๏ฟฝ๏ฟฝ็บบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝสน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาปืน
เมษายน 19, 2024, 10:18:23 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: อวป. มีจำหน่ายที่ สนามยิงปืนราชนาวี/สนามยิงปืนบางบัวทอง/สนามยิงปืนศรภ./
/สนามยิงปืนทอ./
สิงห์ทองไฟร์อาร์ม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 115 116 117 [118] 119 120 121 ... 166
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ความรู้เรื่องเรือรบและอาวุธทางน้ำ  (อ่าน 495732 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
จอยฮันเตอร์
พระรามเก้า 15-28 E23 LLL
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 10196
ออฟไลน์

กระทู้: 47075


M85.ss


« ตอบ #1755 เมื่อ: สิงหาคม 25, 2016, 01:01:39 PM »

ผมว่ากำลังคงไม่พอ แต่ไม่ถึงกับเป็นกองหน้า อย่างที่ชุมพร ยุวชนทหารและทหาร-ตำรวจ สู้เคียงบ่าเคียงไหล่ ดวลกับญี่ปุ่น ที่สะพานท่า

สังข์ กำลังน้อยกว่า แต่ก็ตรึงไม่ให้ทหารญี่ปุ่นข้ามสะพานมาได้ วีรกรรมครั้งนั้น จึงได้มีอนุสาวรีย์ยุวชน มาจนถึงทุกวันนี้ ไหว้
 
บันทึกการเข้า

R2D2
ท้าเยาะเย้ยทุกข์ยากขวากหนามลำเค็ญ
Hero Member
*****

คะแนน 370
ออฟไลน์

กระทู้: 6107



« ตอบ #1756 เมื่อ: สิงหาคม 25, 2016, 05:45:33 PM »

superyatch อยากทราบว่าในเมืองไทยมีหลักสูตรการออกแบบเรือสอนในสถาบันไหนบ้างครับ ? 
บันทึกการเข้า
Yut64
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 7670
ออฟไลน์

กระทู้: 10059



« ตอบ #1757 เมื่อ: สิงหาคม 26, 2016, 12:12:13 AM »

จำได้ว่าลูกชายของ Marsun จบจุฬาครับบิดาคงมาสอนเพิ่มอีกเพราะมีความชำนาญจากการเป็นคนงานอู่ต่อเรือจากจีน ยังมี วิทยาลัดเทคโนโลยี่ อยุธยา นครศรี หนองคาย และอื่นๆ อีก เช่น เกษตรศาตร์
บันทึกการเข้า
R2D2
ท้าเยาะเย้ยทุกข์ยากขวากหนามลำเค็ญ
Hero Member
*****

คะแนน 370
ออฟไลน์

กระทู้: 6107



« ตอบ #1758 เมื่อ: สิงหาคม 26, 2016, 10:33:59 AM »

จำได้ว่าลูกชายของ Marsun จบจุฬาครับบิดาคงมาสอนเพิ่มอีกเพราะมีความชำนาญจากการเป็นคนงานอู่ต่อเรือจากจีน ยังมี วิทยาลัดเทคโนโลยี่ อยุธยา นครศรี หนองคาย และอื่นๆ อีก เช่น เกษตรศาตร์
วิทยาลัยต่อเรือ ตจว.นั้น ได้ยินว่าเขาเน้น.."ช่างเชื่อมโลหะ"..นิ ที่ผมถามหมายถึงการ Design,Achitech,Decorate..อะไรพวกนี้ที่เกี่ยวกับเรือนะครับซึ่งคนไทยน่าจะทำได้ดี (ทีออกแบบเครื่องบินขายแบบให้บริษัทผู้ผลิต คนไทยยังทำได้เลย ที่เป็นนายแบบโฆษณายาอม Fisherman Friend ไง)
บันทึกการเข้า
จอยฮันเตอร์
พระรามเก้า 15-28 E23 LLL
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 10196
ออฟไลน์

กระทู้: 47075


M85.ss


« ตอบ #1759 เมื่อ: สิงหาคม 26, 2016, 11:05:56 AM »

superyatch อยากทราบว่าในเมืองไทยมีหลักสูตรการออกแบบเรือสอนในสถาบันไหนบ้างครับ ? 
ตามในรูปผมว่าไม่น่าจะมีครับ เมืองไทยเราส่วนใหญ่ที่เห็น จะเป็นในลักษณะซ่อมบำรุงสะมากกว่า ประเภทสร้างเลยทั้งลำไม่เคยเห็น

เท่าที่เคยขึ้นมาในรูปรวมระบบหมดทุกอย่าง ผมตีเอาว่าประมาณ 1,000,000,000.-บาท Grin
บันทึกการเข้า

Yut64
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 7670
ออฟไลน์

กระทู้: 10059



« ตอบ #1760 เมื่อ: สิงหาคม 26, 2016, 11:27:41 PM »

จำได้ว่าลูกชายของ Marsun จบจุฬาครับบิดาคงมาสอนเพิ่มอีกเพราะมีความชำนาญจากการเป็นคนงานอู่ต่อเรือจากจีน ยังมี วิทยาลัดเทคโนโลยี่ อยุธยา นครศรี หนองคาย และอื่นๆ อีก เช่น เกษตรศาตร์
วิทยาลัยต่อเรือ ตจว.นั้น ได้ยินว่าเขาเน้น.."ช่างเชื่อมโลหะ"..นิ ที่ผมถามหมายถึงการ Design,Achitech,Decorate..อะไรพวกนี้ที่เกี่ยวกับเรือนะครับซึ่งคนไทยน่าจะทำได้ดี (ทีออกแบบเครื่องบินขายแบบให้บริษัทผู้ผลิต คนไทยยังทำได้เลย ที่เป็นนายแบบโฆษณายาอม Fisherman Friend ไง)

ม. เกษตรวิทยาเขตศรีราชาครับหลักสูตร 4 ปีที่เห็นว่าเรียนครบวงจรแต่ออกกลางคันกันเยอะตั้งแต่ออกแบบเลยส่วนตกแต่งคงต้องพี่งสถาปนิก
บันทึกการเข้า
จอยฮันเตอร์
พระรามเก้า 15-28 E23 LLL
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 10196
ออฟไลน์

กระทู้: 47075


M85.ss


« ตอบ #1761 เมื่อ: สิงหาคม 27, 2016, 07:38:57 PM »

ผมเคยขึ้นเรือยอร์ทลักษณะแบบนี้แต่เล็กกว่า มูลค่าประมาณ 450 ล้าน ระบบภายในสุดยอดมาก อุปกรณ์ไฮเทคหมด ระบบเรดาร์

ดาวเทียม,โซนาร์ มีครบหมด ระบบป้องกันอัคคีภัยแบบสปริงเกอร์ ระบบน้ำ สูบจากทะเลแล้วมาผลิตเป็นน้ำจืด เครื่องทำน้ำแข็ง

ห้องนอนตกแต่งหรูสไตล์โรงแรม อยู่ในเรือไม่ได้ยินเสียงเครื่องยนต์เลย เยี่ยม
บันทึกการเข้า

Yut64
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 7670
ออฟไลน์

กระทู้: 10059



« ตอบ #1762 เมื่อ: สิงหาคม 29, 2016, 10:29:25 AM »

8 ธค.2484 ทำไมเขาใช้ยุวชนทหารเป็นกองหน้าเข้าปะทะข้าศึกครับ ทำไมไม่ใช้ทหารหลัก..ใครพอทราบบ้าง ?
ยุตนั้นเรามีกองทัพนิดเดียว ยุวชนเป็นส่วนหนึ่งเองครับ บางพื้นที่ไม่มีทหารเลยนะ ช่วงนั้นทหารตำรวจออกมารบกันหมด บิดาเคยเล่าว่าพอสว่างพวก บ.ทั้งหลายพยายามจะขึ้นแต่โดน บ. ญี่ปุ่นที่คุมเชิงอยู่ยิงร่วงหมด
ก่อนหน้าปีหนึ่งรบกับฝรั่งเศสอะไรมันก็ร่อยหลอไปเยอะเทียบกับญี่ปุ่นประชากรร้อยล้านมาเป็นทหารเยอะส่งสปายมาไทยก็เยอะที่ขำไม่ออกคือส่งเรือสินค้ามาดูการเคลื่อนไหวของทัพเรือนี่แหละพอท้ายขบวนลับตาไปกองเรือยกพลขึ้นบกเข้ามาทันที
บันทึกการเข้า
R2D2
ท้าเยาะเย้ยทุกข์ยากขวากหนามลำเค็ญ
Hero Member
*****

คะแนน 370
ออฟไลน์

กระทู้: 6107



« ตอบ #1763 เมื่อ: สิงหาคม 29, 2016, 01:03:35 PM »

8 ธค.2484 ทำไมเขาใช้ยุวชนทหารเป็นกองหน้าเข้าปะทะข้าศึกครับ ทำไมไม่ใช้ทหารหลัก..ใครพอทราบบ้าง ?
ยุตนั้นเรามีกองทัพนิดเดียว ยุวชนเป็นส่วนหนึ่งเองครับ บางพื้นที่ไม่มีทหารเลยนะ ช่วงนั้นทหารตำรวจออกมารบกันหมด บิดาเคยเล่าว่าพอสว่างพวก บ.ทั้งหลายพยายามจะขึ้นแต่โดน บ. ญี่ปุ่นที่คุมเชิงอยู่ยิงร่วงหมด
ก่อนหน้าปีหนึ่งรบกับฝรั่งเศสอะไรมันก็ร่อยหลอไปเยอะเทียบกับญี่ปุ่นประชากรร้อยล้านมาเป็นทหารเยอะส่งสปายมาไทยก็เยอะที่ขำไม่ออกคือส่งเรือสินค้ามาดูการเคลื่อนไหวของทัพเรือนี่แหละพอท้ายขบวนลับตาไปกองเรือยกพลขึ้นบกเข้ามาทันที
-ผมอ่านมาบ้างจากหนังสือเล่มนี้ครับ(ศรศัลย์ แพ่งสภา- 8 ธค.2484 แกเรียนถาปัตย์ จุฬา)ช่วงนั้นพลเมืองญี่ปุ่นราว 60 ล้านครับ ซึ่งก็เหนือกว่าไทยเยอะ
-ไทยโดนเข้าไป 8 จุด(อรัญประเทศ,บางปู,ประจวบ,ชุมพร,สุราษฎร์,นคร ฯ,สงขลา ปัตตานี) ไม่มีการปะทะแค่ 2 จุดคือ อรัญประเทศ กับบางปู นอกนั้นรบดุเดือดทุกสมรภูมิ
-ที่บางปูนั้นญี่ปุ่นแหกตาว่ายกพลขึ้นบก(หวังผลทางจิตวิทยา)จริง ๆ คือชาวญี่ปุ่นในกรุงเทพสลัดชุดพลเรือนทิ้งใส่เครื่องแบบทหารนัดไปรวมพลกันที่บางปู พอตอนเช้ามีกำลังพลราว 1 กองพัน ญี่ปุ่นเอาเรือสินค้าขนาดกลางลำหนึ่งไปลอยลำอยู่นอกชายฝั่งทำเป็นว่าทหารยกพลขึ้นบกจากเรือลำนี้ หาดบางปูขณะนั้นมีแต่โคลน-ป่าจาก/โกงกาง กว้าง 2 กม.คนเดินจะจมโคลนถึงเข่า มีแต่กระดานถีบที่พอจะแฉลบไปได้ ถ้าเรือยกพลญี่ปุ่นเข้ามาจริงไม่มีทางผ่านสัตหีบ และเรือ ต.ที่ลาดตระเวณอยู่แถวเกาะสีชังได้
-ที่สุราษฎร์ธานี เราไม่มีกำลังทหารเลย อาศัยตำรวจ และพลเรือนต่อสู้แทน
-ญี่ปุ่นเข้าตีซึ่งหน้า ไม่มียุทธวิธีที่เหนือชั้นอะไร อาศัยว่ามีกำลังมากกว่าเราเกิน 10 เท่า..ผลการรบญี่ปุ่นจึงเสียทหารมากกว่าเราหลายเท่า   
   
บันทึกการเข้า
R2D2
ท้าเยาะเย้ยทุกข์ยากขวากหนามลำเค็ญ
Hero Member
*****

คะแนน 370
ออฟไลน์

กระทู้: 6107



« ตอบ #1764 เมื่อ: สิงหาคม 29, 2016, 03:54:22 PM »

-อนุสาวรีย์วีรไทย หรือจ่าดำ นคร ฯ ผลงานปั้น สนั่น ศิลากรณ์ เทียบกับ อนุสาวรีย์ยุวชนทหารที่ชุมพร (ไม่ทราบท่านใดปั้น)
-เครื่องแบบยุวชนทหารยุคนั้นเสื้อแขนยาว แต่กางเกงขาสั้น..ดูแปลกตาดี
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 29, 2016, 04:01:36 PM โดย R2D2 » บันทึกการเข้า
Yut64
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 7670
ออฟไลน์

กระทู้: 10059



« ตอบ #1765 เมื่อ: สิงหาคม 29, 2016, 04:26:30 PM »

ปั้นหน้ายุวชนเหรอ ทำไมสูงวัยจัง หรือรูปปั้นสร้างมานานแก่เอง
บันทึกการเข้า
Ghost of the darkness
Sr. Member
****

คะแนน -487
ออฟไลน์

กระทู้: 891



« ตอบ #1766 เมื่อ: สิงหาคม 29, 2016, 05:11:14 PM »

   ปืนที่ท่านใช้ในรูปเป็น M1 GARANT รึเปล่าครับ
บันทึกการเข้า
R2D2
ท้าเยาะเย้ยทุกข์ยากขวากหนามลำเค็ญ
Hero Member
*****

คะแนน 370
ออฟไลน์

กระทู้: 6107



« ตอบ #1767 เมื่อ: สิงหาคม 29, 2016, 05:54:23 PM »

ได้ยินว่า ปลย.แบบ 66 ครับ ทั้งข้อเขียนและภาพจาก..Iseehistory.com
เดิมในรัชสมัยของรัชกาลที่ 5 เราสั่งซื้อปืน Mannlicher (ปลย.33) จากประเทศออสเตรีย ซึ่งใช้กระสุนขนาด 8x50 มม. หรือ 8x50 mm. R Siamese Mauser Type 45 ซึ่งเป็นกระสุนแบบหัวป้านครับ แต่ปัญหาต่อมาก็คือกองทัพไม่พอใจประสิทธิภาพของปืนรุ่นนี้นัก จึงได้มีการประชุมและออกแบบโดยยึดแบบของปืน Mauser M1894 ของสวีเดนจนแล้วเสร็จ จากนั้นก็ได้ตกลงว่าจ้างให้โรงงานสรรพาวุธโคอิชิกาว่า (Koishikawa Arsenal) กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นเป็นผู้ผลิต จนออกมาเป็นปืนเล็กยาวแบบ 45 และแบบ 46 (ปลย. 45 และปลย. 46) หรือปืน ร.ศ. 121 (45 และ 46 คือปีพ.ศ.ที่เข้าประจำการ) และปืนเล็กสั้นแบบ 47 (ปลส. 47) หรือปืน ร.ศ. 123 ซึ่งเป็นปืนแบบ Carbine ด้วย โดยปืน 2 รุ่นนี้ใช้ระบบของปืนเล็กยาวแบบ Mauser จึงมีชื่อฝรั่งด้วยว่า Siamese Mauser M1902/M1903

ต่อมาในปีพ.ศ. 2466 สมัยรัชกาลที่ 6 ได้มีการสั่งซื้อปืนเล็กยาวแบบ 66 หรือปืนอาริซากะ (Arisaka) ซึ่งเป็นปืน Mauser M1923 แต่ผลิตโดยญี่ปุ่นเข้ามาใหม่ และได้มีการปรับเปลี่ยนกระสุนจากขนาด 8x50 มม.เป็นขนาด 8x52 มม.หรือ 8x52 mm. R Siam Mauser Type 66 ซึ่งเป็นกระสุนแบบหัวแหลม เพื่อไม่ให้ปืนติดขัดเวลาป้อนกระสุนเข้ารังเพลิง ปืนเล็กยาวที่ซื้อมาก่อนหน้านี้อย่างปลย. 45 และปลส. 47 จึงได้นำมาคว้านรังเพลิงเพื่อใช้กับกระสุนใหม่นี้ด้วย และเรียกชื่อใหม่ว่า ปลย. 45/66 กับปลส. 47/66 ครับ  

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 29, 2016, 06:00:15 PM โดย R2D2 » บันทึกการเข้า
Ghost of the darkness
Sr. Member
****

คะแนน -487
ออฟไลน์

กระทู้: 891



« ตอบ #1768 เมื่อ: สิงหาคม 29, 2016, 06:12:10 PM »

ได้ยินว่า ปลย.แบบ 66 ครับ ทั้งข้อเขียนและภาพจาก..Iseehistory.com
เดิมในรัชสมัยของรัชกาลที่ 5 เราสั่งซื้อปืน Mannlicher (ปลย.33) จากประเทศออสเตรีย ซึ่งใช้กระสุนขนาด 8x50 มม. หรือ 8x50 mm. R Siamese Mauser Type 45 ซึ่งเป็นกระสุนแบบหัวป้านครับ แต่ปัญหาต่อมาก็คือกองทัพไม่พอใจประสิทธิภาพของปืนรุ่นนี้นัก จึงได้มีการประชุมและออกแบบโดยยึดแบบของปืน Mauser M1894 ของสวีเดนจนแล้วเสร็จ จากนั้นก็ได้ตกลงว่าจ้างให้โรงงานสรรพาวุธโคอิชิกาว่า (Koishikawa Arsenal) กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นเป็นผู้ผลิต จนออกมาเป็นปืนเล็กยาวแบบ 45 และแบบ 46 (ปลย. 45 และปลย. 46) หรือปืน ร.ศ. 121 (45 และ 46 คือปีพ.ศ.ที่เข้าประจำการ) และปืนเล็กสั้นแบบ 47 (ปลส. 47) หรือปืน ร.ศ. 123 ซึ่งเป็นปืนแบบ Carbine ด้วย โดยปืน 2 รุ่นนี้ใช้ระบบของปืนเล็กยาวแบบ Mauser จึงมีชื่อฝรั่งด้วยว่า Siamese Mauser M1902/M1903

ต่อมาในปีพ.ศ. 2466 สมัยรัชกาลที่ 6 ได้มีการสั่งซื้อปืนเล็กยาวแบบ 66 หรือปืนอาริซากะ (Arisaka) ซึ่งเป็นปืน Mauser M1923 แต่ผลิตโดยญี่ปุ่นเข้ามาใหม่ และได้มีการปรับเปลี่ยนกระสุนจากขนาด 8x50 มม.เป็นขนาด 8x52 มม.หรือ 8x52 mm. R Siam Mauser Type 66 ซึ่งเป็นกระสุนแบบหัวแหลม เพื่อไม่ให้ปืนติดขัดเวลาป้อนกระสุนเข้ารังเพลิง ปืนเล็กยาวที่ซื้อมาก่อนหน้านี้อย่างปลย. 45 และปลส. 47 จึงได้นำมาคว้านรังเพลิงเพื่อใช้กับกระสุนใหม่นี้ด้วย และเรียกชื่อใหม่ว่า ปลย. 45/66 กับปลส. 47/66 ครับ 


  ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า
Ghost of the darkness
Sr. Member
****

คะแนน -487
ออฟไลน์

กระทู้: 891



« ตอบ #1769 เมื่อ: สิงหาคม 29, 2016, 06:13:20 PM »

 เยี่ยม
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 115 116 117 [118] 119 120 121 ... 166
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.073 วินาที กับ 22 คำสั่ง