๏ฟฝ๏ฟฝ็บบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝสน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาปืน
เมษายน 25, 2024, 12:28:46 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2 3 4 5
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: คิดยังไงกับนักรบพิเศษของประเทศอดีตคอมมิวนิสต์กัน  (อ่าน 17437 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เอกราช
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: กรกฎาคม 17, 2005, 06:55:24 PM »

เคยได้ยินจากผู้ใหญ่ระดับพล.ท.ท่านหนึ่งเล่าให้ฟังว่า การรบที่ร่มเกล้า นอกจากทหารเวียดนาม แล้วยังมี รบพิเศษจากคิวบา และสเปซนาซ ของพี่หมีเข้ามารบด้วย แล้วพี่ๆในนี้คิดอย่างไรก็กับพวกรบพิเศษ ของดีตชาติคอมมิวนิสต์กันครับ
บันทึกการเข้า
51
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1 เมื่อ: กรกฎาคม 17, 2005, 07:34:00 PM »

Spetnaz................Spetsialnoye nazranie

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]
บันทึกการเข้า
srimalai_รักในหลวง
คนธรรมดา
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 183
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3381


« ตอบ #2 เมื่อ: กรกฎาคม 17, 2005, 09:05:54 PM »

ที่คนของเราตายเยอะไม่ใช่เพราะมีฝรั่งตาน้ำข้าวมาช่วยลาวรบ จากสาเหตุอะไรถามท่านผู้การหลายคนในเว็บ ครับ ท่านทราบดี
บันทึกการเข้า

อันอ้อยตาลหวานลิ้นแล้วสิ้นซาก  แต่ลมปากหวานหูไม่รู้หาย
แม้นเจ็บอื่นหมื่นแสนก็แคลนคลาย  เจ็บจนตายนั้นเหน็บให้เจ็บใจ
เป็นมนุษย์สุดนิยมเพียงลมปาก  จะได้ยากโหยหิวเพราะชิวหา
แม้นพูดดีมีคนเขาเมตตา  จะพูดจาจงพิเคราะห์ให้เหมาะความ
Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4087
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20181


1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน


« ตอบ #3 เมื่อ: กรกฎาคม 17, 2005, 10:08:34 PM »

 Smiley.ไม่ขอมีความเห็นครับ. เพราะยังไม่เห็นประโยชน์ด้านบวก.. Huh.
   
บันทึกการเข้า

มะขิ่น
Hero Member
*****

คะแนน 2453
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17813


"ทหารแก่ไม่มีวันตาย แต่จะค่อยๆเลือนหายไป"


« ตอบ #4 เมื่อ: กรกฎาคม 17, 2005, 10:20:04 PM »

ตามฐานข่าว..............พวกนี้ไม่ได้เข้ารบด้วยครับ
บันทึกการเข้า

อย่าดึงฟ้าต่ำ  อย่าทำหินแตก  อย่าแยกแผ่นดิน
ไม่ค่อยแม่น รักในหลวง
ฉายเดี่ยวหมื่นลี้
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 218
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 7436


นิสัยน่ารัก แต่ปากหมามุ่ย


« ตอบ #5 เมื่อ: กรกฎาคม 17, 2005, 10:32:59 PM »

 ตกใจ งง!!!  ตกใจ ครับ เห็นเรื่องอะไรครับ ตกใจ
บันทึกการเข้า

"อยากไปไหน ไปทุกที่  ถ้ามีตังค์"

ถึงจะไม่ได้รวยล้นฟ้า  แต่ข้าก็มีแผ่นดินจะอาศัย

ถึงจะไม่ได้มีอำนาจมากมาย  แต่ก็ได้ตายในแผ่นดินเกิด.....ล่ะวะ
USP40
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #6 เมื่อ: กรกฎาคม 17, 2005, 11:36:59 PM »

ตกใจ งง!!! ตกใจ ครับ เห็นเรื่องอะไรครับ ตกใจ
สงสัยตอนเกิดเรื่อง ยังละอ่อน อยู่  Grin Grin
บันทึกการเข้า
rute - รักในหลวง
Forgive , But not Forget .
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1990
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 22741


"ผลิดอกงามแตกกิ่งใบ..."


« ตอบ #7 เมื่อ: กรกฎาคม 18, 2005, 02:01:13 AM »

spetznaz มาจริงๆเลยหรือคับ...

สุดยอดพอๆกะหน่วย เดลต้า ของอเมกาใช่ไหมคับ...Smiley
บันทึกการเข้า
mon2519
Full Member
***

คะแนน 0
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 201


« ตอบ #8 เมื่อ: กรกฎาคม 18, 2005, 06:02:14 AM »

ตอนนั้นรู้สึกว่าผมจะเริ่มเรียน รด ปีหนึ่งมีครูฝึกที่ ป.พัน7 หลายท่านที่มีโอกาสไปร่วมรบพอขึ้นปี2 ก็เลยมีเรื่องเล่าจากประสบการณ์ของบรรดาครูฝึกถ่ายทอดมาสู่ นศท เยอะเหมือนกันครับ แต่เป็นในทางที่ไม่ค่อยhappyเท่าไหร่จริงเท็จประการใดผมไม่กล้ายืนยันเพราะได้ยินจากคำบอกเล่าของครูฝึกอีกที ด้วยความเคารพ
บันทึกการเข้า

ปลายนิ้วกำหนดชีวิตคุณ
vichai01++รักในหลวง++
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 111
ออฟไลน์

กระทู้: 2779



« ตอบ #9 เมื่อ: กรกฎาคม 18, 2005, 08:12:13 AM »

 Grin Grin Grinตอนร่มเกล้าผมกะลังจะไปฝึกภาคสนามที่เขาชนไก่พอดี ครูฝึกเขายังบอกเลยว่าถ้ามันรบกันรุนแรงขึ้นและกำลังเราไม่พอ ฝึกพวกเอ็งเสร็จแล้วครูก็จะตามขึ้นไป Grin Grin Grin
บันทึกการเข้า

คาถาป้องกันภัยพิบัติทั้งปวง
ปะโตเมตัง ปะระชิวินัง สุขะโต จุติ
จิตะเมตะ นิพพานัง สุขะโตจุติ
USP40
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #10 เมื่อ: กรกฎาคม 18, 2005, 08:19:38 AM »

ถ้าจำไม่ผิดสมัยก่อน พล๙ เป็นกองพลขึ้นตรงกับ ผบทบ ( ผิด ถูก ต้องขออภัยด้วย) หลังเหตุการณ์ พยายามทำรัฐประหาร ได้ถูกเปลี่ยนมาขึ้นตรงกับ กองทัพภาค 1 ( Huh) ไม่ใช้หรือครับ ถ้าใช่เหตุการณ์ ที่ร่มเกล้าไม่ใช่พื้นที่รับผิดชอบของ พล๙ นี่ครับ
ต้องให้ ผู้การสุพิน กับ ผู้การ มะขิ่น มาอธิบายให้ฟัง   Wink
บันทึกการเข้า
มะขิ่น
Hero Member
*****

คะแนน 2453
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17813


"ทหารแก่ไม่มีวันตาย แต่จะค่อยๆเลือนหายไป"


« ตอบ #11 เมื่อ: กรกฎาคม 18, 2005, 08:34:49 AM »

กองพลทหารราบที่ 9 จัดตั้งหลังจากที่ สงครามเวียดนามยุติ............

จัดตั้งครั้งแรก เป็นหน่วยขึ้นตรง ทบ.ครับ.............ต่อมาแปรสภาพเป็นพล ร.เบา และขึ้นตรงกับ ทภ.1

ปัจจุบัน อยู่ในประเภท พล ร.เบาพิเศษ..............เป็นพล ร. เคลื่อนที่เร็ว คล้าย หน่วยเคลื่อนที่เร็วอื่นๆ แต่อาวุธไม่หนักเท่า..........

บ.ร่มเกล้า อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก............เป็นพื้นที่รับผิดชอบของ ทภ.3 ครับ
บันทึกการเข้า

อย่าดึงฟ้าต่ำ  อย่าทำหินแตก  อย่าแยกแผ่นดิน
USP40
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #12 เมื่อ: กรกฎาคม 18, 2005, 08:40:38 AM »

กองพลทหารราบที่ 9 จัดตั้งหลังจากที่ สงครามเวียดนามยุติ............

จัดตั้งครั้งแรก เป็นหน่วยขึ้นตรง ทบ.ครับ.............ต่อมาแปรสภาพเป็นพล ร.เบา และขึ้นตรงกับ ทภ.1

ปัจจุบัน อยู่ในประเภท พล ร.เบาพิเศษ..............เป็นพล ร. เคลื่อนที่เร็ว คล้าย หน่วยเคลื่อนที่เร็วอื่นๆ แต่อาวุธไม่หนักเท่า..........

บ.ร่มเกล้า อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก............เป็นพื้นที่รับผิดชอบของ ทภ.3 ครับ
ขอบคุณครับ ผู้การ 
บันทึกการเข้า
Dan wesson
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #13 เมื่อ: กรกฎาคม 18, 2005, 08:56:02 AM »

สงครามบ้านร่มเกล้าเกิดจากกรณีพิพาทระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ณ บ้านร่มเกล้า อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก อันเนื่องมาจากปัญหาเส้นเขตแดนที่อ้างสนธิสัญญาคนละฉบับ

ลาวได้ส่งกำลังทหารเข้ามายึดพื้นที่ส่วนที่เป็นปัญหา ไทยส่งกำลังทหารเข้าผลักดัน เกิดการปะทะกันด้วยกำลังทหารของทั้ง 2 ฝ่ายอย่างหนักหน่วงในช่วงเดือนธันวาคม 2530 ไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2531 มีการหยุดยิงเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2531

เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงปลายของยุคพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์

ทั้งนี้โดยมีพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา 15 ปี มีผู้ใช้เรื่องนี้กล่าวหาพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ในทางดูถูกดูแคลน

ทั้ง ๆ ที่ในความเป็นจริงแล้ว ผมเชื่อว่าสงครามร่มเกล้าครั้งนั้นเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดี ชั้นมหาโยธิน

ความจริง ถ้าคำนึงถึงข้อเท็จจริงว่าผู้ที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดีนี้จะต้องดื่มน้ำพระพิพัฒน์สัตยาแช่คมหอกคมดาบและผ่านพิธีโองการแช่งน้ำ ในอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาดาราม (วัดพระแก้ว) ซึ่งก็คือการดื่มน้ำถวายสัตย์สาบานต่อองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถือเป็นเกียรติยศสูงสุดแก่นายทหารและข้าแผ่นดิน ข้อกล่าวหาทั้งหลายก็ไม่น่าจะเกิดขึ้นแล้ว

แต่หลายปีมานี้พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธก็ดี กองทัพไทยก็ดี ต่างไม่ปริปากพูดถึงเรื่องนี้ ยอมกลืนเลือดข่มกล้ำความเจ็บช้ำน้ำใจที่อาจจะมีอยู่บ้างไว้ ผมเชื่อว่า เหตุผลหนึ่งก็เพื่อไม่ต้องการให้กระทบกระเทือนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

ทำให้นักฉวยโอกาสเหยียบย่ำซ้ำเติมมาโดยตลอด

สงครามบ้านร่มเกล้าไม่น่าจะเป็นเพียงไทยรบกับลาว หากแต่มีเวียดนามยืนอยู่เบื้องหลัง เป็นจุดล่อแหลมครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ไทย

ความลับที่ไม่เคยเปิดเผยคือไทยได้รับความช่วยเหลือจากจีนในครั้งนั้นด้วย !

ก่อนอื่น ต้องทำความเข้าใจสถานการณ์ของบ้านร่มเกล้าเสียก่อน

ตามสนธิสัญญาระหว่างไทยกับฝรั่งเศส พ.ศ. 2451 กำหนดให้ลำน้ำเหืองเป็นเขตแดนสยาม-ฝรั่งเศส แต่ปีถัดมาพนักงานสำรวจทำแผนที่พบว่ามีน้ำเหือง 2 สาย ฝรั่งเศสตัดสินเอาเองโดยไม่ได้แจ้งให้กรุงเทพฯทราบ เลือกสายน้ำที่ทำให้ตนได้ดินแดนมากขึ้นหน่อย ลาวรับช่วงถือเขตแดนนี้

แต่ลำน้ำเหือง 2 สายนั้นไม่ตรงกับแนวลำน้ำในปัจจุบันที่ปรากฏในแผนที่สหรัฐทำให้รัฐบาลไทยช่วงสงครามเวียดนาม ลำน้ำในปัจจุบันเรียกว่าเหืองป่าหมัน ไม่ใช่ชื่อที่เคยปรากฏในเอกสารใด ๆ เมื่อพ.ศ. 2450 - 2451

เขตแดนตรงนั้นไม่มีปัญหาอะไร จนกระทั่งปี 2530 ลาวอ้างว่าบริเวณบ้านร่มเกล้าเป็นของลาว เนื่องจากแผนที่คนละฉบับกับไทย ซึ่งอาจจะเกิดจากความผิดพลาดในการสำรวจเมื่อปี 2450

ช่วงปี 2510 - 2520 พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) เคลื่อนไหวรุนแรงที่จะยึดอำนาจรัฐ พื้นที่ติดต่อเขตลาวในเขตนี้ ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของชาวเผ่าม้ง ถูกใช้เป็นพื้นที่หลบซ่อนและปฏิบัติการ เพราะสามารถข้ามลำน้ำเหืองเข้ามาในเขตไทยได้ง่าย และบริเวณพื้นที่นี้กลายเป็นยุทธบริเวณอันสำคัญระหว่างทหารกับพคท.

ชาวม้ง ซึ่งเป็นแนวร่วมสำคัญของพคท. ถูกปราบปรามอย่างหนัก หนีข้ามลำน้ำเหืองเข้าไปในเขตลาว

ช่วงปี 2525 สถานการณ์ในอินโดจีนเปลี่ยนแปลง ประกอบกับนโยบาย 66/2523 ของรัฐบาลไทยคือใช้ยุทธศาสตร์ “การเมืองนำทหาร” ทำให้ชาวม้งตัดสินใจกลับเข้ามาตามโครงการเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย กองทัพภาคที่ 3 ได้ตัดถนนสายยุทธศาสตร์และแนวชายแดนจากอำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย ขึ้นไปสิ้นสุดที่บ้านร่มเกล้า

กลายเป็นเขตสัมปทานป่าไม้ มีการจัดตั้งชุดทหารพรานคุ้มครองที่ 3405 ขึ้น

และนั่นคือจุดเริ่มต้นของปัญหา !

วันที่ 31 พฤษภาคม 2530 ทหารลาวยกกำลังเข้ามาในพื้นที่ซึ่งฝ่ายไทยอ้างว่าอยู่ในเขตอำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก ทำลายรถแทรกเตอร์ของบริษัทป่าไม้เอกชนเสียหาย 3 คัน มีผู้เสียชีวิต 1 คน หายสาบสูญ 1 คน ทหารพรานชุด 3405 เข้าปะทะกับทหารลาว

วันที่ 1 มิถุนายน 2530 ทหารลาวเข้าโจมตีม้งที่บ้านร่มเกล้า โดยอ้างว่าเป็นการกวาดล้างม้งที่เคลื่อนไหวต่อต้านทางการลาว และมีทหารลาวอีกชุดหนึ่งยกกำลังข้ามพรมแดนเข้ามาที่เขตบ้านนาผักก้าม และบ้านนากอก อำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย ยิงราษฎรไทยตาย 1 คน จับกุมตัวไป 6 คน หนีรอดมา 1 คน โดยกล่าวหาว่าราษฎรเหล่านั้นลักลอบเข้าไปตัดไม้ในลาว

ฯลฯ

ขณะนั้นสหรัฐเผ่นออกไปจากเอเชียแล้ว ทิ้งอาวุธยุทโธปกรณ์จำนวนมากไว้ในเวียดนาม ทางอีสานใต้มาถึงตะวันออกกองพลใหญ่ของเวียดนามจ่อคอหอยอยู่ ทางอีสานเหนือภายใต้ชื่อทหารลาว แต่ความจริงน่าจะเป็นกองกำลังผสมของหลายชาติ โดยมีชาติมหาอำนาจยืนทะมึนอยู่ข้างหลัง ทั้งได้ใช้เทคโนโลยีสูงยิ่งในการบัญชาการ

ยามนั้นกองทัพไทยปกป้องเอกราชอธิปไตยจนแม้กระสุนปืนใหญ่ก็ไม่เหลือ ที่ระดมมาจากมิตรประเทศในอาเชียนก็หมดสิ้น

พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธสั่งการให้อดีตทูตไทยประจำสาธารณรัฐประชาชนจีน คือ พ.อ.อมรรัตน์ จินตกานนท์ ร่วมกับ “คณะทำงานลับ” คนหนึ่ง และทีมงานของเขา ติดต่อประสานงานกับกองทัพจีน

นำไปสู่กระบวนการ “วิธีการพิเศษ” ลำเลียงทั้งปืนใหญ่และกระสุนจากจีนมาใช้ !

ปืนใหญ่และกระสุนปืนใหญ่ชุดนั้นมีความหมาย 2 นัย นัยแรกตรงไปตรงมา คือเป็นยุทโธปกรณ์เสริมและทดแทน นัยที่

สองที่อาจจะสำคัญกว่าก็คือเป็นเสมือนสัญลักษณ์ของ “สาส์น” ที่ต้องการ “สื่อ” ต่อฝ่ายตรงกันข้าม

ลักษณะกระสุนชนิดใหม่ที่ถูกยิงออกไปทำให้เกิดความเข้าใจว่าศึกครั้งนี้ไทยไม่ได้รบโดยโดดเดี่ยวแล้ว จึงเป็นหนึ่งใน

เหตุผลสำคัญที่ทำให้มีการเจรจา และถอนทหารออกจากแนวรบ

อาจกล่าวได้ว่าเป็นชัยชนะโดยไม่ต้องรบ

แน่นอนว่าวิถีทางในการรักษาเอกราชอธิปไตยของชาตินับแต่ประวัติศาสตร์มา คือ วิถีทางการทูต และวิถีทางการทหาร ต้องใช้วิธีทั้งสองตามสถานการณ์ และอย่างพลิกแพลง มีแต่คนโง่เท่านั้นที่ใช้แต่ทางใดทางหนึ่ง คำพูดที่ว่า “สู้ตาย” เป็นเรื่องเหลวไหลที่นักการทหารชั้นยอดจะไม่ยอมใช้ เพราะเขาใช้แต่คำว่าสู้เพื่อชนะ เพื่อบรรลุเป้าหมายทางยุทธศาสตร์

เป้าหมายทางยุทธศาสตร์ของไทยคือการรักษาเอกราชอธิปไตยของไทยโดยไม่ให้บอบช้ำต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ

หลังจากเหตุการณ์ร่มเกล้าแล้ว ความจริงคนไทยควรจะได้รู้ว่าใครคือมิตรแท้ แต่การนำความจริงมาเปิดเผยในบาง

สถานการณ์ย่อมไม่เป็นผลดี เช่น สมมติว่าในช่วงนั้นประกาศให้รู้ทั่วกันว่าไทยไม่ได้รบกับลาวประเทศเดียว ก็เสมือนเท่า

กับประกาศสงครามกับเวียดนามและสหภาพโซเวียตโดยตรง มีหรือที่ศึกจะไม่ใหญ่ขึ้น และถ้าเป็นเช่นนั้นใครจะรับผิด

ชอบต่อเอกราชอธิปไตยของชาติ


เมื่อตอบคำถามนี้ก็จำเป็นอยู่เองที่จะต้องกล่าวว่า เป็นโชคดีของประเทศไทยที่พคท.กับเวียดนามและลาวเข้ากันไม่ได้ ขณะเดียวกันจีนก็หันมาสัมพันธ์กับไทยในลักษณะรัฐต่อรัฐ มากกว่าพรรคต่อพรรค

นี่เป็นผลส่วนหนึ่งจากที่การที่พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธเดินทางไปเจรจาความเมืองกับเติ้งเสี่ยวผิงในขณะนั้น !


พายัพ วนาสุวรรณ 5 พ.ย. 46 
 
 

http://www.manager.co.th/Politics/PoliticsQAQuestion.asp?QAID=2300
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 18, 2005, 11:04:17 AM โดย Dan wesson » บันทึกการเข้า
Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4087
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20181


1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน


« ตอบ #14 เมื่อ: กรกฎาคม 18, 2005, 10:29:23 AM »

Smiley.ขอบคุณมากครับ คุณ Dan wesson .. ที่กรุณานำบทความนี้มาให้อ่าน.  ผมเคยได้อ่านข้อเท็จจริง เกี่ยวกับเรื่องกรณีพิพาท. ทำนองนี้แล้ว ที่ไหนสักแห่งจำไม่ได้.. มันเป็นเรื่อง sesitive. มาก.. เกินว่าจะมีความเห็นใด ใด .. Smiley
บันทึกการเข้า

หน้า: [1] 2 3 4 5
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.084 วินาที กับ 22 คำสั่ง