เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว

<< < (15/27) > >>

Ro@d - รักในหลวง:
ขอบคุณมากครับ คุณ Siri_Pat   + ให้แล้ว ๒ แต้ม ครับ.

อ้างจาก: Middle ที่ พฤษภาคม 12, 2009, 12:05:51 AM

อยากไปเที่ยวที่ลาวตอนเหนือจริง ๆ ครับ...


คิดเหมือนกันครับ ผมชอบบรรญากาศ แบบลาวทางเหนือ

เคยขับ 4x4 ผ่านด่านห้วยโก๋น-น้ำเงิน ไปเที่ยว ผ่านเมืองหงสา ไปถึงริมโขง ที่เมืองปากเบง
ท่าเรือที่จะต่อล่องลงหลวงพระบาง อีก ๗ ชม.

ครั้งเมื่อผ่านแดนเข้าไป ได้รับคำเตือน ว่าลาวเหนือยังเป็นเขตที่มีอันตราย จากขบวนการลาวฝ่ายขวา . :D

EAK1980 รักในหลวง:
ขอบคุณครับ ขอเก็บไว้อ่านนะครับ จริงๆแล้วผมเคยอ่านเจอเรื่องทหารไทยที่ไปทำหน้าที่ประสานงานกับนักบินด้วยครับ เสียดายจำชื่อท่านไม่ได้
รู้สึกท่านอยู่จนถึงสนามบินแตกเลยนะครับ

จินตา <Jinta>:
ขอบคุณครับ +1

Siri_Pat รักในหลวง:
การรบที่ ภูผาที

------------------------------------------------------------------------------

เรื่องสนามบินนาซู และเรื่อง sapper บุกสังหารเจ้าหน้าที่เทคนิคอเมริกันที่ภูผาที LS-85

สนามบินนาซู LS-272 ตั้งอยู่ที่บ้านซ่อนห่างจากล่องแจ้งไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 60 กม.
เป็นที่ตั้งของโรงพยาบาลสนามของ USAID ขนาด 200 เตียง(สนาม) เพื่อรองรับทหารม้งของวังเปา
ที่บาดเจ็บจากการสู้รบ เพราะที่ล่องแจ้งจะไม่มีโรงพยาบาล ดังนั้นทหารม้งที่ป่วยหรือได้รับบาดเจ็บจากการสู้รบ
จะถูกนำส่งโรงพยาบาล USAID ที่บ้านซ่อนหรือนาซูโดยทางเครื่องบินซึ่งใช้เวลาบินจากล่องแจ้งถึง LS-272 ไม่ถึง 10 นาที

เรื่อง sapper บุกขึ้นไปสังหารเจ้าหน้าที่เทคนิคชาวอเมริกันบนภูผาที LS-85 เมื่อต้นปี 1968 นั้น
ผมขอท้าวความถึงความเป็นมาของภูผาที LS-85 อีกครั้งเพื่อท่านผู้อ่านหลายท่านที่ไม่ได้ติดตามเรื่องนี้มาแต่ต้น
จะได้มองเห็นภาพโดยรวมอีกครั้งครับ

Siri_Pat รักในหลวง:
ในขณะที่การสู้รบในเวียตนามและการโหมทิ้งระเบิดโดยกองทัพอากาศสหรัฐต่อเป้าหมายทางทหารในเวียตนามเหนือ
เวียตนามใต้และในลาวกำลังดำเนินไปอย่างหนักหน่วงและรุนแรง

ภูผาที LS-85 จึงถูกกำหนดให้เป็นสถานีติดตั้งอุปกรณ์นำล่องในการทิ้งระเบิดของเครื่องบินทิ้งระเบิดสหรัฐ
(Radar Bombing Control System)โดยภูผาทีอยู่ห่างจากฮานอยมาทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 120 ไมล์

ส่วนคุณสมบัติของอุปกรณ์อีเล็คโทรนิคส์ดังกล่าวมีความสามารถในการชี้เป้าให้กับเครื่องบินทิ้งระเบิด
โดยนักบินไม่จำเป็นต้องมองเห็นเป้าด้วยสายตา แต่โดยการนำล่องของอุปกรณ์ดังกล่าวนักบินก็จะสามารถ
ทิ้งระเบิดบนเป้าหมายได้ในทุกสภาพกาลอากาศ

ด้วยเหตุนี้ทางเวียตนามเหนือจึงมองเห็นอันตรายจากการติดตั้งอุปกรณ์ดังกล่าวบนภูผาทีและได้วางแผน
เพื่อทำลายฐานเรด้าบนภูผาทีซึ่งทางกองทัพอากาศสหรัฐได้ทำการติดตั้งเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน 1967
และถูกหน่วยกล้าตายของเวียตนามเหนือประมาณ 30 นายบุกขึ้นไปสังหารเจ้าหน้าที่เทคนิค
ของกองทัพอากาศสหรัฐเสียชีวิต 11 นายเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 1968


การที่หน่วยกล้าตายของเวียตนามสามารถฝ่าด่านระวังป้องกันของทั้งทหารม้งและทหารไทย
ซึ่งมี ร.อ.จำลอง ศรีเมือง (นามเรียกขานคือ "โยธิน") วางกำลังอยู่รอบๆบริเวณที่ตั้งของอุปกรณ์นำร่อง
และที่พักของเจ้าหน้าที่เทคนิคอเมริกันเข้าไปสังหารเจ้าหน้าอเมริกันได้ถึง 11 นาย

ก็เพราะความหละหลวมของทหารม้ง ซึ่งตามแผนรักษาความปลอดภัยแล้ว ทหารของ พ.ต.ซัวย่า
ซึ่งเป็นผู้ใกล้ชิดกับวังเปาเป็นผู้คุมกำลังทหารม้งประมาณ 200 นายอยู่ตรงทางขึ้นด้านทิศใต้ของที่ตั้งอุปกรณ์อีเลคโทรนิคส์
และทหารไทยจำนวน 2 หมวดอยู่ห่างจากที่ตั้งอุปกรณ์และที่พักของเจ้าหน้าที่อเมริกันประมาณ 150 เมตร

แต่เนื่องด้วยธรรมชาติของทหารม้งเมื่ออยู่ที่ไหนนานๆ เข้าก็จะละเลยการลาดตระเวณและจะลาพักเพื่อไปเยี่ยมญาติ
ซึ่งจะเห็นได้ว่ารอบๆภูผาทีจะมีชาวม้งทำไร่และอาศัยอยู่จำนวนหนึ่ง เรื่องระเบียบวินัยไม่ต้องพูดถึงเพราะเขาจะอยู่กัน
เหมือนชาวบ้าน

เพียงแต่แต่งชุดทหารและสะพายอาวุธประจำกาย แต่จิตใจก็ยังเป็นชาวบ้านอยู่
จากประสบการณ์ของ เสธ.ดำที่เคยฝึกทหารม้งและเคยอยู่กินกับทหารม้งมาแล้วจึงรู้ทันทีว่า
หน่วยกล้าตายของเวียตนาม (sapper) ไม่ต้องใช้ฝีมือก็สามารถบุกทะลุทะลวงถึงที่พัก
ของเจ้าหน้าที่เทคนิคของอเมริกันได้โดยง่าย

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว