๏ฟฝ๏ฟฝ็บบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝสน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาปืน
เมษายน 28, 2024, 06:19:47 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 7 ... 37
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: Gorget เกราะสมัยไอเวนโฮ ที่กลับมาในศตวรรษที่ 22  (อ่าน 82208 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
tao bangkhaen
Hero Member
*****

คะแนน 354
ออฟไลน์

กระทู้: 3455


« ตอบ #45 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 24, 2016, 01:23:08 PM »

เรื่องบางเรื่องในวิชาประวัติศาสตร์ไม่มีการสอนแบบลึกๆเลย
หลายครั้งที่ผมตั้งข้อสังเกต นอกเหนือจากที่โรงเรียนสอน มักถูก ยำ เสมอ ว่า ไม่เคารพเรื่องที่โรงเรียนสอนมา เพราะเราเกิดไม่ทันเห็นเรื่องจริงๆว่า มันเป็นอย่างไร เราเกิดมาทีหลังแล้ว  แล้วมาอ่านเรื่องที่เขาเขียนไว้
อย่าว่าแต่เรื่องนานๆ เก่าๆ เลยครับ ขนาดเรื่องเกิดขึ้นใหม่ ๆ มาไม่นาน บางประเด็น ก็ยังเถียงกันไม่จบเลยว่า เรื่องจริง มันเป็นอย่างไร
บันทึกการเข้า
tao bangkhaen
Hero Member
*****

คะแนน 354
ออฟไลน์

กระทู้: 3455


« ตอบ #46 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 24, 2016, 01:32:07 PM »

บางครั้ง บางเรื่อง  ประวัติศาสตร์ เรื่องเดียวกัน เขียนมา ก็ ล้อๆ กันมา เหมือนๆ  ครือๆ กันมาตลอด  ไม่ค่อยแตกต่างกันเท่าไหร่ สองฝ่ายให้การคล้ายกัน ก็พอเชื่อได้ว่าจริง
แต่พอมาถึงตอนสำคัญสุดๆ  กลับบันทึกไว้แตกต่างกัน ฝ่ายเราก็บันทึกไว้สวยหรู  ฝ่ายเขาก็บันทึกว่าเราไว้   ไม่รู้แหละ  อย่างไรก็ดี  คงต้องมีฝ่ายหนึ่ง บันทึกไว้ บิดเบือนแน่นอน  แต่เจตนาของการบิดเบือน ผู้บันทึก ท่านต้องมีเหตุผลของท่านอยู่แล้ว และคงเป็นเหตุผลที่ดี ที่ต้องทำอย่างนั้น .........เพียงแต่ว่า   เวลา เอามาว่ากันตรงๆ แบบที่อาจารย์ว่า ถ้าใครใจไม่เปิด.....ก็หาว่า ตำหนิ บรรพบุรุษ.....ในส่วนผู้สืบค้น ไม่ได้มีเจตนาอะไร  มีเจตนาเพียง ต้องการทราบความจริง เพื่อมาตอบปัญหาในปัจจุบันไงว่า.....
เห็นในอดีต สามัคคีกันจัง  .....  ทำไมเดี๋ยวนี้ ไม่สามัคคีกันเลย .......... เพราะบางอย่างอยากจะบอกว่า ไม่เคยสามัคคีกันเลยมานานแล้ว .... ทุกวันนี้ เลยเป็นอย่างงี้ ไง....
บันทึกการเข้า
Ninja 19 + รักในหลวง +
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 333
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5259


" อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี "


« ตอบ #47 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 25, 2016, 01:00:18 AM »



.......  Grin  แอบมาอ่าน มันส์ดีครับ  เยี่ยม เยี่ยม เยี่ยม เยี่ยม

บันทึกการเข้า

BLUE ZONE " สิ่งเดียวที่ทำให้คนชั่วได้ชัยชนะ นั้นก็เพราะคนดีๆ นิ่งดูดาย " http://www.youtube.com/watch?v=EfCsNdSTNdQ
สุพินท์ - รักในหลวง
Guns & Games Staff
Hero Member
*****

คะแนน 3539
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12902



« ตอบ #48 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 25, 2016, 04:35:38 PM »

เรื่องบางเรื่องในวิชาประวัติศาสตร์ไม่มีการสอนแบบลึกๆเลย
หลายครั้งที่ผมตั้งข้อสังเกต นอกเหนือจากที่โรงเรียนสอน มักถูก ยำ เสมอ ว่า ไม่เคารพเรื่องที่โรงเรียนสอนมา เพราะเราเกิดไม่ทันเห็นเรื่องจริงๆว่า มันเป็นอย่างไร เราเกิดมาทีหลังแล้ว  แล้วมาอ่านเรื่องที่เขาเขียนไว้
อย่าว่าแต่เรื่องนานๆ เก่าๆ เลยครับ ขนาดเรื่องเกิดขึ้นใหม่ ๆ มาไม่นาน บางประเด็น ก็ยังเถียงกันไม่จบเลยว่า เรื่องจริง มันเป็นอย่างไร

ดร.นิธิ เอียวศรีวงศ์ (คนพูดว่าทหารมีไว้ทำไม)  เคยพูดว่าคนไม่รู้ประวัติศาสตร์เหมือนตาบอด 1 ข้าง   แต่ถ้าอ่านตำราประวัติศาสตร์ของกระทรวงศึกษา (ของประเทศไหนก็จำไม่ได้เหมือนกัน) ก็เหมือนตาบอด 2 ข้าง  และถ้าเชื่อตำราประวัติศาสตร์เล่มที่ว่า ก็ตาบอดและหูหนวกด้วย
บันทึกการเข้า
Ghost of the darkness
Sr. Member
****

คะแนน -487
ออฟไลน์

กระทู้: 891



« ตอบ #49 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 25, 2016, 07:49:41 PM »

   สมัยที่ยังไม่มี Internet ก็อ่านนอกตำราจาก หนังสือสารคดี ศิลปวัฒนธรรม เรื่องสงครามเวียตนาม การรบในลาว อ่านจากนวนิยาย สยุมภู ทศพล กองหล้า สุรไกร เรื่องป่าก็พนมเทียน น้อย อินทนนท์ จำกัดวงอยู่เท่านี้เองครับ
บันทึกการเข้า
วีระศักดิ์ รักในหลวงครับ
Website Sponsor
Full Member
****

คะแนน 43
ออฟไลน์

กระทู้: 221



« ตอบ #50 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 25, 2016, 10:03:08 PM »

 ไหว้ผมเคยอ่านนิยายอิงประวัติศาสตร์ ที่ลงในมติชนรายสัปดาห์น่ะครับ เป็นเรื่องในสมัยสมเด็จพระนารายณ์ที่มีเจ้าพระยาวิชเยนทร์มาเกี่ยวข้องด้วยรู้สึกว่าน่าติดตามดี ไม่ทราบว่าพี่ๆท่านใดพอจะแนะนำหนังสือที่พอจะเป็นเรื่องเป็นราวที่เกี่ยวกับยุคสมัยนั้นบ้างไหมครับ  ไหว้
บันทึกการเข้า
tao bangkhaen
Hero Member
*****

คะแนน 354
ออฟไลน์

กระทู้: 3455


« ตอบ #51 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2016, 07:25:02 PM »


เรื่องบางเรื่องในวิชาประวัติศาสตร์ไม่มีการสอนแบบลึกๆเลย
หลายครั้งที่ผมตั้งข้อสังเกต นอกเหนือจากที่โรงเรียนสอน มักถูก ยำ เสมอ ว่า ไม่เคารพเรื่องที่โรงเรียนสอนมา เพราะเราเกิดไม่ทันเห็นเรื่องจริงๆว่า มันเป็นอย่างไร เราเกิดมาทีหลังแล้ว  แล้วมาอ่านเรื่องที่เขาเขียนไว้
อย่าว่าแต่เรื่องนานๆ เก่าๆ เลยครับ ขนาดเรื่องเกิดขึ้นใหม่ ๆ มาไม่นาน บางประเด็น ก็ยังเถียงกันไม่จบเลยว่า เรื่องจริง มันเป็นอย่างไร

ดร.นิธิ เอียวศรีวงศ์ (คนพูดว่าทหารมีไว้ทำไม)  เคยพูดว่าคนไม่รู้ประวัติศาสตร์เหมือนตาบอด 1 ข้าง   แต่ถ้าอ่านตำราประวัติศาสตร์ของกระทรวงศึกษา (ของประเทศไหนก็จำไม่ได้เหมือนกัน) ก็เหมือนตาบอด 2 ข้าง  และถ้าเชื่อตำราประวัติศาสตร์เล่มที่ว่า ก็ตาบอดและหูหนวกด้วย
อู๊ย...ถูกใจ...ทั้งบอดทั้งหนวก..เลยจริงๆ ความผิดพลาดในอดีตของผู้ใหญ่เป็นบทเรียนที่ดีของเด็กในอนาคต แต่ถ้าผู้ใหญ่ปกปิดบิดเบือนไว้..เด็กๆรุ่นถัดไปก็หลงทางเข้าป่าเข้าดงไป
บันทึกการเข้า
โทน73 -รักในหลวง-
มือปืนกาวช้าง
Hero Member
*****

คะแนน 586
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8575


« ตอบ #52 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2016, 12:52:32 AM »

เรื่องบางเรื่องในวิชาประวัติศาสตร์ไม่มีการสอนแบบลึกๆเลย

เป็นเรื่องอันตรายครับ
ประวัติศาสตร์ไทยเกือบทั้งหมด เป็นเรื่องพงศาวดาร ซึ่งเป็นคำรวมที่มาจาก พงศ กับ อวตาร  ดังนั้นจึงเป็นบันทึกเหตุการณ์ของพระมหากษัตริย์ ไม่มีภาคประชาสังคม หรือการค้า  และยังได้รับการตรวจชำระโดยพระมหากษัตริย์ รัชกาลถัด ๆ มา  ตัวอย่างเช่นพระราชพงศาวดาร ฉบับพระราชหัตถเลขา ที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงแก้ไขและพระราชทานพระบรมราชาธิบายไว้เป็นช่วง ๆ   ดังนั้นการวิจารณ์ หรือนำไปเปรียบเทียบกับเอกสารที่ชาวต่างประเทศบันทึกไว้  ถ้ากระทำนอกรั้วสถาบันการศึกษา ก็เป็นเรื่องที่เสี่ยงต่อมาตรา 112

นอกจากนั้น เราต้องเข้าใจเหตุการณ์ในสมัยนั้นด้วยว่าเป็นช่วงที่เราต้องเผชิญกับลัทธิล่าเมืองขึ้นจากประเทศตะวันตก  การเผยแพร่เอกสารทางประวัติศาสตร์ในช่วงนั้น จึงต้องแฝงไว้ด้วยมาตรการป้องกันการเสียดินแดน


เมื่อก่อนผมมองแบบพวกหัวก้าวหน้าที่ชอบออกมาประท้วงแบบแปลกๆกันทุกวันนี้
แต่เมื่อเห็นสถานะการณ์โลก ประเทศทางแอฟริกา ตะวันออกกลาง เอเชียใต้ ตลอดจนถึงยุโรปตะวันออก ที่เห็นประชาชนยึดมั่นความเป็นชนเผ่า หรือนิกาย มากกว่าความเป็นคนของรัฐใดรัฐหนึ่ง  ข้ามพรมแดนไปทำสงครามกันมั่วไปหมด
จึงทราบซึ้งถึงพระปรีชาชาญ ที่ทรงเล็งเห็นผลในอนาคต ในการดำเนินนโยบายทางประวัติศาสตร์แบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

ไม่เช่นนั้นเราคงเห็น ไทยเชื้อสายมอญ ไทยทวาย ไทยกระเหรี่ยง ไทยขแมร์ ไทยลาว ข้ามพรมแดนไปก่อจราจลกันมั่วไปหมด แบบอิรัค ซีเรีย
แต่นโยบายนี้เราสร้างรวมตัวในอัตลักษณ์ใหม่ ต่างจากเพื่อนบ้าน เราถึงอยู่เป็นสุขทั่วทุกวันนี้
บันทึกการเข้า

....ตามล่า...อีตอแหล
สุพินท์ - รักในหลวง
Guns & Games Staff
Hero Member
*****

คะแนน 3539
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12902



« ตอบ #53 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2016, 09:50:27 AM »

เรื่องบางเรื่องในวิชาประวัติศาสตร์ไม่มีการสอนแบบลึกๆเลย

เป็นเรื่องอันตรายครับ
ประวัติศาสตร์ไทยเกือบทั้งหมด เป็นเรื่องพงศาวดาร ซึ่งเป็นคำรวมที่มาจาก พงศ กับ อวตาร  ดังนั้นจึงเป็นบันทึกเหตุการณ์ของพระมหากษัตริย์ ไม่มีภาคประชาสังคม หรือการค้า  และยังได้รับการตรวจชำระโดยพระมหากษัตริย์ รัชกาลถัด ๆ มา  ตัวอย่างเช่นพระราชพงศาวดาร ฉบับพระราชหัตถเลขา ที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงแก้ไขและพระราชทานพระบรมราชาธิบายไว้เป็นช่วง ๆ   ดังนั้นการวิจารณ์ หรือนำไปเปรียบเทียบกับเอกสารที่ชาวต่างประเทศบันทึกไว้  ถ้ากระทำนอกรั้วสถาบันการศึกษา ก็เป็นเรื่องที่เสี่ยงต่อมาตรา 112

นอกจากนั้น เราต้องเข้าใจเหตุการณ์ในสมัยนั้นด้วยว่าเป็นช่วงที่เราต้องเผชิญกับลัทธิล่าเมืองขึ้นจากประเทศตะวันตก  การเผยแพร่เอกสารทางประวัติศาสตร์ในช่วงนั้น จึงต้องแฝงไว้ด้วยมาตรการป้องกันการเสียดินแดน


เมื่อก่อนผมมองแบบพวกหัวก้าวหน้าที่ชอบออกมาประท้วงแบบแปลกๆกันทุกวันนี้
แต่เมื่อเห็นสถานะการณ์โลก ประเทศทางแอฟริกา ตะวันออกกลาง เอเชียใต้ ตลอดจนถึงยุโรปตะวันออก ที่เห็นประชาชนยึดมั่นความเป็นชนเผ่า หรือนิกาย มากกว่าความเป็นคนของรัฐใดรัฐหนึ่ง  ข้ามพรมแดนไปทำสงครามกันมั่วไปหมด
จึงทราบซึ้งถึงพระปรีชาชาญ ที่ทรงเล็งเห็นผลในอนาคต ในการดำเนินนโยบายทางประวัติศาสตร์แบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

ไม่เช่นนั้นเราคงเห็น ไทยเชื้อสายมอญ ไทยทวาย ไทยกระเหรี่ยง ไทยขแมร์ ไทยลาว ข้ามพรมแดนไปก่อจราจลกันมั่วไปหมด แบบอิรัค ซีเรีย
แต่นโยบายนี้เราสร้างรวมตัวในอัตลักษณ์ใหม่ ต่างจากเพื่อนบ้าน เราถึงอยู่เป็นสุขทั่วทุกวันนี้

คำว่า "ไทยเชื้อสายมอญ ไทยทวาย ไทยกระเหรี่ยง ไทยขแมร์ ไทยลาว"  เป็นแนวคิดที่ถูกโฆษณาชวนเชื่อในสมัยจอมพล ป.ที่สืบเนื่องมาจากลัทธิคลั่งชาติของเยอรมันกับญี่ปุ่น   พยายามปลูกฝังว่า คนไทยเป็นเชื้อชาติบริสุทธิ์  มึความยิ่งใหญ่ในอดีต แต่รักสงบ ต้องอพยพลงมาสู่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาเพราะถูกรุกราน   มีผลทำให้คนไทยมองตัวเองเป็นศูนย์กลาง เรียกชาติพันธุ์อื่นที่พูดภาษาตระกูลไทย-ลาว ว่าเป็นคนไทย เชื้อสายนั้น เชื้อสายนี้
บางครั้งก็พลาด  ไปเรียกคนที่พูดภาษาไทยใน อินเดีย-บังคลาเทศ ว่าเป็นไทยอาหม  ทั้ง ๆ ที่คำว่าอาหม เป็นคำที่เสียงเพี้ยนมาจาก "สยาม" อยู่แล้ว

มีนักวิชาการบางท่าน เสนอแนวความคิดว่าภาษาไทย  เดิมทีเดียวน่าจะเป็นภาษากลางในทางการค้าของสุวรรณภูมิ  และความที่สุโขทัย อยุธยา สุพรรณบุรี ควบคุมเส้นทางการค้าระหว่าง อ่าวเมาะตะมะ - อ่าวตังเกี๋ย,  ลุ่มแม่น้ำโขง,  ลุ่มแม่น้ำสาละวิน, ลุ่มแม่น้ำกก ออกสู่อ่าวไทย  จึงได้ใช้ภาษาไทยเป็นภาษาถิ่น
บันทึกการเข้า
โทน73 -รักในหลวง-
มือปืนกาวช้าง
Hero Member
*****

คะแนน 586
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8575


« ตอบ #54 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2016, 11:03:52 PM »

เรื่องบางเรื่องในวิชาประวัติศาสตร์ไม่มีการสอนแบบลึกๆเลย

เป็นเรื่องอันตรายครับ
ประวัติศาสตร์ไทยเกือบทั้งหมด เป็นเรื่องพงศาวดาร ซึ่งเป็นคำรวมที่มาจาก พงศ กับ อวตาร  ดังนั้นจึงเป็นบันทึกเหตุการณ์ของพระมหากษัตริย์ ไม่มีภาคประชาสังคม หรือการค้า  และยังได้รับการตรวจชำระโดยพระมหากษัตริย์ รัชกาลถัด ๆ มา  ตัวอย่างเช่นพระราชพงศาวดาร ฉบับพระราชหัตถเลขา ที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงแก้ไขและพระราชทานพระบรมราชาธิบายไว้เป็นช่วง ๆ   ดังนั้นการวิจารณ์ หรือนำไปเปรียบเทียบกับเอกสารที่ชาวต่างประเทศบันทึกไว้  ถ้ากระทำนอกรั้วสถาบันการศึกษา ก็เป็นเรื่องที่เสี่ยงต่อมาตรา 112

นอกจากนั้น เราต้องเข้าใจเหตุการณ์ในสมัยนั้นด้วยว่าเป็นช่วงที่เราต้องเผชิญกับลัทธิล่าเมืองขึ้นจากประเทศตะวันตก  การเผยแพร่เอกสารทางประวัติศาสตร์ในช่วงนั้น จึงต้องแฝงไว้ด้วยมาตรการป้องกันการเสียดินแดน


เมื่อก่อนผมมองแบบพวกหัวก้าวหน้าที่ชอบออกมาประท้วงแบบแปลกๆกันทุกวันนี้
แต่เมื่อเห็นสถานะการณ์โลก ประเทศทางแอฟริกา ตะวันออกกลาง เอเชียใต้ ตลอดจนถึงยุโรปตะวันออก ที่เห็นประชาชนยึดมั่นความเป็นชนเผ่า หรือนิกาย มากกว่าความเป็นคนของรัฐใดรัฐหนึ่ง  ข้ามพรมแดนไปทำสงครามกันมั่วไปหมด
จึงทราบซึ้งถึงพระปรีชาชาญ ที่ทรงเล็งเห็นผลในอนาคต ในการดำเนินนโยบายทางประวัติศาสตร์แบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

ไม่เช่นนั้นเราคงเห็น ไทยเชื้อสายมอญ ไทยทวาย ไทยกระเหรี่ยง ไทยขแมร์ ไทยลาว ข้ามพรมแดนไปก่อจราจลกันมั่วไปหมด แบบอิรัค ซีเรีย
แต่นโยบายนี้เราสร้างรวมตัวในอัตลักษณ์ใหม่ ต่างจากเพื่อนบ้าน เราถึงอยู่เป็นสุขทั่วทุกวันนี้

คำว่า "ไทยเชื้อสายมอญ ไทยทวาย ไทยกระเหรี่ยง ไทยขแมร์ ไทยลาว"  เป็นแนวคิดที่ถูกโฆษณาชวนเชื่อในสมัยจอมพล ป.ที่สืบเนื่องมาจากลัทธิคลั่งชาติของเยอรมันกับญี่ปุ่น   พยายามปลูกฝังว่า คนไทยเป็นเชื้อชาติบริสุทธิ์  มึความยิ่งใหญ่ในอดีต แต่รักสงบ ต้องอพยพลงมาสู่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาเพราะถูกรุกราน   มีผลทำให้คนไทยมองตัวเองเป็นศูนย์กลาง เรียกชาติพันธุ์อื่นที่พูดภาษาตระกูลไทย-ลาว ว่าเป็นคนไทย เชื้อสายนั้น เชื้อสายนี้
บางครั้งก็พลาด  ไปเรียกคนที่พูดภาษาไทยใน อินเดีย-บังคลาเทศ ว่าเป็นไทยอาหม  ทั้ง ๆ ที่คำว่าอาหม เป็นคำที่เสียงเพี้ยนมาจาก "สยาม" อยู่แล้ว

มีนักวิชาการบางท่าน เสนอแนวความคิดว่าภาษาไทย  เดิมทีเดียวน่าจะเป็นภาษากลางในทางการค้าของสุวรรณภูมิ  และความที่สุโขทัย อยุธยา สุพรรณบุรี ควบคุมเส้นทางการค้าระหว่าง อ่าวเมาะตะมะ - อ่าวตังเกี๋ย,  ลุ่มแม่น้ำโขง,  ลุ่มแม่น้ำสาละวิน, ลุ่มแม่น้ำกก ออกสู่อ่าวไทย  จึงได้ใช้ภาษาไทยเป็นภาษาถิ่น
 

ฉบับ หลวงวิจิตร ?

สุจิตน์ วงษ์เทศ ก็ให้ความเห็นเช่นนั้น เรื่องสุโขทัย เป็นสถานีการค้า ระหว่างสองคาบสมุทร ร่วมสาเหตุของสงครามในสมัยก่อน ก็มาจากเหตุ การผูกขาดทางการค้า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 27, 2016, 11:08:57 PM โดย โทน73 -รักในหลวง- » บันทึกการเข้า

....ตามล่า...อีตอแหล
tao bangkhaen
Hero Member
*****

คะแนน 354
ออฟไลน์

กระทู้: 3455


« ตอบ #55 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 28, 2016, 06:51:39 PM »

สถานีการค้า..เข้าไปลึกจัง
บันทึกการเข้า
สุพินท์ - รักในหลวง
Guns & Games Staff
Hero Member
*****

คะแนน 3539
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12902



« ตอบ #56 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 28, 2016, 07:21:24 PM »

ฉบับ หลวงวิจิตร ?

สุจิตน์ วงษ์เทศ ก็ให้ความเห็นเช่นนั้น เรื่องสุโขทัย เป็นสถานีการค้า ระหว่างสองคาบสมุทร ร่วมสาเหตุของสงครามในสมัยก่อน ก็มาจากเหตุ การผูกขาดทางการค้า

ใช่ครับ  พล.ต.หลวงวิจิตรวาทการ ผู้แต่งหนังสือ ประวัติศาสตร์ 5 เล่ม ใช้นามปากกาว่า "วิเทศกรณีย์" และยังประพันธ์คำร้องและทำนองเพลงปลุกใจ ตื่นเถิดชาวไทย และต้นตระกูลไทย รวมทั้ง ละครอิงประวัติศาสตร์ กับเพลงประกอบละคร   เด็กไทยยุคนั้นเลือดขึ้นหน้าครบ 3 สี ตามสีธงชาติ   แทบจะเอาดาบวิ่งไล่ฟันพม่า จีน เขมรข้างบ้าน

ทราบไหมครับว่าหลวงวิจิตร ฯ มีชื่อเดิมว่ากิมเหลียง
บันทึกการเข้า
แปจีหล่อ คนสันขวาน
Hero Member
*****

คะแนน 6335
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8369



« ตอบ #57 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 28, 2016, 07:26:36 PM »

แต่เด็กไทยยุคนี้กลับไล่ฟันกันเอง
บันทึกการเข้า

สีกากีเป็นสีของดิน ข้าราชการควรต้องติดดิน ออกพื้นที่รับฟังปัญหาของชาวบ้าน ข้าราชการคือ ข้าที่ทำกิจการต่างๆให้กับพระราชา เครื่องแบบข้าราชการสีกากีคือสีแห่งข้ารับใช้แผ่นดิน
สุพินท์ - รักในหลวง
Guns & Games Staff
Hero Member
*****

คะแนน 3539
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12902



« ตอบ #58 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 28, 2016, 07:32:51 PM »

สถานีการค้า..เข้าไปลึกจัง

สุโขทัย สมัยนั้นเป็นจุดกึ่งกลางเส้นทางการค้าระหว่างมหาสมุทรอินเดียกับทะเลจีนใต้  ในยุคนั้นยังไม่อ้อมแหลมมาลายู แต่จะใช้เส้นทางอ่าวเมาะตะมะ - อ่าวตังเกี๋ย  ซึ่งจะมีที่พักค้างคืนตลอดเส้นทาง  สุโขทัยร่ำรวยจากการเก็บค่าผ่านทาง รวมทั้งให้การคุ้มครองเส้นทาง  

ในขณะเดียวกัน พ่อค้าก็แสวงหาเส้นทางอื่นที่ต่ำลงไปด้วย  เช่นผ่านด่านเจดีย์สามองค์  ลำน้ำแควน้อย แม่น้ำแม่กลอง แม่น้ำท่าจีน  ซึ่งทางสุพรรณบุรีคุมเส้นทางนี้  และการตั้งกรุงศรีอยุธยา ก็เพื่อที่จะคุมเส้นทางการค้าทางน้ำ  เพราะอยุธยาเป็นที่รวมของแม่น้ำ 3 สาย
บันทึกการเข้า
โทน73 -รักในหลวง-
มือปืนกาวช้าง
Hero Member
*****

คะแนน 586
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8575


« ตอบ #59 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 28, 2016, 08:35:26 PM »

ฉบับ หลวงวิจิตร ?

สุจิตน์ วงษ์เทศ ก็ให้ความเห็นเช่นนั้น เรื่องสุโขทัย เป็นสถานีการค้า ระหว่างสองคาบสมุทร ร่วมสาเหตุของสงครามในสมัยก่อน ก็มาจากเหตุ การผูกขาดทางการค้า

ใช่ครับ  พล.ต.หลวงวิจิตรวาทการ ผู้แต่งหนังสือ ประวัติศาสตร์ 5 เล่ม ใช้นามปากกาว่า "วิเทศกรณีย์" และยังประพันธ์คำร้องและทำนองเพลงปลุกใจ ตื่นเถิดชาวไทย และต้นตระกูลไทย รวมทั้ง ละครอิงประวัติศาสตร์ กับเพลงประกอบละคร   เด็กไทยยุคนั้นเลือดขึ้นหน้าครบ 3 สี ตามสีธงชาติ   แทบจะเอาดาบวิ่งไล่ฟันพม่า จีน เขมรข้างบ้าน

ทราบไหมครับว่าหลวงวิจิตร ฯ มีชื่อเดิมว่ากิมเหลียง

เคยบวชเณร  มีคนเรียกว่า สามเณร กิมเหลียง ลิ้นคาย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 29, 2016, 12:13:16 PM โดย โทน73 -รักในหลวง- » บันทึกการเข้า

....ตามล่า...อีตอแหล
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 7 ... 37
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.125 วินาที กับ 21 คำสั่ง