รวบอดีตรองผกก.บางรัก หลอกจ่ายเช็คเด้งซื้อทอง!

[เบิ้ม]

เวลา 13.00 น. วันที่ 8 มิ.ย. นายพิศ วิริยะอารีธรรม รองประธานสภาอบจ.พิจิตร ซึ่งเป็นนักธุรกิจบริษัทรับเหมาก่อสร้างและเป็นเจ้าของตลาดสดในเขต อ.สากเหล็ก จ.พิจิตร ได้เดินทางเข้ามาแจ้งความ กับ พ.ต.อ.ศิริโชค ธเนศราภา ผกก.สภ.เมืองพิจิตร ว่า ตนเองเป็นลูกค้าของธนาคารกรุงไทย และเป็นเจ้าของบัญชีกระแสรายวัน ธนาคารกรุงไทย สาขาพิจิตร
 
 ปรากฏว่ามี น.ส.กัญญ์ณณัฐ บุญอยู่ อายุ 35 ปี ชาวพิจิตร ซึ่งเคยเป็นเสมียนการเงินของบริษัทตน แต่ลาออกไป 3-4 เดือนแล้ว ได้แอบขโมยสมุดเช็คไป 2 เล่ม แล้วนำไปปลอมลายเซ็นเช็คเป็นชื่อตน ก่อนไปขอเบิกเงินกับทางธนาคารกรุงไทย สาขาราษฎร์อุทิศ สาขาสากเหล็ก จำนวน 14 ฉบับ จำนวนเงิน 5,190,000 บาท ธนาคารกรุงไทยสาขาพิจิตรอีก 4 ฉบับ จำนวนเงิน 1,120,000 บาท รวมทั้ง 2 ธนาคาร เป็นเงิน 6,310,000 บาท ซึ่งไม่ทราบว่าทางธนาคารให้เบิกเช็คไปได้อย่างไร ทั้งที่ลายมือชื่อการเบิกเงินนั้น ไม่เหมือนลายมือของตนเองเลย             
                                                 
 ตนทำหนังสือไปยังทางธนาคารทั้ง 2 สาขา แต่ไม่ได้รับคำตอบแต่อย่างใด ทั้งที่เป็นความบกพร่องของธนาคารและไม่รับผิดชอบอะไร ขณะนี้เป็นระยะเวลานานถึง 2 เดือนแล้ว ทางธนาคารยังเพิกเฉย ไม่ติดต่อหรือแสดงความรับผิดชอบ ทั้งที่เป็นข้อบกพร่องของธนาคาร และยังไม่ยอมคืนเงินให้กับตน ทำให้ตนได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรงด้านธุรกิจ การเดินทางมาร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในครั้งนี้ เพื่อให้ธนาคารออกมารับผิดชอบ ในเบื้องต้นตำรวจได้รับแจ้งความไว้
 
 ด้านนายสมชาย วทัญญูคุณากรณ์ ทนายความส่วนตัวของนายพิศ กล่าวว่า เรื่องนี้ธนาคารจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ เนื่องจากเป็นความบกพร่องของพนักงาน ซึ่งตนจะได้ดำเนินการฟ้องร้องเอาผิดกับผู้บริหารของธนาคารกรุงไทย ว่าต้องรับผิดชอบชดใช้เงินจำนวนดังกล่าวให้กับ สจ.พิศ เพราะเหตุการณ์ครั้งนี้มีกรณีศึกษาที่คล้ายกับเรื่องของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.)
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1433756578

[carrera]

ก่อนไปขอเบิกเงินกับทางธนาคารกรุงไทย สาขาราษฎร์อุทิศ สาขาสากเหล็ก จำนวน 14 ฉบับ จำนวนเงิน 5,190,000 บาท ธนาคารกรุงไทยสาขาพิจิตรอีก 4 ฉบับ จำนวนเงิน 1,120,000 บาท รวมทั้ง 2 ธนาคาร เป็นเงิน 6,310,000 บาท ซึ่งไม่ทราบว่าทางธนาคารให้เบิกเช็คไปได้อย่างไร ทั้งที่ลายมือชื่อการเบิกเงินนั้น ไม่เหมือนลายมือของตนเองเลย

กรุงไทยอีกแล้ว   ทุจริตภายในหรือเปล่า