หากประจัญบานระยะของลูกซอง ไม่มีปืนอะไรสู้ลูกซองได้แน่นอนครับ แต่ประเด็นคือเวลาเกิดเหตุการณ์แบบนี้มันเป็นสงครามในเมืองที่ไม่ได้ประกาศ ไม่รู้ว่าใครเป็นฝ่ายไหนกันบ้าง... ขืนตั้งท่าประจัญบานตูมๆ แบบฟ้าถล่มทลาย ก็เท่ากับส่งบัตรเชื้อเชิญแขกที่ไม่พึงประสงค์โผล่มาตามล่าเราน่ะซิครับ...
ปัญหาของลูกซองมีสามเรื่องหากเอามาใช้งานในสงครามในเมืองที่มีแต่ความคลุมเครือทั้งวัตถุประสงค์ และการจำแนกฝ่ายมิตรหรือศัตรูมี 3 ข้อคือ 1) ระยะยิงใกล้ไป ลูก OO Buck หวังผลแค่ไม่เกิน 30 - 50 เมตร ซึ่งระยะนั้นหากยิงชุดแรกกดไว้ไม่อยู่จะโดนคน"เป็นงาน"สวน, 2) เสียงดังจะเรียกให้ฝ่ายตรงข้ามแห่กันมา(อาจโดนไรเฟิ่ลโจมตี หรือเครื่องยิงลูกระเบิดหยอดใส่), 3) ประกายไฟสว่าง เปิดเผยตำแหน่งตนเอง...
ส่วนลูกกรดก็ตรงข้ามคือแม่นกว่า+เงียบกว่า+รีคอยล์ต่ำ+ระยะยิงไกลกว่า โดยเฉพาะหากยิงลอดหน้าต่างที่แง้มเอาไว้ออกไปข้างถนน เช่นจากชั้นสองลงไปหาคนยืน+หมอบซุ่มอยู่ที่เสาไฟฟ้า ป้ายรถเมล์ ฯลฯ ระยะห่างหน่อยอยู่ริมถนน เป้าจะแทบไม่ได้ยินเสียงปืนเลย... พวกเราเป็นพลเรือนนักนิยมปืน ใช้ปืนเพื่อป้องกันบ้านนะครับ หากประจัญบานซึ่งหน้า(ไม่ได้แอบยิง)จะไม่มีทางสู้กับทหารพรานได้เลย(ตามข่าวจากสื่อฯ)...
ดังนั้นกลยุทธคือแอบยิง+ยิงก่อน+ให้เจ็บ+ตายหลายๆคนในเวลาสั้นที่สุด(เชื่อว่า 11 คนหนึ่งหมู่ปืนเล็ก หากกลิ้ง+หงายท้อง+หมดความสามารถในการต่อสู้เสียประมาณครึ่งหนึ่งในเวลาไม่เกินครึ่งนาที เพราะโดนยิงไม่ทันรู้ตัว - หมู่ปืนเล็กนั้นละลายแล้วครับ) แล้วค่อยหาโอกาสซ้ำตามโอกาส... แต่ก่อนอื่นให้ยิงแล้วหนีครับ... แฮ่ๆ...
แล้ว นายสมชาย(ฮา) เอา ม้าแก่ ไปใว้ไหนซ่ะหล่ะ?
ในการรบในเมือง ไม่ได้มีกฏิกา หรือ กฎอะไรเขียนห้ามใว้ ผม เลยคิดอย่าง ง่าย ๆ โดยเอา 4P ของการตลาดมาใช้ Product, Price, Place and Promotion มาเป็น Person, Power, Place and Position
Person คือ คนที่ลั่นไก และ คนชี้เป้า
Power คือ อำนาจการยิง ของปืน และ การยิง ซ้ำ
Place คือ สถานที่ ซุ่มยิง ที่ได้เปรียบ เช่น อยู่ในที่รก หรือ ในอาคารปิดมิดชิด
Position คือ ตำแหน่ง ในการวางปืน เช่น การอยู่ในเงามืดของ อาคาร ไม่ยื่นปืนออกไปนอกอาคาร หรือ ที่หลบซ่อน