คิดได้ไงเนี่ย!

เสียงปราบคอรัปชันเริ่มเปลี่ยน [25 ก.ย. 50 - 17:08]

อีก 5 วัน “บิ๊กบัง” พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธาน คมช. หัวหน้าคณะปฏิวัติ ก็จะเกษียณอายุจากตำแหน่งใหญ่ ผบ.ทบ. อีก 89 วัน ก็จะมีการเลือกตั้งทั่วไป ผ่านวันที่ 23 ธันวาคมนี้ไปแล้ว อำนาจปฏิวัติของ คมช.ก็จะสิ้นสุดลงโดยสิ้นเชิง ใครที่เคยใส่หัวโขนอำนาจปฏิวัติคงจะเริ่มรู้สึกหนาวๆกันบ้างแล้ว

ตอนนี้ข่าวคราว การสอบสวนคดีทุจริตคอรัปชันในรัฐบาลทักษิณ ของ คตส. ที่ออกมา ก็เริ่มเปลี่ยนเสียงให้ได้ยินชัดเจนกันขึ้นเรื่อยๆแล้ว

เริ่มตั้งแต่ “คดีรถและเรือดับเพลิง กทม.” ที่มีการกันผู้ว่าฯ กทม. อภิรักษ์ โกษะโยธิน เป็นพยาน จนส่งผลให้ต้องมีการเปลี่ยนประธานสอบกันใหม่ แล้วก็ตามด้วย “คดีก่อสร้างระบบจ่ายไฟฟ้า และเครือข่ายท่อร้อยสายไฟฟ้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ” ที่ คตส.และ สตง.มีข่าวออกมาล่วงหน้าแล้วว่า สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตรัฐมนตรีคมนาคมไม่ผิด ไม่เกี่ยวข้อง
เหตุผลที่คณะอนุกรรมการไต่สวนเชื่อว่านายสุริยะไม่ผิด เพราะเชื่อในคำชี้แจงของนายสุริยะว่า รัฐมนตรีคมนาคมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดซื้อจัดจ้างโครงการดังกล่าว เพราะเป็นอำนาจหน้าที่ของบอร์ด บทม. รัฐมนตรีมีหน้าที่กำกับดูแลในภาพรวมเท่านั้น ไม่ได้เข้าไปสั่งการในการจัดซื้อจัดจ้างเพื่อกำหนดคุณสมบัติของวัสดุที่ใช้ ซึ่งเอื้อประโยชน์แก่บริษัทใดบริษัทหนึ่ง

คณะอนุกรรมการไต่สวนจึงเห็นว่า นายสุริยะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตโครงการดังกล่าวจริง ถึงแม้ในสมัยที่นายสุริยะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคมนาคม จะไม่ได้พิจารณาเอกสารที่ สตง.เสนอให้ทบทวนโครงการดังกล่าวก็ตาม เพราะกฎหมายความเห็นของ สตง.ไม่มีผลบังคับให้ หน่วยงานใดต้องปฏิบัติตาม
นายสุริยะจึงไม่ผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
แจ่มแจ้งแดงเจ๋ไหมครับ

เมื่อพิจารณาจากวิธีตัดสินของคณะอนุกรรมการไต่สวน คตส.ในเรื่องนี้แล้ว ผมก็อยาก “ฟันธง” ล่วงหน้าไว้ตรงนี้เลยว่า ทุกคดีในรัฐบาลทักษิณที่ คตส.กำลังสอบสวนอยู่ (ยกเว้นคดีภาษีหุ้นชินและที่ดินย่านรัชดาที่เป็นคดีไปแล้ว) ที่เกี่ยวข้องกับนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี สุดท้ายจะ “ไม่มีรัฐมนตรีผิด” เลยแม้แต่คนเดียว เพราะรัฐมนตรีไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง มีหน้าที่แค่กำกับดูแลเท่านั้นไม่เพียงแต่เสียงของ คตส.จะเปลี่ยนไปเท่านั้น แม้แต่เสียงของ คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าการ สตง.และกรรมการ คตส.ที่เคยเสียงแข็งวันนี้ก็เปลี่ยนไป

คุณหญิงจารุวรรณ ออกมาชี้แจงเรื่องนี้ว่า อยากให้กลับไปอ่านรายงานของ สตง.ที่สรุปเกี่ยวกับโครงการนี้ให้ดีจะพบว่า บุคคลที่ถูกระบุความผิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มีเพียง นายศรีสุข จันทรางศุ อดีตปลัดคมนาคม พล.อ.สมชัย สมประสงค์ อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ บทม.และ นายอดิเทพ นาคะวิสุทธิ์ อดีตผู้บริหาร บทม. โดยในรายงานของ สตง.ไม่มีชื่อของนายสุริยะ เข้าไปเกี่ยวข้องในกรณีนี้แต่อย่างใด

“ถ้าหากเขาไม่ผิดในเรื่องนี้ แล้วเราพยายามจะให้เขาผิด ก็จะไม่เป็นธรรมกับนายสุริยะเช่นกัน”

เสียงของคุณหญิงเมณฑกา เปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนโดยสิ้นเชิง

ถ้าหาก คตส.วินิจฉัยคดีนี้ออกมาอย่างนี้จริง ผมเชื่อว่าอีกหลายสิบคดีที่ คตส.กำลังสอบสวนอยู่ ก็ต้องวินิจฉัยตามมาตรฐานนี้ ไม่อย่างนั้นเป็นเรื่องแน่ โดยเฉพาะคดีที่ “เอาผิดเหมาเข่ง” กับ “ข้าราชการ” ที่ปฏิบัติตาม “มติคณะรัฐมนตรี” ที่ คตส.ไปแจ้งข้อกล่าวหาเขาไว้ ก็ต้องไม่ผิดด้วย

สุดท้าย การปฏิวัติ 19 กันยา ไม่เพียงล้มเหลว เสียเวลาเปล่า ทำประชาธิปไตย ถอยหลังลงคลอง ยังทำลายเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมของชาติย่อยยับลงไปด้วย

มีรัฐบาลเลือกตั้งเมื่อไร คงต้องตั้ง คตส.ภาค 2 “คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐและประชาชน” (ผมเพิ่มส่วนประชาชนเข้าไปเพราะครั้งนี้ประชาชนเสียหายไม่แพ้รัฐ) ขึ้นมาสอบ คมช.และ คตส.ต่อไปเสียแล้วละมั้ง ดีไหม.

http://www.thairath.co.th/news.php?section=society03&content=62221

รัฐมนตรีมีหน้าที่กำกับดูแลในภาพรวมเท่านั้น

เมื่อพิจารณาจากวิธีตัดสินของคณะอนุกรรมการไต่สวน คตส.ในเรื่องนี้แล้ว ผมก็อยาก “ฟันธง” ล่วงหน้าไว้ตรงนี้เลยว่า ทุกคดีในรัฐบาลทักษิณที่ คตส.กำลังสอบสวนอยู่ (ยกเว้นคดีภาษีหุ้นชินและที่ดินย่านรัชดาที่เป็นคดีไปแล้ว) ที่เกี่ยวข้องกับนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี สุดท้ายจะ “ไม่มีรัฐมนตรีผิด” เลยแม้แต่คนเดียว เพราะรัฐมนตรีไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง มีหน้าที่แค่กำกับดูแลเท่านั้น

	ผู้เขียน	หัวข้อ: คิดได้ไงเนี่ย! (อ่าน 1390 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้