฌฆาตทั้งสามก็เปิดปากยิ้มหวานจ๋อย

" เที่ยวหรือคะคุ้น...เชิญเลยค่า ประเดิมๆ หัวค่ำ แบบนี้ ไม่มีใครรบกวนดี...เชิญเลยค่ะ "

ไอ้โล้น...เดินเอียงเข้ามาหาแม่เล้าระดับชาติ ด้วยท่าทางงอกแงก มือข้างหนึ่งยกขึ้นไปจับแก้มเขย่าด้วยท่าทางคึกคะนอง

" อุ๊ยตายพี่โล้น...นึกว่าใครที่ไหน เชิญสิคะ เฮ้ยอีหนู...อาเสี่ยเหมืองแร่มาแล้วโว้ย "

ประโยคสุดท้าย แม่เล้าตะเบ็งออกมาสุดเสียง พร้อมกับผละเข้าไปข้างใน

" มึงมาวางมาดอะไรที่นี่วะไอ้โล้น...ไอ้ห่า เสือกคุยว่าเป็นเศรษฐีเหมืองแร่...ชะจะแดกไปวันหนึ่งๆ ก็ยังไม่มี "...

"อย่าตัดสินใครโดยไม่ได้ถามเขาสักคำ หรือ แค่ฟังคนอื่นเขามา ชีิวิตคนก็เหมือนสะพาน  มีขึ้นมีลง มีสูงมีต่ำ  สุดท้ายก็ตายเหมือนกัน" สมิง วังม่วง 0884763428

บันทึกการเข้า

สมิง วังม่วง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 68
ออฟไลน์

กระทู้: 7628


tel. 0861810566


« ตอบ #11863 เมื่อ: มีนาคม 22, 2016, 06:21:47 AM »

อัพเดตราคา ปืน และกระสุน แหล่งซื้อ (สมัครสมาฃิก) http://2013.gun.in.th/index.php?topic=66241.0
บันทึกการเข้า

สมิง วังม่วง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 68
ออฟไลน์

กระทู้: 7628


tel. 0861810566


« ตอบ #11864 เมื่อ: มีนาคม 23, 2016, 07:42:08 AM »

อัพเดตตลาดปืนมือ2 วันนี้ (สมัครสมาชิก) http://2013.gun.in.th/index.php?board=6.0
บันทึกการเข้า

หน้า: 1 ... 788 789 790 [791] 792 793 794 ... 812
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.331 วินาที กับ 23 คำสั่ง