เครื่องบินขับไล่ใหม่ กองทัพอากาศไทย
พญาจงอาง +รักในหลวง+:
เจ้าหมูป่าเขี้ยวตันกับกองทัพอากาศไทย
จากประเด็นเมื่อไม่กี่วันก่อนที่มีข่าวว่าบริษัท Boeing ประเทศสหรัฐออกมาสนับสนุนให้กองทัพอากาศสหรัฐทำการขายเครื่องบินโจมตีแบบ A-10 Thunderbolt II มือสองให้กับมิตรประเทศ มาสู่คำถามที่ว่าจริงหรือไม่ที่สหรัฐเคยเสนอขาย A-10 ให้กับกองทัพอากาศไทยมาก่อน? ถ้าเป็นเรื่องจริงแล้วทำไมเราจึงไม่คว้าโอกาสนั้นไว้ เรื่องราวเหล่านี้มีที่มาตามนี้
ก่อนอื่นต้องเข้าใจกันก่อนว่าเมื่อซักราวๆ20-30ปีที่แล้ว ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของเรากำลังถูกคุมคามอย่างหนักจากลัทธิคอมมิวนิสต์ซึ่งแผ่ขยายอย่างรวดเร็วหลังจากที่สหรัฐถอนกำลังทหารออกจากเวียดนาม ประเทศเพื่อนบ้านหลายๆประเทศไม่ว่าจะเป็นเวียดนาม ลาว กัมพูชา ฯลฯ ถูกกลืนเข้าสู่การเป็นคอมมิวนิสต์ตามทฤษฎีโดมิโน และลัทธิดังกล่าวก็กำลังมุ่งเป้ามาสู่ประเทศไทยเป็นสถานที่ต่อไป เมื่อเป็นเช่นนั้นทางกองทัพไทยรวมถึงกองทัพอากาศก็จำเป็นต้องพัฒนาขีดความสามารถของยุทโธปกรณ์ต่างๆเพื่อรับมือกับภัยคุกคามดังกล่าว โดยในช่วงประมาณปี 2526 กองทัพอากาศได้มีความต้องการที่จะจัดหาเครื่องบินขับไล่และโจมตีแบบใหม่เข้าประจำการในกองทัพ จึงได้ส่งคณะนายทหารนำโดยท่าน น.อ.อมร แนวมาลี (ยศในขณะนั้น ภายหลังท่านได้ดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการทหารอากาศ)ไปทำการทดสอบและประเมินค่าเครื่องรบแบบต่างๆอาทิ A-7 Corsair II, A-10 Thunderbolt II, F-20 Tigershark, Hawk และ Jaguar(สองแบบหลังเป็นของอังกฤษ)และหลังจากนั้นไม่นานในปี 2528 กองทัพอากาศก็ได้ลงนามในการจัดหาเครื่องบินขับไล่แบบ F-16A/B Fighting Falcon ล็อตแรกภายใต้ชื่อโครงการ "Peace Naresuan" ส่งมอบภายในปี 2531
ส่วนการเสนอขายเจ้าหมูป่า A-10 นั้น เริ่มขึ้นหลังจากที่เราได้ F-16A/B ล็อตแรกมาได้ไม่นาน โดยในขณะนั้นมีเครื่องบินหลากหลายแบบจากหลายประเทศมาเสนอขายให้กับกองทัพอากาศ อาทิ F-7M (MiG-21 เวอร์ชั่นจีน),Tornadoจากอังกฤษ ฯลฯ ทำให้สหรัฐตัดสินใจที่จะเสนอขายเจ้าหมูป่าให้กับกองทัพอากาศไทย แต่ด้วยความล่าช้าของทางสหรัฐเองทำให้ทางเรามองว่าการจัดหา F-16A/B ฝูงที่สองสามารถตอบสนองความต้องการได้ดีกว่า จึงปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าวและทำการจัดหา F-16A/B ฝูงที่สองแทน ซึ่งหลังจากเหตุการณ์นี้สหรัฐก็ไม่เคยเสนอขาย A-10 Thunderbolt II ให้กับชาติไหนอีก
นอกจากเจ้า A-10 แล้ว กองทัพอากาศยังเคยได้รับข้อเสนอจากหลายๆ ประเทศให้ไปเป็นลูกค้าครับ เช่นในปี 2536 กองทัพอากาศได้ทำการจัดงานแอร์โชว์ขึ้นที่ รร.การบิน กำแพงแสน ซึ่งในงานนั้น มีอากาศยานจากค่ายรัสเซียมาร่วมเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น MiG-29 Fulcrum, MiG-31 Foxhound, Su-27 Flanker และแบบอื่นๆ ซึ่งแทบจะกล่าวได้ว่า ในงานนั้นเป็นงานที่เครื่องบินรบของค่ายรัสเซียมาโชว์ตัวมากที่สุดในประวัติศาสตร์ก็ว่าได้. เครดิตบทความ Thai Military Aviation Club
ซึ่งในขณะเดียวกันนี้ นาย Paul Cejas หัวหน้าวิศวกรของบริษัทโบอิ้งออกมาประกาศว่า ไต้หวันได้ถูกจัดอันดับให้เป็นผู้ซื้อที่มีศักยภาพในการจัดซื้อ A-10 Thunderbolt II หลังปลดฯจาก ทอ.สหรัฐฯ และเขาได้กล่าวว่าตอนนี้ทางบริษัทฯได้เริ่มการประชุมในช่วงต้นกับ ทอ.สหรัฐฯที่จะขาย A-10 ให้กับต่างประเทศหลังปลดฯไปแล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับ ทอ.หสรัฐฯเป็นผู้ตัดสินใจในเรื่องนี้
เครื่องบินโจมตี A-10 พัฒนาและผลิตโดยบริษัท Fairchild Republic ในช่วงปี1970 และโบอิ้งได้รับสัญญาในการยืดอายุการใช้งานในปี 2007 และตอนนี้กำลังทำสัญญาฉบับที่2 ที่จะยืดอายุไปจนถึงปี2017 ซึ่งตอนนี้กำลังทำการพัฒนา A-10 จำนวน105ลำ ได้ส่งมอบให้กับ ทอ.สหรัฐฯไปแล้ว200ลำ ที่เหลืออีก60ลำจะถูกนำไปเก็บรักษาไว้ที่สุสานเครื่องบินที่ Davis Monthan ในรัฐแอริโซนา เขาได้เปิดเผยถึงการพัฒนา A-10 ว่าจะมีการพัฒนาเครื่องยนต์แบบใหม่ Cockpit+including a helmet-mounted cueing system+targeting pods แต่เป็นเพียงแนวคิดขั้นต้นของการพัฒนาและเขาเชื่อว่าไต้หวันกำลังมองเครื่องบินสำหรับภารกิจCAS มาก เพราะไต้หวันยังไม่มีเครื่องบินในภารกิจนี้โดยตรง และเขายังได้ระบุว่ายังมีประเทศที่สนใจ A-10 อีกคือเกาหลีใต้และอิรัก.เครดิตบทความ Thai Military Aviation Club ;D
//จะใช้ A-10Thunderbolt II ให้เกิดประโยชน์ที่สุดต้องมีเครื่องครองอากาศ ซึ่งเกาหลีใต้น่าจะเหมาะที่สุด เพราะมีทั้ง F-15K ,F-16 ซึ่ง A-10 เหมาะมากที่จะมีไว้ต่อกรกับทัพรถถังของเกาหลีเหนือ ;D
Nero Angel01:
ค่อนข้างมั่นใจว่าถ้ามีการขายจริง อิรักจะได้ไป
พญาจงอาง +รักในหลวง+:
ขออญาตอีกคอมเม๊นต์วันนี้ ;D
ตรวจรับเฮลิคอปเตอร์แบบ EC 725 เครื่องที่ 3
พลอากาศโทบุญอเนก ดวงอุไร ประธานกรรมการตรวจรับพัสดุ และ พลอากาศตรีมานัต วงษ์วาทย์ ประธานกรรมการตรวจรับทางเทคนิคคณะที่2ของโครงการจัดหาเฮลิคอปเตอร์ขนาดกลางสำหรับค้นหาและช่วยชีวิตในพื้นที่การรบ(ระยะที่ 1)และคณะกรรมการ ได้เดินทางไปตรวจรับเฮลิคอปเตอร์แบบ EC725 เครื่องที่3 ซึ่งผลิตโดยบริษัท Airbus Helicopters ระหว่างวันที่18-21 พฤษภาคม 2558 ณ สาธารณรัฐฝรั่งเศส
โครงการจัดหาเฮลิคอปเตอร์ขนาดกลางฯ(ระยะที่ 1)เป็นการจัดหาเฮลิคอปเตอร์แบบ EC725 จำนวน4เครื่อง เพื่อปฏิบัติภารกิจค้นหาและช่วยชีวิตทดแทนเฮลิคอปเตอร์แบบ UH-1 H Huey ที่ปฏิบัติภารกิจค้นหาและช่วยชีวิตในปัจจุบัน ทั้งนี้กำหนดส่งมอบทั้ง4 เครื่องให้กองทัพอากาศภายในเดือนมิถุนายน2558 จำนวน3เครื่อง และภายในเดือนกรกฎาคม2558 จำนวน1เครื่อง
เครดิตภาพและข่าว รัชต์ รัตนวิจารณ์และกองทัพอากาศไทย www.rtaf.mi.th
และแล้ววันนี้(26 พค 2558)เฮลิคอปเตอร์แบบ EC725 ของกองทัพอากาศก็ได้เดินทางมาถึงอู่ตะเภาแล้ว ว่าที่เฮลิคอปเตอร์แบบที่ 11 "ซุปเปอร์คูก้า" ส่วนจะเดินทางไปกองบิน 2 และมีพิธีขึ้นประจำการอย่างเป็นทางการเมื่อไหร่ โปรดติดตามตอนต่อไป
เครดิตภาพ คุณ ศุภสิทธิ์ สุภกรรม และ รัชต์ รัตนวิจารณ์ ;D
//อาวุธจากฝรั่งเศสชอบอยู่อย่างคือการส่งมอบสินค้า ถ้าเป็นอีกประเทศ สร้างเสร็จ อยากได้ ก็มาขนกลับเอาเอง ทั้งๆที่เครื่อง C-17 Globemaster III บินมาลงอู่ตะเภาแถบจะทุกๆวัน ก็ไม่ใส่มาให้เรา(จริงๆการส่งมอบสินค้า คงมีระบุในสัญญามากกว่า บริษัทผู้ผลิตจะเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งคงรวมราคาในส่วนนี้เข้าไปด้วย) ;D
น้าเสก คนเดิม:
ดีใจด้วยครับ...
Yut64:
กว่าจะได้ครบ 16 ลำต้องไปเที่ยว Paris กันหลายรอบ
//อาวุธจากฝรั่งเศสชอบอยู่อย่างคือการส่งมอบสินค้า ถ้าเป็นอีกประเทศ สร้างเสร็จ อยากได้ ก็มาขนกลับเอาเอง ทั้งๆที่เครื่อง C-17 Globemaster III บินมาลงอู่ตะเภาแถบจะทุกๆวัน ก็ไม่ใส่มาให้เรา(จริงๆการส่งมอบสินค้า คงมีระบุในสัญญามากกว่า บริษัทผู้ผลิตจะเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งคงรวมราคาในส่วนนี้เข้าไปด้วย) Grin
เคยเอา F-5 มาส่งด้วย C-5 ครับคิดค่าส่ง 8 ล้านเหรียญ
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว