ผมเห็นด้วยครับ ไม่ใช่ในแง่ของการประหยัดพลังงาน แต่เป็นในแง่ของความปลอดภัย
รถตู้พยาบาล ภายในมีสารพัดอุปกรณ์ ไหนจะคนเจ็บอีก สมมุติว่าคถพยาบาลคันนี้วิ่งด้วยความเร็ว90กม./ชม.ระยะวิ่งซัก60กม.เทื่อเทียบกับรถวิ่ง120กม./ชม.แล้ว ถึงที่หมายต่างกันแค่15นาที ... แต่ความปลอดภัย , ความทระแทกกระเทือนต่างกันมาก
ภายในรถมีทีมพยาบาลดูแลผู้ป่วยอยู่แล้ว...
เดือนที่แล้วเพิ่งขับตามรถพยาบาลที่เปิดหวอบนถนนเซาเทิร์นซีบอร์ด(ถนนที่กว้างและว่างสุดๆ)วัดความเร็วได้แค่110กม./ชม. ขับตามอยู่กว่า30กม.เห็นเลยว่ารถทั้งกระแทกและโยกสุดๆ นึกไม่ออกเลยว่าทีมพยาบาลในรถจะดูแลผู้ป่วยได้อย่างไร และผู้ป่วยจะทรมานขนาดไหน
ในฐานะ คนเคยนอนมาแล้ว ทั้งรถกู้ภัยและรถพยาบาล (แปลก ทำไม ไม่มีรถหมอก็ไมรู้..)
นุ่มกว่าที่คิดครับ โช้คอัพ อาจช่วยซับแรงไม่พอ แต่เบาะนอนนี่ช่วยได้เยอะ
ไม่ถึงกับเหมือนนอนอยู่บ้านแต่พอนอนได้สัก5นาที จะปรับตัวได้
แรงเหวี่ยงจากการเข้าโค้งมีมากกว่า ถึงแม้ตัวจะถูกตราสังข์ เอ้ย..ไม่ใช่ ตัวจะถูกตรึงไว้ไม่ให้เคลื่อนลื่นไหล
แต่แรงกระทำ ก็ทำให้เรารู้สึกถึงน้ำหนักที่ดันออกข้างได้มากทีเดียว