พี่น้องว่าทองปีนี้จะไปบาทละเท่าไหรครับ

(08/01/08) ราคาทองวันนี้มีการเปลี่ยนแปลง
ครั้งที่ เวลา +/- ซื้อ ขาย goldspot usd-thb
1 9:26 50 13450 13550 862.5 33.34
2 15:09 50 13500 13600 867 33.31
3 15:26 50 13550 13650 873 33.32

เพียง แค่สัปดาห์แรก (2 ม.ค.-4 ม.ค.) หลังเปิดศักราชปีหนู 2551 ทั้งค่าเงินบาท ราคาทองคำ และราคาน้ำมัน ก็กลับมาเป็นประเด็นร้อนทอล์คออฟเป็นทาวน์อีกครั้ง หลังราคาทองคำและราคาน้ำมันในตลาดโลก แข่งกัน ‘ทุบ’ สถิติใหม่แบบรายวัน

ราคาทองคำในตลาดโลกทำนิวไฮ ล่าสุด เมื่อ 4 มกราคม 2551 ขึ้นไปยืนแตะระดับ 865 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ซึ่งเป็นราคาที่สูงที่สุดในรอบ 28 ปี ทั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญวงการค้าทองมองทิศทางราคาทองคำหลังทำนิวไฮรอบนี้ไว้ 2 ด้านๆหนึ่งคือ ราคาไปต่อ คือ ราคาทองคำอาจขึ้นไปถึง 900 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ อีกด้านหนึ่งคือ ราคาทองคำอาจจะสวิงผันผวนกลับมายืนที่ระดับราคาเดิมในไม่ช้า

เซียนวง การค้าทองคำ ชี้มูลเหตุหลัก ที่ดันให้ราคาทองคำพุ่ง มาจากแรงเก็งกำไรของกองทุนต่างๆ โดยเฉพาะในภาวะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่มีแนวโน้มอ่อนค่าต่อเนื่อง ยิ่งทำให้นักลงทุนมอง ‘ทองคำ’ เป็นสวรรค์ของการลงทุน หลังจากเก็งกำไรค่าเงินดอลลาร์ และราคาน้ำมันในช่วงก่อนหน้านี้มาแล้ว

อีก ปัจจัยที่ทำให้ความต้องการทองคำเพิ่มขึ้นคือ ราคาน้ำมัน เพราะราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นต่อเนื่องทำให้เกิดความกังวลว่า อาจจะเกิดเงินเฟ้อทั่วโลก แนวโน้มดังกล่าว ทำให้ทองคำยิ่งตกเป็นเป้าหมายของการลงทุน เพราะในสถานการณ์ที่ราคาสินค้าขยับขึ้นเรื่อยๆสวนทางกลับค่าของเงิน มีเพียงทองคำเท่านั้นที่มีภูมิต้านทานเงินเฟ้อได้

ถนนทุกสายมุ่งสู่ทอง

ด้วย คุณสมบัติดังกล่าวความต้องการ"ทองคำ"จึงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ตัวอย่างที่ชัดคือ ช่วงที่ผ่านมาธนาคารกลางหลายประเทศเริ่มทะยอยลดสัดส่วนการถือครองดอลลาร์ สหรัฐฯในทุนสำรอง แล้วหันมาลงทุนในทองคำมากขึ้น เช่น กรณีของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ซึ่งในทุนสำรองระหว่างประเทศมีสัดส่วนที่เห็นทองคำอยู่ ณ วันที่ 28 ธ.ค. 2551 อยู่ที่ 2,233.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 75,321.9 ล้านบาท เทียบกับ ณ วันที่ 5 ม.ค. 2550 ที่มีทองคำเป็นทุนสำรองฯอยู่ 1,633.02 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 58,656.52 ล้านบาท

นอกจากนี้การที่ ราคาน้ำมันถูกคาดหมายว่ายังไปได้อีก ทั้งที่เพิ่งทุละผ่านหลัก 100 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบราเรล์ในบางช่วง ตั้งแต่วันแรกของปี 2551 โดยสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบไลต์สวีตครูดสำหรับส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ที่ตลาดไนแมกซ์ในนิวยอร์ค เมื่อ 2 ม.ค. 2551 ซึ่งช่วงหนึ่งได้ทะลุ 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะดันราคาทองคำในอยู่ในภาวะขาขึ้นต่อไป

****เซียนทองคำยังตะลึง

ต่อ สถานการณ์ดังกล่าว เซียนในวงการทองคำของเมืองไทยอย่าง ‘จิตติ ตั้งสิทธิภักดี’ ผู้จัดการห้างทองจินฮั้วเฮง ในฐานะนายกสมาคมค้าทองคำ ให้สัมภาษณ์กับ ‘ฐานเศรษฐกิจ’ ว่า ตนไม่กล้าฟันธงต่อว่าราคา ทองคำจะปรับขึ้นไปถึงระดับใด ในความเห็นของตน ราคาทองคำอาจจะปรับขึ้นได้อีกเล็กน้อยจากระดับ 865 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรืออาจจะมีโอกาสถึง 900 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ แต่คงไม่ใช่ในเร็วๆนี้

จิต ติมองว่า หากราคาทองคำลากยาวไป ถึงเทศกาลตรุษจีนในวันที่ 7-8 กุมภาพันธ์ 2551 ก็จะมีผลกระทบต่อกำลังซื้อของประชาชนอย่างแน่นอน พร้อมกันนั้น จิตติ ได้ ยกประสบการณ์ที่อยู่ในแวดวงค้าทองคำ มาเปรียบเทียบ 2 สถานการณ์ซึ่งเป็นช่วงที่ราคาทองคำทำสถิติสูงสุดที่ระดับ 865 ดอลลาร์สหรัฐว่า เมื่อ 28 ปีที่แล้วเศรษฐกิจดีมาก ราคาทองคำ (21 ม.ค.2523) ทำสถิติสูงสุดที่ 865 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ แต่ในวันรุ่งขึ้นราคาทองคำก็ปรับลดลงถึง 120 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือหากคิดเป็นราคาซื้อขายในเมืองไทย ราคาก็ลดลงถึง บาทละ 1,200 บาท

แต่ สถานการณ์ปัจจุบัน จิตติ ไม่แน่ใจว่า การเคลือนไหวของราคาทองคำจะซ้ำรอยเหตุการณ์ในอดีตหรือไม่ ประเด็นที่เขากังวลคือ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐไม่มีเสถียรภาพ เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัว ราคาน้ำมันปรับราคาสูง ปัญหาการก่อการร้ายที่เกิดขึ้นทั้งกรณีลอบสังหารนางเบนาซีร์ บุตโต อดีตนายกรัฐมนตรีปากีสถาน และเหตุรุนแรงในไนจีเรียและเคนยา

จาก ปัจจัยดังกล่าว ต้องกลับมานั่งวิเคราะห์กันใหม่ว่า ยังมีปัจจัยอื่นๆที่ซ่อนอยู่อีกหรือไม่ เช่น ความน่ากังวลของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่มีแนวโน้มอ่อนค่าลง จนถึงขั้นไร้เสถียรภาพ ทำให้มีการหันไปถือทองคำเพื่อเฉลี่ยความเสี่ยง

"หลาย ปีที่ผ่านมาในช่วงต้นปีของทุกปี ราคาทองคำจะไม่ปรับตัวหวือหวาเหมือนในปีนี้ ซึ่งหากเทียบต้นปี 2551 กับต้นปี 2550 ราคาทองปรับราคาขึ้นถึง 30% และในปีนี้ทั้งปีอาจมีโอกาสที่ราคาทองจะปรับขึ้นอีก 10% โดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์แรกของปีที่ราคาทองปรับราคาขึ้นแล้วถึงบาทละ 700 บาท (ราคาทองคำปลายปี 2550 อยู่ที่บาทละ 12,900 บาท และเมื่อวันที่ 4 ม.ค.อยู่ที่ 13,600 บาท)" นายจิตติกล่าวในที่สุด

จับตาจีนเปิดค้าทองคำล่วงหน้า

ขณะ ที่ ‘พิชญา พิสุธิกุล’ ผู้จัดการห้างทองเลี่ยงเส็งเฮงพาณิชย์ เลขาธิการสมาคมค้าทองคำ ชี้สาเหตุของราคาทองคำที่ปรับราคาสูงทำสถิติในครั้งนี้ในมุมมองเดียวกันกับ จิตติ และเขาเสริมว่า การที่ ในวันที่ 9 มกราคม 2551 นี้ ประเทศจีนจะเปิดให้มีการซื้อขายทอง คำล่วงหน้าได้อย่างเป็นทางการ ทำให้กองทุนและนักลงทุนต่างๆหันมาซื้อทองคำเก็บไว้มากขึ้น เพื่อรอเก็งกำไร เพราะตลาดซื้อขายทองคำของจีนก็เป็นตลาดที่ใหญ่

ทั้งนี้ สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่าตลาดซื้อขายทองคำล่วงหน้าเซี่ยงไฮ้ จะเปิดขายทองคำล่วงหน้าอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 ม.ค. 2551 หลังจากที่ได้รับอนุญาตให้มีการซื้อขายตั้งแต่เดือนกันยายน 2550 พร้อมทั้งยังระบุการซื้อขายล่วงหน้าจะมีขนาดของการซื้อขายที่กำหนดไว้ขั้น ต้นที่ 1,000 กรัม โดยที่นักลงทุนรายย่อยไม่ได้รับอนุญาตให้มีการซื้อขาย ซึ่งประเทศจีนเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการผลิตทองคำ โดยในปีค.ค.2006 หรือปี พ.ศ.2549 จีนมีกำลังการผลิตทองคำเพิ่มขึ้น 7.15 % เป็น 240.08 ตันต่อปี

อย่าง ไรก็ตาม สถานการณ์ราคาทองคำที่ปรับราคาสูงขึ้น ทำให้เริ่มมีความกังวลสำหรับผู้ประกอบการค้าทองคำในฮ่องกงและจีน ซึ่งมักจะซื้อทองเข้ามาสต็อกไว้ 2-3 สัปดาห์ก่อนหน้าที่จะถึงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งราคาทองคำที่ปรับขึ้นอาจมีผลต่อกำลังซื้อของลูกค้า แต่ก็ยังมีความเป็นไปได้ที่สถานการณ์ค่าเงินหยวนที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบ กับดอลลาร์สหรัฐจะช่วยชะลอการเพิ่มขึ้นของราคาทองคำ นอกจากนี้ยังมีการระบุว่าดีลเลอร์ในอินโดนีเซียและไทย มีการทำกำไรจากแนวโน้มราคาทองคำกันมาก

ยังมีรายงานว่า ในปี 2550 เป็นปีที่ราคาทองคำขยับราคามากกว่า 30% เป็นการเพิ่มสูงสุดนับตั้งแต่ปีพ.ศ. 2522 เป็นต้นมา ด้วยเหตุผลที่ผู้บริโภคมองว่าการลงทุนในทองคำเป็นช่องทางที่ปลอดภัย โดยเฉพาะในภาวะที่เงินดอลลาร์สหรัฐมีแนวโน้มอ่อนค่า และตลาดสินเชื่อของโลกย่ำแย่ และราคาน้ำมันปรับราคาในระดับสูง ยิ่งทำให้มีคนที่สนใจซื้อทองคำเก็บไว้มากขึ้น

**** บาทแข็งชะลอราคาทองพุ่ง

สถานการณ์ ค่าเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลบวกในแง่ที่ช่วยชะลอการแข็งค่าของราคาซื้อขายทองคำในประเทศไทยไม่ให้ ปรับราคาสูงขึ้นมาก และเป็นผลดีต่อผู้ประกอบการที่ต้องมีการนำเข้าทองคำ แต่ในสถานการณ์ปัจจุบันซึ่งกำลังซื้อของประชาชนลดลง ผู้ประกอบการส่วนใหญ่เน้นส่งออกทองคำขายต่างประเทศ มากกว่าที่จะขายปลีกในประเทศ

สำหรับความเคลื่อนไหวของราคาซื้อขาย ทองคำในประเทศที่นับตั้งแต่เปิดศักราชปี 2551 ราคาซื้อขายทองคำแท่งและทองคำรูปพรรณ ในช่วง 3 วันแรก ของปี 2551 ปรับราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หรือปรับราคาขึ้นบาทละ 150 บาท โดยในแต่ละวันราคาทองมีการปรับราคาขึ้นหลายครั้ง

โดยเมื่อวัน ศุกร์ที่ 4 ม.ค.2551 ราคาทองในช่วงวันปรับราคา 1 ครั้งจากที่เปิดขายทองคำแท่งอยู่ที่บาทละ 13,600 บาท และราคาขายทองรูปพรรณอยู่ที่บาทละ 14,000 บาท ปรับราคาลดลง 50 บาท โดยราคาขายทองคำแท่งอยู่ที่ 13,550 บาท และราคาขายทองคำรูปพรรณลงมาอยู่ที่ 13,950 บาทในช่วงบ่าย ขณะที่วันที่ 3 ม.ค. ซึ่งราคาซื้อขายทองคำมีการปรับราคาถึง 3 ครั้ง คือ ช่วงเช้า ราคาขายทองคำแท่งบาทละ 13,450 บาท และทองรูปพรรณราคาขายบาทละ 13,850 บาท (รวมค่ากำเหน็จแล้ว) หลังจากนั้นราคาทองคำแท่งได้ปรับขึ้นอีกบาทละ 50 บาท มาอยู่ที่บาทละ 13,500 บาท โดยที่ราคาขายทองรูปพรรณอยู่ที่บาทละ 13,900 บาท ในวันเดียวกันราคาทองคำปรับราคาขึ้นอีก 50 บาท โดยราคาขายทองคำแท่งอยู่ที่บาทละ 13,550 บาท และราคาขายทองคำรูปพรรณอยู่ที่บาทละ 13,950 บาท

อย่างไรก็ตามขา ขึ้นของราคาน้ำมันรอบนี้ ‘ชัยกิจ ตันติกาญจน์’ ผู้จัดการห้างทองตั้งโต๊ะกัง กล่าวว่า ช่วงนี้ลูกค้าขายทองคำออกมากกว่าซื้อเก็บไว้

อย่างไรก็ตาม แม้การลงทุนในทองคำให้ทั้งความปลอดภัยและผลตอบแทนที่งดงามพอสมควร หรือประมาณ 20-30 % ซึ่ง จูงใจไม่แพ้การลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง หากการที่ราคาทองคำผูกโยงกับ การเก็งกำไรมากกว่า ความต้องการที่แท้จริงในตลาด ทำให้เสถียรภาพทิศทางขาขึ้นของราคาทองคำในรอบนี้ค่อนไม่สู้มั่นคงนักและ เป็นความเสี่ยงที่พึงจับตาอย่างใกล้ชิด.

อย่าไปคิดมากครับ ปวดหัว
ยังเด้งขึ้น เด้งลง ได้อีก
สลับฟันปลา ตามการลาก ของ ต่างประเทศ
ลากพอใจ แล้วก็ปล่อย แล้วก็ช้อนต่อ

	ผู้เขียน	หัวข้อ: พี่น้องว่าทองปีนี้จะไปบาทละเท่าไหรครับ (อ่าน 47119 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้