เพื่อนคอปืน...ด้ามขวาน

[GUNRUNNER]

ท่านPandanus ครับ มีปุจฉาจากท่านR2D2 ไว้ตามนี้ครับ

ชวนท่องไปในเมืองน่ารัก “นบพิตำ” สัมผัสวิถีคนกับป่าที่ “ป่าประ” ผืนใหญ่ที่สุดของไทย

ผมเพิ่งไปมาเมื่ออาทิตย์ที่แล้วนี่เอง มีแต่ภูเขา เขาทำสวนยาง สวนผลไม้,ทุเรียน,เงาะ มังคุด,ลองกอง..ฯลฯ กัน ข้องใจชื่อนบพิตำ ชาวบ้านบอกว่าตั้งมาจากชื่อบ้าน 2 บ้านมาควบรวมกัน คือบ้านนบ(ม.1) + บ้านพิตำ(ม.3) = นบพิตำ นบคือเขื่อนเล็ก ๆ พิตำล่ะคืออะไร ? ไล่เลียงจากฅนท้องที่ได้ความว่า บรรพชนฅนแรกผู้มาหักดงเพื่อตั้งถิ่นฐานนั้นเรียกกันว่าพี่ตำ..พี่ตำ ต่อมาเสียงได้กร่อนกลายเป็น พิตำ (ผมเดาว่าพี่ตำฅนนี้คงจะมีรูปร่าง ต่ำเตี้ยกระมัง เพราะฅนใต้ออกเสียง ตำ = ต่ำ พี่ตำ จึง = พี่ต่ำ = พี่เตี้ยของฅนกรุงเทพฯ นั่นเอง ) 

[Pandanus]

  ตามตำนานเมืองนครศรีธรรมราช ครั้งเมื่อพระยาจันทรภานุเป็นเจ้าเมืองนคร

เกิดไข้ห่าลงผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก บางส่วนหนีออกไปอาศัยตามป่าเขา

พระยาจันทรภานุและครอบครัวอพยพผู้คนหนีไข้ห่าแต่ต่างต้องจบชีวิตหมด

เมืองนครจึงเป็นเมืองร้างมาเป็นเวลานาน ต่อมาพระพนมวัง (บุตรพระพนมทะเล เจ้ากรุงเพชรบุรี) นางสะเดียงทองและเจ้าศรีราชาบุตรชาย

ได้รับโปรดเกล้าให้ออกมาสร้างนครดอนพระ (เมืองนครศรีธรรมราช) ที่ร้างเป็นป่าลง

เมื่อพระพนมวังถึงแก่กรรมสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแห่งกรุงศรีอยุธยาโปรดเกล้าฯ

ให้เจ้าศรีราชาเป็นเจ้าพระยานครศรีธรรมราชและทรงเร่งให้ตั้งบ้านเรือนให้แล้วเสร็จ

สร้างป่าเป็นนาทุกตำบล เจ้าพระยานครศรีธรรมราชให้ผู้คนออกหักป่าเป็นนา ขุดดอนทำนา

และในครั้งนั้นได้ให้นายไส และนายแก้ว (หลานนางสะเดียงทอง) นำผู้คนมาตั้งบ้านอยู่ที่กรุงชิง

บริเวณที่นายไสและนางแก้วมาหักป่าเป็นนาน่าจะเป็นพื้นที่อ่าวกรุงชิงด้วยเป็นที่ราบระหว่างภูเขา

มีคลองกลายเป็นสายน้ำใหญ่และคลองจากน้ำตกหลายสาย

ประกอบกับเรามีความรู้เรื่องการทดน้ำและการชลประทานเป็นอย่างดีจากอารยธรรมด้านการเกษตรกรรมจากอินเดีย

จึงคงจะสร้างทำนบกักเก็บน้ำในพื้นที่ต่ำ (ทำนบที่ต่ำ)

การเรียกชื่อทำนบอาจไม่มีมักเรียกตามสภาพของสถานที่

คือ ทำนบที่ต่ำแล้วต่อมากร่อนและเพี้ยนเสียงเป็น “นบพิตำ”

[Pandanus]

ความหมายและที่มาของชื่อตำบลนบพิตำ ตามคติชาวบ้าน

จากหนังสือวารสารนครศรีธรรมราช ปีที่ 25 ฉบับที่ 8 สิงหาคม 2538

นายลับ รักษ์สุวรรณและนายเพชร แก้วมี กล่าวว่าประมาณ 150 – 200 ปี

ชาวฉวางประมาณ 5 ครอบครัว อพยพหนีไข้และค่าหัว 4 บาท

เข้ามายู่ในบริเวณกรุงชิงเป็นกลุ่มแรก มีผู้อาวุโสซึ่งเป็นที่นับถือของทุกคน

ชื่อว่า นายตำ บุคคลทั่วไปต่างก็เรียกว่า “พี่ตำ” ถ้าใครไปแถวนั้นก็จะถามหาบ้านของพี่ตำเสมอ

แม้ท่านจะเสียชีวิตไปแล้ว ทุกคนจะเรียกว่า บ้านพี่ตำ ต่อมากร่อนเสียงและเพี้ยนเสียงเป็น บ้านพิตำ

พื้นที่บริเวณใกล้เคียงบ้านพิตำคือบ้านนบเช่นบ้านพี่เรือนน้อง

ผู้คนเดินทางมาตามลำน้ำกลายผ่านเขาเคี่ยมเข้าปากกลายก็จะถึงบ้านนบและบ้านพิตำ

จึงเรียกร่วมกันว่า ไปบ้านนบพิตำหรือนบพิตำ หมายถึงละแวกบ้านนบและบ้านพิตำ

[Pandanus]

อีกนัยหนึ่ง พื้นที่ของนบพิตำมีความอุดมสมบูรณ์ด้วยพืชพันธ์ธัญญาหาร แร่ธาตุป่าไม้

และมีเนื้อที่กว้างใหญ่น้ำท่าอุดมสมบูรณ์ มีน้ำตกและธรรมชาติสวยงาม

ชุมชนที่มีชื่อเสียงโดดเด่นและเป็นที่รู้จักกันโดยทั่ว คือ บ้านนบและบ้านพิตำ

และเมื่อตั้งชื่อเรียกตำบลจึงใช้ชื่อบ้านทั้งสองเป็นชื่อหมู่บ้านและตำบล

ตำบลนบพิตำในอดีตเป็นชุมชนโบราณที่มีการกล่าวถึงในตำนานเมืองนคร

และมีหลักฐานโบราณคดีที่ค้นพบหลายชิ้น มีโบราณสถานและโบราณวัตถุ

ที่แสดงให้เห็นในเรื่องของศาสนาพราหมณ์ ศาสนาพุทธ ศาสนาขงจื๊อ และความเชื่อในเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์

รวมถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่และศิลปวัฒนธรรม บอกให้รู้ว่าผู้คนล้วนเป็นชาวไทยที่นับถือศาสนาพุทธ

และมีบางส่วนเป็นคนไทยเชื้อสายจีน ส่วนชาวไทยมุสลิมไม่มีปรากฏ

อนึ่งช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง บริษัท ยิบอินซอย ได้รับสัมปทานการทำเหมืองแร่ดีบุก

ในตำบลนบพิตำต่อจาก บริษัทฝรั่งชนชาติยุโรปโดยตั้งกงสีที่บ้านโรงเหล็ก

มีคนงานและลูกจ้างเป็นคนจีนซึ่งใช้ภาษาจีนล้วนในการติดต่อสื่อสาร

และเมื่อหมดสัมปทานคนจีนเหล่านั้นก็กลับเกือบหมด

ต่อมานายเยื้อน พัวบัณฑิตกุล คหบดีชาวท่าศาลาได้รับสัมปทานการทำเหมืองแร่ต่อ

ยังมีคนจีนประปรายแต่ใช้ทั้งภาษาไทยและภาษาจีนในการติดต่อสื่อสาร

          ปัจจุบัน ตำบลนบพิตำเป็นพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ ด้วยทรัพยากรธรรมชาติมากมีดินดีน้ำอุดมและธรรมชาติที่งดงาม

แหล่งน้ำที่เป็นทั้งอำนวยการเกษตรแล้ว ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่งดงามอีกด้วย

จึงดึงดูดให้คนในท้องถิ่นอื่นมาจับจองชื้อสร้างที่ดินเพื่ออยู่อาศัยและประกอบอาชีพ

[Pandanus]

เครดิต... :  https://www.noppitam.go.th/history.php

[Pandanus]

เรื่องเก่าเอามาเล่าใหม่ เหตุการผ่านมาเกือบสิบปี

แต่หวนคิดถึงเรื่องนี้ทุกที ก็ชวนให้คิด

พฤติกรรมสะท้อนความคิด ความคิดสะท้อนตัวตน

[Pandanus]

เริ่มเรื่องแนะนำตัวละคอน หลัก ๆ มี 3 ตัว

นอกนั้นเป็นตัวรอง..

แม่ , ลูกสาว , แฟนเก่าลูกสาว

แม่ ชื่อแป้น สมัยสาว ๆ ติดขั้นสวย เป็นญาติกับผม

แป้น เติบโตมาแบบลำบาก แต่งงาน(อันที่จริงหนีตาม)ได้สามีขยัน เลยพอเชิดหน้าในสังคมได้บ้าง

มีสูกสาว 2 คน น้องเปิ้ลกะน้องปู้ หน้าตาดีทั้งคู่

[Pandanus]

ลูกสาว มีสองคน ในที่นี้จะพูดถึงลูกคนน้อง

ส่วนคนพี่ น้องเปิ้ล แต่งงานไปแล้ว กะหนุ่มบ้านไกล

ประกอบอาชีพรับซื้อขี้ยาง ฐานะยกระดับขึ้นเรื่อย ๆ

วันที่น้องเปิ้ลแต่งงาน หนุ่ม ๆ แทงกันใส้ทะลักไป 2 ราย

น้องเปิ้ลทุกวันนี้ เป็นครูอนุบาล บรรจุใน อปท. เป็นข้าราชการไปแล้ว

[Pandanus]

น้องปู้ ณ ตอนนั้น อายุ 16 - 17 ปี

สวยสะคราญ รักสนุกรักสำราญ นิยมความรื่นเริง

มีแฟนมีหนุ่ม ๆ หลายคน มาคอยเฝ้าเอาใจ อาสาดูแล

ข้างแม่ก็ไม่ได้ขัดใจ ใครมาต้อนรับหมด

มีหลัก ๆ ที่ดูเข้าตา คือ ไอ้พี...

มันเป็นญาติผม เป็นลูกกำนัน เป็นคนมีฐานะ

แต่ตัวมันไม่ค่อยเอาอ่าว ไม่ค่อยเข้าท่า

[Pandanus]

ไอ้พี อายุยี่สิบกว่าแล้ว แต่ไม่ทำงานเป็นชิ้นเป็นอัน หิ้วกรงนกไปนั่งโน่นบ้างนี่บ้าง

เสาะหาแต่คนว่างงานมาคบหา เพราะคนทำงานเขาไม่ว่างมาคบ

ที่บ้านของลุงกำนันแกมีรถหลายคัน มีแลนด์โรเวอร์รุ่นคลาสสิคอย่าง ดีเฟนเดอร์

มีมิตซูปาเจโร  มีโตโยต้าไทเกอร์โฟร์วีลสี่ประตู  มีรถเก๋งเซฟิโร่ของป้าแดงแม่ไอ้พี

แต่ไอ้พี ขับรถโตโยต้า โคโรน่า 2.0 รุ่นก่อนตัวสุดท้าย

หรือที่รู้จักกันในชื่อ โตโยท้ายโด่ง

[Pandanus]

ไอ้พี เทียวไล้เทียวขื่อน้องปู้อยู่หลายปี

พยายามจะให้ผู้ใหญ่มาสู่ขอ ฝั่งผู้ใหญ่ก็รั้งรอไม่ยอมมา

อย่างแรกเพราะไอ้พีไม่เป็นโล้เป็นพาย

อีกอย่างเพราะความต่างศักดิ์ห่างชั้นทางสังคม ทางเศรษฐกิจกันเกินไปของสองฝ่าย

นั่นคือทางฝ่ายชาย

ส่วนทางฝ่ายหญิง ยังไม่อยากแต่งงาน เพราะเสียดายชีวิตวัยรุ่น

เสียดายความป๊อบ ความฮ็อตของตัวเอง

ว่ากันตามที่จริง ตัวเองก็ไม่ได้รักชอบไอ้พีมากมายนัก

เพียงเพราะฐานะทางบ้านมันดี แต่ตัวมันเองไม่ค่อยได้ความ ไม่ถูกใจไม่เข้าตาสาวหลายเรื่อง

จีบสาวก็คุ่ย ๆ เท่อ ๆ เอาใจไม่เป็น หน้าตาก็....  ก็มีส่วนอยู่เยอะหละ

เพราะถ้าหน้าตาดี ต่อให้ห่วยเห่ยขนาดไหนมันก็ดูดีหมด

[Pandanus]

ตัวละคอนรองอีกตัว ไอ้ตะวัน....

ไอ้ตะวันมันเป็นลูกครึ่ง คริ่งวารินชำราบครึ่งนบพิตำ...

พ่อมันขับสิบล้อ ไปทั่วก็ไปหยอดไว้ทุกที่

พี่น้องของมันสามคนก็เลยมีทั้ง พะเยาพี่มัน อุบลก็คือมัน และน้องมันเป็นคนระยอง

ไอ้ตะวันโตมาแบบไหนไม่รู้ แต่มันต้องตาสาว ๆ สายปาร์ตี้มาก

ไอ้ตะวันลุคแบดบอย มีเพื่อนทุกที่ และมีโจทย์ทุกที่เช่นกัน

อายุราว 19 - 20 (ตอนนั้น)  ขับรถเครื่องแต่งซิ่ง แบบว่า ขับไปทางไหน พ่อแม่มันก็จะถูกกล่าวถึง

[Pandanus]

สองสามปีที่ไอ้พี่เทียวไปเทียวมากับน้องปู้ไม่เคยไปได้ถึงไหน

แต่ไม่กี่วันที่ไอ้ตะวันมาจีบ น้องปู้ก็ปลิวติดมือไอ้ตะวันไป

แล้วไปกกไปซุ่มได้กันที่ไหนก็ไม่รู้ 

จนน้องปู้ท้อง   หมดทางไปก็เลยกลับมาบ้านกัน

บ้านใคร .. ?   บ้านน้องปู้ไง บ้านไอ้ตะวันมีก็เหมือนไม่มี เพราะมันเช่าอยู่ในตลาด

นาน ๆ พ่อมันจะแวะมาดูที เอาเงินมาให้บ้าง

ไอ้ตะวันก็ต้องเอาตัวรอด เดินโพยบอล เดินยา ไปตามเรื่องตามราว

[Pandanus]

กลับมาบ้าน แทนที่ไอ้ตะวันจะถูกแฉ่งกระบาล ค่าที่พาลูกรักของเขาไปจนเสียผู้เสียคน



พ่อแม่มัน ซึ่งพักหลังพอจะมีฐานะขึ้นมาบ้าง

กลับรับขวัญด้วย อีซูสุ ดีแมกซ์ ไฮแลนเดอร์ แค็ป สีบรอนด์เงิน ป้ายแดง

เพื่อให้ลูกกับลูกเขยได้ทำมาหากินตามที่เสนอโครงการ

ว่าจะรับผ้าและรองเท้ามือสองมาขายตามตลาดเปิดท้าย

[Pandanus]

ซึ่งจนแล้วจนรอด ก็ไม่ได้เอาไปขายตลาดไหนได้สักกี่วัน

เพราะอาชีพสุจริต มันเหนื่อย....

ไม่เหมือนเดินโพยเดินยา แป๊บ ๆ ได้แล้วสองสามพัน

และ ไอ้ตะวันเอง มีโจทย์อยู่ทั่วบ้านทั่วเมือง  เจอโจทย์สักที เก็บข้าวของหนีไม่ทัน

ส่วนสาวเจ้าหรือ ถึงจะท้องจะไส้ ก็ยังรักเที่ยวรักบันเทิง มากกว่าจะมาเฝ้าแผงผ้าในตลาด

ก็เลย  แปลงแผนเป็น เอาผ้ามาไว้ที่บ้าน แล้วขายเฉพาะคนตั้งใจมาซื้อจริง ๆ


ซึ่งเอาเข้าจริง ใครมันจะมา