๏ฟฝ๏ฟฝ็บบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝสน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาปืน
มีนาคม 19, 2024, 06:03:09 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: อวป. มีจำหน่ายที่ สนามยิงปืนราชนาวี/สนามยิงปืนบางบัวทอง/สนามยิงปืนศรภ./
/สนามยิงปืนทอ./
สิงห์ทองไฟร์อาร์ม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2 3 4 ... 21
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ควรเริ่มต้นการยิง IPSC อย่างไร  (อ่าน 249505 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
วรกฤษ
ความฝันทำให้มนุษย์พัฒนาไปข้างหน้าเพื่อสร้างฝันให้เป็นจริง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 45
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6503

สูงสุดคืนสู่สามัญ


« เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2007, 12:17:31 PM »

ผมขออนุญาตตั้งกระทู้ใหม่เพื่อรวบรวมเนื้อหาให้ศึกษาได้อย่างต่อเนื่องครับ

เวลาท่านจะศึกษาหาความรู้เกรงว่าจะลำบากในการค้นหาครับเพราะมีข้อความอื่นเข้ามาคั่นมากมาย

และผมได้รวบรวม ข้อความสนทนา และ ถาม-ตอบ มาไว้ในกระทู้นี้ด้วย

เป็นการเพิ่มเติมเนื้อหาให้เข้มข้นยิ่งขึ้นครับ

กระทู้ ควรเริ่มต้นการยิง IPSC อย่างไร นี้  อาจารย์เฉลิมชัยหรืออาจารย์นกไฟ

ได้เป็นผู้เขียนบทความทั้งหมด เป็นความรู้ที่ถ่ายทอดจากประสพการณ์

ควรค่าแก่การเก็บรักษาไว้ให้เป็นอย่างดี เพราะในเมืองไทยคงมีไม่มีกี่คน

ที่จะเสียสละเวลา มาทำอย่างนี้ ถือว่าเป็นวิทยาทานที่หาได้ยากในสังคมปัจจุบัน

อาจารย์เฉลิมชัยหรืออาจารย์นกไฟ

ได้เริ่มต้นตั้งกระทู้เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2006 เวลา 12:14:57 (PM)

ขอบพระคุณครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 25, 2008, 09:39:41 PM โดย นาจา » บันทึกการเข้า

เร็วเท่าที่เห็น   แม่นเท่าที่จำเป็น 
เคลื่อนไหวเร็วปานสายฟ้า   หยุดให้นิ่มนวลดังแพรไหม      
ใจต้องนิ่งดังขุนเขา   ทำทุกอย่างดั่งสายน้ำไหล
วรกฤษ
ความฝันทำให้มนุษย์พัฒนาไปข้างหน้าเพื่อสร้างฝันให้เป็นจริง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 45
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6503

สูงสุดคืนสู่สามัญ


« ตอบ #1 เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2007, 12:18:05 PM »

ได้ฤกษ์ครับ...ขอเปิดกระทู้ใหม่เพื่อแนะนำ IPSC นะครับ ผมขอเริ่มจากที่มาของการแข่งรูปแบบ IPSC เพื่อให้ทราบที่มาก่อนครับ

IPSC มาจากไหนและเริ่มต้นเมื่อไหร่

กีฬาที่น่าตื่นเต้นนี้เริ่มต้นที่ แคลิฟอร์เนีย ในประเทศสหรัฐอเมริกาในยุคปี 50 ครับหลังจากนั้นได้แพร่หลายอย่างรวดเร็วทั้ง ยุโรป อเมริกากลาง อเมริกาใต้ ออสเตรเลีย เอเซียและอฟริกาครับ
IPSC ได้จัดตั้งอย่างเป็นทางกลางในการประชุมใหญ่ที่ โคลัมเบีย ในรัฐมิสซูรี่ ในเดือน พฤษภาคม ปีค.ศ 1976 โดยเชิญผู้สนใจกีฬานี้เข้าร่วม 40 คนจากทั่วโลกเข้าประชุม โดยประธานคนแรกของ IPSCคือ ผู้การ เจฟฟ์ คูเปอร์

การประชุมนี้เกี่ยวข้องกับปืนเรื่อง ความแม่นยำ ความรุนแรงและความเร็ว กฎระเบียบ ความปลอดภัยระบบการสอนและอื่นๆ

IPSC เริ่มต้นจุดนี้ด้วยคำขวัญ DVC ซึ่งมาจากภาษาลาตินว่า Diligentia, Vis, Celeritas ดีลิเจนเทีย วิส เซเลริต้าส์ (แม่นยำ, รุนแรงและรวดเร็ว) ซึ่งต้องมีความสมดุลย์ในจุดนี้ จึงเป็นคำขวัญหลักๆครับ
ในปัจจุบันนี้มีสมาชิก IPSC กว่า 60 ประเทศทั่วโลกซึ่งประเทศไทยก็เป็นสมาชิกอย่างเป็นทางกลางด้วยครับ(น่าภาคภูมิใจดีครับ)

ในเกมส์กีฬานี้นักกีฬาต้องสร้างความสมดุลย์ให้ได้กับคำขวัญหลักนี้เพื่อนำไปสู่ชัยชนะที่ต้องการ

หมายเหตุ ท่านไม่มีทางชนะถ้าท่านดีแค่อย่างใดอย่างหนึ่งในคำขวัญนี้ ความสมดุลย์ที่ผมพูดเสมอคือ เร็วเท่าที่เห็น แม่นเท่าที่จำเป็น, เคลื่อนไหวเร็วปานสายฟ้า หยุดให้นิ่มนวลดังแพรไหม(กำลังภายในเล็กน้อย) ใจต้องสงบสยบความเคลื่อนไหว(อย่าตื่นเต้นครับ) ทุกอย่างต้องเป็นดั่งสายน้ำคือลื่นไหล ลื่นไหลแล้วจะเร็ว ถ้าเร่งให้เร็วแล้วจะไม่เร็วครับ เคล็ดวิชาอยู่ที่ลื่นไหลครับ(สำคัญมากๆ)

เป้า IPSC มีขนาดความสูง 75 ซ.มกว้าง 45 ซ.ม โซน A มีขนาดความกว้าง 15 ซม เป้าจะจัดตั้งในระยะใกล้ถึงไกลมากถึง 40-50 เมตร ดูแล้วเหมือนง่ายครับสำหรับนักกีฬาที่ยิงปืนสั้นชาวบ้านมาก่อนในการที่จะยิงเป้าใหญ่ขนาดนี้ที่ระยะนี้(ผมเคยยิงปลอกลูกซองในระยะ 50 เมตร) แต่ในกีฬา IPSC การยิงปืนที่มีความรุนแรงตามค่า PF (เพาเวอร์ แฟคเตอร์ มาจาก นนกระสุนxความเร็วและหารด้วยพัน) และมีขนาดหน้าตัดไม่น้อยกว่า 9มม ความรุนแรงของกระสุนจะมีผลต่อความแม่นยำทำให้การยิงนั้นลำบากขึ้นกว่าการยิงปืนที่มีความรุนแรงน้อยกว่า โดยเฉพาะนักกีฬาที่ต้องการยิงให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เนื่องจากเวลาเป็นส่วนหนึ่งของการคิดคะแนนครับ ในการคิดคะแนนของ IPSC นั้นเราจะใช้คะแนนหารด้วยเวลาจะได้ค่าเป็น HF หรือ ฮิตแฟคเตอร์ เป็นตัวคำนวนผลของการแข่งขัน

นักกีฬาสามารถที่จะเข้าร่วมการยิงปืน IPSC ได้ใน 5 ดิวิชั่นด้วยกันครับแล้วแต่ชนิดและรูปแบบของปืนที่ท่านมี ท่านสามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่เวปสมาคม www.thpsa.com

เป้าที่หลากหลาย หลายๆเป้า เป้าเคลื่อนไหว เป้าที่ล้มได้ เป้าที่ถูกบังด้วยเป้าห้ามยิง(เป้าประกัน) อุปสรรคต่างๆที่ท่านจะเจอในสนามทั้ง ฉากที่บัง ช่องหน้าต่าง ท่ายิงยากๆเช่น คุกเข่ายิง นอนยิง ยิงด้วยมือที่ถนัดและไม่ถนัด และอื่นๆที่ผู้จัดสนามนึกและฝันขึ้นมาเท่าที่ทำได้ภายใต้กฎการออกแบบสนาม ท่านอาจจะเข้าไปเจอสนามที่ผู้ออกแบบไม่บอกให้ทราบเช่น เป้าหมุนเป็นกังหันหรือเป้าที่พลิกตัวเองภายในเวลาเพียงเล็กน้อยทำให้ยิงไม่ทันและเกิดข้อสงสัยว่าจะยิงอย่างไงในวันที่ท่านเข้าร่วมการแข่งขัน นั่นเป็นความท้าทายที่ท่านจะเจอในสนามแข่ง

นี่เป็นความสนุกของกีฬา IPSC ซึ่งทำให้ผู้เข้ามาร่วมในกีฬานี้เป็นโรคร้ายที่เลิกไม่ได้....ผมก็เป็นคนหนึ่งในนั้น   

ผมขอจบเรื่องที่ไปที่มาของกีฬา IPSC ไว้แค่นี้ก่อนครับ ผมจะไม่ไปมากกว่านี้อีกเพราะทราบว่านักกีฬาใหม่ๆคงสนใจว่าจะทำปืนยังไง จะซ้อมยังไง มากกว่าที่จะมาเรียนประวัติศาสตร์ของ IPSC     แต่ผมอยากให้ทราบเป็นเกล็ดความรู้เผื่อคนถามว่ายิง IPSC เป็นอย่างไงครับ

IPSC มาจากคำเต็มว่า International Practical Shooting Confederation ครับแล้วเจอกันในหน้าต่อไปครับ
บันทึกการเข้า

เร็วเท่าที่เห็น   แม่นเท่าที่จำเป็น 
เคลื่อนไหวเร็วปานสายฟ้า   หยุดให้นิ่มนวลดังแพรไหม      
ใจต้องนิ่งดังขุนเขา   ทำทุกอย่างดั่งสายน้ำไหล
วรกฤษ
ความฝันทำให้มนุษย์พัฒนาไปข้างหน้าเพื่อสร้างฝันให้เป็นจริง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 45
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6503

สูงสุดคืนสู่สามัญ


« ตอบ #2 เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2007, 12:19:05 PM »

มาต่อหลังเสร็จธุระครับ ตอนนี้เกี่ยวกับปืนก่อนนะครับ ผมเห็นบนเวปนี้ว่าทุกคนถามว่าจะแต่งปืนอย่างไง ผมไม่พูดถึงแต่งปืนให้สวยงามนะครับ(ไม่มีหัวศิลป) แต่จะพูดถึงการแต่งปืนไว้แข่งและแถมใช้งานนิดๆก่อนครับ

สำหรับผมสิ่งแรกที่ปืนผมจะถูกแต่งคือด้ามปืนครับ ทุกท่านจะไปเน้นที่ไกบ้าง ศูนย์บ้าง แต่ในความรู้สึกของผมๆว่าด้ามปืนสำคัญมากครับ ปืนที่แต่งด้ามได้ง่ายที่สุดคือแบบ 1911 ครับ

ผมขอเริ่มจากแถวเดี่ยวก่อนครับ ปืนแถวเดี่ยวจะมีประกับด้ามเป็นไม้หรือยางก็สุดแล้วแต่นะครับ เราสามารถหาซื้อประกับด้ามมาใส่เพื่อให้เหมาะกับมือนะครับ

คำถามต่อไปคือแล้วด้ามแบบไหนถึงจะเหมาะกับขนาดมือของเรา ผมเคยอ่านเจอและในเทปที่สอนอยู่ว่า เมื่อไหร่ที่คุณกำด้ามปืนให้ศูนย์หน้าของปืน,มือและแขนอยู่ในแนวเดียวกัน ลองเอานิ้ว(หน้าสัมผัสของนิ้วครับไม่ใช่ข้อแรกของนิ้ว)ไปแตะที่ไกปืนแล้วเนี่ยวไกดูครับค้างการเหนี่ยวไก(อุบไกไว้) ถ้านิ้วชี้คุณชิดหรือติดโครงปืน แสดงว่ามันไม่ค่อยเหมาะ เหตุผลเพราะว่าถ้าคุณเหนี่ยวไกอย่างรวดเร็ว นิ้วที่สำผัสโครงปืนจะไปผลักปืนให้กินไปทางซ้าย(คนยิงปืนมือขวา) ถ้ายิงมือซ้ายตำแหน่งกระสุนจะตกไปทางขวาครับ ดังนั้นตอนที่นิ้วชี้อุบไกปืนไว้ มันควรจะเกิดช่องแสงระหว่างนิ้วชี้กับโครงปืนครับ ช่องแสงมากน้อยไม่เป็นไรแต่ขอให้มีเพื่อเราจะได้รู้ว่าเราไม่ผลักปืนไปอีกข้างหนึ่ง ถ้านิ้วชี้ไม่สามารถแตะหน้าไกปืนคือแตะโดนมุมของไกปืน สังเกตุดูว่าถ้าแตะมุมขวาของไก ตำแหน่งกระสุนมีโอกาสตกไปทางขวา นั่นบอกว่าด้ามปืนใหญ่ไป ถ้าเอานิ้วเข้าไปแต่ไปแตะมุมซ้ายของไก นั่นบอกว่าด้ามปืนเล็กไปครับ ดังนั้นวิธีแก้คือเปลี่ยนประกับให้อวบอูมขึ้นหรือแบนลง(ประกับปืนนะครับ  )

ถ้าเป็นด้ามแถวคู่ เราไม่สามารถเปลี่ยนประกับปืนได้ครับ ดังนั้นวิธีแก้คือเหลาด้ามปืนให้เหมาะครับ เหลาทุกจุดที่ใหญ่เกินไปให้เหมาะมือครับ ลองดูปืนนักกีฬา IPSC ครับส่วนใหญ่ไม่ค่อยเสียดายครับ แต่ละคนจะทำด้ามให้จับถนัดที่สุด อีกวิธีหนึ่งสำหรับด้ามปืนแถวคู่ครับ ลองกำปืนในลักษณะปรกติแล้วเอานิ้วโป้งมาจดนิ้วกลางที่กำปืน นิ้วโป้งควรจะสามารถจดได้ถึงข้อแรกของนิ้วกลางครับ เพราะเราสามารถกำปืนได้เต็มมือในตำแหน่งที่ดีที่สุด(ความเห็น GM นอกครับ)

การทำด้ามปืนได้ดี ทำให้เราสามารถกริปปืนได้สูง  การกริปปืนได้สูงจะสามารถทำให้เรายิงนัดต่อไปได้เร็วเพราะเรากริปปืนในจุดหมุนของปืน(เวลาปืนรีคอยล์)

ประกับด้ามสำหรับปืนใช้งานไม่ควรเป็นประกับด้ามแบบลื่นครับ ยิ่งสากยิ่งดี บางท่านติดสเก็ตบอร์ดโดยไม่ลบคมด้วยซำครับ เพราะประกับด้ามที่สวยงามไม่สามารถทำให้เรายิงปืนได้ดี(สวยงามครับ) เพราะมือที่กริปปืนจะหลุดในเวลาที่ปืนรีคอยล์ครับ ทดลองง่ายๆคือปืนบรรจุกระสุนให้เต็มแม็กกาซีนกริปปืนให้เรียบร้อยแล้วยิงให้หมดแม็กเลยครับ ถ้าคุณสามารถยิงได้หมดโดยที่คุณไม่ต้องขยับมือที่กริปปืนแสดงว่าคุณกริปได้ดีประกับด้ามใช้ได้ ถ้ายิงนัดหนึ่งขยับมือทีหนึ่งเพราะลื่น นั่นคือการบอกว่ามันไม่เหมาะครับ

นักกีฬาที่ผมยิงด้วยกัน ผมจะเริ่มจากการเช็คสิ่งเหล่านี้ก่อนที่จะไปขั้นต่อไป เพราะถ้าสิ่งเหล่านี้ไม่พร้อมก็อย่าหวังว่าจะทำอย่างอื่นได้ดีครับ เพราะยิงแล้วปืนหลุดมือต้องขยับกันตลอดเวลา ผมว่าคนที่เข้าใจผมหมายถึงอะไร รบกวนช่วยต่อด้วยครับ หากผมอธิบายแล้วไม่เข้าใจ เพราะหน้านี้ผมไม่ได้ร่างไว้ นึกแล้วเขียนเลย อาจจะสับสนแต่คนที่ยิงด้วยกันกับผมเชื่อว่าต้อง....ต้องเข้าใจครับ.....ยังไม่มีหน้าต่อไปจนกว่าหน้านี้จะเครียร์ในระดับหนึ่ง เพราะผมเชื่อว่ามันสำคัญครับ ถ้าสงสัยก็เชิญถามได้ครับ จะขยาย


วันนี้เรามาต่อเรื่องปืนกันต่อก่อนครับหลังจากทำด้ามปืนแล้วทีนี้มาดูของง่ายกันบ้างครับ

ศูนย์ปืน(ศูนย์เปิดนะครับ) ศูนย์เปิดสำหรับการยิง IPSC ไม่ต้องการศูนย์หน้าใหญ่เหมือนการยิงปั้นXครับ เราต้องการจับเป้าไวแต่ไม่ได้ต้องการละเอียดขนาดปั้นXนะครับ ศูนย์ปืนควรมีความสูงที่เหมาะสมคมชัดเพราะเราใช้เพื่อการกีฬาครับ ศูนย์เตี้ยโค้งเช่นปืน Colt หรือศูนย์ไนท์ไซด์นั้นก็ไม่เหมาะกับการยิง IPSC ครับ
ทีนี้มาถึงคำถามสุดนิยมครับเส้นไฟเบอร์ออฟติกเช่น สีอะไรดี ขนาดไหนดี ข้อนี้นาๆจิตตังครับเพราะแม้แต่ Dot(ศูนย์กล้อง) ยังใช้ขนาดไม่เท่ากันเลยครับ แต่ผมจะเสนอความคิดเห็นและเหตุผลของผมเป็นส่วนตัวครับ จะถูกใจคนนี้ ไม่ถูกใจคนนั้น ก็ขอให้ถือเป็นความชอบส่วนบุคคลและลองพิจารณาเหตุผลดูครับ

ศูนย์ไฟเบอร์ออฟติกมีไว้เพื่ออะไรก่อน
หลายท่านเข้าใจผิดว่าเราเล็งโดยใช้จุดของไฟเบอร์ออฟติก เพราะผมเห็นบางท่านแนะนำว่าเหมือนยิงด้วยกล้องจุดแดง ความจริงแล้วผมเชื่อว่านักกีฬาทุกท่านตั้งศูนย์ปืนในแนวทางเดียวกันคือใช้ยอดของศูนย์หน้า ส่วนจะจี้หรือนั่งแท่นก็สุดแล้วแต่ว่าจะยิงปืนแบบไหน ทีนี้เส้นไฟเบอร์นั้นจะถูกฝังอยู่ในศูนย์ซึ่งต่ำกว่ายอดศูนย์มากน้อยก็สุดแล้วแต่ที่ทำมา

ถ้าท่านตั้งศูนย์ด้วยยอดศูนย์แต่เล็งด้วยตำแหน่งไฟเบอร์ออฟติกกระสุนจะต้องกินสูงเสมอครับเพราะยอดศูนย์หน้าจะลอยขึ้นไม่ตรงกับที่ตั้ง ทดลองดูครับยิงเป้าเดียวหลายนัดให้เร็วๆจะเห็นว่ากระสุนจะกินสูงขึ้นเพราะไปใช้จุดของไฟเบอร์เป็นตัวเล็ง

ถ้าอย่างงั้นมันมีประโยชน์อะไร
ประโยชน์ก็คือทำให้เรารู้ว่าศูนย์ปืนเราอยู่ที่ไหน ทำให้เราเห็นได้เร็ว คงมีคนนึกว่าก็ผมเห็นมันอยู่ตลอดเวลานี่ คำตอบคือใช่ครับเราเห็นมันตลอดเวลาเพราะเรายิงช้าและไม่ได้วาดเป้าครับ ลองยิงเร็วๆและวาดปืนไปเป้าที่มีดำดูครับว่าเราจะเห็นมันอย่างที่เราคิดหรือเปล่า สังเกตุดูครับเวลาเรายิงปั้นXถ้าตั้งศูนย์จี้ เรามองศูนย์หน้านานหน่อยจะเห็นเลยว่าศูนย์มันกลืนกันกับเป้าที่เล็งเพราะวงดำมันเป็นสีเดียวกับศูนย์ครับ  สำหรับนักกีฬา IPSCผมเชื่อว่านักกีฬาหลายๆท่านจะไม่มองประคองศูนย์ปืนไปที่เป้าครับ แต่จะมองให้เห็นเป้าก่อนแล้วลากศูนย์เข้ามาครับ เพราะมองประคองศูนย์มันช้ากว่ามองเป้าแล้วลากปืนไปหา(เราจะพูดเรื่องนี้ในขั้นตอนอื่นครับ) สรุปแล้วประโยชน์ของเส้นไฟเบอร์เพียงแจ้งเราให้รู้ว่าศูนย์อยู่ไหนเวลามันเข้ามาในเป้า แต่การเล็งและยิงเรายังต้องอาศัยยอดศูนย์เหมือนเดิมในการยิง ยอดศูนย์ครับไม่ใช่จุดของไฟเบอร์ ผมคิดว่าน่าจะเข้าใจที่ผมเขียน   ...ถ้าสงสัยค่อยถามนะครับ
บันทึกการเข้า

เร็วเท่าที่เห็น   แม่นเท่าที่จำเป็น 
เคลื่อนไหวเร็วปานสายฟ้า   หยุดให้นิ่มนวลดังแพรไหม      
ใจต้องนิ่งดังขุนเขา   ทำทุกอย่างดั่งสายน้ำไหล
วรกฤษ
ความฝันทำให้มนุษย์พัฒนาไปข้างหน้าเพื่อสร้างฝันให้เป็นจริง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 45
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6503

สูงสุดคืนสู่สามัญ


« ตอบ #3 เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2007, 12:20:22 PM »

ความเห็นส่วนตัวของผมเกี่ยวกับเส้นไฟเบอร์ออฟติกบนศูนย์ปืนของผม ผมชอบเล็กและไม่เด่นเกินไป ในตอนแรกก่อนที่จะเข้าใจมันมากเท่าวันนี้ ผมเคยชอบสีแดงเส้นใหญ่เพราะทั้งเด่นทั้งสวย แต่เดี๋ยวนี้ผมชอบเส้นเล็กที่ขายในตลาดและเป็นสีเขียวมากกว่าครับ เหตุผลก็ดังที่บอกข้างต้น ผมแค่ต้องการรู้ว่าศูนย์อยู่ที่ไหนซึ่งที่ผมใส่อยู่ก็เพียงพอสำหรับวัตถุประสงค์ของผม ถ้าสีแดงใหญ่แล้วมันแย่งสายตาผมไปที่เส้นไฟเบอร์แทนที่จะไปที่ยอดศูนย์ครับ(ยอมรับว่าฝีมือยังไม่ถึงขั้นครับ) เพราะสีแดงเป็นสีเด่นและถ้ามันใหญ่มันยิ่งเด่นหนักเข้าไปอีก พอรีบยิงเลยไม่ค่อยมองยอดศูนย์ครับ ดังนั้นผมเลยชอบสีที่ไม่เด่นมากเกินไป แต่ถ้าเส้นสีเขียวหมดหาซื้อไม่ได้และจำเป็นผมจะใช้แดงเล็กที่สุดเท่าที่มี......ทุกวันนี้เกือบหมดแล้วเพราะน้องท๊อปมาแย่งใช้อีกคน.............     
แต่อย่างที่บอกครับบางคนก็ไม่ชอบยกตัวอย่างพี่นาจาเคยเอาผมปืนผมไปลงยิงที่ฟาร์ม ไปเจอสเตจที่มีต้นไม้มากๆ แกบอกมองไม่เห็นศูนย์เพราะกลืนกับสีใบไม้ เหตุผลง่ายๆคือเรายิงกันคนละแนวครับ ผมมองเป้าแล้วลากศูนย์มา พี่นาจามองศูนย์ไปที่เป้า ระหว่างที่ผ่านเป้าหนึ่งไปอีกเป้าหนึ่งแกไปหลงสีเส้นไฟเบอร์กับสีใบไม้เลยงงมาก
ผมยกตัวอย่างทั้งที่ผมชอบและคนที่ไม่ชอบแบบของผมให้เห็นเพื่อทุกท่านจะได้เปรียบเทียบและทราบว่าเหมาะคนหนึ่งอาจจะไม่เหมาะกับอีกคนครับ แต่จะเป็นไรไปถ้าท่านจะเอาไปพิจารณาและลองดู เพราะหลังจากลองแล้วท่านอาจจะเปลี่ยนใจก็ได้ ถ้าไม่ดีก็ไม่เสียหายอะไรเลยครับ

ผมขอจบเรื่องศูนย์ปืนแค่นี้ก่อนเพราะเชื่อว่าน่าจะชัดเจนพอ ถ้ามีคำถามเชิญถามได้นะครับ หรือมีความเห็นแตกต่างผมก็อยากทราบเพื่อนำไปลอง จะได้เพิ่มพูนความรู้ครับ ยินดีรับฟังด้วยความเต็มใจครับ

เดี๋ยวเรื่องไกปืนเรามาต่อตอนที่ผมมีเวลาครับ


มาต่อกันเรื่องไกปืนนะครับ

ไกปืนในการยิง IPSC ต้องการลื่นและคม ไม่ต้องเบามากนะครับเพราะเราไม่ได้ปั้นX แถมอันตรายว่าจะลั่นเอาง่ายๆเพราะอารามรีบร้อนครับ ผมว่ามือใหม่ๆน่าจะอยู่ที่ lb2 ขึ้นไปครับ ส่วนมือเก่าๆเห็นหลายท่านอยู่ที่ประมาณ lb1.75-2 นิดหน่อยครับ ในสนามแข่งจะเห็นปืนลั่นแล้วโดน DQ บ่อยเหมือนกัน แต่ดีว่ากฎกติกาเข้มงวดทำให้ไม่เกิดอันตรายครับ สาเหตุที่เกิดคือเร่งรีบครับเช่น เปลี่ยนแม็กกาซีน ขึ้นลำก่อนยิง เข้าช่องยิงอย่างรวดเร็วพร้อมแหย่นิ้วเข้าไปที่ไกปืน เป็นต้น ดังนั้นนักกีฬาใหม่ควรให้มีไกหนักนิดๆน่าจะดีครับ

หมุดหยุดไก(Trigger Stop) ส่วนใหญ่เราจะตั้งกันพอดีโดยเฉพาะมือปั้นX เพื่อกันปืนแวปหรือถลำครับ ทีนี้ผมไปเจอในเวปของนักกีฬา IPSC ระดับโลกเขามีแนะไว้ว่า ถ้าคุณลั่นไกแล้วขยับเร็วหรือขาด Follow Through ประจำหรือกระตุกไกแรง ให้ลองตั้งหมุดหยุดไกให้ลึกลงอีกนิดคือไม่หยุดทันทีอาจจะช่วยได้เพราะนกสับๆลงแล้วแต่เรายังเดินไกไม่สุดกระสุนจะลั่นออกไปก่อนหน้าที่นิ้วเราจะยันโครงปืน ข้อนี้ผมไม่แน่ใจว่าจะช่วยได้แต่อ่านเจอก็มาบอกกันไว้เผื่อใครมีปัญหา ทดลองแล้วได้ผลก็ช่วยมาบอกด้วยครับ

ผมเพิ่มเก็บตกสำหรับปืน 1911 ให้อีกนิดครับ คือปืนที่เราฟิตมาแล้วดีๆ ถ้ายิงไประยะหนึ่งแล้วเกิดกลุ่มไม่ดีเหมือนเดิม ถ้าจำไม่ผิดประมาณ 5000-6000 นัดเขาแนะนำให้ลองเปลี่ยนตัว Slide Lock (ตัวล็อคสไลด์)ครับ เพราะตำแหน่งแกนที่สีกันกับห่วงโตงเตงจะสึกหลอจนเล็กกว่าเดิมหน่อยหนึ่ง(ตอนฟิตมาใหม่ๆจะแน่นพอดีครับ) ทำให้หลวมเวลาปืนทำงานจะกลับไม่ตรงตำแหน่งเดิม เขาแนะนำให้เปลี่ยนครั้งเดียวแล้วจะใช้ได้ตลอดไป

ถ้ามีผู้คัดค้านว่าไม่จริงหรือหาว่าผมยกเมฆ...เผื่อไว้ครับ    นี่เป็นคำแนะนำของนักกีฬา IPSC ชื่อ Jerry Barnhart ครับ เป็นนักกีฬาที่เคยดังมากในอดีต นักกีฬา IPSC น่าจะรู้จักดีครับ ลองไปอ่านรายละเอียดได้ แต่ผมไม่ได้แปลตรงตัวนะครับ ใช้จากความจำที่เคยอ่านมา ไม่ได้กลับไปเช็คใหม่ในรายละเอียด ให้เป็นข้อมูลไว้เผื่อใครมีปัญหาจะได้ทดลอง...เหมือนเดิมครับ ลองแล้วไม่ได้ผลไม่เสียหาย ลองแล้วดีก็เป็นกำไรไป มีคำถามก็ถามได้เลยนะครับ

ผมได้ทดลองแล้วในการเปลี่ยนตัวล็อกสไลด์ของผม เพราะของผมสึกมากๆเลย ช่างปืนก็แนะนำให้เปลี่ยนครับก็เลยเปลี่ยนเท่านั้นแหละ ปืนผมแม่นขึ้นมาทันตาเห็นครับ โดยไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่นเลย. ผมไม่สามารถให้รายละเอียดมากในเรื่องนี้เพราะไม่ใช่ช่างปืน เผื่อช่างปืนมาอ่านอาจจะอธิบายได้ดีกว่านี้ครับ....ของแถม 2 ข้อที่ผมบอกไว้คือเรื่องหมุดยันไกตั้งให้หยุดช้าลงหน่อยกับตัวล็อกสไลด์หลังจากยิงไปจำนวนหนึ่งแล้วเปลี่ยนดูครับ...    เรื่องรีคอยล์สปริงผมคงไม่เขียนเพราะเคยเขียนไว้ในกระทู้เรื่องนี้แล้ว ลองค้นหากันดูนะครับ

เรื่องต่อไปที่จะพูดถึงในหน้าต่อไปคืออุปกรณ์ครับ ตั้งแต่ซองยันของที่ต้องใช้ครับ เรื่องนี้นักกีฬาที่จะเข้ามาใหม่ควรสนใจครับเพื่อไม่ต้องเสียใจในภายหลังครับ พบกันในหน้าต่อไป
บันทึกการเข้า

เร็วเท่าที่เห็น   แม่นเท่าที่จำเป็น 
เคลื่อนไหวเร็วปานสายฟ้า   หยุดให้นิ่มนวลดังแพรไหม      
ใจต้องนิ่งดังขุนเขา   ทำทุกอย่างดั่งสายน้ำไหล
วรกฤษ
ความฝันทำให้มนุษย์พัฒนาไปข้างหน้าเพื่อสร้างฝันให้เป็นจริง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 45
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6503

สูงสุดคืนสู่สามัญ


« ตอบ #4 เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2007, 12:21:31 PM »

ครับผม....มาตามคำสั่งครับ

อุปกรณ์ครับ
การซื้ออุปกรณ์ของ IPSC ผมแนะนำคนที่เริ่มยิงกับผมเสมอว่าถ้าเพิ่งจะเริ่มต้นควรใช้ของที่มีอยู่ก่อนลงแข่งดูให้แน่ใจว่ากีฬานี้ใช่เลย เราชอบจริงแล้วค่อยทยอยซื้อของที่จำเป็นก่อน แต่ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องเงินทองก็ลุยได้เลย ผมแนะนำว่าถ้าตัดสินใจว่าจะซื้ออุปกรณ์แน่นอน ควรซื้อของที่ดีเลยอย่ามองว่าจะซื้อของถูกครับ เพราะสุดท้ายแล้วคุณต้องเสียเงินเพิ่มอีกอย่างแน่นอนครับ จำไว้ครับซื้อของที่ดีไปเลย ซื้อทีเดียวครับ....หมายเหตุ : ของที่ดีไม่ได้หมายถึงว่าแพงครับ ของดีนั้นหมายถึงคุ้มค่าครับ ผมจะไล่ไปเลยนะครับ

1. กระเป๋า ถ้าซื้อกระเป๋าเลือกใบใหญ่ครับ อย่าซื้อใบเล็กเพราะถูกกว่าเล็กน้อย รับรองไม่คุ้มแน่นอนเพราะกระเป๋านักกีฬา IPSC จะมีของหลายอย่างครับ ตามมาเรื่อยๆ เดี๋ยวจะเข้าใจครับ ผมแนะนำซื้อกระเป๋าของ CR Speed ครับร้านที่จำหน่ายคือ  Guns & Guys, Blades & Guns ร้านปืนมิตรภาพ ราคาเท่าที่ทราบ +/-7000 บาทครับ

2. เข็มขัด เข็มขัดในสเปคนักกีฬา IPSC ต้องการแบบซ้อนกัน 2 เส้นเชื่อว่ารู้จักกันดี ที่เราต้องการคือ เข็มขัดต้องมีความแข็งไม่อ่อนง่ายครับ เพราะถ้าอ่อนเวลาพกปืน ด้ามปืนมันจะเอียงออกนอกตัว ยากกับการชักปืนครับ เข็มขัดที่แนะนำเรียงตามลำดับก็ของ CR Speed, Safariland ราคาประมาณ 3000 กว่าบาทและที่เป็นสินค้า OTOP ก็มีครับราคาประมาณ 1600 บาท

3. ซองปืน เป็นสิ่งที่สำคัญมากครับเลือกให้ดีครับ บทเรียนของผมแพงมากกับซองครับ ซื้อแล้วไม่ดีเพราะความไม่รู้(เมื่อก่อนหาความรู้ยาก) เชื่อคนขาย เพราะคนขายบอกดีหมดเลย    (กำไรดีครับ) เอาแบบที่ใช้กับปืนSTI ก่อนครับ Grost  Limcat  CRSpeed ยี่ห้ออื่นๆผมไม่สามารถแนะนำว่าดีหรือไม่(ไม่อยากพูดถึง   ) ถ้าใน 3 ยี่ห้อนี้ ผมเลือก 1-2 ครับ 3 ก็ดีแชมป์โลกใช้(สปอนเซอร์ดี    ) สินค้า OTOP ก็มีครับส่วนใหญ่ดี เพราะทำตามแบบของที่ดี ส่วนที่จะดีหรือไม่อยู่ที่ฝีมือคนทำ ราคาเท่าที่ทราบ Grost ประมาณ 8-9000 บาท Limcat ประมาณ 10000 ขึ้น
CR Speed ไม่ทราบราคาครับ
OTOP ราคาประมาณ 3500 บาท มีหลายราคาครับ ร้านที่ขายก็เหมือนข้อหนึ่งครับ

4. ซองแม็ก ณ.วินาทีนี้ฟันธงครับ CR Speed ครับ Safariland ก็ใช้ได้ครับแต่ลูกเล่นน้อยกว่าครับ ราคาของ CR Speed ประมาณ +/- 1800 ครับ Safariland ถูกกว่าหน่อยครับ

5. รองเท้า หารองเท้าที่ไม่ลื่นบนหญ้า บนกรวด แนะนำรองเท้า เบสบอล ครับถ้าบ้านเราคงต้องซื้อรองเท้า Cross Country ครับ กลุ่มผมนิยมใช้ของไนกี้รุ่น LandShark ถ้ารีบอร์ก ก็รุ่น Pit Bull ครับ ทั้ง 2 แบบบ้านเราไม่มีขาย(จริงๆทำในประเทศไทยแท้ๆ   ) ราคาที่ USA ก็ประมาณ 1200 บาทครับ

ผมขอหยุดไปทำธุระครับ มีเวลาค่อยมาต่ออีก ที่ทำก่อนเพราะพี่นาจาสั่งมา....   

ต่อเรื่องอุปกรณ์นะครับ

6. แว่นตา อุปกรณ์ที่สำคัญมากๆเลยครับเพราะเรามีตาคู่เดียวดังนั้นอย่าเสียดายครับ ซื้อแว่นที่ไม่แตกเพราะสะเก็ดกระเด็นมาใช้นะครับ ผมรู้จักคนที่ทุกวันนี้ตายังเสียอยู่ข้างหนึ่งเพราะสะเก็ดกระสุนกระเด็นกลับมาโดนตาเต็มๆเลย อย่าเสียดายกับอุปกรณ์ขิ้นนี้ที่นักกีฬา IPSC ใช้มากก็มี Oakley ราคา 15000+บาท  Rudy ย่อมเยาว์หน่อยมีหลายราคาครับ 6000 ขึ้นไปครับ

เทคนิคเล็กน้อยแต่ส่วนใหญ่ไม่ทราบครับ คนที่ต้องใส่แว่นสายตาต้องสนใจเป็นพิเศษคือ ถ้าท่านมีแว่นสายตาเพื่อการยิงปืนโดยเฉพาะหรือแบบที่มีคลิปหนีบเช่น Rudy บางรุ่นเป็นต้น ส่วนใหญ่ศูนย์กลางของเลนส์ที่ใส่กันมักจะอยู่ตรงกลางของแว่น แต่เวลาเรายิงปืนโดยเฉพาะ IPSC คงไม่มีใครยืดหน้าตรงๆในการยิง ทุกคนจะก้มหน้าลงเล็กน้อยเสมอ ดังนั้นจุดโฟกัสของแว่นจะกินสูงกว่าปรกติเล็กน้อย ดังนั้นถ้าตัดแว่นเพื่อยิงปืนครั้งต่อไป ให้ช่างวางโฟกัสของแว่นโดยก้มหน้าเหมือนยิงปืนแล้วบอกให้ช่างวางจุดโฟกัสของแว่นใหม่ครับ(กินสูงด้านบนของแว่นครับ)

ส่วนแว่นที่เปลี่ยนสีเลนส์ได้อย่าง Oakley หรือยี่ห้ออื่นนั้น แนะนำให้ซื้อเป็นเซทพร้อมกล่องจุครับ ควรซื้อทั้งหมด 3 เลนส์ครับ
1. ใส (แดดธรรมดา ไม่มืด ไม่สว่าง).....สำคัญอันดับ 2
2. แบบกันแดด (แดดจ้าครับ)...สำคัญที่สุดในบ้านเรา
3. สีเหลือง (ใช้ตอนแสงน้อยหรืออากาศทึมๆครับ)....สำคัญอันดับ3

ถ้าใช้ของ Oakley หรือ Rudy พยายามใช้ผ้าที่เขาให้มาเช็ดครับ เพราะผ้าทั่วไปจะทำให้เลนซ์เป็นรอยขีดนะครับ....ซื้อของแพงครั้งเดียวใช้ได้ยาวนานถ้าทะนุทะนอมหน่อยครับ
อ้อ...เกือบลืมครับ ถ้าจะดีผมแนะนำให้หาเชือกที่ใส่ไว้ที่ขาแว่นเพื่อรัดตอนใส่กันแว่นตกจากการกระแทกเพราะนอนลงหรือเพราะเหงื่อ...ผมเชื่อว่าผู้ใส่แว่นรู้ว่าเป็นยังไง

ถ้าร้องว่าแพงก็ต้องลองหายี่ห้ออื่นดูครับ แต่ที่เขียนมานี่เป็นยอดนิยมอยู่ในเวลานี้ครับ
ทางเลือกสุดท้ายถ้าไม่มีทางออกจริงๆ...ให้หาแว่นอุตสาหกรรมอย่างดีๆมาใช้ก็พอได้ครับ แต่ไม่สวยและรัดแบบสุดๆครับ...ผมบอกไว้แล้วว่าทางเลือกสุดท้าย

ขอจบก่อนครับ...ง่วงแล้วหลังจากไปลุ้นมาทั้งวัน.........     

ผมขอเพิ่มเติมเมื่อวานนี้หน่อยเรื่องแว่นว่า ตามกฎ IPSC บังคับให้ต้อง...ต้อง...ใส่แว่นและที่ครอบหูนะครับในเวลายิง
ร้านที่จำหน่ายแว่นตา Rudy ก็ที่ร้านปืน มิตรภาพครับ ราคากันเองดีครับ(ผมไม่ได้%นะครับ อย่าเข้าใจผิดครับ) ที่ Guns&Guys ก็น่าจะมีและมียี่ห้ออื่นด้วยครับ
บันทึกการเข้า

เร็วเท่าที่เห็น   แม่นเท่าที่จำเป็น 
เคลื่อนไหวเร็วปานสายฟ้า   หยุดให้นิ่มนวลดังแพรไหม      
ใจต้องนิ่งดังขุนเขา   ทำทุกอย่างดั่งสายน้ำไหล
วรกฤษ
ความฝันทำให้มนุษย์พัฒนาไปข้างหน้าเพื่อสร้างฝันให้เป็นจริง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 45
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6503

สูงสุดคืนสู่สามัญ


« ตอบ #5 เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2007, 12:22:03 PM »

มาต่อจากเมื่อวานนะครับหลังจากเรื่องแว่นแล้วทีนี้เรามาต่อเรื่องที่ครอบหูกัน ที่ครอบหูก็สำคัญมากครับจะต้องใส่เมื่อทำการยิงทุกครั้งครับ ชนิดของที่ครอบหูมีดังนี้ครับ

1. ที่อุดหูแบบมีสายคร้องกับแบบเป็นโฟมที่ใช้บนสายการบิน...ถูกที่สุดครับ
2. ที่ครอบหูแบบครอบหูเลย ราคาเมื่อก่อนประมาณ 1200 บาทปัจจุบันผมไม่ทราบราคา(ใช้มากที่สุด)
3. ที่ครอบหูอีเล็คทรอนิคมีระบบตัดเสียงที่ดังแต่สามารถได้ยินในระดับเสียงทั่วไปครับ ราคาเมื่อก่อนประมาณ 7-8000 บาทครับ ปัจจุบันไม่แน่ใจครับ

ที่อุดหูแบบที่ 1 ผมแนะนำให้ใช้ร่วมกับแบบที่ 2 ครับ(ช่วยได้สำหรับผู้ที่มีผลกระทบจากเสียง จะอธิบายในภายหลังครับ) คือแบบที่ 1 อย่างเดียวมีโอกาสที่เสียงจะรอดผ่านทางด้านหลังหู...กกหู...เอไม่แน่ใจเรียกถูกหรือเปล่า (ใครช่วยอธิบายทีครับ ผมเรียกไม่ถูก) ไม่เหมาะที่จะใส่ยิงแต่ดีถ้าเราเป็นผู้คอยหรือชม  ข้อดีคือราคาถูกครับ

แบบที่ 2 สามารถใช้ได้ดี นักกีฬาใช้แบบนี้มาก แต่ข้อเสียคือร้อนและน่ารำคาญครับ

แบบที่ 3 คล้ายแบบที่ 2 แต่ดีกว่าตรงที่ได้ยินเสียงคนพูดได้สะดวก ข้อเสียคือร้อนและแพงครับ

แบบที่เหมาะที่สุดในความคิดของผมคือ ถ้าเป็นผู้ยิงแนะนำให้ใส่ที่อุดแล้วครอบด้วยแบบที่ 2 ครับ ข้อดีคือลดระดับเสียงได้มาก แถมช่วยผู้ที่กระพริบตาเนื่องจากเสียงได้ระดับหนึ่ง พอยิงเสร็จปลดที่ครอบหูเราก็ยังมีตัวป้องกันเสียงอยู่ซึ่งไม่ร้อนเหมือนที่ครอบหูครับ ราคาก็ไม่แพงด้วย

แบบ 1และ 2 สามารถหาซื้อได้ที่หลังวังทั่วไปครับ แต่แบบที่ 3 ลองถามร้าน 3 ร้านที่ขายกระเป๋าที่ผมบอกไว้ครับ

อุปกรณ์สำคัญอีกชิ้นหนึ่งที่นักกีฬา IPSC ต้องมี...ย้ำว่า ต้องมีครับคือ Pro Timer
Pro Timer นั้นเวลาเราซ้อมแห้งก็ต้องใช้ เวลาซ้อมยิงจริงก็ต้องใช้ครับ หลายๆท่านไม่ใช้ประโยชน์จากอุปกรณ์นี้ให้คุ้มค่ากับที่ซื้อ จนขายทิ้งอย่างไม่เสียดายเพราะใช้แค่เป็นสัญญานเริ่มต้นเท่านั้น แต่ Pro Timer ทำประโยชน์มากมายครับ ทั้งให้เวลา Par ให้เวลายิงตั้งค่าได้มากมาย
ผมเคยตำหนิคนยิงปืนในกลุ่มที่ยิงกับผมอยู่เพราะ ใช้แค่สัญญานเริ่มต้นและสัญญานจบ แต่ไม่ดูในข้อมูลเช่น เวลาของนัดต่อนัด เวลาการวาดเป้าจากเป้าหนึ่งไปอีกเป้าหนึ่ง เพื่อรู้ว่าระยะห่างเท่านี้เราใช้เวลาเท่าไร เพื่อการเปรียบเทียบในอนาคตและอื่นๆ เดี๋ยวนี้เราจะขานเวลาในทุกระยะบ่อยๆเพื่อให้ชินครับ อย่าเสียดายครับสำหรับอุปกรณ์ชิ้นนี้ครับ ราคาผมไม่แน่ใจเพราะของผมซื้อมานานมากแล้วมี 2 ยี่ห้อที่นิยมกันคือ Pocket Pro และ CED ครับราคา Pocket Pro รู้สึกจะถูกกว่า CED ครับ ราคา Proket Pro น่าจะอยู่ประมาณ 7000 กว่าบาทถ้าผิดรบกวนผู้รู้แก้ให้ด้วยครับ

ของหลักๆที่จะต้องใช้น่าจะครบแล้วทีนี้ในกระเป๋าควรมีอะไรบ้าง
1. สนับศอกและเข่าครับ             
2. กาวทามือกันลื่นครับที่ร้านทั้ง 3 มีขายครับถ้าจะให้ถูกก็ใช้ ผงชอร์ค แม็กนีเซียมที่ใช้ปีนเขา ยางสนก็ได้ แต่อย่างหลังๆนี่ใช้แล้วเลอะเทอะครับ
3. ยาแก้ปวดแก้ไข้ ยาทาแผลสด พลาสเตอร์ ยานวดกล้ามเนื้อและอื่นๆที่จำเป็น
4. กระเป๋าใส่ขวดน้ำ(ขวดต้องไม่แตกนะครับ ถ้ากระเป๋าที่บอกจะมีให้มาด้วยครับ
5. อุปกรณ์ล้างแม็กใช้แบบที่ล้างขวดหรือทำง่ายๆเช่น เอาผ้าขนหนูขนาดเล็กมาเย็บเชือกที่มุมหนึ่ง ปลายเชือกหาอะไรถ่วงก็ได้ให้มีน้ำหนัก เวลาทำความสะอาดก็เอาเชือกร้อยแล้วรูดผ่านเลยครับ
6. แม็กซ์พร้อมลูกแมกซ์สำหรับยิงให้เป้าติดกับไม้
7. กระดาษกาวเผื่อต้องติดที่ไม่ใช่ไม้
8. สติ๊กเกอร์ซ่อมเป้า ถ้าไม่มีซื้อเทปกระดาษมีกาวในตัวสีน้ำตาลขนาด 1 นิ้วแล้วเอามีดกรีดครึ่งตามหน้ากว้างก็ใช้ได้ดีครับ(ร่วมกับข้อ7)
9. เครื่องมือหรือประแจเล็กๆน้อยไว้ซ่อมปืนได้หน่อยก็ดีครับที่สำคัญตะเกียบไม้ครับดีมากไว้ทำประโยชน์มากมายเลย
10. กฎ IPSC มีขายเล่มละ 100 บาท(สมาคม)
11. ปากกา เครื่องคิดเลข กระดาษหรือสมุดโน๊ต
12. หมวกและผ้าขนหนูเช็ดเหงื่อ

สิ่งจำเป็นเท่าที่นึกได้ที่ควรมีและอะไรที่คิดว่าต้องใช้ครับ อย่าลืมอุปกรณ์หลักที่เขียนมาในข้างต้นด้วย พร้อมกระสุนปืน ณ. เดี๋ยวนี้ผมนึกได้เท่านี้ถ้าเดี๋ยวนึกออกจะมาเพิ่มให้ครับ ผมขอจบตอนนี้ไว้เท่านี้ก่อนครับ

IPSC มีให้แข่งใน 5 Division (5 แบบ) ครับ ผมจะช่วยเขียน(แปล)จากความจำแต่รายละเอียดก็ตามลิงค์ไปดูกันครับ เพราะมากเหลือเกิน แต่จะแนะนำปืนยอดนิยมให้ครับ

แต่ก่อนที่จะไปเรื่องปืนขออธิบายไว้ก่อนนะครับว่า IPSC มีข้อกำหนดขนาดกระสุนของแต่ละ Division(แบบ) ไว้ด้วยครับ แล้วยังมีกำหนดค่า Power Factor (PF=เพาว์เวอร์แฟคเตอร์) ไว้ด้วย
ค่า PF มีไว้เพื่อป้องกันการได้เปรียบเสียเปรียบของนักกีฬานะครับ
ค่า PF ได้มาจากการคำนวนตามนี้ครับ น้ำหนักหัวกระสุน x ความเร็ว แล้วหารด้วย 1000 ครับ ในแต่ละ Division มีค่า PF ต่างกัน(เดี๋ยวไปว่ากันในแต่ละ Division)ครับ ซึ่งแยกเป้น Major และ Minor แต่ต่ำสุดนั้นจะเหมือนกัน คือ ต้องไม่ต่ำกว่า 125 ซึ่งถ้าต่ำกว่านั้นจะไม่มีการคิดคะแนนให้ครับ
บันทึกการเข้า

เร็วเท่าที่เห็น   แม่นเท่าที่จำเป็น 
เคลื่อนไหวเร็วปานสายฟ้า   หยุดให้นิ่มนวลดังแพรไหม      
ใจต้องนิ่งดังขุนเขา   ทำทุกอย่างดั่งสายน้ำไหล
วรกฤษ
ความฝันทำให้มนุษย์พัฒนาไปข้างหน้าเพื่อสร้างฝันให้เป็นจริง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 45
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6503

สูงสุดคืนสู่สามัญ


« ตอบ #6 เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2007, 12:29:21 PM »

เอาละครับมาว่าเรื่องปืนเลยครับ

1. Open Division ปืนโอเพ่น คือไม่จำกัดการตกแต่ง อยากแต่งยังไงแต่งเข้าไปครับ ติดกล้อง ติดคอมพ์ เจาะพอร์ทและอื่นๆ สำหรับพวกบ้าสุดๆเพราะพกใช้งานก็ไม่ได้ครับ มันมโหฬารเหลือเกิน ในปืนโอเพ่น กฎบังคับให้ใช้ขนาดกระสุนไม่ต่ำกว่า 9 มมครับ และเป็นขนาดที่นิยมสูงสุดครับ เพราะบรรจุกระสุนในแม็กกาซีนได้มากครับ(กฎบังคับว่าแม็กกาซีนยาวสุดต้องไม่เกิน 170 มม) แม็กยาว 140 มม จุได้ไม่ต่ำกว่า 17 นัดส่วนแม็กยาว 170 มม จุได้ไม่ต่ำกว่า 25 นัดครับ ค่า PF ของ Division นี้ Major ต้องไม่ต่ำกว่า PF160 Minorก็อย่างที่บอกไว้แต่ต้น แต่ไม่มีใครใช้ต่ำกว่า 160 ครับ

ปืนที่นักกีฬานิยมนำมาใช้ก็จะเป็นของ STI เช่น Competitor, Grand Master เป็นต้น ยี่ห้ออื่นก็มีแต่ไม่นิยมกันเท่าไหร่นักเช่น SV (ดีแต่แพงเกินไป) Bul M5(ถูกกว่าแต่ไม่สามารถมีลูกเล่นได้มาก)
แบบที่นิยมที่สุดคือ ชอร์ตบล็อกครับ เพราะสามารถใส่อุปกรณ์ที่ต้องการได้ครับ ส่วนอุปกรณ์อะไรบ้างมันยาวมาก แต่ถ้าต้องการรู้จริงๆค่อยถามก็แล้วกันครับ

พูดถึงราคานะครับ STI Competitor เท่าที่ทราบประมาณ 170,000-180,000 บาท
Grand Master 200,000 ขึ้นครับ

ทั้งสองรายการไม่น่าจะมีของอยู่ในร้าน มักจะต้องสั่งจองเอาครับ ร้านที่รับน่าจะมี ร้านปืนประโยชน์ ร้านปืนวิชาและร้านปืนมิตรภาพ ครับ

แบบชอร์ตบล็อก เริ่มต้นที่ประมาณ 110,000-120,000 ครับทำจนเสร็จน่าจะอยู่ที่ 150,000-160,000 บาทครับ ข้อดีอย่างที่บอกครับเลือกใส่สิ่งที่ต้องการได้เองครับ สามารถถามได้ที่ร้านปืนวิชาและร้านปืนมิตรภาพ ครับ

อ้อ....ซองปืนและซองแม็กกาซีนจะไว้ตำแหน่งไหนก็ได้ครับไม่บังคับ

2. Standard Division เป็นปืนศูนย์เปิดครับขนาดกระสุนต่ำสุดต้องไม่ต่ำกว่า 10 มมหรือ .40 ครับ
ค่า PF Major ไม่ต่ำกว่า 170 Minor ไม่ต่ำกว่า 125 ครับ
ข้อกำหนดคือห้ามเจาะพอร์ทห้ามติดกล้อง แถมยังบังคับว่าต้องสามารถบรรจุปืนและแม็กกาซีนลงในกล่องที่มีมิติขนาด 225มม x 150มม x 45มม +1มม -0 ครับ
ทำไมต้องบังคับ ก็เพื่อไม่ให้มีการได้เปรียบเสียเปรียบครับ

การคาดปืนและแม็กกาซีน จะต้องไม่คาดในตำแหน่งที่ล้ำหน้าเกินกระดูกเชิงกราน (Hip Bone)
ปืนที่นิยมมากก็มี STI ส่วน Tranfoglio ก็เริ่มมีคนนำมาแข่งครับ ขนาดที่นิยมคือ .40 ครับเพราะจะจุกระสุนได้มากครับ ส่วน .45 เช่น STI รุ่น The Edge ก็มีคนนำมาแข่งเหมือนกันครับ ผมก็เคยเอาลงแข่งมาเหมือนกัน

ร้านปืนที่จำหน่ายก็ต้องจองเอาครับ ร้านปืนประโยชน์ ปืนวิชชา ปืนมิตรภาพ ปืนไพศิษฐ์ ขนาด .45 ลองหาดูครับแต่ .40 คงต้องจองครับ ราคาก็น่าจะประมาณ 150,000 บาทไม่แน่ใจเท่าไหร่ครับ ใครทราบช่วยอัพเดทให้ด้วยครับ

ผมขอหยุดที่ Division นี้ก่อนครับ เดี๋ยวมีเวลาค่อยมาต่ออีกในส่วนที่เหลือครับ

มาต่อเรื่องปืนในแต่ละ Division เลยครับ

3. Production Division ปืนในรุ่นนี้น่าจะมีมากที่สุดเลยครับ เพราะนักกีฬาส่วนใหญ่จะมีกันทั้งนั้นไม่แบบใดก็แบบหนึ่ง ดังนั้นผมขอเขียนไว้ก่อนที่จะไปต่อนะครับว่าที่ผมจะเขียนเป็นปืนยอดนิยมแต่ไม่ใช่ว่าสิ่งที่คุณมีแล้วไม่ตรงกับที่ผมเขียนจะทำให้คุณแข่งไม่ได้หรือจะแพ้แน่นอนนะครับ ผมพูดเสมอว่ามีอะไรเอาอย่างงั้นลงแข่งครับ

ใน Division นี้มีกฎว่าต้องเป็นปืนเดิมๆแบบจากโรงงาน(Production)จะเปลี่ยนแปลงอะไรก็แล้วแต่ต้องดูกฎและผู้ผลิตว่ามีจำหน่ายจากโรงงานหรือไม่ อย่าเปลี่ยนโดยไม่ตรวจสอบครับ เพราะถ้าไม่งั้นจะเสียใจภายหลัง ผมยกตัวอย่างง่ายๆครับ ด้ามปืนให้ติดเทปที่ด้านข้างของด้าม(ประกับ)ได้ แต่ห้ามติดหน้าด้ามอย่างงี้เป็นต้นครับ ดังนั้นควรถามหรือเช็คให้แน่ใจก่อนครับ เดี๋ยวทำแล้วนำไปแข่งจะถูกดันไปยิง Standard Division แทนแล้วจะโกรธเจ้าหน้าที่เอา....   

เริ่มครับปืนต้องยิงดับเบิ้ลในนัดแรกเท่านั้นและน้ำหนักไกต้องไม่เบากว่า lb5 จะเช็คทุกครั้งที่ลงสมัครครับ ส่วนนัดต่อไปเป็นซิงเกิ้ลก็ได้หรือเป็นดับเบิ้ลก็ตามใจครับ ขนาดกระสุนต้องมีหน้าตัดไม่น้อยกว่า 9 มมครับ PF ต้องไม่ต่ำกว่า 125 ครับคิดเป็น minor ทั้งหมดครับ(ถ้าผมผิดรบกวนช่วยแก้ด้วยครับ..ไม่เคยลงเลย)
การพกก็เหมือน Standard นะครับซองปืนและซองแม็กต้องไม่ล้ำหน้าเกินกระดูกเชิงกราน (Hip Bone)
ปืนยอดนิยมที่นำมาแข่งกันมี ปืน Glock17 Glock19 ก็มีครับราคาผมว่าไม่ต้องแจ้งนะครับ   
ปืนที่กำลังนิยมแซง Glock อยู่เวลานี้คือ CZ SP-01 ครับแรงแซงทางโค้งเลย นักกีฬานิยมตัวที่ใช้เซฟครับ นักกีฬา IPSC ไม่ชอบตัวลดนกเพราะเรากริปปืนสูงกลัวยิงไปต้องง้างนกไปเพราะจะเผลอ กดลดนกประจำ ราคาก็คงไม่ต้องบอกครับฮอตสุดๆเวลานี้...   

สำหรับ SP-01 ที่แนะนำให้ทำคือ ลดน้ำหนักไกซิงเกิ้ลลงเหลือประมาณ lb3เศษ พร้อมปัดให้ลื่นดับเบิ้ลจะลดตามลงมาเองครับ เปลี่ยนศูนย์หน้าเป็นศุนย์ไฟเบอร์ออฟติก(ยิงIPSCอย่าเสียดายศูนย์กลางคืนครับ) แม็กกาซีน 4 ตัวแล้วก็โดดลงแข่งเลย ร้านที่แนะนำให้ไปทำคือ ร้านสุพลครับ

ส่วนตัวอื่นๆก็เอามาลงได้ครับ บาเร็ตต้า 92 เอฟเอส, สมิทธิ์และอื่นๆ Divisionนี้เข้ามาร่วมง่ายครับ กระสุน 9 มม หาซื้อพอได้(เวลานี้) ปืนมีอยู่แล้ว เป็นDivisionที่ลงทุนน้อยที่สุดครับ...ข้อแม้คืออย่าแห่ตามครับ เอาที่มีมาใช้เลยครับ

4. Division ลูกโม่ครับที่คุณ Tiddy บอกลงไม่ได้ เรามี Division นี้เหมือนกันครับ ผมยกตัวอย่างนักกีฬาปืนสั้นชาวบ้านที่รู้จักกันดีคือ พี่สิงห์ เดี๋ยวนี้แกควงลูกโม่ลงแข่งทุกแมทช์เลยครับไม่ว่าเชียงราย เชียงใหม่ กทม ชลบุรีและที่อื่นๆ
ผมขอออกตัวไว้ว่าไม่ชำนาญนะครับแต่จะเขียนเท่าที่ทำได้ ใครใจดียอมเมื่อยนิ้วช่วยผมใน Division หน่อยครับ
ปืนที่ใช้เห็นเป็น 686 ของสมิทธิ์ อุปกรณ์ที่ใช้ซองปืนของ Extreame ที่ใส่มูนคลิปเห็นทำเอง(ใครมีรูปช่วยด้วยครับ) ส่วนใหญ่ใช้ Full Moon กันครับ Speed Load ไม่ค่อยใช้เห็นบอกว่าช้ากว่าครับ
ขนาดกระสุน 9มม หรือ .38 นั่นแหละครับ บางท่านยิงด้วย .45 เลยมีค่า Major PF170 และ  Minor PF125เหมือนกันนะครับ
ข้อกำหนดเพิ่มเติมครับ ต้องเป็นลูกโม่ที่จุ 6 นัดนะครับ ลำกล้องไม่จำกัดความยาวครับ
สิ่งที่ทำได้ตามกฎมีดังนี้ครับ
1. ด้ามปืน แต่งได้ตามสบายเลยครับ
2. ศูนย์ปืน เลือกตามใจชอบทั้งศูนย์หน้าและหลังครับ
3. แกนโม่ สามารถแต่งได้ตามสบายเช่นกัน
4. ถ้าหน้าโม่ไม่สามารถใส่มูลคลิบก็สามารถทำได้ครับ
เท่าที่ผมทราบทำได้เท่านี้นะครับ เดี๋ยวขอแรงพี่อ๋องหรือคุณคาร์มาช่วยอีกแรงครับ ผมขอจบสั้นๆแค่นี้สำหรับ Division นี้ครับ

5. Division Modified รุ่นนี้เรายังไม่เคยมีการจัดแข่งนะครับเพราะคนที่มีปืนนั้นไม่มากครับ แต่รู้สึกว่ามีการคุยๆกันอยู่ ผมเลยจะขอข้ามไปก่อนเพราะมีเรื่องอีกยาวครับที่จะต้องเขียน

เดี๋ยวต้องไปเตรียมโครงงานต่อก่อนครับ    ...คิดว่าจะเริ่มเข้าสู่พื้นฐานการเริ่มต้นยิงปืนในหัวข้อต่อไป ซึ่งต้องอาศัยรูปและอื่นๆ เดี๋ยวจะไปตาม/ข่มขืนจิตใจให้พรรคพวกในก๊วนมาเป็นนายแบบกัน     
บันทึกการเข้า

เร็วเท่าที่เห็น   แม่นเท่าที่จำเป็น 
เคลื่อนไหวเร็วปานสายฟ้า   หยุดให้นิ่มนวลดังแพรไหม      
ใจต้องนิ่งดังขุนเขา   ทำทุกอย่างดั่งสายน้ำไหล
วรกฤษ
ความฝันทำให้มนุษย์พัฒนาไปข้างหน้าเพื่อสร้างฝันให้เป็นจริง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 45
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6503

สูงสุดคืนสู่สามัญ


« ตอบ #7 เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2007, 12:30:59 PM »

มาต่อกันเลยครับ ตอนนี้เราจะมาที่การยืนนะครับ

ท่าการยืนยิงปืนของ IPSC จะแตกต่างกับการยืนยิงปืนสั้นชาวบ้านอยู่มากพอสมควรครับ เพราะการยืนยิงปืนสั้นชาวบ้านเรายิงกันทีละนัดไม่ต้องรีบไม่มีการเคลื่อนไหวและไม่มีท่ายิงที่ไม่ถนัดนัก ดังนั้นท่ายืนยิงของปืนสั้นชาวบ้านจึงไม่เหมาะที่จะนำมาใช้ในการยิง IPSC อีกทั้งการล็อกแขนล็อกไหล่ก็ไม่เหมาะอีกเหมือนกันครับ ผมขออธิบายให้ชัดเจนนะครับว่า ผมไม่ได้ติท่ายิงปืนสั้นชาวบ้านไม่ถูกต้อง แต่ผมบอกว่าไม่เหมาะกับการยืนยิงแบบ IPSC ครับ เพราะท่าการยิงปืนในแต่ละแบบจะเหมาะกับการยิงปืนแบบนั้นๆ ซึ่งต้องดูที่วัตถุประสงค์ครับ แต่ท่าการยืนยิงในระบบ IPSC จะสามารถประยุกต์ไปยิงในท่าต่อสู้ได้ครับ

การยืนในแบบยิงปืนในแบบ IPSC นั้นสำคัญมากๆครับเพราะเราต้องยิงต่อเนื่องหลายๆนัด ถ้าการยืนไม่ดีหรือไม่มั่นคงจะทำให้การยิงนั้นยากขึ้น การคุมการยิงกระสุนเมเจอร์ซึ่งมีความแรงมากก็จะยากขึ้นไปอีก ดังนั้นการยืนเปรียบเสมือนเสาเข็มของบ้าน ฐานต้องดี Balance ต้องดีการยิงก็จะง่ายขึ้นครับ

ท่ายืนในการยิง IPSC คล้ายกับท่าของนักมวยหรือคาราเต้ ต้องทิ้งน้ำหนักไปข้างหน้าเสมอครับ แบบที่นิยมกันมากคือ
1. แยกขาออกให้กว้างเท่าหัวไหล่...ไม่ต้องวัดนะครับ ประมาณเอา...    (เหมือนกันในปืนสั้นชาวบ้านครับ)
1.2 มีบางท่านแนะนำให้ถอยขาขวา(สำหรับคนยิงมือขวา)มาด้านหลังสักหน่อยเพื่อใช้ขาขวาช่วยดันไปข้างหน้า โดนทิ้งน้ำหนักลงบนขาซ้าย 60 และขาขวา 40
2. ไหล่ต้องอยู่ล้ำไปข้างหน้า......ท้องต้องอยู่หลังกว่าไหล่ครับ...โน้นตัวไปข้างหน้า(คล้ายกับเดินขึ้นเขาครับ)
3. งอเข่าลงเล็กน้อย
4. น้ำหนักบางท่านบอกกระจายให้เท่ากันทั่วทั้ง2เท้า แต่ผมชอบการทิ้งน้ำหนักลงไปทางนิ้วเท้ามากกว่าครับ เพราะรับแรงรีคอยล์ได้ดีกว่า หรือบางครั้งผมจะใช้แบบ 1.2 ครับ
5. แขนไม่ตึงหรือล็อก ต้องการให้ช่วงศอกหย่อนลงเล็กน้อยเพื่อรับแรงรีคอยล์ของปืน เพราะการล็อกแขนจะทำให้แรงรีคอยล์ทั้งหมดกระแทกเข้ามาที่หัวไหล่แทนที่จะอาศัยข้อศอกเป็นตัวผ่อนแรงลงครับ
6. ศีรษะโน้นไปข้างหน้าก้มลงเล็กน้อย (เป็นเหตุผลเรื่องการตัดศูนย์กลางของแว่นในหมวดอุปกรณ์ครับ)

ทั้งหมด 6 ข้อหลักนั้นจะทำให้การยืนยิงปืนมั่นคงขึ้น ไม่ถอยตามแรงรีคอยล์ของปืนครับ เหตุผลคือแทนที่เราจะอาศัยกำลังมือสู้กับแรงรีคอยล์ เราเอาน้ำหนักตัวเราเข้ามาช่วยด้วยครับ ส่วนในข้อ 1 หรือ 1.2 ท่านลองทดสอบด้วยตนเองว่าแบบไหนเหมาะกับท่านเอง แต่ละบุคคลต้องหาท่าที่เหมาะกับตัวเองให้มากที่สุดครับ

ผมขอหยุดก่อนไว้เสร็จธุระจะมาต่อให้อีกครับ

ต่อในหัวข้อการยืนครับ

เรามีวิธีทดสอบว่าเรายืนดีหรือไม่ง่ายๆครับ เรายืนถือปืนแล้วให้เพื่อนช่วยดึงสไลด์ขึ้นหน้าถอยหลังดูสัก 3หรือ4 ทีถ้าเรายืนได้มั่นคงเท้าด้านหน้าไม่ลอยขึ้นหรือหงายหลัง เป็นอันว่าใช้ได้ครับ ถ้าเราหงายหลังหรือเท้าลอยขึ้นนั่นแปลว่าเรายืนถ่ายน้ำหนักไม่ดีครับ เพราะการดึงสไลด์ก็เหมือนกันกับปืนทำงานจริงเพียงแต่ไม่มีรีคอยล์เข้ามาเกี่ยวเท่านั้นเอง ถ้าเราหงายหลังหรือเท้าลอยสิ่งที่เกิดขึ้นในเวลายิงเร็วๆคือ กระสุนจะค่อยๆกินแนวสูงขึ้นเรื่อยๆเพราะเราหงายหลังปืนก็จะกินสูงตามครับ ลองดูครับไม่เสียหาย ลองปรับดูครับหาท่ายืนที่เหมาะกับเราที่สุดแต่ต้องได้ผลมากที่สุด

ข้อสำคัญที่ต้องจำคือ ไหล่ต้องล้ำหน้าท้องเสมอไม่ว่ายิงท่าไหนก็แล้วแต่ครับ เพราะการที่ไหล่อยู่หน้าน้ำหนักตัวเราจะถ่ายไปข้างหน้าเพื่อช่วยผ่อนแรงในการจัดการกับรีคอยล์ปืนครับ ผมเห็นนักกีฬาใหม่ๆเวลายิงหลังที่กำบัง(ฉาก) จะยืนชิดและหงายหลังเพื่อให้เห็นเป้า นั่นไม่ถูกต้องครับ........ไหล่ต้องโน้มไปอยู่ข้างหน้าเสมอครับ....จำไว้ครับ ส่วนการยืนหลังฉากเดี๋ยวเรามาว่ากันต่อครับ
บันทึกการเข้า

เร็วเท่าที่เห็น   แม่นเท่าที่จำเป็น 
เคลื่อนไหวเร็วปานสายฟ้า   หยุดให้นิ่มนวลดังแพรไหม      
ใจต้องนิ่งดังขุนเขา   ทำทุกอย่างดั่งสายน้ำไหล
วรกฤษ
ความฝันทำให้มนุษย์พัฒนาไปข้างหน้าเพื่อสร้างฝันให้เป็นจริง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 45
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6503

สูงสุดคืนสู่สามัญ


« ตอบ #8 เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2007, 12:32:00 PM »

เช่นเดิมครับมีคำถามหรือสงสัยก็เชิญถามเลยครับ

การยืนยิงด้านข้างหลังฉากกั้นนั้น ข้อแนะนำคืออย่ายืนชิดฉากครับและควรยืนขนานกันกับฉาก ทิ้งระยะสักหน่อยหนึ่ง แล้วใช้การถ่ายน้ำหนักไปยังขาข้างที่เราต้องการเข้าไปยิงเช่นจะยิงด้านขวาของฉาก ก็ถ่ายน้ำหนักลงไว้บนเท้าขวาและอย่าลืมว่าไหล่ต้องอยู่ล้ำหน้าท้องเสมอ ในฝั่งตรงข้ามก็เช่นกันครับเพียงแต่ถ่ายน้ำหนักบนเท้าซ้ายแทนครับ นี่เป็นการอธิบายเท่าที่จะทำได้ ถ้าไม่เข้าใจก็เชิญถามครับ เดี๋ยวถ้ามีรูปจะนำมาโพสต์ให้ชมกันอีกครั้งครับ

เอาเป็นว่าจบหมวดการยืนนะครับ เดี๋ยวต่อไปเราไปหมวดกริปปืนกัน ผมจำได้ว่านายใหม่เคยเขียนไว้รบกวนใครที่ทราบช่วยดึงมาให้ผมหน่อยครับ แล้วดูว่าจะเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ถ้าไม่จะได้ไปหมวดต่อไปครับ...เป็นการประหยัดเวลาและหน้ากระทู้ครับ....ขอบคุณล่วงหน้าครับ

วันนี้เรามาเริ่มต้นวิธีซ้อม IPSC สำหรับมือใหม่นะครับ
ก่อนที่จะไปตรงการซ้อมขอเน้นย้ำก่อนว่าให้ระวังเรื่องกฎแห่งความปลอดภัยอย่างเข้มงวดครับ

เริ่มต้นเพื่อเข้าใจวิธีการเริ่มต้นของการแข่งขัน IPSC มีคำภาษาอังกฤษที่ต้องใช้ประจำในการแข่งอยู่ไม่กี่คำที่ต้องจำครับ
1. Load and make ready = พร้อมแล้วบรรจุ
2. Are you ready? = นักกีฬาพร้อม
3. Stand by = ระวัง
4. If you are finished, unload and show clear = ถ้ายิงเสร็จแล้วโชว์เคลียร์
5. If clear, hammer down, and holster = ถ้าเคลียร์, ลดนก, แล้วใส่ซอง
6. Range is clear = สนามว่างหรือปลอดภัย
คำศัพท์เหล่านี้จะใช้ทุกสนามและทุกครั้งที่ลงแข่งครับ อาจจะเป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ แต่เดี๋ยวนี้ส่วนใหญ่แล้ว RO เราgoอินเตอร์ครับจะใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก เพราะเราต้องเตรียมคนของเราให้พร้อม เนื่องจากมีแมทช์ที่มีต่างชาติมาร่วมแข่งด้วยทุกปีครับ ส่วนใหญ่จะเป็น Level 3 ขึ้นไป ส่วนเรื่อง Level ต่างๆค่อยไปว่ากันในช่วงอื่น ขอเข้าเรื่องเริ่มต้นที่ต้องทำก่อนครับ

เมื่อเราเข้าช่องยิงกรรมการหรือที่นักกีฬาเรียกว่า RO จะถามว่าคุณเข้าใจวิธียิงหรือไม่ ถ้าไม่เข้าใจก็ถามให้แน่ใจ ถ้าเข้าใจดีก็ตอบว่าเข้าใจ แล้วROจะสั่งด้วยข้อที่ 1 หลังจากข้อที่ 1 เสร็จ RO จะถามต่อข้อที่ 2 ว่านักกีฬาพร้อมหรือไม่ ถ้าพร้อมจะตอบหรือพยักหน้าก็สุดแล้วแต่ คำสั่งข้อที่ 3 จะตามมาซึ่งนักกีฬาต้องตื่นตัวแล้ว พอรับสัญญานปิ๊ดก็เริ่มลงมือยิง ยิงจบ RO จะแจ้งข้อ 4 ต่อไปเมื่อคุณโชว์แล้ว คำสั่งข้อที่ 5 จะตามมาทันที เมื่อเอาปืนใส่ซองเรียบร้อย(อย่าลืมล็อกปืน) เราก็เข้าไปดูเป้าพร้อมกับ RO ซึ่งจะขานโซนที่ยิงได้ให้คนจด(ถ้าไม่เห็นด้วยให้ค้าน) เมื่อผ่านแล้วจะมีเจ้าหน้าที่มาปิดรูกระสุนบนเป้าจนจบ พอเสร็จเรียบร้อยเราต้องเซ็นชื่อในใบคะแนนครับ เป็นอันจบขบวกการของนักกีฬา ระหว่างเจ้าหน้าที่ทำการปิดเป้าจนแล้วเสร็จ RO จะมองดูสนามว่าไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่ก็จะบอกด้วยข้อที่ 6 ครับแล้วนักกีฬาใหม่ก็เริ่มต้นต่อไป.

หมายเหตุครับ นักกีฬาห้ามจับหรือแตะสัมผัสเป้านะครับ ROหรือเจ้าหน้าที่เท่านั้นที่จะจับต้องได้

เมื่อเราเข้าใจขั้นตอนแล้วทีนี้วิธีซ้อมก็เริ่มจากขั้นตอนที่ 1 เรื่อยไปจนจบระหว่างการซ้อมนะตอนนี้ ห้ามมีกระสุนอยู่เป็นอันขาดนะครับ ให้สลับกับเพื่อนที่ไปด้วยเป็น RO ครับเริ่มจาก

ข้อที่1 คือ Load and make ready (ห้ามทำนอกเหนือคำสั่ง RO) ก็หยิบปืนมาทำการบรรจุลูก(อย่าใส่ลูกจริงครับ) เมื่อบรรจุเสร็จแล้วให้เข้าเซฟปืนทันทีครับ(ทำให้ติดเป็นนิสัยเลยครับ) แล้วเอาปืนใส่ซองให้เรียบร้อย

แล้วมาซ้อมข้อที่4 คือ If you're finished, unload, and show clear เราก็หยิบปืนขึ้นมาแล้วปลดเซฟ ดึงสไลด์และมองดูว่าไม่มีกระสุนอยู่หลังจากนั้นเราก็เอาให้ RO ดูครับ พอ RO ดูเสร็จก็ตามด้วยคำสั่งข้อต่อไป

ข้อที่5 คือ If clear, hammer down, and holster เราก็ปล่อยสไลด์และลดนก อย่าลดนกที่พื้นข้างหน้าครับ ชี้ปืนไปที่กองดินด้านหน้า แล้วลั่นไกเลยครับ อย่าจับนกปล่อบลงครับ(เชยระเบิด) เพราะนักกีฬา IPSC จะไม่ทำอย่างงั้นเพราะความปลอดภัยเผื่อลูกหลงครับ แล้วก็นำปืนใส่ซองพร้อมล็อกปืนให้เรียบร้อยกันตกครับ

หมายเหตุ ถ้าคุณลืมล็อกปืนแล้วปืนหล่นหลังจากจบสนามนั้นแล้วหรือระหว่างเดินในสนาม ห้ามหยิบปืนขึ้นมาใส่ซองเองเป็นอันขาดครับ เพราะจะโดน DQ(Disqualified) ทันทีคือถูกตัดสินประหารชีวิตในการแข่งโดยห้ามแข่งต่อทันที ที่ยิงมาทั้งหมดเขาจะไม่คิดคะแนนให้ทันทีครับ คุณต้องเรียก RO มาทำการหยิบปืนตรวจสอบและนำใส่ซองให้คุณเอง อย่างงี้คุณสามารถแข่งต่อไปไม่มีปัญหาครับ

สลับกันทำบ่อยๆนะครับ ทำจนคุณจำได้ดีแล้วและแน่ใจว่าจะไม่พลาด แล้วเราก็จะไปฝึกขั้นต่อไป

หมายเหตุครับ อย่าทำเกิน RO สั่งนะครับเช่นถามว่าคุณเข้าใจวิธียิงไหม พอตอบว่าเข้าใจแล้วหยิบปืนเองเลย อย่างงี้โดน DQ เหมือนกันครับ....อย่าทำนอกเหนือคำสั่งครับ อันนี้เพื่อความปลอดภัยของนักกีฬาทุกคนครับ ไม่ใช่เฉพาะผู้เข้ายิง
กฎ IPSC เข้มงวดเพื่อป้องกันที่จะมาเสียใจและเดือดร้อนในภายหลังครับ ดังนั้นขอให้นักกีฬาเข้าใจ เวลาโดน DQ อย่าโกรธ RO ครับนึกว่าเขาทำเพื่อความปลอดภัยให้กับนักกีฬาทุกท่านครับ
บันทึกการเข้า

เร็วเท่าที่เห็น   แม่นเท่าที่จำเป็น 
เคลื่อนไหวเร็วปานสายฟ้า   หยุดให้นิ่มนวลดังแพรไหม      
ใจต้องนิ่งดังขุนเขา   ทำทุกอย่างดั่งสายน้ำไหล
วรกฤษ
ความฝันทำให้มนุษย์พัฒนาไปข้างหน้าเพื่อสร้างฝันให้เป็นจริง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 45
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6503

สูงสุดคืนสู่สามัญ


« ตอบ #9 เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2007, 12:32:40 PM »

เดี๋ยวมีเวลาเราจะมาต่อการซ้อมยิงจริงแล้วครับ...ตอนนี้ขอหยุดก่อนครับ ถ้ามีคำถามก็ถามได้เลยครับ



มีนักกีฬาจำนวนมากนะครับที่เข้าใจผิดว่ามองเห็นศูนย์ปืนระหว่างเวลายิง ซึ่งความจริงแล้วนักกีฬาจำนวนมากที่ไม่เห็นศูนย์ปืนจริงๆครับ เพราะยามที่ปืนลั่นออกไปส่วนใหญ่จะหลับตาครับ ผมเคยลองมาหลายคนโดยให้ยิงปืน 1 นัดแล้วแล้วปิดตาเขาทันทีให้ขานตำแหน่งกระสุนที่ยิงไป ส่วนใหญ่จะตอบไม่ได้หรือตอบผิดครับ คนที่เคยหัดกับผมคงจะทราบดีนะครับ

ถ้าเรายิงปืนแล้วไม่เห็นว่าถูกหรือผิดสาเหตุเพราะไม่เห็นครับ ผมเองก็เคยเป็นหลังจากศึกษาแล้วถึงเข้าใจครับ ดังนั้นวันนี้เราจะมาคุยเรื่องนี้กัน พร้อมทั้งวิธีฝึกครับ

สาเหตุของการไม่เห็นศูนย์เกิดจากจิตใต้สำนึกเป็นหลักครับ มนุษย์เราถ้าอยู่ๆมีเสียงดังใกล้ตัวในทันทีทันใดโดยไม่รู้ตัวหรือมีลมแรงๆ(แรงอัดจากปืน)มาปะทะใกล้หน้า เราจะตกใจหรือสะดุ้งทำให้กระพิบตาหรือสะดุ้งนั่นเป็นเหตุหลักเพราะนั่นเกิดจากจิตใต้สำนึกในการป้องกันตัว

ผมเชื่อว่าหลายคนเคยขับรถในเวลาฝนตก วิ่งๆอยู่ดีๆมีน้ำจากพื้นพุ่งมาที่กระจกรถ ท่านจะกระพิบตาเพราะตกใจ นั่นเพราะจิตใต้สำนึกป้องกันดวงตาเราไม่ให้ถูกน้ำที่กระเด็นมา ซึ่งจริงๆแล้วเรามีกระจกหน้ารถป้องกันให้อยู่ แต่เพราะมันเกิดขึ้นทันทีทันใดทำให้เราเป็นเช่นนั้นครับ
การยิงปืนก็เช่นเดียวกันครับ ถ้าคุณไม่ได้ฝึกมาคุณก็จะเกิดอาการแบบนี้โดยไม่รู้ตัว

สาเหตุการสะดุ้งในการยิงปืนนั้นเกิดได้จาก
1. เสียงที่ดัง
2. รีคอยล์ของปืน
3. จุดแหลมคมบนปืนของคุณเอง

วิธีแก้ไข ผมขอเริ่มจากข้อง่ายสุดคือข้อที่ 3 นะครับ ถ้าปืนคุณซื้อมาแล้วมีมุมหรือเหลี่ยมที่คม เนื่องจากความไม่เรียบร้อยของโรงงานหรือรูปแบบทรวดทรง ผมแนะนำให้จำกัดความคมของตำแหน่งนั้น ผมขอยกตัวอย่างที่เคยเจอกับตนเองนะครับ เซฟซ้ายขวาของ Ed Brown สำหรับผมนั้นถ้าซื้อมาใส่ผมจะปาดด้านนอกออกให้เรียวลงครับเพราะมันบาดหลังนิ้วโป้งมือซ้ายผมมาก ผมชอบรูปทรงเซฟของ STI มากกว่าครับ มันไม่บาดมือผมเลย(ความชอบส่วนตัวครับ) ดังนั้นแก้ข้อนี้ก่อนครับมันไม่สบายเลยถ้าทุกนัดที่ยิงมันจะทำให้เราเจ็บจุดใดจุดหนึ่ง คนที่ซ้อมแห้งมากๆจะทราบดีครับ
หมายเหตุ...ผมอาจจะลืมบอกไปในบทการกริปปืนนะครับว่า นิ้วโป้งขวามือ(ผู้ที่ถนัดขวา)จะต้องวางบนเซฟเสมอครับเพราะเราเซฟปืนไว้ พอชักปืนขึ้นมานิ้วที่พาดบนเซฟจะปลดเซฟได้ทันทีและยังเป็นที่วางนิ้วด้วยครับ

ทีนี้ข้อที่ 1และ2 นั้นคุณสามารถฝึกได้หลายๆวิธี
1. เริ่มจาก .22 ก่อนแล้วค่อยๆขยับให้แรงขึ้นไปเรื่อยๆเพื่อฝึกความคุ้นเคยกับเสียงและรีคอยล์(บ้านเราคงจะยาก)
2. ถ้าไม่มีปัญญาทำอย่างข้อที่ 1 ลองฝึกวิธีนี้ครับ
2.1 บรรจุกระสุนให้เต็มแม็กกาซีนแล้วหากองดิน(มั่นใจว่าปลอดภัยนะครับ)แล้วยิงให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยตามองที่ศูนย์ปืนอย่างเดียวครับ นัดแรกๆคุณอาจจะมองมันไม่เห็น แต่การที่คุณรัวนิ้วให้เร็วที่สุด นัด 3หรือ4ขึ้นไปคุณจะเห็นศูนย์ปืนมันเต้นขึ้นลงครับซึ่งเป็นสิ่งที่คุณจะเห็นเวลาที่ยิงจริง ข้อสำคัญคุณต้องยิงให้เร็วที่สุดอย่าเพิ่งเสียดายเพื่อเรียนรู้ครับ หัวใจของเทคนิกนี้มี 2 ส่วนครับ 1. รัวนิ้วให้เร็วที่สุดโดยไม่ชะงัก 2.ไม่ต้องมองอย่างอื่นยกเว้นศูนย์หน้าเท่านั้นครับ สาเหตุที่ให้ยิงกองดินโดยไม่มีเป้าเพราะว่าคนที่ไม่เห็นมักจะเกิดจากสิ่งที่บอกในตอนต้น แถมด้วยจะไปมองปลอก มองศูนย์หลัง มองสไลด์หรือมองเป้า นี่เป็นเหตุผลที่ให้ยิงกองดิน คุณจะไม่มีเป้าให้มอง สมาธิอยู่ที่ศูนย์อย่างเดียวครับ ถ้ามีเพื่อนไปด้วยลองให้เพื่อนดูที่กองดินนะครับ เพื่อนคุณจะเห็นว่ากระสุนจะยิงไปรวมเป็นกลุ่มๆตามจังหวะที่คุณยิง ลองดูครับแล้วจะเข้าใจที่ผมบอก
ผมขอหยุดก่อนครับพอดีมีธุระเข้ามา เดี๋ยวมีเวลาจะให้ข้อ 2.2 ต่อไป ถ้าสงสัยเข้ามาถามไว้แล้วจะมาเฉลยครับ

มาต่อข้อ 2.2 ครับ หลังจากทำตามขั้นตอน 2.1 แล้วผมเชื่อว่าคุณคงจะเห็นในสิ่งที่ควรเห็นครับ ขั้นต่อไปคือนำเป้ามา 1 ใบเป้ากระดาษอะไรก็ได้ครับ แล้วเริ่มยิงแบบขั้นตอนที่ 2.1 แต่ทีนี้มองไปที่เป้าโดยมีศูนย์ปืนอยู่ในเป้าแล้วเริ่มเหนี่ยวไกครับยิงให้เป็นจังหวะให้มีระยะเวลาเท่ากันเช่นนับ 1 2 3 4 5 6 เว้นให้มีเวลาเท่ากันครับไม่เร็วหรือช้าเกินไปยิงให้หมดแม็กกาซีนเลยครับ นัด 1 2 ไม่เห็นไม่เป็นไรแต่ยิงให้หมดแม็กกาซีนเลย หลังจากยิงหมดแม็กแล้วลองไปดูที่เป้าครับ อย่าหยุดมองระหว่างยิงนะครับ ยิงให้หมดแม็กก่อนแล้วค่อยดู คุณจะเห็นว่ากระสุนแตกกลุ่มไปบ้างไม่เป็นไร สิ่งที่คุณได้คือคุณจะเห็นศูนย์ปืนดีดอกจากเป้าครับ ถ้าคุณยืนดี กริปปืนดี ลั่นไกดี รับรองว่ากลุ่มกระสุนคุณจะยิงได้แน่นแบบไม่น่าเชื่อเลยครับ เทคนิคบทนี้คือ ยิงให้เป็นจังหวะต่อเนื่อง ตามองที่ศูนย์ปืนเหมือนบทที่ 2.1 เพียงแต่มีเป้าเข้ามาแทนที่กองดินเน้น อย่าลืมครับ ยืนดี กริปดี มองศูนย์ไว้ ยิงให้เป็นจังหวะ นัดสองนัดแรกไม่เห็นไม่เป็นไร ยิงให้หมดแม็กครับ....ลองแล้วถ้าได้ผลไงรบกวนแจ้งให้ทราบด้วย จะได้ทราบว่าถูกผิดยังไงครับ

ก่อนผมจะจบบทความนี้ขอบอกว่า การมองเห็นนั้นสำคัญมากใน IPSC ถ้าคุณมองไม่เห็นคุณก็จะยิงไม่ถูกคุณเห็นมือสูงๆยิงเร็วๆแล้วเขาแก้ไขได้ทันทีเพราะเขาเห็นครับ เชื่อผมได้เลยว่านักกีฬา IPSC มือสูงๆเขาเห็นศูนย์ที่เขายิงเสมอ เมื่อไรที่เขายิงมิสเพราะเขาละสมาธิไปแวบหนึ่งเท่านั้นที่ทำให้เขาพลาด

ผมขอจบบทความเรื่องการมองเห็นศูนย์ไว้นะที่นี้ ถ้าใครมีข้อสงสัยหรือลองแล้วไม่สำเร็จ ก็ลองถามมาดูครับ



ผมเริ่มเขียนเรื่อง "ควรเริ่มต้นการยิง IPSC อย่างไร" มาระยะหนึ่งแล้วซึ่งเพิ่งจะเริ่มได้แค่นิดเดียว มันยังมีเทคนิกอีกมากมายเลยซึ่งถ้าเขียนต่อมันก็ยังมีอีกเยอะมาก แต่เพราะมีปัญหาบางเรื่องที่ต้องทำในช่วงนี้ อีกทั้งยังไม่แน่ใจว่ามีคนสนใจจริงมากน้อยแค่ไหน

ผมเลยขอหยุดการเขียนช่วงนี้ไว้เพียงเท่านี้ก่อนแล้วถ้ามีเวลาค่อยกลับมาว่ากันใหม่อีกทีครับ..........โรงเรียนปิดเทอมใหญ่แล้วครับ เท่าที่เขียนถ้าสนใจก็นำไปฝึกซ้อม ผมเชื่อว่ามากหรือน้อยก็เป็นจุดเริ่มต้นสำหรับนักกีฬาใหม่นะครับ.........ขอขอบคุณหลายท่านที่ตามอ่านกันจนเมื่อยตาครับ....   

แล้วพบกันในสนามแข่งครับ

หมายเหตุ.....ถ้ามีผู้ใดพร้อมที่จะช่วยเขียนต่อเพื่อสร้างนักกีฬารุ่นใหม่ๆ ก็รบกวนเขียนต่อในกระทู้นี้เลยครับ
บันทึกการเข้า

เร็วเท่าที่เห็น   แม่นเท่าที่จำเป็น 
เคลื่อนไหวเร็วปานสายฟ้า   หยุดให้นิ่มนวลดังแพรไหม      
ใจต้องนิ่งดังขุนเขา   ทำทุกอย่างดั่งสายน้ำไหล
วรกฤษ
ความฝันทำให้มนุษย์พัฒนาไปข้างหน้าเพื่อสร้างฝันให้เป็นจริง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 45
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6503

สูงสุดคืนสู่สามัญ


« ตอบ #10 เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2007, 12:33:09 PM »

เริ่มต้นกันเลยนะครับสำหรับภาค 2 ของบทความนี้ ผมขอทบทวนสิ่งจำเป็นก่อนนะครับ
ผมเชื่อว่าคงจะอ่านเรื่องการยืน (Stance)และการกริปปืน (Grip) ปืนมาแล้วเรียบร้อยนะครับ อย่าลืมว่าทั้ง 2 สิ่งนี้สำคัญมากๆเพราะคุณจะยิงดีหรือไม่ ง่ายหรือยาก มันเป็นองค์ประกอบสำคัญเลยละ ที่ผมย้ำเพราะที่ฝึกอบรมกันมานักกีฬาปืนสั้นชาวบ้านร้อยละร้อย ยืนไม่ถูกแค่ผลักเบาๆก็หงายหลังเลยครับ บางคนยิงมาด้วยกันกับผมทุกวันนี้เผลอก็ยังเป็นครับ   ...ผมเชื่อว่าคนนี้ก็เข้ามาอ่านเหมือนกันครับ เดี๋ยวคงรายงานตัวแน่ๆ..   
เรื่องที่ต้องทบทวนอีกเรื่องคือเรื่องการมองเห็นสำคัญมากอีกอย่างหนึ่งถ้ามองไม่เห็นก็ยิงไม่ถูก นักกีฬายิงปืนส่วนใหญ่ที่เริ่มฝึกกับผมส่วนใหญ่จะมองไม่เห็นศูนย์ปืนในการยิงเพราะการสะดุ้ง (flinch)อาจจะเกิดจากรีคอยล์หรือเสียง ดังนั้นถ้าจะยิงให้ถูกต้องมองเห็นครับ
วิธีสังเกตุง่ายๆว่าคุณเห็นหรือไม่คือ คุณลองยิงปืนของคุณออกไปทันทีที่คุณได้รับสัญญาณเอาแค่ 1 นัดก่อนยิงเสร็จแล้วรีบหลับตานะครับ ลองบอกตำแหน่งกระสุนที่ตกว่าอยู่ตำแหน่งไหนของเป้า ถ้าคุณบอกไม่ได้หรือไม่ใกล้เคียงแสดงว่าคุณไม่เห็น ถ้าเห็นลองยิงเป็น 2 นัดไม่ต้องเร็วมากนักแล้วหลับตาลง ขานเป้าว่านัดที่ 1ยิงที่ไหนนัดที่2ยิงที่ไหน ถ้าคุณเห็นจะขานเป้าได้ถูกต้องครับ ถ้าคุณขานผิดแสดงว่าคุณไม่เห็นนะครับ
ผมขอหยุดการทบทวนแค่นี้ก่อนเดี๋ยวคืนนี้จะมาต่อให้อีกครับ



ทีนี้ถ้าคุณไม่เห็นก็ต้องแก้ไขให้เห็นนะครับด้วยการยิงกองดิน
วิธีคือบรรจุกระสุนให้เต็มแม็กกาซีนแล้วยิงใส่กองดินหลักคือมองแต่ศูนย์หน้าอย่างเดียวเพราะไม่มีเป้าให้มอง แล้วกระดิกนิ้วให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้อย่าหยุดครับยิงให้หมดแม็กกาซีนเลย ถ้ามีเพื่อนมาด้วยลองให้เพื่อนมองที่กองดินครับ เพื่อนคุณจะเห็นตำแหน่งกระสุนตกเป็นกลุ่มๆ ส่วนคุณจะเห็นศูนย์ปืนคุณเต้นขึ้นลง นั่นแหละครับที่นักกีฬา IPSC เขาเห็นกัน
เหตุผลที่ให้คุณทำอย่างงั้นเพราะ คนที่ไม่เคยชินเวลายิงปืนอาจจะตกใจเสียงแล้วหยุดยิงเพราะไม่เห็นศูนย์หรือไปมองอย่างอื่น ผมเลยให้ยิงดินเพราะไม่มีสิ่งที่คุณจะมอง บางคนไปมองสไลด์และหรืออื่นๆ ดังนั้นถ้าคุณทำตามคำแนะนำผมรับรองว่าคุณจะเห็นศูนย์เต้นแน่นอนและนั่นคือสิ่งที่คุณต้องการเวลาคุณยิงจริง
หลังจากยิงดินแล้วต่อไปก็มายิงเป้าแทนดินครับด้วยหลักการเดียวกันแต่มีเป้าเข้ามาเกี่ยวครับ บรรจุแม็กกาซีนให้เต็มยืนห่างจากเป้าประมาณ 5-6 เมตรทีนี้อย่ายิงรัวแบบยิงดินครับเปลี่ยนมายิงให้เป็นจังหวะเสียงที่เท่ากัน ปังๆๆๆๆๆ โดยมองศูนย์หน้าอย่างครั้งแรก ถ้าคุณเห็นแบบครั้งแรกก็ใช้ได้เลย ยิงให้จบแม็กแล้วดูเป้า คุณจะเห็นเป้าคุณมีกระสุนอยู่เป็นกลุ่มๆ อาจจะอยู่ตรงการ 3-4 นัด ย้ายไปทางขวา 2-3 นัดและหรือที่อื่นๆแต่จะรวมกันเป็นกระจุก นั่นไม่สำคัญเท่าไหร่ที่สำคัญคือคุณเห็นศูนย์หรือไม่ ถ้าเห็นการทำให้กระสุนมารวมกันจะเป็นของหมูๆแล้วครับ ถ้าไม่เห็นแสดงว่าคุณทำผิดวิธี ผมรับรองว่าทำอย่างที่ผมบอกถูกวิธีคุณ...จะต้อง...เห็นอย่างแน่นอน...ผมยังไม่เคยเจอคนลองแล้วไม่เห็นเลยครับ. ถ้าเป็นอย่างงั้นนัดเจอกันแล้วผมจะทำให้คุณเห็นเอง...ฟรีครับ...   
ผมขอจบที่ตรงนี้ก่อน ขอให้ไปลองๆแล้วมีปัญหาค่อยมาคุยกันใหม่ เพราะช่วงนี้ผมแค่ทบทวนส่วนสำคัญเท่านั้น ช่วงต่อไปจะเป็นวิธีฝึกคุณให้ยิง IPSC แล้วเตรียมตัวครับ...เดี๋ยวจะกลับมาเขียนต่อครับ
บันทึกการเข้า

เร็วเท่าที่เห็น   แม่นเท่าที่จำเป็น 
เคลื่อนไหวเร็วปานสายฟ้า   หยุดให้นิ่มนวลดังแพรไหม      
ใจต้องนิ่งดังขุนเขา   ทำทุกอย่างดั่งสายน้ำไหล
วรกฤษ
ความฝันทำให้มนุษย์พัฒนาไปข้างหน้าเพื่อสร้างฝันให้เป็นจริง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 45
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6503

สูงสุดคืนสู่สามัญ


« ตอบ #11 เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2007, 12:34:07 PM »







ผมสมมุติว่าคุณยืนและกริปปืนได้แล้ว สิ่งแรกที่คนอยากยิง IPSC ควรฝึกหัดคือการดันปืนครับ เพราะการดันปืนเป็นพื้นฐานของหลายๆอย่างครับ ชักปืนจากซอง เปลี่ยนแม็กกาซีน วิ่งเข้าโซนยิงเป้าแรกไม่ว่าคุกเข่หรือนอน สิ่งที่คุณต้องทำคือดันปืนเข้าสู่เป้า เพราะฉนั้นอยากให้ซ้อมการดันปืนครับ
วิธีฝึกหัดการดันปืน
1. ยกปืนให้สูงให้ศูนย์หน้าอยู่ระหว่างตาและเป้าครับ ฝรั่งเรียก High Ready
2. ดันศูนย์หน้าเข้าไปที่เป้าพร้อมกับสไลด์มือขึ้นเล็กน้อย ประคองศูนย์ไปเรื่อยๆจนอยู่ในระยะสุดช่วงยิง(ข้อศอกงอเล็กน้อย) คุณจะสังเกตุเห็นว่ายอดศูนย์หลังจะขึ้นมารับพอดีกับยอดศูนย์หน้าเองโดยคุณไม่ต้องจัดอะไรเลย ในข้อแม้ว่าคุณกริปปืนถูกหลักนะครับ ทุกอย่างจะเป็นไปเองโดยอัตโนมัติคือ ยอดศูนย์หน้าเท่ายอดศูนย์หลังและอยู่กึ่งกลางของศูนย์หลัง(ไม่เป๊ะเหมือนปั้น X นะครับ)
ข้อควรระวังคืออย่ากดศูนย์หน้าลงนะครับ ถ้าคุณกดศูนย์หน้าลงสุดท้ายคุณจะไม่เห็นศูนย์หน้า ใช้วิธีผลักออกไปเรื่อยๆศูนย์หลังจะล็อกขึ้นมาเองครับ
ถ้ามีข้อสงสัยเชิญถามได้นะครับจะได้ทำได้ถูกต้อง

วิธีฝึกซ้อม
เอาเป้ากระดาษหนึ่งใบเริ่มติดที่ระยะ 6 เมตร
ปืนบรรจุลูกขึ้นลำให้พร้อม พอได้รับสัญญาณให้ดันปืนไปที่เป้า พอสุดแขนแล้วให้เหนี่ยวไกดูว่ากระสุนเข้าไปตกที่ตำแหน่งไหน ถ้าทำถูกคุณจะแปลกใจว่ามันเข้าตรงตำแหน่งที่คุณมองเลยละครับ โดยที่คุณก็ไม่ได้ทำอะไรมากมายเลย อย่าลืมครับว่าอย่ากดศูนย์หน้าลง ให้ดันปืนออกไปเฉยๆครับ

ซ้อมขั้นตอนที่1นี้ หมั่นซ้อมแห้งบ่อยๆที่บ้านแล้วคุณจะยิงนัดแรกได้เร็วขึ้นครับ ผมยังไม่ได้ให้บันทึกเวลาเพราะต้องการให้คุณทำให้ถูกเสียก่อนครับ เดี๋ยวให้คนหารูปมาแปะไว้ให้ดูครับจะได้เข้าใจง่ายขึ้นครับ



ผมดึงมาต่อให้นะครับจะได้อ่านต่อเลย.........จะได้อ่านง่าย   
หลังจากที่คุณดันปืนจนคล่องแล้ว การชักปืนจากซองจะง่ายมากครับ สำหรับผมการชักปืนจากซองเพื่อยิงนัดแรกนั้น คือการหยิบปืนจากซองขึ้นมาสู่ท่าดันปืนเพียงแต่เป็นการกระทำต่อเนื่องเท่านั้นครับ เดี๋ยวผมจะหารูปมาให้ดูเป็นตอนๆเพื่อง่ายที่จะเข้าใจแต่ผมจะแนะหลักคร่าวๆก่อนในระหว่างที่ผมจะหารูปมาให้
การชักปืนที่เร็วนั้นหลักแรกคืออย่าเร่งรีบครับ...ไม่ผิดครับอย่าเร่งรีบ....เพียงแต่ทำให้ลื่นไหลอย่าชะงักหรือหยุดสะดุดคุณก็จะชักปืนได้เร็วระดับหนึ่งแล้ว.......คำว่าลื่นไหลคือไม่ใช่เอามือไปจับปืนแล้วหยุดเพื่อกำปืนให้แน่นแล้วค่อยชัก มันควรจะทำงานต่อเนื่องกันคือมือทำงานโดยไม่หยุดเช่นมือยกไปจับปืนแล้วยกขึ้นต่อเนื่องกันโดยไม่หยุดนิ่ง ต้องเคลื่อนไหวต่อเนื่องกันตลอดเวลาครับ
หลักข้อต่อไปคือ มือขวาขยับเมื่อไหร่ มือซ้ายต้องทำงานเมื่อนั้น เพื่อความเข้าใจง่ายลองอย่างงี้ครับ ปล่อยมือทั้ง 2 ข้างๆลำตัว พอได้ยินเสียงสัญญาณให้คุณตบมือให้เร็ว สิ่งที่คุณทำคือยกมือขึ้นทั้ง 2 ข้างพร้อมกันแล้วมาบรรจบกันที่กลางตัวคุณ คุณลองสังเกตุนะครับจะเห็นว่ามือทั้ง 2 ข้างของคุณจะพบกันที่กลางตัวคุณ ไม่เยื้องทั้งซ้ายและขวา คุณจะทำไปโดยไม่รู้ตัวแต่จะเกิดโดยธรรมชาติ นั่นแหละครับคือสิ่งที่คุณต้องทำในการชักปืน อย่าลืมครับมือขวาขยับมือซ้ายก็จะขยับพร้อมกัน
ผมขอหยุดก่อนนะครับมีงานเข้ามาพอดี.......เดี๋ยวผมจะมาเขียนต่อครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 11, 2007, 12:36:31 PM โดย วรกฤษ » บันทึกการเข้า

เร็วเท่าที่เห็น   แม่นเท่าที่จำเป็น 
เคลื่อนไหวเร็วปานสายฟ้า   หยุดให้นิ่มนวลดังแพรไหม      
ใจต้องนิ่งดังขุนเขา   ทำทุกอย่างดั่งสายน้ำไหล
วรกฤษ
ความฝันทำให้มนุษย์พัฒนาไปข้างหน้าเพื่อสร้างฝันให้เป็นจริง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 45
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6503

สูงสุดคืนสู่สามัญ


« ตอบ #12 เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2007, 12:38:11 PM »









ผมอยากให้พิจารณาภาพการชักปืน 2 ชุดนี้ครับ มันมีความแตกต่างกันอยู่เล็กน้อย ผมจะแยกเป็นช่วงนะครับ
ภาพการชักปืนของ Jerry Barnhart นั้นบางท่านบอกเป็นแบบเก่ามันช้าเพราะมัวแต่ยกปืนขึ้นมาแล้วดันปืนออกไปสู้แบบใหม่ไม่ได้ นั่นหมายถึงว่าปฏิบัติแต่ไม่พิจารณาให้ท่องแท้หรือฟังที่พูดไม่หมดหรือไม่เข้าใจครับ(เขียนตรงๆครับ ) 
การชักปืนและดันปืนแบบนี้ข้อดีคือ คุณมีเวลาจัดศูนย์ปืนมากเพราะคุณยกปืนขึ้นมาให้เห็นศูนย์ปืน(ภาพที่2)ทาบลงบนเป้าแล้วดันส่งเข้าไปเมื่อสุดช่วงแขน(ภาพที่3)คุณสามารถลั่นไกได้เลยเพราะคุณจัดแนวศูนย์ปืนคุณไปตลอดทาง แบบนี้การฝึกจะง่ายกว่าและค่อนข้างจะแน่นอนเหมาะสำหรับคนที่เริ่มหัดชักปืนจากซองครับ มีหลักให้ฝึกเพราะเห็นอยู่ตลอดเวลาว่าศูนย์อยู่ในเป้าที่คุณจะยิงเมื่อไหร่ที่คุณทำผิดศูนย์จะหลุดจากเป้าหรือถ้าคุณกดศูนย์หน้าลงโดยไม่ดันปืน สุดช่วงแขนศูนย์หน้าจะหายไป ถ้าทำถูกคุณจะเห็นว่าศูนย์หน้าจะอยู่ในร่องบากของศูนย์หลังพอดี(ในข้อแม้ว่าคุณกริปปืนถูกต้อง)
ข้อเสียคือมันจะใช้เวลาเพิ่มมากขึ้นอีกเล็กน้อยเพราะคุณต้องยกปืนขึ้นมาให้เห็นก่อนจะดันปืนออกไป นี่คือส่วนที่คนเข้าใจ แต่ Jerry บอกต่อไปว่าถ้าคุณจะยิงให้เร็วขึ้นแน่นอนว่าคุณต้องทำการตัดมุมออกไป(ยกปืนขึ้น) โดยการทำมุมโค้งไปด้านหน้าแต่วิธีนี้คุณจะศูนย์เสียโอกาสในการเห็นศูนย์แต่เนิ่นๆ ทำให้การยิงเข้าสู่เป้ามีโอกาสผิดพลาดมากขึ้นครับ จุดนี้แหละที่คนไม่ค่อยจะเข้าใจ
ส่วนภาพต่อมาคือ ผลฝรั่งที่ชื่อ วรกฤษ   ผมให้สังเกตุภาพที่3และ4ก่อน(จากซ้ายมือ) จะสังเกตุเห็นว่าภาพที่3นั้นมือซ้าย(สังเกตุจากนิ้วโป้ง)ของเขาขึ้นมาคอยมือขวาแล้วส่วนภาพที่4มือทั้ง2ประกบกันและกริปปืนจบแล้ว ตรงนี้คือความแตกต่างที่ผมบอกว่าเขาไม่ยกปืนขึ้นเหมือน Jerry เพื่อตัดเวลาลงคือปาดมุมไปข้างหน้า แต่ภาพที่5 เขาจะเริ่มกลับสู่ขั้นตอนของ Jerry คือยกศูนย์ปืนขึ้นมาให้เห็นว่าอยู่ในเป้าและสังเกตุว่าปืนเขาจะอยู่ในสภาพเดียวกับของ Jerry ในภาพที่2เลยคือขนานพื้นและอยู่ในแนวแล้ว ส่วนภาพสุดท้ายคือดันปืนส่งออกไปข้างหน้าซึ่งเป็นภาพจบ
ข้อดีของแบบผลฝรั่งคือเร็วกว่าแบบฝรั่งแท้(ซึ่งเขาบอกไว้แล้วให้ลบมุม)
ข้อเสียคือโอกาสพลาดจะสูงกว่าเพราะช่วงที่คุณจะจัดศูนย์ปืนนั้นสั้นมาก ยกเว้นว่าคุณซ้อมชักและชักเป็นพันเป็นหมื่นครั้ง ผมไม่ได้พูดเล่นครับ ซ้อมชักกันเป็นพันหรือหลายพันจนถึงหมื่นครับ ชักจนกล้ามเนื้อคุณจำได้แต่โอกาสพลาดก็ยังสูงครับหรือไม่คุณก็ต้องเสียเวลาในการจัดศูนย์อีกครั้งที่ข้างหน้า ตอนผมซ้อมชักปืนมากๆจำได้ว่าผมเคยยิง Popper ที่วางไว้ประมาณ10-12 เมตรในเวลา 0.75 วินาทีถัวเฉลี่ยที่ประมาณ 0.85 วินาทีโดนมากกว่า 90% ครับ เดี๋ยวนี้เวลาอยู่ประมาณ 1.05 วินาทีครับซึ่งผมเห็นบางครั้งวรกฤษทำได้ที่ .90เศษ
ขอยืนยันครับว่าที่เขียนทั้งหมดคุณก็สามารถทำได้และนักกีฬา IPSC หลายๆท่านก็ทำได้อยู่ที่ความตั้งใจว่าต้องการแค่ไหน นี่แค่ภาพ 2 ภาพที่ชักไม่เหมือนกันผมก็เขียนได้เป็นคุ้งเป็นแคว จริงๆในภาพยังมีสิ่งที่น่าสังเกตุแต่หัวใจหลักผมเชื่อว่าเขียนหมดแล้วเดี๋ยวจะเบื่อเสียก่อน เดี๋ยวไว้ต่อเรื่องการชักปืนต่อไปนะครับนี่เป็นส่วนเดียวเพราะการชักปืนนั้นมันมีทั้งมือข้างลำตัวและเหนือไหล่ เอาที่ละอย่างแต่ทั้งหลายทั้งปวงหลักการชักปืนคือหยิบปืนออกจากซองมาอยู่ในท่า ดันปืน High Ready ครับ
บันทึกการเข้า

เร็วเท่าที่เห็น   แม่นเท่าที่จำเป็น 
เคลื่อนไหวเร็วปานสายฟ้า   หยุดให้นิ่มนวลดังแพรไหม      
ใจต้องนิ่งดังขุนเขา   ทำทุกอย่างดั่งสายน้ำไหล
วรกฤษ
ความฝันทำให้มนุษย์พัฒนาไปข้างหน้าเพื่อสร้างฝันให้เป็นจริง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 45
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6503

สูงสุดคืนสู่สามัญ


« ตอบ #13 เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2007, 12:40:09 PM »



คำถาม

ดูรูปแล้ว..เอาไปปรับใช้กับรุ่นโอเพ่นได้ไหมครับ


คำตอบ

ใช้ได้ครับแต่ต้องมีการปรับครับ เพราะศูนย์เปิดจะมีจุดอ้างอิงคือศูนย์แต่ด๊อทนั้นต้องใช้วิธีการอื่นในการอ้างอิงครับ...ผมไม่ได้คิดถึงคนยิงโอเพ่นเลยไม่ได้เขียนไว้ เนื่องจากคนที่ยิงโอเพ่นส่วนใหญ่แล้วจะยิงปืนอื่นมาก่อน เดี๋ยวมีโอกาสจะสลับเอาหลักการบางอย่างมาแนะนำให้ครับ



ไหงๆก็มีถามมาเรื่องโอเพ่น..ขอฝากเคล็ดสั้นๆให้นักกีฬาที่ยิงโอเพ่นที่ยังไม่รู้เคล็ดนี้นะครับ
โดยปรกติคุณจะมีซองแม็ก 1 ตัวอยู่ข้างหน้าแถวท้อง พยายามเอาแม็กตัวแรกนี้เป็นตัวกำหนดตำแหน่งในการคาดปืนทุกครั้งเพื่อให้ตำแหน่งปืนและอุปกรณ์อยู่ที่เดิมตลอดเวลาครับ เช่นตัวแรกเราวางตำแหน่งไว้ที่ตะขอกางเกงหรือที่ซิป ทุกครั้งที่เริ่มคาดใหม่ก็เอาไว้ตำแหน่งนี้คุณจะได้ตำแหน่งการชักปืนและตำแหน่งแม็กเหมือนเดิมเสมอครับ
ส่วนProduction หรือ Standard นั้นต้องนับจากกระดูกเชิงกรานก็อาศัยแม็กเหมือนกันครับ ว่าจุดไหนเป็นจุดกำหนดแล้วคาดจากฝั่งแม็กก่อน เพราะซองปืนจะใหญ่ทำให้กำหนดลำบากกว่า อย่านึกว่าขยับไปนิดเดียวนะครับ เพราะนิดเดียวก็มีผลต่อการชักปืนเปลี่ยนแม็กแล้วครับ   
เรื่องชักปืนมือเหนือไหล่เดี๋ยวมีเวลามากหน่อยค่อยเข้ามาเขียนครับ ถ้าเป็นไปได้จะหาแบบรูปเป็นระยะๆไปมาให้ดูครับ
บันทึกการเข้า

เร็วเท่าที่เห็น   แม่นเท่าที่จำเป็น 
เคลื่อนไหวเร็วปานสายฟ้า   หยุดให้นิ่มนวลดังแพรไหม      
ใจต้องนิ่งดังขุนเขา   ทำทุกอย่างดั่งสายน้ำไหล
วรกฤษ
ความฝันทำให้มนุษย์พัฒนาไปข้างหน้าเพื่อสร้างฝันให้เป็นจริง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 45
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6503

สูงสุดคืนสู่สามัญ


« ตอบ #14 เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2007, 12:41:58 PM »

ผมมาแทรกหลักการดันปืนสำหรับปืนโอเพ่นให้ด้วยเลยเพราะเมื่อถามมาอย่างน้อยก็แสดงว่ามีคนสนใจอยู่ครับ





จากรูปนี้ในภาพที่ 2 ถ้าคุณสังเกตุจะเห็นว่าเขาเอาศูนย์หน้ามาเป็นจุดอ้างอิงในการดันปืนเข้าไปหาเป้า ดังนั้นเขาจะต้องยกปืนขึ้นมาสูงหน่อยครับ
สำหรับปืนโอเพ่นที่ใช้ด๊อท จะเห็นว่ากล้องนั้นจะอยู่สูงขึ้นมากพอสมควร ดังนั้นจุดแรกที่ต้องแก้ก็คือแนวปืนที่ยกขึ้นจะต้องต่ำกว่าศูนย์เปิดครับ สิ่งที่เราต้องการหาคือจุดอ้างอิงซึ่งถ้าเป็นกล้องที่มีปุ่มปรับอยู่ข้างบนกล้อง คุณก็อาศัยปุ่มปรับนั้นดันเข้าไปหาเป้าพร้อมทั้งสไลด์มือขึ้นเล็กน้อยเช่นกันครับ คุณจะเห็นว่าจุดแดงภายในกล้องจะพาดจากด้านบนลงล่างทุกๆครั้งครับ สมัยผมหัดยิงใหม่ๆไม่มีใครสอนผมยิงปืนแบบนี้ ผมเคยลองด้วยการดันปืนไปข้างหน้าแล้วยกปืนขึ้นมาหาจุดแดงในกล้อง หลายๆครั้งที่หาไม่เจอและต้องหมุนปืนหาอยู่ตั้งนานเพราะบางครั้งจุดแดงไปอยู่ซ้ายบ้างขวาบ้างสูงไปหรือต่ำไปตลอด ผมเคยพยายามประคองจุดแดงไปที่เป้าเพราะคิดว่าจะเร็วที่ไหนได้ผมเห็นจุดแดงเลื้อยไปมาเป็นงูแถมช้ามากๆเลยสุดแขนแล้วหาจุดแดงไม่เจอต้องมาหมุนหาอีก จนผมเจอวิธีที่ผมบอกจากการดูฝรั่งที่เขาสอน เดี๋ยวนี้เลยง่ายขึ้นและเร็วขึ้นครับ ถ้าลองทำอย่างที่บอกคุณจะเห็นความสม่ำเสมอว่าจุดแดงจะพาดจากบนลงล่างทุกครั้งโดยไม่เอียงซ้ายขวา เพียงแต่คุณต้องกริปปืนให้ดีแล้วมันจะมาอยู่กลางกล้องคุณเสมอครับ ฝึกไม่ยากเลยถ้าเข้าใจเทคนิกของมัน
ทีนี้ถ้าคุณใช้กล้องยอดนิยมในบ้านเราคือ C more คุณสามารถอาศัยปุ่มหมุนปิดเปิดเป็นตัวอ้างอิงเหมือนกันครับ เพียงแต่คุณต้องปรับตำแหน่งความสูงของปืนนิดหน่อยเพราะกล้อง C-more นั้นปุ่มปรับจะอยู่ต่ำกว่ากล้องครับ ลองดูครับว่าที่ผมเขียนมานั้นจะช่วยคุณได้บ้างหรือเปล่า
ข้อควรระวังคืออย่ากดลำกล้องนะครับ ดันปืนพร้อมสไลด์แขนขึ้นเล็กน้อยด้านท้ายปืนก็จะล็อกขึ้นมาเองและวจุดแดงจะพาดลงมาด้วยตัวมันเองครับ
ถ้าลองแล้วได้ผลก็ช่วยบอกด้วย ถ้าไม่ได้ผลไว้นัดเจอกันครับแล้วจะอธิบายและให้คุณแสดงเองเพื่อคุณจะได้ทำได้แล้วนำไปฝึกซ้อมด้วยตนเองครับ
บันทึกการเข้า

เร็วเท่าที่เห็น   แม่นเท่าที่จำเป็น 
เคลื่อนไหวเร็วปานสายฟ้า   หยุดให้นิ่มนวลดังแพรไหม      
ใจต้องนิ่งดังขุนเขา   ทำทุกอย่างดั่งสายน้ำไหล
หน้า: [1] 2 3 4 ... 21
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.229 วินาที กับ 22 คำสั่ง