ถูกต้องตามที่พี่มะขิ่นบอกเลยครับ ยิ่งถ้าปืนที่ท่านซื้อเป็นปืนสวัสดิการด้วยแล้ว ยิ่งต้องเปรียบเทียบความคุ้มค่าให้ดี
Glock กับ CZ เมื่อก่อนเป็นปืนถูก(มาก) เมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น ในช่วงปี 2541-2542 ผมจำได้ว่าราคามือสอง ที่ลงขายใน อวป. สองหมื่นกว่าๆ ยังหาซื้อได้ ในครั้งที่ยังไม่ได้รับความนิยมมากนัก สมัยก่อน ผมอยากมีปืน แต่เงินไม่พอ ยังเคยจะหนีไปเอาปืนถูกเหมือนกัน ต่อไปเมื่อกระแสนิยมเพิ่มขึ้น ราคาก็ขยับขึ้นตามกระแส จนมาขายในราคาเท่ารุ่นอื่นๆ หรืออาจจะแพงกว่าบางรุ่นด้วยซ้ำ ทั้งที่คุณภาพเดิม
ผมเป็นคนหนึ่ง ที่ไม่ค่อยตามกระแสเท่าไหร่ เลือกเพราะชอบ เลือกเพราะคุ้มค่าเงิน ไม่จำเป็นต้องมีคนใช้เป็นเพื่อนเยอะๆก็ได้ เรื่องแต่งปืน หรือใส่ของเล่น ก็ไม่นิยมมากนัก ถ้าให้เลือกใหม่ตอนนี้ ก็ยังเลือก PX4 อยู่ดีครับ
ด้วยเหตุผล
- ความปราณีต : ดูไม่ได้ทำง่ายๆ ค่อยน่ายอมจ่ายค่าแรงเพิ่มให้เค้าหน่อย
- ความครบครัน : จริงอยู่ ถ้าเรามีสติและคุ้นเคยกับปืนดี ระบบเซฟตี้ก็ขึ้นอยู่กับตัวเราเอง แต่ให้มาครบไม่ดีกว่าขาดหรือ.... PX4 มีอรรถประโยชน์ครบแล้ว โดยที่ท่านไม่ต้องง้ออุปกรณ์แต่ง ศูนย์เรืองแสงแบบสะสมแสงก็ติดปืนมาให้ แต่ถ้ายังไม่พอใจ จะเอาแบบไม่ต้องสะสมแสง สว่างได้ตลอด ก็มีให้เปลี่ยน
http://www.opticsplanet.net/trijicon-beretta-px4-storm-3-dot-front-rear-night-sight-set-be10.html- ระบบเซฟตี้+แถมคันลดนก : มีประโยชน์ในการใช้งานจริงมากครับ ในช่วงกลางของการยิง(พักการยิง) หากอยู่ในสถานการณ์จริง ก่อนยิงเราสามารถคุมสติตัวเองได้ดีกว่าแน่นอน ฉะนั้น การจะบรรจุลูกเข้ารังเพลิงไว้ก่อน หรือบรรจุเมื่อเกิดเหตุ ขึ้นอยู่กับการฝึกฝนของเรา แต่ลองนึกดูครับ ว่าระหว่างยิงความตื่นเต้นและสติสัมปชัญญะ จะคุมอยู่ได้เท่าเดิมหรือไม่ เมื่อยิงไปแล้ว กระสุนลูกใหม่จะถูกบรรจุเข้าแทนในรังเพลิง หากท่านอยากเก็บปืนก็ต้องมาเคลียร์กระสุนเพื่อความปลอดภัยของคนรอบข้างท่าน หรือคนในรถท่าน ซึ่งอาจจะมีเจ้าตัวน้อยนั่งอยู่ด้วย ในสถานการณ์คับขันที่ยังไม่มั่นใจว่าปลอดภัยจริงหรือยังผมเห็นข้อดีของคันลดนกตรงนี้แหละครับ เป็นการเข้าเซฟเพื่อความปลอดภัยจะเก็บปืนก็เก็บได้อย่างอุ่นใจ แต่ถ้าสถานการณ์ยังไม่ยอมจบ จะมีต่อ เราก็พร้อม เพียงแค่ปลดเซฟก็ยิงต่อได้ทันที
ปืนโครงการสวัสดิการ ทบ. ที่ผ่านมา .............ผมเลือก HK USP .45 ซึ่งราคาสูงที่สุดในรายการก่อนทั้งๆที่มี ปืน 1991A1 และปืนโครงโพลิเมอร์ยอดนิยมอยู่ในรายการด้วย ...............
การพิจารณาของผม มีหลายเรื่องครับ ...........เช่น
1. ซื้อมาโอนให้ลูกชายได้อย่างเดียว เมื่อเราไม่อยู่แล้ว.............ข้อนี้แนะนำไปแล้ว.................
2. เลือกเทคโนโลยี่ วัสดุ การผลิต ความสวย และชื่อเสียงของผู้ผลิต (เรียกง่ายๆว่าแบรนด์ มีส่วน)............. ถ้ามีโอกาสซื้อปืนที่ชอบแล้วไม่โหล ............ผมซื้อไม่โหลก่อน ......... จากนั้น มีตังค์ค่อยซื้อปืนโหล เพราะปืนโหลมีตังค์เมื่อไหร่ ก็ซื้อได้................
-ข้อนี้ไปพ้องกับข้อ 1. เมื่อถึงเวลาเราไปแล้ว ลูกชายได้รับโอนปืนจากเรา ก็เป็นปืนที่อาจจะไม่โหลในสมัยนั้น................ ปะเหมาะเคราะห์ดี เป็น Limited ในสมัยนั้นไปเลย ถ้าลูกเราเอาไปขายกิน ก็ได้ราคา...................อันนี้มองง่ายๆ ที่เคยเห็นกันคือ ลูกเอาปืนเก่าพ่อมาขาย ระหว่าง สมิท M10 กับ Colt Detective ..........ตอนที่เข้ามาใหม่ๆ ราคา 800-1500 บาท พอๆกัน ..........แล้วเอามาขายตอนนี้ในสภาพเดียวกัน จะเห็นว่ากระบอกไหนได้ราคา................
3. เลือกจากการใช้งาน ข้อนี้อาจได้เปรียบคนอื่นเพราะ เคยยิงมาหมดแล้วแทบทุกแบบที่สวัสดิการมีมาขาย ..............ผมมองที่การใช้งานที่ปลอดภัยทั้งต่อตัวเองและคนรอบข้าง (ความเห็นส่วนตัว ที่กลัวไว้ก่อน แขนขาจึงอยู่ครบมาจนเดี๋ยวนี้).........................
4. เลือกขั้นสุดท้าย คือการเปรียบเทียบวัสดุ ที่นำมาผลิตเป็นชิ้นส่วนของตัวปืน จากโรงงาน เพื่อที่เราจะไม่ต้องไปหาของแต่งที่ดีกว่ามาใส่ให้เปลืองเงินอีก.............ประเภทศูนย์หลังทำด้วยพลาสติคนี่ ก็ไปไกลๆเลย ทำปืนดีมาทั้งกระบอก ศูนย์หลังทำเป็นโลหะไม่ได้หรือไง อะไรแบบนี้ ....................เนื้อวัสดุก็มีส่วน ทั้งเนื้อเหล้ก การทำผิว ..............เนื้อโพลิเมอร์(กรณีปืนเป็นโครงโพลิเมอร์) ว่า ความเนียน ความละเอียด ความแข็งแรง ลักษณะการเรียงตัวของเนื้อโพลิเมอร์นั้น ต่างกันหรือเหนือกว่ากันอย่างไร?...................สุดท้าย ใส่ความชอบส่วนตัวลงไปว่า "สวย" ในสายตาหรือไม่ ...................ตัวผมเอง ชอบปืนสวย(ใครๆก็ชอบ) ทรงสากกระเบือทื่อๆ ผมไม่ชอบครับ...............
ลองนำไปเป็นข้อคิดดูก็ยินดีนะครับ...............
อ้อ................อีกประการหนึ่ง ถ้ามีโอกาสซื้อปืนที่ราคาสูงกว่า สวยกว่า พิถีพิถันกว่า โดยจ่ายเพิ่มอีกไม่มาก .............ก็น่าพิจารณานะครับ
เรื่องยิงได้ดีได้แม่น เคี้ยวไม่เลือก ระบบเจ๋ง .............. ผมว่าพอกัน