๏ฟฝ๏ฟฝ็บบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝสน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาปืน
เมษายน 30, 2024, 12:19:57 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 16 17 18 [19] 20
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ช่วยเปรียบเทียบปืน เอ็ม16 กับ เอชเค 33 กับ อาก้า หน่อยครับ  (อ่าน 101981 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
yod - รักในหลวง ครับ
ความรัก - เริ่ม - จากความรู้สึก หรือ ความคิด กันแน่นะ ..... ประวัติศาสตร์อาจจะย้อนรอยเดิม แต่คนไม่อาจย้อนอดีตได้
Hero Member
*****

คะแนน 1630
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 18179



« ตอบ #270 เมื่อ: มกราคม 11, 2008, 04:37:39 PM »

หัวแหลม พิเศษ มั่งครับ  พี่บุญ...............   คิก คิก
บันทึกการเข้า

..สิ่งสำคัญจึงไม่ได้อยู่ที่ว่า...วันนี้เขาอยู่หรือจากไป
สำคัญที่ว่า...ช่วงที่เรามีเวลาอยู่ด้วยกัน
ขอให้มีความทรงจำที่ดี...ก็เพียงพอแล้ว
อย่างน้อย เราก็ยังมีอะไรดีดีให้นึกถึง
และยิ้มให้ความทรงจำนั้นได้ ...

..กรอบใดกักขังแค่กาย แต่ใจอย่าหมายกั้นได้
โซ่ตรวนรัดรึงตรึงไว้  แต่ใจนั้นใฝ่เสรี..
at75
Hero Member
*****

คะแนน 99
ออฟไลน์

กระทู้: 3511



« ตอบ #271 เมื่อ: มกราคม 11, 2008, 04:46:54 PM »



เจตนาผมเพียงต้องการ บอกว่า เรื่องนี้มีมูลความจริงอยุ่บ้างครับ ไม่ใช่เรื่องที่กุขึ้นโดยที่ไม่มีต้นตอ และอีกอย่าง คือ เรื่องที่เล่ากันอยุ่เป้นเรื่องของการทดลอง ซึ่งไม่ใช่การที่เกิดขึ้นจากการใช้งานจริง ครับ แต่เกิดจากการคลาดเคลื่อน ของการพูดปากต่อ ปากครับ พี่บุญ ลองอ่าน ความเห้นเก่าผมดูนะครับ

เข้าใจครับ
แต่คนทดสอบก็เหลือเกินจริงๆ เล่นชงกระสุนพิเศษเลย 

แหมพี่บุญ ก็ อย่าซีเรียส ซิครับ  คิก คิก คิก คิก คิก คิก
บันทึกการเข้า
submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6128
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #272 เมื่อ: มกราคม 11, 2008, 05:52:24 PM »

ด้วยกระผมความรู้น้อย ด้วยวิชา แต่อยากสนทนากับท่านบ้าง ผิดถูกเป็นครูผู้รู้แนะนำ สั่งสอนซ้ำให้ผมรู้คู่ตัวไป
  ผมเคยยิง เคยใช้มาแล้ว แต่ไม่ได้สนใจเรื่องสมรรถนะ  เมื่อยิงเมื่อใช้ผมให้ความเห็นอย่างนี้
เอ็ม16  เบาใช้งานง่ายทำงานด้วยแก๊สระบายความร้อนด้วยอากาศ ตกดินทรายน้ำโคลน  โอกาสติดขัดมีมากครับ
hk33    หนักนิดหน่อย ทำงานด้วยลูกเลื่อน ระบายความร้อนด้วยอากาศ ใช้งานลำบากกว่าเอ็ม16 เพราะต้องคึงคันรั้งด้วยมือขวาแล้วย้ายมือขวามาจับด้ามปืน แล้วจึงใช้นิ้วไปแตะไกปืน อีกทั้งพานท้ายปืนคอน ไปช้ายขวา ไม่แน่นติดกับโครงปืนส่วนล่าง แต่ความแม่นยำดีกว่าเอ็ม16แน่นอน การเล็งศูนย์ไม่คุ้นเคยลำบากหน่อย   ส่วนเจ้าak นั้น เป็นปืนที่โลกคอมมิวนิคส์เขาผลิตมาต่อกลอนกับโลกนาโต้เจ้าอาก้าที่ว่าจึงมีสมรรถนะที่ดุดันแข็งแรงบึกบึนอดทนเป็นเลิศ การทำงานคล้ายกับhk33  พานท้ายปืนเป็นไม้ผาประกับเป็นไม้หนักแน่นมาก เหมือนปรยบ.88 ของไอ้กัน กระสุนที่ยิง ของเอ็ม16และhk33 โดนยิงรู้เข้าเล็กรูทะลุใหญ่มาก ยิงต้นไม้เท่าแขนขาแค่สกิด แต่อาก้านั้นยิงเข้ารู้เท่าใดรู้ทะลุออกก็เท่านั้น แล้วถ้ายิงต้นไม้ขนาดขาคนเราทะลุ  แล้วถ้ายิงขาคนจริงๆ กระดูกหักเลยครับ ดังนั้นออกสนามเมื่อใด กระผมสมัครใจใช้อาก้า(นอก อจย.)แทนอาวุธในอัตรา(อจย.)ที่มีอยู่ครับ ถ้าผมพูดตรงไหนผิดช่วยแนะนำได้ผมยินดีน้อมรับไปแก้ไขครับ


ขออภัยครับ ท่านสนทยาบอกกล่าวเช่นนี้ ทำให้ผมอ่านแล้วทำให้คิดไปว่า  ท่านสนทยากำลังสื่อว่า เอเค 47 เกิดหลัง เอ็ม16
(หากเข้าใจผิด ขออภัย) เลยขอชี้แจง


เอเค 47 ออกแบบโดย มิคาอิล คาลาชนิคอฟ ขึ้นมาในปี1947ครับ ผลิตและเข้าประจำการในปี1949 ตามหลักฐานอ้างอิง

http://en.wikipedia.org/wiki/AK-47

ปืนเอ็ม16 ออกแบบโดย ยูจีน สโตนเนอร์ ขึ้นมาในปี 1963ครับ เข้าประจำการปี 1964 (พัฒนามาจาก เอ อาร์15 ของบริษัทอาร์มาไลต์)

http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B9%87%E0%B8%A1_16

ตามหลักฐานอ้างอิงครับ



แถม เอช เค33ครับ
http://en.wikipedia.org/wiki/Heckler_&_Koch_HK33
บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6128
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #273 เมื่อ: มกราคม 11, 2008, 06:02:46 PM »

ขออภัยทุกๆท่าน

จริงๆแล้ว ผมไม่ค่อยซีเรียสเท่าไหร่ เรื่องของการตอบผิด ตอบถูก
ขอให้ตอบตามเนื้อผ้า ผิดถูก ช่วยๆกันแก้ไขกันได้

แต่การ วิเคราะห์ วิจารณ์ โดยขาดPattern ตั้งแต่การเรียนรู้ การทำความเข้าใจ
หรือลำดับความสำคัญ เป็นเรื่องชวนปวดหัวพอควร

ทำไม รถคันนี้ ถึงได้แข็งกระด้าง นั่งไม่นุ่มนวล จะว่ารถห่วย โบราณมากๆ ก็ได้
แต่ทำไม ไม่ดูก่อน ว่าเป็นรถปิคอัพ เขาออกแบบไว้ให้บรรทุก โช้คมันย่อมเเข็งเป็นธรรมดา



หากเราดูทุกสิ่งทุกอย่างด้วยการไตร่ตรองและทำความเข้าใจในตัวผลิตภัณฑ์อย่างถ่องแท้....
การวิเคราะห์ วิจารณ์ ผลิตภัณฑ์นั้นๆ ก็จะมีเหตุและผล มีความจริง  อยู่ในตัว

หากเราวิเคราะห์วิจารณ์ด้วยเอาตัวเราเป็นที่ตั้ง ทำไม ไม่ทำแบบโน้น ทำไม ไม่ทำแบบนี้...แบบที่ทำมาไม่ทันสมัย...
ต้องทำความเข้าใจ อย่างที่ผมอธิบายด้านบนครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 11, 2008, 06:05:59 PM โดย submachine » บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

nars รักในหลวงและแผ่นดินไทย
Website Sponsor
Hero Member
****

คะแนน 303
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4897


« ตอบ #274 เมื่อ: มกราคม 11, 2008, 10:58:58 PM »

ขออภัยทุกๆท่าน

จริงๆแล้ว ผมไม่ค่อยซีเรียสเท่าไหร่ เรื่องของการตอบผิด ตอบถูก
ขอให้ตอบตามเนื้อผ้า ผิดถูก ช่วยๆกันแก้ไขกันได้

แต่การ วิเคราะห์ วิจารณ์ โดยขาดPattern ตั้งแต่การเรียนรู้ การทำความเข้าใจ
หรือลำดับความสำคัญ เป็นเรื่องชวนปวดหัวพอควร

ทำไม รถคันนี้ ถึงได้แข็งกระด้าง นั่งไม่นุ่มนวล จะว่ารถห่วย โบราณมากๆ ก็ได้
แต่ทำไม ไม่ดูก่อน ว่าเป็นรถปิคอัพ เขาออกแบบไว้ให้บรรทุก โช้คมันย่อมเเข็งเป็นธรรมดา



หากเราดูทุกสิ่งทุกอย่างด้วยการไตร่ตรองและทำความเข้าใจในตัวผลิตภัณฑ์อย่างถ่องแท้....
การวิเคราะห์ วิจารณ์ ผลิตภัณฑ์นั้นๆ ก็จะมีเหตุและผล มีความจริง  อยู่ในตัว

หากเราวิเคราะห์วิจารณ์ด้วยเอาตัวเราเป็นที่ตั้ง ทำไม ไม่ทำแบบโน้น ทำไม ไม่ทำแบบนี้...แบบที่ทำมาไม่ทันสมัย...
ต้องทำความเข้าใจ อย่างที่ผมอธิบายด้านบนครับ
เยี่ยม

รบกวนท่านอื่นๆ ถ้าจะวิจารณ์ m16,hk33,ak47 ต่ออย่าลงลึกในรายละเอียด ช่วยพิมพ์ข้ามๆไปบ้างอย่าลงรายละเอียดต่อนะครับปล่อยให้พวกโจรก่อการร้ายมันยิงไปติดไปแหละดีแล้วครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 11, 2008, 11:03:12 PM โดย nars » บันทึกการเข้า

ถ้าเสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง
ผีเปรตในนรกมันคงโหวตให้พวกมันได้ขึ้นสวรรค์
จะแก้รัฐธรรมนูญไปทำไม! ต้นตอปัญหามันเกิดจากรธน.ไม่ดี หรือพวกแกมันเลว!
yod - รักในหลวง ครับ
ความรัก - เริ่ม - จากความรู้สึก หรือ ความคิด กันแน่นะ ..... ประวัติศาสตร์อาจจะย้อนรอยเดิม แต่คนไม่อาจย้อนอดีตได้
Hero Member
*****

คะแนน 1630
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 18179



« ตอบ #275 เมื่อ: มกราคม 11, 2008, 11:05:29 PM »

ผมว่า โจรก่อการร้าย ไม่สนหรอกครับ
ของจริง  เล็งเห็นผลกว่า
บันทึกการเข้า

..สิ่งสำคัญจึงไม่ได้อยู่ที่ว่า...วันนี้เขาอยู่หรือจากไป
สำคัญที่ว่า...ช่วงที่เรามีเวลาอยู่ด้วยกัน
ขอให้มีความทรงจำที่ดี...ก็เพียงพอแล้ว
อย่างน้อย เราก็ยังมีอะไรดีดีให้นึกถึง
และยิ้มให้ความทรงจำนั้นได้ ...

..กรอบใดกักขังแค่กาย แต่ใจอย่าหมายกั้นได้
โซ่ตรวนรัดรึงตรึงไว้  แต่ใจนั้นใฝ่เสรี..
NoTUSS
Jr. Member
**

คะแนน 4
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 76


« ตอบ #276 เมื่อ: มกราคม 11, 2008, 11:29:03 PM »

เป็นปืนเหมือนกัน ผมว่าชื่อเขียนไม่เหมือนกันครับ
บันทึกการเข้า

ของฝากจากชายแดนใต้
สุพินท์ - รักในหลวง
Guns & Games Staff
Hero Member
*****

คะแนน 3539
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12902



« ตอบ #277 เมื่อ: มกราคม 12, 2008, 09:57:08 AM »

ด้วยกระผมความรู้น้อย ด้วยวิชา แต่อยากสนทนากับท่านบ้าง ผิดถูกเป็นครูผู้รู้แนะนำ สั่งสอนซ้ำให้ผมรู้คู่ตัวไป
  ผมเคยยิง เคยใช้มาแล้ว แต่ไม่ได้สนใจเรื่องสมรรถนะ  เมื่อยิงเมื่อใช้ผมให้ความเห็นอย่างนี้
เอ็ม16  เบาใช้งานง่ายทำงานด้วยแก๊สระบายความร้อนด้วยอากาศ ตกดินทรายน้ำโคลน  โอกาสติดขัดมีมากครับ
hk33    หนักนิดหน่อย ทำงานด้วยลูกเลื่อน ระบายความร้อนด้วยอากาศ ใช้งานลำบากกว่าเอ็ม16 เพราะต้องคึงคันรั้งด้วยมือขวาแล้วย้ายมือขวามาจับด้ามปืน แล้วจึงใช้นิ้วไปแตะไกปืน อีกทั้งพานท้ายปืนคอน ไปช้ายขวา ไม่แน่นติดกับโครงปืนส่วนล่าง แต่ความแม่นยำดีกว่าเอ็ม16แน่นอน การเล็งศูนย์ไม่คุ้นเคยลำบากหน่อย   ส่วนเจ้าak นั้น เป็นปืนที่โลกคอมมิวนิคส์เขาผลิตมาต่อกลอนกับโลกนาโต้เจ้าอาก้าที่ว่าจึงมีสมรรถนะที่ดุดันแข็งแรงบึกบึนอดทนเป็นเลิศ การทำงานคล้ายกับhk33 พานท้ายปืนเป็นไม้ผาประกับเป็นไม้หนักแน่นมาก เหมือนปรยบ.88 ของไอ้กัน กระสุนที่ยิง ของเอ็ม16และhk33 โดนยิงรู้เข้าเล็กรูทะลุใหญ่มาก ยิงต้นไม้เท่าแขนขาแค่สกิด แต่อาก้านั้นยิงเข้ารู้เท่าใดรู้ทะลุออกก็เท่านั้น แล้วถ้ายิงต้นไม้ขนาดขาคนเราทะลุ  แล้วถ้ายิงขาคนจริงๆ กระดูกหักเลยครับ ดังนั้นออกสนามเมื่อใด กระผมสมัครใจใช้อาก้า(นอก อจย.)แทนอาวุธในอัตรา(อจย.)ที่มีอยู่ครับ ถ้าผมพูดตรงไหนผิดช่วยแนะนำได้ผมยินดีน้อมรับไปแก้ไขครับ


มีผิดพลาดไม่กี่ที่  แต่เนื้อหาดีแล้วครับ  เพราะเป็นการบอกเล่าประสบการณ์  ไม่ใช่เขียนขึ้นมาอบรมสั่งสอนคนอื่นแบบผิด ๆ
M16  ทำงานด้วยระบบแกสออปเปเรท ขัดกลอนด้วยลูกสูบหมุนตัว  ปลดกลอนโดยใช้แกสอัดโดยตรง (direct impingement) เป็นระบบที่มีจุดอ่อน เขม่าสะสมในห้องลูกเลื่อนได้เร็วมาก  โดยเฉพาะถ้าใช้กระสุนคุณภาพต่ำ  แม้ต่สโตนเนอร์ คนออกแบบปืนเองก็ยังไม่ชอบ และแก้ไขเป็นลูกสูบช่วงสั้นในปืน AR-18   ซึ่งในปัจจุบันปี G36 และ HK416 ก็ได้นำหลักการทำงานของ AR-18 มาใช้   รวมทั้งผู้ผลิตรายย่อยอีกหลายรายได้ทำชุดดัดแปลง M16 ให้เป็นแบบลูกสูบช่วงสั้นของมาขาย
AK-47 ทำงานด้วยระบบแกสออปเปเรท ขัดกลอนด้วยลูกสูบหมุนตัว  ปลดกลอนโดยใช้ลูกสูบช่วงยาวที่ปรับปรุงมาจาก SKS (ลูกเลื่อน SKS ปลดกลอน/ขัดกลอนในแนวดิ่ง และเป็นแบบลูกสูงช่วงสั้น)
HK33 ทำงานด้วยระบบโบล์แบ็ค ถ่วงเวลาด้วยลูกกลิ้ง  ไม่มีการขัดกลอนโดยตรง   เป็นระบบที่ดัดแปลงมาจากปืนกล MG43 (ปืนกล MG43 เป็นระบบรีคอยล์ช่วงสั้น ขัดกลอนด้วยลูกกลิ้ง)

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 12, 2008, 11:04:18 AM โดย สุพินท์ » บันทึกการเข้า
พีระพงษ์
Full Member
***

คะแนน 59
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 173


« ตอบ #278 เมื่อ: มกราคม 13, 2008, 08:28:06 PM »

ผมเคยรับงานทำแบบจับตรึง (jig) เพื่อผลิตชิ้นส่วนซ่อมอาวุธ จากกรมสรรพาวุธทหารบก   ทำให้ถูกบังคับว่าต้องทราบหลักการทำงาน กับมาตรฐานของปืนเอ็ม 16 กับเอชเค 33 อยู่บ้าง
ปืนเอ็ม 16 ขึ้นรูปโครงปืนด้วยวิธีฉีดอลูมินั่ม และอาจจะเปลี่ยนแปลงเป็นฟอร์จจิ้งได้  แต่ไม่ว่าจะฉีด หรือทุบก็ต้องใช้เทคโนโลยีสูงมาก   สำหรับชิ้นส่วนอื่น ๆ เป็นแบบพื้น ๆ  โรงกลึงธรรมดาก็ทำได้
สำหรับเอชเค 33  เครื่องจักรเป็นแบบธรรมดา  แต่ไปยากที่วัสดุ  ชิ้นส่วนบางชิ้น มีการชุบแข็ง 2 ถึง 3 ระดับในชิ้นงานเดียวกัน   สปริงบางตัว เช่นสปริงคันรั้งลูกเลื่อน ต้องใช้เหล็กพิเศษตามมาตรฐาน DIN  เทียบเบอร์กับมาตรฐานอเมริกัน หรือมาตรฐานญี่ปุ่นไมได้เลย  ใส่เข้าไปใช้งานได้ไม่กี่ครั้งก็หัก
บันทึกการเข้า

Shoot first !
Ask question later.
at75
Hero Member
*****

คะแนน 99
ออฟไลน์

กระทู้: 3511



« ตอบ #279 เมื่อ: มกราคม 13, 2008, 11:33:07 PM »

ผมเคยรับงานทำแบบจับตรึง (jig) เพื่อผลิตชิ้นส่วนซ่อมอาวุธ จากกรมสรรพาวุธทหารบก   ทำให้ถูกบังคับว่าต้องทราบหลักการทำงาน กับมาตรฐานของปืนเอ็ม 16 กับเอชเค 33 อยู่บ้าง
ปืนเอ็ม 16 ขึ้นรูปโครงปืนด้วยวิธีฉีดอลูมินั่ม และอาจจะเปลี่ยนแปลงเป็นฟอร์จจิ้งได้  แต่ไม่ว่าจะฉีด หรือทุบก็ต้องใช้เทคโนโลยีสูงมาก   สำหรับชิ้นส่วนอื่น ๆ เป็นแบบพื้น ๆ  โรงกลึงธรรมดาก็ทำได้
สำหรับเอชเค 33  เครื่องจักรเป็นแบบธรรมดา  แต่ไปยากที่วัสดุ  ชิ้นส่วนบางชิ้น มีการชุบแข็ง 2 ถึง 3 ระดับในชิ้นงานเดียวกัน   สปริงบางตัว เช่นสปริงคันรั้งลูกเลื่อน ต้องใช้เหล็กพิเศษตามมาตรฐาน DIN  เทียบเบอร์กับมาตรฐานอเมริกัน หรือมาตรฐานญี่ปุ่นไมได้เลย  ใส่เข้าไปใช้งานได้ไม่กี่ครั้งก็หัก

ขอบคุณครับ ได้ความรู้เพิ่ม ดีครับ แต่ไม่ต้องบอกละเอียดมากเพราะเป้นข้อมุลทางราชการครับ
   ผมเองได้ได้ทราบ ว่า ที่ทำลำบากที่สุดของHK33 คือ ลำกล้องกับลูกเลื่อนไม่ทราบ จริงหรือไม่ครับ  แล้วปัจจุบัณ ทางสรรพาวุธ เราสามารถผลิตโครง บน-ล่าง m16 ได้เองแล้วหรือ ครับ เมื่อก่อนเคยได้ยินว่า สั่งซื้อ มาจากสิงคโปร์ บ้างเป้นบางล็อต
บันทึกการเข้า
สุพินท์ - รักในหลวง
Guns & Games Staff
Hero Member
*****

คะแนน 3539
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12902



« ตอบ #280 เมื่อ: มกราคม 14, 2008, 08:46:20 AM »

ผมเคยรับงานทำแบบจับตรึง (jig) เพื่อผลิตชิ้นส่วนซ่อมอาวุธ จากกรมสรรพาวุธทหารบก   ทำให้ถูกบังคับว่าต้องทราบหลักการทำงาน กับมาตรฐานของปืนเอ็ม 16 กับเอชเค 33 อยู่บ้าง
ปืนเอ็ม 16 ขึ้นรูปโครงปืนด้วยวิธีฉีดอลูมินั่ม และอาจจะเปลี่ยนแปลงเป็นฟอร์จจิ้งได้  แต่ไม่ว่าจะฉีด หรือทุบก็ต้องใช้เทคโนโลยีสูงมาก   สำหรับชิ้นส่วนอื่น ๆ เป็นแบบพื้น ๆ  โรงกลึงธรรมดาก็ทำได้
สำหรับเอชเค 33  เครื่องจักรเป็นแบบธรรมดา  แต่ไปยากที่วัสดุ  ชิ้นส่วนบางชิ้น มีการชุบแข็ง 2 ถึง 3 ระดับในชิ้นงานเดียวกัน   สปริงบางตัว เช่นสปริงคันรั้งลูกเลื่อน ต้องใช้เหล็กพิเศษตามมาตรฐาน DIN  เทียบเบอร์กับมาตรฐานอเมริกัน หรือมาตรฐานญี่ปุ่นไมได้เลย  ใส่เข้าไปใช้งานได้ไม่กี่ครั้งก็หัก

ขอบคุณครับ ได้ความรู้เพิ่ม ดีครับ แต่ไม่ต้องบอกละเอียดมากเพราะเป้นข้อมุลทางราชการครับ
   ผมเองได้ได้ทราบ ว่า ที่ทำลำบากที่สุดของHK33 คือ ลำกล้องกับลูกเลื่อนไม่ทราบ จริงหรือไม่ครับ  แล้วปัจจุบัณ ทางสรรพาวุธ เราสามารถผลิตโครง บน-ล่าง m16 ได้เองแล้วหรือ ครับ เมื่อก่อนเคยได้ยินว่า สั่งซื้อ มาจากสิงคโปร์ บ้างเป้นบางล็อต

ไม่ใช่ข้อมูลที่เป็นความลับหรอกครับ   การจ้าง บ.เอกชนผลิตเครื่องมือ หรือชิ้นส่วนซ่อม  มีทำกันอยู่เรื่อย ๆ   และจะประกาศโดยเปิดเผย ทั้งที่หน่วยงาน  และส่งไปให้กรมประชาสัมพันธ์ช่วยประกาศให้
ที่แปลกกว่านั้นคือการบาร์เตอร์เทรดปลอกกระสุน   เรามีการแลกปลอกกระสุนกับการจ้างซ่อมเครื่องจักร   การซ่อมหลาย ๆ ครั้งที่มีค่าซ่อมเป็นสิบล้าน  แต่ไม่ต้องใช้งบประมาณของทางราชการ  เพราะใช้วิธีแลกเปลี่ยนกับปลอกกระสุนที่ยิงแล้ว
ผมถึงได้เข้มงวดกับการเก็บปลอกกระสุนของทีมยิงปืน เพื่อส่งคืนกรมสรรพาวุธ  เป็นการประหยัดเงินให้ ทบ.ไปด้วย

เราไม่ได้ผลิตโครงปืน M16  และไม่เคยสั่งซื้อโครงปืนอะไหล่ด้วย (ยกเว้นทีมยิงปืนของผม ที่ซื้อโครงบน ด้วยวัตถุประสงค์พิเศษ)
อะไหล่ M16 ที่ผลิตในประเทศ   มักจะเป็นในระยะไม่กี่ปีมานี้  ส่วนใหญ่เป็นการดัดแปลงปืนที่จำหน่ายแล้ว ให้กลับมาใช้ได้อีกครั้งหนึ่ง

ลำกล้อง HK33 ก็เป็นลำกล้องธรรมดา   แต่ลูกเลื่อนมีวิธีผลิตค่อนข้างซับซ้อน  และถ้าทำไม่ได้สเปค จะทำให้ชิ้นส่วนอื่นเสียหาย เสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ
ที่ยากกว่านั้นคือลูกเลื่อนของ MP5  ลองทำกันมาหลายสิบรอบแล้ว  ยังไม่มีใครทำสำเร็จ  ยิงได้ไม่เกิน 500 นัด  ไม่แตก ก็ยับเยิน เสียรูป   ผมเคยอีเมล์ไปถามพรรคพวก   เขาบอกว่าต้องชุบแข็งด้วยขดลวดอินดัคชั่น ที่ทำรูปร่างมาโดยเฉพาะ  และต้องใช้น้ำยาพิเศษด้วย
บันทึกการเข้า
SOAP47 รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 333
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5792



« ตอบ #281 เมื่อ: มกราคม 14, 2008, 09:00:38 AM »

เรียนถามผู้การสุพินท์ครับ
แล้วที่ปากีสถานทำ hk ออกมา นั้น ที่โรงงานเป็นแบบ turn key หรือเปล่า แบบที่เราได้รับมา
บันทึกการเข้า

THIS IS MY STEYR.
THERE ARE MANY LIKE IT, BUT THIS ONE IS MINE.
WITHOUT MY STEYR,I AM NOTHING.
WITHOUT ME, MY STEYR IS NOTHING.
jakrit97 - รักในหลวง -
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 164
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5464


Dead boy can't shoot!


« ตอบ #282 เมื่อ: มกราคม 14, 2008, 10:14:05 AM »

ด้วยกระผมความรู้น้อย ด้วยวิชา แต่อยากสนทนากับท่านบ้าง ผิดถูกเป็นครูผู้รู้แนะนำ สั่งสอนซ้ำให้ผมรู้คู่ตัวไป
...
hk33    หนักนิดหน่อย ทำงานด้วยลูกเลื่อน ระบายความร้อนด้วยอากาศ ใช้งานลำบากกว่าเอ็ม16 เพราะต้องคึงคันรั้งด้วยมือขวาแล้วย้ายมือขวามาจับด้ามปืน แล้วจึงใช้นิ้วไปแตะไกปืน อีกทั้งพานท้ายปืนคอน ไปช้ายขวา ไม่แน่นติดกับโครงปืนส่วนล่าง แต่ความแม่นยำดีกว่าเอ็ม16แน่นอน ...

คันรั้งลูกเลื่อนของ HK33 อยุ่ด้านซ้าย ไม่ใช่ด้านขวา ครับ ลองตรวจทานข้อมุลของ ท่านนินึงนะครับ มีบางจุดให้ข้อมุลผิดอยุ่

คันรั้งอยู่ด้านซ้ายจริงครับ แต่ตอนดึงต้องใช้มือขวา .... ผมเข้ามายืนยันแบบนี้ เพราะตอนเรียน รด. ท่านสอนแบบนี้จริง ๆ

จะขึ้นลำ HK 33 จำได้ว่า ให้เอาพานท้ายยันหน้าขาไว้ มือซ้ายจับที่รองลำกล้อง บิดปืนตามเข็ม (เอาด้านซ้ายขึ้นมาข้างบน) แล้วใช้มือขวา ดึงคันรั้งมาค้างไว้ ....

เวลาปลดคันรั้ง ตั้งปืนตรง พานท้ายวางหน้าขาเหมือนเดิม ละมือขวามาจับที่คอปืน แล้วเอามือซ้ายตบคันรั้งไปทางขวา ให้มันดีดไปข้างหน้าเอง ....

เวลาดึงคั้นรั้ง ต้องระวังนิ้วโป้งมือซ้าย มันจะเผลอเข้าไปขวางทางเดินของคันรั้งด้วย ไม่งั้นถ้าคันรั้งหลุดมือมา มีแตก Grin Grin Grin

ตอนได้ฝึกกับ M16 ก็ใช้ท่าเดิมเหมือนกัน ... คือละมือขวามาดึงคันรั้งครับ Grin Grin Grin
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 14, 2008, 10:16:25 AM โดย jakrit » บันทึกการเข้า

Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16168


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #283 เมื่อ: มกราคม 14, 2008, 10:23:16 AM »

อือม์ ตอนผมเรียนครูฝึกสอนให้ดึงคันรั้ง เอชเค 33 ด้วยมือซ้ายครับ แกะคันดึงออกมาใช้มือซ้ายดึง มือขวาจับด้ามปืนตลอด ผมว่าเขาออกแบบมาก็เพื่อให้ไม่ต้องละมือออกจากด้าม ใช้มือซ้ายดึงแบบ เอชเค เอ็มพี 5 หรือ จี 3

อย่างไรก็ตามอาจลำบากสำหรับบางคนที่แขนสั้นมากเลยมีแนวการใช้มือขวาดึงดังกล่าว

นึกๆ ดูทหารพม่าตัวเล็ก ดึงคันรั้ง จี 3 ที่หนักกว่า 33 คงจะยิ่งไม่คล่อง..
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
at75
Hero Member
*****

คะแนน 99
ออฟไลน์

กระทู้: 3511



« ตอบ #284 เมื่อ: มกราคม 14, 2008, 12:35:39 PM »

ด้วยกระผมความรู้น้อย ด้วยวิชา แต่อยากสนทนากับท่านบ้าง ผิดถูกเป็นครูผู้รู้แนะนำ สั่งสอนซ้ำให้ผมรู้คู่ตัวไป
...
hk33    หนักนิดหน่อย ทำงานด้วยลูกเลื่อน ระบายความร้อนด้วยอากาศ ใช้งานลำบากกว่าเอ็ม16 เพราะต้องคึงคันรั้งด้วยมือขวาแล้วย้ายมือขวามาจับด้ามปืน แล้วจึงใช้นิ้วไปแตะไกปืน อีกทั้งพานท้ายปืนคอน ไปช้ายขวา ไม่แน่นติดกับโครงปืนส่วนล่าง แต่ความแม่นยำดีกว่าเอ็ม16แน่นอน ...

คันรั้งลูกเลื่อนของ HK33 อยุ่ด้านซ้าย ไม่ใช่ด้านขวา ครับ ลองตรวจทานข้อมุลของ ท่านนินึงนะครับ มีบางจุดให้ข้อมุลผิดอยุ่

คันรั้งอยู่ด้านซ้ายจริงครับ แต่ตอนดึงต้องใช้มือขวา .... ผมเข้ามายืนยันแบบนี้ เพราะตอนเรียน รด. ท่านสอนแบบนี้จริง ๆ

จะขึ้นลำ HK 33 จำได้ว่า ให้เอาพานท้ายยันหน้าขาไว้ มือซ้ายจับที่รองลำกล้อง บิดปืนตามเข็ม (เอาด้านซ้ายขึ้นมาข้างบน) แล้วใช้มือขวา ดึงคันรั้งมาค้างไว้ ....

เวลาปลดคันรั้ง ตั้งปืนตรง พานท้ายวางหน้าขาเหมือนเดิม ละมือขวามาจับที่คอปืน แล้วเอามือซ้ายตบคันรั้งไปทางขวา ให้มันดีดไปข้างหน้าเอง ....

เวลาดึงคั้นรั้ง ต้องระวังนิ้วโป้งมือซ้าย มันจะเผลอเข้าไปขวางทางเดินของคันรั้งด้วย ไม่งั้นถ้าคันรั้งหลุดมือมา มีแตก Grin Grin Grin

ตอนได้ฝึกกับ M16 ก็ใช้ท่าเดิมเหมือนกัน ... คือละมือขวามาดึงคันรั้งครับ Grin Grin Grin

บอกตามตรงครับผมเอง ไม่เคยใช้มือ ขวาขึ้นลำ ปืนHK33เลย ใช้มือซ้ายตลอด ทั้งท่ายืนยิง และนอนยิง ผมว่าท่าที่คุณบอก น่าจะเป้นการฝึกเด็กที่ข้อ ลำยังไม่เข็ง หรือ คนที่ถนัดซ้าย มากกว่าครับ ตายหล่ะถ้านอน ยิง ไม่นอนพลิกซ้าย ที่ ขวา ที ขลุกขลัก ตายเลยครับ
   
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 16 17 18 [19] 20
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.238 วินาที กับ 21 คำสั่ง