๏ฟฝ๏ฟฝ็บบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝสน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาปืน
เมษายน 20, 2024, 06:47:44 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 2 3 [4] 5
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: คอมพิวเตอร์ที่ราคาโดนใจที่สุด  (อ่าน 19315 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
นายขม รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 99
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1376


ที่ว่างปลายปากกระบอกปืน


« ตอบ #45 เมื่อ: เมษายน 26, 2008, 10:07:57 PM »

http://www1.ap.dell.com/content/products/features.aspx/notebooks_better?c=my&cs=mydhs1&l=en&s=dhs#connect

Recommend Dell too. It is very realiable, worth to pay and garrantee no trial software.


 I bought Acer 6429 last year. It's so slow when startup and loading internet (me be because of Vista), screen have more reflex than other and very warm when use for longtime. The Pro. is cheap when compare to other and you get full features i.e. BT, camera, DVD multi-burner, bundles of software.

The best one I ever used is Fujitsu, look nice, realiable, lot of features but expensive (company provided, however)  คิก คิก
บันทึกการเข้า

ผมจ่ายภาษีให้มาดูแลรักษาบ้านเมือง ไม่ใช่ให้มายืนดูคนเผาบ้านเผาเมือง
แมวบ้า(น)
Sky is the limit, so do with it what you can
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 84
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 15900


เช้าไดร์ฟ บ่ายชิพท์ เย็นพัตท์ สักวันเราจะเป็นโปร


« ตอบ #46 เมื่อ: เมษายน 27, 2008, 01:21:26 AM »

Smiley สำหรับเดสท๊อปจะเป็น AMD Phenom
- 4 คอร์ของแท้ไม่ใช่ 2+2 แบบ Intel Core 2 Quad
- ซอกเก็ตแบบใหม่ AM2+
- 64 บิตขนานแท้ ที่สามารถประมวลผลได้ทั้ง 64 และ 32 บิต
- ใช้ระบบการเชื่อมต่อแบบ Direct Connect ระหว่างซีพียู หมดปัญหาคอขวด
- มีระบบ L3 แคช
- DDR2 Memory Controller, HyperTransport และ 128-bit Floating Point Units เพื่อสมรรถนะและความเร็วในการประมวลผลเลขทศนิยม
- ระบบประหยัดพลังงานอันเยี่ยมยอด



AMD Phenom
- สายตระกูลของ Phenom ก็จะมี 3 แบบคือ FX สำหรับผู้ใช้ระดับเทพหน่อย แบบแรงสุดโต่ง Phenom X4 แบบ 4 คอร์ และ Phenom X2 ก็เป็นแบบ 2 คอร์ครับ



- Phenom นั้นไม่เพียงแค่เป็นซีพียูแบบ 4 คอร์แท้แล้ว แต่ก็ยังมาพร้อมกับสถาปัตยกรรมใหม่อย่างเช่น SSE4, L3 แคช และเพิ่มความเร็วของระบบ HyperTransport นอกจากนี้ยังได้รับการยกเครื่องระบบ Virtualisation อีกด้วย

- สายการผลิตของซีพียูตระกูลนี้จะเป็น 65 นาโนเมตรครับ AMD ซีพียูตระกูลนี้จะไม่กินไฟเกินกว่า 95 วัตต์อย่างแน่นอน และอีกไม่นานก็จะมีรุ่นที่ประหยัดพลังงานกว่านี้ตามมาอีก

- ความแตกต่างระหว่าง 4 คอร์ของแท้กับ 2 คอร์คู่
ในขณะที่ Intel ใช้วิธี 2 คอร์สองตัวมาใส่ในเดียวกันแล้วเรียกมันว่า Quad Core จริงๆก็ไม่ผิด แต่ว่าประสิทธิภาพที่ได้นี่สิ มันจะใช่ 4 คอร์จริงๆ ปัญหามันอยู่ตรงนี้ครับ ตรงที่ซีพียูแบบ 2 คอร์นั้นแต่ละคู่จะเชื่อมกันแบบปกติ แต่ระหว่างคู่ทั้งสองจะใช้ Front side bus เป็นตัวสื่อสารระหว่างกันแทน ซึ่งวิธีการแบบนี้ทำให้เกิดปัญหาคอขวดอย่างแรง!!!!



ระบบ SSE แบบ 128 บิต พร้อมระบบคำนวณเลขทศนิยมแบบ 36 บิต เฉพาะ
AMD อัพเดตระบบ SSE ให้สามารถประมวลผลได้แบบ 128 บิต แคช L1 นั้นก็ได้ถูกอัพเกรดไปเป็น 128 บิตเพื่อให้ควรคู่กับ L2 เช่นเดียวกัน ในขณะที่ Quad Core ของอินเทลนั้นแค่ 64 บิตเท่านั้นเอง นั่นหมายความว่า  AMD สามารถทำงานได้เร็วกว่า Intel ถึง 2 เท่าสัญญาณนาฬิกาเมื่อเทียบกันเลยทีเดียว

- นอกจากนี้ระบบคำนวณเลขทศนิยมก็ได้รับการอัพเดตให้สามารถคำนวณได้ถึง 36 บิต ในขณะที่ (อีกแล้ว) ของ Intel นั้นยังคงมีแค่ 32 บิตแบบแชร์กันระหว่างจำนวนเต็มและเลขทศนิยม

- ระบบ SSE4 ใน Phenom นั้นได้รับการอัพเกรดเช่นเดียวกับ Penryn ของ Intel ซึ่งระบบนี้ได้รับการสนับสนุนจาก Divx เวอร์ชั่น 6.22 อีกด้วย



ขอบพระคุณครับพี่วัฒน์  ไหว้ หลงรัก ทำเอาผมตัดสินใจยากอีกแล้ววววววววว
บันทึกการเข้า

CrazyCat CrazyGlock CrazyDog ^v^
แมว 084-128-9257

V for Vendetta
Akira
Full Member
***

คะแนน 41
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 359


กิ๊ว.....กิ๊ว....


« ตอบ #47 เมื่อ: เมษายน 27, 2008, 01:34:44 AM »

ไม่มีใครเชียร์ Toshiba เลยเหรอ  โดยส่วนตัวผมว่าดีนะ  บริการหลังการขายก็เยี่ยม
บันทึกการเข้า

โจ ™
สมาชิกลำดับที่: 41
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 220
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8187



« ตอบ #48 เมื่อ: เมษายน 27, 2008, 07:30:41 AM »

ส่วนตัวผมใช้ acer ใช้มาครบ 2 ปีแล้ว ยังไม่มีปัญหาเรื่องเคลม มีแต่ไวรัส ที่ลงโปรแกรมใหม่ 4 รอบครับ
บันทึกการเข้า

ดอนเมือง​1
J
Sr. Member
****

คะแนน 185
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 834



« ตอบ #49 เมื่อ: เมษายน 27, 2008, 08:23:51 AM »

ขอบคุณพี่ป้อมที่ช่วยเปิดประเด็นเพราะกำลังจะซื้อพอดี  ไหว้
ความรู้เรื่องคอมพ์ผมหยุดไปเมื่อ4-5ปีก่อนแล้วครับ Embarrassed รบกวนขอความรู้ด้วยครับ(ขออนุญาตพี่ป้อมครับ)
1. L cacheนี่มันมีส่วนสำคัญอย่างไรครับ
2..แล้วการใช้งานปกติของชาวบ้านที่ไม่ได้ทำงานเกี่ยวข้องกับคอมพ์มากนัก แค่เล่นเนตกับเกมส์ไม่หรูหรานักการเลือกCPU ควรเลือกอย่างน้อยDUO CORE กี่GHZ และ L cacheเท่าไรครับ ไหว้
บันทึกการเข้า
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #50 เมื่อ: เมษายน 27, 2008, 08:27:54 AM »

ส่วนตัวผมใช้ acer ใช้มาครบ 2 ปีแล้ว ยังไม่มีปัญหาเรื่องเคลม มีแต่ไวรัส ที่ลงโปรแกรมใหม่ 4 รอบครับ

     ก็ขาประจำเวปนั้นนี่ครับน้าพลายงาม ........ ชอบนักแรง

บันทึกการเข้า

                
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #51 เมื่อ: เมษายน 27, 2008, 09:38:25 AM »

นายสมชายใช้ Note Book มาตลอดร่วม 20 ปีมาแล้วครับ หากไม่จำเป็นจริงๆ จะไม่ใช้ Desk top เลย... เพราะใช้ Desk top แล้วความคิดไม่แล่น แปลกแต่จริงครับ... โดยจะใช้ Desk top เฉพาะต้องการพลังประมวลผลสูงๆ เช่นวิเคราะห์หุ้นฯ ก็จะใช้ Desktop ที่เป็น Q6600 เป็น Core2 Quad แรม 2 Gb ครับ...

เมื่อก่อนใช้ Texas Instrument แล้วเขาเลิกทำ โดย Acer ซื้อแบรนด์ไป นายสมชายก็เปลี่ยนมาใช้ Toshiba แล้ว Toshiba ราคาแรงมากช่วงก่อนหน้านี้... ก็เปลี่ยนมาใช้ Compaq ตัวปัจจุบันที่กำลังนั่งพิมพ์อยู่นี่ครับ... เป็น Pentium M รันที่ 1.5 Mhz เท่านั้นเอง... แต่ประมวลผลเร็วมาก วิเคราะห์หุ้นได้เร็วกว่าพวก PD820 ที่เป็น Pentium4 สองแกนประมวลผลเสียอีก...

หากนายสมชายจะซื้อเครื่อง Note Book ใหม่ในวันนี้จะมองหาโตชิบ้าครับ... ราคาสองหมื่นกว่าก็ใช้ได้แล้ว ไม่เหมือนเมื่อสามปีที่ผ่านมาตั้งเกือบแสน... หรือจะเอา Compaq ก้ไม่เลว อย่างน้อยนายสมชายใช้งานมาได้สามปียังไม่เคยมีอะไรเสียเลยครับ... นายสมชายใช้หนักมาก เพราะชีวิตนายสมชายคือคอมพิวเตอร์ครับ เปิดทุกวันไม่วันหยุดไม่ต่ำกว่า 8 ชั่วโมง...

วันนี้หากจะซื้อ... แนะนำ Core 2 Duo จะอยู่ในชื่อ Celleron ก็ได้ แต่ AMD นี่นายสมชายไม่คุ้นครับ...
บันทึกการเข้า
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #52 เมื่อ: เมษายน 27, 2008, 09:45:53 AM »

อ้อ... เมียนายสมชายใช้ Dell ครับ เป็น Latitude D620 คอร์ทูดูโอ แรม 2 กิ๊ก... ใช้พวก Word กับ Excel ไม่เห็นเร็วแตกต่างจาก Pentium M คอร์เดียวของนายสมชายเท่าไหร่ครับ... ไม่เหมือน Q6600 บนเดสก์ท็อปที่แค่คลิกโน่นนี่ก็เห็นความแตกต่างครับ... 
บันทึกการเข้า
sopon7
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 139
ออฟไลน์

กระทู้: 1095


« ตอบ #53 เมื่อ: เมษายน 27, 2008, 11:06:25 AM »

 -  ผมจะซื้อให้ลูกหลังเปิดเทอมเหมือนกัน อ่านทุกกระทู้แล้วยังตันสินใจไม่ได้เลย เพราะผมไม่มีความรู้เลยเรื่อง Note Book 
 -  ลูกจะใช้งานค้นหาข้อมูล และเล่นเกมส์    คุยกับลูกไว้ว่าจะให้ซื้อในวงเงิน 25,000 บาท 
        ช่วยแนะนำด้วย ครับ  ไหว้
บันทึกการเข้า
tube
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #54 เมื่อ: เมษายน 27, 2008, 12:42:48 PM »

-  ผมจะซื้อให้ลูกหลังเปิดเทอมเหมือนกัน อ่านทุกกระทู้แล้วยังตันสินใจไม่ได้เลย เพราะผมไม่มีความรู้เลยเรื่อง Note Book 
 -  ลูกจะใช้งานค้นหาข้อมูล และเล่นเกมส์    คุยกับลูกไว้ว่าจะให้ซื้อในวงเงิน 25,000 บาท 
        ช่วยแนะนำด้วย ครับ  ไหว้
โตชิบา นำสิ่งที่ดีสู่ชีวิต
บันทึกการเข้า
jakrit97 - รักในหลวง -
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 164
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5464


Dead boy can't shoot!


« ตอบ #55 เมื่อ: เมษายน 27, 2008, 07:14:26 PM »

ขอบคุณพี่ป้อมที่ช่วยเปิดประเด็นเพราะกำลังจะซื้อพอดี  ไหว้
ความรู้เรื่องคอมพ์ผมหยุดไปเมื่อ4-5ปีก่อนแล้วครับ Embarrassed รบกวนขอความรู้ด้วยครับ(ขออนุญาตพี่ป้อมครับ)
1. L cacheนี่มันมีส่วนสำคัญอย่างไรครับ
2..แล้วการใช้งานปกติของชาวบ้านที่ไม่ได้ทำงานเกี่ยวข้องกับคอมพ์มากนัก แค่เล่นเนตกับเกมส์ไม่หรูหรานักการเลือกCPU ควรเลือกอย่างน้อยDUO CORE กี่GHZ และ L cacheเท่าไรครับ ไหว้

ขอเล่าเท่าที่จำได้ครับ

๑. L? Cache .... ยุคหนึ่งผมจำนิยามของ Cache ว่าเป็น Smart Buffer .... Buffer ในคอมฯก็คือ memory จำนวนหนึ่ง ที่เป็นที่เก็บข้อมูลชั่วคราว เหมือนคิวคนซื้อตั๋วหนังครับ (มาก่อน ออกก่อน) วัตถุประสงค์หลักคือช่วยในการผสานการทำงานระหว่างอุปกรณ์ที่ความเร็วต่างกันครับ .... ท่านเคยพิมพ์เวิร์ดเร็ว ๆ แล้วมันขึ้นบนจอทีหลังไหมครับ ... นั่นล่ะ ข้อมูลมันไปเที่ยวใน Buffer มา ... อุปกรณ์เกือบทุกชิ้นจะมี Buffer มาแล้วครับ ...

ต่อมาเมื่อ CPU วิ่งเร็วกว่า RAM มากขึ้น ๆ ก็มีความคิดจะเอาบัฟเฟอร์มาใช้ในการติดต่อระหว่าง CPU กับ RAM ครับ .... แต่ไหน ๆ เทคนิคก็พัฒนามากแล้ว การจะเพิ่มบัฟเฟอร์ไม่ฉลาดเข้าไป คงเสียดายเวลาวิจัย .... ดังนั้นจึงมีการสร้างวงจรที่ช่วยในการทำงานของ Buffer ให้ฉลาดมากกว่าการเข้าคิว ... คือถ้าเป็นข้อมูลที่มีใน Buffer อยู่แล้ว ก็จะนำข้อมูลนั้นมาใช้งานเลย ไม่ต้องไปโหลดจาก Memory หลักอีก ... ซึ่งทำให้การทำงานของคอมพิวเตอร์โดยรวมลื่นขึ้น  .... เรียกว่า Cache

ส่วน L? เท่าที่ผ่านมาใน PC จะเป็น L1 , L2 , L3 ครับ ... โดยในยุคแรก ๆ L1 จะเป็น Cache ที่อยู่ในตัว CPU เลย และในเมนบอร์ด ก็จะมี Cache อีก เรียกเป็น L2 ... ต่อมา AMD K6 นำ L2 Cache ผนวกเข้า CPU เลย ทำให้ Cache บนเมนบอร์ดกลายเป็น L3 ไป

ดังนั้น L1 จึงเป็น Cache ที่อยู่ในวงจรของ CPU เลย ส่วน L2 จะเป็น Cache ที่เพิ่มปะเข้าไป .... ทำให้ L2 Cache มีได้หลายขนาดความจุครับ

ความเร็วในการทำงานของ L1 จะมากกว่า L2 และมากกว่า L3 .... คือความเร็วจะลดหลั่นลงไปจนถึงความเร็วของ RAM ครับ .... ดังนั้น ยุคหลัง ๆ  RAM เร็วขึ้นมาก ดังนั้นการมี Cache บนเมนบอร์ดจึงไม่มีให้เห็นอีก ... จะมีก็แต่ L1 และ L2 ที่ทำมาบน CPU เลย

เท่าที่เห็น Cache ที่ใช้โฆษณา จะเป็น L2 เพราะเลขมันเยอะดี ....

Cache มากหรือน้อยดีกว่ากัน .... ถ้าเป็น CPU คนละแกน (คนละวงจร) จะมาเทียบกันไม่ได้ครับ .... ก็เหมือนเครื่องยนต์รถที่จะมาเอาปริมาตรห้องไอดี มาคุยทับกันว่าใครแรงกว่ากันไม่ได้ครับ .... ส่วนถ้าเป็นแกนเดียวกัน ผมก็เห็นว่าเทียบกันยากอยู่ดี เพราะถ้าวงจรควบคุมไม่สามารถหาประโยชน์จาก Cache ที่เพิ่มขึ้นได้ ก็จะไม่เห็นประโยชน์ชัดเจน

สรุปว่ามีแคชดีแน่ครับ ใน cPU ยี่ห้อเดียวกัน รุ่นเดียวกัน แคชมากแพงกว่าแคชน้อย และคนขายก็จะโม้ว่าดีกว่า ..... ซึ่งผมไม่ค่อยเชื่อ

ถ้าท่านแย้งเรื่อง Core2 กับ Celeron แกนเดียวกัน .... Core2 มันแคชมากกว่า Celeron แน่ครับ (เพราะ Celeron เป็นรุ่นราคาประหยัด) .... Core2 ก็แรงกว่าเห็น ๆ .... แต่ผมขอให้ดูด้วยว่า Celeron มันใช้ Front Side Bus ต่ำกว่าตั้งเยอะครับ ....

สรุปอีกครั้ง .... ไม่ต้องสนใจมากก็ได้ครับ  ขำก๊าก

 
๒. เลือกคอมฯ ผมเลือกตามงาน และต่อด้วยงบครับ .... ใช้งานโปรแกรม office กับเล่นเน็ต เครื่องต่ำ ๆ ก็เล่นได้แล้วครับ ..... เพียงแต่ต้องเลือกเครื่องให้เหมาะกับ Windows ครับ ....

ถ้า Windows Vista เห็นเขาว่า ๑.๕ กิ๊กกะเฮิร์ซ ขึ้นไป แรม ๑ กิ๊กกะไบต์ขึ้นไป .... แต่ผมว่าต้อง cPU ๒ กิ๊ก และแรม ๒ กิ๊ก ครับ
ถ้าเป็น Windows XP ก็ใช้สะเปคต่ำข้างบน เป็นสเปคแนะนำได้เลยครับ

บันทึกการเข้า

jakrit97 - รักในหลวง -
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 164
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5464


Dead boy can't shoot!


« ตอบ #56 เมื่อ: เมษายน 27, 2008, 07:20:33 PM »

เคล็ดลับความแรงของคอมพิวเตอร์มีอีกเรื่องหนึ่งครับ ..... คือการ์ดจอครับ ....

ใน CPU เท่า ๆ กัน การที่เรามีการ์ดจอดี ๆ แรงสุดกู่ จะทำให้คนใช้รู้สึกว่าเครื่องเร็วขึ้นครับ

สำหรับ notebook ส่วนใหญ่ จะมีการ์ดจอ on-board ซึ่งไม่ใช่ว่าไม่ดี แต่ดีไม่เท่าการ์ดจอแยกเท่านั้นเอง ....

และไม่ว่าจะเป็นการ์ดของ ATI หรือ Nvidia เลขซีรีย์ที่สูงกว่า ก็มักจะดีกว่าเลขซีรีย์ที่ต่ำกว่าครับ ...

คนชอบเล่นเกมส์ที่ต้องการการ์ดแรงมาก ๆ มักจะนิยม Nvidia ครับ .... เพราะชอบโม้ว่าทำรูปสามเหลี่ยม (ใช้ใน 3D) ได้มากสุด ๆ .... แต่สำหรับคนชอบดูหนัง และชอบเล่นเกมส์ที่ต้องสวยเป็นสำคัญ มักจะชอบ ATI มากกว่า ...เพราะภาพงามกว่ากัน

ส่วนยี่ห้ออื่นนอกจากนี้ ... ก็จัดให้เป็นแค่ระดับการใช้งานทั่วไปครับ Grin Grin Grin
บันทึกการเข้า

J
Sr. Member
****

คะแนน 185
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 834



« ตอบ #57 เมื่อ: เมษายน 27, 2008, 08:18:53 PM »

ขอบคุณพี่ป้อมที่ช่วยเปิดประเด็นเพราะกำลังจะซื้อพอดี  ไหว้
ความรู้เรื่องคอมพ์ผมหยุดไปเมื่อ4-5ปีก่อนแล้วครับ Embarrassed รบกวนขอความรู้ด้วยครับ(ขออนุญาตพี่ป้อมครับ)
1. L cacheนี่มันมีส่วนสำคัญอย่างไรครับ
2..แล้วการใช้งานปกติของชาวบ้านที่ไม่ได้ทำงานเกี่ยวข้องกับคอมพ์มากนัก แค่เล่นเนตกับเกมส์ไม่หรูหรานักการเลือกCPU ควรเลือกอย่างน้อยDUO CORE กี่GHZ และ L cacheเท่าไรครับ ไหว้

ขอเล่าเท่าที่จำได้ครับ

๑. L? Cache .... ยุคหนึ่งผมจำนิยามของ Cache ว่าเป็น Smart Buffer .... Buffer ในคอมฯก็คือ memory จำนวนหนึ่ง ที่เป็นที่เก็บข้อมูลชั่วคราว เหมือนคิวคนซื้อตั๋วหนังครับ (มาก่อน ออกก่อน) วัตถุประสงค์หลักคือช่วยในการผสานการทำงานระหว่างอุปกรณ์ที่ความเร็วต่างกันครับ .... ท่านเคยพิมพ์เวิร์ดเร็ว ๆ แล้วมันขึ้นบนจอทีหลังไหมครับ ... นั่นล่ะ ข้อมูลมันไปเที่ยวใน Buffer มา ... อุปกรณ์เกือบทุกชิ้นจะมี Buffer มาแล้วครับ ...

ต่อมาเมื่อ CPU วิ่งเร็วกว่า RAM มากขึ้น ๆ ก็มีความคิดจะเอาบัฟเฟอร์มาใช้ในการติดต่อระหว่าง CPU กับ RAM ครับ .... แต่ไหน ๆ เทคนิคก็พัฒนามากแล้ว การจะเพิ่มบัฟเฟอร์ไม่ฉลาดเข้าไป คงเสียดายเวลาวิจัย .... ดังนั้นจึงมีการสร้างวงจรที่ช่วยในการทำงานของ Buffer ให้ฉลาดมากกว่าการเข้าคิว ... คือถ้าเป็นข้อมูลที่มีใน Buffer อยู่แล้ว ก็จะนำข้อมูลนั้นมาใช้งานเลย ไม่ต้องไปโหลดจาก Memory หลักอีก ... ซึ่งทำให้การทำงานของคอมพิวเตอร์โดยรวมลื่นขึ้น  .... เรียกว่า Cache

ส่วน L? เท่าที่ผ่านมาใน PC จะเป็น L1 , L2 , L3 ครับ ... โดยในยุคแรก ๆ L1 จะเป็น Cache ที่อยู่ในตัว CPU เลย และในเมนบอร์ด ก็จะมี Cache อีก เรียกเป็น L2 ... ต่อมา AMD K6 นำ L2 Cache ผนวกเข้า CPU เลย ทำให้ Cache บนเมนบอร์ดกลายเป็น L3 ไป

ดังนั้น L1 จึงเป็น Cache ที่อยู่ในวงจรของ CPU เลย ส่วน L2 จะเป็น Cache ที่เพิ่มปะเข้าไป .... ทำให้ L2 Cache มีได้หลายขนาดความจุครับ

ความเร็วในการทำงานของ L1 จะมากกว่า L2 และมากกว่า L3 .... คือความเร็วจะลดหลั่นลงไปจนถึงความเร็วของ RAM ครับ .... ดังนั้น ยุคหลัง ๆ  RAM เร็วขึ้นมาก ดังนั้นการมี Cache บนเมนบอร์ดจึงไม่มีให้เห็นอีก ... จะมีก็แต่ L1 และ L2 ที่ทำมาบน CPU เลย

เท่าที่เห็น Cache ที่ใช้โฆษณา จะเป็น L2 เพราะเลขมันเยอะดี ....

Cache มากหรือน้อยดีกว่ากัน .... ถ้าเป็น CPU คนละแกน (คนละวงจร) จะมาเทียบกันไม่ได้ครับ .... ก็เหมือนเครื่องยนต์รถที่จะมาเอาปริมาตรห้องไอดี มาคุยทับกันว่าใครแรงกว่ากันไม่ได้ครับ .... ส่วนถ้าเป็นแกนเดียวกัน ผมก็เห็นว่าเทียบกันยากอยู่ดี เพราะถ้าวงจรควบคุมไม่สามารถหาประโยชน์จาก Cache ที่เพิ่มขึ้นได้ ก็จะไม่เห็นประโยชน์ชัดเจน

สรุปว่ามีแคชดีแน่ครับ ใน cPU ยี่ห้อเดียวกัน รุ่นเดียวกัน แคชมากแพงกว่าแคชน้อย และคนขายก็จะโม้ว่าดีกว่า ..... ซึ่งผมไม่ค่อยเชื่อ

ถ้าท่านแย้งเรื่อง Core2 กับ Celeron แกนเดียวกัน .... Core2 มันแคชมากกว่า Celeron แน่ครับ (เพราะ Celeron เป็นรุ่นราคาประหยัด) .... Core2 ก็แรงกว่าเห็น ๆ .... แต่ผมขอให้ดูด้วยว่า Celeron มันใช้ Front Side Bus ต่ำกว่าตั้งเยอะครับ ....

สรุปอีกครั้ง .... ไม่ต้องสนใจมากก็ได้ครับ  ขำก๊าก

 
๒. เลือกคอมฯ ผมเลือกตามงาน และต่อด้วยงบครับ .... ใช้งานโปรแกรม office กับเล่นเน็ต เครื่องต่ำ ๆ ก็เล่นได้แล้วครับ ..... เพียงแต่ต้องเลือกเครื่องให้เหมาะกับ Windows ครับ ....

ถ้า Windows Vista เห็นเขาว่า ๑.๕ กิ๊กกะเฮิร์ซ ขึ้นไป แรม ๑ กิ๊กกะไบต์ขึ้นไป .... แต่ผมว่าต้อง cPU ๒ กิ๊ก และแรม ๒ กิ๊ก ครับ
ถ้าเป็น Windows XP ก็ใช้สะเปคต่ำข้างบน เป็นสเปคแนะนำได้เลยครับ


ไหว้ขอบพระคุณยิ่งครับที่พยายามอธิบายให้ผมเข้าใจ แต่ด้วยสติปัญญาและพื้นฐานความรู้ทางไอทีของผม หัวเราะร่าน้ำตาริน เข้าใจตอนประโยคสรุปนี่แหละครับ คิก คิก งานของผมใช้คอมพ์ระดับกระจอกงอกง่อยครับ เกมส์ก็กระจอก เอาเป็นว่ามีcacheก็พอ
ส่วนข้อ2นี่ ผมสบายใจขึ้นเยอะเลยครับจะได้มองหาง่ายขึ้น ไหว้
บันทึกการเข้า
โจ ™
สมาชิกลำดับที่: 41
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 220
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8187



« ตอบ #58 เมื่อ: เมษายน 27, 2008, 08:24:15 PM »

ส่วนตัวผมใช้ acer ใช้มาครบ 2 ปีแล้ว ยังไม่มีปัญหาเรื่องเคลม มีแต่ไวรัส ที่ลงโปรแกรมใหม่ 4 รอบครับ

     ก็ขาประจำเวปนั้นนี่ครับน้าพลายงาม ........ ชอบนักแรง



เติ้นก็เหมือนกันแหละ เข้าไปทีไร ก็เห็นแต่เติ้นออนอยู่กันนิ อิอิ
บันทึกการเข้า

ดอนเมือง​1
วัฒน์
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4114
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17223


เนรเทศยกโคตรดีกว่านิรโทษยกเข่ง


เว็บไซต์
« ตอบ #59 เมื่อ: เมษายน 28, 2008, 10:59:58 AM »

เล่นnotebook ใส่ Ram อย่างตำ 2G ครับ ส่วนมากให้มา512 ด้วยความเสียดายRam เก่าที่ต้องถอดออกก็เพิ่มอีก512
พอใช้งานไปสักพักใหญ่เราก็เพิ่มprogram หลายอย่างเข้าไปupdate อะไรไปเรื่อย เครื่องเริ่มอืด ตอนนี้แหละครับคิดเสียดาย
ที่ไม่เพิ่มRam 2G แต่แรก คราวนี้แทนที่จะมี Ram512 spare ไว้ 1ตัวกลับต้องมีเป็น2ตัว


 Smiley ครับ ตอนนี้ราคาแรมถูกลงมาก ใส่เยอะไว้จะได้ไม่เสียช่องใส่ (โน๊ตบุ๊คมีข้อด้อยกว่าพีซีตรงช่องใส่แรมน้อย)

- แรมนั้นเป็นส่วนสำคัญ เนื่องจากว่า ระบบปฏิบัติการ (เช่นพวก Window XP, Linux, OS X) นั้นจะมีส่วนประกอบนึงที่เรียกว่า Virtual Memory Manager (VMM) เมื่อทำการเปิดโปรแกรมใดๆ อย่างเช่น Word Processor หรือ Internet browser หน่วยประมวลผล (CPU) ในโน๊ตบุคก็จะดึง Executable File (ไฟล์ที่สามารประมวลผลได้ พวกไฟล์ที่มีนานสกุล .EXE หรือ .COM) จากฮาร์ดดิสนำมาเก็บไว้ในแรม ในกรณีที่โปรแกรมมีขนาดใหญ่ อย่างเช่น Microsoft Word หรือ Excel ไฟล์ .exe นั้นจะกินเนื้อที่ประมาณ 30MB แต่ไม่ใช่เท่านี้ CPU ยังดึงไฟล์ของการประมวลผลที่เกี่ยวข้องขึ้นมาด้วย (พวกไฟล์ .DLL) โดยไฟล์ .DLL พวกนี้จะมีขนาดรวมแล้วประมาณ 20 – 30 MB เลยทีเดียว ต่อมา CPU จะทำการดึงไฟล์ที่เราต้องการจะดู (เช่น งานที่เราเคยพิมพ์เอาไว้แล้วต้องการเปิดมาแก้ไข หรือดู) ซึ่งก็สามารถมีขนาดได้อีกหลาย MB เช่นเดียวกัน ถ้าเราเปิดดูหลายๆไฟล์ หรืองานเอกสารที่เต็มไปด้วยภาพกราฟฟิค ดังนั้นการเปิดโปรแกรมที่มีการใช้งานทั่วๆไปนั้นก็จะกินเนื้อที่แรมระหว่าง 50 -80MB

- นอกจากโปรแกรมพวกนี้แล้ว ตัว OS เอง ก็จะมีการเปิดโปรแกรม ต่างๆไว้ทำงานเบื้องหลังอีกเป็นจำนวนมาก โดยรวมแล้วการเปิดใช้ทำงานแต่ละครั้ง จะกินแรมประมาณ 600 – 700 MB เข้าไปแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าสำหรับเครื่องที่มีแรมประมาณ 512MB นั้นย่อมไม่ดีแน่ๆ

- หลายๆ คนอาจสงสัยว่า ก็ในเมื่อโปรแกรมต่างๆนั้น เมื่อเปิดใช้งานจะถูกดึงจากฮาร์ดดิสมาเก็บไว้ในแรมทั้งหมด แล้วทำไมเราสามารถใช้เนื้อที่เกินจากเนื้อที่แรมของเราได้หล่ะ? ก้อเพราะว่าตัว VMM นี้จะทำการนำข้อมูลส่วนที่ยังไม่ต้องใช้ในตอนนั้น ไปเก็บไว้ในที่ที่เรียกว่า Swap File ในฮาร์ดดิส ยกตัวอย่างเช่น โปรแกรมดูอีเมลล์ที่กำลังเปิดอยู่ แต่ไม่ได้เรียกหน้าจอขึ้นมาใช้งานแล้วกว่า 45นาที ดังนั้นตัว VMM ก้จะย้ายข้อมูลทุกอย่างที่เกี่ยวกับโปรแกรมดูอีเมลล์ของผม (ตัว .EXE ,.DLL) ไปไว้ในฮาร์ดดิส เรียกโปรแกรมที่ถูกย้ายไปว่า Swapping out Program ดังนั้นพอครั้งต่อไปที่เรียกหน้าโปรแกรมอีเมลล์ขึ้นมา ตัว VMM ก็จะไปทำการ Swap in ข้อมูลของโปรแกรมนี้ทั้งหมดจากฮาร์ดดิส ด้วยเหตุที่ว่าฮาร์ดดิสนั้นทำงานช้ามากๆ เมื่อเทียบกับความเร็วของแรม การทำ Swapping ดังกล่าวนี้ จะสามารถทำให้ผู้ใช้รู้สึกถึงการดีเลย์ของโปรแกรมได้

- ถ้าเรามีขนาดแรมที่เล็กมากๆ (ซักประมาณ 256MB) ตัว VMM ก็จะทำการ Swapping ข้อมูลระหว่างแรม และฮาร์ดดิสบ่อยๆ สำหรับการทำงานเช่นนี้จะรู้สึกเหมือนโน๊ตบุคของเราทำงานช้ามากๆ แต่ถ้าได้เพิ่มแรมเข้าไปให้โน๊ตบุค ก็จะช่วยเพิ่มพื้นที่ที่เราจะสามารถทำการเก็บไฟล์ไว้ในแรมอย่างเดียวได้โดยไม่จำเป็นต้องทำการ Swap ไฟล์ไปเก็บไว้ในฮาร์ดดิสอีกเลย แต่ถ้าเพิ่มแรมจนมากกว่าจุดที่จำนวนข้อมูลทั้งหมดที่เราใช้งานแล้ว ก็จะไม่มีผลอะไรเพิ่มกับประสิทธิภาพของเครื่อง (ขนาดแรมมาตรฐานสำหรับโน๊ตบุคปัจจุบันคือ 1GB)
     
- บางโปรแกรม (เช่น Photoshop, Complier, Film Editing, animation editing, 3D drawing เป็นต้น) ต้องการแรมจำนวนมากในการใช้งาน ถ้าเราเปิดใช้งานโปรแกรมเหล่านี้ในเครื่องด้วยขนาดแรมที่น้อยเกินไป ข้อมูลก็จะถูก Swap ตลอดเวลา และจะทำงานได้ช้ามากๆ แต่สามารถเพิ่มความเร็วในการทำงานแบบง่ายๆ แค่การเพิ่มแรม จะเห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับตอนก่อนเพิ่ม และหลังเพิ่มแรมได้แน่นอน โปรแกรมเหล่านี้สามารถทำงานได้รวดเร็วขึ้นประมาณ 10 – 50 เท่าเมื่อมีขนาดแรมเพียงพอกับความต้องการ

- การเพิ่มแรมนั้นสามารถช่วยให้ประสิทธิภาพของเครื่องดีขึ้นได้จริง แต่จะเพิ่มได้จนถึงจุดๆหนึ่งเท่านั้นนะครับ ไม่ใช่แรมยิ่งมากเครื่องก็ยิ่งแรง เมื่อถึงจุดๆหนึ่งแล้วความเร็วจะถูกจำกัดไว้ที่จุดอื่นครับไม่เกี่ยวกับแรมแล้ว อีกประการหนึ่งตัวระบบปฏิบัติการก็มีข้อจำกัดเรื่องแรมด้วยนะครับ ฉะนั้นถ้าเป็นไปได้ซื้อโน๊ตบุ๊คครั้งแรกเลือกชนิดที่การ์จอแยกไว้ก่อนดีกว่าครับ
บันทึกการเข้า

ฟ้าและดินไม่เห็นไม่เป็นไร ไม่ได้หวังให้ใครจดจำ
แม้ยากเย็นแค่ไหน ไม่เคยบ่นสักคำ ไม่มีใครจดจำ แต่เราก็ยังภูมิใจ

จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา จะยอมรับโชคชะตาไม่ว่าดีร้าย
ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ถึงเวลาก็ต้องไป เหลือไว้แต่คุณงามความดี
หน้า: 1 2 3 [4] 5
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.181 วินาที กับ 22 คำสั่ง