https://www.facebook.com/prasop.tongtawat/posts/954509697927614Prasop Tongtawat
10 hrs · Edited ·
เตรียมรับมือสรยุทธ เย็นนี้
สำหรับการทดลองครั้งนี้
เริ่มจากทางผู้เสียหายคือคุณนิสารัตน์ คุณแม่ของ นพ ศรุต ผู้ตาย
ท่านเปนนักวิทยาศาสตร เปนนักเคมี. ที่มีประสบการณสูง
เปนสิ่งที่แน่นอนว่า เมื่อเกิดเรื่องเช่นนี้กันคนในครอบครัว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับลูกชายของท่าน
การไขความจริงให้ปรากกฏย่อมต้องใช้วิธีการทางวิทยาศาตร
สาขาฟิสิกส์ มาหาคำอธิบาย
เมื่อสอบถามคนในแวดวง แล้วก็ได้ชื่อผมมา
เมื่อผมได้รับการติดต่อแล้ว
เหนเปนเรื่องน่าสนใจ
อีกทั้งทางภาควิชา ฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร ใน มจธ ของเรา
เน้นการเรียน การสอน ทางการประยุกต์ ในรูปแบบต่าง ๆ
เพื่อการอุตสาหกรรมอยู่แล้ว
จึงไม่ยากเกินไปที่จะออกแบบ และการทดลองนี้
ได้ทราบข้อเทจจริงเบื้องต้น.
ผู้ตายตกลงมาจากอาคารชั้น 4 สูงราว 10เมตร
ที่ตำแหน่งห่างจากตัวอาคาร 3 - 4 เมตร
จากการคำนวณเบื้องต้นทำให้บอกได้ว่า ร่างผู้ตาย มีเวลาลอยอยู่ในอากาศ
ได้ไม่ถึง 2 วินาที โดยที่ มีความเร็วต้นราวๆ 10กม/ชม
หรือประมาณเท่ากับคนวิ่งเหยาะ ๆ ( บนดาดฟ้า ที่ไม่มีสิ่งกีดขวาง
แล้วเลยหลุดตกลงไป).
ท่านผู้นี้ ได้ร้องขอให้มีการทดลอง ทำให้เห็นจริงว่า
จากที่คำนวณกันตามทฤษฎีบนกระดาษนั้น
ในทางปฏิบัติ จะเป็นไปตามนั้นหรือไม่
มีปัจจัยอื่นมามีผลต่อปรากฏการนี้หรือเปล่า เช่นการต้านของอากาศ
หรือการหมุน หรือท่า/อาการที่ตกในรูปแบบต่าง ๆ
เปนงานที่. หนักหนา ยาก และเสี่ยงอันตราย มาก ๆ
ผมคิดถึงอยู่สองคน เปนแรงบันดาลใจ
คือคุณ แจ้คกี้ กะคุณ โทนี่ นะครับ แต่สองท่านคงมาช่วยเราไม่ได้
ต้องคิดเองทำเองครับ
ได้ออกแบบการทดลอง
เริ่ม จาก การจำลองแบบ ให้คนตกลงมาจากำแพงสูง
180ซม ใช้เบาะ ยิมนาสติกรองพบว่า
คนที่พลัดตกลงไปเอง ไม่ว่าจะโดยท่าใดก็ตาม
จะตกลงในแนวดิ่งไปตรง ๆ เท่านั้น
การที่จะตกลงไปในระยะที่ห่างออกไป พ้นขอบกำแพง
จะต้องมีแรงกระทำโดยการผลัก เข็น. ถีบ ออกไปเท่านั้น
เราจึงทำการทดลอง โดยออกแรงกระทำมากมาย หลายลักษณะ
บันทึก ผลการทดลอง ทุกครั้ง
ตัวเลขที่ได้ สามารถ นำไปคำนวณหาระยะ เทียบกับที่ความสูงมากกว่านั้นได้
แต่ว่า ระยะตก 1.8 ที่ได้ทดลองเบื้องต้นนั้น เปนเพียง 20%
ของความสูงจริงของที่เกิดเหตุ
เราจึงขยายขอบเขตของการทดลอง เป็น ตกจากความสูง 6 เมตร
โดย ใช้วัสดุรองรับ แบบเดียวกับที่ใช้ในการถ่ายภาพยนต์
การทดลองขั้นตอนนี้ มีการใช้ รอก กับ ลวดสลิง ช่วย เพื่อความปลอดภัยของ
ผู้ที่เปนหุ่น ที่ตกลงมา (ขณะที่ร่วงตกลงมา ลวดสลิงพร้อมที่จะช่วยเหลือ
หาก มีการผิดพลาด เมื่อตกลงมาเกินระยะที่วางอุปกรณ์เซฟตี้ไว้) แต่ไม่มีผลต่อ
ลักษณะท่าทาง ทิศ ความเร็ว และระยะที่ตก
เพื่อเปนการ ซักซ้อมทีมงาน ปรับสภาพจิตใจของ หุ่นตัวแบบ มุม กล้อง และวิธีการวัด
ผลที่ได้ คือ จากการวัดระยะที่ตก กับความสูง ได้สำพันธ์กับค่าที่ได้จากการ
คำนวณ ทางทฤษฏี ไม่ผิดเพี้ยน
เราได้เรียนรู้ถึงอาการ ท่าทาง ของคนที่ถูกแรงกระทำในลักษณะต่าง ๆ
แล้วตกลงไป ได้บันทึก เปนภาพ วิดิโอ ไว้โดยละเอียด ทุกขั้นตอน
จากนั้น เราได้ขยายสเกล การทดลอง ไปทำที่ระยะ สูง 10 เมตร
เท่ากับในสถานที่เกิดเหตุ โดยได้รับความสนับสนุน จากหลายฝ่าย
เพื่อน ที่เปน นายตำรวจ ระดับบิ้ก ประสานไปทาง ท่านรองผู้ว่า กทม
ผอ กองบรรเทาสาธารณะภัย กทม หน่วยดับเพลิง ดาวคะนอง และ หนองแขม
สถานที่ใช้ทำการทดลอง คือ ตึกอาคารปฏิบัติการ คณะวิทยาศาศาสตร
มหาวิทยาลัย เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
การทดลองที่ระดับความสูงขนาดนี้ จำเป็นต้องพิถีพิถัน เพราะ
เปนการเสี่ยงอันตรายอย่างมาก ในชั้นต้นเรายอมรับว่า เรามีแต่
ความรู้พื้นฐานทางทฤษฎีแต่ในกระดาษ ที่ร่ำเรียนมากัน นับร้อยปีแล้ว
ครั้งนี้เป็นครังแรกในโลกก็ว่าได้
ที่เอาคนจริง ๆ ตัวเปล่า ๆ มาจับโยน ลงจากที่สูงพอ ๆ กับหอกระโดดร่ม รด
ฉนั้นทุกอย่าง จะต้องไม่พลาด
เราได้ทำการทดลองถึง 3 รอบ รอบละ หลายสิบครั้ง
ได้ปรับแก้ หลายครั้ง กับ ขั้นตอน วิธิการ ทดลอง และวิธีการวัดเก็บข้อมูล
ให้ได้เปน ไปตามธรรมชาติ ของการที่วัตถุ ถูกระทำแล้วตกลงไป
อย่างเสรี โดย ไม่มี ปัจจัยอื่น เข้าแทรก
ใช้ หุ่นตัวแทนที่ตกคัดคนที่ นน ส่วนสูง เท่ากับคุณหมอศรุต หลายคน
ทุกคนบอกเปนเสียงเดียวกันว่าการตกลงไป นั้น ตนไม่สารมารถ
ควบคุมอากับกิริยา อะไรได้เลย หล่นไปอย่างไร ก็อย่างนั้น
จะหมุนหรือไม่หมุน เจ้าตัวบังคับไม่ได้เลย
และมีเวลาลอยอยู่กลางอากาศ แว้ปเดียว
ไม่ทันจะนึกอะไรก็ตกถึงเบาะเบื้องล่างแล้ว
จากการวัด ค่าเฉลี่ยตลอดการทดลอง ที่ได้ ไม่ถึง 3 เมตร
ซึ่งสอดคล้อง กับ ค่าที่มีการบันทึกในต่างประเทศ
ที่ของร่างผู้ที่ตกลงมาจาอาคารสูง10เมตร อยู่ที่ระยะระยะสูงสุด เพียง 2 เมตร
เมื่อพิจารณา จากลักษะการจัดเรียงตัว ของร่างผู้ที่ทดลองขณะที่กระทบพื้น
เมื่อถูกแรงกระทำในอาการเดียวกันจะเปนแบบ เดียวกันทุกครั้ง
ซึ่งแต่ละแบบที่เราทดลอง
โดยกำหนดให้ตกลงไปเองในแบบต่าง ๆ ได้แก่
1 นั่งยอง ๆ บนกำแพงระเบียง แล้วกระโดดออกไปเอง
2 นั่งห้อยขาบนกำแพงระเบียง. หันหน้าออกจากอาคาร แล้วพลัดตกลงไป
3 นั่งห้อยขาบนกำแพงระเบียง หันหน้าเข้าด้านในตัวอาคาร แล้วหงายหลังลงไป
ทั้ง 3 รูป แบบ นี้ เท่านั้น
ที่ เปนสภาพอารการของ ผู้ตาย ตกลงไปได้ ด้วยตัวเอง
จากระยะ. และ สภาพการจัดเรียงตัวของร่าง เมื่อตกลงไปนั้น
ไม่ตรง กับสภาพศพในที่เกิดเหตุ
จึงกล่าวสรุปได้ว่า ผู้ตายไม่สามารถ ตกลงไปได้เองดังในสภาพที่พบ
จากที่เกิดเหต ... ครัชชช