๏ฟฝ๏ฟฝ็บบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝสน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาปืน
เมษายน 28, 2024, 12:08:33 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 26 27 28 [29] 30
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: SU27 ? SU 30 ?? ทัพฟ้าไทย  (อ่าน 235283 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
อรชุน-รักในหลวง
หมู่โลหิต O
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1599
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10265



« ตอบ #420 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2005, 02:25:13 PM »

ยานเบาะอากาศ ซุปร์
…อุทกภัยเป็นภัยที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ มนุษย์คงไม่สามารถไปห้ามหรือขัดขวางไม่ให้เกิดขึ้นได้ ทำได้แต่เพียงบรรเทาความสูญเสียให้น้อยลงและช่วยเหลือผู้ที่ประสบอุทกภัยให้รอดพ้นจากภยันตรายที่เกิดขึ้น เมื่อมีอุทกภัยเกิดขึ้นครั้งใด ทางราชการจะจัดส่งหน่วยช่วยเหลือ เช่น ไปรับคนมายังพื้นที่ปลอดภัย หรือจัดส่งสิ่งของบรรทุกทุกข็ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน หรือแต่ถ้าหากมีอุทกภัยเกิดขึ้นในพื้นที่ห่างไกลถูกตัดขาดจากโลกภายนอก การคมนาคมทางบกถูกกระแสน้ำพัดขาดหายไปเป็นช่วง รถยนต์ข้ามไม่ได้ หรือเป็นเกาะอยู่ห่างไกลจากชายฝั่งการช่วยเหลือก็ทำได้ลำบากอาจจะกระทำได้เฉพาะทางอากาศเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามอุทกภัยจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อมีพายุดีเปรสชั่นหรือมรสุมพันผ่านเข้ามายังพื้นที่ทำให้เกิดฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน อากาศเลวร้ายและลมแรงอากาศยานก็ไม่สามารถทำการบินได้ ถ้าหากพื้นที่ประสบภัยเป็นเกาะหรือติดกับแม่น้ำสายไหมอาจส่งเรือไปช่วยเหลือได้ แต่เรือก็ต้องจอดอยู่ห่างจากฝั่งมาก เพราะอาจจะชนกับหินโสโครก ถ้าหากเป็นแม่น้ำเรือลำใหญ่ก็คงไม่กล้าเสี่ยงเพราะแม่น้ำอาจจะตื้นเกินไปที่เรือจะแล่นผ่านไปได้
…มีเรือประเภทหนึ่งซึ่งเหมาะสำหรับการนำมาใช้ในการช่วยเหลือผู้ประสบภันพิบัติจากอุทกภัย ที่ถูกโดดเดี่ยวอยู่กลางทะเลหรือใกล้ริมฝั่งแม่น้ำ เรือแม้แต่บนบก เรือที่ว่านี้เรียกว่า ยานเบาะอากาศ หรือ Air Cushion Vehicle ที่ว่าเหมาะสำหรับภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยที่อยู่บริเวณพื้นที่ดังกล่าว เพราะเรือประเภทนี้ลำตัวจะจมลงไปใต้น้ำเพียงเล็กน้อย แต่ถ้าหากเป็นเรือขนาดเล็กอาจจะเรียกว่าแล่นไปบนผิวน้ำ และมีความเร็วสูง สามารถให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันท่วงที และที่สำคัญสามารถแล่นบนพื้นหญ้า บนถนน หรือแม้แต่แล่นทับไปบนเศษซากปรักหักพังของต้นไม้ อิฐ หิน ที่เกิดจากกระแสน้ำ โดยไม่ต้องกลัวว่าเรือจะเสียหายหรือคนจะได้รับอันตราย ถ้าเป็นเรือขนาดใหญ่ภายในตัวเรือสามารถบรรทุกเวชภัณฑ์หรือสิ่งของไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย หรือเป็นโรงพยาบาลสำหรับทำการรักษาผู้บาดเจ็บขณะนำตัวออกจากพื้นที่มายังบนฝั่งหรือบริเวณที่ปลอดภัย
…แต่อย่างไรก็ตาม ยานเบาะอากาศไม่เป็นที่นิยมมากนักเมื่อเปรียบเทียบกับเรือทั่วๆ ไป ในการนำมาใช้งานทางทะเลทั้งทางทหารและทางพลเรือน เนื่องจากเรือประเภทนี้มีข้อเสียหลายประการ อาทิเช่น เสียงดังมาก เพราะมีใบพัดขนาดใหญ่อยู่ด้านหลัง สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมาก และต้องมีเครื่องยนต์มากกว่า 1 เครื่อง ใช้สำหรับยกตัวเรือขึ้นและแล่นไปข้างหน้ารวมทั้งมีอายุการใช้งานไม่ยาวนานเมื่อเปรียบเทียบกับเรือทั่วๆ ไป เพราะวัสดุที่ใช้ทำ Skirt มีอายุการใช้งานสั้น แต่ในปัจจุบันนี้เรือประเภทนี้กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งหนึ่ง เพราะเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าถูกนำมาใช้กับเรือประเภทนี้ ข้อเสียที่มีได้รับการแก้ไขให้ลดลงหรือหมดไป เสียงที่ดังมากถูกทำให้เบาลงด้วยการติดตั้งระบบกรองเสียง ความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง แก้ปัญหาโดยการเปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์ดีเซล อายุการใช้งานแก้ไขโดยการใช้วัสดุผสมมาใช้ในการสร้างตัวเรือ ซึ่งนอกจากจะคงทนแล้ว ยังมีน้ำหนักเบาอีกด้วย สำหรับการนำมาใช้งานในภารกิจทางทหารเรือประเภทนี้สามารถรอดพ้นจากอันตรายจากทุ่นระเบิดที่ขึงอยู่ใต้น้ำเพราะลำตัวเรือกินน้ำตื้นมาก  ยานเบาะอากาศเท่าที่มีการสร้างขึ้นมาใช้งานจากอดีตถึงปัจจุบัน เรือที่มีขนาดใหญ่ที่สุดคือยานเบาะอากาศชั้น ซุปร์ ของรัสเซีย (Subr) สร้างขึ้นมาใช้งานทางทหารนาโตเรียกว่าชั้น โพโมนิค (Pomonik) มีประจำการอยู่ในกองทัพเรือรัสเซียและกองทัพเรือยูเครน เมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมากองทัพเรือกรีกได้สั่งซื้อไปใช้งาน 4 เครื่อง เป็นเรือสร้างใหม่จากรัสเซีย 1 ลำ อีกหนึ่งลำเป็นเรือเก่าใช้งานอยู่ในกองทัพเรือรัสเซีย และอีก 2 ลำ เป็นเรือที่ใช้งานอยู่ในกองทัพเรือยูเครน เนื่องจากกรีกมีข้อขัดแย้งเรื่องอาณาเขตในทะเลอีเจียนกับตรุกี กองทัพเรือกรีกวางแผนใช้เรือชั้นซุปร์ ในการขนส่งกำลังทหารและยุทโธปกรณ์ไปยังพื้นที่ที่เกิดกรณีพิพาทได้อย่างรวดเร็ว (เกาะในทะเล) สามารถส่งทหารพร้อมกับยุทโธปกรณ์ไปได้คราวละมากๆ นอกจากนี้เรือซุปร์ ยังสามารถใช้อาวุธประจำเรือยิงสนับสนุนทหารที่กำลังเคลื่อนที่ยกพลขึ้นหาด และสามารถวางทุ่นระเบิดได้อีกด้วย
…คุณลักษณะของเรือชั้น ซุปร์ ตัวเรือเป็นรูปสี่เหลี่ยม ลำตัวยาว 56.2 เมตร กว้าง 22.3 เมตร ระวางขับน้ำมาตรฐาน 480 ตัน ระวางขับน้ำเต็มที่ 535 ตัน กินน้ำลึก 1.6 เมตร ออกแบบให้มีเสถียรภาพและคงทนต่อการอยู่ในทะเล ภายในตัวเรือกั้นแบ่งเป็น 3 ส่วน ตรงกลางจะเป็นส่วนที่ใช้สำหรับบรรทุกรถเกราะ อีกส่วนหนึ่งจะเป็นพื้นที่สำหรับติดตั้งเครื่องยนต์หลักและเครื่องยนต์สำรอง ซึ่งมีทั้งหมด 5 เครื่อง เป็นเครื่องยนต์แกสเทอร์ไบน์ ขนาด 10,000 แรงม้า และพื้นที่อีกส่วนจะเป็นส่วนที่อยู่พักอาศัยของพลประจำเรือจำนวน 27 คน และที่พักทหาร ซึ่งในพื้นที่ส่วนนี้ได้รับการติดตั้งทั้งเครื่องปรับอากาศ เครื่องทำความร้อน ระบบป้องกันสงครามนิวเคลียร์ เคมี และชีวะ ระบบกำจัดความดังของเสียง และระบบป้องกันการสั่นสะเทือน ตัวเรือติดตั้งแผ่นเกราะเพื่อป้องกันกระสุนปืนและสะเก็ดระเบิดทะลุเข้าไปทำอันตรายทหารที่อยู่ภายใน
…ขีดความสามารถในการบรรทุกเรือชั้น ซุปร์ สามารถบรรทุกรถถังหลัก ที-80 บี ไปได้ 3 คัน หรือรถลำเลียงพลหุ้มเกราะ บีเอ็มพี –2 จำนวน 6 คัน หรือ บีทีอาร์ –70 จำนวน 10 คัน หรือทหารพร้อมรบ 360 คน หรือบรรทุกผสมผสาน ระหว่างทหาร 140 คนกับสัมภาระหนัก 130 ตัน ยานเบาะอากาศขนาดยักษ์ สามารถแล่นไปเกยตื้นบนชายหาดเพื่อส่งทหารและยุทโธปกรณ์ขึ้นฝั่งได้เลยซึ่งแตกต่างจากเรือยกพลขึ้นบก หรือเรือรบธรรมดาที่ต้องส่งทหารห่างจากหาด ทำให้ทหารเคลื่อนที่ไปได้ช้ามีความเสี่ยงจากการถูกยิงจากฝ่ายตรงข้ามที่ซุ่มอยู่ตามชายหาด และเสี่ยงต่อกับระเบิดและทุ่นระเบิดที่ฝังอยู่ใต้พื้นทราบ และใต้น้ำ
…เมื่อเรือเกยชายหาด เรือชั้น ซุปร์ จะเปิดประตูด้านหน้าขนาดใหญ่เพื่อให้การขนถ่ายสัมภาระรถถังหลัก รถเกราะ และทหารออกจากเรือได้อย่างรวดเร็ว
…พลังขับเคลื่อนจำนวน 5 เครื่อง ของเรือชั้น ซุปร์ เครื่องยนต์ 3 เครื่อง จะใช้เป็นพลังขับเคลื่อนเพื่อให้เรือแล่นไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูง โดยมีใบพัด 3 ชุด ติดอยู่สูงด้านท้ายเรือ ใบพัดแต่ละชุดมี 4 กลีบ ติดตั้งอยู่ในวงแหวน ใบพัดสามารถปรับมุมใบพัดได้ เครื่องยนต์อีก 2 เครื่อง จะใช้สำหรับยกตัวเรือขึ้น และใบพัดทั้งสามชุดจะผลักให้เรือแล่นไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูง เรือยักษ์ ขนาดระวางขับน้ำสูงสุดมากกว่า 500 ตัน สามารถเคลื่อนที่ไปได้ด้วยความเร็วสูงสุด 60 นอต ระยะทำการไกลกว่า 300 ไมล์ แต่ถ้าลดความเร็วเหลือประมาณ 50 นอต จะเพิ่มระยะทำการไกลเป็น 1,000 ไมล์ อยู่ในทะเลได้นาน 5 วัน
…เรือชั้น ซุปร์ ติดตั้งระบบอาวุธเพื่อป้องกันตนเองและยิงสนับสนุนการยกพลขึ้นบกของทหารอาวุธที่ติดตั้ง ประกอบด้วยระบบจรวดต่อสู้อากาศยาน อิกล่า (Igla) 4 ชุด จรวดหลายลำกล้องขนาด 30 มิลลิเมตร 2 กระบอก อัตรายิงกระบอกละ 5,000 นัดนาที มีกระสุนปืน 6,000 นัด ระบบปืนทำงานโดยอัตโนมัติ สำหรับใช้ยิงต่อต้านบุคคล อากาศยานทั้งที่มีนักบินและไร้นักบินบังคับ ยิงทำลายอาวุธนำวิถี ต่อต้านเรือผิวน้ำที่เข้ามาในระดับที่เรี่ยผิวน้ำ ยิงทำลายเป้าหมายในทะเลขนาดเล็ก ยิงทำลายเป้าหมายบนฝั่ง และทำลายทุ่นระเบิดลอยน้ำ
…กองทัพเรือไทยมียานเบาะอากาศใช้งาน 3 ลำ แต่เป็นขนาดเล็ก ไม่ทราบจะสนใจมีเรือยักษ์ชั้น ซุปร์ เอาไว้ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยทางภาคใต้หรือประชาชนที่อาศัยอยู่ตามเกาะต่างๆ หรือผู้ที่อยู่ในพื้นที่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา ซัก 1-2 ลำบ้างหรือเปล่า……..
บันทึกการเข้า
686
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 471
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3987



« ตอบ #421 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2005, 03:00:51 PM »

เอารูปประกอบ บทความ ตามเคยครับ แต่เป็นของ อเมริกา  ส่วนของ ฝ่าย รัสเซีย จะตามมาครับ







เรือ จักรกรีนฤเบจ น่าจะทำได้อย่างเรือชั้น คาราวา อย่าในภาพ




ลงน้ำก็ได้ ขึ้นบกก็ได้





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 16, 2005, 08:59:09 PM โดย 686 » บันทึกการเข้า
686
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 471
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3987



« ตอบ #422 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2005, 09:01:55 PM »

ZUBR CLASS (POMORNIK) AIR CUSHIONED LANDING CRAFT, RUSSIA

บันทึกการเข้า
686
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 471
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3987



« ตอบ #423 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2005, 09:32:23 PM »

ยาน Hovercraft เป็นยาน สะเทินน้ำสะเทิ้นบก (Amphibian) แบบหนึ่ง ที่ใช้ในการยกพลขึ้นบกของกองทัพขนาดใหญ่ ส่วนกองทัพที่มีขนาดเล็กอย่างกองทัพ ไทย ยังต้องพึ่งยาน ยกพลขึ้นบก อย่าง AAVP7A1 (Assault Amphibian Vehicle Personnel)

AAVP7A1 ใช้ระบบขับเคลื่อนด้วย กระแสเจ๊ต เมื่ออยู่ในน้ำ และ ใช้ระบบสายพานเมื่อ วิ่งบนบก

ในสงครามอ่าวเมื่อปี 1991 กองทัพ สหรัฐ ไม่ได้มีการยกพลขึ้นบกจริง แต่ทำทีลวงว่าจะทำการยกพลขึ้นบกเท่านั้น AAVP7A1 ก็เลยต้องทำหน้าที่ลำเลียงพลบนพื้นเท่านั้น หน่วย นาวิกโยธิน ของ สหรัฐ ต้องทำหน้าที่ ควบคุมเชลยศึกชาว อิรัค มากกว่า การรบ

















บันทึกการเข้า
-Joke-
Vive la liberté de parole et d'opinion!
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน -459
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4225


^_^


« ตอบ #424 เมื่อ: พฤศจิกายน 17, 2005, 03:47:33 AM »

เหยี่ยวเวหาบ้านเรามีประจำการ 52 ลำครับ โดยแบ่งเป็น 3 ฝูง
คือ
103 เป็น F-16 A/B ครับ
102 เป็น F-16 ADF ครับ แต่จะเป็นฝูงขับไล่สกัดกั้นด้วย
สองฝูงนี้จะอยู่ที่โคราช
403 ก็ F- 16 A/B ครับ แต่ที่พิเศษคือรับหน้าที่เป็นฝูงโจมตีกลางคืนด้วยครับ เพราะมีกระเปาะเดินอากาศ รู้สึกว่า แอตลิส และมีกระเปาะชี้เป้าแบบรูบิส ครับ ฝูงนี้อยู่ที่ ตาคลี ครับ

ส่วน เอฟ 5 เรามีสองฝูง ราวๆ 32 ตัวครับ
ประจำที่

ฝูง 211 ที่อุบล เป็น F-5T ไทกริส ปรับปรุงใหม่ โดยเพิ่มจอสี ซอฟแวร์ และขีดความสามารถในการใช้จรวดนำวิถี อากาศสู่อากาศแบบ ไพธอน 4 ร่วมกับหมวกบินติดศูนย์เล็งครับ แบบ่ว่าหันไปล็อคเป้าแล้วยิงโดยไม่ต้องหันหัวเครื่องจี้ตูดเลย

ฝูง 701 ที่สุราษ ก็เป็น F-5 B/E/F และ RF-5A ครับ

ส่วนจำขวนเครื่องที่พร้อมบิน เครื่องเข้า alert บอกไม่ได้ครับ แต่บอกได้ว่าเตะปิ๊บดัง ไม่เป็นสองรองใครแน่นอนครับ
บันทึกการเข้า

A la volonté du peuple
Et à la santé du progrès,
Remplis ton cœur d'un vin rebelle
Et à demain, ami fidèle.
Nous voulons faire la lumière
Malgré le masque de la nuit
Pour illuminer notre terre
Et changer la vie.
NaiMai>รักในหลวง
ไม่ว่าจะมีพร้อมทุกสิ่ง แต่ก็ยังไม่มีสิ่งใดเหนือกว่าความมีสติ
Hero Member
*****

คะแนน 741
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 14564


นายใหม่ รักหมู่


เว็บไซต์
« ตอบ #425 เมื่อ: พฤศจิกายน 17, 2005, 05:40:06 AM »

ฝูง 211 ที่อุบล เป็น F-5T ไทกริส ปรับปรุงใหม่ โดยเพิ่มจอสี ซอฟแวร์ และขีดความสามารถในการใช้จรวดนำวิถี อากาศสู่อากาศแบบ ไพธอน 4 ร่วมกับหมวกบินติดศูนย์เล็งครับ แบบ่ว่าหันไปล็อคเป้าแล้วยิงโดยไม่ต้องหันหัวเครื่องจี้ตูดเลย

 Huh F-5T ติดแค่ Python 3 ไม่ใช่หรอครับ Huh
บันทึกการเข้า

-Joke-
Vive la liberté de parole et d'opinion!
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน -459
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4225


^_^


« ตอบ #426 เมื่อ: พฤศจิกายน 17, 2005, 12:46:52 PM »

ฝูง 211 ที่อุบล เป็น F-5T ไทกริส ปรับปรุงใหม่ โดยเพิ่มจอสี ซอฟแวร์ และขีดความสามารถในการใช้จรวดนำวิถี อากาศสู่อากาศแบบ ไพธอน 4 ร่วมกับหมวกบินติดศูนย์เล็งครับ แบบ่ว่าหันไปล็อคเป้าแล้วยิงโดยไม่ต้องหันหัวเครื่องจี้ตูดเลย


 Huh F-5T ติดแค่ Python 3 ไม่ใช่หรอครับ Huh

ไพธอน 3 หมดอายุการใช้งาน และยิงทิ้งเล่นไปหมดแล้วครับ แถมผมว่าไม่เหมาะด้วยเพราะลำพังตัวจรวด + รางปล่อย(ไพธอนสามต้องมารางปล่อยของมันต่างหาก) น้ำหนักรวมๆแล้วก็ประมาณระเบิด 500 ปอนด์แล้วครับ จากการที่คุยกับคนที่ลองยิงนั้นเขาบอกว่า "แหม ยังกะยิงรถเบนซ์ทิ้งทะเลเลย ของมันแพงครับ"

ตอนนี้เจ้าเอฟ 5 ฝูง 211 เราถูกส่งไปปรับปรุงใหม่ โดยอิสราเอลครับ จะมีสิ่งที่เห็นได้ชัดคือเสาอากาศ VHF ที่เป็นกระโดงหลังเครื่อง แถมยังติดเทคโนโลยีหมวกเล็ง(Helmet mounted display) เพื่อใช้ร่วมกับไพธอน 4 ของใหม่ครับ
หลังจากการปรับปรุงแล้วทำให้ยืดอายุออกไปราวๆ 15 ปีครับ รายละเอียดการปรับปรุงบอกได้เท่านี้ ลงลึกกว่านี้ไม่ได้ฮะ
บันทึกการเข้า

A la volonté du peuple
Et à la santé du progrès,
Remplis ton cœur d'un vin rebelle
Et à demain, ami fidèle.
Nous voulons faire la lumière
Malgré le masque de la nuit
Pour illuminer notre terre
Et changer la vie.
-Joke-
Vive la liberté de parole et d'opinion!
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน -459
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4225


^_^


« ตอบ #427 เมื่อ: พฤศจิกายน 17, 2005, 12:55:58 PM »

ลองดูที่หลังเครื่องครับจะมีเสา VHF เป็นกระโดงหลังอยู่

ส่วนอีกภาพลองดูหมวกนักบินครับ

ตอนนี้สายการ mod ปิดลงแล้วครับด้วยจำนวน 1 ฝูง ของฝูง 211

ทำให้ฝูงนี้ใช้เอฟ 5 ต่อไปอีกราวๆ 15 ปี
บันทึกการเข้า

A la volonté du peuple
Et à la santé du progrès,
Remplis ton cœur d'un vin rebelle
Et à demain, ami fidèle.
Nous voulons faire la lumière
Malgré le masque de la nuit
Pour illuminer notre terre
Et changer la vie.
NaiMai>รักในหลวง
ไม่ว่าจะมีพร้อมทุกสิ่ง แต่ก็ยังไม่มีสิ่งใดเหนือกว่าความมีสติ
Hero Member
*****

คะแนน 741
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 14564


นายใหม่ รักหมู่


เว็บไซต์
« ตอบ #428 เมื่อ: พฤศจิกายน 17, 2005, 01:48:30 PM »

 Grin ขอบคุณครับ ชัดเจน ผมนึกว่ายังเป็นแค่โครงการ Grin
บันทึกการเข้า

soveat ชุมไพร
มือสังหารคันคากหมุ่น พรานปลาวัด พราน28k สมช. เลขที่ 1475
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3429
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 30132


เลือดกรุ๊ป โอละนออออออออออออ


เว็บไซต์
« ตอบ #429 เมื่อ: พฤศจิกายน 17, 2005, 02:35:28 PM »

แล้วรถถังเบา สกอร์เปี้ยน  ประจำการอยู่หน่วยไหนครับ   เพราะจำได้ว่าตอนฝึก ร.ด. ปี 5  มีการสาธิตทางยุธวิธีที่เขาตระกรุดรังโคราช  เห็นเขาว่าใชปืนประจำรถเป็นขนาด 72 ม.ม.นำวิถีด้วยเลเซอร์  ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า  ประสิทธิภาพผมว่าเอาเรื่องอยู่เหมือนกันนะครับ
บันทึกการเข้า

จะปิดทอง หลังองค์ พระปฏิมา
686
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 471
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3987



« ตอบ #430 เมื่อ: พฤศจิกายน 17, 2005, 03:52:12 PM »

แล้วรถถังเบา สกอร์เปี้ยน ประจำการอยู่หน่วยไหนครับ เพราะจำได้ว่าตอนฝึก ร.ด. ปี 5 มีการสาธิตทางยุธวิธีที่เขาตระกรุดรังโคราช เห็นเขาว่าใชปืนประจำรถเป็นขนาด 72 ม.ม.นำวิถีด้วยเลเซอร์ ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า ประสิทธิภาพผมว่าเอาเรื่องอยู่เหมือนกันนะครับ

รถถัง สกอร์เปี้ยน FV 101 CVR(T) Scorpion เป็นรถถังลาดตระเวนตรวจการหน้าครับ ไม่ได้มีเอาใว้รบแบบประจันบานกับใคร ส่วนปืนใหญ่ก็เป็นปืนขนาด 76 มม. ไม่ไช่ 72 มม.

อาวุธหลักของรถถังรุ่นนี้ไม่ไช่ปืนใหญ่ ขนาด 76มม.ของมัน แต่เป็นขนาดที่เล็กคล่องตัว และ ระบบค้นหาตรวจจับ ที่ทำให้มันหลบออกจากพื้นที่เสี่ยงได้หากเมื่อถูกค้นพบ

รถถัง สกอร์เปี้ยน ถูกลดบทบาทลงเมื่อการเข้ามาของ เครื่องบินไร้คนขับ (UAV) เนื่องจากให้ข้อมูลของสนามรบ ได้ในเวลาจริง (Real time) ไม่ต้องรอให้รถถังถ่ายทอดสัญญาน หรือ รอให้กลับมาฐานเสียก่อน

บันทึกการเข้า
686
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 471
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3987



« ตอบ #431 เมื่อ: พฤศจิกายน 18, 2005, 01:07:08 AM »

สหรัฐ อเมริกา ได้พัฒนาการรบทางบกโดยใช้บทเรียนที่ผ่านมาในอดีต โดยใช้การเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วในสนามรบเป็นหลัก และ กับการเข้าประจำการของรถถังหลัก M1 แทนที่รถถัง M60 ทำให้ รถถังลำเลียงพล M113 จำเป็นต้องปลดประจำการไปโดยปริยาย เพราะ M113 ไม่สามารถติดตามรถถัง M1 ไปในสนามรบได้ จึงเป็นต้นกำเนิดของรถถัง M2 แบรดลี่ ซึ่งเป็นรถถังลำเลียงพลเคลื่อนที่เร็ว และ รถถัง M3 แบรดลี่ ที่เป็นรถถังสอดแนม

M2A3 and M3A3 Bradley Fighting Vehicle Systems (BFVS)

M2 และ M3 เป็นรถถังที่ดูภายนอกคล้ายกันมาก ส่วนที่ต่างกันจริง ๆ อยู่ภายในตัวรถที่ M2 ลำเลียงทหารไปได้ 6 นาย ส่วน M3 ลำเลียงทหารสอดแนมไปได้เพียง 2 นายเท่านั้น

รถถัง M2/M3 Bradley มีอาวุธหลักคือ ปืนใหญ่ขนาด 25 มม.  M242 25mm "Bushmaster" ที่มีอัตตรายิงถึง 200 นัด/นาที และมีปืนกลร่วมแกน 7.62 มม. แต่อาวุธหลักที่ทำให้รถถังหลักของฝ่ายข้าศึกเกรงขามรถลำเลียงพลรุ่นนี้คือ จรวต TOW Anti-Tank Missile ที่ควบคุมด้วยเส้นลวด

อุปกรณ์ อีเล็กโทรนิคใน M2/M3 มีระยะตรวจจับที่ไกลมากถึง 4 กิโลเมตร ทำให้ได้เปรียบฝ่ายข้าศึกในระยะยิง เพราะ จรวต TOW Anti-Tank Missile ก็มีระยะยิงหวังผลที่เกือบ 4 กิโลเมตรเช่นกัน

M2/M3 ใช้เครื่องยนต์ VTA-903T ที่ให้กำลังสูงถึง 600 แรงม้า ทำให้ ม้าเหล็กตัวนี้วิ่งในสภาพภูมิประเทศได้เกือบ 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง เลยทีเดียว



M2 ติดเกราะปฎิกริยากำลังเตรียมยิงจรวต TOW













ภาพ M2 ติดเกราะเสริมฝังตัวในดิน พร้อมยิงจรวต TOW





























[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 18, 2005, 10:01:45 AM โดย 686 » บันทึกการเข้า
Gun228
Jr. Member
**

คะแนน 2
ออฟไลน์

กระทู้: 45


« ตอบ #432 เมื่อ: พฤศจิกายน 18, 2005, 01:00:48 PM »

 Smileyผมชอบหัวเรื่องนี้มากๆเลยครับ : ท่านสมาชิกหามาให้ชมเยี่ยมมากๆครับผมขอสนันสนุนครับเพราะได้ความรู้+ได้เห็นของดีๆทั้งนั้นเลยครับผม Cheesy
บันทึกการเข้า
686
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 471
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3987



« ตอบ #433 เมื่อ: พฤศจิกายน 19, 2005, 07:02:59 PM »

อาวุธปืนที่มีประจำการในกองทัพของโลกเสรียาวนานที่สุดในโลกคือ ปืน M2 .50 Caliber [12.7mm] Machine Gun ที่มีชื่อเล่นว่า "Ma Duce"

M2 เป็นปืนที่ออกแบบโดย จอนท์ บราวนิ่ง (John Moses Browning ผู้ออกแบบปืน 1911 ที่โด่งดังนั่นเอง) ตั้งแต่ปี 1921 หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 จบลงได้ไม่นาน กระสุนที่ใช้กับ M2 ก็ออกแบบใหม่ให้ใช้กับปืนรุ่นนี้โดยเฉพาะ แต่ในปัจจุบันปืน sniper บางแบบก็ใช้กระสุนขนาดนี้เช่นกัน กระสุน .50 นิ้ว หรือ 12.7 มม. ออกแบบให้มีความเร็วต้นที่สูงเกือบ 3 เท่าเสียง (3,050 ft/s หรือ 930 m/s) เลยทีเดียว กับอัตรายิง 550 นัด/นาที ทำให้มีอำนาจการยิงที่สูงมาก กับ ระยะหวังผล ถึง 2 กิโลเมตร และ มีความเชื่อถือได้สูงทำให้ปืน M2 ไม่เคยถูกปลดออกจากปืนกลหลักของกองทัพ สหรัฐ

ด้วยน้ำหนักตัวถึง 38 กิโลกรัม กับ ขาตั้งที่หนัก 20 กิโลกรัม ทำให้ปืนกลหนัก  M2 ต้องใช้ทหารถึง 3 นายในการเคลื่อนย้าย (ปืน, ขาตั้ง และ กระสุน) ในสนาม การรบช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ปืนกลหนัก M2 ได้ถูกติดตั้งในยานยนต์หลากหลายประเภท ทั้งรถจี๊พ (สิงทะเลทราย) เรือรบ และ เครื่องบินแบบต่าง ๆ ในปัจจุบันปืนกล M2 ยังคงประจำการอยู่ในหน่วยรบหน่วยต่าง ๆ รวมถึงหน่วยปฎิบัติการพิเศษอีกด้วย











บันทึกการเข้า
686
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 471
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3987



« ตอบ #434 เมื่อ: พฤศจิกายน 19, 2005, 10:47:37 PM »

ต่ออีกรูปครับ เพราะ ใหญ่ ใส่พร้อมกันไม่ได้
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 26 27 28 [29] 30
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.156 วินาที กับ 21 คำสั่ง