..... มานั่งรอหน้าร้านหนังสือ ออกโดยท่าน อารมณ์ดี น่าติดตาม น่าอ่านครับ ยังไงก็วางแผงเร็ว ๆ นะครับผม ..... รออยู่จ๊ะ ...
..... ต้นฉบับยังไม่เสร็จอีกหรือครับ ผมเข้ามาซื้อ 2 รอบแล้วนะครับผม ....
.... เข้าใจว่าป่านนี้เรื่องคงจบลงไปแล้ว แต่อยากทราบที่มาที่ไป เห็นว่กำลังเริ่มต้น แสดงว่าเรื่องยาวแน่ ต้องเข้ามาอ่านประดับความรู้สักหน่อย .... อาจจะจัดเป็นเรื่องแปลกได้ ....
ใจเย็นๆ ครับพี่แจ๊ค ถ้าเป็นพ๊อคเก็ตบุ๊คสงสัยโดนกวาดก่อนวางแผงแน่ครับ 
รอติดตามครับพี่อารมณ์ดี ยังไงพี่ก็อย่าหักโหมมากน๊ะครับช่วงนี้พี่ยังต้องพักผ่อนเยอะๆน๊ะครับ
ตามที่อ่านมาผมว่าไม่ชอบมาพากลนะครับ ผมว่าน่าคุยกับผู้บังคับบัญชาของ ปจร.ศปก.น ตรง ถ้ายังเป็นในแนวเดียวกัน ก็หารือกับทนายเพื่อนยื่นฟ้องศาลปกครองต่อไป
เพื่อนและผมเคยขอเข้าพบ ผบ. ศูนย์นี้ แต่ไปไม่ถึงเพราะถูกสกัดครับ เหมือนวันก่อนที่ตำรวจขโมยรถโตโยต้าอัลผาด(เขียนไม่ถูก)คนรู้จักแถมเอามาขับให้จำได้อีก จับได้บอกรถของกลางไม่มีที่เก็บ แล้วข่าวก็เงียบไป
ผมว่าตอนนี้ตำรวจเลว(ทั้งเลวเองและจำใจเลว)มากกว่าตำรวจดีครับ เหมือนคลองแสนแสบ เอาน้ำดีมาไล่แค่ไหนก็คงเน่าอยู่อย่างนั้น
เอ....ท่าน MAKOTo มีอคติหรือปล่าวครับ
ผมยอมรับว่าในองค์การตำรวจมีคนไม่ดี เอ้าให้ถึงขั้นเลวอย่างท่านว่าก็ได้ครับ
แต่ถ้ามีเยอะจริงนี่ท่าทางชาวบ้านทั่วไปคงจะออกมาเดินขบวนแล้วละครับ
องค์การนี่มันเกี่ยวข้องกับประชาชนในชีวิตประจำวันครับก็เลยมีเรื่องพูดถึงกันบ่อย ไม่ลองมองไปทางกรมศุลฯบ้างละครับ
หรือเอาอย่างง่ายๆก็เรื่องขออนุญาต ใบ ป.๓ ของพวกเราๆนี่ละครับเป็นไงกันละครับ
ตอนซื้อตอนเอาไปจำนองก็ผ่านการตรวจสอบจากขนส่ง แต่อาจจะอ้างว่าตรวจไม่พบในตอนนั้น ใครเจอแบบนี้เรื่องยาวครับ
ตามสมุดคู่จดทะเบียนระบุว่าเป็นรถใหม่นำเข้าถูกต้อง ไม่ใช่รถจดประกอบที่มาจากเซียงกง ดังนั้นคิดว่าต้องผ่านขั้นตอนการเสียภาษีศุลกากร การตรวจเลชตัวถังและเครื่องยนต์จากกรมการขนส่งทางบกถูกต้องด้วยครับรออ่านต่อครับ...
ติดตามอย่างใจจดจ่อครับ...
ขอบคุณครับ รอด้วยคน
น่าเอาเอกสารทั้งหมดไปออก TV เลยครับ ผมอยากดัง
เพื่อนผมเคยคิดจะติดต่อรายการทาง ITV และจะทำหนังสือร้องเรียนถึงผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐ แต่น้องทนายแนะนำว่ารอให้เรื่องถึงที่สิ้นสุดก่อน รออ่านเรื่องต่อนะครับมาติดตามดูเหตุการณ์ครับ พี่จอมยุทธอินทรี
เรื่องนี้ไม่ง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือเลยครับ เหมือนวันก่อนที่ตำรวจขโมยรถโตโยต้าอัลผาด(เขียนไม่ถูก)คนรู้จักแถมเอามาขับให้จำได้อีก จับได้บอกรถของกลางไม่มีที่เก็บ แล้วข่าวก็เงียบไป
ผมว่าตอนนี้ตำรวจเลว(ทั้งเลวเองและจำใจเลว)มากกว่าตำรวจดีครับ เหมือนคลองแสนแสบ เอาน้ำดีมาไล่แค่ไหนก็คงเน่าอยู่อย่างนั้น
คิดว่าเรื่องคงจบไปแล้ว กลายเป็นเรื่องโอละพ่อกัน
แสดงว่าโชคไม่ดี ต้องทำบุญสะเดาะเคราะห์มากๆ ......
ผมโชคดีเจอแต่ตำรวจดีๆทั้งเพ .... พวกไม่ดีไม่เข้าใกล้ .... คงรู้ว่าไม่มีอะไรให้
ผมเดาว่ารถคงสวยถูกตา.....
ตอนนั้นยังคุยกันว่า เหมือนมี order ให้มาเอารถคันนี้ครับ
เพื่อนผมเป็นคนรักรถมาก คันนี้ขนาดซื้อมาตั้งแต่ปี 1992 จนวันเกิดเรื่องสภาพยังสวยเดิมๆ เปลี่ยนแค่ชุดกันชนกับสปอยเลอร์หลังแบบไมเนอร์เช้นจ์เท่านั้น ใช้มาสิบปีเศษพ่นสีรอบคันไปสองครั้งครับ (ต้องโทรไปถามข้อมูลเมื่อสักครู่ ผมบอกให้เพื่อนเข้ามาอ่านด้วยเค้าก็บอกว่าให้ช่วยเรียนให้พี่ๆ จะได้ทราบข้อเท็จจริงครับ)ขอบคุณทุกความเห็นของพี่ๆ ครับ
ต้นปี พ.ศ.2548เพื่อนไปพร้อมผมและน้องทนายเพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนให้ทางสำนักงานจเรตำรวจแห่งชาติ ได้มีโอกาสเข้าพบถึง จเรตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็น ผบ.ตร คนปัจจุบันนี้ ท่านดูบัญชีรถของกลางที่ยึดกลับมาเนื่องจากรถเหล่านี้ถูกนำไปใช้โดย จนท. ปจร.ศปก.น ซึ่งไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนและเครื่องหมายของทางกรมการขนส่งทางบก ดังที่เป็นข่าวคึกโครมในเวลานั้น ท่านก็ให้ฝ่ายสืบสวนติดต่อกับ รอง ผกก.ของ ปจร.ศปก.น ทันทีเพื่อขอทราบข้อมูลและสถานที่เก็บรถ ทางรอง ผกก.ศูนย์ฯ แจ้งวกไปวนมาว่ารถจอดที่โรงจอดของหน่วยงานที่ลาดพร้าวแล้วย้ายไปที่อื่น ทางจเรตำรวจแห่งชาติจึงให้ยืนยันและให้พาเจ้าของรถหรือผู้รับมอบอำนาจไปตรวจดูสภาพรถในวันรุ่งขึ้น พร้อมทำเรื่องรายงานให้จเรตำรวจแห่งชาติทราบทันที
วันรุ่งขึ้นผมไม่ได้ไปด้วย มีเพื่อนกับน้องทนายอีกสองคนได้เข้าพบ รอง ผกก.ศูนย์ฯ ช่วงเช้า คำพูดแรกที่ได้ยืนกันเต็มหู " น้องมีอะไรคุยกันได้นี่ ทำไมต้องไปฟ้องเจรตำรวจด้วย ก็บอกแล้วว่ารถจอดในที่ปลอดภัย จะทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ทำไมกัน" เพื่อนผมไม่เปิดปากเพราะน้องทนายแนะไว้ อีกอย่าง รอง ผกก.คนนี้ยังไม่เคยพบเพื่อนผมตั้งแต่ผู้ใต้บังคับบัญชาตรวจยึดรถไปเพราะวันแรกติดประชุม น้องทนายขอดูรถเค้าก็ให้ จนท.พาไป ปรากฏว่านำรถไปจอดที่โรงจอดรถชั่วคราว ปจร.ศปก.น (ป้ายแสดงเหมือนเพิ่งทำเสร็จใหม่ๆ สดๆ) อยู่ที่ที่จอดรถของสนุ๊กเกอร์แห่งหนึ่งแถวถนนกรุงเทพกรีฑา ตรวจดูพร้อมถ่ายรูปรถที่ถูกยึดไปรวมเวลาโดยประมาณ 8 เดือนเศษ ตัวถังเกือบไม่มีฝุ่นจับที่สำคัญคือที่จานห้ามล้อทั้งสี่ล้อเงาวับไม่มีสนิมเกาะสักนิดเดียวเหมือนรถถูกใช้งานทุกวันแยกย้ายกับ จนท.ที่พาไปดูรถแล้วเพื่อนกับน้องทนายรีบไปอัดรูปจากกล้องดิจิตอลแล้วกลับไปที่สำนักงานจเรตำรวจแห่งชาติ ท่านจเรตำรวจแห่งชาติได้รับรูปถ่ายไว้และแจ้งว่าจะตรวจดูรายงานของทาง ปจร.ศปก.น ก่อนแล้วจะให้ฝ่ายสิบสวนติดต่อกลับ หลังจากนั้นหนึ่งอาทิตย์เพื่อนก็ได้รับหมายเรียกตัวให้ไปให้ปากคำที่ สน.ท้องที่ที่อยู่ น้องทนายไปด้วยโดยแนะนำให้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาโดยขอให้การในชั้นศาล พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบ โดยมีตำรวจชั้นสัญญาบัตรคนที่เป็นผู้บันทึกการตรวจยึดรถเป็นผู้เสียหาย ร้องทุกข์และกล่าวหาเพื่อนผมว่า
ปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม, ช่วยซ้อนเร้น , ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ ฯ โดยหลีกเลี่ยงอากร ข้อห้ามหรือข้อจำกัดในชั้นสอบสวนเจ้าหน้าที่ สน.แจ้งว่าไม่ต้องใช้หลักทรัพย์เพื่อประกันตัวแต่อย่างใด ให้รอผลการสอบสวนจนเสร็จสิ้นแล้วจะส่งหมายเรียกตัวเพื่อนผมอีกครั้งเพื่อส่งต้วพร้อมสำนวนไปพบอัยการที่กรมอัยการสูงสุดข้างศาลหลักเมืองสนามหลวงและให้เตรียมหลักทรัพย์ไปด้วยเผื่อว่าจะต้องประกันตัวในชั้นอัยการ กลับจาก สน. ก็มานั่งจับเข่าคุยกันพร้อมน้องทนาย ทานมื้อเย็นกับแบบไม่ค่อยอร่อยนักเพราะเท่าที่น้องทนายดูหนทางการต่อสู้คดีแล้วเรียกว่าไม่มีโอกาสชนะเลย แต่ยังไงก็ต้องสู้ในขั้นศาลไปก่อนเพราะถ้าเซ็นมอบรถให้ตกเป็นสมบัติของแผ่นดินซึ่งยังไงก็ต้องถูกไฟแนนซ์ฟ้องคดีอาญาข้อหาฉ้อโกงเหมือนกัน ผมบอกเพื่อนให้ทำใจให้ได้เพราะเรื่องมันเกิดแล้วต้องยอมรับแล้วค่อยๆ ดูตามขั้นตอนและกระบวนการยุติธรรม ในเมื่อไม่ใช่รถผิดกฏหมายก็สู้กันให้ถึงที่สุดอย่าท้อถอย
พักสายตากันอีกรอบครับพี่ๆ
