๏ฟฝ๏ฟฝ็บบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝสน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาปืน
มีนาคม 29, 2024, 09:37:44 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 16 17 18 [19] 20 21 22 ... 374
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: คลีนิคปืนลมและอะไหล่  (อ่าน 1096971 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
TrophyX
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #270 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2009, 04:42:55 PM »

สปริงที่สั้นลง ทำให้แรงดีดของสปริงน้อยลงครับ ไม่ได้ทำให้แข็งขึ้นหรือมีแรงดีดมากขี้น  เพราะไม่ถูกกดทับด้วยน้ำหนักเหมือนสปริงของรถยนต์  เรื่องช่องว่างระหว่างหัวลูกสูบมีมากขึ้นครับ แรงดันลมก็เลยน้อยลง ปืนก็เบาลงแต่มันจะยิงแม่นกว่าเดิม เคยประสบมากับตัวเองครับ  ยิงแม่นในระยะใกล้ แต่ระยะไกลก็แย่ลงครับ ยิงนกโดนทุกนัด แต่กลับไปตายรัง เพราะปืนแรงไม่พอ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 05, 2009, 12:59:45 AM โดย TrophyX » บันทึกการเข้า
vornus@รักประเทศไทย@รักในหลวง
Full Member
***

คะแนน 19
ออฟไลน์

กระทู้: 372


« ตอบ #271 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2009, 05:11:03 PM »

สปริงที่สั้นลง ทไห้แรงดีดของสปริงน้อยลงครับ ไม่ได้ทำให้แข็งขึ้นหรือมีแรงดีดมากขี้น  เพราะไม่ถูกกดทับด้วยน้ำหนักเหมือนสปริงของรถยนต์  เรื่องช่องว่างระหว่างหะวลูกสูบมีมากขึ้นครับ แรงดันลมก็เลยน้อยลง ปืนก็เบาลงแต่มันจะยิงแม่นกว่าเดิม เคยประสบมากับตัวเองครับ  ยิงแม่นในระยะใกล้ แต่ระยะไกลก็แย่ลงครับ ยิงนกโดนทุกนัด แต่กลับไปตายรัง เพราะปืนแรงไม่พอ

แล้วปืนผมยังแรงเหมือนเดิมมั้ยครับพี่ ทศ แล้วนกไปตายที่รัง หรือว่าส่วนมากจะตายคาอกพี่กัน

พี่ ทศ ขาๆๆๆ  น้องนกเจ็บ จัง เยยๆๆๆๆ

อิอิ
บันทึกการเข้า

komatsu
Hero Member
*****

คะแนน 319
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4139


How far is near??


« ตอบ #272 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2009, 05:24:05 PM »

ผมขอเพิ่มรูปเพื่อประกอบการวิเคราะห์
ตอนถอดสรปริง จะต้องถอดชุดลั่นไกออกมาก่อน
เมื่อปลดสลักชุดลั่นไก 2 ตัว สปริงจะดันชุดลั่นไกให้ถอยออกมาประมาณ 46.5 มม.ดังรูป
เมื่อสปริงของเดิมหักไป 15 มม. จึงทำให้ระยะของสริงที่ต้องอัดค้างไว้เหลือ 31.5 มม.
จากระยะข้างต้นแสดงว่าระยะของลูกสูบยังคงเท่าเดิม ปริมาณอากาศเหนือลูกสูบก็ยังคงเหมือนเดิม
แต่จะต่างกันก็ตรงแรงที่สปริงดันลูกสูบไปขับกระสุนให้วิ่งออกจากลำกล้องน้อยกว่าเดิม
เนื่องจากระยะหดของสปริงน้อยลงจากเดิม เป็นผลทำให้ปืนแรงน้อยกว่าเดิม


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 04, 2009, 05:25:52 PM โดย komatsu » บันทึกการเข้า

123 dog-dog
Hero Member
*****

คะแนน 1138
ออฟไลน์

กระทู้: 3794


« ตอบ #273 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2009, 07:24:05 PM »

สปริงที่สั้นลง ทไห้แรงดีดของสปริงน้อยลงครับ ไม่ได้ทำให้แข็งขึ้นหรือมีแรงดีดมากขี้น  เพราะไม่ถูกกดทับด้วยน้ำหนักเหมือนสปริงของรถยนต์  เรื่องช่องว่างระหว่างหะวลูกสูบมีมากขึ้นครับ แรงดันลมก็เลยน้อยลง ปืนก็เบาลงแต่มันจะยิงแม่นกว่าเดิม เคยประสบมากับตัวเองครับ  ยิงแม่นในระยะใกล้ แต่ระยะไกลก็แย่ลงครับ ยิงนกโดนทุกนัด แต่กลับไปตายรัง เพราะปืนแรงไม่พอ

                     สปริงที่สั้นลง ทไห้แรงดีดของสปริงน้อยลงครับ ไม่ได้ทำให้แข็งขึ้นหรือมีแรงดีดมากขี้น  เยี่ยม  ถูกต้องครับ
             
ผมขอเพิ่มรูปเพื่อประกอบการวิเคราะห์
ตอนถอดสรปริง จะต้องถอดชุดลั่นไกออกมาก่อน
เมื่อปลดสลักชุดลั่นไก 2 ตัว สปริงจะดันชุดลั่นไกให้ถอยออกมาประมาณ 46.5 มม.ดังรูป
เมื่อสปริงของเดิมหักไป 15 มม. จึงทำให้ระยะของสริงที่ต้องอัดค้างไว้เหลือ 31.5 มม.
จากระยะข้างต้นแสดงว่าระยะของลูกสูบยังคงเท่าเดิม ปริมาณอากาศเหนือลูกสูบก็ยังคงเหมือนเดิม
แต่จะต่างกันก็ตรงแรงที่สปริงดันลูกสูบไปขับกระสุนให้วิ่งออกจากลำกล้องน้อยกว่าเดิม
เนื่องจากระยะหดของสปริงน้อยลงจากเดิม เป็นผลทำให้ปืนแรงน้อยกว่าเดิม

      ทำนองเดียวกันกับที่ อ.ทศว่าไว้ครับ คิก คิก ไหว้

บันทึกการเข้า
sitta.
Hero Member
*****

คะแนน 488
ออฟไลน์

กระทู้: 7275


« ตอบ #274 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2009, 09:07:27 PM »

เรื่องสปริงหากดูเผิน ๆ มันก็เป็นภาพลวงตานะ อาจทำให้เข้าใจผิด

สปริงยาว กับ สปริงสั้น มีข้อแตกต่างกัน คือ สปริงยาวมีช่วงดีดกว้างกว่า ส่วนสปริงสั้นมีช่วงดีดสั้นกว่า
ยังไม่พูดถึงเรื่องความแรงนะครับ

ที่นี้สมมุติว่าลองกดสปริงยาว และ สปริงสั้น ลงไปเป็นระยะทาง 5 นิ้ว เท่า ๆ กัน
เราจะพบว่าสปริงสั้นดีดได้แรงกว่าสปริงยาว   ดังนั้นที่คิดว่าสปริงยาวแรงกว่าก็ผิดนะครับ

เอาใหม่ สมมุติว่าลองกดสปริงยาว ลงไป 7 นิ้ว และสปริงสั้นลงไป 5 นิ้ว
เราอาจพบว่าสปริงยาวให้แรงดีดแรงกว่าสปริงสั้น  ดังนั้นที่คิดว่าสปริงยาวแรงกว่าก็ถูกต้องนะครับ

เหตุการณ์ของปืนคุณ komatsu เป็นแบบกรณีสุดท้ายครับ
ให้สังเกตตอนประกอบปืน สมมุติว่าเป็นสปริงเดิมๆ  ยังไม่หัก
เมื่อคุณ komatsu อัดเกลียวประกอบเข้าไปจะพบว่า
สปริงยาวถูกอัดตัวล่วงหน้าไปแล้วเป็นระยะทางหนึ่งเพราะมันยาวกว่าถูกต้องหรือเปล่า
เมื่อง้างปืนอัดลมก็จะทำให้สปริงยาวเส้นนี้ถูกอัดตัวไปอีกระยะทางหนึ่งรวมกันเป็นระยะทางรวมก็แล้วกัน

แต่เมื่อสปริงหักจะเกิดอะไรขึ้น ความยาวสปริงสั้นลง
ดังนั้นเมื่อประกอบสปริงจะถูดอัดตัวน้อยกว่าสปริงเส้นยาว
และเมื่อง้างสปริงอัดลมสปริงก็จะถูกอัดตัวเท่าเป็นระยะทางเพิ่มอีกเท่ากับ
ระยะทางทีสปริงยาวต้องเลื่อนลงไป รวมระยะทางยุบตัวรวมแล้วน้อยกว่าสปริงยาวเมื่อตะกี้นะครับ

จะเห็นว่าสปริงสั้นถูกอัดตัวเป็นระยะน้อยกว่าสปริงยาว
จึงให้แรงดีดคืนน้อยกว่าสปริงยาว ทำให้กระสุนแรงน้อยลงไงครับ
ตรงนี้ทำให้เราเข้าใจว่าสปริงยาวแรงกว่าสปริงสั้น
ก็นับว่าถูกต้องถ้าดูกันตรง ๆ โดยไม่พิจารณาอย่างลึกซึ้ง

ที่นี้ในภายหลังสปริงหักแล้ว คุณ komatsu จะเสริมบูชความยาวเท่ากับ
สปริงหัก พอประกอบกับจะพบว่าต้องใช้แรงประกอบอัดเข้าที่เดิมมากกว่าสปริงยาวเดิม ๆ
ถ้าจำแรงเส้นเอ็นมือได้นะ หรือประกอบมีเกจวัดแรงสะท้อนก็จะรู้ทันทีครับ

ประกอบเสร็จครั้นง้างอัดลมก็จะพบว่าต้องใช้แรงมากกว่าเดิม พอเหนี่ยวไกยิง
ก็จะพบว่ากระสุนแรงกว่าเดิม นั้นเป็นเพราะสปริงสั้นเมือต้องยุบตัวเป็นระยะทาง
ให้เท่ากับสปริงยาวต้องบิดตัวมากกว่า จึงทำให้ดีดแรงกว่าไงครับ
แต่ใช้ไปไม่นานสปริงก็หักอีก เพราะอาจสูญเสียค่า k ในสปริงไปได้ด้วย
สปริงสั้นอาจบิดตัวเกินจุดวิกฤตที่ไม่สามารถคืนตัวได้เหมือนเดิม
เหมือนแหนบทรุดเพราะบรรทุกหนักเกินกำลังแหนบนั้นหละครับ

ส่วนสปริงยาวเมื่อต้องอัดตัวเป็นระยะเท่ากับสปริงสั้น จะมีอายุยืนกว่า
เพราะการบิดตัวมันเฉลี่ยกับความยาวสปริงแล้วมีแรงเค้นน้อยกว่าสปริงสั้น

ดังนั้นปืนสปริงถ้ายิงไปนาน ๆ แล้วแรงอ่อนลงเพราะสปริงล้า
บางโอกาสที่หาอะไหล่ไม่ได้ก็จะใช้วิธีตัดสปริงออกสัก 1 ข้อ
แล้วรองบูชเท่ากับความหนาสปริงที่หายไป ก็จะทำให้กระสุนมีความ
แรงมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ครับ

มาดูการรองบูชสปริง การรองบูชที่สปริงสั้นต้องคำนึงถึงด้วยว่า สปริงจะแข็งขึ้นกว่าสปริงยาว
ส่งผลทำให้แกนบูชแกนเพลาจุดหมุนต่างสึกหรอเร็วกว่าในเวลาอันควร ยิงไม่นาน
สลักจุดหมุนของปืนคลอนหมด



บันทึกการเข้า
MAGNUM-60
Hero Member
*****

คะแนน 346
ออฟไลน์

กระทู้: 2329


« ตอบ #275 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2009, 10:48:51 PM »

โอ้โห.....แนะนำไปติ๊ดเดียว  เถียงกัน หน้าดำ หน้าแดงกันเลย  อย่าไปเถียงกันให้มากครับ  ลองทำไปเลย เดี๋ยวก็รู้เอง  มัวแต่คิดจนผมล่วงมันก็ยังไม่เห็นผลครับ  ลงมือทำแปบเดียว  เดี๋ยวก็เห็นผลที่จะเกิดเลยครับ  ทีกับสาวๆ  ไม่เห็นมีใครมาคุยถึงเหตุผลว่า  ถ้าจิ้มตรงนั้น  แล้วจะมาโป่งตรงนี้  แล้วจะไปมีผลตรงไหน  ใครจะสุข  ใครจะทุกข์  ใครจะรู้  ใครจะเห็น  เห็นมีแต่จะลุยอย่างเดียว  อะไรจะเกิด ก็ให้มันเกิด แล้วค่อยมาว่ากันทีหลัง  เอาน่าอย่าคิดมาก
บันทึกการเข้า
TrophyX
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #276 เมื่อ: ธันวาคม 05, 2009, 01:01:04 AM »

สปริงที่สั้นลง ทไห้แรงดีดของสปริงน้อยลงครับ ไม่ได้ทำให้แข็งขึ้นหรือมีแรงดีดมากขี้น  เพราะไม่ถูกกดทับด้วยน้ำหนักเหมือนสปริงของรถยนต์  เรื่องช่องว่างระหว่างหะวลูกสูบมีมากขึ้นครับ แรงดันลมก็เลยน้อยลง ปืนก็เบาลงแต่มันจะยิงแม่นกว่าเดิม เคยประสบมากับตัวเองครับ  ยิงแม่นในระยะใกล้ แต่ระยะไกลก็แย่ลงครับ ยิงนกโดนทุกนัด แต่กลับไปตายรัง เพราะปืนแรงไม่พอ

แล้วปืนผมยังแรงเหมือนเดิมมั้ยครับพี่ ทศ แล้วนกไปตายที่รัง หรือว่าส่วนมากจะตายคาอกพี่กัน

พี่ ทศ ขาๆๆๆ  น้องนกเจ็บ จัง เยยๆๆๆๆ

อิอิ

แรงเหมือนเดิมครับ แต่ลื่นกว่าเดิม อิอิ 
บันทึกการเข้า
TrophyX
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #277 เมื่อ: ธันวาคม 05, 2009, 01:08:04 AM »

โอ้โห.....แนะนำไปติ๊ดเดียว  เถียงกัน หน้าดำ หน้าแดงกันเลย  อย่าไปเถียงกันให้มากครับ  ลองทำไปเลย เดี๋ยวก็รู้เอง  มัวแต่คิดจนผมล่วงมันก็ยังไม่เห็นผลครับ  ลงมือทำแปบเดียว  เดี๋ยวก็เห็นผลที่จะเกิดเลยครับ  ทีกับสาวๆ  ไม่เห็นมีใครมาคุยถึงเหตุผลว่า  ถ้าจิ้มตรงนั้น  แล้วจะมาโป่งตรงนี้  แล้วจะไปมีผลตรงไหน  ใครจะสุข  ใครจะทุกข์  ใครจะรู้  ใครจะเห็น  เห็นมีแต่จะลุยอย่างเดียว  อะไรจะเกิด ก็ให้มันเกิด แล้วค่อยมาว่ากันทีหลัง  เอาน่าอย่าคิดมาก

ตอนนั้น มันมองเห็นแต่เป้าใกล้ ครับ  ยังมองไม่เห็นเป้าไกล ว่าตัวเองจะกลายเป็นเป้า อือื
บันทึกการเข้า
TrophyX
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #278 เมื่อ: ธันวาคม 05, 2009, 01:12:52 AM »

เรื่องสปริงหากดูเผิน ๆ มันก็เป็นภาพลวงตานะ อาจทำให้เข้าใจผิด

สปริงยาว กับ สปริงสั้น มีข้อแตกต่างกัน คือ สปริงยาวมีช่วงดีดกว้างกว่า ส่วนสปริงสั้นมีช่วงดีดสั้นกว่า
ยังไม่พูดถึงเรื่องความแรงนะครับ

ที่นี้สมมุติว่าลองกดสปริงยาว และ สปริงสั้น ลงไปเป็นระยะทาง 5 นิ้ว เท่า ๆ กัน
เราจะพบว่าสปริงสั้นดีดได้แรงกว่าสปริงยาว   ดังนั้นที่คิดว่าสปริงยาวแรงกว่าก็ผิดนะครับ

เอาใหม่ สมมุติว่าลองกดสปริงยาว ลงไป 7 นิ้ว และสปริงสั้นลงไป 5 นิ้ว
เราอาจพบว่าสปริงยาวให้แรงดีดแรงกว่าสปริงสั้น  ดังนั้นที่คิดว่าสปริงยาวแรงกว่าก็ถูกต้องนะครับ

เหตุการณ์ของปืนคุณ komatsu เป็นแบบกรณีสุดท้ายครับ
ให้สังเกตตอนประกอบปืน สมมุติว่าเป็นสปริงเดิมๆ  ยังไม่หัก
เมื่อคุณ komatsu อัดเกลียวประกอบเข้าไปจะพบว่า
สปริงยาวถูกอัดตัวล่วงหน้าไปแล้วเป็นระยะทางหนึ่งเพราะมันยาวกว่าถูกต้องหรือเปล่า
เมื่อง้างปืนอัดลมก็จะทำให้สปริงยาวเส้นนี้ถูกอัดตัวไปอีกระยะทางหนึ่งรวมกันเป็นระยะทางรวมก็แล้วกัน

แต่เมื่อสปริงหักจะเกิดอะไรขึ้น ความยาวสปริงสั้นลง
ดังนั้นเมื่อประกอบสปริงจะถูดอัดตัวน้อยกว่าสปริงเส้นยาว
และเมื่อง้างสปริงอัดลมสปริงก็จะถูกอัดตัวเท่าเป็นระยะทางเพิ่มอีกเท่ากับ
ระยะทางทีสปริงยาวต้องเลื่อนลงไป รวมระยะทางยุบตัวรวมแล้วน้อยกว่าสปริงยาวเมื่อตะกี้นะครับ

จะเห็นว่าสปริงสั้นถูกอัดตัวเป็นระยะน้อยกว่าสปริงยาว
จึงให้แรงดีดคืนน้อยกว่าสปริงยาว ทำให้กระสุนแรงน้อยลงไงครับ
ตรงนี้ทำให้เราเข้าใจว่าสปริงยาวแรงกว่าสปริงสั้น
ก็นับว่าถูกต้องถ้าดูกันตรง ๆ โดยไม่พิจารณาอย่างลึกซึ้ง

ที่นี้ในภายหลังสปริงหักแล้ว คุณ komatsu จะเสริมบูชความยาวเท่ากับ
สปริงหัก พอประกอบกับจะพบว่าต้องใช้แรงประกอบอัดเข้าที่เดิมมากกว่าสปริงยาวเดิม ๆ
ถ้าจำแรงเส้นเอ็นมือได้นะ หรือประกอบมีเกจวัดแรงสะท้อนก็จะรู้ทันทีครับ

ประกอบเสร็จครั้นง้างอัดลมก็จะพบว่าต้องใช้แรงมากกว่าเดิม พอเหนี่ยวไกยิง
ก็จะพบว่ากระสุนแรงกว่าเดิม นั้นเป็นเพราะสปริงสั้นเมือต้องยุบตัวเป็นระยะทาง
ให้เท่ากับสปริงยาวต้องบิดตัวมากกว่า จึงทำให้ดีดแรงกว่าไงครับ
แต่ใช้ไปไม่นานสปริงก็หักอีก เพราะอาจสูญเสียค่า k ในสปริงไปได้ด้วย
สปริงสั้นอาจบิดตัวเกินจุดวิกฤตที่ไม่สามารถคืนตัวได้เหมือนเดิม
เหมือนแหนบทรุดเพราะบรรทุกหนักเกินกำลังแหนบนั้นหละครับ

ส่วนสปริงยาวเมื่อต้องอัดตัวเป็นระยะเท่ากับสปริงสั้น จะมีอายุยืนกว่า
เพราะการบิดตัวมันเฉลี่ยกับความยาวสปริงแล้วมีแรงเค้นน้อยกว่าสปริงสั้น

ดังนั้นปืนสปริงถ้ายิงไปนาน ๆ แล้วแรงอ่อนลงเพราะสปริงล้า
บางโอกาสที่หาอะไหล่ไม่ได้ก็จะใช้วิธีตัดสปริงออกสัก 1 ข้อ
แล้วรองบูชเท่ากับความหนาสปริงที่หายไป ก็จะทำให้กระสุนมีความ
แรงมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ครับ

มาดูการรองบูชสปริง การรองบูชที่สปริงสั้นต้องคำนึงถึงด้วยว่า สปริงจะแข็งขึ้นกว่าสปริงยาว
ส่งผลทำให้แกนบูชแกนเพลาจุดหมุนต่างสึกหรอเร็วกว่าในเวลาอันควร ยิงไม่นาน
สลักจุดหมุนของปืนคลอนหมด





ตามที่ท่านพูดมามันก็ถูก ครับ  แต่ทำไมต้องอธิบายซะยาว   เมื่อสปริงมันสั้นกว่า มันก็ต้องมีแรงส่งที่น้อยกว่า แล้วถ้าสปริงมันล้า ก็แค่ใส่บุชรอลเข้าไปเลย ไม่ต้องไปตัดออกให้มันยุ่งยาก มันหดไปเท่าไหร่ก็ใส่บุชหนาเท่านั้น แต่ก็ใส่ได้ถึงระยะใดระยะหนึ่ง เมื่อสปริงมันหมดระยะการหดตัวเท่านั้น
บันทึกการเข้า
ผณิศวร เกิดในรัชกาลที่ ๙
Guns & Games Staff
Hero Member
*****

คะแนน 1437
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6038



« ตอบ #279 เมื่อ: ธันวาคม 05, 2009, 05:56:59 AM »

สปริงล้าจะใส่บูชเสริม ต้องตัดสปริงออกบ้างครับ ถ้าไม่ตัดมันจะเหมือนกับเพิ่มขดอีกรอบสองรอบ  ตอนประกอบกลับยังไหว แต่ขึ้นลำไม่ได้ครับ กดสุดแล้วมันยังยาวกว่าที่ควรจะเป็น
บันทึกการเข้า

ผมเป็นลูกหลานจีนอพยพ  ทวดแซ่อิ๊ว ตาแซ่เล้า ปู่แซ่อึ๊ง   
เมืองไทยให้โอกาสทุกอย่าง  ไม่มีข้ออ้างเรื่องชนชั้น
ผมได้กราบแทบพระบาทในหลวงเป็นมงคลสูงสุดของชีวิต
komatsu
Hero Member
*****

คะแนน 319
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4139


How far is near??


« ตอบ #280 เมื่อ: ธันวาคม 05, 2009, 06:24:03 AM »


ตอนนี้ขอมูลดิบที่มี
1 ความยาวสปริงเดิม 260 มม. ทั้งก่อนสปริงหักและหลังสปริงหัก
2 ระยะอัดของสปริงเริ่มต้น(a) 46 มม.
3 ระยะอัดของสริงเริ่มต้นหลังสปริงหัก(b) 31 มม.
4 ระยะขึ้นลำ(c) 105 มม.
5 สปริงมีค่าคงที่ k

ถ้าคำนวณแรงของสปริง F=kx
1 แรงที่เกิดขึ้นก่อนสปริงหัก F1= k(105+46)=151k
2 แรงที่เกิดขึ้นหลังสปริงหัก F2=k(105+31)=136k


จะเห็นว่า F1>F2
กรณีปืนองผมที่สปริงหัก ความแรงที่ลดลงน่าจะมาจากสปริงเป็นตัวหลักนะครับ
เพราะเมื่อปริงสั้นลงทำให้ระยะหดลดลง แรงดีดของสปริงก็ลดลงตาม
ส่วนการทำบูทเข้าเสริมหลังสปริงหักก็เป็นการทำให้ระยะหดของสปริงเท่าเดิม แต่เพิ่มความเค้นให้กับสปริงด้วย
เป็นเหตุให้สปริงทำงานหนักขึ้นกว่าเดิม จึงทำให้หักง่ายขึ้นกว่าเดิม
บันทึกการเข้า

komatsu
Hero Member
*****

คะแนน 319
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4139


How far is near??


« ตอบ #281 เมื่อ: ธันวาคม 05, 2009, 07:16:07 AM »

โอ้โห.....แนะนำไปติ๊ดเดียว  เถียงกัน หน้าดำ หน้าแดงกันเลย  อย่าไปเถียงกันให้มากครับ  ลองทำไปเลย เดี๋ยวก็รู้เอง  มัวแต่คิดจนผมล่วงมันก็ยังไม่เห็นผลครับ  ลงมือทำแปบเดียว  เดี๋ยวก็เห็นผลที่จะเกิดเลยครับ  ทีกับสาวๆ  ไม่เห็นมีใครมาคุยถึงเหตุผลว่า  ถ้าจิ้มตรงนั้น  แล้วจะมาโป่งตรงนี้  แล้วจะไปมีผลตรงไหน  ใครจะสุข  ใครจะทุกข์  ใครจะรู้  ใครจะเห็น  เห็นมีแต่จะลุยอย่างเดียว  อะไรจะเกิด ก็ให้มันเกิด แล้วค่อยมาว่ากันทีหลัง  เอาน่าอย่าคิดมาก

ตอนนั้น มันมองเห็นแต่เป้าใกล้ ครับ  ยังมองไม่เห็นเป้าไกล ว่าตัวเองจะกลายเป็นเป้า อือื
ถึงกับคราง  อือื เลยเหรอครับ  คิก คิก คิก คิก
ที่ครางคงเรื่องอื่นแล้วมั้งครับพี่ทศ ยิ้มีเลศนัย ยิ้มีเลศนัย
บันทึกการเข้า

vornus@รักประเทศไทย@รักในหลวง
Full Member
***

คะแนน 19
ออฟไลน์

กระทู้: 372


« ตอบ #282 เมื่อ: ธันวาคม 05, 2009, 10:28:14 AM »

http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=79686.0#quickreply

อยากได้ที่พาดยิงแบบนี้อะครับ แต่ราคาแรงจัง

พี่ 123 dog-dog ไม่ทำออกมาขาย ราคาน่าคบหน่อยเหรอ ครับ พี่

อิอิ อยากได้จริงๆนะ
บันทึกการเข้า

123 dog-dog
Hero Member
*****

คะแนน 1138
ออฟไลน์

กระทู้: 3794


« ตอบ #283 เมื่อ: ธันวาคม 05, 2009, 11:35:54 AM »

โอ้โห.....แนะนำไปติ๊ดเดียว  เถียงกัน หน้าดำ หน้าแดงกันเลย  อย่าไปเถียงกันให้มากครับ  ลองทำไปเลย เดี๋ยวก็รู้เอง  มัวแต่คิดจนผมล่วงมันก็ยังไม่เห็นผลครับ  ลงมือทำแปบเดียว  เดี๋ยวก็เห็นผลที่จะเกิดเลยครับ  ทีกับสาวๆ  ไม่เห็นมีใครมาคุยถึงเหตุผลว่า  ถ้าจิ้มตรงนั้น  แล้วจะมาโป่งตรงนี้  แล้วจะไปมีผลตรงไหน  ใครจะสุข  ใครจะทุกข์  ใครจะรู้  ใครจะเห็น  เห็นมีแต่จะลุยอย่างเดียว  อะไรจะเกิด ก็ให้มันเกิด แล้วค่อยมาว่ากันทีหลัง  เอาน่าอย่าคิดมาก
 


        วันนี้จะลองทำดูครับ  เยี่ยม ไหว้
บันทึกการเข้า
123 dog-dog
Hero Member
*****

คะแนน 1138
ออฟไลน์

กระทู้: 3794


« ตอบ #284 เมื่อ: ธันวาคม 05, 2009, 11:47:47 AM »

สปริงล้าจะใส่บูชเสริม ต้องตัดสปริงออกบ้างครับ ถ้าไม่ตัดมันจะเหมือนกับเพิ่มขดอีกรอบสองรอบ  ตอนประกอบกลับยังไหว แต่ขึ้นลำไม่ได้ครับ กดสุดแล้วมันยังยาวกว่าที่ควรจะเป็น

    เห็นด้วยกับอาจารย์ครับ ไหว้
    ถ้าใส่บูชเสริมต้องตัดสปริงออกตามระยะบูชด้วยครับ  เพราะถ้าไม่ตัด  ระยะกดสุดแล้วไม่สามารถเกี่ยวกับเซียร์และขึ้นลำได้ครับ เยี่ยม
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 16 17 18 [19] 20 21 22 ... 374
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.183 วินาที กับ 24 คำสั่ง