๏ฟฝ๏ฟฝ็บบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝสน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาปืน
เมษายน 28, 2024, 06:09:29 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 3 4 5 [6] 7 8 9
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว  (อ่าน 106883 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Siri_Pat รักในหลวง
Full Member
***

คะแนน 124
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 410



« ตอบ #75 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2009, 12:56:55 PM »

ยุทธวิธีการรบของทหารเวียตนาม
--------------------------------------------------------------

จากการที่ผมเคยสอบปากคำเชลยที่จับได้ระหว่างการสู้รบที่ทุ่งไหหิน ทำให้รู้ว่าทหารเวียตนามจะฝึกหน่วยกล้าตายขึ้นมาหน่วยหนึ่ง
ซึ่งเรียกว่า "ดั๊กกง" (duc conc) โดยหน่วยนี้จะใช้กำลังเพียง 5-10 คนต่อชุดปฏิบัติการ มีความสามารถในการกู้กับระเบิด
และบุกจู่โจมต่อที่มั่นข้าศึก

แต่ในความเป็นจริงทหารม้งหรือทหารลาวรวมทั้งทหารอาสาสมัครไทยฯ จะวางกับระเบิดบุคคล
โดยโยงสายสะดุด (trip wire) ไว้ลอยๆ ซึ่งง่ายต่อการเก็บกู้โดยข้าศึก


ดังนั้นหน่วยดั๊กกงจึงสามารถกู้กับระเบิดได้อย่างง่ายดายเพราะดั๊กกงไม่สวมรองเท้า แต่จะนุ่งกางกางขาสั้น
พร้อมอาวุธประจำกาย และที่ดั๊กกงแต่ละคนจะต้องพกติดตัวก็คือดินระเบิดคล้ายๆ TNT คนละ 8-10 ก้อน
ก้อนละประมาณครึ่งปอนด์พร้อมเชื้อปะทุถ่วงเวลาประมาณ 3 วินาทีติดตัวทุกคน


ในคืนที่เกิดเหตุ ทหารเวียตนามได้ระดมยิงปืนใหญ่ขึ้นมาเพื่อกดหัวฝ่ายเราไว้ (pin down) และทำลายขวัญ

ทันทีที่เสียงปืนใหญ่สงบลง ดั๊กกงจำนวน 30-40 คนได้บุกขึ้นหน้าผาด้านทิศใต้ของที่ตั้งอุปก่รณ์นำร่อง
ซึ่งเป็นส่วนที่อยู่ในความรับผิดชอบของ พ.ต.ซัวย่า การเกาะฐานก็คือเฝ้าตรวจ สังเกตุการเคลื่อนไหวของฝ่ายเรา

ดังนั้นเมื่อทหารเวียตนามได้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของกำลังพลบนภูผาทีแล้ว จึงได้สั่งการให้ดั๊กกงบุกขึ้นไป

โดยยิงปืนใหญ่นำร่อง และสามารถสังหารอเมริกันได้ถึง 11 นายโดยมีการปะทะกับทหารม้งและทหารไทยเพียงเล็กน้อย
เนื่องจากดั๊กกงได้ใช้ความเร็ว และคล่องตัวกว่าจู่โจมเข้าถึงที่พักและห้องปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่เทคนิคอเมริกัน
ได้อย่างรวดเร็ว และได้ใช้ดินระเบิดโยนเข้าใส่ เมื่อเสร็จภารกิจแล้วก็รีบถอนตัวภายในคืนนั้นเลย...


จะเห็นได้ว่าเมื่อถึงเวลาเช้าไม่ปรากฎว่ามีทหารเวียตนามหลงเหลือให้เห็นอยู่บนฐานที่ตั้งอุปกรณ์นำร่องแม้แต่คนเดียว



ภูผาทีมองจากเครื่องบินกองทัพอากาศสหรัฐ









บันทึกการเข้า

พลี..กายปกป้อง แดนดิน

ชีพ..สิ้น...ก็ไม่นึกหวั่น..

เพื่อ..รักษาเอกราช..ให้คงมั่น..

ชาติ..ย่อมสำคัญ..กว่าตนเอง..
Siri_Pat รักในหลวง
Full Member
***

คะแนน 124
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 410



« ตอบ #76 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2009, 01:00:45 PM »

สนามบินขึ้นลงระยะสั้นบนภูผาที (STOL = Short Take-off Landing)





การขนย้ายอุปกรณ์นำร่องจากฐานทัพอากาศสหรัฐนครพนมไปยังภูผาทีเมื่อปลายปี 1967







กล่องอุปกรณ์นำล่องชิ้นแรกกำลังถูกย้ายจากเครื่องบิน ซึ่งนำมาลงที่สนามบินซำทอง LS-20 เพื่อนำขึ้นไปติดตั้งบนภูผาที








บันทึกการเข้า

พลี..กายปกป้อง แดนดิน

ชีพ..สิ้น...ก็ไม่นึกหวั่น..

เพื่อ..รักษาเอกราช..ให้คงมั่น..

ชาติ..ย่อมสำคัญ..กว่าตนเอง..
Siri_Pat รักในหลวง
Full Member
***

คะแนน 124
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 410



« ตอบ #77 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2009, 01:03:12 PM »

การติดตั้งอุปกรณ์นำร่อง







บันทึกการเข้า

พลี..กายปกป้อง แดนดิน

ชีพ..สิ้น...ก็ไม่นึกหวั่น..

เพื่อ..รักษาเอกราช..ให้คงมั่น..

ชาติ..ย่อมสำคัญ..กว่าตนเอง..
Siri_Pat รักในหลวง
Full Member
***

คะแนน 124
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 410



« ตอบ #78 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2009, 01:07:22 PM »



อีกมุมหนึ่งของภูผาที





ทหารม้งบนผาทีส่วนใหญ่จะอยู่ในวัยเด็ก





เมื่อติดตั้งอุปกรณ์เรียบร้อยแล้ว




ภาพจากจอเรด้าแสดงถึงจุดที่ตั้งของทหารเวียตนาม ซึ่งกดดันทหารม้งและทหารไทยบนภูผาที
ก่อนหน่วยดั๊กกงจะบุกขึ้นไปสังหารเจ้าหน้าที่เทคนิคชาวอเมริกัน



บันทึกการเข้า

พลี..กายปกป้อง แดนดิน

ชีพ..สิ้น...ก็ไม่นึกหวั่น..

เพื่อ..รักษาเอกราช..ให้คงมั่น..

ชาติ..ย่อมสำคัญ..กว่าตนเอง..
Siri_Pat รักในหลวง
Full Member
***

คะแนน 124
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 410



« ตอบ #79 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2009, 01:10:45 PM »


ตำนานของนักรบปิศาจ.....

-------------------------------------------------------------

มีคำถามมากมาย เกี่ยวกับ " ดั๊ก กง " เข้ามา เช่นการบังคับบัญชา , การสื่อสาร, ความเป็นอยู่,
เสบียงกรัง , ขนาดของหน่วยและจำนวน ที่ดั๊กกงใช้เข้าตีต่อหนึ่งเป้าหมายระดับกองร้อยหรือกองพัน
สภาพเชลย หรือศพของดั๊กกง ที่ฝ่ายเราจับ หรือสังหารได้ ฯลฯ


ขอส่งผ่านคำถามเหล่านี้ มายังท่านเสธ.ดำ เลยนะครับ เพราะท่านได้สัมผัสของจริงมาแล้ว


ตำนานของ " นักรบปิศาจ " เป็นที่กล่าวขานเลื่องลือ ถึงความทรหด กล้าตายแบบลืมชีวิต
ที่เคเซิน เวียดนาม ทหารอเมริกันเล่าว่า ก่อนค่ำพวกเขาได้วางเคลย์โมร์ไว้รอบฐาน หันหน้าออก

พอตกดึก พวกดั๊กกงลอบเข้ามาใกล้ฐานแล้วกลับหน้าเคลย์โมร์หันเข้าในฐาน (กล้าขนาดนั้น)
โดยที่ทหารอเมริกันไม่รู้ พอเริ่มเข้าตี ก็เลยกลายเป็นว่า อเมริกันกดระเบิดใส่ตนเอง แสบจริงๆ




ศพของเวียดกง

บันทึกการเข้า

พลี..กายปกป้อง แดนดิน

ชีพ..สิ้น...ก็ไม่นึกหวั่น..

เพื่อ..รักษาเอกราช..ให้คงมั่น..

ชาติ..ย่อมสำคัญ..กว่าตนเอง..
Siri_Pat รักในหลวง
Full Member
***

คะแนน 124
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 410



« ตอบ #80 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2009, 01:15:22 PM »

ผู้สัมผัสกับ "ดั๊ก กง"

--------------------------------------------------------------------------------------------


สำหรับผม (เสธ.ดำ) แล้วคุ้นเคยกับเชลยที่จับได้และเมื่อทำการสอบสวนและสร้างบรรยากาศเป็นมิตรกับเขาแล้วไม่น่ากลัวเลยครับ

ส่วนใหญ่ที่จับได้ในลาวจะเป็นทหารเวียตนาม อายุอยู่ระหว่าง 20 - 25 ปี รูปร่างเล็ก ซีดผอม แต่แกร่งน่าดู
พวกนี้จะถูกฝ่ายการเมืองล้างสมองให้เกลียดฝ่ายเราและอเมริกา

โดยทุกคนจะเข้าใจว่าอเมริกาคือลูกพี่ใหญ่ของผู้รุกราน ส่วนทหารลาว ทหารม้งและทหารไทยนั้นเป็นลูกสมุน
(ลูกแหล่ง) ของจักรวรรดินิยมอเมริกา (สำนวนคอมมิวนิสต์)

ดังนั้นพวกเขาจะต้องขับไล่ให้ออกไปจากดินแดนลาวให้ได้ (เวียตนามขอมีเอี่ยวด้วย)


-------------------------------------------------------------------


การฝึกใช้อาวุธไม่มีอะไรพิเศษ ทุกคนมีอาวุธประจำกายคือ AK-47 มีดสั้น และดินระเบิดคล้าย TNT คนละ 8-10 ก้อน
ก้อนละครึ่งปอนด์พร้อมเชื้อปะทุถ่วงเวลา 3-4 วินาที

การติดต่อสื่อสารกับหน่วยเหนือใช้วิทยุสนามคล้าย HT-2 ของฝ่ายเราแต่หนักกว่า การแต่งกายจะนุ่งกางเกงขาสั้น
เสื้อแขนยาว ทั้งชุดใช้สีดำ

การจัดกำลัง ขึ้นอยู้กับขนาดและขีดความสามารถของเป้าหมาย ถ้าเป้าหมายระดับกองพัน จะต้องใช้กำลังดั๊กกงถึง 3 ชุด
ชุดละ 6-8 คน พวกนี้จะมีความอดทนสูงมาก เพราะการเฝ้าเกาะฐานข้าศึกท่ามกลางอากาศที่หนาวเหน็บ

เขาจะสามารถเฝ้าทนจนกระทั่งภารกิจสำเร็จ ส่วนเสบียงอาหารทุกคนจะได้รับแจกอาหารก้อน
คล้ายข้าวกล้องบดผสมถั่วลิสง มีรสหวานเล็กน้อย ก้อนโตเท่ากำปั้น ผสมน้ำนิดหน่อยก็กินเป็นอาหารได้ 1 มื้อ
คนหนึ่งจะพก 8-10 ก้อนโดยใส่สายสะพายมัดติดตัว

หมอ USAID บอกผมว่ามีสารเสพติดผสมอยู่ด้วยแต่ไม่ทราบว่าจะใช่อัลเฟตตามินที่อยู่ในยาบ้าหรือเปล่า...


-----------------------------------------------------------------



บันทึกการเข้า

พลี..กายปกป้อง แดนดิน

ชีพ..สิ้น...ก็ไม่นึกหวั่น..

เพื่อ..รักษาเอกราช..ให้คงมั่น..

ชาติ..ย่อมสำคัญ..กว่าตนเอง..
Siri_Pat รักในหลวง
Full Member
***

คะแนน 124
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 410



« ตอบ #81 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2009, 01:24:23 PM »

ความเห็นของผู้สัมผัสกับ "ดั๊ก กง"

---------------------------------------------------

ความเห็นส่วนตัวของผม (เสธ.ดำ) ดั๊กกงไม่ได้เก่งกล้าหรือมีขีดความสามารถเหนือมนุษย์แต่อย่างใด
ถ้าเจอกับหน่วยรลพิเศษจากลพบุรีของเราผมรับรองได้เลยว่าคงไม่รอดกลับไปแน่นอน...
เพราะตัวก็เล็ก ความสามารถเฉพาะตัว นอกจากความอึดและกล้าตายแล้ว ไม่เห็นมีอะไรน่ากลัว
แต่ที่เราฟังดูแล้วน่ากลัวเพราะ .......................

ข้อที่ 1.

รบกับทหารอเมริกันในเวียตนาม เวียตกงถือว่ารบกับหมู ยกเว้นหน่วยรบพิเศษ (หน่วย Green Beret)

เพราะทหารราบอเมริกันแม้จะอยู่ในสมรภูมิก็จะต้องกินอาหาร C-ration คืออาหารที่แพ็คเป็นกล่อง 4 เหลี่ยม
ประกอบด้วยเนื้อกระป๋อง meat ball คล้ายๆลูกชิ้นเนื้อวัว ขนมปังกรอบ เนยแข็ง เนสกาแฟ คอฟฟี่เมต
และน้ำตาลทราย ตบท้ายด้วยผลไม้กระป๋องหรือ ฟรุ้ทเค้กกระป๋อง

นี่คืออาหารหลักของทหารอเมริกันในสมรภูมิที่เรียกว่า ซี.เรชั่น(C-ration) และหนักไปกว่านั้นอีกก็คือ B-ration
ก็คือปรุงสดๆจาก messhall (ครัวทหาร) แล้วก็ห่อด้วยกระดาษฟอยล์อลูมิเนียมเพื่อรักษาอุณหภูมิให้คงร้อน
หรืออุ่นอยู่เสมอ B-ration จะถูกนำไปส่งถึงแนวรบสัปดาห์ละครั้งพร้อมเบียร์เย็นๆ อีกต่างหาก...

เสธ.ดำอยู่กับหน่วย Green Beret หรือหน่วย Special Force ของสหรัฐเป็นเวลา 3 ปีเต็ม
และได้สัมผัสกับเมนูเหล่านี้จึงรู้รสชาติดี ในขณะที่ดั๊กกงกินข้าวผสมถั่วบด
ซึ่งไม่ต่างกับเพ็ทดีกรีเลย แต่คุณภาพการรบนั้นต่างกันมาก ดังนั้นผมจึงไม่แปลกใจ
ที่ทหารอเมริกันต้องบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมากในระหว่างสงครามเวียตนาม


----------------------------------------------

ข้อที่ 2

เมื่อดั๊กกงมาเจอทหารลาว ทหารม้ง หรือแม้แต่ทหารไทยอาสาในสมรภูมิลาว จึงเกิดอาการหึกเหิมเพราะรู้ทางกันอยู่
ซึ่งจากประสบการณ์ที่ผมทำงานอยู่ในสมรภูมิร่วมกับทหารเหล่านี้

ด้านขวัญและกำลังใจของฝ่ายเรานับว่าต่ำมาก การรบก็ไม่รู้รบเพื่อใคร โดยเฉพาะทหารลาว และม้ง
จะรับเงินเดือนและสวัสดิการไม่เต็ม ทหารจะรับครึ่งหนึ่ง พร้อมกับข้าวสารจาก USAID เดือนละ 50 กก.

ส่วนที่เหลือทางกรรมการหรือผู้ไม่ประสงค์จะออกนามจะเป็นผู้รับไป....
ดังนั้นเมื่อมีการเข้าตีโดยฝ่ายข้าศึก เขาก็เตรียมพร้อมที่จะถอนตัวทันทีเพื่อไม่ให้ "เจ็บตัว"

ดังนั้นจะเห็นได้หลายต่อหลายครั้งที่ทหารไทยถูกหลอกและโดดเดี่ยวโดยฝ่ายเรากันเอง
เพราะเข้าใจว่าทหารลาวหรือทหารม้งยังประจำอยู่ใกล้ๆ ก็มีความรู้สึกอุ่นใจ
อย่างน้อยก็มีหน่วยข้างเคียงอยู่ใกล้ๆกัน

แต่พอข้าศึกถล่มปรากฎว่าไม่มีวี่แววของการต่อสู้เพราะเพื่อนเราได้สามัคคีกัน "โตนหนี" ไปตั้งแต่กลางวันเรียบร้อยแล้ว....

-----------------------------------------------------



ส่วนทหารไทยอาสาสมัครนั้น การเข้าสู่สมรภูมิลาวเป็นไปตามข้อเรียกร้องของรัฐบาลภายใต้การนำของเจ้าสุวรรณภูมา
โดยทาง CIA เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด

ส่วนการฝึกนั้นใช้ครูฝึกจากหน่วยรบพิเศษกองร้อยที่ 46 ของสหรัฐซึ่งมีกองบัญชาการอยู่ในศูนย์สงครามพิเศษ ลพบุรี
โดย พ.ท. บาร์เทล เป็นผู้บังคับบัญชา ค่ายฝึกตั้งอยู่ที่กาญจนบุรี และที่อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น
โดย ใช้หลักสูตรเดียวกันกับทหาร SGU ลาว (Spcial Guerrilla Unit) ระยะเวลาการฝึก 45 วัน

เมื่อเข้าสู่สมรภูมิส่วนใหญ่จะถูกวางกำลังให้เป็นฝ่ายตั้งรับเสียมากกว่า เช่นเมื่อกองพัน....
ถูกนำไปวางไว้บนยอดเขาสักแห่งหนึ่ง การส่งกำลังบำรุงมีทางเดียวคือทางอากาศ
เช่นโดยเฮลิคอปเตอร์หรือโดยเครื่องบินปีกหมุน ปอร์ตเตอร์หรือทวินอ้อตโต้ชนิดสองใบพัด

ไม่ว่าจะเป็นการส่งข้าว ส่งน้ำ อาวุธกระสุนก็ต้องใช้เครื่องบินเท่านั้น............

ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ข้าศึกรู้ตำแหน่งพิกัดของฝ่ายเรา และเมื่อมีการยิงปืนใหญ่ ค.82 หรือจรวด 122มม.
ฝ่ายข้าศึกจะใช้กระสุนไม่เกิน 3 นัดเพื่อปรับทางปืน

หลังจากนั้นก็จะยิงถล่มฝ่ายเราด้วยความแม่นยำเพราะเราตกเป็นเป้านิ่งตั้งแต่วันแรกที่ย้ายเข้าฐาน

หวังว่าท่านผู้อ่านจะนึกภาพออกว่าทำไมฝ่ายคอมมิวนิสต์จึงรบชนะ..
ทั้งสมรภูมิลาว เขมรและเวียตนาม เชื่อว่าทุกท่านมีคำตอบอยู่แล้วครับ....

บันทึกการเข้า

พลี..กายปกป้อง แดนดิน

ชีพ..สิ้น...ก็ไม่นึกหวั่น..

เพื่อ..รักษาเอกราช..ให้คงมั่น..

ชาติ..ย่อมสำคัญ..กว่าตนเอง..
Middle
หัวใจมีใว้เพื่อสร้างสรรค์
Sr. Member
****

คะแนน 58
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 913



« ตอบ #82 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2009, 03:41:33 PM »

ขอบคุณมากครับ คุณ Siri_Pat   + ให้แล้ว ๒ แต้ม ครับ.

อยากไปเที่ยวที่ลาวตอนเหนือจริง ๆ ครับ...

คิดเหมือนกันครับ ผมชอบบรรญากาศ แบบลาวทางเหนือ

เคยขับ 4x4 ผ่านด่านห้วยโก๋น-น้ำเงิน ไปเที่ยว ผ่านเมืองหงสา ไปถึงริมโขง ที่เมืองปากเบง
ท่าเรือที่จะต่อล่องลงหลวงพระบาง อีก ๗ ชม.

ครั้งเมื่อผ่านแดนเข้าไป ได้รับคำเตือน ว่าลาวเหนือยังเป็นเขตที่มีอันตราย จากขบวนการลาวฝ่ายขวา . Cheesy

ผมกำลังหาข้อมูลของแขวงหลวงน้ำทากับแขวงพงสาลี่อยู่ครับพี่โรด ... หากขับ 4x4 ไปได้คงต้องไปทางสบรวก เชียงราย เข้าบ่อแก้ว ติดชายแดนจีน...ส่วนเรื่องความปลอดภัยนั้นเพื่อนผมที่ไปทำธุระกิจที่หลวงพระบางบอกว่ายังมีลาวขาวอยู่บ้างแต่ไม่รุนแรงเหมือนเมื่อก่อนแล้วครับ เพราะขาดการสนับสนุนครับ.... Grin
บันทึกการเข้า

ชีวิตคือการเดินทาง

http://www.youtube.com/watch?v=eosAyUE29u0
@_จั๋วน้อย_@
Sr. Member
****

คะแนน 282
ออฟไลน์

กระทู้: 960



« ตอบ #83 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2009, 04:19:09 PM »

ได้สาระดีมากๆ คับ  +1 แต้มครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 12, 2009, 04:21:10 PM โดย @_จั๋วน้อย_@ » บันทึกการเข้า

คันเจ้าได้ขี่ซ้างกั้งฮ่มเป็นพญาอย่าสิลืมซาวนาพุขี่ควายคอนกล้า
narongt
Sr. Member
****

คะแนน 16
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 749


« ตอบ #84 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2009, 05:03:58 PM »

http://www.laoveterans.com/

http://www.laoveterans.com/photo6.html



LIMASITE 85



HMONG CIA SPECIAL FORCES-LIMASITE 85-CIA WANTED 100 HMONG
AND 100 CIA COMPUTER TECHS TO STOP 50000 VIETCONG TROOPS-FINALLY
CIA BOMBED OWN BASE TO STONE AGE

http://politics.spiceday.com/viewthread.php?tid=3117&extra=&page=1

http://www.oknation.net/blog/print.php?id=174648

-NOTE SMALL HMONG BOY IN BACKGROUND-CIA
USED CHILD SOLDIERS TO FIGHT COMMUNISM




Site 85's location in northern Laos was roughly 120 Miles from Hanoi,
or the distance between San Diego and Los Angeles, CA.
The existence and location of Site 85 was declassified in 1983.

It was then shipped to NKP (Nakhon Phanom  RTAFB, Thailand)
and became TSQ-81 code name "BROMO".

Photos Courtesy of
Col. Gerald Clayton
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 13, 2009, 03:38:34 PM โดย narongt » บันทึกการเข้า
ss_aong
Jr. Member
**

คะแนน 8
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 80



« ตอบ #85 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2009, 06:56:06 PM »

ขอบคุณครับอ่านกี่รอบก็ยังได้ความรู้สึก  ผมก็ชอบเสธดำ นะ ^_^
บันทึกการเข้า

คนผ่านทาง ในแสงจันทร์
อ้วน 008 รักในหลวง
ปืนดี คือปืนที่อยู่ในมือคนดี
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 120
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2249



« ตอบ #86 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2009, 06:57:14 PM »

ภาพประกอบชัด ได้บรรยากาศ
เรื่องเล่าเรียบเรียงได้ดี ชวนติดตาม หาสำนักพิมพ์แล้ว.........รวมเล่มเถอะครับ เยี่ยม ไหว้
บันทึกการเข้า

สนับสนุนการใช้ชีวิต ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง พอกิน พออยู่ พอใช้ พอที่จะแบ่งปัน
birdwhistle...รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 218
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1293


« ตอบ #87 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2009, 08:09:21 PM »

ขอบคุณเจ้าของกระทู้ครับ
+๑ ให้เลยครับ
บันทึกการเข้า

เมื่อมั่งมี มิตรมากมาย มาหมายมอง  
เมื่อมัวหมอง มิตรมอง เหมือนหมูหมา
ไม่มั่งมี มิตรมากมาย ไม่มีมา
แม้มอดม้วย มิตรหมูหมา ไม่มามอง
JUNGLE
ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว
Hero Member
*****

คะแนน 1208
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17197


การต่อสู้คือชัยชนะ


« ตอบ #88 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2009, 12:38:26 AM »

บวกให้อีก ๑ แต้ม... สำหรับท่านเจ้าของกระทู้ครับ...
บันทึกการเข้า
JUNGLE
ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว
Hero Member
*****

คะแนน 1208
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17197


การต่อสู้คือชัยชนะ


« ตอบ #89 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2009, 08:46:13 AM »

บวกให้คุณ narongt  อีกหนึ่งแต้มครับ...
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 3 4 5 [6] 7 8 9
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.086 วินาที กับ 21 คำสั่ง