๏ฟฝ๏ฟฝ็บบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝสน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาปืน
มีนาคม 28, 2024, 08:44:51 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: อวป. มีจำหน่ายที่ สนามยิงปืนราชนาวี/สนามยิงปืนบางบัวทอง/สนามยิงปืนศรภ./
/สนามยิงปืนทอ./
สิงห์ทองไฟร์อาร์ม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 13 14 15 [16]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ว่าด้วยเรือดำน้ำ  (อ่าน 41823 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ค..ควาย...ใส่ชฎา
Hero Member
*****

คะแนน -15861
ออฟไลน์

กระทู้: 13583


No justice No peace


« ตอบ #225 เมื่อ: พฤษภาคม 17, 2017, 08:46:17 AM »



55555   แบงค์ชาติ  คะ   "  สลิ่ม  กัด วรนุช  "  แล้วค่ะ ฮา 5555 ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก


https://www.matichon.co.th/news/558735


เรือดำน้ำกับเครื่องบินขับไล่ F18 : โดย สมหมาย ภาษี

ช่วงนี้ข่าวเรื่องการจัดซื้อเรือดำน้ำลำแรกของไทยกับจีน ซึ่งเป็นการซื้อรัฐต่อรัฐ ยังเป็นข่าวที่ร้อนมากอยู่
ทั้งๆ ที่มีข่าวว่าได้มีการลงนามกันแล้วที่ปักกิ่ง ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคมที่ผ่านมา
ก็ไม่วายที่ยังมีผู้สนใจวิจารณ์เรื่องนี้อย่างต่อเนื่องมากมาย

ถ้าจะถามว่า ทำไมผู้คนจึงพูดถึงเรื่องนี้กันมาก ก็พอจะเดาได้ว่า
ประการแรก คนเขาไม่เชื่อว่ารายการนี้มีการซื้อกันอย่างตรงไปตรงมา
การอ้างว่าการซื้อระหว่างรัฐบาลต่อรัฐบาล (โดยการเซ็นสัญญาฝ่ายจีนเป็นบริษัทผลิตเรือ) นั้น ไม่มีอะไรในกอไผ่
เรื่องการซื้อการขายจากจีน จากยูเครน หรือแม้กระทั่งจากเกาหลีใต้

ผู้รู้เรื่องในระดับสากล ไม่มีใครเขาเชื่อว่าจะไม่มีเรื่องนอกในกันเพราะประเทศเหล่านี้ยังไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานการซื้อขายที่ถูกต้อง
ที่สถาบันใหญ่ๆ เช่น ธนาคารโลก หรือธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) เขาวางไว้
ประเทศที่ทำการซื้อขายปฏิบัติตามองค์การระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด ก็มีประเทศที่พัฒนาแล้วทั้งหลาย
เช่น สหรัฐอเมริกา เยอรมนี อังกฤษ ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น เป็นต้น แต่นั่นแหละการซื้อขายตามหลักเกณฑ์นี้
การจัดรายการพิเศษทำไม่ได้ครับ

ประการที่สอง ที่คนและสื่อหลายฉบับเขาไม่เชื่อ คือความสามารถที่เรือดำน้ำหนึ่งลำหรือสองลำ
จะสามารถป้องกันรักษาความมั่นคงของประเทศที่คนไทยทุกคนเป็นห่วงได้อย่างที่คุย
ภัยเข้ามาทางอ่าวไทย เรือดำน้ำของเราดำไปสกัด แม้ท้องเรือไม่ลากไปกับโคลนและสิ่งโสโครกใต้ทะเล
หัวของเรือก็คงผลุบๆ โผล่ๆ และถ้าภัยรุกรานมาทางด้านทะเลอันดามัน เรือดำน้ำก็ต้องดำอ้อมแหลมผ่านไปทางสิงคโปร์
ซึ่งสิงคโปร์รู้เข้าเขาก็ต้องหาว่าเรากำลังไประรานเขา เรื่องนี้ไม่อยากมีจินตนาการให้ฟุ้งซ่าน
ปกติตามทฤษฎีเรือดำน้ำนั้นเขามีไว้รุกราน ไม่ใช่ไว้ป้องกันประเทศ

เรื่องที่สื่อต่างๆ ไม่พูดถึงในเรื่องเรือดำน้ำที่เราได้ตกลงซื้อจากจีนนี้ก็คือเรื่องค่าบำรุงรักษา
ซึ่งไม่มีใครเคยทราบตัวเลขว่าแต่ละปีมากมายก่ายกองแค่ไหน เพราะเรื่องนี้ต้องถูกผูกขาดโดยผู้ขายแต่ผู้เดียว
กินกันยาวตลอดอายุการใช้งานของเรือดำน้ำ ไม่ทราบว่างบของกองทัพเรือจัดไว้หรือไม่
จะมีการผ่อนค่าบำรุงรักษาจากงบประมาณเป็นปีๆ หรือจะมีการกู้เงินมาจ่ายเขา แผนเป็นอย่างไรไม่มีใคร
ทราบ

หากพูดถึงความจำเป็นเร่งด่วน ผู้ที่ต้องการซื้อที่อ้างถึงคือกองทัพเรือ เขาก็จะต้องบอกว่าจำเป็นเร่งด่วนนะสิ
เพราะมีการขอซื้อมาเรื่อย นานถึงกว่าสิบปีแล้ว ก็ให้สงสัยว่าเร่งด่วนทำไมรอกันได้นับสิบปี
และช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมา เรื่องความมั่นคงทางทหารดีเลวอย่างไรก็รู้ๆ กันอยู่
กลุ่มอาเซียนตอนนี้รวมตัวกันหนาแน่นมาก ไม่ต้องมาบุกรุกอะไรกันอีก ชาติไหนคิดจะใช้อาวุธ
ถ้าไม่ใช่มหาอำนาจใครก็ว่าเป็นหมาบ้าทั้งนั้น แล้วจะเอาเงินงบประมาณที่ชักหน้าไม่ถึงหลังอยู่แล้วไปใช้ทำไม
เรื่องงบประมาณของชาติทุกวันนี้ มักกระเบียดกระเสียรสิ้นดี ประเทศเราอยู่ในภาวะที่ต้องกู้เงินมาใช้หนี้เดิมอยู่ทุกปี
มีใครทราบบ้างไหมครับ ไว้ว่างๆ โอกาสหน้าจะจาระไนให้ฟัง

พูดมาเสียนาน ยังไม่ได้เล่าเรื่องเครื่องบินขับไล่ F-18 ที่ประเทศไทยเคยสั่งซื้อหนึ่งฝูงจากประเทศสหรัฐอเมริกา
เป็นครั้งแรกช่วงปี 2537-38 โดยรัฐบาลชุดไหนไม่ทราบ แต่ก่อนเป็นเรื่องลับมากสำหรับประชาชนผู้เสียภาษี
ไม่เหมือนการสั่งซื้อเรือดำน้ำในสมัยนี้ คนไทยรุ่นนี้ยังคงจำได้ดีถึงความวิปโยคทางเศรษฐกิจของประเทศไทย
เมื่อ 20 ปีที่แล้วในปี 2540 หรือที่เรียกว่า “วิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง” ไงล่ะครับ พอเกิดวิกฤตก็เป็นที่รู้กันว่าประเทศไทยถังแตก
เงินทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศ เมื่อหักหนี้สินที่เป็นเงินตราต่างประเทศทั้งภาครัฐและเอกชน แทบไม่มีเหลือ
ภาวะหมดตัวด้านการเงินของไทยก็เกิดขึ้น ตอนนั้นประเทศไทยได้สั่งซื้อ F-18 ไปแล้ว วางเงินมัดจำไปแล้ว
ของกำลังผลิตอยู่ เสร็จเมื่อไหร่เราไม่มีเงินจ่ายแน่ ครั้นจะกู้เงินจากอเมริกาหรือจากใครมาจ่ายเขาก็ไม่ให้กู้หรอก

ความทุกข์ยากที่ตกอยู่กับประเทศในสมัยนั้น อยู่ในช่วงที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล มีท่านชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี
ท่านถึงต้องส่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังไปเจรจากับท่านประธานาธิบดีคลินตันของสหรัฐ
เพื่อขอยกเลิกการสั่งซื้อเครื่องบิน F-18 ทั้งฝูงของไทย ทางฝ่ายสหรัฐอเมริกาก็ใจดีเหลือหลาย
บอกว่าเห็นใจเลิกก็เลิก เพราะฝูงบินที่กำลังผลิตให้ไทยนั้นขายให้ประเทศอื่นที่เพิ่งสั่งซื้อได้
แต่เงินมัดจำที่จ่ายมาแล้วนั้นห้ามเอาคืน ขอให้ใช้เงินนั้นซื้ออาวุธอื่นไป

นี่คือประวัติศาสตร์ที่สำคัญที่เกิดขึ้นเมื่อ 20 ปีที่แล้ว แต่อย่าหวังว่าการซื้อเรือดำน้ำจากจีนเที่ยวนี้จะขอยกเลิกกับจีนได้
เพราะถ้าเขาลงมือผลิตให้ไทยแล้ว ถ้าเราไม่เอาจะไปขายให้ชาติอื่นคงยาก

โดย สมหมาย ภาษี
บันทึกการเข้า

หัว...ฆรวย

หัวโขนมิวางออก              เจ้าหลงครอบไปทุกที่
อ่าองค์ว่าโสภี                  นฤดีปริ่มเปรมใจ
ลืมไปว่าที่ครอบ                ต้องวางออกนหทัย
สวมครอบตัวตนไว้             ก็แค่ควายใส่ชฎา
Yut64
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 7670
ออฟไลน์

กระทู้: 10057



« ตอบ #226 เมื่อ: พฤษภาคม 17, 2017, 10:50:17 AM »

โครงการ F-18 แต่ได้ F-16ADF พร้อม AIM-120 ฝูงนึงไง เอาอะไหล่แลกมาได้ 1/3 ฝูง เงินมัดจำได้อีก 1/3 ฝูง เงินโครงการ F-16 สองฝูงก่อนที่เหลือ จ่ายไปได้ครบฝูง 16 + 2 ลำ (ตกไปสอง) อีกสองปีเตรียมปลดแล้ว ยังไม่แว่วว่าจะเอาอะไรมาแทนให้ครบอัตรา บข. 5 ฝูง

ถ้าเกิดขึ้นกับเรือจีนเอายังไงดี
บันทึกการเข้า
surachai
Jr. Member
**

คะแนน 5
ออฟไลน์

กระทู้: 35


« ตอบ #227 เมื่อ: มิถุนายน 14, 2017, 04:39:38 PM »


     ขอบคุณครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 15, 2017, 03:52:52 PM โดย surachai » บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 13 14 15 [16]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.141 วินาที กับ 22 คำสั่ง