๏ฟฝ๏ฟฝ็บบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝสน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาปืน
เมษายน 27, 2024, 12:55:28 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 3 4 5 [6] 7 8 9 ... 1487
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เครื่องบินขับไล่ใหม่ กองทัพอากาศไทย  (อ่าน 3964690 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
อรชุน-รักในหลวง
หมู่โลหิต O
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1599
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10265



« ตอบ #75 เมื่อ: ตุลาคม 21, 2007, 09:15:29 PM »

รัศมีปฏิบัติการของ F-16 น่าจะเป็น 550 ไมล์ (880 กม.) ครับ และพิสัยบินไกลสุดของกริเปน 3,250 กม. ครับ    
แสดงว่าผมพิมพ์ผิด - -" ขอบคุณพี่ใหม่ที่ช่วยแก้ให้ครับ

คือถ้าจะเอาให้ครบถ้วนจริงๆแล้ว f16 มีระบบอาวุธที่ใช้ในการโจมตีครบถ้วนกว่า
ข้อนี้ผมขอแย้งครับ  ระบบอาวุธที่ F16 ติดตั้งได้ JAS 39 ก็ติดตั้งได้ทั้งหมด แต่ที่JAS 39ติดตั้งได้ F16 ติดตั้งไม่ได้นะครับ ถ้าจะติดตั้งต้องอัพเกรด อย่าง F 16 I  แล้ว AIM 120 ไม่ใช่อาวุธปล่อยพิสัยไกลแต่เป็นพิสัยปานกลางแบบก้าวหน้าครับ ติดตั้งได้ทั้งคู่
ที่F16 ติดตั้งระบบอาวุธของชาติอื่นไม่ค่อยได้ไม่ได้หมายความว่าไม่ดีนะครับ เพียงแต่ว่าเครื่องบินรบของกองทัพสหรัฐไม่จำเป็นต้องพึ่งพาระบบอาวุธของของชาติอื่นเพราะของตัวเองก็เพียงพอต่อทุกภารกิจที่ต้องปฏิบัติ

      นี่สเปคครับ  
AIM-120 AMRAAM (Advanced Middle Range Air to Air Missiles) เป็นจรวดอากาศสู่อากาศ นำวิถีพิสัยกลาง นำวิถีด้วยเรดาร์ ปฏิบัติการได้ทุกกาลอากาศ สามารถติดตั้งกับ เครื่องขับไล่ และสามารถโจมตีเป้าหมายที่บินในระยะต่ำได้อย่างดี โดยสามารถแยกแยะเป้าหมายออกจากสิ่งแวดล้อมได้ นักบินสามารถควบคุม AMRAAM ได้หลายนัดในการโจมตีเป้าหมายในเวลาเดียวกัน มีความเร็วประมาณ 4 มัค และมีรัศมีปฏิบัติการมากกว่า 20 ไมล์ สามารถตอบโต้การต่อต้านทางอิเล็กทรอนิกส์ในขณะเข้าหาเป้าหมายได้ ระบบขับเคลื่อนเป็นแบบเชื้้อเพลิงแข็ง นำวิถีด้วยเรดาร์ (Active Radar) หัวรบเป็นดินระเบิดแรงสูงขนาด 84 ปอนด์ จรวดมีความยาว 84 ฟุต เส้นผ่าศูนย์กลาง 7 นิ้ว มีน้ำหนักรวม 335 ปอนด์

อาวุธนำวิถีอากาศสู่อากาศ AIM-120 (AMRAAM) เป็นอาวุธนำวิถีระยะปานกลาง นำวิถีด้วยเรดาร์แบบ Active radar-guied สามารถยิงได้ทุกทิศทุกทาง (all-aspect) และเหมาะกับการใช้งานในทุกกาลอากาศ (all-weather) ดินขับชนิดแข็ง (solid propellant) และหัวรบแบบระเบิดแรงสูงและทำลายด้วยสะเก็ดระเบิด (fragmentation warhead)

อาวุธนำวิถีอากาศสู่อากาศ AIM-120 (AMRAAM) ได้มีการวิจัยและพัฒนาโดยอาศัยคุณลักษณะและขีดความสามารถของอาวุธนำวิถี AIM-7 Sparrow เป็นต้นแบบ ได้พัฒนาให้มีความเร็ว ระยะยิง ขีดความสามารถในการนำวิถีเข้าหาเป้า รวมทั้งมีการต่อต้านการรบกวนด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ได้ดีกว่า AIM-7 อีกทั้งยังมีการพัฒนาประสิทธิภาพของระบบนำวิถีให้มีความแน่นอน โดยพัฒนา SEEKER ที่จับและติดตามเป้าแบบ Active Radar ให้สามารถจับและติดตามเป้าแบบ Track-while-scan ทำให้สามารถจับและยิงเป้าได้พร้อมกันหลายๆเป้า

อาวุธนำวิถีอากาศสู่อากาศ AIM-120 (AMRAAM) ได้รับการพัฒนาให้ติดตั้งได้กับ เครื่องบินรบ หลายแบบ เช่น เครื่องบินรบ F-14, F-15, F-16 และ F/A-18 รวมทั้งได้มีการดัดแปลงให้ติดตั้งได้กับเครื่องบินรบของทางยุโรป เช่น JA-37 Viggen, JAS 39 Gripen, F-4 Tornado, Hawk 200, Eurofighter 2000 เป็นต้น

ถ้าพิสัยไกลในคลังของ อเมริกามีแบบเดียวคือ AIM 54 ฟีนิกซ์พิสัยยิงไกลกว่า100กิโล ที่ออกแบบมาสำหรับ F14 Tomcat ซึ่งทั้ง F16 และ JAS 39 ไม่สามารถติดตั้งได้เพราะขนาดใหญ่มาก
บันทึกการเข้า
อรชุน-รักในหลวง
หมู่โลหิต O
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1599
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10265



« ตอบ #76 เมื่อ: ตุลาคม 21, 2007, 09:57:09 PM »

คุณHydraช่วยลองมองมุมกลับ พยายามหาข้อด้อยของJAS39ที่สู้F16ไม่ได้ให้หน่อยได้ไหมครับ 
ข้อนี้พูดไปก็เหมือนเวอร์แต่เท่าที่ศึกษาดูผมยังไม่เห็นว่ามีขีดจำกัดข้อไหนที่ JAS 39 ด้อยกว่าF16 เพราะF16 ออกแบบมานานแล้วแต่ กริฟเพนเป็นเครื่องบินออกแบบใหม่   ถ้าจะเอาตระกูล F16 มาเทียบต้องเอา F2 มาเทียบครับถึงจะสมน้ำสมเนื้อเนื่องจาก F2 มีแค่เปลือกนอกที่เหมือนF16 แต่จะว่าเหมือนหมดก็ไม่ได้เพราะF2 ใหญ่กว่า F16 พอสมควร แต่ภายในออกแบบใหม่ทั้งหมดโดยใช้เทคโนโลยีของญี่ปุ่นเองซึ่งล้ำหน้ากว่ามากมายล้ำหน้าจนกระทั้งไอ้กันต้องเอาเทคโนโลยีการขึ้นโครงสร้างปีกไปใช้ในเครื่องบินF22 ของตัวเองตามสัญญาการถ่ายทอดเทคโนโลยีกลับของประเทศผู้แพ้สงครามแล้วญี่ปุ่นเองก็ไม่สมารถที่จะขายเครื่องบินรุ่นนี้ให้ประเทศอื่นได้อีกเหมือนกันสามารถผลิตเพื่อใช้ในการป้องกันประเทศเท่านั้น 

Specifications - F-2 Attack Fighter, Japan

Dimensions
Wingspan  10.8m
Span of Tailplane  6.05m
Length  15.52m
Height  4.96m
Weights
Empty Weight  12,000kg
Internal Fuel Capacity  3,600kg
Performance
Maximum Speed  Mach 2
Combat Radius 833km


นี่รูปของ F2 เป็นไงเหมือนF16 มั้ยครับ
บันทึกการเข้า
อรชุน-รักในหลวง
หมู่โลหิต O
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1599
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10265



« ตอบ #77 เมื่อ: ตุลาคม 21, 2007, 10:03:35 PM »

สเปคโดยละเอียด     Specifications (F-2A)
General characteristics
Crew: One pilot
Length: 15.52 m (50 ft 11 in)
Wingspan: 11.13 m (36 ft 6 in)
Height: 4.69 m (15 ft 5 in)
Wing area: 34.84 m² (375 ft²)
Empty weight: 9,527 kg (21,000 lb)
Loaded weight: 15,000 kg (33,000 lb)
Max takeoff weight: 22,100 kg (48,700 lb)
Powerplant: 1× General Electric F110-GE-129 turbofan, 76 kN military thrust, 131 kN with afterburner (17,000 lbf military thrust 29,500 lbf with afterburner)
Performance
Maximum speed: Mach 2.0 at altitude
Range: 834 km on anti-ship mission (520 miles)
Service ceiling: 18,000 m (59,000 ft)
Rate of climb: m/s (ft/min)
Wing loading: 430 kg/m² at weight of 15,000 kg (88 lb/ft²)
Thrust/weight: 0.89
Armament
20 mm JM61A1 cannon, plus maximum weapon load of 8085 kg:
AAMs: AIM-9 Sidewinder, AIM-7 Sparrow, Mitsubishi AAM-3
air-to-ground weapons include: ASM-1 and ASM-2 anti-ship missiles, various free-fall bombs with CGS-1 IIR seeker heads
Avionics
Mitsubishi Active Electronically Scanned Array radar system.
บันทึกการเข้า
อรชุน-รักในหลวง
หมู่โลหิต O
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1599
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10265



« ตอบ #78 เมื่อ: ตุลาคม 21, 2007, 10:08:10 PM »

นี่สเปคของ F16 บล๊อค30 โดยละเอียดSpecifications (F-16C Block 30)
Data from USAF sheet,[22] AerospaceWeb[23]

General characteristics
Crew: 1
Length: 49 ft 5 in (14.8 m)
Wingspan: 32 ft 8 in (9.8 m)
Height: 16 ft (4.8 m)
Wing area: 300 ft² (27.87 m²)
Airfoil: NACA 64A204 root and tip
Empty weight: 18,238 lb (8,272 kg)
Loaded weight: 26,463 lb (12,003 kg)
Max takeoff weight: 42,300 lb (16,875 kg)
Powerplant: 1× Pratt & Whitney F100-PW-220 afterburning turbofan
Dry thrust: 14,590 lbf (64.9 kN)
Thrust with afterburner: 23,770 lbf (105.7 kN)
Alternate powerplant: 1× General Electric F110-GE-100 afterburning turbofan
Dry thrust: 17,155 lbf (76.3 kN)
Thrust with afterburner: 28,985 lbf (128.9 kN)
Performance
Maximum speed:

At sea level: Mach 1.2 (915 mph, 1,460 km/h)
At altitude: Mach 2+ (1,500 mph, 2,414 km/h)
Combat radius: 340 mi (295 NM, 550 km) on a hi-lo-hi mission with six 1,000 lb (450 kg) bombs
Ferry range: >3,200 mi (2,800 NM, 4,800 km)
Service ceiling: >50,000 ft (15,239 m)
Rate of climb: 50,000 ft/min (254 m/s)
Wing loading: 88.2 lb/ft² (431 kg/m²)
Thrust/weight: For F100 engine: 0.898, For F110: 1.095

ผมไปค้นๆข้อมูลดู F16 คิดตั้ง นิวเคลียแบบ B61 ได้ด้วย *0*
บันทึกการเข้า
NaiMai>รักในหลวง
ไม่ว่าจะมีพร้อมทุกสิ่ง แต่ก็ยังไม่มีสิ่งใดเหนือกว่าความมีสติ
Hero Member
*****

คะแนน 741
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 14564


นายใหม่ รักหมู่


เว็บไซต์
« ตอบ #79 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2007, 03:44:43 AM »

 Grin ข้อด้อยของ Jas-39 ที่ด้อยกว่า F-16 C/D เด่นชัดคือ พิสัยปฏิบัติการที่สั้นกว่า แต่ตรงนี้ชดเชยได้ด้วยการเติมน้ำมันทางอากาศ ซึ่ง ณ เวลานี้ไทยยังไม่มีเครื่องบินเติมน้ำมันกลางอากาศได้ และยังไม่มีความจำเป็นในส่วนนี้ เพราะไม่มีนโยบายรุกรานประเทศใด แต่หากมีความต้องการที่จะมีเครื่องบินเติมน้ำมันกลางอากาศจริง ๆ ก็สามารถดัดแปลงได้โดยใช้เครื่อง C-130 มาติดอุปกรณ์เติมน้ำมันเข้าไป (สิงคโปร์ก็ใช้) และราคาของอุปกรณ์ก็ไม่แพงนัก อีกอย่าง ด้วยว่า Jas-39 เป็นเครื่องบินที่ต้องการการเซอร์วิสจากภาคพื้นดินน้อยกว่า และสามารถปฏิบัติการได้จากถนนหลวงที่มีความยาวเพียง 1 กม. ได้ (บินขึ้นใช้ 600 เมตร บินลงใช้ 800 เมตร) ไม่จำเป็นต้องปฏิบัติการจากสนามบินหลัก ก็สามารถย้ายฐานการบินเข้าไปไกล้เป้าหมายขึ้นได้เพื่อเป็นการร่นระยะทางได้ สุดท้ายในเรื่องพิสัยก็คือปัจจุบันนี้ไม่ใช่ว่าเครื่อง F-16 จะมีประจำอยู่ ณ ฐานบินหลักของฝูงนั้น ๆ เช่นที่กองบิน 4 ตาคลี หรือ กองบิน 1 โคราชเท่านั้น มีการนำเครื่อง F-16 (ที่ผมทราบคือคราวละ 2 ลำ) หมุนเวียนไปเตรียมพร้อมประจำตามสนามบินรองต่าง ๆ อยู่แล้ว เช่นกองบิน 41 เชียงใหม่ กองบิน 7 สุราษฎร์ฯ กองบิน 51 อุบลฯ กองบิน 53 อุดรฯ เป็นต้น เรื่องพิสัยปฏิบัติการผมจึงเห็นว่าไม่ใช่ปัญหาครับ ส่วนระยะเวลาปฏิบัติการหากไม่มีการเติมน้ำมันกลางอากาศ กลับมีเวลาใกล้เคียงกัน (ประมาณ 2 ชั่วโมง) ทั้ง ๆ ที่ Jas-39 บรรทุกน้ำมันได้น้อยกว่า ก็เพราะว่า Jas-39 ประหยัดน้ำมันกว่าครับ Grin
 Grin อีกส่วนที่ Jas-39 ด้อยกว่า คือน้ำหนักบรรทุก ด้วยขนาดของตัวเครื่องที่เล็กกว่า และเครื่องยนต์มีกำลังน้อยกว่า จากข้อมูลที่ผมหาได้คือ Jas-39 น้ำหนักตัวเปล่า 14,600 ปอนด์ น้ำหนักวิ่งขึ้นสูงสุด 27,500 ปอนด์ คิดเป็นน้ำหนักบรรทุก 12,900 ปอนด์ และ F-16 C/D น้ำหนักตัวเปล่า 26,463 ปอนด์ น้ำหนักวิ่งขึ้นสูงสุด 42,300 ปอนด์ คิดเป็นน้ำหนักบรรทุก 15,837 ปอนด์ ต่างกันประมาณ 3,000 ปอนด์ ซึ่งผมมองมุมกลับซึ่งเป็นความจริงในปัจจุบันคือ F-16 ของไทยไม่เคยติดตั้งอาวุธได้เต็มน้ำหนักบรรทุกเลย (เพราะไม่ได้มีเยอะจนจะติดตั้งให้เต็มเหมือนอเมริกันได้) ผมก็เลยมองว่าหากเข้าประจำการในประเทศไทย ความต่างของน้ำหนักบรรทุกไม่มีผลครับ Grin

*** Grin กองบิน 71 สุราษฎร์ฯ ตอนนี้เปลี่ยนเป็นกองบิน 7 การเป็นสนามบินเลขตัวเดียวคือเลื่อนลำดับความสำคัญเป็นสนามบินหลักแล้ว เช่น กองบิน 4 ตาคลี กองบิน 1 โคราช และกองบิน 6 ดอนเมือง เว้นแต่กองบิน 2 โคกกระเทียม ซึ่งเมื่อก่อนเคยเป็นสนามบินหลัก แต่ปัจจุบันไม่ได้เป็นแล้ว แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยนตัวเลขเป็น 2 หลัก
*** Grin สงสัยกันมั๊ยครับว่า ทำไมสิงคโปร์จึงปรับปรุง F-5 E/F ของตน โดยมีท่อเติมน้ำมันกลางอากาศมาด้วย เครื่องบินใหม่ทุกแบบที่ซื้อมาภายหลังจะสามารถเติมน้ำมันกลางอากาศได้ทั้งหมด และจัดหาอุปกรณ์เติมน้ำมันกลางอากาศมาติดตั้งกับ C-130 ที่ประจำการอยู่ ทั้ง ๆ ที่ประเทศก็เล็กนิดเดียว บิน F-16 หายใจเฮือกเดียวก็สุดประเทศแล้ว ก็เพราะว่าสิงคโปร์เป้นเพียงเกาะเล็ก ๆ หากโดนบุก แว๊บเดียวก็หมดเกาะแล้ว และเมื่อเป็นเช่นนั้นสิงคโปร์อาจต้องมีการใช้ฐานบินภายนอกประเทศที่มีระยะทางไกล จึงจำเป็นต้องใช้เครื่องบินที่สามารถรับการเติมน้ำมันกลางอากาศเพื่อเพิ่มระยะปฏิบัติการไกลขึ้น สามารถบินไปโจมตีข้าศึกที่อยู่ในประเทศตัวเองได้ Grin

 Cry ผมเชียร์ Jas-39 อีกแล้วหรอเนี่ย ย้ำอีกครั้งครับว่าผมชอบ F-16 Cry
บันทึกการเข้า

E_mail
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #80 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2007, 08:38:48 AM »

ขอบคุณครับ ยิ่งอ่านยิ่งชื่นใจ เมื่อตอนที่มีกระทู้เครื่องบินเมื่อนานมาแล้วผมแอบเชียร์JAS39กับSU30อยู่....แต่ไม่หวังมากเพราะที่ผ่านมาประเทศไทยของเราต้องกระดิกหางขอซื้อของเดนใช้จากอเมริกาอยู่แทบตลอด

ตอนแรกยังคิด ว่าต่อให้ได้ซื้อจริง ก็ต้องโดนการเมืองแทรกแซงจนเป็นF16รุ่นเดนๆจากไอ้กันอีกตามเคย...

ผมไม่สนเรื่องราคา+วิธีที่ต้องจ่ายครับ

สร้างสนามบินสุวรรณภูมิจ่ายไปหลายแสนล้าน เห็นๆกันอยู่ว่าโกงกันไปเป็นแสนล้านยังทนมันได้ ถ้าสุวรรณภูมิเป็นหน้าตา(สุดอัปลักษณ์)ของชาติ เครื่องบินรบฝูงนี้ก็เป็นเกียรติภูมิของชาติ ต่อให้ซัก2-3ฝูงก็ยังไม่ได้เสี้ยวของที่แม่NGแดGกันที่สุวรรณภูมิ แล้วจะอะไรกันนักหนา ?



บันทึกการเข้า
E_mail
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #81 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2007, 09:02:21 AM »

ผมมองข้ามราคากับวิธีการจ่าย ไม่สนใจเลย เพราะผมมองไปที่ประสิทธิภาพ+ความเหมาะสมมากกว่า

รอบบ้านมีแต่จิ๊กโก๋อันธพาล ทะเลาะกันมาก็หลายครั้งใช้627PC , ข้างล่างก็เป็นไอ้ตี๋นักปอกลอกกับอาบังจอมตุกติก ใช้แบแรตต้า92ฟูลออฟชั่น

บ้านเราจะเปลี่ยนจากสมิธMPสปริงล้าๆมาเป็นSIG229ใหม่เอี่ยม แถมกระสุนไฮดร้าช็อค+pราคา45,000แถมสัญญาณกันโขมย
ยังต้องมานั่งเกี่ยงกันอีก ว่าทำไมถึงไม่เอาแบแรตต้ามือสองราคา42,000 แค่อ้อนวอนซักนิด กระดิกหางซักหน่อยเดี๋ยวไอ้กันก็ขุดของเดนใช้มาถ่างเฟรมขายต่อให้ กระสุนก็เอาลูกซ้อมLRNไปละกัน ลูกJHPถ้าอยากได้กราบงามๆ3ทีแล้วจะขายให้ แต่เก็บไว้ในต้เซฟบ้านมันก่อนนะ...


ทางใต้ของเรามีF16รุ่นล่าสุด มีเงินเหลือเฟือพอที่จะอัพเกรดงบฯเหลือแหล่สำหรับฝึกซ้อม ขืนซื้อF16เดนๆออพชั่นกะพร่องกะแพร่งมาใช้ แล้วไอ้ตี๋+อาบังนักเสวยไวอากร้ามันจะเห็นหัวเราหรือ ?

ตอนบนฝั่งซ้ายพม่ามีมิก-ซูไม่รู้ตั้งกี่เท่าของประเทศไทย ซื้อซู30มาได้อย่างเก่งก็1ฝูง ปัญญาซ่อมไม่มี เสียเมื่อไหร่จอดเดี้ยง .... เกิดขัดใจเรื่องชายแดนระนองกันขึ้นมา เราส่งซู30ของเราขึ้นไปชนกับซูของพม่า ต่อให้ไทยเก่งเป็นเทวดายิงซูพม่าได้ในอัตราส่วน3:1 แต่ไทยมีแค่12 พม่าส่งมา40เราก็จบเห่แล้ว  Tongue

บันทึกการเข้า
lek
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1594
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 13941


การแบ่งปัน ทำให้เราและคนอื่นมีความสุข


« ตอบ #82 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2007, 09:30:32 AM »

ไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่อยากให้ซื้อ    จรวดต่อสู้อากาศยานมากกว่า     ยานหุ้มเกราะจะรุ่นไหนเจอRPGก็พังคือเก่า
บันทึกการเข้า

มีความสุขแบบที่เรามีก็พอhttp://www.gunsandgames.com/smf/index.php?board=29.0  (รวมพลคนอีสาน)
flyingkob-รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 361
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2395


"สุวิชาโน ภวัง โหติ" ผู้รู้ดี เป็นผู้เจริญ


« ตอบ #83 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2007, 09:31:02 AM »

ไม่ว่าจะใช้เครื่องบินรบของใคร สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การฝึกนักบินให้พร้อมรบตลอดเวลามากกว่า หากการฝึกได้ไม่เพียงพอแล้วไม่ว่าจะใช้เครื่อบินดีเลิศประการใด เราก็สู้ใครไม่ได้หรอกครับ ดูตัวอย่างเช่น ปัจจุบันนี้มีนักบินนาวีกี่คนที่สามารถเอาเครื่องขึ้นลงบนเรือจักรีฯได้ พอบินได้ก็ลาออกไปหากินตามสายการบินกันหมดครับ นี่คือความพร้อมรบทางอากาศของเรา
สิงค์โปร์ กองทัพดูแลนักบินรบเป็นอย่างดี แทบจะไม่มีนักบินคนไหนลาออกไปบินสายการบิน ซึ่งผิดกับประเทศเรา เราผลิตนักบินรบแต่ละปีเป็นจำนวนหลายๆคน พอทำงานจนครบตามสัญญากับกองทัพฯ ก็ลาออกไปอยู่สายการบินกันหมด และส่วนใหญ่ที่ไปอยู่นั้นเป็นนักบินชั้นหัวกะทิแทบทั้งนั้น กองทัพไทยต้องปรับปรุงด้านการไหลของบุคลากรด้านนักบินให้มากครับ
บันทึกการเข้า

ตึกยาวหลังนี้ สอนให้เรารู้สำนึกถึงบุญคุณของแผ่นดิน
Daimyo
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 924
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 9043



« ตอบ #84 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2007, 09:41:56 AM »

แบบความรู้น้อย....ผมว่าการจัดซื้ออาวุธของกองทัพไทยคงอิงกับยุทธศาสตร์และประเมินภัยคุกคามที่อาจจะมีขึ้นในอนาคตเป็นหลัก...
ในแถบนี้...อาเซียน ที่แน่ๆบรรยากาศโดยรวมคงไม่มีขนาดที่ว่าจะมารบกันเองในกลุ่ม...เซ้งลี้กันดีกว่า ฮ้อๆๆๆ
อีกอย่างอาวุธก็ไม่ได้ต่างกันมากนัก...ในระดับคุณภาพนะครับ
ยกเว้นก็แต่สิงคโปร์ที่เป็นลูกรักไอ้กัน...อยากได้อะไรก็ซื้อได้แถมกระเป๋าหนักอีกตะหาก....

ภัยคุกคามจริงๆถ้าจะมีก็คงมาจากนอกกลุ่ม...ซึ่งก็มีแต่พวกมหาอํานาจทั้งหลาย....
ซึ่งถ้าจะมีจริงๆ...ระดับของเทคโนโลยี่ที่ยังห่างชั้นกันเยอะ...ถ้ามีการบุกจริงๆ ไม่เกินชั่วโมงก็คงโดนกวาดเรียบ...
แต่ด้วยพื้นที่นี้ไม่ใช่จุดที่พวกมหาอํานาจจะต้องเข้ามาวุ่นวายแบบในตอ.กลาง...เพราะนํามัน...
เพราะฉนั้นการรุกเข้ามาด้วยกําลังก็คงไม่มีความจําเป็น....
การรุกเข้าครอบครองมีวิธีที่แยบยลอีกหลายอย่าง...เช่นเข้าครอบครองทางเศรษฐกิจ....เหมือนคุ้นๆว่า..กิจการหลักๆหลายอย่างในบางประเทศ....เจ้าของตัวจริงนั่งทํางานในนิวยอร์ค ลอนดอน ฮ่องกง สิงคโปร์ หรือ ในซูริค....
ไม่เห็นต้องเอาทหารเข้ามาให้เปลืองตัวเลย....

บันทึกการเข้า

ดังสายลมที่พัดผ่านลานป่า..พาใบไม้พลัดถิ่น..ดั่งสายน้ำที่ไหลรินพัดพา..นำดวงใจฉันมาใกล้เธอ..
"ความหวังดีที่เธอให้สังคม ฉันชื่นชมเธอเสมอ"
ทัดมาลา ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป
มืออ่อน หมัดแข็ง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 857
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6568


เตสาหัง สิรสา ปาเท วันทามิ ปุริสุตตเม


« ตอบ #85 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2007, 01:24:40 PM »

เรื่องนักบินไหลออกทั้ง ทอ. ทร.แก้ไม่ได้ง่ายๆหรอกครับ เครื่องบินไม่พอใช้ ทีมีก็ซ่อมกินกันไป ของบจัดซื้อทีก็โดนด่า...ลองนึกยอนกลับไปครับว่าในรอบ ยีสิบปี เครื่องหมดอายุแล้วเท่าไร ยืดอายุมาเท่าไร ซ่อมกินตัวอีกเท่าไร...

ตราบใดที่ครองยศเลย น.ต., น.ท. ไปแล้วอัตราประจำฝูงไม่พอ  ต้องไปนั่งในห้าเหลี่ยม นานๆไปบิน keep current ทีนึง ออกไปอยู่แอร์ไลน์คงเป็นทางออกครับ

พูดถึงสนามบิน เพิ่งกลับจากไซง่อน(โฮจิมินท์)  รันเวย์สร้างแต่ยุคสงครามเวียดนาม สภาพรันเวย์ แท๊กซี่เวย์ยังสมบูรณ์มากๆ ผิดกับประเทศสารขัณท์จริงๆ.............
บันทึกการเข้า

บรรพบุรุษของไทยแต่โบราณ ปกบ้านป้องเมืองคุ้มเหย้า
เสียเลือดเสียเนื้อมิใช่เบา หน้าที่เรารักษาสืบไป
      
ลูกหลานเหลนโหลนภายหน้า จะได้มีพสุธาอาศัย
อนาคตจะต้องมีประเทศไทย มิยอมให้ผู้ใดมาทำลาย
อรชุน-รักในหลวง
หมู่โลหิต O
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1599
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10265



« ตอบ #86 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2007, 01:35:43 PM »

  ผมเชียร์ Jas-39 อีกแล้วหรอเนี่ย ย้ำอีกครั้งครับว่าผมชอบ F-16     พี่ใหม่ชอบF16 แต่ผมชอบ Mitsubishi F2 JADF อ้า 5555555
บันทึกการเข้า
tlock
Jr. Member
**

คะแนน 3
ออฟไลน์

กระทู้: 64


« ตอบ #87 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2007, 02:26:46 PM »

จาก นสพ. คม ชัด ลึก ฉบับวันที่ 21 ตุลาคม 2550
ซื้อ"กริพเพน" เจอสหรัฐกดดัน มรสุมลูกใหม่ของกองทัพอากาศ


ทอ.เจอมรสุมลูกใหม่แม้ ครม.จะอนุมัติให้จัดซื้อ "กริพเพน" ด้วยงบผูกพัน 10 ปี 3.4 หมื่นล้าน แต่ก็ต้อง "เจอตอ" เมื่อบริษัทค้าอาวุธสหรัฐส่งหนังสือมาทวงถามว่า เหตุใดจึงปันใจให้สวีเดน ทั้งที่กองทัพไทยเคยซื้อเครื่องตระกูล เอฟ มาหลายสิบปี
"ทางล็อกฮีตมาร์ตินทวงถามว่า เหตุใดไทยจึงปันใจให้สวีเดน ทั้งที่ไทยและสหรัฐเคยเป็น "พันธมิตรนอกนาโต" มาอย่างแน่นแฟ้น ยาวนาน แถมเครื่องทั้ง เอฟ5 และเอฟ 16 ก็เคยซื้อของสหรัฐมาตลอดหลายสิบปี!!" 
ในที่สุดกองทัพอากาศ (ทอ.) ก็ได้เฮกันดังๆ เมื่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติงบประมาณผูกพัน 10 ปี มูลค่ารวม 34,400 ล้านบาท เพื่อจัดซื้อเครื่องบินขับไล่รุ่น JAS-39 GRIPEN ของประเทศสวีเดน
เพื่อนำมาทดแทนเครื่องบินขับไล่F-5 E ซึ่งใช้งานมา 30 กว่าปี และใกล้ปลดประจำการเต็มที 
อันที่จริงความเป็นมาของโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่ฝูงใหม่ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี2546 โดย ทอ.วางยุทธศาสตร์ไว้ที่การดูแลเขตเศรษฐกิจในพื้นที่ "ภาคใต้" บริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามัน
โดยเครื่องที่อยู่ในข่ายพิจารณามีอยู่3 รุ่น คือ F-16 C/D ของสหรัฐอเมริกาJAS-39 GRIPEN ของสวีเดน และ SU-30 MK ของรัสเซีย
แต่แผนการจัดซื้อก็ต้องมีอัน"สะดุด" เรื่อยมาด้วยเหตุผลเรื่องงบประมาณ และข้อครหาเรื่อง "คอมมิชชั่น" 
กว่าจะคืบก็ต้องรอถึงรัฐบาลที่แต่งตั้งโดยทหารซึ่งกระทรวงกลาโหมได้เสนอเรื่องขอความเห็นชอบหลักการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีสำหรับโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่อเนกประสงค์ทดแทนเครื่องบินขับไล่แบบ 18 ก/ข (F-5E) ลงวันที่ 1 มิถุนายน 2550
พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้คณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 พิจารณากลั่นกรองโดยได้จัดให้มีการประชุมเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2550
คณะกรรมการมีมติให้ทอ.นำเรื่องเสนอนายกรัฐมนตรีโดยตรง โดย พล.อ.อ.ชลิตพุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ(ผบ.ทอ.) พร้อมคณะ ได้เข้าพบนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2550
เมื่อวันที่12 ตุลาคม 2550 จึงมีการประชุม "วาระพิเศษ" มีผู้เข้าร่วมประชุม ได้แก่ 
พล.อ.สุรยุทธ์พล.อ.พงษ์เทพเทศประทีป เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายวุฒิพันธ์วิชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ นายสมศักดิ์โชติรัตนศิริ ผู้อำนวยการจัดทำงบประมาณด้านเศรษฐกิจ 5 สำนักงบประมาณ
พล.อ.อ.ชลิตพุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศพล.อ.อ.อิทธพรศุภวงศ์ เสนาธิการทหารอากาศ และ พล.อ.ท.ม.ล.สุทธิรักษ์เกษมสันต์ ปลัดบัญชีทหารอากาศ
นายกรัฐมนตรี"เห็นชอบด้วย" และสั่งการให้บรรจุเข้าวาระการประชุม ครม. เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2550 กระทั่งมีมติจัดซื้อในที่สุด 
เดิมกองทัพอากาศเสนอของบประมาณ3.4 หมื่นล้านบาท เป็นงบผูกพัน 5 ปี ตั้งแต่ปี 2551-2555 แต่รัฐบาลท้วงติงเรื่องงบประมาณที่สูงเกินไป
ทอ.จึงเสนอไปใหม่ว่าจะขอแบ่งการจัดซื้อเป็น 2 เฟส...
เฟสแรก จำนวน 6 เครื่อง เป็นเงิน 1.9 หมื่นล้านบาท เป็นงบผูกพันตั้งแต่ปี 2551-2555
เฟสสุดท้าย จำนวน 6 เครื่อง เป็นเงิน 15,400 ล้านบาท เป็นงบผูกพันตั้งแต่ปี 2556-2560
เครื่องรุ่นนี้จะนำมาทดแทนเครื่องเอฟ 5 ที่ประจำการอยู่ที่ จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.อุบลราชธานี ซึ่งจะปลดประจำการในปี 2552-2554 
ปัจจุบันมีกองทัพอากาศ4 ชาติที่มีเครื่องบินรุ่นนี้ประจำการอยู่คือ สวีเดน185 เครื่อง แอฟริกาใต้ 28 เครื่อง สาธารณรัฐเช็ก12 เครื่อง และฮังการี14 เครื่อง
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทอ.ตัดสินใจเลือกเครื่องจากสวีเดนนอกเหนือจากสมรรถนะก็คือ "ของแถม" ที่มากมายเป็นประวัติการณ์ ได้แก่
1.เครื่องบินแอร์บอร์นเออร์ลี่ วอร์นนิ่ง จำนวน2 เครื่อง
2.ขีปนาวุธโจมตีอาร์บีเอส15 พร้อมเรดาร์ ERIEYES จำนวน2 ตัว ติดเครื่องบิน SAAB 340 จำนวน 2 เครื่อง และเครื่องบิน SAAB เครื่องเปล่าอีก 1 เครื่อง
พร้อมทั้งให้"รหัสข้อมูลพิเศษ" เกี่ยวกับรายละเอียดของเครื่องบิน ซึ่งบริษัทอื่นไม่ได้มอบสิ่งนี้ให้ โดยรหัสพิเศษชุดนี้สามารถนำไปใช้ในการพัฒนาเทคโนโลยีในอนาคตของกองทัพอากาศ 
ขณะที่ระบบสื่อสารปกติภาคพื้นดินปกติจะต้องมีสายในการติดต่อพูดคุยแต่กริพเพนมีเทคโนโลยีไร้สาย หรือ "บลูทูธ" ในการสื่อสาร
ผู้เชี่ยวชาญด้านอากาศยานระบุว่า ของแถมมากับเครื่องบินกริพเพน คือ เรดาร์ ERIEYES จำนวน2 ตัว ติดเครื่องบิน SAAB 340 จะเป็นจานเรดาร์ที่ติดตั้งไว้บริเวณตัวเครื่องบิน เมื่อเครื่องบินมีการติดจานเรดาร์เวลานำเครื่องบินสู่อากาศจะทำให้ตรวจจับสิ่งผิดปกติได้ไกลขึ้น 
"เวลาฝึกยุทธวิธีร่วมโคปไทเกอร์ระหว่างสิงคโปร์กับสหรัฐ ทั้งสองประเทศจะมีเครื่องบินเตือนภัยทางอากาศเข้ามาฝึกด้วย ทำให้มีประสิทธิภาพสูง เพราะสามารถตรวจจับเครื่องบินฝ่ายตรงข้ามที่อยู่ได้ไกลกว่าเรดาร์ที่ติดอยู่กับเครื่องบินอย่างเดียว"
ข้อดีอีกอย่างของกริพเพนคือระบบดาต้า ลิงค์ ซึ่งเหมือนระบบเชื่อมโยงข้อมูลของ"อินเทอร์เน็ต" ระหว่างเครื่องบินกับเครื่องบิน
"สมมติมีสิ่งผิดปกติลอยอยู่บริเวณพื้นที่ กทม. และเรามีเอแวคอยู่บริเวณ จ.สระบุรี ข้อมูลก็จะปรากฏอยู่บนจอเรดาร์ไกลถึง จ.นครราชสีมา แต่หากเป็นเครื่องบินทั่วไปจะปรากฏอยู่แค่บริเวณปริมณฑลเท่านั้น ทั้งนี้ เรดาร์ของกริพเพนอาจจะด้อยกว่าของ ซู-30 หรือ เอฟ 16 แต่เรดาร์ของกริพเพนสามารถต่อสัญญาณถึงกันได้ ซึ่งเครื่องแบบอื่นไม่สามารถทำได้"
นอกจากนี้ประเทศสวีเดนยังให้ทุนการศึกษาจำนวน 200 ทุน โดยเป็นทุนเกี่ยวกับด้านวิศวกรรมอากาศยาน
มองลึกไปอีกชั้น...ยุทธศาสตร์ของสวีเดนคือป้องกันภัยคุกคามจาก "รัสเซีย" เจ้าของ ซู-30 เป็นสำคัญ ด้วยเหตุนี้กริพเพนจึงถือว่ามีความเหมาะสม เพราะอย่างน้อย...เพื่อนทางทิศใต้ของเราก็มี ซู-30 ไว้ประจำการอยู่ก่อนแล้ว !!!
แต่ฝันที่ทำท่าว่าจะอยู่ใกล้แค่เอื้อมของเหล่าเสืออากาศคงต้อง"ลุ้นหนัก" กันอีกยกเมื่อบริษัท ล็อกฮีตมาร์ติน ยักษ์ใหญ่ค้าอาวุธจากสหรัฐได้ทำหนังสือทวงถามมายังกระทรวงการต่างประเทศ และส่งผ่านถึงกองทัพอากาศว่าเหตุใดจึงเปลี่ยนมาซื้อเครื่องจากยุโรปแทน
เนื้อหาในหนังสือฉบับดังกล่าวทางล็อกฮีตมาร์ตินทวงถามว่า เหตุใดไทยจึงปันใจให้สวีเดน ทั้งที่ไทยและสหรัฐเคยเป็น "พันธมิตรนอกนาโต" มาอย่างแน่นแฟ้นยาวนาน แถมเครื่องทั้ง เอฟ5 และเอฟ16 ก็เคยซื้อของสหรัฐมาตลอดหลายสิบปี!! 
อย่างไรก็ตามวงในของกองทัพอากาศก็เชื่อว่าจะไม่เป็นปัญหาต่อการจัดซื้อเครื่องบินกริพเพน โดยหากสหรัฐจะไปบีบให้สวีเดนล้มเลิกสัญญากับไทย เนื่องจากเป็นประเทศที่มีการรัฐประหาร เราก็เตรียมแก้เกมไว้แล้ว โดยอาจจะมีการเซ็นเอ็มโอยูให้อียูเข้ามาสังเกตการณ์เลือกตั้งในไทย และส่งต่อให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเป็นผู้เปิดแอลซี ซึ่งสหรัฐคงไม่มีเหตุผลที่จะมากดดันได้อีก
วงในบอกด้วยว่าเหตุที่ตัด เอฟ 16 ออกไปนั้นเนื่องจากเมื่อติดต่อขอทราบรายละเอียดเกี่ยวกับเครื่องบินและการเสนอราคา บริษัทล็อกฮีตมาร์ตินก็ไม่ได้สนใจที่จะติดต่อกลับมามากนัก และยังไม่ยอมลดราคาให้ด้วย ซึ่งถือว่ามีราคาแพงมากเมื่อเทียบกับคู่แข่งรายอื่นๆ ด้วยเหตุนี้กองทัพอากาศจึงทำการตัดเครื่องเอฟ 16 ออกไปเป็นตัวเลือกแรก
ส่วนข้อกังวลว่า "อะไหล่" ที่จะมาสนับสนุนให้แก่เครื่อง F-16 A/B ของกองทัพอากาศสหรัฐอาจจะไม่ขายให้นั้น วงในคนเดิมบอกว่า ไม่มีปัญหา เพราะกองทัพได้เตรียมแก้ปัญหานี้ไว้แล้ว ปัจจุบันทางสิงคโปร์มีเครื่อง F-16 C/D ประจำการอยู่เป็นหลัก
ทั้งนี้สิงคโปร์ก็มีเครื่อง F-16 A/B ประจำการอยู่และมีอะไหล่สำรองไว้ด้วย ฝ่ายไทยจึงสามารถขอความช่วยเหลือเรื่องอะไหล่ได้ โดยมี "ข้อแลกเปลี่ยน" เป็น "สถานที่ฝึกบิน" ในฐานทัพอากาศไทย !!
ฝันของเสืออากาศไทยทำท่าจะเป็นจริงได้หรือไม่...แรงกดดันจากมหามิตรอเมริกาจะมีฤทธิ์เดชแค่ไหน...ต้องติดตามดูให้ดี!
ทีมข่าวความมั่นคง
บันทึกการเข้า
อรชุน-รักในหลวง
หมู่โลหิต O
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1599
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10265



« ตอบ #88 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2007, 02:45:40 PM »

มันยังมีหน้ามาถามอีกว่าทำไมไม่ซื้อของมัน  ขอให้ลดราคาไม่ยอม ขอข็อมูลดาต้าพาร์ทก็ไม่ให้ ขอซื้ออาวุธก็ทำลีลา แถมไม่สนใจจะเทคแคร์เรา มันยังหน้าด้านมาถามโมโหเว้ยย
บันทึกการเข้า
E_mail
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #89 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2007, 03:13:00 PM »

เชื่อว่าทอ.และรัฐบาลต้องรู้ล่วงหน้าอยู่แล้วละครับ ว่าไอ้อ้วนพันธพาลมันต้องมีปฏิกริยาแบบนี้ คงเตรียมรับมือไว้นานแล้วแหละ  Wink
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 3 4 5 [6] 7 8 9 ... 1487
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.106 วินาที กับ 21 คำสั่ง