คมแฝก

<< < (2/4) > >>

deang:
นี่ประวัติครับ
ต้นกำเนิดของไม้ คมแฟก อยู่ในสมัย รัตน์โกสิน จาก ย่าน
พาหุรัด ในกรุงเทพ ในสมัยที่มีชาวอินเดีย ทำหน้าที่เป็นยาม ตามตรอกซอยในยามค่ำคืน นี่เอง
ครับ ลักษณะของไม้คมแฟก ลอกเลียนมาจากอาวุธติดตัว ตะบอง (กระบอง) ของตำรวจวังหลวง  
(ดูคล้ายคลึงจาก ตะบอง ของยักษ์วัดโพธิ์ วัดแจ้ง) และ สันนิฐานกันว่า ต้นกำเนิดของการใช้
ตะบอง มาจากรูปปั้นยักษ์เฝ้าประตู ที่ได้รับมาจากจีน อีกทีหนึ่ง (มีเพลงเก่า ๆ ระหว่าง ยักษ์วัด
แจ้ง กับยักษ์วัดโพธิ์ บางคนรุ่น ๕๐ คงเคยได้ยิน)

แขกยาม ใช้ไม้คมแฟก เป็นเครื่องใช้สำหรับ ขับไล่ขโมยขึ้นบ้าน หรือ สุนัขเข้าหาของกินผิดที่
(ของเก็บตามตลาด ฯลฯ) รวมทั้ง ใช้ตีแผ่นโลหะ บอกเวลา ที่แขวนอยู่ตามจุดต่าง ๆ ในตรอก
ซอย ในย่านที่มีแผ่นโลหะแขวนก็จะถือว่าเป็นแหล่งมีความเจริญ (มีผู้ตรวจตรา และ บอกเวลา)
แต่เดิมผู้ที่เป็นยาม เป็นชาวอินเดีย (แขก) ที่เป็นผู้ตรวจตราชุมชนในย่านพักอาศัย ของพ่อค้า
ชาวอินเดีย (ย่านพาหุรัด) มาก่อน ในด้านกฎหมาย ไม้คมแฟก ไม่ถือว่าเป็นอาวุธ จึงไม่มีการ
ต้องห้าม การพกติดตัว หรือ การใช้ ในสมัยนั้น ในย่านชุมชนไทย (ตรอกซอย) โดยเฉพาะวัยรุ่น
ต่างนำเอา ไม้คมแฟก มาเป็นอาวุธป้องกันตัว ฯลฯ ในรูปของเครื่องใช้ ที่ไม่ผิดกฎหมาย มาใช้    
อันเป็นต้นเหตุที่ ไม้คมแฟก กรายเป็นเครื่องหมาย ที่เรียกว่า ..อาวุธนักเลง.. ขึ้นมา สมรรถภาพ
ของไม้คมแฟก จากรูปลักษณะและปรากฎการณ์ เป็นสิ่งที่สามารถทำให้ถึงกับพิการ หรือ เสีย
ชีวิต อันหมายถึง ผิดกฎหมายอาญา อันเป็นเหตุให้ การเป็นเจ้าของ พกติดตัว และการใช้ ปกปิด
เป็นความลับเฉพาะกลุ่ม กันขึ้นมา

นับแต่จุดนี้ ผู้มีไม้คมแฟก ก็กลายเป็นเสมือนกับ ใบรับรองการ
เป็น นักเลง ของตน และตราบใดที่ไม่มีหลักฐานการใช้ ก็ไม่ใช่อาวุธ หรือสิ่งห้ามตามกฎหมาย
นั่นเอง

อันก็เป็นเหตุให้ ไม้คมแฟก ที่ยังคงมีอยู่ในปัจจุบัน ส่วนใหญ่ เป็นเสมือน ..ดาบ.. ที่ไม่มี
การใช้ จากจุดประสงศ์เดิม เพียงแต่เป็น หลักฐาน ของการบังเกิด (ไม่มีร่องรอยการใช้) และ
จุดหลงใหล ในด้านสะสมของเก่า ตามคำเล่าลือ เท่านั้น

แต่เดิมชือที่เรียกว่า ไม้คมแฟก คือ การเรียกตามสภาพ ไม้เหลี่ยมขนมเปียกปูน (หลายคม หรือ
หลายมุม) แยกจาก ตะบอง หรือ สาก ที่เป็น ลักษณะกลม มุมแป้นตรงข้าม คือคมแฟก ที่ใช้
สำหรับ ตีโลหะ (แผ่นเหล็ก) ให้มีเสียงแหลมแน่นมีกังวาลน้อย ทำให้ผู้ได้ยินสามารถแยก ช่วง
ยามได้ชัดเจน สำหรับ ไม้ที่ใช้ เป็นไม้แข็งที่หาได้ในกรุงเทพ ฯ สำหรับใช้ปลูกบ้าน ที่มีชื่อเรียก
ว่า ..ไม้แดง..

ส่วนด้าม จะมีรูลอด สำหรับสอดสายเชือก ที่มาจาก เสี้ยวผ้าดิบถัก เช่นเดียวกัน
กับถักผมเปียอินเดีย (ถักสามสาย) และปลายทั้งสองขมวดปุ่มตาย ส่วนในสมัย ที่ไม้คมแฟก
แพร่หลาย กรายเป็น อาวุธนักเลง ในภาคพื้นต่าง ๆ ทำให้รูปลักษณะ และ ไม้ เปลื่ยนแปลงไป
ตามนิยาม ในกลุ่มชนนั้น ๆ ขึ้นมา

ในเมื่อ ไม่มีการใช้จริง สิ่งที่คงอยู่ ก็คือ การผลิต ไม้คมแฟก
ตามความรู้สึกเข้าใจ ถึงสมรรถภาพการใช้ ของผู้ผลิต เช่นเดียวกับ การพบเห็น ดาบสวยงามในอดีต ที่ไม่มีร่องรอยการใช้ สำหรับสะสมและนิยามประสิทธิภาพการใช้ นั่นเองแหละ ครับ



deang:
จาก http://www.zone4.in.th/board/viewthread.php?tid=8908

นี่ชื่อท่าครับ
-หักปีกปักษา
-นาคาพ่นไฟ
-คมจักษ์นารายณ์
-พยัคล้มสิงขร
-สะท้านบรรพต
-พยายมข่มธรณี
-อัคคีสาดแสง

นี่คลิปท่าครับใครมีรูปท่าชัดๆก็ช่วยกันโพสรูปหน่อยครับ
เพลงคมแฝก


ยังมีท่าอีกครับ
-ครุฑาถลาลม
-โค่นเขาพระสุเมรุ
-สุบรรณบั่นนาคี
-เอราวัณยาตรา
-สุบรรณสนั่นภพ
-พิฆาตเวนไตย
นี่ก็คลิปท่าเช่นเคยใครรูปตอนใช้ท่าชัดๆก็ช่วยโพสด้วยนะครับ

ละครรุกฆาต [ คมแฝก 2 ] - เพลงรุกฆาต

yod - รักในหลวง ครับ:


ถ้าจะให้ดี  ต้องมี ดิ้ว อีกด้วยครับ

pasta:
ผมเอาด้ามอีเธอร์ทั้งท่อนให้ช่างไม้ไสให้คล้ายคมแฝกแต่ไม่ให้คม นานสักเกือบ 20 ปี   แต่ไม่เคย(ตี)ใคร...เคยใช้(ตบ)กรามแตกหักสั่งสอนพวกขี้เกี้ยมที่ชอบรังแกเด็กไม่มีทางสู้ 1 ครั้ง

deang:





... ไม้คมแฝกเป็นอาวุธของไทยประเภทหนึ่งสมัยพระเจ้าตากสินที่ใช้เป็นอาวุธแบบตี แทนดาบหรือกระบองสั้น 

เป็นอาวุธที่มีความยาวช่วงแขน นอกจากนี้ยังมีไม้ตะพตเป็นต้น

... ต่อมาระหว่างปี พ.ศ. 2490- 2500 ( ต้นปี ) บรรดานักเลงหัวไม้ทั้งหลายก็ยังคงใช้ไม้คมแฝกเป็นอาวุธปะปราย

ตามมาด้วยอาวุธที่เรียกว่า สนับมือ , มีดอรัญญิก และปืนในที่สุด
 
... ลักษณะของไม้คมแฝกส่วนมากพัฒนาโดยใช้ไม้เนื้อแข็งเหลาเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนเป็นลำดับแรก ...

ต่อมานักเลงเก๋ากว่าบางแก๊งก็เหลาเป็นรูปหกเหลี่ยมแต่ไม่นิยมมากเท่าไหร่สมัยนั้น เพราะรูปแบบจะไปเหมือนไม้คานหาบเร่ตัดครึ่งท่อน


... ไม้คมแฝกสมัยนั้นที่ฮิต และเป็นหน้าตาถ้าได้ถือแขว่งไปมา ส่วนใหญ่แล้วจะใช้ไม้มีอยู่ด้วยกันสามชนิด ได้แก่ ไม้มะค่า,

ไม้มะค่าแต้, ไม้ชิงชัน ถือได้ว่าเป็นไม้เนื้อแข็งดีที่สุด ด้วยคุณสมบัติที่ไม้ไม่หดตัว

... ไม้คมแฝกโดยทั่วไปจะมีมิติเป็นส่วนหนาที่สุดประมาณ 4 เซ็นติเมตร ยาวประมาณ 56 เซ็นติเมตร ความหนาของด้ามจับประมาณ

 3.9 เซ็นติเมตร ปลายของส่วนไม้หน้าตัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด หรือ สี่เหลี่ยมข้าวหนมเปียกปูน

มีน้ำหนักโดยรวมประมาณ 5 ขีดกว่า หรือ ครึ่งกิโลกลัม


... ตามตำราในไม้คมแฝก ได้กล่าวไว้ว่ามีท่าที่สง่างามไว้ด้วยกัยอยู่ 7 ท่าทางในการโต้ตอบต่อสู้ ได้แก่
1. ท่าหักปีกปักษา
2. นาคาพ่นไฟ
3. คมจักรนารายณ์
4. พยัคล้มสิงขร
5. สะท้านบรรพต
6. พญายมข่มธรณี
7. อัคคีสาดแสง

... มีหลาย ๆ คนคงเคยดูหนังฝรั่งเรื่องอินเดียน่าโจนส์ ภาคแรกหรือภาคสองไม่แน่ใจ

ตอนที่พระเอกหนีผู้ร้ายแล้วไปเจอผู้ร้ายอีกคนยืนรำดาบอยู่หลายท่า ชักช้า ..

.พระเอกโรเบิร์ด อะไรฟอรด? หมั่นไส้ควักปืนมายิงเปรี้ยงเดียวตาย..อิ..อิ และแล้วคมแฝกก็หายเข้ากรีบเมฆ

เหลือไว้เพียงตำนานที่มาเป็นบทละคร

จาก   http://narklada.spaces.live.com/blog/cns!930457CAA4C0C308!2217.entry





นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว