๏ฟฝ๏ฟฝ็บบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝสน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาปืน
มีนาคม 29, 2024, 08:05:06 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2 3 4 5
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: Mr.Been ตอน..พักร้อนไปเที่ยวเขมร  (อ่าน 27287 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Been
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: เมษายน 09, 2007, 06:06:22 PM »

       Grin   6-8 APR 2007

       
     

                           

              วันที่ 6 เมษายน  ออกเดินทางจากด่านอรัญประเทศ ไป จ.เสียมราฐ โดยรถบัสปรับอากาศ  สภาพถนน
               ลาดยาง"หมด"ตลาดสาย ประมาณ 150 กม.

                       

                           

                                                           ไกด์ นำเที่ยวชาวเขมร

                           



                                                    แวะเที่ยว โตนเลสาบ น้ำใสดี Grin

                           

                           

                 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 10, 2007, 02:32:27 PM โดย Been » บันทึกการเข้า
Been
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1 เมื่อ: เมษายน 09, 2007, 06:18:25 PM »


                                 
 
                                            ไม่รู้พาไปดูอะไร น้ำขุ่นๆกับสลัมกลางน้ำ Huh

                                 
                                โรงแรม วันที่ไป ฮุนเซ็นแวะมากินข้าว พอดี  เอา ฮ.มาลงหน้าโรงแรมเลย Huh ตกใจ


               
บันทึกการเข้า
Been
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #2 เมื่อ: เมษายน 09, 2007, 06:36:02 PM »

               ไม่รู้เป็นอะไร นอนไม่หลับทั้งคืน มึนหัวไปหมด  ตอนเช้าวันที่ 7 ออกไปเที่ยวก็ยังมึน Huh Grin

                 
                   ชมปราสาท "บันเตียเสรย" หรือ "บันทายสรี "ภาษาเขมรแปลว่าป้อมแห่งสตรี
                   ก่อสร้างด้วยหินทราย สีชมพู
                 
                    โคปุระ(หน้าบัน)แกะสลักเป็นรูปแกะสลักนูนต่ำ เป็นรูปพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ

                 
                 
                 
                                              ลวดลายแกะสลักอื่นๆ  ตกใจ
                 
                           
               

 


               
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 09, 2007, 08:57:03 PM โดย Been » บันทึกการเข้า
Been
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #3 เมื่อ: เมษายน 09, 2007, 06:44:03 PM »

                                   


                                   

                                          มุมสวยๆ (แต่ผมถ่ายไม่สวย Grin





   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 09, 2007, 08:56:32 PM โดย Been » บันทึกการเข้า
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #4 เมื่อ: เมษายน 09, 2007, 08:21:26 PM »

ศิลปเขมรดูแล้วยังคงความลึกลับดังโบราณว่าไว้จริงๆ ผมยังไม่เคยไปเลย

ท่าน Been เพิ่มรูปและคำอธิบายมากๆหน่อยครับ น่าสนใจ
บันทึกการเข้า

                
Dexphet
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 37
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1374



« ตอบ #5 เมื่อ: เมษายน 09, 2007, 08:22:36 PM »

ขอบคุณท่านบีนครับ ว่าแต่มีรูปตลาดมั๊ยครับ ผมอยากไปเที่ยวตลาดเขมร  Grin Grin
บันทึกการเข้า
Been
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #6 เมื่อ: เมษายน 09, 2007, 08:25:21 PM »

              "ปราสาทตาพรม " ศาสนสถานที่สร้างเพื่อถวาย เป็นราชกุศลแด่พระมารดา ของพระเจ้าชัยวรมันที่7
              รวบรวมปราสาทไว้ถึง 24 หลัง แต่ปัจจุบันชำรุดเสียหาย เนื่องจากมีต้น สะปงยักษ์ ขึ้นอยู่บนตังปราสาท  
              อยู่ระหว่างการซ่อมแซมบางส่วน Grin


                               

                                   

                                   
                                   
                                   


             
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 09, 2007, 08:31:20 PM โดย Been » บันทึกการเข้า
FUFUFUFU
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #7 เมื่อ: เมษายน 09, 2007, 08:39:56 PM »

     ขอบคุณครับ ที่นำรูปสวยๆมาให้ชมครับ
บันทึกการเข้า
หินเหล็กไฟ
ถึงตายไปก็ช่างมัน...ขอให้ชีวิตยังอยู่ก็พอ..
Hero Member
*****

คะแนน 1319
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12900



« ตอบ #8 เมื่อ: เมษายน 09, 2007, 08:41:21 PM »

สลัมกลางน้ำเขาขายปลาราคาถูกใหมครับ Grin
บันทึกการเข้า

[img]http://i7.tinypic.com/333hiqw.jpg[/img
Been
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #9 เมื่อ: เมษายน 09, 2007, 08:42:42 PM »

              นางอัปสร หลงรัก   
             
             สังเกตุภาพนี้ แฟชั่นนุ่งสันๆมีมาเป็น 1000 ปีแล้ว Grin
             
              นางอัปสรนมดำ  ตกใจ
             

              สาเหตุ
             
              คิดดูเอาเอง ขนาดเป็นหิน สภาพยังโดนซะขนาดนี้ Grin
                           
บันทึกการเข้า
Been
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #10 เมื่อ: เมษายน 09, 2007, 08:47:56 PM »

สลัมกลางน้ำเขาขายปลาราคาถูกใหมครับ Grin

                 ปลาเนื้อออ่น (ปลาเซือม) ขายราคาถูกมาก ผมถามบอกว่ากิโลละ 10 บาท  น้ำลายหก
                 ที่โรงแรม มีอยู่ในรายการอาหารทุกมื้อ น้ำลายหก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 09, 2007, 08:58:00 PM โดย Been » บันทึกการเข้า
Audy452 ♥ รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1180
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 14952



« ตอบ #11 เมื่อ: เมษายน 09, 2007, 08:53:21 PM »

มีนางอัปสรเดินได้บ้างมั๊ยครับคุณบีน Grin Grin
บันทึกการเข้า

Been
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #12 เมื่อ: เมษายน 09, 2007, 08:55:47 PM »

                นางอัปสร ตนซ้าย  มีลิ้นเป็นสองแฉก ไม่รู้ว่าคนแกะสลัก แฝงความหมายอะไรไว้
               


                นางซ้ายมือรูปนี้ก็ไม่รู้สื่ออะไร  Grin แต่ผมรู้ หลงรัก
                   



              ข้อความโดย: Audy452 
              มีนางอัปสรเดินได้บ้างมั๊ยครับคุณบีน  Grin
                                 
              2 นางนี้เดินได้ครับ แต่เห็นแล้วอยากอุ้มมากๆ น้ำลายหก หลงรัก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 09, 2007, 09:00:08 PM โดย Been » บันทึกการเข้า
visa
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #13 เมื่อ: เมษายน 09, 2007, 09:11:32 PM »

พี่ บีน ครับ มีอาหารป่าขายหรือเปล่าครับ
บันทึกการเข้า
harusame
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #14 เมื่อ: เมษายน 09, 2007, 09:18:18 PM »

ขอบคุณค่ะที่นำภาพมาให้ชม

ยังไม่เคยไปเลย ....... ได้แต่ไปชมปราสาทหินของบ้านเรา ชอบงานแกะสลักศิลปะขอมมากค่ะ

พูดถึงนางอัปสรแล้วนึกถึงที่อาจารย์ประวัติศาสตร์ศิลปะบรรยายขึ้นมาได้ ท่านว่า นางอัปสร ที่แท้คือ นางบำเรอ บนสวรรค์  มีที่มาจากการกวนเกษียณสมุทร เมื่อคราวที่เทวดากับอสูร ที่มักสู้รบกันอยู่เสมอ ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ เทวดาอยากเอาชนะพวกอสูรอย่างเด็ดขาดจึงไปปรึกษาพระนารายณ์ พระนารายณ์จึงให้เทวดาไปหย่าศึกกับอสูร โดยการชวนกันไปกวนน้ำอมฤต จะได้น้ำอมฤตมาดื่มเพื่อเป็นอมตะ อสูรก็ยอมหย่าศึกกับเทวดา แล้วมากวนน้ำอมฤต โดยการนำเอาเขามันทระ ซึ่งเป็นยอดของเขาพระสุเมรุ มาเป็นไม้กวน เป็นแท่งตรงกลางในแนวดิ่ง เอาพญานาควาสุกีมาพันรอบ เทวดาให้พวกอสูรไปยุดอยู่ทางหัวพญานาค ส่วนเทวดายุดทางหางพญานาค ดังนั้นเมื่อพญานาควาสุกีพ่นพิษออกมา อสูรก็เพลียไปตาม ๆ กัน ปรากฏว่า สองฝ่ายก็ดึงกันใหญ่ ก็ไม่เคลื่อนเสียที พิเภกจึงเอานิ้วไปจี้ที่สะดือพญานาค พญานาคก็สะดุ้งขึ้นมา จึงชักคะเย่อกันได้ ชักคะเย่ออยู่เป็นเวลาประมาณพันปี เขามันทระปั่นเป็นลูกข่างจนทะลุโลกลงไป พระนารายณ์ก็แปลงกายเป็นเต่า โดยเอากระดองเต่ารองรับเขามันทระ เพื่อไม่ให้ทะลุโลก จึงเรียกว่า “กูรมาวตาร” ในระหว่างการกวนเกษียรสมุทรได้ของต่าง ๆ มากมาย เช่น ช้างเอราวัณ พระอินทร์นำไปเป็นพาหนะ ม้า พระพายนำไปเป็นพาหนะ พระลักษมี พระนารายณ์นำไปเป็นชายา ต่อมามีนางอัปสร ๖๐ ตน เป็นนางบำเรอเหาะอยู่บนท้องฟ้า สุดท้ายมีบุคคลคือ แพทย์ธันวันตรี  แบกหม้อน้ำอมฤตขึ้นมา ปรากฏว่าเมื่ออสูรเห็นน้ำอมฤตก็วิ่งกรูเข้ามาแย่งดื่มน้ำอมฤต พวกเทวดาวิ่งสู้อสูรไม่ได้ จึงไปปรึกษาพระนารายณ์ พระนารายณ์จึงแปลงกายเป็นนางฟ้าบินล่ออสูรไป เมื่ออสูรตามนางฟ้าไป เทวดาจึงมารุมดื่มน้ำอมฤต แต่มีอสูรตนหนึ่ง คือ พระราหู ไม่สนใจนางฟ้า มาดื่มน้ำอมฤตอยู่ พระนารายณ์เห็นเข้าก็กริ้ว เอาจักรที่ถืออยู่นั้นขว้างมาที่ตัวพระราหู ขณะนั้นพระราหูดื่มน้ำอมฤตเข้าไปครึ่งตัวแล้ว พอจักรหมุนมาถึงพระราหู ก็ตัดพระราหูขาดไปครึ่งตัว พระราหูจึงมีครึ่งตัวตั้งแต่บัดนั้น ด้วยเหตุนั้นเทวดาจึงได้เป็นใหญ่ในสวรรค์
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 3 4 5
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.109 วินาที กับ 22 คำสั่ง