๏ฟฝ๏ฟฝ็บบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝสน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาปืน
เมษายน 27, 2024, 02:19:07 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 [2]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เตือน Weihrauch HW100T ลมรั่ว  (อ่าน 16046 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Terk Tark
คนดีถือปืนเป็นศรีแก่ตัว คนไม่ดีถือปืนเป็นภัยต่อคนอื่น
Moderator
Hero Member
*****

คะแนน 188
ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1836



« ตอบ #15 เมื่อ: ธันวาคม 15, 2009, 03:53:22 PM »

เวลาขันหลอดลมเข้ากับตัวปืนได้ฝืนหรือเปล่าครับถ้าหลอดลมปีนเกลียวนี้ก็ทำให้ลมรั่วได้นะครับ ถ้าไม่ปีนเกลียวก็แสดงว่าไม่ได้เป็นกับหลอดลมเเล้ว แต่ในกรณีที่ใส่หลอดลมเข้าไปเเล้วลมรั่วออกแสดงว่ายางโอริงมีปัญหาตรงแถวๆห้องพักลมหรือไม่ก็ตรงส่วนที่เป็นวาวปล่อยลมเกิดรั่วซึมนิดๆ

การยิงลมทิ้งเปล่าไม่เป็นผลเสียต่อปืนครับ เป็นผลดีต่อปืนด้วยซ้ำไปครับ ตัวอย่างนักกีฬาเวลาที่เขากำลังจะแข่งยิง เขาจะต้องเทสลมปืนก่อนโดยการขึ้นลำเเล้วยิงลมทิ้งเปล่าไปซัก 3 - 4 ครั้ง และนอกจากนี้ยังช่วยเป่าเศษฝุ่นหรืออะไรก็ตามที่อยู่ภายในลำกล้องออกด้วยครับ และหลังจากจบการแข่งขันยิงเสร็จ เขาก็จะเทสปืนโดยการยิงลมทิ้งอีก 3 - 4 ครั้งจึงค่อยถอดหลอดลมออก

อีกเรื่องที่สำคัญคือเวลาที่เลิกใช้ปืนเเล้วต้องหมุนคลายหลอดลมปืนออกทุกครั้งนะครับโดยอย่าให้แรงดันลมอยู่ในตัวปืนเป็นเวลานานๆเพราะมันจะทำให้ยางโอริงหรือตรงก้นวาวลมเสื่อมสภาพเร็วเกิดอาการลมรั่วซึมได้ครับ

ถ้าอาการเกิดจากเป็นที่ยางโอริงที่ว่าต้องถอดออกมาเช็คดูว่ายางโอริงฉีกขาดหรือเปล่า
ถ้าเกิดจากลมรั่วตรงก้นวาวปล่อยลมก็ต้องเปลี่ยนใหม่ครับ
ต่อไปคงต้องถอดท่อลมออกหลังเลิกยิงตามที่คุณTerk Kung แนะนำ
แหมแต่แบบนี้เวลาจะยิงนัดหนึ่ง ใส่ท่อลมทีหนึ่งอาจจะไม่ค่อยทันใจกับพฤติกรรม
การยิงแบบของผม
ถ้าจะยิงแบบนั้นสงสัยคงต้องหาปืนอัดลมสปริงอย่างที่คุณ MAGNUM-60 บอกไว้ซักกระบอกเเล้วแหละครับ  Grin
แต่ถ้าเป็นปืนอัดอากาศก็อาจจะใส่หลอดลมเข้าไปใช้ไม่ใช้ก็ซักครึ่งวันก็ค่อยถอดออกก็ได้ครับ ถ้าไม่ลืมซะก่อน  Shocked
แล้วนี่จอง AA 410 เอาไว้ คล้ายกับว่าจะถอดท่อลมออกไม่ได้นี่ครับ
แล้วมิต้องยิงจนลมหมดท่อหรือครับ เอ..หรือมีตัวถ่ายลมออกได้ครับ
ถ้าเป็นเจ้า AA ไม่เป็นปัญหาหรอกครับ Grin พวกนี้กินลมเยอะอยู่เเล้วครับ ปรับแรงดัดสูงสุดยิงแปปๆแรงลมก็อ่อนหมดเเล้วครับ
ถ้าเป็นกรณีนี้มันจำเป็นจริงๆ ก็ถ้าจะเก็บไว้นานๆไม่ค่อยได้ยิงก็ควรจะเติมลมไว้ไม่ต้องเต็ม 200Bar อาจจะเติมไว้เพียง 100 - 150Bar เท่านั้น ก็ยิงไปเรื่อยๆจนแรงลมอ่อนกว่าที่กำหนดถึงค่อยเติมใหม่ ถ้าวันไหนเกิดอยากยิงเยอะก็ถึงค่อยเติม 200Bar เเล้วยิงจนลมเหลืออ่อนๆถึงค่อยเก็บก็จะเป็นการยืดอายุการใช้งานออกไปได้อีก
บันทึกการเข้า
Terk Tark
คนดีถือปืนเป็นศรีแก่ตัว คนไม่ดีถือปืนเป็นภัยต่อคนอื่น
Moderator
Hero Member
*****

คะแนน 188
ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1836



« ตอบ #16 เมื่อ: ธันวาคม 15, 2009, 03:57:14 PM »

ไม่เอารูปอาการปืนป่วยมาลงให้ชมด้วยหล่ะครับจะได้เป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ใช้รุ่นนี้อยู่และจะได้หาวิธีแก้ไงได้ง่ายไขึ้นครับ
บันทึกการเข้า
ผณิศวร เกิดในรัชกาลที่ ๙
Guns & Games Staff
Hero Member
*****

คะแนน 1437
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6038



« ตอบ #17 เมื่อ: ธันวาคม 16, 2009, 12:01:19 AM »

........การยิงลมทิ้งเปล่าไม่เป็นผลเสียต่อปืนครับ เป็นผลดีต่อปืนด้วยซ้ำไปครับ ตัวอย่างนักกีฬาเวลาที่เขากำลังจะแข่งยิง เขาจะต้องเทสลมปืนก่อนโดยการขึ้นลำเเล้วยิงลมทิ้งเปล่าไปซัก 3 - 4 ครั้ง และนอกจากนี้ยังช่วยเป่าเศษฝุ่นหรืออะไรก็ตามที่อยู่ภายในลำกล้องออกด้วยครับ และหลังจากจบการแข่งขันยิงเสร็จ เขาก็จะเทสปืนโดยการยิงลมทิ้งอีก 3 - 4 ครั้งจึงค่อยถอดหลอดลมออก
.........

ถ้าเป็นการแข่งขันระบบสากล  หลังคำสั่ง "เริ่มยิง" จับเวลาแล้ว ให้ทดสอบศูนย์ได้  ต้องยิงทิ้งลมในช่วงเริ่มต้นนี้ครับ  หลังจากทดสอบศูนย์จนพอใจแล้ว  เริ่มยิงนับคะแนน จากนี้ห้ามยิงทิ้งลมครับ  ถ้ายิงจะถือว่ากระสุนไม่เข้าเป้าได้คะแนนศูนย์สำหรับนัดนั้น   เพราะระบบสากลใช้เครื่องจับเสียงปืนเทียบกับเสียงกระสุนที่เป้าเพื่อบอกคะแนนครับ  มีเสียงปืนแต่ไม่มีกระสุนกระทบเป้า เครื่องจะขึ้นคะแนนศูนย์
บันทึกการเข้า

ผมเป็นลูกหลานจีนอพยพ  ทวดแซ่อิ๊ว ตาแซ่เล้า ปู่แซ่อึ๊ง   
เมืองไทยให้โอกาสทุกอย่าง  ไม่มีข้ออ้างเรื่องชนชั้น
ผมได้กราบแทบพระบาทในหลวงเป็นมงคลสูงสุดของชีวิต
Terk Tark
คนดีถือปืนเป็นศรีแก่ตัว คนไม่ดีถือปืนเป็นภัยต่อคนอื่น
Moderator
Hero Member
*****

คะแนน 188
ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1836



« ตอบ #18 เมื่อ: ธันวาคม 16, 2009, 12:24:19 AM »

........การยิงลมทิ้งเปล่าไม่เป็นผลเสียต่อปืนครับ เป็นผลดีต่อปืนด้วยซ้ำไปครับ ตัวอย่างนักกีฬาเวลาที่เขากำลังจะแข่งยิง เขาจะต้องเทสลมปืนก่อนโดยการขึ้นลำเเล้วยิงลมทิ้งเปล่าไปซัก 3 - 4 ครั้ง และนอกจากนี้ยังช่วยเป่าเศษฝุ่นหรืออะไรก็ตามที่อยู่ภายในลำกล้องออกด้วยครับ และหลังจากจบการแข่งขันยิงเสร็จ เขาก็จะเทสปืนโดยการยิงลมทิ้งอีก 3 - 4 ครั้งจึงค่อยถอดหลอดลมออก
.........

ถ้าเป็นการแข่งขันระบบสากล  หลังคำสั่ง "เริ่มยิง" จับเวลาแล้ว ให้ทดสอบศูนย์ได้  ต้องยิงทิ้งลมในช่วงเริ่มต้นนี้ครับ  หลังจากทดสอบศูนย์จนพอใจแล้ว  เริ่มยิงนับคะแนน จากนี้ห้ามยิงทิ้งลมครับ  ถ้ายิงจะถือว่ากระสุนไม่เข้าเป้าได้คะแนนศูนย์สำหรับนัดนั้น   เพราะระบบสากลใช้เครื่องจับเสียงปืนเทียบกับเสียงกระสุนที่เป้าเพื่อบอกคะแนนครับ  มีเสียงปืนแต่ไม่มีกระสุนกระทบเป้า เครื่องจะขึ้นคะแนนศูนย์
ขอบคุณมากครับอาจารย์ ลืมสนิทเลยข้อนี้  Smiley
แล้วที่สนามกีฬาหัวหมากมีระบบจับเสียงด้วยหรือเปล่าครับหรือมีแต่ระบบเซนเซอร์  ไหว้
บันทึกการเข้า
spear gun
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 20
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 727



« ตอบ #19 เมื่อ: ธันวาคม 16, 2009, 02:07:10 PM »

Smiley ผมใช้  HW100 No.1 อยู่ครับ
Huh  ที่รูระบายซึ่งทะลุถึงกันกับเกลียวต่อท่อ ตรงด้านล่าง   >>>>ขออภัยจริงๆ ผมนึกภาพไม่ออกครับ การตรวจสอบ กับ
ตัวไหนที่เป็นปัญหา . ไหว้[/size]

ปล..มีสมาชิกท่านใดใช้ HW100T เบอร์ 1. บ้างครับ Smiley ไหว้
ถอดพานท้ายออก หงายโครงปืนด้านล่างขึ้นมา
ตรงตำแหน่งเกลียวที่ต่อท่อลม จะมองเห็นรูเล็กๆประมาณ
2 มม. รูนี้จะเจาะทะลุถึงเกลียวในที่ยึดท่อลมครับ
บันทึกการเข้า
sitta.
Hero Member
*****

คะแนน 488
ออฟไลน์

กระทู้: 7275


« ตอบ #20 เมื่อ: ธันวาคม 16, 2009, 03:14:08 PM »

เวลาขันหลอดลมเข้ากับตัวปืนได้ฝืนหรือเปล่าครับถ้าหลอดลมปีนเกลียวนี้ก็ทำให้ลมรั่วได้นะครับ ถ้าไม่ปีนเกลียวก็แสดงว่าไม่ได้เป็นกับหลอดลมเเล้ว แต่ในกรณีที่ใส่หลอดลมเข้าไปเเล้วลมรั่วออกแสดงว่ายางโอริงมีปัญหาตรงแถวๆห้องพักลมหรือไม่ก็ตรงส่วนที่เป็นวาวปล่อยลมเกิดรั่วซึมนิดๆ

การยิงลมทิ้งเปล่าไม่เป็นผลเสียต่อปืนครับ เป็นผลดีต่อปืนด้วยซ้ำไปครับ ตัวอย่างนักกีฬาเวลาที่เขากำลังจะแข่งยิง เขาจะต้องเทสลมปืนก่อนโดยการขึ้นลำเเล้วยิงลมทิ้งเปล่าไปซัก 3 - 4 ครั้ง และนอกจากนี้ยังช่วยเป่าเศษฝุ่นหรืออะไรก็ตามที่อยู่ภายในลำกล้องออกด้วยครับ และหลังจากจบการแข่งขันยิงเสร็จ เขาก็จะเทสปืนโดยการยิงลมทิ้งอีก 3 - 4 ครั้งจึงค่อยถอดหลอดลมออก

อีกเรื่องที่สำคัญคือเวลาที่เลิกใช้ปืนเเล้วต้องหมุนคลายหลอดลมปืนออกทุกครั้งนะครับโดยอย่าให้แรงดันลมอยู่ในตัวปืนเป็นเวลานานๆเพราะมันจะทำให้ยางโอริงหรือตรงก้นวาวลมเสื่อมสภาพเร็วเกิดอาการลมรั่วซึมได้ครับ

ถ้าอาการเกิดจากเป็นที่ยางโอริงที่ว่าต้องถอดออกมาเช็คดูว่ายางโอริงฉีกขาดหรือเปล่า
ถ้าเกิดจากลมรั่วตรงก้นวาวปล่อยลมก็ต้องเปลี่ยนใหม่ครับ
ต่อไปคงต้องถอดท่อลมออกหลังเลิกยิงตามที่คุณTerk Kung แนะนำ
แหมแต่แบบนี้เวลาจะยิงนัดหนึ่ง ใส่ท่อลมทีหนึ่งอาจจะไม่ค่อยทันใจกับพฤติกรรม
การยิงแบบของผม

ผมไม่เคยถอดท่อลมออกครับ ใส่ไว้ตลอดเวลาจะดีกว่า ถ้าฝุ่นเข้าไปได้ปัญหาใหญ่กว่าครับ
บันทึกการเข้า
sitta.
Hero Member
*****

คะแนน 488
ออฟไลน์

กระทู้: 7275


« ตอบ #21 เมื่อ: ธันวาคม 16, 2009, 03:20:46 PM »

หรืออาจเป็นไปได้ว่าได้มีการถอดกระบอกลมออกตอนลมแรงอัดสูงบ่อย ๆ ทำให้ซีลที่ตัวปืนยุ่ยเร็ว
ลองเปลียนซีลที่ปืนดูครับ ตัวเล็ก ๆ ที่อยู่หมุนกระบอกลมเข้าไปนั้นหละครับ  ลองสลับกับซีลที่ตัวเติมลม
ทองเหลืองดูก็ได้ ผมไม่แน่ใจว่ามันถอดง่ายหรือเปล่า
ใช่ครับ ตัวนี้แหละที่ว่าจะลองตีฟองสบู่ทดสอบดู ถ้ารั่วจะลอง
สลับกับซีลตัวเติมลม อย่างที่คุณสิทธาแนะนำ ซีลตัวนี้น่าจะทำงานหนัก
โดนเสียบเข้าดึงออก ถูไถอยู่บ่อยๆภายใต้แรงกดอาจเกิดแผลถลอกก็
เป็นได้ครับ Cheesy Cheesy

น้าน เอาอีกแล้ว คุยกันดี ๆ ไปพาดพิงเรื่องเสียบเข้าเสียบออก ถู ๆ ไถๆ จนเป็นแผลถลอกอีกละ 
เอาอย่างนี้ทีหลังลองไปหาวาสลินเอามาป้ายไม่ให้มีความฝืด ไม่ใช่วาสลินธรรมดานะ 
แต่น่าจะมีอยู่แถวร้านขายอุปกรณ์ถังดำน้ำ   เคยได้ยินใครเล่าให้ฟังว่า เขามักเอาไว้ป้ายตามซีล
ทีต้องโดนถูไถบ่อย ๆ ทำให้ทนทานขึ้นไม่เป็นแผลง่าย


เจอแล้วรั่วไอ้ตัวนี่แหละ หลังจากใช้โฟมกวนหนวด ป้ายรอบรอยต่อ
ระหว่างท่อลมกับปืน ทีแรกยังเฉยอยู่ แต่พอป้ายที่รูระบายซึ่งทะลุถึงกันกับเกลียว
ต่อท่อ ตรงด้านล่าง ปุด ปุด มาเลย สบายใจตัวนี้แก้ง่าย แต่ผมจะยังไม่สลับกับตัว
หัวทองเหลืองเติมลม เพราะยังพอใช้ได้ โดยฉีดทำความสะอาดด้วยน้ำยา คอนแท็ค
คลีนเนอร์ กำจัดคราบฝุ่น ไขมันและซิลิคอนออล์ยที่ป้ายหล่อลื่นซีลออก ทดสอบใหม่
ผ่านครับ ยังไงของคุณสิทธาก็ระวังหน่อยนะครับ ถึงจะหล่อลื่นด้วยวาสลิน แต่เสียบเข้า
ออกหนักๆบ่อยๆ มีสิทธิ์ถลอกเหมือนกันนะ อิ อิ

นั้นไงปัญหาแค่เรื่องขี้ผงจริง ๆ ด้วย
บันทึกการเข้า
airarm
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #22 เมื่อ: ธันวาคม 16, 2009, 03:39:39 PM »

Smiley ผมใช้  HW100 No.1 อยู่ครับ
Huh  ที่รูระบายซึ่งทะลุถึงกันกับเกลียวต่อท่อ ตรงด้านล่าง   >>>>ขออภัยจริงๆ ผมนึกภาพไม่ออกครับ การตรวจสอบ กับ
ตัวไหนที่เป็นปัญหา . ไหว้[/size]

ปล..มีสมาชิกท่านใดใช้ HW100T เบอร์ 1. บ้างครับ Smiley ไหว้
ถอดพานท้ายออก หงายโครงปืนด้านล่างขึ้นมา
ตรงตำแหน่งเกลียวที่ต่อท่อลม จะมองเห็นรูเล็กๆประมาณ
2 มม. รูนี้จะเจาะทะลุถึงเกลียวในที่ยึดท่อลมครับ

       ไหว้     ขอบคุณครับ     เยี่ยม
บันทึกการเข้า
size s
Full Member
***

คะแนน 20
ออฟไลน์

กระทู้: 358



« ตอบ #23 เมื่อ: ธันวาคม 17, 2009, 02:07:02 AM »

จริงๆแล้วการยิงลมทิ้งในช่วงก่อนการแข่งขันั้นในสมัยนี้ไม่จำเป็นเลยครับเพราะส่วนใหญ่เป็นระบบอากาศซึ่งมี เกย์วัดทั้ที่ทั้งเติมและที่ท่อเติมลม แต่ในอดีต สวนใหญ่เป็น co2 ซึ่งนักกีฬายิงทิ้งเพื่อให้ co2 ส่วนเกินออกไป โดยนักกีฬาจะสังเกตจนลำ co2 ที่ออกจากลำกล้องเป็นลำตรง จึงเริ่มยิง
แต่หลายคนไม่ทราบเหตุผลที่แท้จริงก็ยิงตามเขาไป 
    สำหรับระบบอากาศดูที่บาร์ดเอาก็ okแล้วครับ การยิงลมออกบ่อยๆโดยไม่มีกระสุนก็ไม่ได้ดีเสมอไป สำหรับบางยี่ห้อหรอกครับ ควรศึกษาแต่ละรุ่นแต่ละระบบไป มิฉนั้นคงไม่ต้องออกแบบให้มีตัวปรับเพื่อ dry fire  หรอกครับ
บันทึกการเข้า
size s
Full Member
***

คะแนน 20
ออฟไลน์

กระทู้: 358



« ตอบ #24 เมื่อ: ธันวาคม 17, 2009, 02:22:10 AM »

........การยิงลมทิ้งเปล่าไม่เป็นผลเสียต่อปืนครับ เป็นผลดีต่อปืนด้วยซ้ำไปครับ ตัวอย่างนักกีฬาเวลาที่เขากำลังจะแข่งยิง เขาจะต้องเทสลมปืนก่อนโดยการขึ้นลำเเล้วยิงลมทิ้งเปล่าไปซัก 3 - 4 ครั้ง และนอกจากนี้ยังช่วยเป่าเศษฝุ่นหรืออะไรก็ตามที่อยู่ภายในลำกล้องออกด้วยครับ และหลังจากจบการแข่งขันยิงเสร็จ เขาก็จะเทสปืนโดยการยิงลมทิ้งอีก 3 - 4 ครั้งจึงค่อยถอดหลอดลมออก
.........

ถ้าเป็นการแข่งขันระบบสากล  หลังคำสั่ง "เริ่มยิง" จับเวลาแล้ว ให้ทดสอบศูนย์ได้  ต้องยิงทิ้งลมในช่วงเริ่มต้นนี้ครับ  หลังจากทดสอบศูนย์จนพอใจแล้ว  เริ่มยิงนับคะแนน จากนี้ห้ามยิงทิ้งลมครับ  ถ้ายิงจะถือว่ากระสุนไม่เข้าเป้าได้คะแนนศูนย์สำหรับนัดนั้น   เพราะระบบสากลใช้เครื่องจับเสียงปืนเทียบกับเสียงกระสุนที่เป้าเพื่อบอกคะแนนครับ  มีเสียงปืนแต่ไม่มีกระสุนกระทบเป้า เครื่องจะขึ้นคะแนนศูนย์
ขอบคุณมากครับอาจารย์ ลืมสนิทเลยข้อนี้  Smiley
แล้วที่สนามกีฬาหัวหมากมีระบบจับเสียงด้วยหรือเปล่าครับหรือมีแต่ระบบเซนเซอร์  ไหว้





  ในการแข่งขันถ้าใช้เป้ากระดาษก็มี score keeper หรือผู้บันทึกคะแนนไม่เป็นทางการอยู่ด้านหลัง   และ jury ที่รับผิดชอบช่องยิงนั้นๆ คอยสังเกตและบันทึกนัดยิงอยู่  ท่านยิงออกไปตามที่ท่าน อาจารย์ผนิศวร  กล่าวไว้ ก็ถือว่าเป้านั้นเสย คะแนนในนัดนั้นไป 
   หากเป็นเป้าอิเลคโทนิค ก็มี jury ที่รับผิดชอบอยู่คอยสังเกต และเครื่องจะไม่ปรากฎนัดยิง


     เครื่องจับเสียงก็คือเครื่องจับเซนเซอ เสียงที่กระสุนตกกระทบเป้าจะมีเซนเซอในการอ่านเสียงกระทบในตำบลกระสุนตกและ ผ่นโปรแกรมอ่านมาเป็นแต้มคะแนน
บันทึกการเข้า
size s
Full Member
***

คะแนน 20
ออฟไลน์

กระทู้: 358



« ตอบ #25 เมื่อ: ธันวาคม 17, 2009, 02:28:11 AM »

เสียงที่ดังภายนอกเป้าไม่มีผล แต่ทีจับได้เนื่องจาก jury ที่รับผิดชอบได้ยินเสียงในช่องยิงนั้นแต่เครื่องไม่ปรากฎนัดยิง   แต่ถาเป็นความบกพร่องเพราะเครื่องนักกีฬาต้องรีบแจ้ง jury โดยหนึ่งคนก็มีจอของตัวเองอยู่แล้ว  การพิสูจน์ไม่ยากเพราะหน้าเปาก็มีรูกระสุนให้ดูนัดยิงเหมือนกัน
บันทึกการเข้า
sitta.
Hero Member
*****

คะแนน 488
ออฟไลน์

กระทู้: 7275


« ตอบ #26 เมื่อ: ธันวาคม 17, 2009, 10:39:27 AM »

จริงๆแล้วการยิงลมทิ้งในช่วงก่อนการแข่งขันั้นในสมัยนี้ไม่จำเป็นเลยครับเพราะส่วนใหญ่เป็นระบบอากาศซึ่งมี เกย์วัดทั้ที่ทั้งเติมและที่ท่อเติมลม แต่ในอดีต สวนใหญ่เป็น co2 ซึ่งนักกีฬายิงทิ้งเพื่อให้ co2 ส่วนเกินออกไป โดยนักกีฬาจะสังเกตจนลำ co2 ที่ออกจากลำกล้องเป็นลำตรง จึงเริ่มยิง
แต่หลายคนไม่ทราบเหตุผลที่แท้จริงก็ยิงตามเขาไป 
    สำหรับระบบอากาศดูที่บาร์ดเอาก็ okแล้วครับ การยิงลมออกบ่อยๆโดยไม่มีกระสุนก็ไม่ได้ดีเสมอไป สำหรับบางยี่ห้อหรอกครับ ควรศึกษาแต่ละรุ่นแต่ละระบบไป มิฉนั้นคงไม่ต้องออกแบบให้มีตัวปรับเพื่อ dry fire  หรอกครับ

ผมชอบยิงที่แรงดันระหว่าง 50 -100 บาร์


บันทึกการเข้า
size s
Full Member
***

คะแนน 20
ออฟไลน์

กระทู้: 358



« ตอบ #27 เมื่อ: ธันวาคม 17, 2009, 11:10:02 AM »

จริงๆแล้วการยิงลมทิ้งในช่วงก่อนการแข่งขันั้นในสมัยนี้ไม่จำเป็นเลยครับเพราะส่วนใหญ่เป็นระบบอากาศซึ่งมี เกย์วัดทั้ที่ทั้งเติมและที่ท่อเติมลม แต่ในอดีต สวนใหญ่เป็น co2 ซึ่งนักกีฬายิงทิ้งเพื่อให้ co2 ส่วนเกินออกไป โดยนักกีฬาจะสังเกตจนลำ co2 ที่ออกจากลำกล้องเป็นลำตรง จึงเริ่มยิง
แต่หลายคนไม่ทราบเหตุผลที่แท้จริงก็ยิงตามเขาไป 
    สำหรับระบบอากาศดูที่บาร์ดเอาก็ okแล้วครับ การยิงลมออกบ่อยๆโดยไม่มีกระสุนก็ไม่ได้ดีเสมอไป สำหรับบางยี่ห้อหรอกครับ ควรศึกษาแต่ละรุ่นแต่ละระบบไป มิฉนั้นคงไม่ต้องออกแบบให้มีตัวปรับเพื่อ dry fire  หรอกครับ

ผมชอบยิงที่แรงดันระหว่าง 50 -100 บาร์



เพราะอะไรหรอครับพี่ sitta
บันทึกการเข้า
sitta.
Hero Member
*****

คะแนน 488
ออฟไลน์

กระทู้: 7275


« ตอบ #28 เมื่อ: ธันวาคม 18, 2009, 10:05:24 PM »

จริงๆแล้วการยิงลมทิ้งในช่วงก่อนการแข่งขันั้นในสมัยนี้ไม่จำเป็นเลยครับเพราะส่วนใหญ่เป็นระบบอากาศซึ่งมี เกย์วัดทั้ที่ทั้งเติมและที่ท่อเติมลม แต่ในอดีต สวนใหญ่เป็น co2 ซึ่งนักกีฬายิงทิ้งเพื่อให้ co2 ส่วนเกินออกไป โดยนักกีฬาจะสังเกตจนลำ co2 ที่ออกจากลำกล้องเป็นลำตรง จึงเริ่มยิง
แต่หลายคนไม่ทราบเหตุผลที่แท้จริงก็ยิงตามเขาไป 
    สำหรับระบบอากาศดูที่บาร์ดเอาก็ okแล้วครับ การยิงลมออกบ่อยๆโดยไม่มีกระสุนก็ไม่ได้ดีเสมอไป สำหรับบางยี่ห้อหรอกครับ ควรศึกษาแต่ละรุ่นแต่ละระบบไป มิฉนั้นคงไม่ต้องออกแบบให้มีตัวปรับเพื่อ dry fire  หรอกครับ

ผมชอบยิงที่แรงดันระหว่าง 50 -100 บาร์



เพราะอะไรหรอครับพี่ sitta

1. เสียงไม่ดัง
2. กระสุนไม่แรงเกินไป ไม่ต้องซ่อมรั้ว ซ่อมหลังคาบ่อย
    เพราะเป็นแรงดันตกต่ำแล้วในแถบเหลือง ที่คู่มือบอกว่าถ้าไม่เติมความเร็วกระสุนจะไม่ได้ตามสเปค
3. เหมาะสำหรับกระสุนปืนอัดลมในตลาดบ้านเรา ทำให้มีความแม่นยำดีกว่าเติมลมเต็ม
4. ถนอมซีล และเกลียวท่ออัดลม เพราะไม่ต้องรับแรงเค้นมาก
5. เกจวัดแรงดันอายุยืนเพราะโลหะท่อรูลมไม่ต้องง้างตัวดีดออกมาก

ทำเป็นยกเหตุผลไปงั้นหละครับ ที่สำคัญที่สุดคือความปลอดภัยครับ ผมคำนึงมาก่อนสิ่งอื่นใด
เพราะผมยิงนกพิราบแนวกระสุนขึ้นบนหลังคา แล้วความดันระหว่างนี้มันให้ความแม่นยำที่
คงเส้นคงวา ไม่พลาดสักนัด จึงหมดห่วงว่ากระสุนจะพลาดหรือจะเลยไปโดนอะไรเข้า

แรงดันลมกระสุนระหว่าง 50-100 บาร์จะยิงกระสุนได้ราว 15 นัด ยิงไป 10 นัด ก็ได้ 10 ตัวครับ
แต่ยิง 10 นัด ผมใช้เวลาเกือบเดือนนะครับ แบบว่า 5 นัดอยู่ได้ 2 อาทิตย์ประมาณนั้น  แบบที่เอา
มายิงเป้าให้ชม ผมไม่ค่อยได้ยิงหรอกครับ

hw97k ผมใช้กระสุนแถมยังไม่หมดตลับ แต่ก็ประมาณว่ามากที่สุดยิงไม่ถึง 3 ตลับ
hw 100 รุ่นนี้เปลืองหน่อย ได้มา 1 ปี ยิงไป 3 ตลับแล้วครับ

ปืนอัดลมซังกะบ๊วยก็เคยยิงครับ ยิงไปต้องเสี่ยงดวงวัดเอา  ก็มันส์ไปอีกแบบ
ปืนพวกนั้นโดยมากจะเน้นกระป๋องนมข้ม หรือ สีสเปร์ย ถ้าเอามายิงเป้าเครียดเปล่า ๆ

บันทึกการเข้า
size s
Full Member
***

คะแนน 20
ออฟไลน์

กระทู้: 358



« ตอบ #29 เมื่อ: ธันวาคม 19, 2009, 12:33:35 AM »

ออ เป็นเช่นนี้เอง  พี่นี้สุดยอดจริงเลยไม่ยึดติกับทฤษฎี เน้นหลักปฏิบัติจริง  นับถือครับ
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.085 วินาที กับ 24 คำสั่ง