๏ฟฝ๏ฟฝ็บบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝสน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาปืน
เมษายน 24, 2024, 05:30:41 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2 3 4
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ถาม เรื่องรถ ครับ สาวก Mitsubishi ช่วยหน่อย  (อ่าน 31950 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
กาสะลอง
Hero Member
*****

คะแนน 255
ออฟไลน์

กระทู้: 4751


ย่อง


« เมื่อ: พฤศจิกายน 24, 2008, 12:28:14 PM »

  ถามผู้รู้ เรื่องรถครับ สงสัย ขนาด จะไปถามใผ๋ ก่อ อายเปิ้ล เรื่องรถเก่า ของ Misubishi  Lanser ระหว่าง อีคาร์ กับ อีโวลูชั่น มันต่างกั๋น ตั๊ดใด สงสัยขนาดครับ  ไหว้
บันทึกการเข้า
neo1
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 159
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2694



« ตอบ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 24, 2008, 03:52:42 PM »

อ่า...........ผมก่ใจ้มิตซูฯอยู่ แต่บ่ฮู้เรื่องเลยครับ หัวเราะร่าน้ำตาริน
บันทึกการเข้า

นักะติ๊ Club
พ่อเลี้ยงหนุ่ม
เขี้ยวเสือ ตะกุด ปืน จะไม่ห่างตัว
Full Member
***

คะแนน 50
ออฟไลน์

กระทู้: 473



« ตอบ #2 เมื่อ: พฤศจิกายน 24, 2008, 04:06:22 PM »

  ถามผู้รู้ เรื่องรถครับ สงสัย ขนาด จะไปถามใผ๋ ก่อ อายเปิ้ล เรื่องรถเก่า ของ Misubishi  Lanser ระหว่าง อีคาร์ กับ อีโวลูชั่น มันต่างกั๋น ตั๊ดใด สงสัยขนาดครับ  ไหว้

Mitsubishi  Lancer ระหว่าง อีคาร์ กับ อีโวลูชั่น
เท่ารู้มาตัว นะครับ
อีคาร์ เป็นรถครอบครัว รถเพื่อคนทำงาน ไม่เหมาะกับการนำไปแข่งขัน
แต่ส่วนใหญ่แล้วพี่ไทยเราก็จะนำมาดัดแปลงแต่งกันเองเพื่อที่จะนำไปแข่ง
อีคาร์เป็นรถขับเคลื่อน 2 ล้อ ราคาก็พอที่จะให้พี่ไทยเราสู้ไหว อิอิอิ คิก คิก คิก คิก

อีโวลูชั่น ณ.ปัจจุบันนี้มีถึง 10 รุ่นแล้ว รุ่นล่าสุด Mitsubishi CONCEPT X ตามรูปที่แนบมาครับ
ไม่รู้ว่าอ้ายก่าจะชอบเหมือนผมหรือเปล่า เจ้าอีโวลูชั่นเป็นรถเหมาะสำหรับการแข่งขันสะส่วนมาก
ขับเคลื่อน 4 ล้อ ช่วงล่างเหมาะสำหรับการแข่งขันจริงๆครับ หน้ากระจังจะใหญ่ต่อแนวถึงสปอยเลอร์หน้าดูดุดัน
อีโวลูชั่นผมเห็นวิ่งที่เชียงใหม่แค่ 2 คันเองครับมีสีเหลืองคันหนึ่ง อีกคันจำไม่ได้แล้ว  คิก คิก คิก คิก

ไปดูข้อมูลของอีโวลูชั่นแต่ละรุ่นกันครับ

ย้อนหลังไปต้นทศวรรษที่ 1970 ตัวแข่งแรลลี่โลกของมิตซูบิชิถูกพัฒนามาจาก โคลต์ กาแลนท์ 16L จากนั้นเข้าสู่ยุคของแลนเซอร์รุ่นแรก 1600 GSR ตามด้วยแลนเซอร์รุ่นกล่องไม้ขีด ที่ได้รับความนิยมจากนักแข่งและทีมแข่งต่างๆ ตลอดปี 1981 – 1982 รวมทั้งสปอร์ตคูเป้รุ่นสตาร์เรียน กระทั่งเข้าสู่ยุคของกาแลนท์ VR-4 ซึ่งถือเป็นยุคทองของมิตซูบิชิ จนเมืองไทยนิยมนำเข้ามาเพื่อแข่งขันแต่เมื่อมิตซูบิช ิ มอเตอร์ส ตันสินใจขยายตลาดโดยเน้นรถซีดานขนาดกลางอย่างจริงจัง ด้วยการเปิดตัวกาแลนท์ อัลติมาซึ่งมีขนาดตัวถังใหญ่เกินไปจึงไม่เหมาะกับการ แข่งขัน ดังนั้นทีมมอเตอร์สปอร์ตจึงพัฒนาตัวแข่ง ใหม่ในนาม อีโวลูชั่น ในขณะเดียวกันสมาพันธ์ FIA กำหนดรถยนต์ที่เข้าแข่งขันกรุ๊ป A ต้องผลิตออกขายอย่างน้อย 2,500 คัน/ปี มิตซูบิชิจึงต้องผลิตอีโวชั่นทำตลาดจริงให้ถึงจำนวนท ี่กำหนดดังกล่าว นับเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะแลนเซอร์ อีโวลูชั่นสามารถกวาดชัยชนะจากสนามแข่ง WRC นับไม่ถ้วน ทั้งยังคว้าแชมป์แรลลี่โลกสะสมเก็บคะแนนในปี 1998 มาครองได้สำเร็จ

EVOLUTION I
7 กันยายน 1992
จำกัดจำนวนผลิต 2,500 คัน
ถูกพัฒนาบนพื้นฐานแลนเซอร์รุ่น อี-คาร์ มีให้เลือกทั้งรุ่น RS สำหรับลูกค้าที่ต้องการรถสภาพเดิมไปโมดิฟายเพื่อลงแข ่งในสนามและรุ่น GSR สำหรับลูกค้าทั่วไป ด้วยความยาวตัวถัง 4,310 มิลลิเมตร กว้าง 1,695 มิลลิเมตร สูง 1,395 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อยาว 2,500 มิลลิเมตร น้ำหนักตัว 1,240 กิโลกรัม ขุมพลัง 4G63 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว พร้อมเทอร์โบและอินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 250 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 31.5 กก.-ม. ที่ 3,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ ลงสู่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ คู่หน้าแบบมีรูระบายความร้อน


EVOLUTION II
22 ธันวาคม 1993
จำกัดจำนวนผลิต 5,000 คัน
ดูเหมือนไม่มีการปรับโฉมใหม่ใด ๆ แต่ความจริงแล้วมีหลายจุดที่ อีโวลูชั่น II แตกต่างจาก อีโวลูชั่น I เช่นเครื่องยนต์ที่มีการเพิ่มแรงดันบูสเตอร์เทอร์โบ ระยะวาล์ว เป็นต้น รีดแรงม้าเป็น 260 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ / นาที แรงบิดสูงสุด 31.5 กก.-ม. ที่ 3,000 รอบ / นาที ปรับปรุงระบบกันสะเทือนเพียงเล็กน้อย
 
EVOLUTION III
27 มกราคม 1995
จำกัดจำนวนผลิต 5,000 คัน
การปรับปรุงเน้นไปที่การเปลี่ยนมาใช้ชุดแอโรพาร์ท รวมทั้งสปอยเลอร์รอบคันใหม่ทั้งหมดให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อเพิ่มแรงกดและลดค่าสัมประสิทธิ์ต้านทานอากาศ (แอโรไดนามิก) ลง ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มเป็น 1,260 กิโลกรัม ยังใช้ตัวถัวรวมทั้งช่วงล่างและระบบกำลังส่งเดิม แรงม้าอยู่ที่ 270 แรงม้า (PS) ที่ 6,250 รอบ / นาที โดยคงแรงบิดสูงสุดเท่าอีโวลูชั่น II ระบบกันสะเทือนถูกปรับปรุงให้ตอบสนองได้เฉียบคมยิ่งขึ้น จนทำให้อีโวลูชั่น III แรงสุดและหนักสุด แต่มีสมรรถนะดีที่สุดในกลุ่มอีโวลูชั่นที่ใช้พื้นฐาน แลนเซอร์รุ่นอี – คาร์


EVOLUTION IV
30 กรกฎาคม 1996
จำกัดจำนวนผลิต 6,000 คัน
มีการเปลี่ยนแปลงตัวถังเป็นครั้งแรก มาใช้พื้นฐานเดียวกับแลนเซอร์ เอ็มจี ตัวถัวยาว 4,330 มิลลิเมตร กว้าง 1,415 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อยาว 2,510 มิลลิเมตร และน้ำหนักตัว 1,350 กิโลกรัม เป็นรุ่นแรกที่ติดตั้งพวงมาลัย 3 ก้านทรงสปอร์ตพร้อมถุงลมนิรภัย ขุมพลังยังยืนหยัดกับรหัส 4G63 แต่อัพเกรดสมรรถนะ 280 แรงม้า (PS) ที่ 6,500 รอบ / นาที แรงบิดสูงสุด 36.0 กก.-ม. ที่ 3,000 รอบ / นาที เป็นอีโวลูชั่นรุ่นแรกที่ย้ายตำแหน่งเครื่องยนต์มาติ ดตั้งเยื้องอยู่ฝั่งเดียวกับคนขัยเชื่อมการทำงานกับเ กียร์ธรรมดา 5 จังหวะแบบ Shift – Short Stroke และถือเป็นรถยนต์รุ่นแรกในโลกที่ติดตั้งระบบควบคุมแร งบิดล้อหลัง AYC (Active Yaw Control) ใกล้เฟืองท้ายเพื่อให้เข้าโค้งได้ฉับไวและทรงตัวดีเม ื่อเบรกกะทันหัน


EVOLUTION V
มกราคม 1998
จำกัดจำนวนผลิต 6,000 คัน
ปรับโฉมให้เหมือนกับรุ่นไมเนอร์เชนจ์ของตระกูลแลนเซอ ร์ เพิ่มช่องรับอากาศขนาดใหญ่เพื่อระบายความร้อนในเครื่ องยนต์ ขนาดตัวถัง 4,350 มิลลิเมตร กว้าง 1,770 มิลลิเมตร สูง 1,415 มิลลิเมตร ฐานล้อยาว 2,510 มิลลิเมตร น้ำหนักตัว 1,360 กิโลกรัม เครื่องยนต์บล็อกเดิม แต่เพิ่มแรงบิดสูงสุดเป็น 38.0 กก.-ม. ที่ 3,000 รอบ / นาที


EVOLUTION VI
7 มกราคม 1999
จำกัดจำนวนผลิต 7,000 คัน
เน้นปรับปรุงชุดแอร์โรพาร์ท และระบบหล่อเย็นให้ตรงข้อกำหนดใหม่ของ FIA และปรับปรุงสปอยเลอร์หลังโดยใช้พื้นฐานรูปทรงเดิมแต่ ฐานล่างทรงสามเหลี่ยมนูนเจาะ โล่งเพื่อประสิทธิภาพในการกดตัวถังขณะแล่นด้วยความเร ็วสูง ปรับปรุงระบบกันสะเทือนให้ยึดเกาะถนนดีขึ้น ปรับปรุงการทำงานของระบบ AYC ให้แม่นยำยิ่งขึ้นระบบอัดอากาศเทอร์โบ เปลี่ยนแกนเทอร์ไบน์มาใช้ไททาเนี่ยมเป็นครั้งแรกในโล ก EVOLUTION VI TOMMY MAKINEN LIMTED
10 ธันวาคม 1999
จำกัดจำนวนผลิต 2,500 คัน
มิตซูซูบิชิสร้างอีโวลูชั่น VI เวอร์ชั่นพิเศษเพื่อเป็นที่ระลึกแก่ทอมมี่ มาคิเนน อดีตนักแข่งทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ต ซึ่งแตกต่างจากอีโวลูชั่น VI เล็กน้อย ยึดการตกแต่งด้วยโทนสีแดง ออกแบบชุดแอโรพาร์ทใหม่ทั้งหมด ลดความสูงของตัวถังจรดพื้นถนนจากรุ่นเดิมลงไปอีก 10 มิลลิเมตร ถังน้ำมันพร้อมฝาปิดแบบใหม่ป้องกันการกระฉอกขณะเข้าโ ค้งต่างระดับด้วยความเร็วสูง ขุมพลังมีแรงม้าเท่าเดิม แต่ลดลงมาอยู่ที่ 38.0 กม.-ม.ที่ 2,750 รอบ / นาที


EVOLUTION VII & EVOLTION VII GT – A
26 มกราคม 2001
จำกัดจำนวนผลิต 10,000 คัน
เป็นครั้งที่ 2 ที่เปลี่ยนตัวถังใหม่โดยใช้พื้นฐานของแลนเซอร์ซีเดีย มีขนาดตัวถังยาวขึ้นเป็น 4,455 มิลลิเมตร กว้าง 1,770 มิลลิเมตร สูง 1,450 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อยาว 2,625 มิลลิเมตร ปรับปรุงให้แตกต่างจากรุ่นมาตรฐานหลายจุด เช่น ฝากระโปรงหน้าอะลูมิเนียมพร้อมช่องดังอากาศ
การตกแต่งภายในยังคงบุคลิกสปอร์ตไว้เต็มพิกัด เครื่องยนต์ 4G63 ถูกปรับปรุงท่อทางเดินไอเสียเพื่อให้อากาศหลังการเผา ไหม้ระบายออกสู่ปลายท่อดีขึ้น เพิ่มความกว้างให้กับอินเตอร์คูลเลอร์รีดกำลังสูงสุด ออกมาได้ที่ 280 (PS) ที่ 6,500 รอบ / นาที แรงบิดสูงสุด 39.0 กก.- ม. 3,500 รอบ / นาที และยังคงส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ รุ่น W5M51 ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อเปลี่ยนมาใช้ระบบ ACD (Active Center Differential) เป็นครั้งแรกในโลก แทนระบบ Viscous Coupling โดยใช้ระบบแรงดันไฮโดรลิกร่วมกับคลัตช์หลายแผ่นมั่นใ จด้วยดิสก์เบรก 4 ล้อ 4 คาลิปเปอร์ พร้อม ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Controlled Brake Force Distribution System) พร้อมระบบลดความร้อนของจานเบรกและวาล์วปรับแรงดันน้ำ มันเบรก PVC ( Presure Control Valve)
ส่วนรุ่น GT-A เป็นรุ่นเกียร์อัตโนมัติรุ่นแรกในตระกูลอีโวลูชั่นนำ เกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ INVECS – II พร้อมโหมดบวก – ลบมาติดตั้งส่งผลให้กำลังสูงสุดของเครื่องยนต์บล็อกเ ดิมลดลงเหลือ 272 แรงม้า (PS) ที่ 6,500 รอบ / นาที แรงบิดเหลือ 35 กก.-ม. ที่ 3,000 รอบ / นาที อีกทั้งยังมีรายละเอียดการตกแต่งภายในและภายนอกต่างจ ากอีโวลูชั่น VII เล็กน้อย


EVOLUTION VIII
28 มกราคม 2003
จำกัดจำนวนผลิต 5,000 คัน
เป็นครั้งแรกที่มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เริ่มส่งออกสายพันธ์ความแรงอีโวลูชั่นไปวาดลวดลายยัง ท้องถนนในดินแดนลุงแซม (สหรัฐอเมริกา) จุดประสงค์หลักของการปรับปรุงอีโวลูชั่น VIII พุ่งเป้าไปที่การยกระดับสมรรถนะที่ดีอยู่แล้วในอีโวล ูชั่น VII ให้ดียิ่งขึ้น เริ่มจากขุมพลังรหัส 4G63 สูบ DOHC 16 วาล์ว 1,997 ซีซี พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์และเทอร์โบถูกปรับปรุงรายละเอี ยดเล็กน้อย เพิ่มความทนทานของลูกสูบอะลูมิเนียม และก้านสูบแบบเหล็กหล่อ รวมทั้งเปลี่ยนใช้สปริงวาล์วน้ำหนักเบา เพื่อช่วยลดแรงเฉื่อยและแรงเสียดทานในการทำงานของชุด วาล์ว
เวอร์ชั่นญี่ปุ่นยังคงแรงอยู่ที่ 280 แรงม้า (PS) ที่ 6,500 รอบ / นาที เพิ่มแรงบิดให้สูงขึ้น 40.0 กก. – ม. ที่ 3,500 รอบ / นาที โดยรุ่น GSR จะส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ อัตราทดชิด (Close Ration ) รุ่น W6MAA พร้อมแหวนยกแป้นใต้หัวเกียร์ป้องกันการเข้าเกียร์ถอย หลังผิดผลาดเหมือนรถยุโรปบางรุ่น แต่รุ่น RS ยังคงติดตั้งเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ อัตราทดชิด Super Close Ration รุ่น W5M51 โดยมีเกียร์ 6 จังหวะจากรุ่น GSR ให้เลือกเป็นออฟชั่นพิเศษ สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงระดับ 9.7 กิโลเมตร / ลิตร โดยรุ่น RS ใช้ถังน้ำมันขนาด 55 ลิตร แต่ในรุ่น GSR เปลี่ยนขนาถังให้ใหญ่ขึ้นอีก 7 ลิตร เป็น 62 ลิตร ส่วนเวอร์ชั่นอเมริกันจำเป็นต้องลดพิกัดความแรงลงมาเ พื่อให้ผ่านมาตรฐานมลพิษระดับ LEV1 - LEV ของมลรัฐแคลิฟอร์เนีย ลงมาเหลือ 275 แรงม้า (PS) ที่ 6,500 รอบ / นาที แรงบิดสูงสุด 37.7 กก.-ม. ที่ 3,500 รอบ / นาที พ่วงกับเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ
ไม่ว่าจะเป็นเวอร์ชั่นไหนจะถูกพ่วงเข้ากับระบบขับเคล ื่อน 4 ล้อพร้อมระบบเพลากลาง ACD (Active Center Differential) ทำหน้าที่แทน Viscous Coupling โดยใช้ระบบแรงดันไฮโดรลิก ร่วมกับคลัตซ์หลายแผ่น เพื่อกระจายแรงบิดจากเครื่องยนต์ไปสู่ล้อคู่หน้าและห ลังเท่าๆ กัน อีกทั้งผู้ขับขี่ยังเลือกการทำงานได้ 3 โหมดตามสภาพถนนคือ Tarmac / Gravel / Snow
นอกจากนี้เฉพาะรุ่น GSR ยังเพิ่มระบบชุดเฟือง Super AYC (Active Yaw Control ) ติดตั้งใกล้เฟืองท้ายทำงานประสานกับระบบ ACD เพื่อเข้าโค้งได้ฉับไวและทรงตัวดีเมื่อเบรกกะทันหัน
ระบบกันสะเทือนยกมาจากรุ่นเดิม หน้าแมคเฟอร์สันสตรัทหลังแบบมัลติลิงก์ พร้อมเหล็กกันโคลงหน้า – หลัง ถูกปรับปรุงจุดยึดต่างๆ เพื่อให้ช่วยลดการบิดตัว ส่งผลให้ยึดเกาะถนนดีขึ้น ระบบห้ามล้อเป็นดิสก์เบรกมีรูระบายอากาศทั้ง 4 ล้อ คู่หน้าเป็นแบบ 4 คาลิปเปอร์ส่วนคู่หลังมี 2 คาลิปเปอร์ ระบบป้องกันล้อล็อก ABS ถูกอัพเกรดขึ้นเป็นแบบ Sport ABS มีเซนเซอร์จับอาการล็อกล้อทั้ง 4 เพิ่มเซนเซอร์จับการหมุนของพวงมาลัยและหมุนเลี้ยวของ ล้อทั้ง เพื่อคำนวณหาแรงเบรกที่เหมาะสมของแต่ละล้อและสั่งการ ไปยังล้อข้างนั้น ๆ ส่วนระบบกระจายแรงเบรก EBD พร้อมระบบลดความร้อนของจานเบรกและวาล์วปรับแรงดันน้ำ มันเบรก PVC (Pressure Control valve )
โครงสร้างตัวถังมีความยาว 4,490 มิลลิเมตร กว้าง 1,770 มิลลิเมตร สูง 1,450 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,625 มิลลิเมตร กระจังหน้าทรงปิรามิดลายเอกลักษณ์ใหม่ของมิตซูบิชิกล ืนเป็นช้อนเดียวกับกันชนหน้า เสริมการทำงานด้วยแผ่นปิดใต้ท้องเครื่องยนต์ช่วยให้ก ารระบายอากาศเข้าสู่อินเตอร์คูลเลอร์ดีขึ้นกกว่าเดิม 10% และเพิ่มแรงกดให้กดให้กระแสลมบริเวณด้านหน้าทำให้อาก าศไหลผ่านอย่างไหลลื่น ทั้งยังลดค่าสัมประสิทธิ์หลักอากาศพลศาสตร์ได้อีกด้ว ยสปอยเลอร์หลังหล่อขึ้นรูปจากพลาสติกผสมคาร์บอนไฟเบอ ร์ CFRP (Carbon Fiber - reinforced Plastic ) ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของรถยนต์ซีดานจากสายการผลิตบริษ ัทแม่โดยตรง
ห้องโดยสารตกแต่งด้วยโทนสีดำเป็นหลัก แผงหน้าปัดตกแต่งคอนโซลด้วยสีน้ำเงินชุดมาตรวัดความเ ร็วจะเพิ่มตัวเลขให้เกินพิกัดความเร็วสูงสุดถึง 270 กิโลเมตร / ชั่วโมง แต่ยังจะมีระบบตัดการจ่ายเชื้อเพลิงเมื่อถึงความเร็ว 180 กิโลเมตร / ชั่วโมง ตามกฎหมายของญี่ปุ่นไว้เช่นเดิม



EVOLUTION IXอีโวลูชั่น 9 แบ่งออกเป็น 3 รุ่น คือ จีแอลเอส, อาร์เอส และรุ่นท็อปไลน์ เอ็มอาร์ (มิตซูบิชิ เรซซิ่ง) ลูกค้าสามารถเลือกการตกแต่งได้หลากหลายรูปแบบตามแต่ร สนิยมความต้องการ รวมถึงการตกแต่งให้ใกล้เคียงกับตัวแข่งแรลลี่โลก WRC ให้มากที่สุดก็สามารถทำได้
อีโวลูชั่น 9 ใช้เครื่องยนต์ บล็อก 4 สูบเรียง 16 วาล์ว พ่วงเทอร์โบ-อินเตอร์คูลเลอร์เวอร์ชั่นล่าสุด โดยทำงานพร้อมกับระบบ Mivec ยกวาล์วผันแปรตามรอบเครื่องยนต์ ช่วยรีดพละกำลังได้สูงสุด 280 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 390 นิวตัน-เมตร มาที่รอบต่ำเพียง 3,500 รอบ/นาที
ระบบส่งกำลังใช้แบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีดในรุ่นจีแอลเอสและอาร์เอส ซึ่งได้รับการปรับปรุงอัตราทดให้ถ่ายเทแรงบิดได้ไหลล ื่นยิ่งขึ้น ขณะที่อัตราทดในเกียร์สูงสุดก็ได้รับการพัฒนาเพื่อกา รใช้ความเร็วสูง
ในส่วนของรุ่นเอ็มอาร์ ใช้ระบบเกียร์ธรรมดาแบบ 6 สปีด
ในส่วนของช่วงล่างได้รับการปรับแต่งให้แน่นปึ๊กสไตล์ แรลลี่ ช็อกอัพใช้ของบิลสไตน์ ระบบขับเคลื่อนเป็นแบบ ออลวีลไดรฟ์ ตะกุยสี่ล้อตลอดเวลา ซึ่งจะมาพร้อมกับระบบควบคุมแรงบิด ACD ปรับเปลี่ยนได้ 3 โหมด สำหรับสภาพถนนแบบ ฝุ่นกรวด, ลาดยาง และพื้นหิมะ ขณะที่ระบบเบรกใช้ของเบรมโบ คอยคุมฝูงม้าไม่ให้พยศเกินความจำเป็น
รูปโฉมภายนอกดีไซน์ใหม่ โดยมีจุดประสงค์เพื่อ สร้างแรงกดตามหลักแอโรไดนามิกส์ และเพื่อระบายความร้อนจากเครื่องยนต์ได้ดียิ่งขึ้น ในส่วนของล้ออัลลอย ถือว่า เป็นหนึ่งในไฮไลต์ของอีโวลูชั่น แทบทุกรุ่น สำหรับ "อีโว 9" ใช้ล้อของเอนไก อะลูมิเนียมอัลลอยน้ำหนักเบา ขนาด 17 นิ้วหุ้มด้วยยางขนาด 235/45 R17 ของโยโกฮาม่า แอดวาน เกาะถนนเหนียวแน่นหนึบ
การตกแต่งภายใน ทางมิตซูบิชิเน้นให้ถอดแบบมาจากตัวแข่งแรลลี่ให้มากท ี่สุด เบาะที่นั่งบั๊กเก็ตซีทของสปาร์โก หุ้มด้วยอัลคันทาร่าและหนังแท้ โอบกระชับและนั่งสบาย พวงมาลัยสามก้านทรงซิ่งสีไทเทเนี่ยมของโมโม แป้นเหยียบอะลูมิเนียมกันลื่น ส่วนแผงข้างประตู และคอนโซลใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์



EVOLUTION X-Concept X

มิตซูบิชิเปิดเผยว่าต้นแบบรุ่นนี้ใช้ชื่อว่า คอนเซ็ปต์-เอ็กซ์ ที่เตรียมมาเพื่อเปิดตลาดในนามของ อีโวลูชั่น 10มากับตัวถัง 4 ประตูสุดสวย ได้รับการออกแบบโดยเน้นความสปอร์ตในทุกรายละเอียด โดยผสานกับความโค้งมนกลมกลืนของตัวถัง อีกทั้งยังได้รับการลดน้ำหนักแบบสุดๆ กับการนำอะลูมิเนียมมาใช้ผลิตฝากระโปรง, พื้นตัวถังของห้องเก็บสัมภาระ, หลังคา, กันชน และแผงประตูทั้ง 4 บาน

ระบบกันสะเทือนหน้าเป็นแบบแม็กเฟอร์สันสตรัต และด้านหลังเป็นแบบมัลติลิงก์ พร้อมเทคโนโลยีใหม่ของมิตซูบิชิที่เรียกว่า Roll Control Suspension ที่ช่วยควบคุมไม่ให้ตัวรถมีอาการโคลงไปมาในขณะขับหรื อเข้าโค้ง

ตัวถังซีดาน 4 ประตูของต้นแบบรุ่นนี้มีความยาว 4,530 มิลลิเมตร กว้าง 1,830 มิลลิเมตร สูง 1,470 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,650 มิลลิเมตร เสริมความสปอร์ตด้วยล้อแม็กวงโตขนาด 9X20 นิ้ว และยางขนาด 225/35R20

เครื่องยนต์เป็นบล็อก 4 สูบ ทวินแคม 16 วาล์ว 2,000 ซีซี พร้อมระบบวาล์วแปรผัน MIVEC อัดอากาศเพิ่มความแรงด้วยเทอร์โบ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ซึ่งทางมิตซูบิชิยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดออกมา แต่คาดว่าน่าจะเป็นบล็อกเดียวกับที่วางอยู่ในอีโวลูช ัน 9 ที่เปิดตัวเมื่อต้นปี 2005

ส่วนระบบส่งกำลังมาในมาดใหม่กับระบบเกียร์แบบซีเควนเ ชียล 6 จังหวะที่ไม่ต้องเหยียบแป้นคลัตช์ให้เมื่อยขาซ้าย โดยใช้พื้นฐานของเกียร์ธรรมดา แต่ใช้ระบบคลัตช์ไฟฟ้า เปลี่ยนเกียร์ผ่านทางแป้น + หรือ – ที่ติดตั้งอยู่บนพวงมาลัย คล้ายกับพวกเกียร์เซเลสปีดของอัลฟา

ขณะที่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อเป็นเทคโนโลยีใหม่เช่นกันเรียกว่า S-AWC หรือ Super All Wheel Control ที่ใช้พื้นฐานเดียวกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อในอีโวลูชันรุ่นล่าสุด แต่มีการปรับปรุงให้ทำงานดีขึ้น และเสริมการทำงานร่วมกับระบบ ABC หรือ Active Brake Control และระบบ Steering System เพื่อความแม่นยำในขณะเข้าโค้งและความปลอดภัยในขณะขับ ขี่

ทั้งหมดคือตำนานกว่า 13 ปี ที่ อีโวลูชั่นครองตำแหน่งหัวแถวในสนามแข่ง บนท้องถนน และในความทรงจำจองผู้ที่ชื่นชอบความแรงจากพละกำลังขอ งสปอร์ตซีดานขับเคลื่อน 4 ล้อรุ่นพิเศษที่มีอยู่ทั่วทุกมุมโลก โดยเฉพาะ อีโวลูชั่น IX ที่ยังรอคอยผู้ขับขี่ที่มีความเร็วและแรงอยู่ในหัวใจ ได้ครอบครองเป็นเจ้าของ

สรุปแล้วอ้ายก่าจะเลือกรุ่นใดดีน้อ........ เยี่ยม เยี่ยม เยี่ยม
บันทึกการเข้า

เสียสละ สักเท่าไร ให้โลกรู้
ให้ชาติอยู่ ด้วยรัก สมัครสมาน
เสียกี่เลือด เสียกี่เนื้อ กี่วิญญาน
เพื่อจะล้าง คนผลานชาติ ให้สิ้นไป
2..U
Hero Member
*****

คะแนน 2094
ออฟไลน์

กระทู้: 15978



« ตอบ #3 เมื่อ: พฤศจิกายน 24, 2008, 04:09:55 PM »

บึ๋ยยยยย... ตกใจ..แฟนพันธุ์แท้ตั้วนี่... Grin
บันทึกการเข้า

The best way to predict the future is to invent it.
อรชุน-รักในหลวง
หมู่โลหิต O
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1599
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10265



« ตอบ #4 เมื่อ: พฤศจิกายน 24, 2008, 04:37:21 PM »

อีคาร์กับอีโวลูชั่น เป็นรถที่ใช้โครงสร้างพื้นฐานเหมือนกัน  แต่จุดประสงค์ในการใช้งานต่างกัน อีโวลูชั่นจะใช้โครงรถที่มีการเชื่อมจุดตามตะเข็บรอยต่อต่างๆ
เพื่อให้ตัวถังแข็งแรงขึ้นใช้บุชตามจุดเคลื่อนไหวเป็นยูริเธนช่วงล่างแบบสปอร์ต อีโวจะแบ่งออกเป็น2เวอร์ชั่น GSR มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบแอร์เย็นเพลงเพราะ  
ล้อแม็คOZ ภายในพวงมาลัยโมโม เบาะเรคาโร่

กับ รุ่นRS ที่ตัดระบบอำนวยความสะดวกออกใช้ล้อกระธรรมดาเพื่อลดน้ำหนักและมีสีขาวเพียงสีเดียวทีมแข่งเกือบทั้งหมดจะใช้เวอร์ชั่นนี้  
เครื่องยนต์ อีโวตั้งแต่1-9จะใช้เครื่องรหัส 4G-63 T 2000 C.C.  4สูบเทอร์โบมาตลอดแรงม้าเริ่มต้นตั้งแต่255ถึง290ในเวอร์ชั่น9  
ในรุ่นล่าสุดเครื่องยนต์เปลี่ยนเป็นตระกูล B  รหัส4B-11  ระบบขับเคลื่อนของอีโวทุกรุ่นเป็นระบบขับเคลื่อน4ล้อตลอดเวลา  
 และตั้งแต่ในเวอร์ชั่น4จะมีระบบกระจายแรงขับแปรผันตามอาการรถเพิ่มเข้ามา  กล่อง ECU มีระบบ Anti Lag System มาให้สามารถปลดล๊อคใช้งานได้

ส่วนอีคาร์ใช้โครงสร้างเดียวกันแต่ไม่มีการเชื่อมจุดเพื่อเพิ่มความนุ่มนวล ออกแบบเพื่อใช้งานในเมือง
แต่แลนเซอร์ก็จะมีเวอร์ชั่นแรงของตัวเองเป็นรุ่น Lancer GSR ใช้เครื่องยนต์รหัส 4G-93 T 1800 C.C.  4สูบเทอร์โบ 205แรงม้า  ขับเคลื่อน4ล้อ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 11, 2012, 06:09:41 PM โดย อรชุน-รักในหลวง » บันทึกการเข้า
neo1
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 159
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2694



« ตอบ #5 เมื่อ: พฤศจิกายน 24, 2008, 04:44:07 PM »

 เยี่ยม เยี่ยม
บันทึกการเข้า

นักะติ๊ Club
กาสะลอง
Hero Member
*****

คะแนน 255
ออฟไลน์

กระทู้: 4751


ย่อง


« ตอบ #6 เมื่อ: พฤศจิกายน 24, 2008, 04:45:08 PM »

เย้ มีคนมาตอบแล้ว ขอบคุณ อ้ายหนุ่ม กับ ท่าน Hydra ครับ  ไหว้




สรุปแล้วอ้ายก่าจะเลือกรุ่นใดดีน้อ........ เยี่ยม เยี่ยม เยี่ยม

   บะเลือกสักรุ่น ครับ อ้ายหนุ่ม บะเด่ว ขี่ อีแก่ เอ๊ย อีคาร์ เก่า ๆ  ขี้เมี่ยง อยู่ครับ แหะ ๆ  ใค่แต่งเป๋น อีโว อย่างกับเปิ้ลผ่อง  Cry  Cry เผื่อจะเอาไปฮับ สาว ๆ สวย ๆ หมวย อึ๋ม  คิก คิก  คิก คิก  น้ำลายหก
บันทึกการเข้า
Southlander
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 5711
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 48210



« ตอบ #7 เมื่อ: พฤศจิกายน 24, 2008, 05:02:17 PM »

รอแลนเซอร์หน้าฉลามโฉมอีโว10ปลายปีหน้าครับคาดว่าออกแน่ผมรอตัวนี้อยู่เช่นกัน...และถ้าไม่ขี้เหนียวนักอาจได้เห็นเกียร์ AMT (Automatic Manual Transmission)
แต่ถ้าอ้ายรอบ่ไหวจะไปถอย Ford Focus เกียร์ SSTที่ออกมาแล้วโดยเกียร์แบบนี้ความเด็ดของมันคือมันคือเกียร์ธรรมดามีคลัท 2ชุดควบคุมด้วยไฟฟ้าไม่ต้อง
เหยียบคลัทให้เมื่อยไม่สูญเสียกำลังไปในทอร์คคอร์นเวอร์เตอร์แบบออโต้ทั่วไปแต่ไม่ใช่น้ำมันเกียร์ในการถ่ายทอดกำลังเกียรืแบบนี้มีใช้แต่ในรถสปอตร์แรงเท่านั้นเช่นเฟอรารี่ ใน Alfa Romeo เรียก Selespeed ในBMW เรียก SMG
 ณ ชั่วโมงในบ้านเรานี้มีแต่รถระดับชาวบ้านอย่าง Ford Focus ใหม่เท่านั้นที่มีเกียร์แบบนี้.....ตอนนี้ขอตัวไปขับ 4G69 พลางๆก่อน
บันทึกการเข้า

๏ทุกวันนี้ศึกไกลยังไม่ห่วง  แต่หวั่นทรวงศึกใกล้ไล่ข่มเหง
ถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเอง   จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง
                      
                             โดย:นภาลัย สุวรรณธาดา พศ.๒๕๑๐
เอก@ดอยฯ
ปฏิบัติอย่างถูกต้องตั้งแต่แรกเริ่ม
Moderator
Hero Member
*****

คะแนน 183
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 9463


Do it right the first time


« ตอบ #8 เมื่อ: พฤศจิกายน 24, 2008, 05:04:44 PM »

ว้าาาา   ว่าจะมาตอบซักกำเปิ๊ลตอบกั๋นหมดละ ผมใจ้มิตซู ฯ  ตั้งแต่กันแรกจ๋นแผว บ่เด่วก่อ 5 รุ่นละครับ   คิก คิก  

แชมป์ 3

L200 cyclon

อีคาร์ 1.6 CBU auto

สตราด้า

มาจ๋นแผว  บ่เด่ว  นิวแลนเซอร์


ทุกกันใจ้ดี บ่มี๋รวนก๋วนหัวใจ๋  ยกเว้น  L200 กันเดว จ๊ดน้ำมันนักน๊อย กับ ท้ายเบา   เยี่ยม
บันทึกการเข้า

SPSC No.057       THPSA No.A-331
กาสะลอง
Hero Member
*****

คะแนน 255
ออฟไลน์

กระทู้: 4751


ย่อง


« ตอบ #9 เมื่อ: พฤศจิกายน 24, 2008, 05:17:01 PM »

 น่าอะก่า ผมกะ อ้ายสล่า กับอ้ายงาจ๊างดำ มาตอบ กะ บะมาสักเตื่อ   หลงรัก  อ้ายสล่าขี่หลายรุ่น ท่าจะได้กิ๊ก หลายคนละเนาะ รุ่นใหน หมานกิ๊กเหลือหมู่ครับอ้ายสล่า  คิก คิก  คิก คิก  คิก คิก
บันทึกการเข้า
กาสะลอง
Hero Member
*****

คะแนน 255
ออฟไลน์

กระทู้: 4751


ย่อง


« ตอบ #10 เมื่อ: พฤศจิกายน 24, 2008, 05:22:02 PM »

รอแลนเซอร์หน้าฉลามโฉมอีโว10ปลายปีหน้าครับคาดว่าออกแน่ผมรอตัวนี้อยู่เช่นกัน...และถ้าไม่ขี้เหนียวนักอาจได้เห็นเกียร์ AMT (Automatic Manual Transmission)
แต่ถ้าอ้ายรอบ่ไหวจะไปถอย Ford Focus เกียร์ SSTที่ออกมาแล้วโดยเกียร์แบบนี้ความเด็ดของมันคือมันคือเกียร์ธรรมดามีคลัท 2ชุดควบคุมด้วยไฟฟ้าไม่ต้อง
เหยียบคลัทให้เมื่อยไม่สูญเสียกำลังไปในทอร์คคอร์นเวอร์เตอร์แบบออโต้ทั่วไปแต่ไม่ใช่น้ำมันเกียร์ในการถ่ายทอดกำลังเกียรืแบบนี้มีใช้แต่ในรถสปอตร์แรงเท่านั้นเช่นเฟอรารี่ ใน Alfa Romeo เรียก Selespeed ในBMW เรียก SMG
 ณ ชั่วโมงในบ้านเรานี้มีแต่รถระดับชาวบ้านอย่าง Ford Focus ใหม่เท่านั้นที่มีเกียร์แบบนี้.....ตอนนี้ขอตัวไปขับ 4G69 พลางๆก่อน

   สำหรับผม แค่ 4G15 ก็พอแล้ว น้ากันชน ผมขับไม่เคยเกิน 90 อายุ แก่แล้ว ซิ่ง กว่านี้ไม่ได้ กลัว  อ๋อย
บันทึกการเข้า
Southlander
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 5711
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 48210



« ตอบ #11 เมื่อ: พฤศจิกายน 24, 2008, 06:30:59 PM »

เครื่อง 4G69 ใน Space wagon โฉมนี้ ไม่แรงครับท่านกว่าจะตั้งลำได้ค่อยๆไต่ไปเรื่อยๆตัวถังใหญ่หนักเอื่อยๆ ออกมาปีที่ 4 แล้ววิ่งยังไม่ถึงสามหมื่นโลเลย
ออกผิดเวลาไปหน่อยเจอน้ำมันแพงเข้าไปจอดเลยขับอีแก่ดีกว่า
....เคยเห็นเครื่องนี้วางในแลนเซอร์โฉมปัจจุบันนี้แหละแต่เป็นเวอชั่นญี่ปุ่น...ฮ่าๆๆ ลองคิดดูจะวิ่งกระฉูดแค่ไหนเครื่อง 2400 กว่า160แรงม้าไม่โบ....โอ้โห
น่าขับเป็นที่สุด....ผมแฟนมิตซูเช่นกันแต่ขอรอดูไอ้หน้าฉลามปลายปีหน้าดีกว่าท่าน ก๋าคำ คงไม่ทำให้บรรดาแฟนานุแฟนต้องผิดหวัง
บันทึกการเข้า

๏ทุกวันนี้ศึกไกลยังไม่ห่วง  แต่หวั่นทรวงศึกใกล้ไล่ข่มเหง
ถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเอง   จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง
                      
                             โดย:นภาลัย สุวรรณธาดา พศ.๒๕๑๐
เอก@ดอยฯ
ปฏิบัติอย่างถูกต้องตั้งแต่แรกเริ่ม
Moderator
Hero Member
*****

คะแนน 183
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 9463


Do it right the first time


« ตอบ #12 เมื่อ: พฤศจิกายน 25, 2008, 07:19:50 AM »

น่าอะก่า ผมกะ อ้ายสล่า กับอ้ายงาจ๊างดำ มาตอบ กะ บะมาสักเตื่อ   หลงรัก  อ้ายสล่าขี่หลายรุ่น ท่าจะได้กิ๊ก หลายคนละเนาะ รุ่นใหน หมานกิ๊กเหลือหมู่ครับอ้ายสล่า  คิก คิก  คิก คิก  คิก คิก

อีคาร์ครับหมาน สุด  4 อิอิ  คิก คิก แลบลิ้น แลบลิ้น
บันทึกการเข้า

SPSC No.057       THPSA No.A-331
กาสะลอง
Hero Member
*****

คะแนน 255
ออฟไลน์

กระทู้: 4751


ย่อง


« ตอบ #13 เมื่อ: พฤศจิกายน 25, 2008, 07:29:31 AM »

อ่า อี่แก่ เดิม ๆ กันนี้ จะเอาไปแต่งเป๋น อีโว .... ท่านสาวก โปรดแนะนำ   หลงรัก






เครื่อง 4G69 ใน Space wagon โฉมนี้ ไม่แรงครับท่านกว่าจะตั้งลำได้ค่อยๆไต่ไปเรื่อยๆตัวถังใหญ่หนักเอื่อยๆ ออกมาปีที่ 4 แล้ววิ่งยังไม่ถึงสามหมื่นโลเลย
ออกผิดเวลาไปหน่อยเจอน้ำมันแพงเข้าไปจอดเลยขับอีแก่ดีกว่า
....เคยเห็นเครื่องนี้วางในแลนเซอร์โฉมปัจจุบันนี้แหละแต่เป็นเวอชั่นญี่ปุ่น...ฮ่าๆๆ ลองคิดดูจะวิ่งกระฉูดแค่ไหนเครื่อง 2400 กว่า160แรงม้าไม่โบ....โอ้โห
น่าขับเป็นที่สุด....ผมแฟนมิตซูเช่นกันแต่ขอรอดูไอ้หน้าฉลามปลายปีหน้าดีกว่าท่าน ก๋าคำ คงไม่ทำให้บรรดาแฟนานุแฟนต้องผิดหวัง

  ผมเข็ดขยาด กับรถป้ายแดงครับท่าน โดยเฉพาะ มิตซู ขายต่อ รา ตกเพียบ  ปล. ก่อนหน้านี้ ผมเป็น สาวก โตโยต้าครับ กระบะ 4*4 กับ กระบะ ขับสองล้อ  ขนาดโตโยต้า รถใช้มา แค่ไม่กี่ปี  ขายต่อ ราคา ตกเพียบ ช่วงดีเซลแพง  แบร่ เจ้าขับสองล้อ ผมเฉียดตายไปทีหนึ่ง ถนนลื่นบนเขา  เสียหลักพลิกคว่ำ  ตกใจ  รถแรงจริง แต่พลิกง่ายจัง  Cry
บันทึกการเข้า
BG 15
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #14 เมื่อ: พฤศจิกายน 25, 2008, 09:00:43 AM »

อ่านแล้วอยากจะขายรถจิ๊บมาเล่นอีโวฯ เยี่ยม ยิ้มีเลศนัย
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 3 4
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.124 วินาที กับ 23 คำสั่ง