๏ฟฝ๏ฟฝ็บบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝสน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาปืน
เมษายน 28, 2024, 07:25:52 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 9 10 11 [12] 13 14 15 ... 30
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: SU27 ? SU 30 ?? ทัพฟ้าไทย  (อ่าน 235286 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
อรชุน-รักในหลวง
หมู่โลหิต O
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1599
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10265



« ตอบ #165 เมื่อ: กันยายน 26, 2005, 02:52:48 PM »

เมื่อยิวขโมยแบบพิมพ์เขียวเครื่องบินมิราจ(ตอนจบ)
...สายลับของอิสราเอลได้ผูกมิตรกับสเตคเกอร์ จนสเตรคเกอร์ได้กลายเป็นเพื่อนสนิทกับสายลับผู้จ่ายไม่อั้น  
ครั้นแล้วเมื่อสเตรคเกอร์เอ่ยถึงเรื่องเงินๆ ทองๆ ขึ้นมา เพื่อนชาวอิสราเอลได้ยื่นข้อเสนอกับสเตรคเกอร์ทันที
สเตรคเกอร์จะได้รับเงินพิเศษถ้าทำงานให้กับเพื่อนคนหนึ่งของเขา เป็นงานง่ายๆ และไม่มีอันตรายแต่อย่างใด
แค่ขนของข้ามชายแดนสวิสไปยังเยอรมันเท่านั้น เพียงแต่ต้องทำต่อเนื่องกันหลายเดือน
สเตรคเกอร์จะได้รับเงินประมาณหนึ่งแสนดอลลาห์ สเตรคเกอร์รับงานนี้ทันที

...ฟรอเอนค์เนทค์พบสเตรคเกอร์เพียงครั้งเดียวเพื่อรับกุญแจของโกดังเล็กๆ ซึ่งเป็นของบริษัทรอทซิงเจอร์ทุกๆ
วันเสาร์ฟรอเอนค์เนทค์จะขับรถโฟล์คตู้เพื่อนำกล่องกระดาษไปไว้ยังโกดัง หลังจากนั้นเขากับหลานชายก็จะไปดื่มที่บาร์ชื่อเฮอร์เช่น
ถ้าเขาสามารถนำกล่องกระดาษไปไว้ในโกดังเขาจะผงกศรีษะเป็นเชิงทักทายให้กับสเตรคเกอร์ เป็นที่รู้กันว่าทุกอย่างเรียบร้อย
สินค้าพร้อมที่สเตรคเกอร์จะไปขนย้ายได้แล้ว สเตรคเกอร์จะไปขนกล่องกระดาษที่โกดังขึ้นรถเบนซ์สีดำขับออกไป
เมื่อผ่านชายแดนสวิสแล้วสเตรคเกอร์จะต้องขึ้นเหนือผ่านแบคลฟอเรสต์เข้าสตุทท์การ์ท ที่นั่นมีสนามบินส่วนตัวแห่งหนึ่ง
กล่องกระดาษจะถูกขนขึ้นเครื่องบินเซสน่าสองเครื่องยนต์ซึ่งขึ้นทะเบียนในอิตาลีที่รออยู่ เครื่องบินเซสน่าจะบินออกจากสนามนั้นทันที
มุ่งตรงไปยังปลายส้นเท้าของบู๊ทอิตาลี ซึ่งจะมีเครื่องบินของอิสราเอลมารับกล่องกระดาษไปยังอิสราเอลอีกต่อหนึ่ง

...การขนกล่องกระดาษที่บรรจุแบบพิมพ์เขียวเครื่องบินมิราจซึ่งหนัก 50 กิโลกรัมได้ถูกขนส่งไปยังอิสราเอลครั้งแรก
เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 1968 ปฏิบัติการนี้ดำเนินการมาด้วยดีเป็นเวลาหนึ่งปีเต็ม

...จนกระทั่งเดือนกันยายน 1969 เมื่อฮานส์ สเตรคเกอร์ ได้ทำการหละหลวม ประการแรกเขาทำให้คนเห็นขณะนำกล่องบรรจุพิมพ์เขียวขึ้นรถเบนซ์สีดำ
และประการทีสองเขาลืมกล่องอีกหนึ่งกล่องไว้ในโกดัง ซึ่งเป็นที่สังเกตของคาร์ล รอทซิงเจอร์ เจ้าของบริษัทขนส่งชื่อเดียวกับชื่อของเขา
คาร์ลจึงได้ดึงแบบออกจากกล่องหนึ่งแผ่น และได้พบกับคำว่า Solzer ซึ่งเป็นชื่อของบริษัทสวิสที่ทำธุรกิจในด้านวิจัย
และผลิตเครื่องยนต์สำหรับเครื่องบิน ข้างใต้ชื่อบริษัทเขาพบคำว่า License-Senikama ซึ่งหมายถึงบริษัทโซลเซอร์
ได้รับสิทธิบัครจากบริษัทเซนิกามาของฝรั่งเศส และที่สำคัญคือ ข้อความอีกบรรทัดหนึ่งที่มีความหมายว่า
"ตามประมวลกฎหมายอาญา ให้รักษาความลับในทางทหารไว้อย่างสูง" คาร์ลได้ทราบจากคนงานที่ทำงานใกล้เคียงว่า
สเตรคเกอร์ได้เคลื่อนย้ายกล่องกระดาออกไปเป็นระยะเวลาหลายเดือนมาแล้ว  เขาจึงรายงานให้ตำรวจทราบ

...ทางฝ่ายอิสราเอลลซึ่งได้จับตามอย่ตลอดเวลา เมื่อได้ทราบถึงความหละหลวมและพลาดท่าของสเตรคเกอร์ จึงโทรศัพท์
ความว่า "ดอกไม้ได้ร่วงโรยเสียแล้ว" เพื่อให้เวลากับฟรอเอนค์เนทค์ได้หนีทัน

...ฟรอเอนค์เนทค์ตัดสินใจไม่หนี เขาติดคุกในระหว่างคดี 1 ปีเต็ม ทั้งนี้ก็เพราะว่าทางการสวิสต้องการทราบว่าความเสียหายมีขนาดแค่ไหน
จึงต้องใช้เวลาในการพิจารณาคดี และในที่สุดได้ข้อสรุปว่าฟรอเอนค์เนทค์ได้ส่งแบบพิมพ์เขียวเครื่องบินมิราจไปให้อิสราเอลเป็นจำนวนดังต่อไปนี้

...2,000 แผ่น สำหรับชิ้นส่วนเครื่องยนต์  80,000-100,000 แผ่น สำหรับจิ๊ก (Jigs-เครื่องมือประกอบการผลิตชิ้นส่วน)  
35,000-40,000 แผ่น สำหรับเครื่องมือ (Tools)   80-100 แผ่น สำหรับตัวเครื่องบิน  1,500 แผ่นสำหรับรายการประกอบแบบ (Specifications)

...วันที่ 23 เมษายน 1971 ศาลสวิตเซอร์แลนด์ได้พิพากษาให้อัลเฟรด ฟรอเอนค์เนทค์ จำคุก 4 ปี 6 เดือน
จากการที่ฟรอเอนค์เนทค์ได้ถูกจองจำระหว่างการสอบสวนและประกอบกับการประพฤติตัวดีเขาจึงได้รับอิสรภาพเมื่อ 21 กันยายน 1972

...สองปีครึ่งหลังจากที่ออกจากคุกฟรอเอนค์เนทค์ได้เดินทางไปอิสราเอล เพื่อชมการบินของเครื่องบินขับไล่ทิ้งระเบิดความเร็ว 2.2 มัค
ชื่อว่า คเฟอร์ (Kfir) ซึ่งมีพื้นฐานมาจากมิราจ III และคเฟอร์ได้เป็นกำลังสำคัญของกองทัพอิสราเอลต่อมา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 11, 2012, 04:55:45 PM โดย อรชุน-รักในหลวง » บันทึกการเข้า
narongt
Sr. Member
****

คะแนน 16
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 749


« ตอบ #166 เมื่อ: กันยายน 26, 2005, 03:09:30 PM »

ชอบรุ่นนี้ครับ ยังหา model สะสมไม่ได้ครับ

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]
บันทึกการเข้า
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16168


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #167 เมื่อ: กันยายน 26, 2005, 09:01:31 PM »

ขอบคุณมากครับสำหรับข้อมูลเรื่องยิวโจรกรรม

เป็นเรื่องที่น่าศึกษาและชื่นชมในความรักชาติของเขาถึงแม้ว่าจะผิดๆ ถูกๆ ก็ตาม เหมือนอย่างคำคนอังกฤษที่ว่า

"My country, right or wrong!" - จะผิดจะถูกก็ชาติของข้า

เท่าที่อ่านเรื่องยิวๆ มาและไปเที่ยวค่าย Auschwitz ใน Poland ที่ตอนนี้ทำเป็นพิพิธภัณฑ์ ก็พอเข้าใจว่าทำไมชาติอิสราเอลถึงมีจุดยืนของตัวเองอย่างแรงกล้า อดทึ่งและชื่นชมในหลายจุดทั้งๆ ที่ไม่เป็น "เพื่อน" จริงๆ กับคนยิวที่เคยเจอมานิดหน่อย
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
686
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 471
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3987



« ตอบ #168 เมื่อ: กันยายน 26, 2005, 10:18:03 PM »

JSF (Joint Strike Fighter)เป็นโครงการเฟ้นหาเครื่องบินขับไล่/โจมตี น้ำหนักเบา ทดแทนเครื่องบินที่มีประจำการอยู่ร่วมกันของ 3 เหล่าทัพ ยกเว้น ทหารบก (อเมริกา มี 4 เหล่าทัพครับ) กับของกองทัพ อังกฤษ เข้าร่วมด้วย โดยมีข้อกำหนดว่า ต้องใช้โครงอากาศยาน ร่วมกัน และ ตอบสนองต่อความต้องการของเหล่าทัพต่าง ๆ ได้ด้วย
ข้างล่างเป็นความต้องการหลักของโครงการที่ เครื่องบินของผู้เข้าร่วมแข่งขันต้องทำให้ได้

The JSF program will demonstrate two competing weapon system concepts for a tri-service family of aircraft to affordably meet these service needs:

USAF-Multi-role aircraft (primarily air-to-ground) to replace F-16 and A-10 and to complement F-22. The Air Force JSF variant poses the smallest relative engineering challenge. The aircraft has no hover criteria to satisfy, and the characteristics and handling qualities associated with carrier operations do not come into play. As the biggest customer for the JSF, the service will not accept a multirole F-16 fighter replacement that doesn't significantly improve on the original.

USN-Multi-role, stealthy strike fighter to complement F/A-18E/F. Carrier operations account for most of the differences between the Navy version and the other JSF variants. The aircraft has larger wing and tail control surfaces to better manage low-speed approaches. The internal structure of the Navy variant is strengthened up to handle the loads associated with catapult launches and arrested landings. The aircraft has a carrier-suitable tailhook. Its landing gear has a longer stroke and higher load capacity. The aircraft has almost twice the range of an F-18C on internal fuel. The design is also optimized for survivability.

USMC-Multi-role Short Take-Off & Vertical Landing (STOVL) strike fighter to replace AV-8B and F/A-18A/C/D. The Marine variant distinguishes itself from the other variants with its short takeoff/vertical landing capability.

UK-STOVL (supersonic) aircraft to replace the Sea Harrier. Britain's Royal Navy JSF will be very similar to the U.S. Marine variant.

The JSF concept is building these three highly common variants on the same production line using flexible manufacturing technology. Cost benefits result from using a flexible manufacturing approach and common subsystems to gain economies of scale. Cost commonality is projected in the range of 70-90 percent; parts commonality will be lower, but emphasis is on commonality in the higher-priced parts



เริ่มแรก มีบริษัทเข้าร่วมการเสนอต้นแบบ 3 บริษัท แต่แบบของ บริษัท Northrop Grumman  ถูกคคัดออก เหลือแค่ แบบของบริษัท Boeing กับ แบบของบริษัท Lockheed Martin คือ Boeing X-32 และ Lockheed Martin X-35 โดย แบบหลังได้รับการคัดเลือก และ ได้รับระหัดว่า F-35

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]
บันทึกการเข้า
686
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 471
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3987



« ตอบ #169 เมื่อ: กันยายน 26, 2005, 10:46:02 PM »

Lockheed Martin F-35 จะมีความคล้ายกับ YAK 141 มากในระบบเครื่องยนต์ เพราะ Lockheed Martin ได้ซื้อสิทธิ์บัตรในการออกแบบเครื่องเปลี่ยนทิศทางไอพ่น และ พัดลมยกตัว

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]
บันทึกการเข้า
686
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 471
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3987



« ตอบ #170 เมื่อ: กันยายน 27, 2005, 12:01:19 AM »

มาทางผู้แพ้การทดสอบบ้างครับ
Boeing X-32 การเปลี่ยนทิศทางไอพ่นอย่างเดียวในการทดสอบการยกตัวของเครื่องบิน แต่ที่แพ้เพราะ ในการทดสอบได้มีการถอดชิ้นส่วนออกหลายรายการ เพื่อลดน้ำหนัก กับไม่ได้มีการทดสอบการทำความเร็วเหนือเสียงอย่าง เครื่องต้นแบบของบริษัท Lockheed Martin

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]
บันทึกการเข้า
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16168


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #171 เมื่อ: กันยายน 27, 2005, 09:49:07 AM »

ไอพ่นหน้าที่เป่าลงล่างของ เอฟ 35 ดูน่าสนใจมากครับ อยู่หน้าขนาดนั้นต้องต่อท่อมาจากข้างหลังใช่ไหมครับ?
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
Army - รักในหลวงครับ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 151
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2252



« ตอบ #172 เมื่อ: กันยายน 27, 2005, 11:19:40 AM »

ขอบคุณมากครับสำหรับเรื่องการจารกรรม+โจรกรรมของอิสราเอล สนุกจริงๆ นายฟรอเอนค์เนทค์ใจถึงมากๆนะครับที่กล้ารับงานนี้ ดีที่ไม่ถูกยิงเป้าหรือจำคุกตลอดชีวิต  Smiley
บันทึกการเข้า
Nakin
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 115
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3905


รักทุกคนเลย ......


« ตอบ #173 เมื่อ: กันยายน 27, 2005, 11:56:57 AM »


เอฟ - 35  ที่ด้านหน้าของเครื่องเป็นพัดลมยกตัวครับ ..... หมุน ( พัด ) ได้โดยการต่อเพลาขับมาจากแกนกังหันอีกที ......
บันทึกการเข้า

Happy   shooting    ......   

พูดจริง     ก็หาว่า    โกหก     ........     พูดตลก    ก็หาว่า     หลอกลวง
อรชุน-รักในหลวง
หมู่โลหิต O
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1599
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10265



« ตอบ #174 เมื่อ: กันยายน 27, 2005, 12:27:22 PM »

เบื้องหลังชัยชนะในสงคราม 6 วันของยิว
...ใครคือวีรบุรุษตัวจริงของอิสราเอลในสงคราม 6 วัน สงครามที่อิสราเอลมัชัยต่อศัครูชาติอาหรับ 3 ประเทศ
ได้แก่ อียิปต์ ซีเรีย และจอร์แดน ซึ่งมีอาวุธยุทโธปกรณ์และประชากรรวมกันมากกว่าอิสราเอลหลายเท่า
...ถ้าท่านเดาว่าวีรบุรุษตัวจริงของอิสราเอลในสงครามครั้งนี้ คือ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม นายพลโมเช่ ดายันหรือแม่ทัพอากาศ
แม่ทัพบก แม่ทัพเรือคนใดคนหนึ่งละก้อ...ท่านเดาผิดแล้วครับ

...วีรบุรุษตัวจริงที่มีบทบาททำให้อิสราเอลมีชัยต่อศัตรู โดยใช้เวลาเพียง 6 วันก็คืออาฮารอน ยาริฟ (Aharon Yariv)
หัวหน้าหน่วยสืบราชการลับมอสสาด (Mossad)  ของอิสราเอลในขณะนั้น

...ก่อนที่จะเล่าเรื่องของอาฮารอน ยาริฟ ขอพูดถึงความเป็นมาของสงคราม 6 วันพอสังเขปเสียก่อน
...คลองสุเอชเปิดใช้เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 1897 ตามข้อตกลงคอนสแนดิโนเปิด 1888 คลองสุเอชจะต้องเปิดให้เรือของทุกชาติผ่านได้ไม่ว่าจะเป็นเวลาสันติหรือสงครามก็ตาม

...ประเทศอิสราเอลได้เกิดใหม่เมื่อปี 1948 ในดินแดนซึ่งเป็นที่อยู่ของชาวปาเลสไตน์ ท่ามกลางความไม่พอใจของรัฐอาหรับรอบๆ
อันได้แก่อียิปต์ ซีเรีย จอร์แดน อิรัก และเลบานอน จึงทำให้เกิดการรบพุ่งชิงดินแดนกันขึ้น

...อิยิปต์ ได้ห้ามเรือสัญชาติอิสราเอลผ่านคลองสุเอชในปี 1955
....ค.ศ.1965 กามาล อับเดล นาสเซอร์  ประธานาธิบดีของอียิปต์ได้ประกาศยึดคลองสุเอชเป็นของอียิปต์ทำให้ถูกคัดค้านจากประเทศตะวันตก
ที่มีผลประโยชน์โดยตรง อันได้แก่ อังกฤษและฝรั่งเศส

...กำลังของอังกฤษและฝรั่งเศสได้เข้ายึดส่วนหนือของคลองสุเอช อิสราเอลได้โดดเข้าร่วมสงคราม และได้ยึดฉนวนกาซา และคาบสมุทรไซนาย
รวมทั้งเกาะไทรานซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญอันเป็นทางออกทะเลทางอ่าวอกาบาอีกด้วย

...ร้อนถึงสหประชาชาติต้องเข้ามาแทรกแซง  โดยสั่งให้กองกำลังของทั้งสามประเทศถอยออกจากการยึดครองดินแดนของอียิปต์  
และส่งกองกำลังนานาชาติเข้าไปแทนในนามของสหประชาชาติ

...สงคราม 6 วันได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อประธานาธิบดีนาสเซอร์แห่งอียิปต์ได้สั่งให้กองกำลังนานาชาติภายใต้การบัญชาของสหประชาชาติ
ซึ่งทำหน้าที่เป็นกันชนระหว่างอิยิปต์และอิสราเอลถอนออกจากอียิปต์ เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 1967 แล้วเคลื่อนกำลังของอียิปต์อันประกอบด้วยทหาร 100,000 คน
พร้อมรถถังอีก 900 คัน เข้ามายังทะเลทรายไซนาย ทางซีเรียได้ส่งทหาร 6 กองพลน้อยพร้อมด้วยรถถัง 300 คัน เข้าประชิดทางที่ราบสูงโกลาน
(ตอนแรกจอร์แดนไม่ได้ร่วมส่งครามด้วย)  เพื่อล้อมกรอบอิสราเอลให้อยู่หมัด

...หกวันต่อมา วันที่ 22 พฤษภาคม นาเซอร์ได้สั่งปิดช่องแคบไทราน ซึ่งเป็นช่องทางที่อิสราเอลใช้ออกสู่ทะเลแดง อิสราเอลถือว่าเป็นเส้นทางเดินเรืออันเป็นน่านน้ำสากล
ได้รับการประกันโดยมหาอำนาจทางทะเลได้แก่สหรัฐอังกฤษ แคนาดา และฝรั่งเศส มาตั้งแต่ 1956 แล้ว อิสราเอลจึงยอมไม่ได้

...ในบรรยากาศของสงครามเช่นนั้น เลวี เอสคอล (Levi Eskhol)  นายกรัฐมนตรีอิสราเอลลังเลที่จะให้อิสราเอลทำสงคราครั้งนี้  
ด้วยเหตุผลที่ว่านับตั้งแต่อิสราเอลได้ตั้งประเทศขึ้นมาใหม่ อิสราเอลยังไม่เคยสู้รบกับอาหรับชาติใดตัวต่อตัว และเป็นสงครามเต็มรูปแบบมาก่อนเลย
สำหรับเอสคอลแล้วสงครามมันเป็นเรื่องล้าสมัย สมควรจะลองเจรจาทางการทูตดูก่อน แต่พวกนายพลสายเหยี่ยวเห็นว่าการเสียเวลาเจรจาทางการฑูต
จะทำให้อิสราเอลสูญเสียโอกาสในการโจมตีศัตรูก่อนเอสคอลถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักทั้งจากสื่อมวลชน และประชาชนทั่วไป
ในที่สุดเอสคอลต้องเปลี่ยนรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม โดยแต่งตั้ง นายพล (นอกราชการ) โมเช่ ดายัน ซึ่งเป็นสายเหยี่ยวเช่นกัน ขึ้นส่าการกลาโหมแทนคนเก่า  
จึงทำให้เกิดความมั่นใจในหมู่ประชาชนและทำให้พวกนายทหารคลายกังวลลงได้.......(ไว้ต่อตอน 2 นะครับ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 21, 2012, 05:35:46 PM โดย อรชุน-รักในหลวง » บันทึกการเข้า
อรชุน-รักในหลวง
หมู่โลหิต O
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1599
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10265



« ตอบ #175 เมื่อ: กันยายน 27, 2005, 01:24:29 PM »

เบื้องหลังชัยชนะในสงคราม 6 วันของยิว (ตอน 2)
...ในกลุ่มนายทหราทั้งหลายมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ตั้งอยู่ในความสงบท่ามกลางความสับสนของข่าวสงคราม
เขาคือหัวหน้าหน่วยสืบราชการลับของอิสราเอลผู้มีนามว่า นายพลอาฮารอน ยาริฟ เขามีความมั่นใจว่าอิสราเอลจะชนะสงคราม
และทำให้โลกต้องตะลึงกับผลของสงครามคราวนี้ เขาเป็นหนึ่งในจำนวนนายทหารที่ต้องการให้อิสราเอลเข้าสู่สงคราม

...ยาริฟเกิดที่กรุงมอสโคว์ ในปี 1921 บิดาเป็นกุมารแพย์ชาวยิวผู้ซึ่งนิยมในลัทธิไซออนนิซึม (ลัทธิที่เชื่อในการรวมคนยิวและตั้งประเทศอิสราเอลขึ้นมาใหม่)  
และอิทธิพลทางความคิดของบิดาทำให้คนทั้งครอบครัวมีความคิดอย่างเดียวกันในที่สุดครอบครัวของยาริฟจึงได้ตัดสินใจอพยพมาตั้งถิ่นฐานในปาเลสไตน์ในปี 1935
เมื่อยาริฟเติบโตเป็นหนุ่มเขาอยากเป็นทหาร แต่ขณะนั้นรัฐอิสราเอลยังไม่ถือกำเนิดขึ้นจึงไม่มีหน่วยทหารที่จะรับเขา ยาริฟจึงต้องเรียนเกษตรแทน

...ยาริฟเป็นคนร่างเล็กผอมเกร็ง แม้กระนั้นคุณสมบัติความเป็นผู้นำก็ฉายแววให้เห็นตั้งแต่อายุยังน้อย ในเวลาไม่นานนักเขาก็ได้รับตำแหน่งประธานกรรมการนักเรียน
เพื่อนนักเรียนได้กล่าวถึงยาริฟว่า เขาเป็นคนที่เรียนเก่งมาก และเป็นนักฟุตบอลชั้นเยี่ยม นักเรียนทั้งหลายยอมรับในความเป็นผู้นำของเขา
...เมื่อสงครามคลองสุเอชเกิดขึ้น ยาริฟได้สมัครเข้าเป็นทหารในกองทัพบกของอังกฤษทันที เขาได้รับการเลื่อนยศอย่างรวดเร็ว
และเป็นคนยิวจากปาเลสไตน์เพียงคนเดียวที่ได้เป็นผู้บังคับกองพันแห่งกองทัพบกอังกฤษ หลังจากนั้นเขาได้สมัครเข้าศึกษาในสถาบันการศึกษาชั้นสูง (INSTITUTE OF ADVANCED STUDIES)  
ของยิว ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อฝึกนักการพูตเป็นการเตรียมบุคลากรไว้สำหรับประเทศอิสราเอลที่จะเกิดใหม่ แต่เรียนยังไม่ทันจบหลักสูตรก็ต้องออกจากสถาบัน
เพราะกองทัพบกอิสราเอลซึ่งเกิดใหม่ต้องการตัวเขาให้เป็นเสนาธิการของประธานคณะเสนาธิการทหาร นายพลยาคอบ โดริ

...หลังสงครามเพื่อชิงดินแดนระหว่างอิสราเอลกับรัฐอาหรับที่อยุ่รอบๆ แล้ว ยาริฟได้เข้าเรียนในโรงเรียนเสนาธิการชั้นสูงของอิสราเอล ซึ่งสอนหลักสูตรผู้บังคับกองพัน
เมื่อจบหลักสูตรเขาได้รับแต่งตั้งให้เป็นอาจารย์ในโรงเรียนเสนาธิการ และต่อมาเขาได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้บัญชาการโรงเรียนเสนาธิการซึ่งตั้งขึ้นใหม่
...หลักสูตรของโรงเรียนเสนาธิการทหารภายใต้ดำเนินการของยาริฟ ได้เน้นไม่เพียงแต่การศึกษาในศิลปของการทหารเท่านั้น
แต่ยาริฟได้เน้นว่าโรงเรียนเสนาธิการที่เขาเป็นผู้บุกเบิกนั้นต้องเป็นโรงเรียนแห่งการ "คิดเป็น" เป็นมหาวิทยาลัยของผู้มีวุฒิภาวะสูง ซึ่งถือว่าวิชาตรรกวิทยา
และวิชาปรัชญามีความสำคัญพอๆ กับการศึกษาเรื่องอาวุธยุทโธปกรณ์และกลยุทธในการทำสงครามทีเดียว  
แม้ปัจจุบันนี้หลักสูตรโรงเรียนเสนาธิการทหารของอิสราเอลก็ยังมีเนื้อหาตามหลักฐานของยาริฟเป็นอันมาก

...หลังจากที่เป็นผู้บังคับบัญชาการโรงเรียนเสนาธิการทหารอยู่ 2 ปี ยาริฟได้รับการแต่งตั้งให้เป็นอุปพูตฝ่ายทหารประจำ ณ กรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา
เขาทำให้เพนตากอนงง เมื่อได้รับคำขอเข้าร่วมฝึกกับนาวิกโยธินอเมริกันในตอนกลางคืน โดยขอเข้าร่วมกับหน่วยเล็กๆ ระดับหมู่ทหาร แทนที่จะเป็นผู้สังเกตการ์อยู่ในที่ตั้ง
...เมื่อกลับมาอิสราเอลในปี 1960 เขาได้รับแต่งตั้งตำแหน่งที่เขาใฝ่ฝันมานาน นั่นคือ ผู้บัญชาการกองพันโกลานี แต่ก็สมหวังแค่เพียงระยะเวลาอันสั้นเท่านั้น
กองทัพบกเห็นว่าคนมีฝีมืออย่างยาริฟนั้นเหมาะที่จะวางแผนมากกว่าออกรบเสียเอง  จึงได้แต่งตั้งให้ยาริฟดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าหน่วยสืบราชการลับอิสราเอล
ซึ่งมีหัวหน้าชื่อ เมียร์ อมิท

...ยาริฟเกิดในรัสเซียและเติบโตขึ้นในโปแลนด์ และเคยเป็นทหารอยู่ในกองทัพบกอังกฤษ เขาจึงเป็นคนพูดเสียงเบาแบบคนอังกฤษ
แถมยังเป็นคนขี้อายอีกด้วย  เขาเป็นคนค่อนข้างจะเก็บตัวและไม่ชอบโฆษณาตนเอง

...ในปี 1967 ซึ่งเป็นยามที่อิสราเอลตกอยู่ในภาวะคับขัน ยาริฟได้รับแต่งตั้งเป็นหัวหน่าหน่วยสืบราชการลับอิสราเอล
อย่างไรก็ตาม อาริฟยอมรับว่าหน่วยสืบราชการลับที่เขาเพิ่งเข้ารับตำแหน่งหัวหน้าหน่วยนั้น ได้พัฒนามาเป็นลำดับจนเกือบสมบูรณ์แล้ว
ไม่ว่าจะเป็นอาร์กาบิ ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกในการวิเคราะห์วิจัย เฮอร์ซอก ผู้ซึ่งสร้างมอสสาดขึ้นมาจนมีทุกสิ่งทุกอย่างที่หน่วยสืบราชการลับสมัยใหม่จะพึงมี
หรืออมิทผู้ซึ่งทำให้มอสสาดเป็นเครื่องมือสำคัญของกองทัพอิสราเอล และเนแมนผู้ซึ่งนำวิทยาศาสตร์มาใช้ในงานสืบราชการลับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคอมพิวเตอร์
ยาริฟรู้สึกเป็นหนี้หัวหน้ามอสสาดผู้มาก่อนเขาและได้วางพื้นฐานการทำงานสืบราชการลับไว้อย่างดียิ่ง

...เวลา 07.30 น. วันที่ 5 มิถุนายน 1967 เครื่องบินขับไล่ทิ้งระเบิดความเร็วเหนือเสียงมิสแตร์และมิราจฝูงแรกก็ออกจากฐานบินลับภายในดินแดนอิสราเอล
มุ่งสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและบินย้อนกลับเข้ามาทางตะวันตกของอียิปต์ ทำลายสนามบิน 16 แห่งพร้อมทั้งเครื่องบินทั้งหมดที่จอดอยู่บนสนามบินเหล่านั้น
ภายในเวลาเพียง 2 ชั่วโมง ในเวลา 09.30 น. อิสราเอลได้ทำลายเครื่องบินจำนวน 400 เครื่องของอียิปต์และในทำนองเดียวกันอิสราเอลได้ทำลายเครื่องบิน
ของซีเรียและจอร์แดนทั้งหมดลงได้ในเวลาต่อมา ทำให้กำลังทางอากาศของพันธมิตรอาหรับทั้ง 3 ชาติ เป็นง่อยหมดฤทธิ์ลงทันที...

...กลยุทธสำคัญของอิสราเอลก็คือทำลายเครื่องบินมิกของอาหรับก่อนที่มันจะบินขึ้น และนี่เองเป็นผลงานของยาริฟผู้ที่ได้ศึกษารายละเอียด
และวางแผนในการปฏิบัติจนไม่มีข้อผิดพลาดใดๆ เกิดขึ้นเลย
..."รู้จักศัตรูให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้" ยาริฟกล่าวกับหัวหน้าฝ่ายต่างๆ ในหน่วยงานของเขา และเน้นว่าการมีความรู้เรื่องบุทธศาสตร์ในภาพรวมใหญ่ๆ
เท่านั้นไม่พอ เราจะต้องรู้ถึงรายละเอียดตั้งแต่หน่วยทหารอาหรับลงไปจนถึงรายการอาหารที่จัดให้ทหารระดับนายสิบกินจึงจะใช้ได้  คือจะต้องรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับศัตรูนั่นเอง

...ประการสำคัญ อิสราเอลจำเป็นจะต้องรู้ว่าสนามบินของอาหรับอยู่ที่ไหนบ้าง  โดยใช้เครื่องบินสอดแนมซึ่งบินได้สูงเกินที่จรวดของอาหรับจะยิงถึงได้หรือใช้สายสืบธรรมดา  
แต่ยาริฟต้องการมากกว่านั้น ทุกสนามบินจะต้องได้รับการตรวจอย่างละเอียดโดยคนของอิสราเอล ตลอดระยะเวลา 18 เดือนก่อนสงคราม 6 วันจะเกิดขึ้น
ไม่มีแม้แต่สนามบินเดียวที่ยาริฟไม่ได้ส่งคนไปตรวจ บางสนามบินได้รับการตรวจมากกว่า 1 ครั้งด้วยซ้ำ บางสนามบินที่อยู่ใกล้พรมแดน
สายลับของอิสราเอลจะเข้าไปล้วงความลับได้ง่าย แต่บางสนามบินที่อยู่ลึกเข้าไปในดินแดนของข้าศึกนั้นตรวจได้ยาก
แต่ยาริฟก็สามารถยื่นมืออันยาวของเขาเข้าไปเก็บความลับของข้าศึกาได้หมด ตัวอย่างในกรณีสนามบินแห่งหนึ่งอยู่ใกล้ เอล ไคยัม ห่างจากกรุงไคโรประมาณ 150 ไมล์
เป็นที่เก็บเครื่องบินมิก 21 ซึ่งพร้อมที่จะขึ้นบินได้ทันที ยาริฟได้ส่งอดีตนายทหารคนหนึ่งเข้าไปเป็นคนรับใช้ในห้องของนายทหารระดับสูง
สายลับอิสราเอลผู้นี้ทำหน้าที่ได้อย่างดีมากจนได้รับความไว้วางใดจากนายทหารผู้บังคับบัญชาหน่วยบินของภูมิภาคนั้น
สายลับอิสราเอลได้ติดสอยห้อยตามไปด้วยเมื่อออกตรวจหน่วยบินภายใต้การบังคับบัญชาของเขา...(อ่านต่อในตอน 3)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 21, 2012, 05:38:44 PM โดย อรชุน-รักในหลวง » บันทึกการเข้า
อรชุน-รักในหลวง
หมู่โลหิต O
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1599
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10265



« ตอบ #176 เมื่อ: กันยายน 27, 2005, 02:08:31 PM »

เบื้องหลังชัยชนะในสงคราม 6 วันของยิว (ตอนจบ)
…ที่สนามบินแห่งหนึ่งาของอียิปต์ซึ่งควบคุมโดยรัสเซีย สายลับอิสราเอลผู้หนึ่งได้เข้าไปฝังตัวในฐานะช่างเทคนิคจนได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้า  
วันหนึ่งได้รับทราบจากนายทหารอียิปต์ว่า รัสเซียได้ให้รายงานที่ผิดในการซ่อมบำรุงเครื่องบินมิก สายลับอิสราเอลได้รับคำสั่งให้จัดทำคู่มือสำหรับการซ่อมบำรุง
เครื่องบินทุกเครื่องในแต่ละสัปดาห์รวมทั้งรายละเอียดเกี่ยวกับตัวนักบินและข่างเทคนิคประจำเครื่องบินนั้นๆ ขึ้นมาใหม่

…สายลับอิสราเอลทุกคนที่เข้าไปทำงานในอาหรับ จะต้องเสาะหารายละเอียดเกี่ยวับชีวิตของนักบินแต่ละคน ยาริฟต้องการชื่อ สถานภาพครอบครัว
รวมทั้งข้อมูลอื่นๆ เกี่ยวกับการดำเนินชีวิตของนักบินภายในฐานบินนั้น  นอกจากนั้นยาริฟยังต้องการข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับผู้บังคับบัญชาการฐานบิน
โดยต้องการรู้ว่าผู้ใต้บังคับบัญชาชอบเขาหรือไม่  เป็นคนมีระเบียบวินัยหรือไม่ เขาไต่เต้าขึ้นมาจนเป็นผู้บังคับบัญชาฐานบินด้วยความสามารถหรือด้วยอิทธิพลอื่นใด
ช่วงเวลา 18 เดือน ข้อมูลต่างๆ ก็ไหลเข้ามายังสำนักงานของยาริฟที่เทลอาวิฟมากกว่าที่กองทัพอากาศอียิปต์มีอยู่เสียด้วยซ้ำ

…ข้อมูลเหล่านี้ทำให้การกำหนดเวลาที่เครื่องบินอิสราเอลจะออกไปโจมตีอียิปต์ได้แน่นอน เวลา 07.30-07.45 น.
เป็นช่วงที่ฐานบินและสถานีเรดาร์ของอียิปต์มีโอกาสได้รับอันตรายมากที่สุด เจ้าหน้าที่เรดาร์กะกลางคืนจะออกเวรเวลา 08.00 น.
หลังจากนั่งเพ่งหน้าจอเรดาร์มาตลอดทั้งคืนแล้ว ความง่วงและความเหนื่อยล้าก็เข้ามาครอบงำ สมาธิก็จะถดถอยลง ความกระตือรือร้นและจดจ่ออยู่กับงานจะลดลงด้วย
เจ้าหน้าที่จะเตรียมตัวส่งมอบงานให้เจ้าหน้าที่กะต่อไปซึ่งจะมารับช่วงงานในไม่ช้านัก

…สำหรับนักบินจะได้รับสัญญาณปลุกเมื่อเวลา 06.30 น. อาหารเช้าจะพร้อมให้บริการได้เมื่อ 07.00 น. หลังอาหาร พวกนักบินจะกลับที่พักของตนในเวลา 07.30 น.
เพื่อเตรียมสัมภาระและอุปกรณ์การบิน ส่วนพนักงานภาคพื้นดินจะยุ่งอยู่กับงานของตนในช่วงนี้  โดยปกติแล้วเครื่องบินจะอยู่ในโรงเก็บมาตลอดทั้งคืน
เพราะการอยู่นอกโรงเก็บโดยไม่ได้ติดอาวุธ ย่อมจะเป็นการเสี่ยงต่อการถูกโจมตีเป็นอย่างยิ่ง

…ในขณะเดียวกัน ในกรุงไคโร นายทหารระดับสูงของกองทัพบก ทัพเรือ และทัพอากาศก็เพิ่งจะออกจากบ้านฝ่าการจราจรอันหนาแน่นของกรุงไคโร
เพื่อมาให้ทันเวลาทำงาน 08.00 น. ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ ผู้มีอำนาจตัดสินใจยังติดอยู่บนถนนของกรุงไคโรที่ใดที่หนึ่ง
การตัดสินใจในการปฏิบัติอย่างใดอย่างหนึ่งในขณะฉุกเฉินทุกอย่างขึ้นอยู่กับนายทหารระดับสูงเท่านั้น

…ยาริฟเป็นผู้เลือกเวลาและสถานที่ที่จะปฏิบัติการ และเขาได้เลือกอย่างถูกต้องเสียด้วย
…กำลังทางอากาศของศัตรูได้รับความเสียหายยับเยินอยู่บนพื้นสนามบินนั่นเอง  เรดาร์ของอียิปต์ไม่ได้จับภาพเครื่องบินของอิสราเอลที่กำลังบินเข้ามาทางตะวันตก  
ซึ่งเป็นทิศทางที่อียิปต์ไม่ได้คาดคิดมาก่อน  และเครื่องบินอิสราเอลก็บินเร็วมากและต่ำจนเรดาร์จับภาพไม่ได้
…เครื่องบินของอาหรับบางเครื่องเตรียมจะบินขึ้นต่อต้านอิสราเอลเหมือนกัน แต่สนามบินได้ถูกทำลายจนใช้การไม่ได้ตั้งแต่นาทีแรกของสงคราม  
โดยเครื่องบินของอิสราเอลได้ทิ้งระเบิดลงสนามบินอย่างแม่นยำเหมือนจับวาง

…สำหรับสงคราภาคพื้นดิน งานข่าวของอิสราเอลภายใต้การนำของยาริฟได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความมีประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยม
ยาริฟได้เก็บข้อมูลรายละเอียดทุกหน่วยทัพของอียิปต์ ซีเรีย และจอร์แดน รวมทั้งอำนาจการยิงของศัตรู
นอกจากนั้นเขายังประเมินความสามารถในการรบของนายพลทั้งหลายของกองทัพเหล่านั้นด้วย

…หน่วยสืบราชการลับของอิสราเอลสามารถถอดรหัสระบบสื่อสารของอาหรับที่ใช้ในการรบได้มานานแล้ว เมื่อกองรถถังของอียิปต์ไม่สามารถติดต่อกับทางไคโรได้  
เนื่องจากสัญญาณวิทยุขาดหายไปชั่วคราว และหน่วยสืบราชการลับของอิสราเอลทราบเรื่องนี้จึงตีขลุมทำทีเป็นเสียงวิทยุจากไคโรเสียเอง
สั่งให้เปลี่ยนคลื่นวิทยจากไคโรเสียเอง สั่งให้เปลี่ยนคลื่นวิทยุรับส่งของกองทัพรถถังในทะเลทราบไซนาย
และควบคุมการเคลื่อนไหวของทัพรถถังอียิปต์เหมือนหุ่นยนต์เสียเอง โดยได้สั่งให้เดินหน้า ถอยหลังตามใจชอบ
เพื่อให้กองทัพรถถังของอียิปต์อยู่ห่างจากเวทีรบ และห่างจากอิสราเอล เมื่อมีการหยุดยิง อิสราเอลได้ยึดรถถังเหล่านั้นไว้หมดและปล่อยตัวทหารอียิปต์ให้กลับบ้านไป

…ขณะเดียวกันแนวรบด้านจอร์แดนและไซนาย  ผลงานของหน่วยสืบราชการลับของอิสราเอลภายใต้การนำของยาริฟได้เป็นที่ประจักษ์ถึงประสิทธิภาพอันสูง
กองทัพจอร์แดนได้วางแนวป้องกันด้วยรถถัง และแนวระเบิดบก  ซึ่งต้องใช้รหัสลับจึงจะสามารถทำลายได้ แต่กองทัพอิสราเอลได้ตีฝ่าเข้าไปเหมือนไม่มีเครื่องกีดขวางใดๆ อยู่เลย
ยังความงงงวยให้แก่กษัตริย์ฮุสเซนผู้บัญชาการกองทัพจอร์แดนเป็นอันมาก เพราะทุกแนวระเบิดบกได้ถูกสายลับอิสราเอลทำเครื่องหมายไว้หมด

…ด้านแนวรบที่ราบสูงโกลาน สายลับอิสราเอลได้แอบเข้าไปทำแผนที่ที่ตั้งของกองทัพซีเรียไว้หมด กองทัพซีเรียได้ตั้งข้อสมมติฐานไว้ว่าหากอิสราเอลโจมตีที่ราบสูงโกลาน
ต้องเจอป้อมปราการที่แข็งแรง ดังนั้น ซีเรียจึงตรึงแนวป้องกันทั้งทางกว้างและทางลึกตลอดจนที่ราบสูงโกลาน  สนับสนุนโดยทหารราบหลายกองพลน้อย

…ซีเรียเชื่อว่าตนปลอดภัยจากการโจมตีของอิสราเอลแน่  แม้แต่กลุ่มนายหมารอเมริกันที่ได้เยี่ยมอิสราเอลในปี 1961 และได้เห็นแนวป้องกันของซีเรียต่างก็มีความเห็นอย่างเดียวกัน
ใครก็ตามที่พยายามเข้ายึดที่ราบสูงโกลานจะต้องสูญเสียอย่างหนักทั้งชีวิตทหารและยุทโธปกรณ์ นายทหารอเมริกันกลุ่มนั้นเชื่อว่ารัฐบาลอิสราเอลไม่สามารถลงทุนอย่างนั้นได้

…ยาริฟได้สร้างหุ่นจำลองของที่ราบสูงขึ้น การเปลี่ยนแปลงบนหุ่นจำลองของแนวป้องกันของซีเรียจะเป็นไปตามข้อมูลที่ได้มาใหม่เสมอ
หุ่นจำลองนั้นได้กลายเป็นศูนย์กลางของการศึกษาของเหล่านายทหารฝ่ายเสนาธิการ ในที่สุดก็พบจุดอ่อนของแนวป้องกันของซีเรีย  
ซีเรียได้เจาะลึกเข้าไปในภูเขาเพื่อซ่อมแซมปืนใหญ่ให้พ้นจากการโจมตีของเครื่องบินอิสราเอล นอกจากนั้นยังสามารถเห็นข้าศึกที่จะขึ้นมาทางเชิงเขา
ซึ่งเป็นที่ราบเทลงสู่เบื้องล่างอีกด้วย  ตอนแรกกองทัพอิสราเอลวางแผนจะใช้ทหารโดดร่มลงบนจุดที่สูงที่สุดของที่ราบสูงโกลาน  
แต่รายงานของสายลับอิสราเอลที่เข้าไปฝังตัวอยู่ในวงการทหารของซีเรีย ได้แจ้งให้ยาริฟทราบว่าซีเรียก็คาดคะเนเช่นนั้นเหมือนกัน  
จึงได้ชุมนุมทหารส่วนใหญ่ไว้บนยอดสูงสุดของที่ราบสูง  แผนนี้จึงต้องเปลี่ยนไป

…เมื่อเวลาที่กำหนดมาถึง  โมเช่  ดายัน  รัฐมนตรีกลาโหมไม่เชื่อว่าอิสราเอลจะสามารถเอาชนะซีเรียได้ แต่ยาริฟและนายทหารฝ่ายเสนาธิการเชื่อมั่นว่าอิสราเอลจะต้องชนะแน่
…อิสราเอลใช้กองทัพอากาศที่เหนือชั้นกว่าซีเรีย  โจมตียอดสูงสุดของที่ราบสูงจนซีเรียอ่อนกำลังลง  
ต่อจากนั้นอิสราเอลสามารถส่งทหารและอาวุธเข้ามาทางจุดที่อิสราเอลพบว่าเป็นจุดอ่อนของแนวป้องกันของซีเรีย  และเข้ายึดพื้นที่ได้  
หลังจากนั้นกำลังเสริมก็ติดตามเข้ามาจนซีเรียต้องยอมแพ้ และสูญเสียที่ราบสูงโกลานให้กับอิสราเอลในการรบที่ใช้เวลาไม่ถึง 1 วัน
…เมื่อสงครามสิ้นสุดลง ความสำเร็จของยาริฟเป็นที่รู้จักของนายทหารทุกคนที่ผ่านสงครามคราวนี้  
ทุกหน่วยได้รับผลจากการปฏิบัติงานของหน่วยสืบราชการลับภายใต้การนำของยาริฟทำให้ภารกิจลุล่วงไปได้ดี

…ยาริฟได้กล่าวว่างานสายลับมีความจำเป็นสำหรับประเทศเล็กๆ ที่ล้อมรอบไปด้วยศัตรูซึ่งจะช่วยเตือนภัยล่วงหน้าก่อนที่จะถูกโจมตี
งานสายลับต้องยึดคำพูดของผู้ปฏิบัติหน้าที่ในการจุดระเบิดบกในสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ว่า …  ความผิดครั้งแรกก็คือความผิดครั้งสุดท้าย  …
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 21, 2012, 05:41:56 PM โดย อรชุน-รักในหลวง » บันทึกการเข้า
อรชุน-รักในหลวง
หมู่โลหิต O
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1599
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10265



« ตอบ #177 เมื่อ: กันยายน 27, 2005, 03:06:04 PM »

ผมว่าอิสราเอลเป็นหนึ่งในประเทศที่การข่าวแล้วสายลับดีที่สุดในโลกนะครับ
บันทึกการเข้า
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16168


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #178 เมื่อ: กันยายน 27, 2005, 03:11:49 PM »

เอฟ - 35  ที่ด้านหน้าของเครื่องเป็นพัดลมยกตัวครับ ..... หมุน ( พัด ) ได้โดยการต่อเพลาขับมาจากแกนกังหันอีกที ......

*****

ขอบคุณมากครับ อือม์ ไอเดียเยี่ยมครับ พัดลมเฉยๆ ไม่วุ่นวายอย่างท่อไอพ่น
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
Zeus-รักในหลวง
อะฮู้.....ไฮยีน่าก็เป็นแมวนะคราบบบ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 817
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10979


I'm going to make him an offer that he can't refus


« ตอบ #179 เมื่อ: กันยายน 27, 2005, 03:32:35 PM »

ขอบคุณท่านไฮโลเอ๊ยไฮดร้าครับ...อ่านเพลินดีครับ
บันทึกการเข้า

“A fear of weapons is a sign of retarded sexual and
emotional maturity.”
- Sigmund Freud

“ความกลัวอาวุธคือสัญญาณของความถดถอยทางเพศและวุฒิภาวะทางอารมณ์”
- ซิกมุนด์ ฟรอยด์
หน้า: 1 ... 9 10 11 [12] 13 14 15 ... 30
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.144 วินาที กับ 21 คำสั่ง