๏ฟฝ๏ฟฝ็บบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝสน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาปืน
เมษายน 20, 2024, 01:56:25 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2 3 4 5
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ประสบการณ์กินอาหารป่า หรือเปิบพิสดาร..  (อ่าน 7503 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
R2D2
ท้าเยาะเย้ยทุกข์ยากขวากหนามลำเค็ญ
Hero Member
*****

คะแนน 370
ออฟไลน์

กระทู้: 6107



« เมื่อ: มกราคม 26, 2015, 03:26:42 PM »

ผมอ่านเจอคนกะเหรี่ยงกินแกงขี้ค่าง..อยากรู้จังว่าเป็นยังไง ลองค้นดูในกูเกิ้ล พบเอาคอมเม้นนี้จากเว็บบอร์ด Mannager Online ..ท่านที่มีประสบการณ์ "เปิบ"น่าสนใจ..เชิญมาแจมกันครับ   
จ้าาา...ป้าาา...มาแล้วจ้าาา...กระพ้ม มาแล้วจ้า...(มาสายแล้วยังซุ่มซ่ามอีก เมื่อคืนใช้เวลา ๒ ชั่วโมง นั่งจิ้มดีด เรื่องราวอาหารพิสดารทั้งหลายทั้งปวง..สองยามง่วงนอนจัด กดปุ่มผิด รีเฟรช หายจ้อย จ๋อยไปเลย..)

ก่อนอื่นต้องออกตัวว่า ประสบการณ์อาหารพิสดารทั้งหลายทั้งปวงนี้ มีความจำเป็นในชีวิต ที่ต้องไปเร่ร่อนในเขตป่าเขาหลายปี และที่ไปลาดตระเวนกินอยู่พิสดารนั้น เพราะเป็นเขตป่าดงดิบดึกดำบรรพ์ทีว่ากันว่าเป็นพื้นที่ซึ่ง พนมเทียนมาล่าสัตว์แล้ว เกิดแรงบันดาลใจ ในเป็นจินตภาพในการเขียนเรื่องเพชรพระอุมา

พื้นที่เขตรอยต่อทิวเทือกถนนธงชัย กับ เทือกเขาตะนาวศรี ฟากฝั่งตะวันตก เป็นที่อยู่อาศัยของชุมชนชาวเขาเผ่าหนึ่ง ที่ซุกตัวอยู่อย่างเงียบสงบแถบนั้นมานานกว่า ๒๐๐ ปี โดยมีฤาษี(มีจริง ตัวเป็นๆ อยู่บ้าน ไล ทัง คุ )ที่เป็นทั้งประมุข ผู้นำชุมชน และ ศาสดาของลัทธิฤาษี"จงยุ" ที่มีความเชื่ออยู่อย่างว่า ไม่กินอาหารที่เป็นสัตว์เลี้ยง โดยฝากชีวิตใว้กับอาหารที่มีอยู่ตามธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์เท่านั้น

ผมก็เลยเพลิดเพลินไปกับหาอยู่หากิน อาหารป่าปีละ ๓๖๕ วัน คูณ ๓ มื้อครับ...นับเป็นความชอบธรรมที่ท่านนักอนุรักษ์ฯ ยากจะตำหนิติติงได้...อิอิ

สัตว์ป่าตัวแรกรูปร่างเร้าใจมาก ตัวเป็นเกล็ดหนาคล้ายโล่ห์อัศวินโบราณ พอจวนตัวม้วนตัวจนกลมดิก..ใช่ ครับ มื้อแรกคือ ตัวนิ่มผัดเผ็ดพริกกะเหรี่ยง...ความทรงจำลางเลืองว่า...สาปและเนื้อเหนียวหนังเคี้ยวกรุบๆ อร่อยดี...

ไม่เข้าใจว่า คนจีนบอกว่า ตัวนิ่มกินแล้วโด๊ปยังไง? เพราะคืนนั้นหลับสบายดี...

ความทรงจำถัดมา ชาวบ้านหยิบกระบอกไม้ไผ่ขนาดใหญ่มาผ่าออก เนื้อร้าที่พร้อมจะทำแกงนั้นเป็นเนื้อกวางที่ว่ากันว่าแสนอร่อย..แต่กลิ่นเนื้อร้านัั้นสุดๆเลย...ชาวบ้านเขี่ยดูเจ้าตัวเล็กขาวนวลยั๊วเยี๊ยะที่กระจุกอยู่ด้านบน พลางบอกว่า..อ้วนพอดีกินแล้วละ...ผม ผงะ เขาหัวเราะแล้วบอกว่า เจ้าหนอนอ้วนนี้บ่งชี้ว่าเนื้อกวางหมักร้าได้ที่พอดีกิน..ผมกลืนน้ำลายเอื้อก...นึกว่าต้องกินหนอนอ้วนเห่ลานั้น...

ส่วนกลิ่นนั้นที่สุดๆ เพราะวิธีหมักร้าไม่เหมือนบ้านเรา เค้าเอาเนื้อใส่กระบั้งไม่ไผ่ ทิ้งผึ่งไว้สี่ห้าวันจนหนอนขึ้นปากกระบอก จึงเทเนื้อกวางออกมาคลุกเครื่องปรุง รำข้าว และเกลือ แล้วบรรจุเข้าไปใหม่ เก็บไว้กินได้นานเป็นปี...นี้มันเนื้อเน่าหมักนี่หว่า ? ผมบอกกับตัวเอง...ขระที่บ้านเราเอาปลาหรือเนื้อสดมาคลุกเครื่องปรุง รำ เกลือ แล้วค่อยหมัก..จึงไม่มีกลิ่นสนั่นไปทั้งคุ้งแบบนี้...

พอเอาเนื้อมาทำอาหาร ที่ขึ้นชื่อและเป็นเอกลักษณ์รับแขกเลยคือ แกง "ต๊ะกะโปะ" ส่วนชื่อที่พวกเรา เรียกกันลับหลังเจ้าของบ้านคือ "แกงรากแมว" หรือ แกงอ๊วกแมว นั่นเอง...

รุปร่างหน้าตา เจ้าแกงรากแมวนี่ ก็เหมือนชื่อสมญานามนั่นแหละ...น้ำแกงเคี่ยวข้นจนเหนียวคล้ายโจ๊กกับลาดหน้าแต่มีข้าวสุกใส่แทนผัก สีเหลืองด้วยขมิ้นปนแดงพริกตำละเอียด ซึ่งดูรวมๆน่าจะเป็นอ๊วกแมวที่ป่วยเป็นโรคช้ำใน เพราะสีน้ำแกงเหนียวข้นปนข้าวสุกนั้นช้ำเลือดช้ำหนองมาก

เวลาตักกินแต่ละคำนี่คุณย่าประทัดเอ๊ย...ลืมกะเพราะปลาพิสดารของย่าเลย..รสชาดดี กลมกล่อม แต่กลิ่น สี นี่สิ..สุดๆ เนื้อกว้างร้านั้นผมหลีกเลี่ยงที่จะตัก แต่เจ้าของบ้านเค้าใจดี คิดว่าเราเกรงใจ เลยแย่งตักเนื้อกวางเน่า..เอ๊ยร้า..ใส่จานเราจนเพียบเลย...

คืนนั้น กลางดึก ต้องตื่นขึ้นมา ระบายแกงรากแมวแปลงสภาพเป็นแกงรากอสูร...โอ๊กอ้าก...อยู่เป็นนาน...

เมนูต่อไป...

อาหารฮ่องเต้ครับ...ในป่าดงดิบสัตว์ป่าที่คนบนนั้นกลัวที่สุดคือ หมี ไม่ใช่เสือ...เพราะเสือจะไม่ทำร้ายคนก่อนนอกจากถูกล่า จวนตัว หรือหวงลูก...แต่หมีนี่ เจอคนเมื่อไหร่...วิ่งใส่ไม่ยั้ง ดังนั้น ลืมเทดดี้ แบร์ หรือหมีพูห์ อ้วนจ้ำม่ำน่ารักได้เลย..เจอหมีควายวิ่งเข้าใส่เกือบตายหลายครั้ง..แต่ทุกครั้งที่หยุดมันได้ บำเน็จ ชีวิตที่ต้องแลกคือ ฝ่าเท้า ๔ ข้าง..

กลับมาที่พัก ผู้อาวุโสท่านหนึ่ง เคยไปร่ำเรียนอยู่กินเมืองจีนมาหลายสิบปี จะมีทีเด็ดในการประยุกต์วัตถุดิบที่หาได้มาทำอาหารในสูตรอาหารฮ่อเต้ทานกันเป็นประจำ โดยท่านจะแอบซุกเครื่องเทศ เครื่องปรุงขึ้นไปหลายอยู่...

เมนูวันนั้น คือ พะโล้อุ้งตีนหมี ครับท่าน...ลืม คากิ ไปก่อนเลยเช่นกัน เพราะตีนหมู กับ ตีนหมี นั้นเหมือน รถตุ๊ก กับ รถถัง...นั่นเองครับ...

เมนูอาหารระดับฮ่องเต้(ประยุกต์) อื่นๆ อาทิเช่น ต้มยำงวงช้าง  , เนื้อกระทิงย่างรมควันจิ้มแจ่ว , ผัดฉ่าชะมด ฯลฯ ใว้โอกาสหน้าจะมาสาธยาย...

มาเฉลยคำถามรื่อง "พญาพันยอด" ดีกว่า....

แน่นอนย่อมหมายถึงสัตว์ป่าชนิดหนึ่ง ซึ่งอาศัยอยู่บนต้นไม้ มีหางยาว ขนยาวดูะสะอาดกว่าสัตว์ในตระกูลใกล้เคียงกัน...และที่สำคัญ คือหากินอยู่บนยอดไม้เท่านั้น...

ลิง ไม่ใช่ ไม่มีหาง และกินทั้งใบไม้ ลูกไม้ ตลอดจนจับสัตว์เล็กๆบนพื้นดินกินด้วย

ชะนี ไม่ใช่ หางยาว แต่กินลูกไม้ และะสัตว์ แมลงบางชนิดบ้างในบางครั้ง....

แต่ พญาพันยอด นั้นอยู่สูงสุดในตระกูลเดียวกัน คือยอดไม้ และกินอาหารเพียงอย่างเดียวคือยอดอ่อนของไม้ป่าดงดิบ มันจะเลาะกินยอดไม้ไปเรื่อยเป็นร้อยเป็นพันชนิดครับ จึงเรียกว่า พญาพันยอด

ค่าง ครับ คือ พญาพันยอด...

แล้วเป็นสุดยอดของเมนูเปิบพิสดารของผมยังไง ?
ตอนที่ได้ลิ้ทลองครั้งแรก ผมก้ผ่าน อาหาร เนื้อลิง เนื้อชะนี มาแล้ว ทีแรกก็รู้สึกเฉยๆ ไม่ตื่นเต้นนัก

พอชาวบ้านตักแกงรูปร่างหน้าตาแปลก คล้ายแกงป่าบ้านเรา มีผักหลายชนิด และเนื้อค่างหั่นเป็นปกติมาตั้งกลางสำรับ

แต่ที่ไม่ปกติ คือ กลิ่นครับ.....กลิ่นที่คุ้นเคย...แต่ไม่น่ามาตอนนั้น และที่ตรงนั้น...ไม่ใช่กลิ่นเนื้อร้าด้วยครับ...แต่เราคุ้นเคยยิ่งกว่า...

กลิ่นยิ่งแรงขึ้น เมื่อเจ้าบ้านยกชุดผักจิ้มน้ำพริกมาชุดใหญ่ พร้อมอาหารพิเศษ เป็นก้อนเหนียวๆ สีคล้ำๆ ชาวบ้านชวนกิน บอกเป็นยา ขมนิดหน่อย ผมจ้วงน้ำแกงซดโฮกใหญ่..รสชาด สุดยอด เข้มข้น แต่ออกขมนิดๆ คล้ายใส่ดีลงไป..แต่กลิ่นจากน้ำแกงนั้นรบกวนจิตใจผมมาก..กลิ่นคุันเคยจริงๆ..

ผมรีบจ้วงเจ้าก้อนเหนียวๆ นั้นเข้าปากเต็มคำ....อ็อกๆๆ...ติดคอครับ จะสำลัก กลิ่นฉุนสุดอยู่ในปากผมนี่เอง...เจ้าบ้าน สามสี่คนจ้องมองผมตาไม่กระพริบๆ ทั้งลุ้นเอาใจช่วยให้ผมผ่านนาทีอันเลวร้ายนี้ไปให้ได้..

ด้วยความเกรงใจอันสุดซึ้ง ผมพยายามรวบรวมพลังใจทั้งหมดที่มีในนาทีนั้น ส่งพลังผ่านไผยังกรามทั้งสองข้างเพื่อกดบดขบเคี้ยงเอื้องเจ้าสิ่งพิเศษในปากอย่างยากลำบาก กลั้นหายใจนานที่สุดในชีวิต(ประมาณว่าถ้าดำน้ำข้ามคลองบางกอกน้อยได้เลย) แล้วรับรู้รสชาดขมพิสุทธิ์ ขื่น และหยาบเหมือนมีส่วนประกอบของดินทรายด้วย....

ก่อนรวมพลังทั้งหมดกลืนคำแรกนั้นลงคอพร้อนมกลิ่นตลบอบอวลของมัน...แล้วซดน้ำแกงตามลงคออย่างบ้าคลั่ง...

แม้พอรู้ว่ามันคืออะไร ? จากกลิ่นที่คุ้นเคย..เหมือนกลิ่นของของเราเลยครับ...

พี่น้องกะเหรี่ยง อธิบายว่า ค่าง เป็นสัตว์สะอาด กิน นอนอยู่แต่บนยอดไม้ เป็นสัตว์มังสวิรติ และกินแต่ยอดไม้ที่เป็นแหล่วงรวมสารอาหารชั้นยอด คนโบราณจึงถือว่า ค่าง  ได้ผลิตส่วนประกอบหนึ่งที่นำมาทำอาหาร เป็นยานิดหนึ่ง.....

" ใช่มั๊ย ? ใช่ ใช่มั๊ย?" ผมถามยืนยัน ก่อนขอตัวลงไปสำรากที่ตีนบันไดแบบเลิกเกรงใจเจ้าของบ้าน...

ก็แต่ก่อน เคยกินแกงใส่เพี๊ยะ หรือใส้อ่อน หรือขี้อ่อน วัวพอขมกลมกล่อม....

แต่ที่เจอวันนั้น ของท่านพญาพันยอด นั้นมันคือ "ขี้" ขี้เหมือนขี้คนดีๆนี่เอง กลิ่นเดียวกันเปะ และเป็น ขี้ค่าง เพียวๆ ไม่มีส่วนผสมอื่นใด เคี้ยวกรอบๆ เพราะเป็น ขี้แก่ ที่เกือบจะหลุดออกรูตูดของค่างอยู่แล้ว...

โอ้โฮ..พี่น้อง..กว่าสามสิปีแล้ว เล่าเรื่องนี้ทีไร กลิ่นติดจมูกขึ้นมาทันใด...เอวัง ก็เป็นด้วยประการฉะนี้ละขอรับ

ขี้ค่างสด...พิสดารพอมั๊ย???  จบข่าว. 
 15 กรกฎาคม 53 16:04 
 
 
 
 
 
บันทึกการเข้า
Nero Angel01
Hero Member
*****

คะแนน 275
ออฟไลน์

กระทู้: 3048


« ตอบ #1 เมื่อ: มกราคม 26, 2015, 04:13:20 PM »

ขอบคุณครับ ผมคงผอมไประยะหนึ่งเพราะกระทู้นี้
บันทึกการเข้า
R2D2
ท้าเยาะเย้ยทุกข์ยากขวากหนามลำเค็ญ
Hero Member
*****

คะแนน 370
ออฟไลน์

กระทู้: 6107



« ตอบ #2 เมื่อ: มกราคม 26, 2015, 04:17:22 PM »

ขนาดแกงใส่ขี้เพี้ย..แหมผมยังขยาด ๆ เลยครับ(คือเพิ่งมารู้จักเอาตอนโตแล้ว)
บันทึกการเข้า
TakeFive
Sr. Member
****

คะแนน 171
ออฟไลน์

กระทู้: 794


« ตอบ #3 เมื่อ: มกราคม 26, 2015, 04:27:41 PM »

อ่านย่อหน้าสุดท้าย แทบจะอ้วกกาแฟที่พึ่งกินออกมาเลย
บันทึกการเข้า
แปจีหล่อ คนสันขวาน
Hero Member
*****

คะแนน 6335
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8369



« ตอบ #4 เมื่อ: มกราคม 26, 2015, 05:10:37 PM »

 คิก คิก น่าจะเป็นหมู่บ้านเลตองคุอุ้มผาง
บันทึกการเข้า

สีกากีเป็นสีของดิน ข้าราชการควรต้องติดดิน ออกพื้นที่รับฟังปัญหาของชาวบ้าน ข้าราชการคือ ข้าที่ทำกิจการต่างๆให้กับพระราชา เครื่องแบบข้าราชการสีกากีคือสีแห่งข้ารับใช้แผ่นดิน
แสนสุข
Hero Member
*****

คะแนน 171
ออฟไลน์

กระทู้: 1291



« ตอบ #5 เมื่อ: มกราคม 26, 2015, 05:35:55 PM »

  ยี๊ ยี๊ ยี๊ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก
บันทึกการเข้า

worth
Hero Member
*****

คะแนน 474
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3069


« ตอบ #6 เมื่อ: มกราคม 26, 2015, 07:59:08 PM »


  สงสัยเจอเมนู  ลิงหมักเพลี้ย......
บันทึกการเข้า

รักเธอ....ประเทศไทย
rute - รักในหลวง
Forgive , But not Forget .
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1990
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 22741


"ผลิดอกงามแตกกิ่งใบ..."


« ตอบ #7 เมื่อ: มกราคม 26, 2015, 08:30:18 PM »

เกิดมาเพิ่งเคยได้ยินนี่แหละครับ... Shocked
บันทึกการเข้า
hangseri - รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน -154
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1105


มนุษย์ไม่ได้เกิดมาเพื่อความพ่ายแพ้


« ตอบ #8 เมื่อ: มกราคม 26, 2015, 08:52:57 PM »

ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า
สีอำพัน-รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 258
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4433



« ตอบ #9 เมื่อ: มกราคม 26, 2015, 09:38:25 PM »

ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า

อันวันใดไม่สำคัญเท่าวันนี้ เป็นวันที่สำคัญกว่าวันไหน
อันวันนี้สำคัญกว่าวันใด  วันไหนไหนไม่สำคัญเท่าวันนี้
คมขวาน รักในหลวง
"จากดินแดนที่ราบสูงแห่งใบขวาน ข้ามแม่น้ำ ข้ามทะเล(ถ้านั่งเครื่อง) ข้ามภูเขา สู่ดินแดนแห่งด้ามขวาน "
Hero Member
*****

คะแนน 1830
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 19896


ดนตรี คืออาภรณ์ของปราชญ์


เว็บไซต์
« ตอบ #10 เมื่อ: มกราคม 26, 2015, 09:44:16 PM »

        เนื้อเสือ
เนื้อช้าง เนื้อม้า ฯลฯ
ที่ผมเคยกิน เด็ก ๆ ไปเลยครับ เศร้า อ๋อย อ๋อย อ๋อย
บันทึกการเข้า

คลิ๊ก ทริปจักรยาน   "บินเดี่ยว ทางไกล ตามใจฝัน"     ลูกอิสาน พลัดถิ่น  จากแดนดิน  "ไหปลาแดก"  เร่ร่อน รอนแรม เดินทางดั้นด้น  มาสู่  "โคนต้นสะตอ"
vichai01++รักในหลวง++
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 111
ออฟไลน์

กระทู้: 2779



« ตอบ #11 เมื่อ: มกราคม 26, 2015, 09:48:48 PM »

ขออนุญาต + ครับ  ไหว้
บันทึกการเข้า

คาถาป้องกันภัยพิบัติทั้งปวง
ปะโตเมตัง ปะระชิวินัง สุขะโต จุติ
จิตะเมตะ นิพพานัง สุขะโตจุติ
lek
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1594
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 13941


การแบ่งปัน ทำให้เราและคนอื่นมีความสุข


« ตอบ #12 เมื่อ: มกราคม 26, 2015, 11:28:29 PM »

เคยเจอคนยกถ้วยแจ่วขี้เพลี้ยไปกินวงอื่น  เพื่อนผมไปเอาขี้วัวที่เอาออกจากลำใส้ใหญ่มาใส่แทน  ดูแล้วก็ขี้ล่ะครับไม่ค่อยขมเท่าไหร่  ฮา
บันทึกการเข้า

มีความสุขแบบที่เรามีก็พอhttp://www.gunsandgames.com/smf/index.php?board=29.0  (รวมพลคนอีสาน)
SillyOldMan
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1984
ออฟไลน์

กระทู้: 7567


ผ่านทะเล เห็นบึงน้ำไร้ความหมาย


« ตอบ #13 เมื่อ: มกราคม 26, 2015, 11:35:49 PM »

เคยอ่านเจอ"น้ำปลาลิง"ครับ

เขาเอาลิงไปผ่าท้องควักไส้ออก ยัดเกลือเข้าไป เย็บปิดให้ดีแล้วก็แขวนผึ่งลมไว้

พอได้ที่ก็ตัดหางให้ของเหลวในตัวหยดออกมา ใช้เป็นน้ำปลาของชาวป่า
บันทึกการเข้า

What man is a man , who does not make the world better?
carrera
กินลูกเดียวเที่ยวสองลูก
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2357
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 88163


« ตอบ #14 เมื่อ: มกราคม 27, 2015, 04:12:37 AM »

ไม่นิยมของป่าขนาดนั้นครับ Grin Grin Grin กลัว 555555555
บันทึกการเข้า

เนื้อร้ายตัดทิ้ง
www.ipscthailand.com
หน้า: [1] 2 3 4 5
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.068 วินาที กับ 21 คำสั่ง