๏ฟฝ๏ฟฝ็บบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝสน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาปืน
เมษายน 27, 2024, 09:47:23 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 98 99 100 [101] 102 103 104 ... 166
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ความรู้เรื่องเรือรบและอาวุธทางน้ำ  (อ่าน 497671 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 5 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Yut64
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 7670
ออฟไลน์

กระทู้: 10059



« ตอบ #1500 เมื่อ: กันยายน 23, 2015, 11:57:43 PM »

เหตุผลที่ ชุด ร.ล. นเรศวร เลือกระบบของ SAAB
เอาข้อมูลของ Erieye มาให้เรือว่าเรือเป้าหมายอยู่ตรงไหนเรือแอบยิง Harpoon ไปบริเวณนั้นโดยปิดเรดาห์ให้เรือนำทางไปก่อนพอใกล้ระยะทำการก็เปิดเรดาห์ล้อคเป้าได้เลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 24, 2015, 12:55:36 PM โดย Yut64 » บันทึกการเข้า
กรุงเก่า : รักในหลวงครับ
ชาว อวป.
Jr. Member
****

คะแนน 35
ออฟไลน์

กระทู้: 68



« ตอบ #1501 เมื่อ: กันยายน 24, 2015, 10:46:23 AM »

อยากให้รีบพิจารณาแล้วรีบซื้อไปเถอะครับเรือดำน้ำน่ะ ระบบดี คุณภาพพอใจ อาวุธครบ ราคาพอเป็นหนี้ได้เลี่ยงของสมาชิกนาโต้ จะได้ไม่โดนบีบเรื่องอะไหล่และอาวุธส่งไม่ส่งให้ในภายหลัง ตอนเป็นรัฐบาลปกติก็มีคนค้าน ไม่ควรกังวลเรื่องมีคนค้านมันมีคนค้านกันทุกยุคแหละครับ แต่ความมั่นคงของชาติไม่ควรรอนานครับ
บันทึกการเข้า
หนานมา
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 246
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1324



« ตอบ #1502 เมื่อ: กันยายน 24, 2015, 12:58:41 PM »

อ้าว.......เพิ่งจะจูนกันได้หรือครับ...... ตกใจ

นเรศวรเพิ่งปรับปรุงเสร็จได้ไม่นานครับน้าฯ
ก่อนหน้านั้นก้อมี ร.ล.จักรีฯ ที่จูนฯไปแล้ว   ไหว้ 

ถ้าได้เป้าจาก อีรี่อาร์ย มาแล้วผมว่า ร.ล.นเรศวร ถ้าอยู่ในระยะคงยิงได้เลยครับ ไม่ต้องเปิดเรดาร์   ไหว้ ไหว้ ไหว้


บันทึกการเข้า

ใคร่หื้อเปิ้นฮักยากนัก จักหวัง ใคร่หื้อเปิ้นจังกำเดียวก็ได้
ใช้ของที่มี  มีของที่ใช้
ART
ชีวิตคิดบวก แล้วจะ Happy
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 552
ออฟไลน์

กระทู้: 10816



« ตอบ #1503 เมื่อ: กันยายน 24, 2015, 03:08:42 PM »

อ้าว.......เพิ่งจะจูนกันได้หรือครับ...... ตกใจ

นเรศวรเพิ่งปรับปรุงเสร็จได้ไม่นานครับน้าฯ
ก่อนหน้านั้นก้อมี ร.ล.จักรีฯ ที่จูนฯไปแล้ว   ไหว้ 

ถ้าได้เป้าจาก อีรี่อาร์ย มาแล้วผมว่า ร.ล.นเรศวร ถ้าอยู่ในระยะคงยิงได้เลยครับ ไม่ต้องเปิดเรดาร์   ไหว้ ไหว้ ไหว้



เรือศัตรูงานเข้าแน่น่ะครับ
บันทึกการเข้า

หนานมา
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 246
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1324



« ตอบ #1504 เมื่อ: กันยายน 24, 2015, 03:18:20 PM »

อ้าว.......เพิ่งจะจูนกันได้หรือครับ...... ตกใจ

นเรศวรเพิ่งปรับปรุงเสร็จได้ไม่นานครับน้าฯ
ก่อนหน้านั้นก้อมี ร.ล.จักรีฯ ที่จูนฯไปแล้ว   ไหว้  

ถ้าได้เป้าจาก อีรี่อาร์ย มาแล้วผมว่า ร.ล.นเรศวร ถ้าอยู่ในระยะคงยิงได้เลยครับ ไม่ต้องเปิดเรดาร์   ไหว้ ไหว้ ไหว้



เรือศัตรูงานเข้าแน่น่ะครับ

ถ้าเป็นสถานการณ์จริง...
อีรี่อาร์ยคงอยู่หลัง ร.ล.นเรศวร (สิ้นปีนี้ก้อจะมี ร.ล.ตากสินเพิ่มอีกหนึ่ง)
แต่อาศัยที่บินสูง ตรวจจับได้ไกล  ส่งข้อมูลให้เรือฯๆก้อป้อนค่าเป้าให้จรวด เพราะฉนั้น เรือฯไม่จำเป็นต้องเปิดเรดาร์ค้นห้าเป้าครับ  
ส่วนการป้องกัน อีรี่อาร์ยโดนสอย ก้อใช้ ร.ล.นเรศวรนั่นแหละป้องกันให้  Grin Grin   ไหว้

พื้นน้ำและฝากฟ้าไม่น่าเป็นห่วง ห่วงแต่ใต้น้ำ  เศร้า  
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 24, 2015, 03:19:56 PM โดย หนานมา » บันทึกการเข้า

ใคร่หื้อเปิ้นฮักยากนัก จักหวัง ใคร่หื้อเปิ้นจังกำเดียวก็ได้
ใช้ของที่มี  มีของที่ใช้
บูรพา - รักในหลวง
Sr. Member
****

คะแนน 65
ออฟไลน์

กระทู้: 752



« ตอบ #1505 เมื่อ: กันยายน 24, 2015, 08:43:23 PM »

 ตกใจ  อินโดนีเซียเปิดแผนซื้อเรือดำน้ำรัสเซีย 10 ลำ ชั้น “คิโล” แบบเวียดนาม

http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9560000151594
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 25, 2015, 05:43:56 AM โดย บูรพา - รักในหลวง » บันทึกการเข้า
~ Sitthipong - รักในหลวง ~
"วาจาย่อมมีน้ำหนัก หากหนุนด้วยสรรพอาวุธ"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2953
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 23203



« ตอบ #1506 เมื่อ: กันยายน 24, 2015, 09:20:35 PM »



สมาคมนิยมอาวุธรัสเซีย Russia military fanclub.

เรือ มิสทรัล ทำฝรั่งเศสอ่วม สูญเงินพันล้านยูโร

ความผิดพลาดของปารีสในการคำนวณค่าใช้จ่ายของตัวเองที่เกิดขึ้น หลังจากการสิ้นสุดสัญญาในการส่งมอบ

เรือบรรทุก ฮ. "มิสทรัล" ให้กับรัสเซีย นาย Jean-Luc Melenhon สมาชิกรัฐสภาแห่งสหภาพยุโรปของฝรั่งเศส

ให้ทรรศนะว่ารัฐบาลฝรั่งเศสล้มเหลวในการประเมินความเสียหายจากการยกเลิกสัญญากับรัสเซียกรณีเรือ

"มิสทรัล" ทั้ง 2 ลำ "การสิ้นสุดของสัญญาคือการล่วงละเมิดทางการเงิน และการพังทลายลงมาอย่างสิ้นเชิง

ของประเทศฝรั่งเศส ในการเป็นผู้ผลิตอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ" Melenhon กล่าวเพิ่มเติม เขาระบุว่าการ

สูญเสียเงินจำนวน 9,497 ล้าน ซึ่งเป็นหนี้ที่ฝรั่งเศสจะต้องจ่ายให้กับทางรัสเซียเป็นค่าปรับสำหรับการผิดสัญญา

"ค่าใช้จ่ายของการยกเลิกสัญญาสำหรับโครงการนี้ ผลรวมของค่าใช้จ่ายในที่สุดแล้วก็จะหยุดอยู่ระหว่าง

2.75 พันล้านยูโร " เขากล่าวเสริม ตามที่ระบุ ต้นทุนค่าใช้จ่ายในการต่อเรือทั้งหมด จะขึ้นอยู่กับความล่าช้าของ

การนำ "มิสทรัล" ไปขายต่อให้กับลูกค้าอื่น ๆ เพราะฝรั่งเศสต้องจ่ายเงินประมาณ 5 ล้านยูโรต่อเดือน สำหรับการ

บำรุงรักษาเรือนอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายในการรื้อถอนอุปกรณ์ที่รัสเซียนำมาติดตั้งอีกหลายร้อยล้านยูโร ทั้งนี้ยังไม่

รวมค่าใช้จ่ายในการปรับแต่งให้ตรงความต้องการของลูกค้ารายใหม่ นาย Jean-Luc Melenhon ตั้งคำถามในตอน

ท้ายว่า การขายยุทธโธปกรณ์ทางทหารภายใต้แรงกดดันของสหรัฐฯ ได้ทำลายความเชื่อมั่นและความเป็นอิสระ

ของฝรั่งเศสจากทั่วโลกไปอีกนานสำหรับในมุมมองด้านการเมืองระหว่างประเทศ ถือว่าฝรั่งเศสประสบความสูญเสีย

ครั้งยิ่งใหญ่...

#Next_Station_Thailand
บันทึกการเข้า



...ไม่มีใครทำขาวให้เป็นดำ  หรือทำผิดให้เป็นถูกได้ตลอด...
vichai01++รักในหลวง++
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 111
ออฟไลน์

กระทู้: 2779



« ตอบ #1507 เมื่อ: กันยายน 24, 2015, 09:58:54 PM »

ตกใจ  อิโดนีเซียเปิดแผนซื้อเรือดำน้ำรัสเซีย 10 ลำ ชั้น “คิโล” แบบเวียดนาม

http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9560000151594

ทำไมประเทศอื่นซื้อง่ายอย่างนี้ครับ  เศร้า
บันทึกการเข้า

คาถาป้องกันภัยพิบัติทั้งปวง
ปะโตเมตัง ปะระชิวินัง สุขะโต จุติ
จิตะเมตะ นิพพานัง สุขะโตจุติ
Yut64
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 7670
ออฟไลน์

กระทู้: 10059



« ตอบ #1508 เมื่อ: กันยายน 24, 2015, 10:23:36 PM »

ประชากรหลักร้อยล้านมีงานทำเยอะภาษีก็เยอะ ประเทศเป็นหมู่เกาะยาวมากยังไงก็ต้องมีประมาณนั้นเมื่อก่อนมีสิบกว่าลำเลยนะ
บันทึกการเข้า
~ Sitthipong - รักในหลวง ~
"วาจาย่อมมีน้ำหนัก หากหนุนด้วยสรรพอาวุธ"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2953
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 23203



« ตอบ #1509 เมื่อ: กันยายน 25, 2015, 05:23:40 PM »

Saab Kockums สวีเดนทำพิธีตัดเหล็กแผ่นแรกของเรือดำน้ำแบบ A26 ลำแรก

Steel cut for first submarine [DSEi15D4]



http://www.janes.com/article/54612/steel-cut-for-first-submarine-dsei15d4

วันที่ 4 กันยายนที่ผ่านมา บริษัท Saab Kockums สวีเดนได้ทำพิธีตัดเหล็กแผ่นแรกของชิ้นส่วนถังความดันของ

ตัวเรือ(pressure hull) ของเรือดำน้ำแบบ A26 ลำแรกของกองทัพเรือสวีเดนที่อู่ต่อเรือ Karlskrona ซึ่งเป็นไปตาม

ขั้นตอนการก่อสร้างของโครงการ "เราได้ละทิ้งขั้นตอนการออกแบบไว้เบื้องหลังและเริ่มการก่อสร้างเรือดำน้ำ A26

ที่จะเป็นเสาหลักของการป้องกันภัยทางทะเลในอนาคตของสวีเดน ตอนนี้การก่อสร้างได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว มันเป็นการ

ส่งสัญญาณที่ชัดเจนถึงลูกค้าที่มีความเป็นไปได้รายอื่นทั่วโลกว่า SAAB พร้อมที่จะส่งมอบพวกเธอ(เรือ)ให้(ลูกค้า)

ได้อย่างดีเช่นกัน"Gunnar Wieslander ประธานคนใหม่ที่เพิ่งรับตำแหน่งของส่วนธุรกิจ Saab Kockums กล่าว

ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา Saab ได้รับสัญญาจากสำนักงานจัดหายุทธภัณฑ์ความมั่นคงสวีเดน(FMV) วงเงิน

7.6 billion Swedish Krona ($929.5 million) สำหรับการจัดหาเรือดำน้ำ A26 2ลำ ซึ่งลำแรกมีกำหนดส่งมอบให้

กองทัพเรือสวีเดนในปี 2022


เรือดำน้ำแบบ A26 มีระวางขับน้ำประมาณ 2,000tons  ได้รับการออกแบบตามแนวคิด Modular และความเหมาะสม

ที่เน้นขีดความสามารถสำหรับภารกิจที่หลากหลาย ทั้งการรวบรวมข่าวกรอง การตรวจการณ์  การลาดตระเวน และ

การปฏิบัติการพิเศษ คุณสมบัติสำคัญของตัวเรือนั้นรวมการลดการแพร่สัญญาณให้ตรวจจับได้ต่ำมาก มีระยะเวลา

ดำอยู่ใต้น้ำได้นานด้วยระบบขับเคลื่อน Stirling AIP(Air Independent Propulsion) มีความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่

ระดับสูง มีความอยู่รอดขั้นเหนือระดับ ใช้ระบบตรวจจับสถาปัตยกรรมเปิด และชุดระบบสื่อสารที่รองรับการทำสงคราม

แบบเครือข่าย(Network Centric Warfare) โดยคุณสมบัติหลักสำคัญของเรือดำน้ำแบบ A26 คือช่องบรรทุกที่มีความ

ยืดหยุ่นในส่วนหัวเรือที่เรียกว่า Multimission Portal (MMP) ที่อยู่ระหว่างคู่ของท่อยิง Torpedo ขนาด 533 mm ทั้ง

4 ท่อยิงที่หัวเรือ ซึ่งสามารถทำการปล่อยได้ทั้งนักประดาน้ำ, ยานลำเลียงนักดำน้ำ(Swimmer Delivery Craft) และ

ยานใต้น้ำไร้คนขับ(Unmanned Underwater Vehicles) จากท่อพิเศษนี้ครับ

http://aagth1.blogspot.com/2015/09/saab-kockums-a26.html
บันทึกการเข้า



...ไม่มีใครทำขาวให้เป็นดำ  หรือทำผิดให้เป็นถูกได้ตลอด...
Yut64
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 7670
ออฟไลน์

กระทู้: 10059



« ตอบ #1510 เมื่อ: กันยายน 26, 2015, 11:07:46 AM »

น่าจะจองพร้อมกันไปเลยนะสิปีรอได้จ่ายเงินตามงวดงานไปเรื่อยๆ ถ้าเลือกสวีเดนแรงกดดันคงหายไปเยอะ
บันทึกการเข้า
~ Sitthipong - รักในหลวง ~
"วาจาย่อมมีน้ำหนัก หากหนุนด้วยสรรพอาวุธ"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2953
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 23203



« ตอบ #1511 เมื่อ: กันยายน 27, 2015, 11:31:24 PM »

อียิปต์จะจัดหาเรืออู่ยกพลขึ้นบกบรรทุกเฮลิคอเตอร์ชั้น Mistral สองลำ
ที่เดิมเป็นของรัสเซีย พร้อมเฮลิคอปเตอร์โจมตี Ka-52 50เครื่อง


Official: France Announce Egypt Will Acquire the 2 Mistral Class LHDs Originally Intended for Russia


The former Russian Navy Mistral class LHD Vladivostok
http://www.navyrecognition.com/index.php?option=com_content&task=view&id=3114

รัฐบาลฝรั่งเศสได้ประกาศแถลงการอย่างเป็นทางการว่าประธานธิบดีฝรั่งเศส นาย Francois Hollande และ

ประธานาธิบดีอียิปต์ Abdel Fattah Al Sissi ได้เข้าพบกันและมีข้อตกลงร่วมในการที่ฝรั่งเศสจะขายต่อเรือ

อู่ยกพลขึ้นบกบรรทุกเฮลิคอเตอร์(LHD: Landing Helicopter Dock)ชั้น Mistral ที่เดิมเป็นของกองทัพเรือ

รัสเซียทั้งสองลำ  โดยตามกำหนดการเดิมที่ฝรั่งเศสทำสัญญาไว้กับรัสเซียนั้นเรือ LHD ชั้น Mistral ทั้งสองลำ

คือ Vladivostok และ Sevastopol จะต้องส่งมอบให้กองทัพเรือรัสเซียในปี 2014 และ 2015 ตามลำดับ

แต่เนื่องจากความขัดแย้งระหว่างชาติตะวันตกในกลุ่มสหภาพยุโรปและ NATO กับรัสเซียที่รุนแรงขึ้นหลังจาก

ที่รัสเซียเข้าผนวก Crimea และแทรงแซงสงครามในเขต Donbass ของยูเครนตั้งแต่ปี 2014 ทำให้ฝรั่งเศส

ตัดสินใจยกเลิกการส่งมอบเรือ LHD ทั้งสองลำให้รัสเซียซึ่งมีการเจรจาข้อตกลงชดเชยระหว่างกันไปแล้ว

ซึ่งนั่นทำฝรั่งเศสเสียผลประโยชน์ด้านอุตสาหกรรมด้านความมั่นคงของตนไปพอสมควร และเป็นการทำ

กองทัพเรือรัสเซียจะเพิ่มขีดความสามารถในปฏิบัติยกพลขึ้นบกได้ช้าลงจนกว่าจะสามารถสร้างเรือ LHD

ของตนเองใหม่ด้วย โดยคาดว่ากองทัพเรือรัสเซียมีแผนจะนำเรือ LHD ทั้งสองลำเข้าประจำการในกองเรือ

แปซิฟิค


อย่างไรก็ตามข้อตกลงในการขายเรือ LHD ชั้น Mistral สองลำให้อียิปต์ที่คาดว่าจะมีวงเงินประมาณ

950 million Euros นั้นถือเป็นความสำเร็จที่ทั้งฝรั่งเศส รัสเซีย และอียิปต์ที่ได้ประโยชน์ในการหาทางออก

ของปัญหาร่วมกัน  โดยบริษัท DCNS ฝรั่งเศส ซึ่งเป็นออกแบบและต่อเรืออู่ยกพลขึ้นบกบรรทุกเฮลิคอเตอร์

ชั้น Mistral นั้นก็เพิ่งจะทำการส่งมอบเรือฟริเกตแบบ FREMM คือ FFG-1001 Tahya Misr ให้กองทัพเรืออียิปต์

ไปเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา (เดิมคือ D651 Normandie ของกองทัพเรือฝรั่งเศส ตามที่เคยรายงานไป)

รวมทั้ง DCNS ยังมีสัญญาการต่อเรือคอร์เวตแบบ Gowind 2500 จำนวน 4ลำให้กองทัพเรืออียิปต์ซึ่งจะมี

กำหนดส่งมอบเรือลำแรกในปี 2017 ด้วย  เมื่อรวมกับการจัดหาเครื่องบินขับไล่ Dassault Rafale ของกองทัพ

อากาศอียิปต์จากฝรั่งเศสตามที่เคยรายงานไปล่าสุดก็ยิ่งเป็นกระชับความสัมพันธ์ด้านความมั่นคงระหว่าง

ฝรั่งเศสและอียิปต์มากยิ่งขึ้น

Source: Egypt buys 50 Russian Alligator helicopters, deck-based version may be supplied


Ka-52 Alligator helicopter TASS/Yuri Smityuk
http://tass.ru/en/defense/823140

นอกจากนี้ตามรายงานข่าวของสื่อรัสเซียว่าอียิปต์ได้ลงนามข้อตกลงในการจัดหาเฮลิคอปเตอร์โจมตี

Kamov Ka-52 Alligator จำนวน 50 เครื่องจากรัสเซีย วงเงินราว 2.3 billion Euros สำหรับกองทัพอากาศ

อียิปต์ซึ่งจะส่งมอบในช่วงปี 2016-2019 นั้น มีข้อมูลว่าอียิปต์ยังมองความเป็นได้ในการจัดหา ฮ.โจมตี

Ka-52K Katran ซึ่งเป็นรุ่นปฏิบัติการทางทะเลจากเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ด้วย โดยเดิมทีกองทัพเรือรัสเซีย

ได้สั่งจัดหา ฮ.โจมตี Ka-52K สำหรับกองบินทหารเรือเพื่อนำมาใช้ปฏิบัติการร่วมกับเรือ LHD ชั้น Mistral

ทั้งสองลำ โดยจะได้รับมอบเครื่องชุดแรกในช่วงปี 2017-2018 แต่เนื่องจากการที่ฝรั่งเศสยกเลิกการส่งมอบ

เรือให้รัสเซียทำให้แผนการนำ ฮ.Ka-52K เข้าประจำการบนเรือ LHD ต้องล่าช้าออกไปจนกว่ากองทัพเรือรัสเซีย

จะสร้างเรือ LHD ใหม่ของตนเองได้  อีกทั้งยังมีรายงานจากสื่อของรัสเซียและฝรั่งเศสด้วยว่าถ้าอียิปต์เป็นผู้

จัดหาเรือ LHD ชั้น Mistral ทั้งสองลำแทนรัสเซียแล้ว  การถอดถอนระบบอุปกรณ์ที่เป็นระบบของรัสเซียบนเรือ

LHD คือ Vladivostok และ Sevastopol นั้น รัสเซียจะทำการถอดออกเพียงบางระบบที่เป็นชั้นความลับเท่านั้น

แต่จะคงบางระบบบนเรือให้อียิปต์ไปใช้ต่อนั่นทำให้มีความเป็นไปได้มากว่าอียิปต์จะรับมอบเรือ LHD ชั้น Mistral

ทั้งสองลำที่เดิมเป็นของรัสเซียโดยเป็นระบบผสมทั้งของฝรั่งเศสและรัสเซีย ที่อาจจะรองรับการปฏิการของ

ฮ.โจมตี Ka-52 ร่วมกับเรือได้  ซึ่งตามคุณสมบัติของเรืออู่ยกพลขึ้นบกบรรทุกเฮลิคอเตอร์ชั้น Mistral นั้นสามารถ

รองรับเฮลิคอปเตอร์ได้ 16 เครื่อง เรือระบายพล 4 ลำ รถหุ้มเกราะ 70 คัน และทหารราบ 450 นาย ครับ

http://aagth1.blogspot.com/2015/09/mistral-ka-52-50.html
บันทึกการเข้า



...ไม่มีใครทำขาวให้เป็นดำ  หรือทำผิดให้เป็นถูกได้ตลอด...
Yut64
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 7670
ออฟไลน์

กระทู้: 10059



« ตอบ #1512 เมื่อ: กันยายน 28, 2015, 12:10:31 AM »

เอาเงินที่ได้จากคนไปเที่ยวชมปิรามิดมาซื้อมั้ง อ้อค่าเรือผ่านคลองซุเอชด้วยมั้ง
บันทึกการเข้า
~ Sitthipong - รักในหลวง ~
"วาจาย่อมมีน้ำหนัก หากหนุนด้วยสรรพอาวุธ"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2953
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 23203



« ตอบ #1513 เมื่อ: กันยายน 28, 2015, 03:28:47 PM »

อิเหนาซื้อ 2 ลำเรือดำน้ำ Kilo รัสเซีย เรือใหม่ป้ายแดงแบบเวียดนาม


ศึกษาและพิจารณากันมาข้ามปี กระทรวงกลาโหมอินโดนีเซียประกาศการตัดสินใจในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซื้อเรือดำน้ำ
ชั้นคิโล (Kilo-Class) ของรัสเซีย แบบเดียวกันกับเวียดนาม โดยประธานาธิบดีวิโดโด ให้นโยบายใหม่ซื้อเรือใหม่
มือหนึ่ง ได้จำนวนน้อยกว่า แต่ก็ดีกว่าซื้อเรือเก่าเหลาเหย่จำนวนมากๆ เพราะฉะน้้นล็อตแรก ก็จึงซื้อได้เพียง 2 ลำ
จากโครงการจัดหา 5 ปี รวมอย่างน้อย 12 ลำ. -- ITAR-TASS/Yuri Smityuk.


ASTVผู้จัดการออนไลน์ - สัปดาห์ที่ผ่านมา กระทรวงกลาโหมอินโดนีเซียได้เปิดเผย ผลสรุปเกี่ยวกับการจัดหารือดำน้ำ
สำหรับกองทัพเรือ โดยได้ตัดสินใจซื้อเรือชั้นคิโล (Kilo-Class) จากรัสเซีย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงนี้ กล่าวว่า แผนการ
ได้รับอนุมัติจากประธานาธิบดีโจโก วิโดโด แล้ว การประกาศเรื่องนี้ยังมีขึ้นขณะที่คณะทหารระดับสูงกำลังจะพบเจรจา
กับคณะผู้แทนฝ่ายรัสเซียเกี่ยวกับการจัดหาเครื่องบินรบ Su-35 เทคโนโลยีสูง ซึ่งนักวิเคราะห์กล่าวว่า อาจจะมีจำนวน
4-6 ลำในล็อตแรก
       

พล.อ.รีอามิซาร์ดี รีอาคูดู ได้ยืนยันต่อผู้สื่อข่าวหลังประชุมลับกับบรรดาสมาชิกรัฐสภาจำนวนหนึ่ง เมื่อวันที่ 21 ก.ย.
ประธานาธิบดีวิโดโด ได้ให้นโยบายใหม่ว่า "ซื้อเรือใหม่ 5 ลำ ดีกว่าซื้อเรือที่ใช้แล้ว 10 ลำ" และยังเปิดเผยอีกว่า รัสเซีย
ก็เป็นประเทศหนึ่งในเป้าหมายของการจัดหา เรือดำน้ำรัสเซียสามารถปฏิบัติการใต้น้ำได้ดีกว่า ยาวนานกว่า ยังแล่นใน
ระดับน้ำตื้นได้ดีกว่า เมื่อเทียบกับเรือที่สร้างในประเทศอื่นๆ
     
 
ทั้งสื่อในอินโดนีเซีย และสื่อทางการรัสเซีย รวมทั้งสำนักข่าวทาสส์ (ITAR-TASS) ต่างรายงานเรื่องนี้ในวันรุ่งขึ้น
       

หนังสือพิมพ์จาการ์ตาโพสต์ รายงานเมื่อวันที่ 22 ก.ย. อ้าง พล.ร.ต.เอ็ม ไซนุดดิน โฆษกกองทัพเรือที่ระบุว่า กองทัพได้
พิจารณาจัดหาเรือชั้นคิโล จำนวน 2 ลำ ในชั้นแรกนี้ ซึ่งเป็นไปภายใต้โครงการ 5 ปี ที่ประกาศมาก่อนหน้านี้ การตัดสินใจ
ซื้อเรือทั้ง 2 ลำจึงไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ และ ในขณะนี้กำลังรอการติดต่อเจรจาอย่างเป็นทางการจากฝ่ายรัสเซีย
       
เมื่อปีที่แล้ว กองทัพเรืออินโดนีเซียได้พิจารณาข้อเสนอของรัสเซียที่เสนอขายเรือดำน้ำชั้นคิโลใช้แล้ว จำนวน 10 ลำ
รัฐมนตรีอุตสาหกรรมและพลังงานรัสเซีย นายเดนิส มานตูรอฟ ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวทาสส์ ระหว่างไปเยือนกรุงจาการ์ตา
เดือน ต.ค.ปีที่แล้วว่า อินโดนีเซียกำลังพิจารณาจัดซื้อเรือดำน้ำชั้นวาร์ชาฟยันกา (Varsharvyanka) หรือ “โครงการ 636”
ซึ่งหมายถึงเรือชั้นคิโลรุ่นปรับปรุงนั่นเอง
       

การตัดสินใจซื้อครั้งนี้ ทำให้อินโดนีเซียเป็นประเทศที่สอง ในย่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีเรือดำน้ำดีเซล-มอเตอร์
ไฟฟ้าคุณภาพเยี่ยมของรัสเซีย ที่ผ่านการทดสอบและพัฒนามาเป็นเวลานาน ถัดจากเวียดนาม ที่เซ็นซื้อ 6 ลำ ในเดือน
ธ.ค.2552 ถึงปัจจุบันได้รับแล้ว 4 ลำ สองลำสุดท้ายมีกำหนดส่งมอบทั้งหมดภายในปี 2559

       
อินโดนีเซียมีเรือดำน้ำประจำการมาก่อนใครๆ ในย่านนี้ ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ปัจจุบันใช้เรือดำน้ำรุ่นเก่าที่
ซื้อจากเยอรมนี จำนวน 2 ลำ และเมื่อปี 2555 ได้สั่งซื้อเรือสกุลเยอรมัน ที่ต่อในเกาหลี จำนวน 3 ลำ หากนับรวมกับ
เรือคิโลรัสเซียอีก 2 ลำ ก็จะเป็น 7 แต่ก็ยังห่างไกลจากความต้องการ
       

เรือชั้นชางโบโก (Chang Bogo) ของเกาหลี มีกำหนดส่งมอบระหว่างปี 2558-2559 แต่ได้เลื่อนออกไปเป็นปี 2560
ในขณะเดียวกัน ก็มีกำหนดจะปลดระวางเรือแบบ 209 หรือ Type 209 ซึ่งก็คือเรือชั้นจักรา (Cakra-Class) ทั้ง 2 ลำ
ในปี 2563 หลังใช้งานมาตั้งแต่ปี 2524
       

เป็นที่ทราบกันทั่วไปว่า เมื่อปีที่แล้วทางการอินโดนีเซียได้ประกาศแผนการจัดหาเรือดำน้ำอย่างน้อย 12 ลำในระยะ
5 ปี และได้มีการพิจาณาทั้งเรือชางโบโก เรือชั้นอามูร์ (Amur-Class) จากรัสเซีย เรือแบบ 214 (Type 214) จากเยอรมนี
กับเรือคิโล ซึ่งจำเป็นสำหรับภารกิจในการรักษาน่านน้ำที่กว้างใหญ่กับหมู่เกาะที่อยู่หางไกลจากเมืองหลวงออกไป
มีความสลับซับซ้อนทั้งทางด้านการเมือง และด้านภูมิรัฐศาสตร์
       

ถึงแม้อาจจะมีเรือดำน้ำ 5-7 ลำในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า แต่ก็ยังเทียบไม่ได้กับในช่วงทศวรรษที่ 1960-1970 ที่กองทัพเรือ
อินโดนีเซีย เคยเป็นมหาอำนาจใต้ผิวน้ำในย่านนี้อย่างแท้จริง เคยมีเรือชั้นวิสกี (Whiskey-Class) ที่ซื้อจาก
สหภาพโซเวียตถึง 12 ลำ แต่ได้ทยอยปลดระวางประจำการ จนกระทั่งลำสุดท้ายเมื่อปี 2529
       

อินโดนีเซีย ไม่ใช่ลูกค้าแปลกหน้าสำหรับอาวุธยุทโธปกรณ์ค่ายโซเวียต/รัสเซีย กองทัพบกอินโดนีเซีย ใช้ปืน AK-47
เป็นปืนเล็กยาวกึ่งอนามัติประจำกายกำลังพลนับหมื่นๆ มาตั้งแต่ยุคสงครามเย็น รวมทั้งยานหุ้มเกราะอีกจำนวนหนึ่ง
ปัจุบันกองทัพอากาศยังมีเครื่องบินรบ Su-30 ที่ซื้อจากรัสเซีย ใช้งานอยู่กว่า 10 ลำ และเพิ่งประกาศเมื่อไม่นานมานี้
เกี่ยวกับการตัดสินใจซื้อ Su-35 จำนวน 16 ลำ โดยการจัดซื้ออย่างค่อยเป็นค่อยไป ตามฐานะทางการเงินของประเทศ
       

เจ้าหน้าที่อินโดนีเซียเปิดเผยต่อสื่อเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า การเจรจาในขั้นต้นกับฝ่ายรัสเซียกำลังจะมีขึ้นภายในเดือนนี้
สำหรับการเจรจาซื้อขายกันในเดือน ต.ค. ซึ่งจะทำให้อินโดนีเซียเป็นลูกค้าต่างประเทศรายแรก ของ “เครื่องบินรบ
ยุคที่ 4++” สมรรถนะสูงที่มีการประยุกต์เทคโนโลยีเครื่องบินรบยุคที่ 5 เข้าไปด้วยจำนวนหนึ่ง.

http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9580000108716
บันทึกการเข้า



...ไม่มีใครทำขาวให้เป็นดำ  หรือทำผิดให้เป็นถูกได้ตลอด...
Yut64
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 7670
ออฟไลน์

กระทู้: 10059



« ตอบ #1514 เมื่อ: กันยายน 28, 2015, 03:53:04 PM »

อินโดมีอุตสาหรรมรองรับการซ่อมบำรุงของพวกนี้อยู่แล้วนานไปทำได้เองแน่ แรงงานเหลือเฟือ
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 98 99 100 [101] 102 103 104 ... 166
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.11 วินาที กับ 21 คำสั่ง