๏ฟฝ๏ฟฝ็บบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝสน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาปืน
เมษายน 28, 2024, 11:24:10 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: อวป. มีจำหน่ายที่ สนามยิงปืนราชนาวี/สนามยิงปืนบางบัวทอง/สนามยิงปืนศรภ./
/สนามยิงปืนทอ./
สิงห์ทองไฟร์อาร์ม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 [2]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เสนอให้เก็บภาษีภิกษุสงฆ์ที่มีรายได้เกิน 2 หมื่นบาทต่อเดือน  (อ่าน 2616 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
แปจีหล่อ คนสันขวาน
Hero Member
*****

คะแนน 6335
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8369



« ตอบ #15 เมื่อ: พฤษภาคม 24, 2015, 11:39:21 PM »

ค่าสวดคงไม่เท่าไหร่คิดว่าเค้าคงอยากได้ตรง ผ้าป่า กฐิน และเงินบริจาคโดยคิดจากใบอนุโมทนาบัตรสมัยนี้เค้าไม่ได้คิดว่าวัดคือวัดแต่วัดคือนิติบุคคลครับต้องมีการเสียภาษีด้วย แต่ไม่รู้ว่าโบสถ์คริตกับมัสยิดอิสลามโดนด้วยหรือเปล่า หรือว่าจ้องแต่พุทธเพราะหัวอ่อน
บันทึกการเข้า

สีกากีเป็นสีของดิน ข้าราชการควรต้องติดดิน ออกพื้นที่รับฟังปัญหาของชาวบ้าน ข้าราชการคือ ข้าที่ทำกิจการต่างๆให้กับพระราชา เครื่องแบบข้าราชการสีกากีคือสีแห่งข้ารับใช้แผ่นดิน
เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6424
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 50461



« ตอบ #16 เมื่อ: พฤษภาคม 24, 2015, 11:43:26 PM »

การยึดโยงระหว่างชุมชน วัดในเมืองใหญ่กับวัดสังคมชนบทต่างกันมากๆ

วัดในเมืองก็มีมากมายที่มีโรงเรียนในวัด ใกล้วัด เกื้อกูลกันมาก แล้วก็มีวัดใหญ่บางแห่งก็ไม่ได้ยึกโยงกับชุมชนเท่าไหร่นัก

ผมคงอ่อนด้อยมากจนไม่กล้าวิจารณ์ แต่ใจก็ชื่นชมวัดและพระที่สร้างประโยชน์ให้ชุมชนครับ

หลวงพ่อคูณเป็นตัวอย่างที่เด่นชัด ตลอดพรรษาชั่วชีวิต ท่านอุทิศเงินทองที่ได้รับมาเพื่อประชาชน เพื่อสังคม  แม้แต่สรีระสังขารท่านยังอุทิศเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์  ไหว้ ไหว้ ไหว้
บันทึกการเข้า

"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
carrera
กินลูกเดียวเที่ยวสองลูก
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2357
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 88257


« ตอบ #17 เมื่อ: พฤษภาคม 25, 2015, 05:19:50 AM »

ภาษี หนีไม่ได้ โดนทุกคน Grin Grin Grin 555555
บันทึกการเข้า

เนื้อร้ายตัดทิ้ง
www.ipscthailand.com
Hang Forever
Hero Member
*****

คะแนน 349
ออฟไลน์

กระทู้: 2215


« ตอบ #18 เมื่อ: พฤษภาคม 25, 2015, 09:11:16 AM »

พระไม่มีรายได้เน้อ ที่เห็นๆน่ะของญาติโยมและมัคทายก อิอิ พระจับเงินมันอาบัติ
บันทึกการเข้า
lek
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1594
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 13941


การแบ่งปัน ทำให้เราและคนอื่นมีความสุข


« ตอบ #19 เมื่อ: พฤษภาคม 25, 2015, 12:16:35 PM »

งดบริจาคเงินสด  ให้รูดทำบุญอย่างเดียวใครไม่มีบัตรให้บริจาคสิ่งของ   ฮา
บันทึกการเข้า

มีความสุขแบบที่เรามีก็พอhttp://www.gunsandgames.com/smf/index.php?board=29.0  (รวมพลคนอีสาน)
Yut64
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 7670
ออฟไลน์

กระทู้: 10060



« ตอบ #20 เมื่อ: พฤษภาคม 25, 2015, 04:48:59 PM »

ต่อไปพระต้องออกไปกำกับภาษีด้วยนะ
ยุคนี้เป็นยุคที่คนอยากมีตัวตนในสังคมแต่คิดก่อนพูดก่อนแสดงออกก็จะดีคำพูดหรือการกระทำมันจะกลับมาทำร้ายเรา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 25, 2015, 04:51:01 PM โดย Yut64 » บันทึกการเข้า
SSG 69 รักในหลวง
Sr. Member
****

คะแนน 104
ออฟไลน์

กระทู้: 624


« ตอบ #21 เมื่อ: พฤษภาคม 25, 2015, 06:31:25 PM »

คนไทยทุกคนมี..."หน้าที่ต้องเสียภาษ้"...
บันทึกการเข้า
SillyOldMan
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1984
ออฟไลน์

กระทู้: 7567


ผ่านทะเล เห็นบึงน้ำไร้ความหมาย


« ตอบ #22 เมื่อ: พฤษภาคม 25, 2015, 10:36:45 PM »

คนไทยทุกคนมี..."หน้าที่ต้องเสียภาษ้"...
เยี่ยม
บันทึกการเข้า

What man is a man , who does not make the world better?
Nero Angel01
Hero Member
*****

คะแนน 275
ออฟไลน์

กระทู้: 3048


« ตอบ #23 เมื่อ: พฤษภาคม 26, 2015, 01:51:36 PM »

หากเสียจะเสียในนามนิติบุคคลหรือบุคคลธรรมดา ถ้าเสียในนามบุคคลธรรมดารายได้หลังเสียภาษี---ตกเป็นของพระ?
บันทึกการเข้า
แปจีหล่อ คนสันขวาน
Hero Member
*****

คะแนน 6335
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8369



« ตอบ #24 เมื่อ: พฤษภาคม 27, 2015, 09:56:43 PM »

ตกลงพระเป็นพนักงานของรัฐไปแล้วหรือเนี่ย ผมซักงง เอาเป็นว่าเรื่องศาสนาก็ให้พระเค้าจัดการตั้งสภาปฏิรูปกันเองดีกว่ามั๊ยจะเอาพระนักปฏิบัติวิปัสนากี่รูปนักพัฒนากี่รูปก็ว่ากันไป ส่วนสภาปฏิรูปของฆารวาสก็ทำเรื่องการเมืองการปกครองไปคือผมมองว่า สปช.ก็ใช่ว่าจะรู้จะเก่งไปทุกเรื่อง บางเรื่องผมก็ว่าโชว์โง่อย่างเรื่องแนวคิดที่ว่าเจ้าอาวาสดำรงตำแหน่งครั้งละห้าปีงี้แสดงได้เลยว่าแบบนี้มัน วัดไม่เข้าพระเจ้าไม่ไหว้ชัดๆ จะเอาพระเป็นนักการเมืองซะแล้ว วัดตามต่างจังหวัดบ้านนอกพระที่จะเป็นเจ้าอาวาสได้ต้องเป็นพระที่ชาวบ้านในพื้นที่เคารพนับถือ ถ้าไปย้ายออกแล้วเอาพระอื่นมาแทนเดี๋ยวก็มีการขับไล่ต่อต้านกันให้เห็นหรอกครับ และพระที่จะมาเป็นเจ้าอาวาสของวัดนั้นๆก็จะมาจากพระในวัดนั้นโดยเลือกจากอาวุโสเป็นหลัก และถ้าบางกรณีที่ไม่มีพระ(บางวัดมีพระแค่รูปเดียวกะเณรและเด็กวัดชาวบ้านก็จะใช้วิธีไปนิมนต์พระที่อื่นที่ชาวบ้านเคารพนับถือมาอยู่รักษาการครับ
http://www.dailynews.co.th/politics/324033
บันทึกการเข้า

สีกากีเป็นสีของดิน ข้าราชการควรต้องติดดิน ออกพื้นที่รับฟังปัญหาของชาวบ้าน ข้าราชการคือ ข้าที่ทำกิจการต่างๆให้กับพระราชา เครื่องแบบข้าราชการสีกากีคือสีแห่งข้ารับใช้แผ่นดิน
ต.แม่สาย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 495
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6568



« ตอบ #25 เมื่อ: พฤษภาคม 27, 2015, 10:34:29 PM »

นี่แหละครับ ครูบาอาจารย์สายวัดป่าจึง หลีกหนีปลีกวิเวกเข้าไปอาศัยอยู่ในป่าไม่สนใจลาภสักการะ ทั้ง ๆ ที่พระพุทธเจ้าสละทุกอย่างเพื่อมาบวช แต่เหล่าสาวกพุทธโอรสทั้งหลายกลับสร้างยศฐาบรรดาศักดิ์ขึ้นมาทั้งชั้น ราช ชั้นเทพ ชั้นพรหม ฯลฯ
บันทึกการเข้า

ผู้ใดทำใจให้เป็นกลางได้ ผู้นั้นจะพ้นจากความทุกข์ทั้งปวง
แปจีหล่อ คนสันขวาน
Hero Member
*****

คะแนน 6335
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8369



« ตอบ #26 เมื่อ: พฤษภาคม 27, 2015, 11:12:01 PM »

นี่แหละครับ ครูบาอาจารย์สายวัดป่าจึง หลีกหนีปลีกวิเวกเข้าไปอาศัยอยู่ในป่าไม่สนใจลาภสักการะ ทั้ง ๆ ที่พระพุทธเจ้าสละทุกอย่างเพื่อมาบวช แต่เหล่าสาวกพุทธโอรสทั้งหลายกลับสร้างยศฐาบรรดาศักดิ์ขึ้นมาทั้งชั้น ราช ชั้นเทพ ชั้นพรหม ฯลฯ
จะว่าไปก็ถูกต้องตามนี้ครับ ผมไม่รู้ว่าวัดในเมืองวัดใหญ่ๆดังๆเค้ามีการดูแลจัดการสมบัติของวัดกันยังไงครับแต่ผมก็คิดว่าที่มันเกิดเป็นเรื่องเป็นราวอยู่ขณะนี้มันมาจากผลประโยชน์แฝงที่เกิดกับวัดในเมืองวัดใหญ่ๆดังนั่นแหละครับ วัดตามบ้านนอกชาวบ้านจะคัดเลือกกรรมการวัดมากำกับดูแลเรื่องเงินเรื่องทรัพย์สินต่างๆกันเองเจ้าอาวาสก็แค่รับทราบยอดเงินของวัดการเอาเข้าออกธนาคารทุกครั้งกรรมการวัดผู้ใหญ่บ้านจะร่วมกันรับผิดชอบถ้าทางพระอยากสร้างปรับปรุงอะไรก็เรียกกรรมการวัดผู้ใหญ่บ้านมาคุยกัน จากนั้นผู้ใหญ่บ้านก็เรียกชาวบ้านมาประชุมขอความเห็นชอบกันอีกที มันมีการควบคุมของชาวบ้านไว้เรียบร้อยจึงไม่ค่อยเกิดปัญหาอะไร รายได้ส่วนตัวของพระก็ใช่ว่าจะมากมายอะไรค่าสวดค่าอะไรอย่างเก่งก็ได้คืนสองสามร้อย(สมัยตอนผมบวชได้ซองละยี่สิบบาทครับ)ก็พอได้ค่านํ้าค่าไฟในวัดสบู่ยาสีฟันผงซักฟอกบางครั้งของที่ญาติโยมมาถวายหมดก็ต้องซื้อสบงจีวรก็ต้องซื้อ(ตอนผมยังเป็นพระใครสึกก็เอาจีวรสบงมาแบ่งกันใช้จนเปื่อยก็มีครับตอนนั้นจีวรธรรมดาผืนละสามร้อยกว่าผ้าป่านดีหน่อยก็ห้าร้อยขึ้นครับ)
บันทึกการเข้า

สีกากีเป็นสีของดิน ข้าราชการควรต้องติดดิน ออกพื้นที่รับฟังปัญหาของชาวบ้าน ข้าราชการคือ ข้าที่ทำกิจการต่างๆให้กับพระราชา เครื่องแบบข้าราชการสีกากีคือสีแห่งข้ารับใช้แผ่นดิน
SillyOldMan
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1984
ออฟไลน์

กระทู้: 7567


ผ่านทะเล เห็นบึงน้ำไร้ความหมาย


« ตอบ #27 เมื่อ: พฤษภาคม 28, 2015, 03:30:45 AM »

นี่แหละครับ ครูบาอาจารย์สายวัดป่าจึง หลีกหนีปลีกวิเวกเข้าไปอาศัยอยู่ในป่าไม่สนใจลาภสักการะ ทั้ง ๆ ที่พระพุทธเจ้าสละทุกอย่างเพื่อมาบวช แต่เหล่าสาวกพุทธโอรสทั้งหลายกลับสร้างยศฐาบรรดาศักดิ์ขึ้นมาทั้งชั้น ราช ชั้นเทพ ชั้นพรหม ฯลฯ
จะว่าไปก็ถูกต้องตามนี้ครับ ผมไม่รู้ว่าวัดในเมืองวัดใหญ่ๆดังๆเค้ามีการดูแลจัดการสมบัติของวัดกันยังไงครับแต่ผมก็คิดว่าที่มันเกิดเป็นเรื่องเป็นราวอยู่ขณะนี้มันมาจากผลประโยชน์แฝงที่เกิดกับวัดในเมืองวัดใหญ่ๆดังนั่นแหละครับ วัดตามบ้านนอกชาวบ้านจะคัดเลือกกรรมการวัดมากำกับดูแลเรื่องเงินเรื่องทรัพย์สินต่างๆกันเองเจ้าอาวาสก็แค่รับทราบยอดเงินของวัดการเอาเข้าออกธนาคารทุกครั้งกรรมการวัดผู้ใหญ่บ้านจะร่วมกันรับผิดชอบถ้าทางพระอยากสร้างปรับปรุงอะไรก็เรียกกรรมการวัดผู้ใหญ่บ้านมาคุยกัน จากนั้นผู้ใหญ่บ้านก็เรียกชาวบ้านมาประชุมขอความเห็นชอบกันอีกที มันมีการควบคุมของชาวบ้านไว้เรียบร้อยจึงไม่ค่อยเกิดปัญหาอะไร รายได้ส่วนตัวของพระก็ใช่ว่าจะมากมายอะไรค่าสวดค่าอะไรอย่างเก่งก็ได้คืนสองสามร้อย(สมัยตอนผมบวชได้ซองละยี่สิบบาทครับ)ก็พอได้ค่านํ้าค่าไฟในวัดสบู่ยาสีฟันผงซักฟอกบางครั้งของที่ญาติโยมมาถวายหมดก็ต้องซื้อสบงจีวรก็ต้องซื้อ(ตอนผมยังเป็นพระใครสึกก็เอาจีวรสบงมาแบ่งกันใช้จนเปื่อยก็มีครับตอนนั้นจีวรธรรมดาผืนละสามร้อยกว่าผ้าป่านดีหน่อยก็ห้าร้อยขึ้นครับ)

ครูบาอาจารย์วัดป่าท่านไม่สนใจเงินเห็นด้วยครับ วันละบาตรเดียวก็จบแล้ว

บริขาร/เครื่องนุ่งห่มใช้กันต่ำๆสิบ-ยี่สิบปี ที่ได้เกินก็เอาไปถวายต่อหมด....เคยทำใจกล้าไปกะลิ้มกะเหลี่ยขอผ้ารองนั่ง(นิสิทนะ)จากอาจารย์ ท่านหัวเราะหึ หึ บอกอีกนานนนนนนนนน

เงินบริจาคถือเป็น"ของกลาง"มือไม่แตะ ใจก็ไม่แตะ

เห็นมีพระมาโต้ว่าต้องใช้เงินเป็นค่าเดินทางไปเรียน , ค่ากินฯลฯแล้วงง เดือนละสองหมื่น ท่านจะแด*นอกเวลาได้ยังไง แล้วหาไว้ผ่อนรถขับไปเรียนเองหรือไร?
บันทึกการเข้า

What man is a man , who does not make the world better?
หน้า: 1 [2]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.113 วินาที กับ 22 คำสั่ง