ขอความรู้เรื่อง"เครื่องกรองนํ้า"ครับ
lek:
การใช้น้ำประปาที่ต่อตรงจากท่อ ทำให้เครื่องกรองอุดตันง่าย เพราะเวลาซ่อมท่อน้ำโคลนจะเข้าเครื่อง ควรใช้น้ำที่พักในถัง ส่วนเครื่องกรองแบบไหนนั้น ควรเลือกจากบริษัทที่มีชื่อเสียง ปัจจุบันนิยมแค่กรองแล้วผ่านรังสียูวี.ก็พอเพราะปัจจุบันน้ำประปาดื่มได้(ถ้ากล้าดื่ม) ผมเลิกใช้แบบคาร์บอนกับเรซิ่นหลายปีแล้วครับ สู้เปลี่ยนใส้กรองกับหลอดยูวี.ไม่ได้ดูดีกว่า(แต่แพงกว่า)
Earthworm:
คำแนะนำจากคนเป็นนิ่วครับ ถ้าต้นทาง(เป็นประปา)แล้ว น่าจะอยู่ที่ความชอบครับ ลองชิมดูว่าแบบไหนที่รสชาติถูกใจกว่าก็เลือกแบบนั้น เพราะเท่าที่คุยกับคุณหมอและเพื่อนๆที่ทำแล็ป(ตู้ขายน้ำดื่ม) ส่วนมากแล้วระบบกรองจะสะอาดใกล้เคียงกัน แต่พวกเชื้อโรคมักจะเกิดหลังจากผ่านการกรองแล้วทั้งนั้นครับ เช่นพวก แบคทีเรียต่างๆมักจะเกิดตอนที่น้ำนิ่งๆค้างอยู่ในท่อกรองครับ ถึงได้มีการแนะนำให้เปิดเครื่องทิ้งน้ำก่อนที่จะนำน้ำมาใช้ ส่วนถ้ามีคนในบ้านมีอาการนิ่วแบบผม ก็ขอให้เลือกแบบที่กรองพวกสิ่งแปลกปลอมได้เล็กที่สุดครับ มิฉะนั้นมันอาจไปจับกับเม็ดที่มีอยู่เพิ่มขนาดได้ครับ ::014::
อันนี้เล่าให้ฟังขำๆครับ เมื่อหลายปีก่อนจำได้ว่าเคยอ่านในหนังสือพิมพ์ มีพวกเซลล์ขายเครื่องกรองแบบเดินเคาะประตูบ้าน มั่นใจในประสิทธิภาพของเครื่องที่ตัวเองขายมาก ขนาดที่ว่าเอายาฆ่าหญ้า(ขอสงวนยี่ห้อนะครับ)ละลายน้ำ แล้วกรองออกมาดื่มโชว์ลูกค้าครับ ผลที่ได้ก็คือ......................................
.....................................................ชักตาตั้งครับ หามส่งโรงพยาบาลกันจ้าละหวั่น แต่จำไม่ได้แล้วว่าตายหรือเปล่า ::003::
sathu 28:
กรองชนิดอะไรก็ตามครับ ต้องหมั่นดูแลรักษา เปลี่ยนใส้กรอง ก่อนกำหนด ขึ้นอยู่กับคุณภาพน้ำดิบ ประปาบ้านเรานี่ น่ากลัวมากครับ หินปูนเยอะมาก
Ro reverse osmosis นี่ก็ดีครับ แต่ไม่รู้ว่าพอเป็นระบบเล็กๆแล้วจะมีประสิทธิภาพจริงหรือเปล่า แต่ในระบบใหญ่ๆ นี่ไม่มีค่านำไฟฟ้าเลย
ถ้าจะให้ดีครับลองติดเสร็จแล้วเอาน้ำไปตรวจที่กองวิทยาศาสตร์บริการ เดี๋ยวนี้น่าจะมีที่อื่นอีก ลองให้เขาตรวจดู
เครื่องกรองน้ำสำคัญที่สุดคือดูแลรักษา หมั่นตรวจดูคุณภาพน้ำ มีน้ำยาหยอดตรวจไม่รู้ว่ามีขายทั่วไปหรือเปล่า สมัยก่อนขายเครื่องกรองน้ำ ต้องพกน้ำยาไปเทสบ้างเอาตัวอย่างกลับมาตรวจบ้าง
pure ก็ดีครับเดี๋ยวนี้เห็นมีศูนย์เต็มไปหมด หาอะไหล่ง่าย ว่าจะมาขายมั่งอยู่เหมือนกัน
wag the dog:
อ้างจาก: chnon ที่ สิงหาคม 18, 2009, 09:20:58 AM
อันนี้เล่าให้ฟังขำๆครับ เมื่อหลายปีก่อนจำได้ว่าเคยอ่านในหนังสือพิมพ์ มีพวกเซลล์ขายเครื่องกรองแบบเดินเคาะประตูบ้าน มั่นใจในประสิทธิภาพของเครื่องที่ตัวเองขายมาก ขนาดที่ว่าเอายาฆ่าหญ้า(ขอสงวนยี่ห้อนะครับ)ละลายน้ำ แล้วกรองออกมาดื่มโชว์ลูกค้าครับ ผลที่ได้ก็คือ......................................
.....................................................ชักตาตั้งครับ หามส่งโรงพยาบาลกันจ้าละหวั่น แต่จำไม่ได้แล้วว่าตายหรือเปล่า ::003::
ha ha ยาเขาดีขอรับ แต่เครื่องกรองยี่ห้อนี้ไม่ดี อย่าไปซื้อ 5555
ชอลิ่วเฮียง - รักในหลวง:
หลักการของเครื่องกรองน้ำทั่วไป (ยกเว้นระบบ RO) คือใช้ตะแกรงขนาดตาเล็กมากๆ ดักอนุภาคที่แขวนลอยอยู่ในน้ำ ดังนั้นถ้าสิ่งแปลกปลอมละลายมากับน้ำ เช่น เกลือ น้ำตาลทราย วิสกี้ ฯลฯ จะกรองไม่ได้
เครื่องกรองระบบ Reverse Osmosis ใช้หลักการกรองเลียนแบบการดูดซึมอาหารของเซลพืช (การกินอาหารของพืชใช้การดูดซึมแร่ธาตุที่ละลายน้ำผ่านเยื่อผนังเซลโดยกักน้ำไว้ด้านนอก แต่การกรองแบบ R O ใช้การดูดซึมน้ำผ่านเยื่อกรองโดยกักแร่ธาตุ และสิ่งแปลกปลอมอื่นๆ ไว้ด้านนอก) ดังนั้นโดยทฤษฎีแล้ว การกรองโดยระบบ RO จะได้น้ำบริสุทธิ์ 100 % ดังนั้นสิ่งที่เป็นจุดสังเกตุของระบบนี้ก็คือ 1. จะต้องใช้พลังงานไฟฟ้าในการกรอง และ 2. จะต้องมีน้ำส่วนหนึ่ง (ประมาณ 50%) ที่จะต้องปล่อยทิ้งไป
เท่าที่ผมเคยมีประสบการณ์กับเครื่องกรองน้ำระบบ RO ที่ใช้ในบ้านหลายยี่ห้อ ประสิทธิภาพการกรองเกิน 99.9% ทั้งนั้นแหละครับ หัวใจของเครื่องกรองระบบ RO ก็คือเยื่อกรอง (Membrane) ซึ่งเท่าที่ผมทราบมีผู้ผลิตแค่ 2 ราย คือ ดูปองท์ กับ ดาวคอรริ่ง ส่วนที่ใครจะสั่งเมมเบรนมาจากโรงงานใด แล้วมาออกแบบ ขึ้นรูปผลิตภัณฑ์ ผลิตขายติดยี่ห้อของตัวเองเข้าไปก็แล้วแต่กึ๋นของแต่ละรายแล้วละครับ.......
อ้อ...ขอหมายเหตุเพิ่มเติมนะครับ..... เครื่องกรองน้ำบางยี่ห้อก็คล้ายๆ กับวงการค้าปืนเหมือนกันนะครับ...... ไส้กรองผลิตจากดาวพฤหัสฯ ตัวถังผลิตจากเหล็กดาวอังคาร หลอดยูวีมาจากใจกลางดวงอาทิตย์........ก็ฟังหู ไว้หู นะครับ.....
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว