๏ฟฝ๏ฟฝ็บบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝสน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาปืน
มีนาคม 29, 2024, 07:03:16 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 37 38 39 [40] 41 42 43 ... 166
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ความรู้เรื่องเรือรบและอาวุธทางน้ำ  (อ่าน 458359 ครั้ง)
p@p-boonma, ART และ 4 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
อรชุน-รักในหลวง
หมู่โลหิต O
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1599
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10265



« ตอบ #585 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2014, 10:12:04 PM »

เรือทำด้วยแมีกนีเซียม อลูมิเนียม สองอย่างนี่ติดไฟได้

อลูมิเนี่ยมจะติดไฟต้องเป็นผงละเอียดครับ

ไม่จำเป็นครับ ถ้าความร้อน สูงเกิน 1,000 'C อย่างเรือ รบ เชฟฟิล ที่โดน จรวต เอ็กโซเซ่ ยิงแล้ว จมลง เนื่องจาก ไม่สามารถ ดับไฟได้ เพราะ อลูมิเนียม ที่ใช้เป็นส่วนประกอบตัวเรือ ลูกติดไฟ

อีกตัวอย่าง คือ เครื่องบินโดยสาร ที่ ลุกติดไฟ นอกจาก เชื้อเพลิงแล้ว ผนัง และ โครงสร้างหลัก ล้วนแล้วแต่ มีส่วนผสม ของ อลูมิเนียม ทำให้ เวลาเกิดเพลิงใหม้ ถ้า อุณภูมิสูงพอ ชิ้นส่วน อลูมิเนียม เอง ก็ติดไฟได้ ครับ

http://www.debunking911.com/moltensteel.htm


1. อลูมิเนียมมีจุดหลอมเหลวประมาณ 660ํc ถ้ามันติดไฟได้อย่างที่ว่าจะหลอมแร่ดิบมาใช้ได้อย่างไร???
แล้วงานเชื่อมอลูมิเนียมจะทำได้อย่างไร???


2. อุตสาหกรรมที่ต้องเน้นความปลอดภัยสูงสุด เช่นเรือ ,เครื่องบิน ,รถไฟ ,รถยนต์ มีการใช้อลูมิเนียมเป็นวัตถุดิบในหลายส่วน
ไม่ต้องดูไกลเครื่องยนต์ดีเซลมีอุณหภูมิการทำงานสูงกว่า 550ํc ทำไมลูกสูบเสื้อสูบที่ทำจากอลูมิเนียมถึงไม่ติดไฟ???
ถ้าอลูมิเนียมไม่ปลอดภัยอย่างที่ว่า เหตุใดวิศวกรจึงเลือกอลูมิเนียมมาเป็นวัสดุสำคัญในการผลิต???


3. วัสดุกันไฟ เช่นแผ่นอลูมิเนียม คอมโพสิท (Aluminium Composite Material) ประกอบขึ้นจากชั้นวัสดุที่มีไส้กลางอยู่ภายใน และมีแผ่นอลูมิเนียมประกบอยู่ด้านนอก
วัสดุไส้กลางเป็นสารประกอบที่ไม่ติดไฟโดยมีส่วนประกอบของแร่ทนไฟ อลูมิเนียม ไตรไฮดรอกไซด์ 70% จึงเป็นวัสดุที่ให้ความปลอดภัยสูงเมื่อเกิดเพลิงไหม้

ผิวนอกประกบด้วยแผ่นอลูมิเนียมเกรด 3105 H14 ความหนา 0.5 มิลลิเมตร ผิวด้านหน้าถูกเคลือบด้วยระบบสีลูมิฟลอน เบสด์ ฟลูโรคาร์บอนที่มีสมรรถภาพสูง
ส่วนผิวด้านหลังมีการเคลือบสีโพลีเอสเตอร์เพื่อรองรับการใช้งานและป้องกันการสึกกร่อนจากสนิมของโครงคร่าว และอัลคาไลน์จากซีเมนต์
นอกจากนี้ผิวภายในระหว่างชั้นอลูมิเนียมและไส้กลางยังเคลือบด้วยสารป้องกันการกัดกร่อนเพื่อป้องกันการแยกจากกันของอลูมิเนียมและไส้กลาง


4. อลูมิเนียมที่ไม่ได้อยู่ในสภาพผงละเอียด ได้รับความร้อนสูงถึงจุดหลอมเหลวจะติดไฟเองไม่ได้ ยกเว้นมีสารอื่นมาเป็นตัวเร่งปฏิกิริยา


5. อลูมิเนียมจะถือเป็นสารไวไฟเมื่ออยู่ในสภาพผงหรือเกล็ด และสามารถรวมตัวเป็นสารระเบิดได้ในอากาศได้
นอกจากนี้ผงอลูมิเนียมยังสามารถก่อเกิดปฏิกิริยารุนแรงกับตัวเร่งปฏิกิริยาออกซิเจน (oxidants) , กรดแก่, ด่างแก่,
หรือ halogenated hydrocarbons บางชนิด เกิดไฮโดรเจนติดไฟได้ และไอพิษอันตราย


 กรณีศึกษา เรื่องการระเบิดของฝุ่นอลูมิเนียม

           เหตุการณ์อุบัติเหตุ
           เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. วันที่ 29 ตุลาคม 2546 ได้มีการระเบิดและเพลิงไหม้ขึ้นใน อาคารโรงงานของบริษัท Heyes Lemmerz International, Inc.
ซึ่งเป็นโรงงานหล่อหลอมอลูมิเนียมและผลิตล้อรถอลูมิเนียม (Aluminium wheel plant) ตั้งอยู่ในเมืองฮันติงตัน มลรัฐอินเดียน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา

จากการตรวจสอบพบว่าพนักงานผลิตหลังจากแกะแบบ (Mold) ออกแล้วจะนำชิ้นงานไปทำการขึ้นรูป (Machine) เช่น กลึง เจาะ ไส เจียร และขัดเงา
การขึ้นรูปชิ้นงานอลูมิเนียมในขั้นตอนต่างๆ ดังกล่าว ทำให้มีเศษอลูมิเนียม (Aluminium chips and scraps) และฝุ่นอลูมิเนียม (Aluminium dust) เป็นจำนวนมาก

พนักงานได้นำเศษอลูมิเนียมไปอบแห้ง เพื่อไล่ความชื้นก่อนที่จะทำการหลอมใหม่อีกครั้ง ในการอบแห้งนี้จะมีฝุ่นอลูมิเนียม (ซึ่งเกาะติดปะปนอยู่กับ เศษอลูมิเนียมที่ชื้น)
หลุดร่วงออกมาจำนวนมาก ระบบดูดฝุ่นทำการลำเลียงฝุ่นอลูมิเนียมไปยังถังเก็บฝุ่น (Dust Collector) ที่อยู่ด้านนอกอาคารเพื่อพักเก็บไว้ก่อนการหลอม

ปรากฎว่า ฝุ่นอลูมิเนียมละเอียด (Fine aluminium dust) ที่มีขนาดเล็กมากได้ปลิวและแขวนลอยอยู่ในอากาศอย่างหนาแน่น (High concentration)
และสามารถลุกติดไฟได้ด้วยตัวเอง (Aluminium dust ignition) เกิดการระเบิดขึ้นภายในถังเก็บฝุ่นส่งคลื่นความร้อนและเปลวไฟ ย้อนกลับเข้าสู่ตัวอาคารโรงงานผ่านทางท่อลำเลียงฝุ่น
เหตุการณ์เพลิงไหม้และระเบิดได้เกิดขึ้นต่อเนื่องทันที เนื่องจากมีฝุ่นอลูมิเนียมตกค้างสะสมอยู่ตามที่ต่างๆ เช่น ขื่อ คานโรงงาน เครื่องจักร สายไฟ และอยู่บนเตาหลอมเป็นจำนวนมาก
 
แรงระเบิดของฝุ่นอลูมิเนียมได้ก่อตัวเป็นลูกไฟขนาดใหญ่ (Fire ball) ทำลายสิ่งต่างๆ ภายในโรงงาน ความเสียหาย มีพนักงานเสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บสาหัส 1 คน
และบาดเจ็บเล็กน้อย 4 คน ทรัพย์สินเสียหายได้แก่ เตาหลอมอลูมิเนียม เตาอบแห้ง ถังเก็บฝุ่นอลูมิเนียม และอาคารโรงงาน

           สาเหตุของอุบัติเหตุ
           1.   สาเหตุจากการออกแบบทางวิศวกรรม (Engineering design) ไม่ปลอดภัย เนื่องจากมีฝุ่นอลูมิเนียมแขวนลอย
และปลิวออกจากระบบการอบแห้ง (Drying system) เป็นจำนวนมากโดยปราศจากการควบคุม

           2.   สาเหตุจากสภาพแวดล้อมการทำงานที่ไม่ปลอดภัย (Unsafe contition) เนื่องจากพื้นที่บริเวณภายในโรงงานเต็มไปด้วยฝุ่นอลูมิเนียมเกาะอยู่ตามสถานที่ต่างๆ
พร้อมที่จะเกิดอุบัติเหตุในการระเบิดของฝุ่นอลูมิเนียมได้อยู่ตลอดเวลา โดยจุดที่พนักงานเสียชีวิต อยู่ข้างๆ เตาหลอมอลูมิเนียม ซึ่งเป็นสถานที่ทำงาน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 03, 2014, 09:00:47 AM โดย อรชุน-รักในหลวง » บันทึกการเข้า
~ Sitthipong - รักในหลวง ~
"วาจาย่อมมีน้ำหนัก หากหนุนด้วยสรรพอาวุธ"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2953
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 23203



« ตอบ #586 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2014, 10:37:12 PM »

เครื่องยนต์รถ  พวกลูกสูบ  ก้านสูบ  วาวไอดี - ไอเสีย  ที่รับความร้อนสูงก็ทำจากอลูมิเนียม   Grin

บันทึกการเข้า



...ไม่มีใครทำขาวให้เป็นดำ  หรือทำผิดให้เป็นถูกได้ตลอด...
อรชุน-รักในหลวง
หมู่โลหิต O
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1599
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10265



« ตอบ #587 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2014, 10:46:05 PM »

เครื่องยนต์รถ  พวกลูกสูบ  ก้านสูบ  วาวไอดี - ไอเสีย  ที่รับความร้อนสูงก็ทำจากอลูมิเนียม   Grin

เทอร์โบก็ใช่ครับ
บันทึกการเข้า
Yut64
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 7670
ออฟไลน์

กระทู้: 10057



« ตอบ #588 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2014, 10:55:20 PM »

อ้อต้องเป็นผงนะ
บันทึกการเข้า
686
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 471
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3987



« ตอบ #589 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 03, 2014, 08:22:55 AM »

เรือทำด้วยแมีกนีเซียม อลูมิเนียม สองอย่างนี่ติดไฟได้

อลูมิเนี่ยมจะติดไฟต้องเป็นผงละเอียดครับ

ไม่จำเป็นครับ ถ้าความร้อน สูงเกิน 1,000 'C อย่างเรือ รบ เชฟฟิล ที่โดน จรวต เอ็กโซเซ่ ยิงแล้ว จมลง เนื่องจาก ไม่สามารถ ดับไฟได้ เพราะ อลูมิเนียม ที่ใช้เป็นส่วนประกอบตัวเรือ ลูกติดไฟ

อีกตัวอย่าง คือ เครื่องบินโดยสาร ที่ ลุกติดไฟ นอกจาก เชื้อเพลิงแล้ว ผนัง และ โครงสร้างหลัก ล้วนแล้วแต่ มีส่วนผสม ของ อลูมิเนียม ทำให้ เวลาเกิดเพลิงใหม้ ถ้า อุณภูมิสูงพอ ชิ้นส่วน อลูมิเนียม เอง ก็ติดไฟได้ ครับ

http://www.debunking911.com/moltensteel.htm


1. อลูมิเนียมมีจุดหลอมเหลวประมาณ 660ํc ถ้ามันติดไฟได้อย่างที่ว่าจะหลอมแร่ดิบมาใช้ได้อย่างไร???
งานเชื่อมอลูมิเนียมจะทำได้อย่างไร???


2. อุตสาหกรรมที่ต้องเน้นความปลอดภัยสูงสุด เช่นเรือ ,เครื่องบิน ,รถไฟ ,รถยนต์ มีการใช้อลูมิเนียมเป็นวัตถุดิบในหลายส่วน
ไม่ต้องดูไกลเครื่องยนต์ดีเซลมีอุณหภูมิการทำงานสูงกว่า 550ํc ทำไมลูกสูบเสื้อสูบที่ทำจากอลูมิเนียมถึงไม่ติดไฟ???
ถ้าอลูมิเนียมไม่ปลอดภัยอย่างที่ว่า เหตุใดวิศวกรจึงเลือกอลูมิเนียมมาเป็นวัสดุสำคัญในการผลิต???


3. วัสดุกันไฟ เช่นแผ่นอลูมิเนียม คอมโพสิท (Aluminium Composite Material) ประกอบขึ้นจากชั้นวัสดุที่มีไส้กลางอยู่ภายใน และมีแผ่นอลูมิเนียมประกบอยู่ด้านนอก
วัสดุไส้กลางเป็นสารประกอบที่ไม่ติดไฟโดยมีส่วนประกอบของแร่ทนไฟ อลูมิเนียม ไตรไฮดรอกไซด์ 70% จึงเป็นวัสดุที่ให้ความปลอดภัยสูงเมื่อเกิดเพลิงไหม้

ผิวนอกประกบด้วยแผ่นอลูมิเนียมเกรด 3105 H14 ความหนา 0.5 มิลลิเมตร ผิวด้านหน้าถูกเคลือบด้วยระบบสีลูมิฟลอน เบสด์ ฟลูโรคาร์บอนที่มีสมรรถภาพสูง
ส่วนผิวด้านหลังมีการเคลือบสีโพลีเอสเตอร์เพื่อรองรับการใช้งานและป้องกันการสึกกร่อนจากสนิมของโครงคร่าว และอัลคาไลน์จากซีเมนต์
นอกจากนี้ผิวภายในระหว่างชั้นอลูมิเนียมและไส้กลางยังเคลือบด้วยสารป้องกันการกัดกร่อนเพื่อป้องกันการแยกจากกันของอลูมิเนียมและไส้กลาง


4. อลูมิเนียมที่ไม่ได้อยู่ในสภาพผงละเอียด ได้รับความร้อนสูงถึงจุดหลอมเหลวจะติดไฟเองไม่ได้ ยกเว้นมีสารอื่นมาเป็นตัวเร่งปฏิกิริยา


5. อลูมิเนียมจะถือเป็นสารไวไฟเมื่ออยู่ในสภาพผงหรือเกล็ด และสามารถรวมตัวเป็นสารระเบิดได้ในอากาศได้
นอกจากนี้ผงอลูมิเนียมยังสามารถก่อเกิดปฏิกิริยารุนแรงกับตัวเร่งปฏิกิริยาออกซิเจน (oxidants) , กรดแก่, ด่างแก่,
หรือ halogenated hydrocarbons บางชนิด เกิดไฮโดรเจนติดไฟได้ และไอพิษอันตราย


 กรณีศึกษา เรื่องการระเบิดของฝุ่นอลูมิเนียม

           เหตุการณ์อุบัติเหตุ
           เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. วันที่ 29 ตุลาคม 2546 ได้มีการระเบิดและเพลิงไหม้ขึ้นใน อาคารโรงงานของบริษัท Heyes Lemmerz International, Inc.
ซึ่งเป็นโรงงานหล่อหลอมอลูมิเนียมและผลิตล้อรถอลูมิเนียม (Aluminium wheel plant) ตั้งอยู่ในเมืองฮันติงตัน มลรัฐอินเดียน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา

จากการตรวจสอบพบว่าพนักงานผลิตหลังจากแกะแบบ (Mold) ออกแล้วจะนำชิ้นงานไปทำการขึ้นรูป (Machine) เช่น กลึง เจาะ ไส เจียร และขัดเงา
การขึ้นรูปชิ้นงานอลูมิเนียมในขั้นตอนต่างๆ ดังกล่าว ทำให้มีเศษอลูมิเนียม (Aluminium chips and scraps) และฝุ่นอลูมิเนียม (Aluminium dust) เป็นจำนวนมาก

พนักงานได้นำเศษอลูมิเนียมไปอบแห้ง เพื่อไล่ความชื้นก่อนที่จะทำการหลอมใหม่อีกครั้ง ในการอบแห้งนี้จะมีฝุ่นอลูมิเนียม (ซึ่งเกาะติดปะปนอยู่กับ เศษอลูมิเนียมที่ชื้น)
หลุดร่วงออกมาจำนวนมาก ระบบดูดฝุ่นทำการลำเลียงฝุ่นอลูมิเนียมไปยังถังเก็บฝุ่น (Dust Collector) ที่อยู่ด้านนอกอาคารเพื่อพักเก็บไว้ก่อนการหลอม

ปรากฎว่า ฝุ่นอลูมิเนียมละเอียด (Fine aluminium dust) ที่มีขนาดเล็กมากได้ปลิวและแขวนลอยอยู่ในอากาศอย่างหนาแน่น (High concentration)
และสามารถลุกติดไฟได้ด้วยตัวเอง (Aluminium dust ignition) เกิดการระเบิดขึ้นภายในถังเก็บฝุ่นส่งคลื่นความร้อนและเปลวไฟ ย้อนกลับเข้าสู่ตัวอาคารโรงงานผ่านทางท่อลำเลียงฝุ่น
เหตุการณ์เพลิงไหม้และระเบิดได้เกิดขึ้นต่อเนื่องทันที เนื่องจากมีฝุ่นอลูมิเนียมตกค้างสะสมอยู่ตามที่ต่างๆ เช่น ขื่อ คานโรงงาน เครื่องจักร สายไฟ และอยู่บนเตาหลอมเป็นจำนวนมาก
 
แรงระเบิดของฝุ่นอลูมิเนียมได้ก่อตัวเป็นลูกไฟขนาดใหญ่ (Fire ball) ทำลายสิ่งต่างๆ ภายในโรงงาน ความเสียหาย มีพนักงานเสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บสาหัส 1 คน
และบาดเจ็บเล็กน้อย 4 คน ทรัพย์สินเสียหายได้แก่ เตาหลอมอลูมิเนียม เตาอบแห้ง ถังเก็บฝุ่นอลูมิเนียม และอาคารโรงงาน

           สาเหตุของอุบัติเหตุ
           1.   สาเหตุจากการออกแบบทางวิศวกรรม (Engineering design) ไม่ปลอดภัย เนื่องจากมีฝุ่นอลูมิเนียมแขวนลอย
และปลิวออกจากระบบการอบแห้ง (Drying system) เป็นจำนวนมากโดยปราศจากการควบคุม

           2.   สาเหตุจากสภาพแวดล้อมการทำงานที่ไม่ปลอดภัย (Unsafe contition) เนื่องจากพื้นที่บริเวณภายในโรงงานเต็มไปด้วยฝุ่นอลูมิเนียมเกาะอยู่ตามสถานที่ต่างๆ
พร้อมที่จะเกิดอุบัติเหตุในการระเบิดของฝุ่นอลูมิเนียมได้อยู่ตลอดเวลา โดยจุดที่พนักงานเสียชีวิต อยู่ข้างๆ เตาหลอมอลูมิเนียม ซึ่งเป็นสถานที่ทำงาน

ถ้า อุณภูมิ ความร้อน เกิน 1,000 องศา อลูมิเนียม ก็ ไหม้ไฟ ได้ครับ อย่าง เรือรบ เชฟฟิล ที่โดน จรวต เอ็กโซเซ่ต์ ยิง เกิดการลุกใหม้ จาก จรวต ที่เก็บใว้บนเรือ ทำให้ อุณหภูมิ สูง เกิน 1,000 องศา เกินกว่า จุดหลอมละลาย ของ อลูมิเนียม ทำให้ อลูมิเนียม ที่ทำเป็น โครงสร้าง ของ ตัวเรือ เกิดการลุกใหม้ (จุดลุกใหม้ ของ อลูมิเนียม ผม ไม่แน่ใจว่า เกิน 1,000 องศา ไปมากเท่าไหร่)

เครื่องยนต์รถ  พวกลูกสูบ  ก้านสูบ  วาวไอดี - ไอเสีย  ที่รับความร้อนสูงก็ทำจากอลูมิเนียม   Grin



 อลูมิเนียม ลุกใหม้ได้ ต้องมีความร้อน ยิ่งยวด อุณหภูมิ ในห้องเครื่อง หรือ ห้อง จุดระเบิด ไม่ถึง 600 องศา เสียด้วยซ้ำ แถม ยังมี ระบบหล่อเย็น เข้ามาลดความร้อน ที่เกิดจากการ จุดระเบิด อีก

ผง อลูมิเนียม ติดไฟได้ แต่ ผม ไม่ได้บอกว่า แท่ง อลูมิเนียม ติดไฟได้ จาก การเผาใหม้ ปกติ แต่ ผม บอกว่า อลูมิเนียม ลุกติดไฟได้ ที่ อุณหภูมิ สูง ยิ่งยวด ไม่ไช่ อุณหภูมิ ที่เกิดจากการเผาใหม้ ปกติ
บันทึกการเข้า
อรชุน-รักในหลวง
หมู่โลหิต O
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1599
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10265



« ตอบ #590 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 03, 2014, 09:16:09 AM »


ถ้า อุณภูมิ ความร้อน เกิน 1,000 องศา อลูมิเนียม ก็ ไหม้ไฟ ได้ครับ อย่าง เรือรบ เชฟฟิล ที่โดน จรวต เอ็กโซเซ่ต์ ยิง เกิดการลุกใหม้ จาก จรวต ที่เก็บใว้บนเรือ ทำให้ อุณหภูมิ สูง เกิน 1,000 องศา เกินกว่า จุดหลอมละลาย ของ อลูมิเนียม ทำให้ อลูมิเนียม ที่ทำเป็น โครงสร้าง ของ ตัวเรือ เกิดการลุกใหม้ (จุดลุกใหม้ ของ อลูมิเนียม ผม ไม่แน่ใจว่า เกิน 1,000 องศา ไปมากเท่าไหร่)

 อลูมิเนียม ลุกใหม้ได้ ต้องมีความร้อน ยิ่งยวด อุณหภูมิ ในห้องเครื่อง หรือ ห้อง จุดระเบิด ไม่ถึง 600 องศา เสียด้วยซ้ำ แถม ยังมี ระบบหล่อเย็น เข้ามาลดความร้อน ที่เกิดจากการ จุดระเบิด อีก

ผง อลูมิเนียม ติดไฟได้ แต่ ผม ไม่ได้บอกว่า แท่ง อลูมิเนียม ติดไฟได้ จาก การเผาใหม้ ปกติ แต่ ผม บอกว่า อลูมิเนียม ลุกติดไฟได้ ที่ อุณหภูมิ สูง ยิ่งยวด ไม่ไช่ อุณหภูมิ ที่เกิดจากการเผาใหม้ ปกติ


พี่ลองอ่านคุณสมบัติทางฟิสิกส์ของอลูมิเนียม




Melting point = 660 ํc
Boiling point = 2519 ํc

ระหว่างอุณหภูมิ 660-2519 ํc อลูมิเนียมจะหลอมเหลว สูงกว่า2519 ํc จะเริ่มเดือด  ดูตารางแล้วพี่อ่านโพสก่อนหน้าของผมอีกรอบ


1. อลูมิเนียมมีจุดหลอมเหลวประมาณ 660ํc ถ้ามันติดไฟได้อย่างที่ว่าจะหลอมแร่ดิบมาใช้ได้อย่างไร???
แล้วงานเชื่อมอลูมิเนียมจะทำได้อย่างไร???


2. อุตสาหกรรมที่ต้องเน้นความปลอดภัยสูงสุด เช่นเรือ ,เครื่องบิน ,รถไฟ ,รถยนต์ มีการใช้อลูมิเนียมเป็นวัตถุดิบในหลายส่วน
ไม่ต้องดูไกลเครื่องยนต์ดีเซลมีอุณหภูมิการทำงานสูงกว่า 550ํc ทำไมลูกสูบเสื้อสูบที่ทำจากอลูมิเนียมถึงไม่ติดไฟ???
ถ้าอลูมิเนียมไม่ปลอดภัยอย่างที่ว่า เหตุใดวิศวกรจึงเลือกอลูมิเนียมมาเป็นวัสดุสำคัญในการผลิต???


3. วัสดุกันไฟ เช่นแผ่นอลูมิเนียม คอมโพสิท (Aluminium Composite Material) ประกอบขึ้นจากชั้นวัสดุที่มีไส้กลางอยู่ภายใน และมีแผ่นอลูมิเนียมประกบอยู่ด้านนอก
วัสดุไส้กลางเป็นสารประกอบที่ไม่ติดไฟโดยมีส่วนประกอบของแร่ทนไฟ อลูมิเนียม ไตรไฮดรอกไซด์ 70% จึงเป็นวัสดุที่ให้ความปลอดภัยสูงเมื่อเกิดเพลิงไหม้

ผิวนอกประกบด้วยแผ่นอลูมิเนียมเกรด 3105 H14 ความหนา 0.5 มิลลิเมตร ผิวด้านหน้าถูกเคลือบด้วยระบบสีลูมิฟลอน เบสด์ ฟลูโรคาร์บอนที่มีสมรรถภาพสูง
ส่วนผิวด้านหลังมีการเคลือบสีโพลีเอสเตอร์เพื่อรองรับการใช้งานและป้องกันการสึกกร่อนจากสนิมของโครงคร่าว และอัลคาไลน์จากซีเมนต์
นอกจากนี้ผิวภายในระหว่างชั้นอลูมิเนียมและไส้กลางยังเคลือบด้วยสารป้องกันการกัดกร่อนเพื่อป้องกันการแยกจากกันของอลูมิเนียมและไส้กลาง


4. อลูมิเนียมที่ไม่ได้อยู่ในสภาพผงละเอียด ได้รับความร้อนสูงถึงจุดหลอมเหลวจะติดไฟเองไม่ได้ ยกเว้นมีสารอื่นมาเป็นตัวเร่งปฏิกิริยา


5. อลูมิเนียมจะถือเป็นสารไวไฟเมื่ออยู่ในสภาพผงหรือเกล็ด และสามารถรวมตัวเป็นสารระเบิดได้ในอากาศได้
นอกจากนี้ผงอลูมิเนียมยังสามารถก่อเกิดปฏิกิริยารุนแรงกับตัวเร่งปฏิกิริยาออกซิเจน (oxidants) , กรดแก่, ด่างแก่,
หรือ halogenated hydrocarbons บางชนิด เกิดไฮโดรเจนติดไฟได้ และไอพิษอันตราย

ผมเพิ่มเติมให้ด้วยว่าในเครื่องยนต์ดีเซลอุณหภูมิในห้องเครื่อง "จังหวะอัด" 500-800ํc แล้วจึงฉีดเชื้อเพลิงเข้าไป ความร้อนก็จะเพิ่มขึ้นอีก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 26, 2014, 04:05:41 AM โดย อรชุน-รักในหลวง » บันทึกการเข้า
หนานมา
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 246
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1324



« ตอบ #591 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 03, 2014, 03:41:01 PM »

ผมเข้าใจว่า จะใช้สารสองตัวนี้เป็นตัวหลัก
และจะมีสารตัวอื่นๆอีกที่ไม่เปิดเผย
เพราะตัวเรือต้องมีความคงทนทะเลสูง ทั้งแรงบิดแรงเค้น
และต้องการลดการเกิดปฎิกิริยา ทางเคมี หรือ ทางไฟฟ้า ระหว่างตัวเรือกับน้ำทะเลด้วยครับ  ไหว้ ไหว้ ไหว้
บันทึกการเข้า

ใคร่หื้อเปิ้นฮักยากนัก จักหวัง ใคร่หื้อเปิ้นจังกำเดียวก็ได้
ใช้ของที่มี  มีของที่ใช้
อรชุน-รักในหลวง
หมู่โลหิต O
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1599
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10265



« ตอบ #592 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 03, 2014, 04:08:24 PM »

ผมเข้าใจว่า จะใช้สารสองตัวนี้เป็นตัวหลัก
และจะมีสารตัวอื่นๆอีกที่ไม่เปิดเผย
เพราะตัวเรือต้องมีความคงทนทะเลสูง ทั้งแรงบิดแรงเค้น
และต้องการลดการเกิดปฎิกิริยา ทางเคมี หรือ ทางไฟฟ้า ระหว่างตัวเรือกับน้ำทะเลด้วยครับ  ไหว้ ไหว้ ไหว้


ใช่ครับพี่ ไม่มีใครเอาอลูมิเนียมเพียวๆมาใช้งานครับ เพราะมันเนื้อนิ่มและความแข็งแรงยังน้อย
ต้องเอามาผสมกับโลหะชนิดอื่นเรียกว่า "อลูมิเนียมอัลลอย" ผสมกับอะไรบ้างอยู่ที่งานว่าเอาไปทำอะไร
ฉะนั้นที่ว่าอลูมิเนี่ยมในสภาพแผ่นหรือแท่งอย่างชิ้นส่วนเรือติดไฟได้ อาจจะมาจากโลหะผสมที่เจออยู่เช่น Magnesium
บันทึกการเข้า
หนานมา
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 246
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1324



« ตอบ #593 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 03, 2014, 04:15:46 PM »

ผมเข้าใจว่า จะใช้สารสองตัวนี้เป็นตัวหลัก
และจะมีสารตัวอื่นๆอีกที่ไม่เปิดเผย
เพราะตัวเรือต้องมีความคงทนทะเลสูง ทั้งแรงบิดแรงเค้น
และต้องการลดการเกิดปฎิกิริยา ทางเคมี หรือ ทางไฟฟ้า ระหว่างตัวเรือกับน้ำทะเลด้วยครับ  ไหว้ ไหว้ ไหว้


ใช่ครับพี่ ไม่มีใครเอาอลูมิเนียมเพียวๆมาใช้งานครับ เพราะมันเนื้อนิ่มและความแข็งแรงยังน้อย
ต้องเอามาผสมกับโลหะชนิดอื่นเรียกว่า "อลูมิเนียมอัลลอย" ผสมกับอะไรบ้างอยู่ที่งานว่าเอาไปทำอะไร
ฉะนั้นที่ว่าอลูมิเนี่ยมในสภาพแผ่นหรือแท่งอย่างชิ้นส่วนเรือติดไฟได้ อาจจะมาจากโลหะผสมที่เจออยู่เช่น Magnesium
ผมมองว่าเกิดจากสาเหตุอื่นมากกว่าครับ
อย่างโดนจรวดนี่ ไม่ต้องพูดถึงกันหรอก โดนเข้าไปเละๆ ไม่รู้อะไรเป็นอะไรที่เป็นเชื้อเพลิงได้บ้าง
น้ำมันเอย ทั้งอาวุธที่เก็บไว้เอย มีตั้งแต่ปืนพกไปถึงลูกจรวดเยอะอยู่นะ   ไหว้ ไหว้ ไหว้




บันทึกการเข้า

ใคร่หื้อเปิ้นฮักยากนัก จักหวัง ใคร่หื้อเปิ้นจังกำเดียวก็ได้
ใช้ของที่มี  มีของที่ใช้
อรชุน-รักในหลวง
หมู่โลหิต O
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1599
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10265



« ตอบ #594 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 03, 2014, 04:27:30 PM »

ผมเข้าใจว่า จะใช้สารสองตัวนี้เป็นตัวหลัก
และจะมีสารตัวอื่นๆอีกที่ไม่เปิดเผย
เพราะตัวเรือต้องมีความคงทนทะเลสูง ทั้งแรงบิดแรงเค้น
และต้องการลดการเกิดปฎิกิริยา ทางเคมี หรือ ทางไฟฟ้า ระหว่างตัวเรือกับน้ำทะเลด้วยครับ  ไหว้ ไหว้ ไหว้


ใช่ครับพี่ ไม่มีใครเอาอลูมิเนียมเพียวๆมาใช้งานครับ เพราะมันเนื้อนิ่มและความแข็งแรงยังน้อย
ต้องเอามาผสมกับโลหะชนิดอื่นเรียกว่า "อลูมิเนียมอัลลอย" ผสมกับอะไรบ้างอยู่ที่งานว่าเอาไปทำอะไร
ฉะนั้นที่ว่าอลูมิเนี่ยมในสภาพแผ่นหรือแท่งอย่างชิ้นส่วนเรือติดไฟได้ อาจจะมาจากโลหะผสมที่เจออยู่เช่น Magnesium
ผมมองว่าเกิดจากสาเหตุอื่นมากกว่าครับ
อย่างโดนจรวดนี่ ไม่ต้องพูดถึงกันหรอก โดนเข้าไปเละๆ ไม่รู้อะไรเป็นอะไรที่เป็นเชื้อเพลิงได้บ้าง
น้ำมันเอย ทั้งอาวุธที่เก็บไว้เอย มีตั้งแต่ปืนพกไปถึงลูกจรวดเยอะอยู่นะ   ไหว้ ไหว้ ไหว้


เชื้อเพลิงจากตัวอาวุธปล่อยเองก็ใช่ย่อยครับ
บันทึกการเข้า
~ Sitthipong - รักในหลวง ~
"วาจาย่อมมีน้ำหนัก หากหนุนด้วยสรรพอาวุธ"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2953
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 23203



« ตอบ #595 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 03, 2014, 08:51:03 PM »

ในปี 2014 กองทัพเรือรัสเซียจะได้รับเรือใหม่กว่า 40 ลำ

ในปี 2014 กองทัพเรือรัสเซียมีแผนจะนำเรือรบและเรือสนับสนุนต่างๆกว่า 40 ลำเข้าประจำการ

รายงานจากรองผู้บัญชาการทหารเรือรัสเซีย พลเรือเอก Victor Bursuk

"กองเรือดำน้ำจะได้รับเรือดำน้ำพลังงาน นิวเคลียร์ติดขีปนาวุธข้ามทวีป" Vladimir Monomakh "(Borei Class )

เช่นเดียวกับกองเรือทะเลดำจะได้รับเรือดำน้ำดีเซลไฟฟ้า Project 636.3. อย่างน้อยจำนวน 2 ลำเพื่อปกป้อง

ผลประโยชน์ในทะเลดำ "- Bursuk กล่าว  นอกจากนั้นยังจะมีการอัพเกรดและซ่อมแซมเรือลาดตระเวนประจันบาน

" Admiral Nakhimov" (Kirov Class) เพื่อนำกลับมาใช้งานรวมทั้งปรับปรุงซ่อมแซมเรือดำน้ำนิวเคลียร์โจมตี

อเนกประสงค์อีก 3 ลำ "-Bursuk กล่าวเสริม  "นอกจากนี้ในช่วงปลายปี 2014 ยังจะได้รับเรือกู้ภัยขนาดใหญ่

ที่ทันสมัย" Igor Belousov "ที่กำลังจะสร้างเสร็จสมบูรณ์" - ตัวแทนของกองทัพเรือกล่าว

นอกจากเรือที่รัสเซียต่อเข้าประจำการเองแล้ว ในเดือนพฤศจิกายน 2014 รัสเซียยังจะได้รับมอบเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์

ชั้น"มิสทรัล"ลำแรกที่ต่อจาก ฝรั่งเศสอีก 1 ลำ  ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 17 เดือนธันวาคม 2013 ที่ผ่านมา นาย Vladimir Putin

และ นาย Viktor Yanukovychมประธานาธิบดีของรัสเซียและยูเครน ได้เริ่มต้นการเจรจาต่อรองในการเตรียมทำข้อตกลง

ทวิภาคีเกี่ยวกับการเพิ่ม จำนวนเรือรบในกองเรือทะเลดำของรัสเซียที่อยู่ในแหลมไครเมีย (ยูเครน) .



http://ordnancefighter.blogspot.com/2014/01/2014-40.html
บันทึกการเข้า



...ไม่มีใครทำขาวให้เป็นดำ  หรือทำผิดให้เป็นถูกได้ตลอด...
SOAP47 รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 333
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5792



« ตอบ #596 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 03, 2014, 09:39:21 PM »

มีตังค์มีความรู้ทำไรก็ดูดีไปหมด
บันทึกการเข้า

THIS IS MY STEYR.
THERE ARE MANY LIKE IT, BUT THIS ONE IS MINE.
WITHOUT MY STEYR,I AM NOTHING.
WITHOUT ME, MY STEYR IS NOTHING.
น้าเสก คนเดิม
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 712
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 14502


รับแขก...แจกเหล้า...เฝ้าสำนักงาน


« ตอบ #597 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2014, 10:23:12 AM »

 ขำก๊าก  ของเรานาน ๆ ได้ของใหม่ที...ดีใจกันน่าดู ขำก๊าก
บันทึกการเข้า

~ Sitthipong - รักในหลวง ~
"วาจาย่อมมีน้ำหนัก หากหนุนด้วยสรรพอาวุธ"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2953
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 23203



« ตอบ #598 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2014, 03:24:20 PM »

เกร็ดความรู้ทหารเรือ ว่าด้วยคำว่า "เรือหลวง"

    คำว่า "เรือหลวง" และ "เรือรบหลวง" ของกองทัพเรือ วันนี้แอดมินเลยมีเกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆ
เกี่ยวกับคำศัพท์ 2 คำนี้ ว่าจริงๆแล้ว เรือรบของราชนาวีไทยนั้น ที่ถูกต้อง ต้องเรียกว่าอะไรมาฝากทุกคนกันครับ
ในสมัยก่อนการเรียกคำนำหน้าชื่อเรือไม่ว่าจะเป็นเรือรบ เรือช่วยรบ เรือสินค้า ตลอดจนเรือแจว เรือพาย
จะมีคำว่า “เรือ” นำหน้าชื่อเรือทั้งสิ้น เช่น เรือมาด เรือสำปั้น เรือกล้ากลางสมุทร (รัชกาลที่ 3) เรือเทวาสุราราม
(รัชกาลที่ 4) เรือพาลีรั้งทวีป (รัชกาลที่ 5)

จนกระทั่งในรัชการพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว กองทัพเรือในสมัยนั้นซึ่งมีฐานะเป็นกระทรวงทหารเรือ
ได้กำหนดให้ใช้คำนำหน้าชื่อเรือในกระทรวงทหารเรือ ตั้งแต่ 5 กุมภาพันธ์ 2454 ดังนี้

เรือปืน เรียกว่า เรือรบหลวง ใช้คำย่อว่า ร.ร.ล.
เรือพิฆาตตอร์ปิโด เรียกว่า เรือพิฆาตตอร์ปิโด ใช้คำย่อว่า ร.พ.ต.
เรือตอร์ปิโดหลวง เรียกว่า เรือตอร์ปิโดหลวง ใช้คำย่อว่า ร.ต.ล.
เรือช่วยรบ เรียกว่า เรือหลวง ใช้คำย่อว่า ร.ล.

และในปีเดียวกันนั้นก็มีการเปลี่ยนคำนำหน้าเรือพิฆาตตอร์ปิโด (ร.พ.ต.) เสียใหม่ว่า “เรือพิฆาตหลวง” (ร.พ.ล.)
ส่วนคำนำหน้าชื่อเรืออื่น ๆ ยังไม่เปลี่ยนแปลง จนกระทั่งในปี พ.ศ.2466 กระทรวงทหารเรือ ได้สั่งต่อเรือยามฝั่ง
จากต่างประเทศ จึงได้ใช้อักษรย่อเรือยามฝั่งนี้ว่า ร.ย.ฝ. เพิ่มขึ้นอีก   พอนานเข้ากระทรวงทหารเรือได้มีเรือ
ไว้ใช้ราชการมากขึ้น ก็ทำให้เกิดปัญหาในการเรียกคำนำหน้าชื่อเรือสับสน เพื่อเป็นการตัดปัญหาความยุ่งยาก
ในการเรียกคำนำหน้าชื่อเรือแต่ละประเภท ในปี พ.ศ. 2467 พลเรือเอก สมเด็จเจ้าฟ้าอัษฎางค์เดชาวุธ
กรมหลวงนครราชสีมา ผู้สำเร็จราชการกระทรวงทหารเรือ จึงทรงลงคำสั่ง ให้เปลี่ยนคำนำหน้าชื่อเรือทั้งหมดเป็น
“เรือหลวง” มาจนกระทั่งปัจจุบัน

ดังนั้นที่เราเรียกกันว่า “เรือหลวง” จึงหมายถึง "บรรดาเรือเดินทะเล ทั้งเรือรบและเรือช่วยรบ ที่มีชื่อปรากฎอยู่ใน
อัตรากองทัพเรือ" ซึ่งเรือรบนั้น จะหมายถึงเรือทั้งมวลที่ใช้ปฏิบัติการยุทธ์ เช่น เรือฟริเกต เรือคอร์เวต เรือเร็วโจมตี เป็นต้น
ส่วนเรือช่วยรบนั้นคือเรือจำพวกที่มิได้ใช้การยุทธ์โดยตรงและเรือที่ใช้ สำหรับกิจการพิเศษของกองทัพเรือ
เช่น เรือส่งกำลังบำรุงประเภทต่างๆ เรือยกพลขึ้นบก เป็นต้น โดยคำว่าเรือหลวงนั้นมีชื่อย่อว่า ร.ล. ตามระเบียบ
กองทัพเรือที่ 99 ว่าด้วย การแบ่งประเภทเรือหลวง นั่นเอง



http://ordnancefighter.blogspot.com/2014/01/blog-post_7150.html
บันทึกการเข้า



...ไม่มีใครทำขาวให้เป็นดำ  หรือทำผิดให้เป็นถูกได้ตลอด...
~ Sitthipong - รักในหลวง ~
"วาจาย่อมมีน้ำหนัก หากหนุนด้วยสรรพอาวุธ"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2953
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 23203



« ตอบ #599 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 06, 2014, 07:57:52 PM »

เรือดำน้ำแคนาดาพร้อมส่งมอบคืนให้

ทร.แคนาดาเกือบ 10 ปีหลังจากอุบัติเหตุไฟไหม้  เรือดำน้ำ HMCS Chicoutimi เสร็จสิ้นการซ่อมทำและปรับปรุง

เรือที่อู่ Victoria Shipyards เป็นเวลา 3 ปี โดยจะทำการทดลองเรือในทะเลและส่งมอบเรือคืนให้ ทร.แคนาดาในอีก

ไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า  เรือดำน้ำ HMCS Chicoutimi เป็นหนึ่งในเรือดำน้ำดีเซล-ไฟฟ้ามือสองที่แคนาดาซื้อต่อจากอังกฤษ

จำนวน 4 ลำ เมื่อปี ค.ศ.1998 โดยเรือ HMCS Chicoutimi เป็นเรือลำสุดท้ายที่แคนาดารับมอบจากอังกฤษเมื่อปี ค.ศ.2004

โดยระหว่างการเดินทางไปยังแคนาดา ได้เกิดอุบัติเหตุน้ำทะเลเข้าเรือผ่านทางฝาประตูกั้นน้ำที่เปิดทิ้งไว้ขณะ คลื่นลมแรง

จนทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรและไฟไหม้เรือ ซึ่งในเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 นาย


เรือดำน้ำ HMCS Chicoutimi ถูกลากกลับไปยังอังกฤษเพื่อซ่อมทำเบื้องต้น และได้ขนส่งไปยังแคนาดาด้วยเรือ Heavy Lift

ในปี ค.ศ.2005 แต่การซ่อมทำได้ถูกเลื่อนไปให้ตรงกับการปรับปรุงเรือในปี ค.ศ.2010  แคนาดาประสบปัญหากับเรือดำน้ำ

ชั้น Victoria มาโดยตลอด ตั้งแต่การจัดเก็บเรือของอังกฤษที่อยู่ในสภาพไม่สมบูรณ์ และในปัจจุบันมีเพียงเรือ HMCS Victoria

เพียงลำเดียวที่ะร้อมปฏิบัติการและผ่านการทดสอบยิงตอร์ปิโดในทะเล ส่วนเรือ HMCS Windsor อยู่ในสถานะพร้อมปฏิบัติการ

แต่ยังไม่ผ่านการทดสอบยิงตอร์ปิโด และเรือ HMCS Corner Brook อยู่ในระหว่างการซ่อมทำจากอุบัติเหตุดำชนพื้นท้องทะเล

เมื่อปี ค.ศ.2011  ปัจจุบันแคนาดามีโครงการที่จะปรับปรุงเรือดำน้ำชั้น Victoria ให้พร้อมปฏิบัติการอย่างน้อย 3 ลำจาก 4 ลำ

โดยมีแนวคิดที่จะใช้เรือดำน้ำในการสนับสนุนปฏิบัติการนานาชาติ เช่นการปราบปรามโจรสลัด ในลักษณะเดียวกับการใช้เรือดำน้ำ

ของเนเธอร์แลนด์



http://ordnancefighter.blogspot.com/2014/01/blog-post_10.html
บันทึกการเข้า



...ไม่มีใครทำขาวให้เป็นดำ  หรือทำผิดให้เป็นถูกได้ตลอด...
หน้า: 1 ... 37 38 39 [40] 41 42 43 ... 166
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.207 วินาที กับ 22 คำสั่ง