๏ฟฝ๏ฟฝ็บบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝสน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาปืน
เมษายน 23, 2024, 11:33:49 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 2 [3]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: " อาจารย์ใหญ่ " ขาดแคลน แพทย์จุฬาฯชวนบริจาคด่วน  (อ่าน 9555 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
your-ประชาธิปไตย
Sr. Member
****

คะแนน 925
ออฟไลน์

กระทู้: 509


« ตอบ #30 เมื่อ: พฤษภาคม 31, 2009, 09:54:21 AM »

บริจาคไปแล้วครับ แต่ยังไม่ถึงชั่วโมงสอนสักที..55
บันทึกการเข้า

"ข้าพเจ้าต่อสู้เพื่อคุณธรรมที่อยู่ในใจของข้าพเจ้า ใครที่ขัดขวางคุณธรรมนั้น ไม่ว่าจะเป็นผู้ใด เราจะถือว่าเป็นศัตรู"
ประเทศไทย รวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย เป็นประชารัฐ...
BIGFISH
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 94
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1174


กระบี่หวั่นไหว คนใช้ไร้คม


« ตอบ #31 เมื่อ: พฤษภาคม 31, 2009, 10:54:09 AM »

ชอบสำนวนนี้จัง ยังไม่ถึงชั่วโมงสอน
เป็นอาจารย์หรือเปล่าครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 31, 2009, 11:27:24 AM โดย BIGFISH » บันทึกการเข้า

ดาบของชาติเล่มนี้   คือชีวิตเรา
ถึงจะคมอยู่ดี            ลับไว้
BIGFISH
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 94
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1174


กระบี่หวั่นไหว คนใช้ไร้คม


« ตอบ #32 เมื่อ: มิถุนายน 11, 2009, 05:03:15 PM »

กราบ...แทบเท้าอาจารย์ใหญ่ เบื้องหลังความสำเร็จของแพทย์



กลิ่นหอมของดอกมะลิ "อบอวล" ไปทั่วทั้งห้องปฏิบัติการกายวิภาคศาสตร์ อาคารแพทยพัฒน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภายในห้องมีร่างของ "อาจารย์ใหญ่" นอนทอดกายอยู่บนเตียงใต้ผ้าคลุมสีขาว 58 ท่าน

วันนี้...เป็นวันแรกที่ "อาจารย์" กับ "ลูกศิษย์" ได้พบกันเป็นครั้งแรก! ในพิธี "อาจาริยปูชา" ประจำปี 2552 โดยคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 เพื่อให้นิสิตแพทย์ชั้นปีที่ 2 ทั้งสิ้น 280 คน แสดงความเคารพและขอขมาอาจารย์ใหญ่ก่อนเริ่มการเรียนภาคปฏิบัติการมหกายวิภาคศาสตร์

พิธีเริ่มขึ้นตั้งแต่เช้า คณาจารย์ นิสิตแพทย์ชั้นปีที่ 2 และญาติของอาจารย์ใหญ่ทุกท่านร่วมกันทำบุญตักบาตรอุทิศส่วนกุศลให้แด่อาจารย์ใหญ่ จากนั้น เข้าสู่พิธีการขอขมา เหล่านิสิตต่างพนมมือขอขมากับร่างอาจารย์ใหญ่ พร้อมกล่าวคำปฏิญาณตนว่า "จะตั้งใจศึกษาอย่างเต็มความสามารถ เพื่อนำความรู้ไปพัฒนาตนให้เป็นแพทย์ผู้กอปรด้วยความรู้ คุณธรรม และจริยธรรม ทั้งจะปฏิบัติงานด้วยความเสียสละเพื่อผู้ป่วย และจะธำรงไว้ซึ่งเกียรติแห่งวิชา ชีพมิให้เสื่อมเสีย"

(ล่างสุด) ครอบครัวศิรินาม


เสียงปฏิญาณดังกึกก้อง!! ดุจดั่งจะให้อาจารย์ใหญ่ได้ยิน "คำมั่นสัญญา" ของพวกเขา

ณ ปลายเท้า...ของอาจารย์ใหญ่ทุกท่าน นิสิตทุกคนต่างพนมมือก้มกราบอธิษฐานขอฝากเนื้อฝากตัวเป็นลูกศิษย์ แล้วบรรจงวางพวงมาลัยดอกมะลิลงที่ปลายเท้าด้วยหัวใจเคารพยิ่ง

นับแต่นี้ไป อีก 365 วันข้างหน้า อาจารย์ใหญ่ 1 ท่านจะประสิทธิประสาทวิชาความรู้ให้กับลูกศิษย์ 6 คน และต่อไปอีก 4 ปี พวกเขาจะสำเร็จการศึกษาออกไปเป็นแพทย์ช่วยเหลือผู้อื่นอีกเป็นร้อยเป็นพันคน... 


หลังจากเสร็จสิ้นพิธีการ นายเจตน์ รัตนจีนะ นิสิตแพทย์ชั้นปีที่ 2 เผยความรู้สึกว่า พิธีวันนี้เกิดขึ้นจากความตั้งใจของทุกคนเพื่อระลึกถึงพระคุณของอาจารย์ใหญ่ พวกท่านเป็นผู้เสียสละอย่างแท้จริง เพราะวิชานี้เป็นวิชาพื้นฐานของแพทย์

"ตื่นเต้นครับ เป็นครั้งแรกที่ได้พบกับอาจารย์ใหญ่ อาจารย์ใหญ่ที่ผมจะศึกษาชื่อ นายเฉลิม ยังมี ตั้งแต่นี้ไป ผมจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด"

ด้านสาวว่าที่คุณหมอ น.ส.กมลมาศ เอกปัต เล่าว่า หลังจากกราบลงแทบเท้าอาจารย์ใหญ่ ความกลัวที่จะเรียนกับท่านก็หายไป เพราะได้แสดงความเคารพถูกต้องแล้ว

"อาจารย์ใหญ่ที่อุทิศร่างให้ศึกษา ชื่อนางสาวขจิตร์ ปุระศิริ อายุ 83 ปี จากการคุยกับญาติๆ ของคุณยาย จึงได้รู้ว่าท่านใจดีมาก และตั้งใจอุทิศร่างกายให้ศึกษา พวกเราจะตั้งใจเรียนไปเป็นหมอที่ดีให้สมกับความตั้งใจของคุณยายค่ะ"

ด้านครอบครัว "ศิรินาม" นางชลิดา อุทัยเฉลิม บุตรสาวของ พ.อ.ชลูด ศิรินาม ผู้อุทิศร่างเป็นอาจารย์ใหญ่ที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งตับ บอกว่า ตนและครอบครัวภูมิใจในตัวของบิดาที่ร่างของท่านสร้างประโยชน์ให้กับสังคมมหาศาล และขออนุโมทนาบุญด้วย

"ก่อนคุณพ่อจะเสียชีวิตได้แสดงความจำนงบริจาคร่างกายไว้เมื่อ 5 ปีก่อน ท่านบอกว่า ตอนยังมีลมหายใจท่านเป็นครูสอนทหาร ตอนสิ้นลมท่านอยากเป็นครูสอนนักเรียนแพทย์ ขอเชิญชวนให้แสดงความจำนงบริจาคร่างกาย เพื่อให้ร่างของท่านเป็นประโยชน์กับคนรุ่นหลังต่อไป"

ขอคารวะ...ทุกดวงวิญญาณผู้เสียสละ
 ไหว้
http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01lad01110652&sectionid=0115&day=2009-06-11
บันทึกการเข้า

ดาบของชาติเล่มนี้   คือชีวิตเรา
ถึงจะคมอยู่ดี            ลับไว้
-Joke-
Vive la liberté de parole et d'opinion!
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน -459
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4225


^_^


« ตอบ #33 เมื่อ: มิถุนายน 11, 2009, 06:00:39 PM »

ผมก็บริจาคไปแล้วครับ เพราะตายไปก็ไม่ได้ใช้อะไร ดีกว่าปล่อยเผาทิ้งไปปล่าวๆ ให้น้องๆ นศ แพทย์เอาไปศึกษาดีกว่าครับ
บันทึกการเข้า

A la volonté du peuple
Et à la santé du progrès,
Remplis ton cœur d'un vin rebelle
Et à demain, ami fidèle.
Nous voulons faire la lumière
Malgré le masque de la nuit
Pour illuminer notre terre
Et changer la vie.
BIGFISH
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 94
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1174


กระบี่หวั่นไหว คนใช้ไร้คม


« ตอบ #34 เมื่อ: มิถุนายน 12, 2009, 01:48:46 PM »

สาธุ  ไหว้
บันทึกการเข้า

ดาบของชาติเล่มนี้   คือชีวิตเรา
ถึงจะคมอยู่ดี            ลับไว้
watchrapong(รักในหลวง)
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 24
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 463


« ตอบ #35 เมื่อ: มิถุนายน 17, 2009, 08:17:24 AM »



       มีรอย สักยันต์ บริจาคร่างกายได้หรือไม่ครับ ไหว้
บันทึกการเข้า
BIGFISH
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 94
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1174


กระบี่หวั่นไหว คนใช้ไร้คม


« ตอบ #36 เมื่อ: มิถุนายน 17, 2009, 10:31:53 AM »

ในรอยสัก ไม่เป็นข้อต้องห้ามในคุณสมบัติผู้บริจาค

http://www.redcross.or.th/donation/self_donation.php4

เพื่อตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมครับ


บริจาคร่างกายเพื่อการศึกษาแพทย์
                 การบริจาคร่างกายเพื่อการศึกษาสร้างกุศลทานอันยิ่งใหญ่ ด้วยการอุทิศร่างกายเพื่อการศึกษาการให้ หรือ การบริจาคย่อมทำให้เกิดความสุขทั้งผู้ให้และผู้รับ ผู้ให้มีความสุข มีความภาคภูมิใจในความเป็นผู้เสียสละ ผู้รับมีความสุข ที่ได้รับสิ่งจำเป็นที่สุดที่ตนเองยังขาดแคลน
                 การบริจาคร่างกายเพื่อการศึกษา ผู้บริจาคเป็นผู้เสียสละที่ยิ่งใหญ่ ยอมสละร่างกายของตนเอง ให้ผู้ที่ไม่เคยได้รู้จักมาก่อนได้ศึกษาโดยเพียงแต่มุ่งหวังว่า ผู้ที่ศึกษาร่างของตนจะนำความรู้ที่ได้รับนั้นไปช่วยมวลมนุษย์ชาติต่อไป ผู้อุทิศร่างกายเพื่อการศึกษาได้สร้างกุศลทานครั้งสุดท้ายของชีวิตที่ยิ่งใหญ่ที่สุด โดยได้แต่หวังว่า ผู้อยู่เบื้องหลังจะไม่ต้องทนทุกข์จากอาการเจ็บป่วย ตนเองมิได้หวังสิ่งตอบแทนใดใด นอกจากได้เป็นผู้"ให้"เท่านั้น

คุณประโยชน์
                 การอุทิศร่างกายเพื่อการศึกษา เป็นการสร้างประโยชน์ทั้งด้านวิชาการ ด้านสาธารณสุข ด้านจริยธรรมและการเสริมสร้างสังคมอันจะนำไปสู่พัฒนาการที่ดีต่อไปในอนาคต โดยเฉพาะในการศึกษาทางการแพทย์บุคลากรทางการแพทย์จำเป็นต้องเรียนรู้สิ่งต่างๆ จากร่างกายของมนุษย์เพื่อเป็นแนวทางสำคัญในการรักษาผู้ป่วยต่อไปในอนาคต
การศึกษาจากร่างกายผู้อุทิศร่างกาย ใช้ประโยชน์หลายกรณี อาทิเช่น
                 1. เพื่อใช้ในการศึกษาของนิสิตแพทย์
                 2. เพื่อใช้ในการศึกษาของแพทย์เฉพาะทาง
                 3. เพื่อใช้ในการศึกษาของนักศึกษาพยาบาล
                 4. เพื่อใช้ในการศึกษาของนิสิตเทคนิคการแพทย์
                 5. เพื่อใช้ในการศึกษาของนักศึกษารังสีเทคนิค
                 6. เพื่อใช้ในการศึกษาวิจัยทางการแพทย์
                 7. เพื่อใช้ในการจัดทำพิพิธภัณฑ์กายวิภาคศาสตร์
วิธีการ
                 ผู้มีความประสงค์อุทิศร่างกายสามารถยื่นความจำนงได้ 2 แบบ คือ
                 1. ยื่นความจำนงโดยตรงที่ ศาลาทินฑัต โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โดยกรอกข้อความ
ลงในแบบฟอร์มของโรงพยาลบาล 1 ฉบับ เจ้าหน้าที่จะออกบัตรประจำตัวผู้อุทิศร่างกายให้ไว้เป็นหลักฐาน
                 2. ยื่นความจำนงทางไปรษณีย์ โดยกรอกข้อความลงในแบบฟอร์ม แล้วส่งมา
ทางไปรษณีย์ 1 ฉบับ เจ้าหน้าที่จะส่ง
บัตรประจำตัวผู้อุทิศร่างกายให้ภายหลัง
                 เมื่อผู้อุทิศร่างกายถึงแก่กรรม ทายาท มีสิทธิ์คัดค้านไม่มอบศพให้กับโรงพยาบาลได้โดยต้องแจ้ง
การคัดค้านไม่มอบศพกับโรงพยาบาลฯภายใน 24 ชั่วโมง
                 เมื่อผู้อุทิศร่างกายถึงแก่กรรม และทายาทผู้รับมรดกยินยอมพร้อมใจกันจะมอบศพให้โรงพยาบาลฯ
ขอให้ติดต่อโรงพยาบาลฯเพื่อจัดเจ้าหน้าที่ไปรับศพ โดยเจ้าหน้าที่จะให้กรอกใบสำคัญยินยอมมอบศพให้
โรงพยาบาลเพื่อการศึกษาไว้เป็นหลักฐาน โดยติดต่อแจ้งการรับศพได้ที่
                1. ในเวลาราชการติดต่อที่ ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ หมายเลขโทรศัพท์
02-256-4281 หรือ 02-2527-028 หรือ 02-256-4000 ต่อ 3247
                 2. นอกเวลาราชการติดต่อที่ ตึกห้องพักศพ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการรับศพ หมายเลขโทรศัพท์
2564317
                 โรงพยาบาลจะสามารถรับร่างของผู้อุทิศร่างกายได้ก็ต่อเมื่อ มีใบมรณบัตรซึ่งออกโดย นายทะเบียน
ท้องถิ่นที่ผู้อุทิศร่างกายถึงแก่กรรมแล้วเท่านั้น
                 โรงพยาบาลจะจัดเจ้าหน้าที่ไปรับร่างผู้อุทิศร่างกายเฉพาะที่อยู่ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล
                 เมื่อโรงพยาบาลรับร่างผู้อุทิศร่างกายมาแล้ว ไม่สามารถอนุญาตให้ญาตินำกลับไปบำเพ็ญกุศล
ก่อน เพราะจะทำให้ไม่อยู่ในสภาพที่เหมาะสมสำหรับการศึกษา
                 เมื่อเจ้าหน้าที่ไปรับร่างผู้อุทิศร่างกาย ทายาทควรให้ที่อยู่ที่ติดต่อได้สะดวกที่สุดไว้กับเจ้าหน้าที่
เพื่อให้สามารถติดต่อได้เมื่อนิสิตศึกษาร่างผู้อุทิศร่างกายเสร็จเรียบร้อยแล้วและหากมีการเปลี่ยนแปลงที่
อยู่ต้องแจ้งให้ทราบ
                 ฝ่ายกายวิภาคศาสตร์ จะจัดให้มีการศึกษาร่างของผู้อุทิศร่างกายในกรณีต่างๆต่อไปนี้ ตามความ
เหมาะสม
                 1. เพื่อการศึกษาของนิสิตแพทย์ และแพทย์ประจำบ้าน
                 2. เพื่อการฝึกอบรมหัตถการต่างๆ และงานวิจัยทางการแพทย์
                  เมื่อฝ่ายกายวิภาคศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ศึกษาร่างผู้อุทิศฯศึกษาเรียบร้อยแล้ว
จะมีคณะกรรมการดำเนินการจัดงานฌาปนกิจ และขอพระราชทานเพลิงศพ (เป็นกรณีพิเศษ)


คุณสมบัติของผู้บริจาค
                 ผู้มีความประสงค์อุทิศร่างกายต้องมีอายุตั้งแต่ 17 ปีขึ้นไป กรณีที่อายุต่ำกว่า 20 ปี ต้องได้รับความ
ยินยอมจากผู้ปกครองเป็นลายลักษณ์อักษร
                 โรงพยาบาลจะไม่รับศพผู้อุทิศร่างกายในกรณีดังนี้
                 - ถึงแก่กรรมเกิน 24 ชั่วโมง ยกเว้นได้เก็บไว้ในห้องเย็นของโรงพยาบาล
                 - ผู้อุทิศร่างกายที่ได้รับการผ่าตัด หรือมีรอยเสียหายจากอุบัติเหตุ บริเวณศีรษะและ
สมอง
                 - ผู้อุทิศร่างกายที่ถึงแก่กรรมจากสาเหตุจากโรคมะเร็งบริเวณศีรษะและ สมอง หรือติดเชื้อ โรคร้ายแรงเช่น เอดส์ ไวรัสลงตับ และวัณโรค
                 - ผู้อุทิศร่างกายที่มีคดี เกี่ยวข้องกับคดี หรือมีการผ่าพิสูจน์ ยกเว้นการผ่าพิสูจน์บริเวณช่องท้องที่แพทย์นำไปใช้ในทางการศึกษาทางการแพทย์เท่านั้น
                 - ผู้อุทิศฯที่ผ่านกระบวนการเก็บรักษาด้วยน้ำยาแล้ว
                 ในกรณีที่รับร่างผู้อุทิศฯมาแล้ว มีการตรวจพบว่าอยู่ในกรณีดังกล่าวข้างต้น โรงพยาบาลจะติดต่อญาติให้นำกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป

สถานที่ติดต่อ
                 ศาลาทินฑัต โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
                 ในวัน เวลาราชการ

หลักฐานที่ต้องเตรียมมามีดังนี้
                 1. รูปถ่ายหน้าตรง ขนาด 1 นิ้ว จำนวน 2 รูป
                 2. สำเนาบัตรประชาชน หรือ สำเนาบัตรข้าราชการ 1 ฉบับ


ดาวโหลดเอกสารที่เกี่ยวข้อง
                  1. หัวข้อถามตอบอุทิศร่างกาย
                  2. แผ่นพับประชาสัมพันธ์
                  3. เกณฑ์การรับร่างกาย
                  4. แบบฟอร์มอุทิศร่างกายเพื่อการศึกษาใหม่
                  5. ระเบียบการรับร่างผู้อุทิศร่างกาย
                  6. เอกสารรับแจ้งข้อมูล
บันทึกการเข้า

ดาบของชาติเล่มนี้   คือชีวิตเรา
ถึงจะคมอยู่ดี            ลับไว้
หน้า: 1 2 [3]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.087 วินาที กับ 21 คำสั่ง