๏ฟฝ๏ฟฝ็บบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝสน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาปืน
มีนาคม 29, 2024, 03:41:18 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: อวป. มีจำหน่ายที่ สนามยิงปืนราชนาวี/สนามยิงปืนบางบัวทอง/สนามยิงปืนศรภ./
/สนามยิงปืนทอ./
สิงห์ทองไฟร์อาร์ม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 14 15 16 [17] 18 19 20 ... 37
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ต้มยำ IPSC  (อ่าน 193023 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Phoenix
Hero Member
*****

คะแนน 81
ออฟไลน์

กระทู้: 3617


« ตอบ #240 เมื่อ: เมษายน 24, 2008, 02:45:56 PM »

3. เป็นดิวิชั่นที่ปรับคลาสง่ายที่สุด(ในปัจจุบัน)สำหรับมือใหม่...ต้องขอโทษพวกที่ยิงดิวิชั่นนี้เป็นหลักในเวลานี้ด้วยครับที่ต้องเขียนแบบนี้ เศร้า...แต่อ่านเหตุผลดูนะครับ เยี่ยม...ดิวิชั่นนี้ค่อนข้างใหม่เพิ่งมี GM ครบทั้งหมด 4..เฮ้ย...5  คิก คิก คิก คิกคนเดือนนี้เองครับ....แถมมือที่เป็นแชมป์ชนะที่ 1 และที่ 3 ก็ไม่ได้ยิงดิวิชั่นนี้เป็นประจำดังนั้นต้องบอกว่าหัวในดิวิชั่นนี้ยังอ่อนถ้าเทียบกับดิวิชั่นอื่นเช่น Open หรือ Standard แต่สาเหตุเพราะดิวิชั่นเหล่านั้นยิงกันมานานมากแล้ว นักกีฬาหัวแถวของเมืองไทยส่วนใหญ่ก็อยู่ในดิวิชั่น 2 ดิวิชั่นหลักนี้ แต่แน่นอนครับถ้าให้เวลาไปอีกพักหนึ่งดิวิชั่นโปรดักชั่นก็จะยากเหมือนดิวิชั่นอื่นๆ เนื่องจากมีเวลาปั้นนักกีฬารุ่นใหม่ๆขึ้นมา.....เดี๋ยวจะหาว่าผมไม่ยิงดิวิชั่นนี้เลยเขียนแบบนี้ ผมยกตัวอย่างให้ดูนะครับ Open ถ้าผมจำไม่ผิดนักกีฬาคนสุดท้ายที่ขึ้น GM ไปได้น่าจะเป็น Hell Boy ครับคือเจ้าเอกประมาณ 3 ปีแล้วมั้ง จากวันนั้นจนถึงวันนี้ยังไม่มีใครปรับขึ้นคลาสนี้ได้อีกเลย...ถ้าผมเดาไม่ผิดคนต่อไปน่าจะเป็นคุณ บอย..ปิยะ(เชียงใหม่)ครับ เช่นเดียวกับ Standard ครับหาคนปรับขึ้น GM ไม่ได้เลย คนสุดท้ายที่ปรับขึ้นไปผมจำไม่ได้แล้วว่านานเท่าไหร่แล้ว...คลาสล่างก็เหมือนกัน U ไป C ผมไม่พูดถึงนะครับแต่จาก C ขึ้นไปลองสังเกตุดูครับว่าหายากมากเลย ซึ่งในโปรดักชั่นจะมีการปรับคลาสได้ทุกแมทช์มั้งถ้าผมจำไม่ผิด แน่นอนครับจำนวนนักกีฬาก็มีส่วนแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นยังคงอยู่ที่หัวแถวครับว่า แข็งและแน่นอนขนาดไหนแล้ว....ตอนนี้ M ในดิวิชั่นนี้เพียบจริงๆแต่ผมมั่นใจว่าอีกไม่นานจะมี GM เพิ่มอีกแน่นอนครับ ผมว่าไม่น่าเกิน 2 แมทช์ถ้ามี GM ลงครบ 3 คนตามกติกานะครับ

ส่วนตรงนี้เป็นผลพลอยได้นะครับ...ลงดิวิชั่นนี้แล้วจะไปยิง Standard ได้ง่ายขึ้นเพราะการมองศูนย์นั้นเหมือนกัน แถมปืนใช้งานที่เอาลงแข่งก็อาจจะช่วยท่านได้ยามจำเป็นครับ..สั้นๆแค่นี้นะครับ
 
ดังนั้นผมสรุปคร่าวๆจาก 3 ข้อข้างบนผมถึงว่าสำหรับมือใหม่มีงบจำกัดถึงลงดิวิชั่นโปรดักชั่นง่ายที่สุดครับ...ดิวิชั่นอื่นเดี๋ยวมีเวลาจะมาเขียนต่อนะครับ

กลับมาหาสิ่งที่ผมเขียนไว้นะครับ

หลังจากคุณยิงดิวิชั่นแรกนี้ไปแล้ว เมื่อคุณคิดจะยิงดิวิชั่นอื่นต่อ นั่นแปลว่าเชื้อเข้าสู่ตัวคุณแบบถอนยากแล้วคุณถึงคิดจะยิงดิวิชั่นอื่น...ดังนั้นต้องมาคิดครับว่าอยากยิงอะไรต่อ ตรงจุดนี้เป็นเรื่องชวนถกเถียงจริงๆ...ถกได้ เถียงได้ นะครับ ไม่ผิดกติกาแน่นอน คิก คิก

สมมุติว่าเป็นผมและถ้าใจผมในวันนี้ผมคิดว่าดิวิชั่นที่น่ายิงต่อจาก Production แล้วควรจะเป็น Open ครับ...เดี๋ยว...ใจเย็นๆ อย่าเพิ่งค้าน ฟังผมว่าก่อนครับ ผมคิดว่าผมมีเหตุผลสนับสนุนนะ แต่จะเหมือนคนอื่นหรือไม่ๆทราบครับ ผมมาว่าถึงข้อดีและเสียในการยิง Standard ก่อนแล้วค่อยมาว่าถึง Open ที่ผมคิดทีหลังครับ

ถ้าจาก Production แล้วมายิง Standard ข้อดีมันจะเป็นดังนี้
1. การมองศูนย์ปืนง่ายมากเพราะเหมือนกันกับ Production คุณไม่ต้องหัดใหม่เลย
2. ตำแหน่งการใช้อุปกรณ์ที่เดิมทั้งหมด ไม่ต้องเปลี่ยนเลย
3. ราคาปืนถูกกว่า Open เล็กน้อย
4. สามารถใช้งานได้ด้วย(ยามจำเป็นสุดๆ)
สรุปแล้วคุณสามารถลงแข่งได้เลยหลังจากยิงเพื่อเข้ากับรีคอยล์ของปืนใหม่เท่านั้น

ข้อเสียคือ
1. คุณยังยิงปืนที่มีความรู้สึก..คล้าย...เดิม..รสชาติคล้ายเดิม
2. การต่อยอดใช้เวลามากกว่า...ผมจะอธิบายทีหลัง
3. คุณจ่ายต่ำกว่าปืน Open นิดเดียว

ในรายละเอียดเดี๋ยวเราไปลงที่ Standard อีกทีนะครับ

ทีนี้ถ้าเราโดดไปยิง Open เลยตามความคิดผม...อย่าลืมครับว่าในที่นี้หมายถึงคุณติดเชื้อ IP แบบเต็มตัวแล้ว
เอาข้อเสียก่อนครับ
1. คุณต้องมาหัดเรื่องศูนย์ปืนใหม่หมด เพราะคุณเปลี่ยนมายิงด๊อทแล้ว ดังนั้นต้องใช้เวลาเล็กน้อยในการหาด๊อท
2. ปืนราคาแพงกว่าเล็กน้อย แถมยุ่งยากกว่าเพราะต้องหาทางให้ปืนเข้ากับกระสุนที่จะใช้..Bullet Master
3. กระสุนต้องสั่งทำเป็นล๊อต
4. ถ้าจะเปลี่ยนตำแหน่งอุปกรณ์ คุณก็ต้องซ้อมใหม่อีก
5. อาจจะเสียการมองศูนย์ ถ้าจะยิงแบบศูนย์เปิดอีกก็ต้องกลับมาซ้อมมากหน่อยครับ

ข้อดีคือ
1. คุณจะยิงด้วยความรู้สึกที่แตกต่างกันไปเลย...รสชาติที่แตกต่างเต็มๆครับ
2. คุณหน้าจะยิงได้เร็วขึ้นเพราะถ้าคุณยิง Open แต่ช้าแบบ Production ไม่ทันกินแน่ๆครับ
3. การกลับไปมองศูนย์เปิด คุณจะเห็นศูนย์ทำงานได้ดีขึ้นอย่างแน่นอน
4. คุณจะยิงด้วยศูนย์ทั้ง 2 แบบในเวลาอันสั้นครับ
5. สำหรับคนสายตาไม่ดีจะยิงง่ายกว่าศูนย์เปิดมากครับ..เพราะเรามองเป้าให้ชัดอย่างเดียวแล้วเอาด๊อทมาทาบเท่านั้น ดังนั้นสายตาแบบไหนสามารถทำแว่นตาแบบปรกติมาใส่ในแว่นป้องกันก็ใช้ได้ครับ ซึ่งต่างกันกับศูนย์เปิดที่มองเห็นแต่ศูนย์ชัดเท่านั้น

ที่ผมบอกว่าใช้เวลาต่อยอดเร็วกว่ายิงดิวิชั่น Standard เพราะ เมื่อคุณยิงศูนย์เปิดมาก่อน คุณก็ใช้ศูนย์เปิดใน Standard ได้แต่ใช้ด๊อทยังไม่ได้ครับ พอคุณจะมายิง Open ในอนาคตคุณก็ต้องมาตั้งต้นอีก
อีกทั้งคุณจะได้หัดสปีดนิ้วและเห็นการทำงานของศูนย์แบบชัดจริงๆจากปืน Open

ดังนั้นถ้าเป็นผม ใจผมจะเลือกไปที่ Open ครับแล้วค่อยกลับมายิง Standard ทีหลัง ถ้าใครมีข้อเสริมหรือข้อแย้งก็เชิญครับ...เพื่อผมจะได้มองมุมมองอีกมุมหนึ่งครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 24, 2008, 02:49:17 PM โดย Phoenix » บันทึกการเข้า

MadFroG
Si vis pacem para bellum
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 46
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1985


Father and Son


« ตอบ #241 เมื่อ: เมษายน 24, 2008, 09:30:28 PM »


กลับมาแล้วมีชิ้นส่วนกิโมโนมาฝากหรือเปล่าครับ คิก คิก คิก คิก



ไม่กล้ามีครับ ผมกลัว.....
บันทึกการเข้า

เมื่อเกิดวงเล็บ จึงเกิดการก้าวกระโดดทางตรรกะ
Uncle
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #242 เมื่อ: เมษายน 25, 2008, 07:32:38 AM »

รบกวนพระอาจารย์วิสัชชนา  ในปุจฉาของผม 2 ข้อนี้ด้าวยครับ...ผมยังไม่กระจ่างจริงๆ  ขอบคุณครับ Grin Grin หลงรัก

1.You could say Open division are the Indy Cars of IPSC and Standard division is Stock Cars.



2.A low round-count, low hit factor stage would put a premium on accuracy, and a high round-count, high hit factor stage would put a premium on speed.


บันทึกการเข้า
Phoenix
Hero Member
*****

คะแนน 81
ออฟไลน์

กระทู้: 3617


« ตอบ #243 เมื่อ: เมษายน 25, 2008, 09:33:35 AM »

รบกวนพระอาจารย์วิสัชชนา  ในปุจฉาของผม 2 ข้อนี้ด้าวยครับ...ผมยังไม่กระจ่างจริงๆ  ขอบคุณครับ Grin Grin หลงรัก

1.You could say Open division are the Indy Cars of IPSC and Standard division is Stock Cars.



2.A low round-count, low hit factor stage would put a premium on accuracy, and a high round-count, high hit factor stage would put a premium on speed.




คอยให้คนอื่นตอบมั้งครับพี่...ถ้าไม่มีเดี๋ยวผมมาตอบให้ครับ Grin Grin Grin
บันทึกการเข้า

Phoenix
Hero Member
*****

คะแนน 81
ออฟไลน์

กระทู้: 3617


« ตอบ #244 เมื่อ: เมษายน 25, 2008, 06:52:15 PM »

รบกวนพระอาจารย์วิสัชชนา  ในปุจฉาของผม 2 ข้อนี้ด้าวยครับ...ผมยังไม่กระจ่างจริงๆ  ขอบคุณครับ Grin Grin หลงรัก

1.You could say Open division are the Indy Cars of IPSC and Standard division is Stock Cars.



2.A low round-count, low hit factor stage would put a premium on accuracy, and a high round-count, high hit factor stage would put a premium on speed.




คอยให้คนอื่นตอบมั้งครับพี่...ถ้าไม่มีเดี๋ยวผมมาตอบให้ครับ Grin Grin Grin


ไม่มีใครช่วยตอบงั้นผมตอบเองครับ

1.You could say Open division are the Indy Cars of IPSC and Standard division is Stock Cars.

อย่างที่ผมเขียนไว้ครับว่ายิงปืน Open นั้นทุกอย่างต้องเร็วครับ ถ้ายิงแบบไปเรื่อยๆโอกาสขึ้นคลาสสูงนั้นยากครับ จึงเทียบได้กับรถแบบฟอร์มูล่าวันครับ แต่พอยิงปืน Standard มันเร็วในแบบรถทั่วไปครับ ความเร็วมันต่างกัน จริงๆแล้วมันก็มันส์แต่มันส์กันคนละแบบครับ...แต่ผมชอบแบบ Open มากกว่าครับ ถึงวัยจะไม่เหมาะแต่ยังชอบซิ่งครับ...เร้าใจดี.... คิก คิก คิก คิก

2.A low round-count, low hit factor stage would put a premium on accuracy, and a high round-count, high hit factor stage would put a premium on speed.

ข้อ 2 นี้สำคัญมากสำหรับนักกีฬาใหม่ครับ...สนามยาวเช่น 32 นัดควรจะเอาคะแนนเป็นหลักครับ เหตุผลเพราะสนามยาวยังไงเวลามันก็ต้องมากอยู่แล้วดังนั้นต้องตุนคะแนนไว้สูงๆครับ ดังนั้นยอมเสียเวลานิดแต่เอา A มากๆเข้าไว้ครับ ส่วนสนามสั้นเช่น 9 นัดต้องเร็วครับ เอาความเร็วเป็นหลัก อาจจะหลุดไป C บ้างก็ต้องยอมครับ เพราะยังไงๆคะแนนไม่เกิน 45 แต้ม...แถมอีกนิดครับ สนามกลางๆเช่น 14 นัด อันนี้ต้องการสมดุลย์ทั้งคะแนนและเวลาครับ...สรุปง่ายๆคือสนามยาวเน้นคะแนน...สนามสปีดเน้นเวลา...สนามขนาดกลางเน้นสมดุลย์ระหว่างเวลากับคะแนนครับ...อย่าลืมครับคราวหลังเข้าสนามแข่ง ดูว่าสนามแบบไหนแล้วยิงตามนี้เลยครับ ถ้าไม่เข้าใจถ้ามีคำถามค่อยทำแบบการคำนวณให้ดูครับ...ถ้าไม่สงสัยก็จบแค่นี้ครับ.. Grin Grin

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 25, 2008, 06:54:14 PM โดย Phoenix » บันทึกการเข้า

Uncle
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #245 เมื่อ: เมษายน 25, 2008, 08:29:11 PM »

รบกวนพระอาจารย์วิสัชชนา  ในปุจฉาของผม 2 ข้อนี้ด้าวยครับ...ผมยังไม่กระจ่างจริงๆ  ขอบคุณครับ Grin Grin หลงรัก

1.You could say Open division are the Indy Cars of IPSC and Standard division is Stock Cars.



2.A low round-count, low hit factor stage would put a premium on accuracy, and a high round-count, high hit factor stage would put a premium on speed.




คอยให้คนอื่นตอบมั้งครับพี่...ถ้าไม่มีเดี๋ยวผมมาตอบให้ครับ Grin Grin Grin


ไม่มีใครช่วยตอบงั้นผมตอบเองครับ

1.You could say Open division are the Indy Cars of IPSC and Standard division is Stock Cars.

อย่างที่ผมเขียนไว้ครับว่ายิงปืน Open นั้นทุกอย่างต้องเร็วครับ ถ้ายิงแบบไปเรื่อยๆโอกาสขึ้นคลาสสูงนั้นยากครับ จึงเทียบได้กับรถแบบฟอร์มูล่าวันครับ แต่พอยิงปืน Standard มันเร็วในแบบรถทั่วไปครับ ความเร็วมันต่างกัน จริงๆแล้วมันก็มันส์แต่มันส์กันคนละแบบครับ...แต่ผมชอบแบบ Open มากกว่าครับ ถึงวัยจะไม่เหมาะแต่ยังชอบซิ่งครับ...เร้าใจดี.... คิก คิก คิก คิก

2.A low round-count, low hit factor stage would put a premium on accuracy, and a high round-count, high hit factor stage would put a premium on speed.

ข้อ 2 นี้สำคัญมากสำหรับนักกีฬาใหม่ครับ...สนามยาวเช่น 32 นัดควรจะเอาคะแนนเป็นหลักครับ เหตุผลเพราะสนามยาวยังไงเวลามันก็ต้องมากอยู่แล้วดังนั้นต้องตุนคะแนนไว้สูงๆครับ ดังนั้นยอมเสียเวลานิดแต่เอา A มากๆเข้าไว้ครับ ส่วนสนามสั้นเช่น 9 นัดต้องเร็วครับ เอาความเร็วเป็นหลัก อาจจะหลุดไป C บ้างก็ต้องยอมครับ เพราะยังไงๆคะแนนไม่เกิน 45 แต้ม...แถมอีกนิดครับ สนามกลางๆเช่น 14 นัด อันนี้ต้องการสมดุลย์ทั้งคะแนนและเวลาครับ...สรุปง่ายๆคือสนามยาวเน้นคะแนน...สนามสปีดเน้นเวลา...สนามขนาดกลางเน้นสมดุลย์ระหว่างเวลากับคะแนนครับ...อย่าลืมครับคราวหลังเข้าสนามแข่ง ดูว่าสนามแบบไหนแล้วยิงตามนี้เลยครับ ถ้าไม่เข้าใจถ้ามีคำถามค่อยทำแบบการคำนวณให้ดูครับ...ถ้าไม่สงสัยก็จบแค่นี้ครับ.. Grin Grin



ขอบคุณครับพระอาจารย์  เหมือนจุดเทียนในที่มืดเลย เข้าแจ่มแจ้งแล้วครับ Grin Grin Grin
บันทึกการเข้า
นาจา™รักในหลวง
คุณธรรม...นำสู่ยุติธรรม
Moderator
Hero Member
*****

คะแนน 268
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 11145



เว็บไซต์
« ตอบ #246 เมื่อ: เมษายน 25, 2008, 08:37:01 PM »

รบกวนพระอาจารย์วิสัชชนา  ในปุจฉาของผม 2 ข้อนี้ด้าวยครับ...ผมยังไม่กระจ่างจริงๆ  ขอบคุณครับ Grin Grin หลงรัก

1.You could say Open division are the Indy Cars of IPSC and Standard division is Stock Cars.



2.A low round-count, low hit factor stage would put a premium on accuracy, and a high round-count, high hit factor stage would put a premium on speed.




คอยให้คนอื่นตอบมั้งครับพี่...ถ้าไม่มีเดี๋ยวผมมาตอบให้ครับ Grin Grin Grin


ไม่มีใครช่วยตอบงั้นผมตอบเองครับ

1.You could say Open division are the Indy Cars of IPSC and Standard division is Stock Cars.

อย่างที่ผมเขียนไว้ครับว่ายิงปืน Open นั้นทุกอย่างต้องเร็วครับ ถ้ายิงแบบไปเรื่อยๆโอกาสขึ้นคลาสสูงนั้นยากครับ จึงเทียบได้กับรถแบบฟอร์มูล่าวันครับ แต่พอยิงปืน Standard มันเร็วในแบบรถทั่วไปครับ ความเร็วมันต่างกัน จริงๆแล้วมันก็มันส์แต่มันส์กันคนละแบบครับ...แต่ผมชอบแบบ Open มากกว่าครับ ถึงวัยจะไม่เหมาะแต่ยังชอบซิ่งครับ...เร้าใจดี.... คิก คิก คิก คิก

2.A low round-count, low hit factor stage would put a premium on accuracy, and a high round-count, high hit factor stage would put a premium on speed.

ข้อ 2 นี้สำคัญมากสำหรับนักกีฬาใหม่ครับ...สนามยาวเช่น 32 นัดควรจะเอาคะแนนเป็นหลักครับ เหตุผลเพราะสนามยาวยังไงเวลามันก็ต้องมากอยู่แล้วดังนั้นต้องตุนคะแนนไว้สูงๆครับ ดังนั้นยอมเสียเวลานิดแต่เอา A มากๆเข้าไว้ครับ ส่วนสนามสั้นเช่น 9 นัดต้องเร็วครับ เอาความเร็วเป็นหลัก อาจจะหลุดไป C บ้างก็ต้องยอมครับ เพราะยังไงๆคะแนนไม่เกิน 45 แต้ม...แถมอีกนิดครับ สนามกลางๆเช่น 14 นัด อันนี้ต้องการสมดุลย์ทั้งคะแนนและเวลาครับ...สรุปง่ายๆคือสนามยาวเน้นคะแนน...สนามสปีดเน้นเวลา...สนามขนาดกลางเน้นสมดุลย์ระหว่างเวลากับคะแนนครับ...อย่าลืมครับคราวหลังเข้าสนามแข่ง ดูว่าสนามแบบไหนแล้วยิงตามนี้เลยครับ ถ้าไม่เข้าใจถ้ามีคำถามค่อยทำแบบการคำนวณให้ดูครับ...ถ้าไม่สงสัยก็จบแค่นี้ครับ.. Grin Grin



ขอบคุณครับพระอาจารย์  เหมือนจุดเทียนในที่มืดเลย เข้าแจ่มแจ้งแล้วครับ Grin Grin Grin

สงสัยคนนี้พี่แชมป์จองตัวเป็นล่ามแน่เลยพี่เสือ  คิก คิก
บันทึกการเข้า

อยากสูงต้องเขย่ง อยากเก่งต้องขยัน
2011
Full Member
***

คะแนน 5
ออฟไลน์

กระทู้: 177


« ตอบ #247 เมื่อ: เมษายน 25, 2008, 09:53:22 PM »

รบกวนพระอาจารย์วิสัชชนา  ในปุจฉาของผม 2 ข้อนี้ด้าวยครับ...ผมยังไม่กระจ่างจริงๆ  ขอบคุณครับ Grin Grin หลงรัก

1.You could say Open division are the Indy Cars of IPSC and Standard division is Stock Cars.



2.A low round-count, low hit factor stage would put a premium on accuracy, and a high round-count, high hit factor stage would put a premium on speed.




คอยให้คนอื่นตอบมั้งครับพี่...ถ้าไม่มีเดี๋ยวผมมาตอบให้ครับ Grin Grin Grin


ไม่มีใครช่วยตอบงั้นผมตอบเองครับ

1.You could say Open division are the Indy Cars of IPSC and Standard division is Stock Cars.

อย่างที่ผมเขียนไว้ครับว่ายิงปืน Open นั้นทุกอย่างต้องเร็วครับ ถ้ายิงแบบไปเรื่อยๆโอกาสขึ้นคลาสสูงนั้นยากครับ จึงเทียบได้กับรถแบบฟอร์มูล่าวันครับ แต่พอยิงปืน Standard มันเร็วในแบบรถทั่วไปครับ ความเร็วมันต่างกัน จริงๆแล้วมันก็มันส์แต่มันส์กันคนละแบบครับ...แต่ผมชอบแบบ Open มากกว่าครับ ถึงวัยจะไม่เหมาะแต่ยังชอบซิ่งครับ...เร้าใจดี.... คิก คิก คิก คิก

2.A low round-count, low hit factor stage would put a premium on accuracy, and a high round-count, high hit factor stage would put a premium on speed.

ข้อ 2 นี้สำคัญมากสำหรับนักกีฬาใหม่ครับ...สนามยาวเช่น 32 นัดควรจะเอาคะแนนเป็นหลักครับ เหตุผลเพราะสนามยาวยังไงเวลามันก็ต้องมากอยู่แล้วดังนั้นต้องตุนคะแนนไว้สูงๆครับ ดังนั้นยอมเสียเวลานิดแต่เอา A มากๆเข้าไว้ครับ ส่วนสนามสั้นเช่น 9 นัดต้องเร็วครับ เอาความเร็วเป็นหลัก อาจจะหลุดไป C บ้างก็ต้องยอมครับ เพราะยังไงๆคะแนนไม่เกิน 45 แต้ม...แถมอีกนิดครับ สนามกลางๆเช่น 14 นัด อันนี้ต้องการสมดุลย์ทั้งคะแนนและเวลาครับ...สรุปง่ายๆคือสนามยาวเน้นคะแนน...สนามสปีดเน้นเวลา...สนามขนาดกลางเน้นสมดุลย์ระหว่างเวลากับคะแนนครับ...อย่าลืมครับคราวหลังเข้าสนามแข่ง ดูว่าสนามแบบไหนแล้วยิงตามนี้เลยครับ ถ้าไม่เข้าใจถ้ามีคำถามค่อยทำแบบการคำนวณให้ดูครับ...ถ้าไม่สงสัยก็จบแค่นี้ครับ.. Grin Grin



ขอบคุณครับพระอาจารย์  เหมือนจุดเทียนในที่มืดเลย เข้าแจ่มแจ้งแล้วครับ Grin Grin Grin

สงสัยคนนี้พี่แชมป์จองตัวเป็นล่ามแน่เลยพี่เสือ  คิก คิก
พี่นาจาครับผมอยากได้ล่ามแปลไทยเป็นไทยครับ เพราะคุยกะคนไทยไม่ค่อยรู้เรื่อง อ่ะครับ
บันทึกการเข้า
นาจา™รักในหลวง
คุณธรรม...นำสู่ยุติธรรม
Moderator
Hero Member
*****

คะแนน 268
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 11145



เว็บไซต์
« ตอบ #248 เมื่อ: เมษายน 25, 2008, 10:19:48 PM »

รบกวนพระอาจารย์วิสัชชนา  ในปุจฉาของผม 2 ข้อนี้ด้าวยครับ...ผมยังไม่กระจ่างจริงๆ  ขอบคุณครับ Grin Grin หลงรัก

1.You could say Open division are the Indy Cars of IPSC and Standard division is Stock Cars.



2.A low round-count, low hit factor stage would put a premium on accuracy, and a high round-count, high hit factor stage would put a premium on speed.




คอยให้คนอื่นตอบมั้งครับพี่...ถ้าไม่มีเดี๋ยวผมมาตอบให้ครับ Grin Grin Grin


ไม่มีใครช่วยตอบงั้นผมตอบเองครับ

1.You could say Open division are the Indy Cars of IPSC and Standard division is Stock Cars.

อย่างที่ผมเขียนไว้ครับว่ายิงปืน Open นั้นทุกอย่างต้องเร็วครับ ถ้ายิงแบบไปเรื่อยๆโอกาสขึ้นคลาสสูงนั้นยากครับ จึงเทียบได้กับรถแบบฟอร์มูล่าวันครับ แต่พอยิงปืน Standard มันเร็วในแบบรถทั่วไปครับ ความเร็วมันต่างกัน จริงๆแล้วมันก็มันส์แต่มันส์กันคนละแบบครับ...แต่ผมชอบแบบ Open มากกว่าครับ ถึงวัยจะไม่เหมาะแต่ยังชอบซิ่งครับ...เร้าใจดี.... คิก คิก คิก คิก

2.A low round-count, low hit factor stage would put a premium on accuracy, and a high round-count, high hit factor stage would put a premium on speed.

ข้อ 2 นี้สำคัญมากสำหรับนักกีฬาใหม่ครับ...สนามยาวเช่น 32 นัดควรจะเอาคะแนนเป็นหลักครับ เหตุผลเพราะสนามยาวยังไงเวลามันก็ต้องมากอยู่แล้วดังนั้นต้องตุนคะแนนไว้สูงๆครับ ดังนั้นยอมเสียเวลานิดแต่เอา A มากๆเข้าไว้ครับ ส่วนสนามสั้นเช่น 9 นัดต้องเร็วครับ เอาความเร็วเป็นหลัก อาจจะหลุดไป C บ้างก็ต้องยอมครับ เพราะยังไงๆคะแนนไม่เกิน 45 แต้ม...แถมอีกนิดครับ สนามกลางๆเช่น 14 นัด อันนี้ต้องการสมดุลย์ทั้งคะแนนและเวลาครับ...สรุปง่ายๆคือสนามยาวเน้นคะแนน...สนามสปีดเน้นเวลา...สนามขนาดกลางเน้นสมดุลย์ระหว่างเวลากับคะแนนครับ...อย่าลืมครับคราวหลังเข้าสนามแข่ง ดูว่าสนามแบบไหนแล้วยิงตามนี้เลยครับ ถ้าไม่เข้าใจถ้ามีคำถามค่อยทำแบบการคำนวณให้ดูครับ...ถ้าไม่สงสัยก็จบแค่นี้ครับ.. Grin Grin



ขอบคุณครับพระอาจารย์  เหมือนจุดเทียนในที่มืดเลย เข้าแจ่มแจ้งแล้วครับ Grin Grin Grin

สงสัยคนนี้พี่แชมป์จองตัวเป็นล่ามแน่เลยพี่เสือ  คิก คิก
พี่นาจาครับผมอยากได้ล่ามแปลไทยเป็นไทยครับ เพราะคุยกะคนไทยไม่ค่อยรู้เรื่อง อ่ะครับ

จริงอ่ะ สงสัยคนไทยพูดภาษาแม้ว  ขำก๊าก
บันทึกการเข้า

อยากสูงต้องเขย่ง อยากเก่งต้องขยัน
Phoenix
Hero Member
*****

คะแนน 81
ออฟไลน์

กระทู้: 3617


« ตอบ #249 เมื่อ: เมษายน 26, 2008, 10:18:53 AM »

พี่นาจาครับผมอยากได้ล่ามแปลไทยเป็นไทยครับ เพราะคุยกะคนไทยไม่ค่อยรู้เรื่อง อ่ะครับ

จริงๆครับสมัยนี้คนไทยแท้ๆบางครั้งพูดภาษาไทยไม่เข้าใจกัน ถามอย่างตอบอีกอย่างหรือไม่ก็ตอบแบบสั้นๆจนแทบไม่เข้าใจเลยครับ...ลูกๆผมก็เช่นกันครับ ต้องเตือนอยู่บ่อยๆ.
บันทึกการเข้า

Golf 17
Hero Member
*****

คะแนน 576
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2765



« ตอบ #250 เมื่อ: เมษายน 28, 2008, 08:00:29 AM »

มาเปิดหม้อต้มยำให้พระอาจารย์ครับ  Grin
บันทึกการเข้า

จะขอสู้จนกระสุน...นัดสุดท้าย ...


http://www.ipscthailand.com
เหมียวน้ำระทวย
"It Pays to be a Winner" ชัยชนะต้องมีค่าใช้จ่าย
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 30
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 544


CLASS ONE TEAM


« ตอบ #251 เมื่อ: เมษายน 28, 2008, 11:34:32 AM »

 ตกใจหน้าซีด ตกใจหน้าซีด ตกใจหน้าซีด

มาอ่านเรื่อยๆครับ
บันทึกการเข้า

คำครูสอน:ฝึกและศึกษาในแนวทางที่ถูกต้อง ใช้เวลาที่เหลือค้นหาแนวทางการปฏิบัติที่ถูกและดีที่สุด

Phoenix
Hero Member
*****

คะแนน 81
ออฟไลน์

กระทู้: 3617


« ตอบ #252 เมื่อ: เมษายน 28, 2008, 01:36:35 PM »

กลับมาหาสิ่งที่ผมเขียนไว้นะครับ

หลังจากคุณยิงดิวิชั่นแรกนี้ไปแล้ว เมื่อคุณคิดจะยิงดิวิชั่นอื่นต่อ นั่นแปลว่าเชื้อเข้าสู่ตัวคุณแบบถอนยากแล้วคุณถึงคิดจะยิงดิวิชั่นอื่น...ดังนั้นต้องมาคิดครับว่าอยากยิงอะไรต่อ ตรงจุดนี้เป็นเรื่องชวนถกเถียงจริงๆ...ถกได้ เถียงได้ นะครับ ไม่ผิดกติกาแน่นอน คิก คิก

สมมุติว่าเป็นผมและถ้าใจผมในวันนี้ผมคิดว่าดิวิชั่นที่น่ายิงต่อจาก Production แล้วควรจะเป็น Open ครับ...เดี๋ยว...ใจเย็นๆ อย่าเพิ่งค้าน ฟังผมว่าก่อนครับ ผมคิดว่าผมมีเหตุผลสนับสนุนนะ แต่จะเหมือนคนอื่นหรือไม่ๆทราบครับ ผมมาว่าถึงข้อดีและเสียในการยิง Standard ก่อนแล้วค่อยมาว่าถึง Open ที่ผมคิดทีหลังครับ

ถ้าจาก Production แล้วมายิง Standard ข้อดีมันจะเป็นดังนี้
1. การมองศูนย์ปืนง่ายมากเพราะเหมือนกันกับ Production คุณไม่ต้องหัดใหม่เลย
2. ตำแหน่งการใช้อุปกรณ์ที่เดิมทั้งหมด ไม่ต้องเปลี่ยนเลย
3. ราคาปืนถูกกว่า Open เล็กน้อย
4. สามารถใช้งานได้ด้วย(ยามจำเป็นสุดๆ)
สรุปแล้วคุณสามารถลงแข่งได้เลยหลังจากยิงเพื่อเข้ากับรีคอยล์ของปืนใหม่เท่านั้น

ข้อเสียคือ
1. คุณยังยิงปืนที่มีความรู้สึก..คล้าย...เดิม..รสชาติคล้ายเดิม
2. การต่อยอดใช้เวลามากกว่า...ผมจะอธิบายทีหลัง
3. คุณจ่ายต่ำกว่าปืน Open นิดเดียว

ในรายละเอียดเดี๋ยวเราไปลงที่ Standard อีกทีนะครับ

ทีนี้ถ้าเราโดดไปยิง Open เลยตามความคิดผม...อย่าลืมครับว่าในที่นี้หมายถึงคุณติดเชื้อ IP แบบเต็มตัวแล้ว
เอาข้อเสียก่อนครับ
1. คุณต้องมาหัดเรื่องศูนย์ปืนใหม่หมด เพราะคุณเปลี่ยนมายิงด๊อทแล้ว ดังนั้นต้องใช้เวลาเล็กน้อยในการหาด๊อท
2. ปืนราคาแพงกว่าเล็กน้อย แถมยุ่งยากกว่าเพราะต้องหาทางให้ปืนเข้ากับกระสุนที่จะใช้..Bullet Master
3. กระสุนต้องสั่งทำเป็นล๊อต
4. ถ้าจะเปลี่ยนตำแหน่งอุปกรณ์ คุณก็ต้องซ้อมใหม่อีก
5. อาจจะเสียการมองศูนย์ ถ้าจะยิงแบบศูนย์เปิดอีกก็ต้องกลับมาซ้อมมากหน่อยครับ

ข้อดีคือ
1. คุณจะยิงด้วยความรู้สึกที่แตกต่างกันไปเลย...รสชาติที่แตกต่างเต็มๆครับ
2. คุณหน้าจะยิงได้เร็วขึ้นเพราะถ้าคุณยิง Open แต่ช้าแบบ Production ไม่ทันกินแน่ๆครับ
3. การกลับไปมองศูนย์เปิด คุณจะเห็นศูนย์ทำงานได้ดีขึ้นอย่างแน่นอน
4. คุณจะยิงด้วยศูนย์ทั้ง 2 แบบในเวลาอันสั้นครับ
5. สำหรับคนสายตาไม่ดีจะยิงง่ายกว่าศูนย์เปิดมากครับ..เพราะเรามองเป้าให้ชัดอย่างเดียวแล้วเอาด๊อทมาทาบเท่านั้น ดังนั้นสายตาแบบไหนสามารถทำแว่นตาแบบปรกติมาใส่ในแว่นป้องกันก็ใช้ได้ครับ ซึ่งต่างกันกับศูนย์เปิดที่มองเห็นแต่ศูนย์ชัดเท่านั้น

ที่ผมบอกว่าใช้เวลาต่อยอดเร็วกว่ายิงดิวิชั่น Standard เพราะ เมื่อคุณยิงศูนย์เปิดมาก่อน คุณก็ใช้ศูนย์เปิดใน Standard ได้แต่ใช้ด๊อทยังไม่ได้ครับ พอคุณจะมายิง Open ในอนาคตคุณก็ต้องมาตั้งต้นอีก
อีกทั้งคุณจะได้หัดสปีดนิ้วและเห็นการทำงานของศูนย์แบบชัดจริงๆจากปืน Open

ดังนั้นถ้าเป็นผม ใจผมจะเลือกไปที่ Open ครับแล้วค่อยกลับมายิง Standard ทีหลัง ถ้าใครมีข้อเสริมหรือข้อแย้งก็เชิญครับ...เพื่อผมจะได้มองมุมมองอีกมุมหนึ่งครับ

สรุปแล้วโดยรวมครับ IPSC ยิงดิวิชั่นไหนก็สนุกทั้งนั้นครับเป็นความสนุกที่แตกต่างกัน ถ้าเทียบกับรถแข่ง
Production ก็คือ รถธรรมดาที่ซื้อมาแล้วเอามาแข่งโดยห้ามตกแต่ง
Standard ก็คือรถธรรมดาที่ซื้อได้ตามที่ขายแล้วเอามาแต่งโน่นนี่ได้บ้าง
Open ก็คือรถแข่งสูตรหนึ่งที่เร้าใจครับ
นักกีฬาต้องเลือกเองว่าชอบแบบไหน...ต้องดูงบในกระเป๋าตัวเองว่าเราสามารถจ่ายได้เท่าไหร่เพื่อจะไปแข่งดิวิชั่นไหนครับ...รายการที่เขียนจากเริ่มต้นถึงเดี๋ยวนี้นี่สำหรับมือใหม่ที่มีเพิ่งเริ่มคิดจะยิง IPSC โดยมีงบประมาณเป็นตัวกำหนดครับ...ขอจบแค่ตรงนี้แล้วจะมาเริ่มเขียนอย่างอื่นต่อครับ

ถ้าใครอยากให้เขียนเรื่องอะไรที่สนใจเป็นพิเศษก็บอกไว้ครับ จะพยายามหาข้อมูลมาให้...เดี๋ยวอาจจะมาเขียนเรื่องความคิดและความพร้อมของใจก่อนเข้ามายิง...ใจต้องพร้อมด้วยครับ ถ้าใจไม่พร้อมยากที่จะยิงได้ดีครับ
บันทึกการเข้า

mai_ipsc
Full Member
***

คะแนน 13
ออฟไลน์

กระทู้: 475


« ตอบ #253 เมื่อ: เมษายน 28, 2008, 02:43:41 PM »

เอาค่าใช้จ่ายแบบเด็กต่างจังหวัดบ้างนะครับ (เชียงใหม่)

ปกติที่เชียงใหม่จะมีการยิงกันทุกวันอาทิตย์ ประมาณ 100 นัด ค่าสนามอีก 300 เดินทางอีก 100
ดังนั้นค่าใช้จ่ายต่อครั้ง 1500-1600

ไปแข่งที่ ชลบุรี ตีรวมๆประมาณ 10,000 (กระสุน กิน แชร์ค่าเดินทางและที่พักกับกับเพื่อนๆที่ไปด้วยกัน)

ดังนั้นใน 1 ปี ถ้ายิงทุกอาทิตย์ และไปร่วมการแข่งขันที่ชลบุรี 4 ครั้ง ก็จะมีค่าใช้จ่าย ราวๆ 120,000 ต่อปี ใช้กระสุนไปราวๆ 6-7,000 นัด

แต่ถ้ายิงน้อยกว่านี้ เช่น เดือนละ 2 ครั้ง ไม่ไปแข่งที่อื่น รอแข่งที่เชียงใหม่อย่างเดียว(ปีละ 2 ครั้ง) ค่าใช้จ่ายจะเหลือประมาณ 5-60,000 ต่อปี
        สวัสดีครับ ขอออกความเห็นเล็กน้อย ในกรณีที่อ.ใหม่พูดถึงคือ การยิงประมาณ100นัดต่อสัปดาห์นั้นคือการยิงเพื่อทดสอบฝีมือไม่ได้รวมถึงการฝึกซ้อมประจำซึ่งใช้กระสุนประมาณ 300-600 ซึ่งแต่ละคนก็ซ้อมไม่เท่ากัน มากน้อยขึ้นอยู่กับว่ากำลังฝึกอะไรอยู่เฉลี่ยแล้วจะมากขึ้นเป็น1หรือ2เท่าตัว ในระยะแรกอาจจะใช้กระสุนมากหน่อยแต่ต่อไปพอเริ่มอยู่ตัวก็จะใช้น้อยลง

อ้อ...เข้าใจแล้วเป็นค่าแค่แข่งภายในเล่นๆ บู่ บู่...เพราะถ้าซ้อมกันอาทิตย์ละ 100 นัดแล้วยิงได้ขนาดนั้น...ผมต้องยอมจริงๆ... Grin Grin Grin

ที่น้องกันว่าไว้หมายถึง เฉลี่ยซ้อมอาทิตย์ ละ 450 รวม ยิงวันอาทิตย์ อีก 100 ใช่หรือไม่ ถ้าใช่ก็ตกปีละกว่า 30000 นัด ไม่น้อยเลยนะ ทอดตาทั่วแผ่นดินล้านนา จะมีจอมยุทธ์สักกี่ท่านที่สามารถซ้อมได้มากขนาดนี้

จริงๆนะครับพี่นก กลุ่มยิงปืนชาวเหนือมีการใช้กระสุนไม่มากนัก ตัวอย่างเช่น โอ่ง ทวีศักดิ์ บอย และอีกหลายๆคน แทบจะไม่มีโอกาสเข้าสนามในวันอื่นๆนอกเหนือจากบ่ายวันอาทิตย์เลย นี่คือที่มาที่โอ่งตั้งฉายาตัวเองว่า “โอ่งร้อยนัด” ส่วนบอยถ้าเป็นช่วงลำไยออกก็จะหายไปเลยเป็นเดือน แถมต้องแบ่งเวลาไปขี่ ATV อีก กลุ่มนี้ผมว่าใช้กระสุนราวๆ 4-6000 นัด/ปี

อย่างที่โอ๊คว่านั้นเป็นความจริง 2 เรื่องครับ
1.   ผมเป็น GM คนล่าสุด
       แต่โอ็คลืมบอกไปว่าผมแทบไม่ได้เห็นถ้วยรางวัลอีกเลย
2.   ผมใช้กระสุนน้อยมาก
       แต่โอ๊คลืมบอกไปว่าผมเคย dry fire เยอะมากๆๆ

แต่ที่โอ๊คว่าผมใช้ 3-400 นัด/เดือน ก็น่าจะน้อยไปหน่อย
ตัวผมน่าจะใช้กระสุนมากกว่ากลุ่ม “โอ่งร้อยนัด” อยู่บ้าง ปีนึงผมจะใช้กระสุนราวๆ 6-7000 นัด (ปี2550 ใช้กระสุนไปเยอะที่สุดเพราะไปแข่งที่ชลบุรีบ่อยกว่าปีก่อนๆ ใช้ไปเกือบๆ 8000 นัด) โดยปกติทุกอาทิตย์ผมจะยิงเปียกประมาณ 100-150นัด  แต่ช่วงไหนที่แรงฮึดมากๆยิงแห้ง เป็น 10000 นัด ต่ออาทิตย์นะครับ

 มีอยู่ช่วงนึงผมลองเพิ่มการยิงเป็นอาทิตย์ละ 250 นัด (150 นัด สำหรับซ้อมในวันธรรมดา และ 100 นัด ในวันอาทิตย์) ทำต่อเนื่องอยู่ซัก 2-3 เดือนมั๊ง ปรากฏว่าไม่มีอะไรดีขึ้นแถมเสียตังค์เพิ่มอีกตั้งเยอะ เลยเลิก ผมคิดว่าถ้าจะซ้อมกระสุนจริงให้ได้ผลคงต้องใช้กระสุนเป็นจำนวนมาก เช่นที่นักยิงปืนระดับโลกหลายๆคนว่าไว้คือ สภาวะปกติ ใน 1 อาทิตย์ ซ้อม 2-3 ครั้ง ครั้งละ 300 นัด ร่วมแข่งในแมชท์เล็กๆอีก 200 นัด รวมแล้ว อาทิตย์ละ 1000 นัด ก่อนการแข่งขันซ้อมเพิ่มอีกต่างหาก รวมๆแล้วปีละกว่า 70000 นัด (ผมยิงมา 8 ปี ยังไม่เท่าที่เขายิงใน 1 ปี เลย)

ตามหลักการทั่วๆไปก็แน่นอนครับซ้อมเยอะ ใช้กระสุนเยอะก็จะสามารถพัฒนาฝีมือได้เร็ว แต่ในทางกลับกันก็จะก้าวไปถึงเพดานของตัวเองเร็วเหมือนกัน และอาจทำให้เบื่อเร็วไปด้วยเช่นกัน และถ้าเรามีลูกฮึดเยอะๆ ใช้การยิงแห้งแบบมีเหตุผลมากๆ ก็สามารถพัฒนาตัวเองได้พอสมควรเหมือนกัน (แต่ต้องยิงแห้งแบบมีหลักการและเหตุผลนะครับ)


ที่ผมเขียนเรื่องนี้มีจุดประสงค์ประการเดียวคือ ให้นักกีฬาใหม่ๆที่อยากยิง IPSC ทราบว่าการยิง IPSC ไม่จำเป็นต้องใช้ตังค์มากมายก็สามารถมาร่วมสนุกกันได้ครับ ผมอยากบอกว่า มีกำลังทรัพย์เท่าไหร่ มีใจแค่ไหน ก็ให้กับมันแค่นั้น สนุกได้เหมือนๆกันครับ ใครก็ตามที่มีปืนและยิงปั้น X มาบ้าง สามารถยิง IPSC ได้ทุกคน ขอเพียงให้มีใจมาด้วยก็แล้วกัน

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 28, 2008, 02:47:26 PM โดย mai_ipsc » บันทึกการเข้า
mai_ipsc
Full Member
***

คะแนน 13
ออฟไลน์

กระทู้: 475


« ตอบ #254 เมื่อ: เมษายน 28, 2008, 02:56:56 PM »


สรุปแล้วโดยรวมครับ IPSC ยิงดิวิชั่นไหนก็สนุกทั้งนั้นครับเป็นความสนุกที่แตกต่างกัน ถ้าเทียบกับรถแข่ง
Production ก็คือ รถธรรมดาที่ซื้อมาแล้วเอามาแข่งโดยห้ามตกแต่ง
Standard ก็คือรถธรรมดาที่ซื้อได้ตามที่ขายแล้วเอามาแต่งโน่นนี่ได้บ้าง
Open ก็คือรถแข่งสูตรหนึ่งที่เร้าใจครับ
นักกีฬาต้องเลือกเองว่าชอบแบบไหน...ต้องดูงบในกระเป๋าตัวเองว่าเราสามารถจ่ายได้เท่าไหร่เพื่อจะไปแข่งดิวิชั่นไหนครับ...รายการที่เขียนจากเริ่มต้นถึงเดี๋ยวนี้นี่สำหรับมือใหม่ที่มีเพิ่งเริ่มคิดจะยิง IPSC โดยมีงบประมาณเป็นตัวกำหนดครับ...ขอจบแค่ตรงนี้แล้วจะมาเริ่มเขียนอย่างอื่นต่อครับ

ถ้าใครอยากให้เขียนเรื่องอะไรที่สนใจเป็นพิเศษก็บอกไว้ครับ จะพยายามหาข้อมูลมาให้...เดี๋ยวอาจจะมาเขียนเรื่องความคิดและความพร้อมของใจก่อนเข้ามายิง...ใจต้องพร้อมด้วยครับ ถ้าใจไม่พร้อมยากที่จะยิงได้ดีครับ


 Grin
ขอเปลี่ยนเป็น
Production ก็คือ รถธรรมดาที่ซื้อมาแล้วเอามาแข่งโดยห้ามตกแต่งให้กรรมการเห็น
เพราะ ตามความเป็นจริงแต่งปืนกันทุกคน

Open ก็คือรถแข่งสูตรหนึ่งที่ตื่นเต้นและเร้าใจที่สุด โดยเฉพาะเวลาแข่ง
เพราะ ปืน Open เป็นปืนที่จุกจิกและติดขัดง่ายเป็นที่สุด

 Grin
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 28, 2008, 02:59:39 PM โดย mai_ipsc » บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 14 15 16 [17] 18 19 20 ... 37
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.379 วินาที กับ 24 คำสั่ง