เอกสารประกอบคำขออนุญาตรับโอนอาวุธปืน (ซื้อต่อจากบุคคลอื่น)
กรณีเป็นข้าราชการพลเรือน ข้าราชการอื่นๆ หรือพนักงานองค์กรของรัฐ/รัฐวิสาหกิจ
1. บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือบัตรพนักงานองค์กรของรัฐ/รัฐวิสาหกิจ (ฉบับจริง พร้อมสำเนา)
2. ทะเบียนบ้าน (ฉบับจริง พร้อมสำเนา)
3. หนังสือรับรองจากผู้บังคับบัญชา (รับรองตำแหน่งหน้าที่ เงินเดือน ความประพฤติ และเหตุผล
ความจำเป็นที่ขออนุญาตมีอาวุธปืน ซึ่งออกให้ไว้ไม่เกิน 6 เดือน)
4. ผู้ออกหนังสือรับรองดังกล่าว ต้องเป็นผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดระดับผู้อำนวยการกอง หรือ
เทียบเท่าขึ้นไป
5. กรณีผู้ขออนุญาตเป็นข้าราชการตั้งแต่ระดับผู้อำนวยการกอง หรือเทียบเท่าขึ้นไป (ระดับ
ชำนาญการพิเศษ หรือระดับ
ไม่ต้องมีหนังสือรับรอง
6. สำเนาใบ ป.4 ของอาวุธปืนกระบอกที่จะขอรับโอน
7. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของผู้โอน (ผู้ขาย)
8. สำเนาบัตรสมาชิกสนามกีฬายิงปืน ซึ่งเป็นสมาชิกมาแล้วไม่น้อยกว่า 60 วัน และหนังสือรับรอง
จากสนามกีฬายิงปืน (เฉพาะกรณีที่ขอซื้ออาวุธปืนเพื่อการกีฬา หรือขอซื้ออาวุธปืนชนิดเดี่ยวไรเฟิลทุกขนาด
และอาวุธปืนทุกชนิด ขนาด .40 , .44 , .45 , .357)
9. หลักฐานแสดงว่าผ่านการฝึกอบรมการใช้อาวุธปืน (ถ้ามี)
10. สำเนาใบ ป.4 ทุกใบ ที่มีอยู่ในความครอบครอง (ถ้ามี) (กรณีที่ได้โอนอาวุธปืนกระบอกใดให้
บุคคลอื่นแล้วแต่ยังไม่ได้ตัดโอน ให้แจ้งสถานีตำรวจท้องที่ เพื่อลงบันทึกประจำวัน แล้วสำเนาบันทึกประจำวัน
ดังกล่าวมาประกอบเรื่องด้วย
หมายเหตุ ภายหลังที่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน (ได้รับ ป.3 แล้ว) ผู้โอน (ผู้ขาย) กับผู้ขอรับโอน
ต้องบันทึกการยินยอมการโอน ต่อหน้านายทะเบียนไว้ในหลังใบอนุญาต (ป.4) (สลักหลังใบ ป.4) ว่า โอนปืน
กระบอกนี้ ให้ใครมีค่าตอบแทนเท่าใด หรือโอนไม่คิดค่าตอบแทนเนื่องจากอะไร แล้วลงนามไว้เป็นหลักฐาน
พร้อมผู้รับโอนลงนามไว้ด้วย
กรณีเป็นข้าราชการทหาร ตำรวจ
1. บัตรประจำตัวข้าราชการ (ฉบับจริง พร้อมสำเนา)
2. ทะเบียนบ้าน (ฉบับจริง พร้อมสำเนา)
3. หนังสือรับรองจากผู้บังคับบัญชา (รับรองตำแหน่งหน้าที่ เงินเดือน ความประพฤติ และเหตุผล
ความจำเป็นที่ขออนุญาตมีอาวุธปืน ซึ่งออกให้ไว้ไม่เกิน 6 เดือน)
4. ผู้ออกหนังสือรับรองดังกล่าว ต้องเป็นผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดที่มียศตั้งแต่พันเอก นาวาอากาศเอก
นาวาเอก หรือพันตำรวจเอก ขึ้นไป
/5. กรณี.....
-2-
5. กรณีผู้ขออนุญาตเป็นข้าราชการที่มียศตั้งแต่พันเอก นาวาอากาศเอก นาวาเอก หรือพันตำรวจเอก
ขึ้นไป ไม่ต้องมีหนังสือรับรอง
6. สำเนาใบ ป.4 ของอาวุธปืนกระบอกที่จะขอรับโอน
7. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของผู้โอน (ผู้ขาย)
8. สำเนาบัตรสมาชิกสนามกีฬายิงปืน ซึ่งเป็นสมาชิกมาแล้วไม่น้อยกว่า 60 วัน และหนังสือรับรองจาก
สนามกีฬายิงปืน (เฉพาะกรณีที่ขอรับโอนเพื่อการกีฬา)
9. หลักฐานแสดงว่าผ่านการฝึกอบรมการใช้อาวุธปืน (ถ้ามี)
10. สำเนาใบ ป.4 ทุกใบ ที่มีอยู่ในความครอบครอง (ถ้ามี) (กรณีที่ได้โอนอาวุธปืนกระบอกใดให้
บุคคลอื่นแล้วแต่ยังไม่ได้ตัดโอน ให้แจ้งสถานีตำรวจท้องที่ เพื่อลงบันทึกประจำวัน แล้วสำเนาบันทึกประจำวัน
ดังกล่าวมาประกอบเรื่องด้วย
หมายเหตุ ภายหลังที่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน (ได้รับ ป.3 แล้ว) ผู้โอน (ผู้ขาย) กับผู้ขอรับโอน
ต้องบันทึกการยินยอมการโอน ต่อหน้านายทะเบียนไว้ในหลังใบอนุญาต (ป.4) (สลักหลังใบ ป.4) ว่า โอนปืน
กระบอกนี้ ให้ใครมีค่าตอบแทนเท่าใด หรือโอนไม่คิดค่าตอบแทนเนื่องจากอะไร แล้วลงนามไว้เป็นหลักฐาน
พร้อมผู้รับโอนลงนามไว้ด้วย
กรณีเป็นประชาชนทั่วไป หรือผู้ประกอบอาชีพอื่น
1. บัตรประจำตัวประชาชน (ฉบับจริง พร้อมสำเนา)
2. ทะเบียนบ้าน (ฉบับจริง พร้อมสำเนา)
3. หลักฐานประกอบอาชีพ เช่น
- หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล หรือใบทะเบียนพาณิชย์
- หากประกอบอาชีพรับจ้าง หรือเป็นลูกจ้าง ต้องมีหนังสือรับรองตำแหน่งหน้าที่เงินเดือน
จากผู้มีอำนาจจัดการของกิจการนั้น หรือจากเจ้าของกิจการแล้วแต่กรณี
- หากมิได้มีอาชีพรับจ้างหรือมิได้เป็นลูกจ้าง เช่น ทำนา ทำสวน ทำไร่ ค้าขายหรือเร่ขายของ
หรือรับเหมาต่าง ๆ โดยไม่ได้จดทะเบียนพาณิชย์ ให้ถ่ายภาพกิจการนั้น ๆ 2-4 ภาพ ประกอบการขออนุญาต
4. หนังสือรับรองความประพฤติและเหตุผลความจำเป็นที่ขออนุญาตมีอาวุธปืน โดยผู้รับรองต้องเป็น
ข้าราชการตั้งแต่ระดับชำนาญการขึ้นไป (ระดับ 6 ขึ้นไป) หากผู้รับรองเป็นทหาร ตำรวจ ผู้นั้นต้องมียศตั้งแต่
พันโท นาวาอากาศโท นาวาโท หรือพันตำรวจโท ขึ้นไป และสำเนาบัตรข้าราชการของผู้รับรองแนบเรื่องด้วย
(หนังสือรับรองนี้ต้องออกให้ไว้ไม่เกิน 6 เดือน) (ดาวน์โหลดแบบฟอร์มได้ในเว็ปไซต์นี้)
/5. สำเนาบัตร.....
-3-
5. สำเนาใบ ป.4 ของอาวุธปืนกระบอกที่จะขอรับโอน
6. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของผู้โอน (ผู้ขาย)
7. สำเนาบัตรสมาชิกสนามกีฬายิงปืน ซึ่งเป็นสมาชิกมาแล้วไม่น้อยกว่า 60 วัน และหนังสือรับรอง
จากสนามกีฬายิงปืน (เฉพาะกรณีที่ขอรับโอนเพื่อการกีฬา หรือขอรับโอนอาวุธปืนชนิดเดี่ยวไรเฟิลทุกขนาด
กึ่งอัตโนมัติ ขนาด .45 , ลูกโม่ ขนาด .40 ,.44,.357)
8. หลักฐานแสดงว่าผ่านการฝึกอบรมการใช้อาวุธปืน (ถ้ามี)
9. สำเนาหลักทรัพย์ เช่น สำเนาโฉนดที่ดิน รายการเงินฝากธนาคาร (Statement) สำเนาสมุดบัญชี
ธนาคาร หรือหลักฐานอื่น
10. สำเนาใบ ป.4 ทุกใบ ที่มีอยู่ในความครอบครอง (ถ้ามี) (กรณีที่ได้โอนอาวุธปืนกระบอกใดให้
บุคคลอื่นแล้วแต่ยังไม่ได้ตัดโอน ให้แจ้งสถานีตำรวจท้องที่ เพื่อลงบันทึกประจำวัน แล้วสำเนาบันทึกประจำวัน
ดังกล่าวมาประกอบเรื่องด้วย
หมายเหตุ ภายหลังที่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน (ได้รับ ป.3 แล้ว) ผู้โอน (ผู้ขาย) กับผู้ขอรับโอน
ต้องบันทึกการยินยอมการโอน ต่อหน้านายทะเบียนไว้ในหลังใบอนุญาต (ป.4) (สลักหลังใบ ป.4) ว่า โอนปืน
กระบอกนี้ ให้ใครมีค่าตอบแทนเท่าใด หรือโอนไม่คิดค่าตอบแทนเนื่องจากอะไร แล้วลงนามไว้เป็นหลักฐาน
พร้อมผู้รับโอนลงนามไว้ด้วย
ที่มา:
http://www.dopaservice.com/eservice/downdoc/1_1_03_gun.pdf