๏ฟฝ๏ฟฝ็บบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝสน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาปืน
เมษายน 27, 2024, 05:55:34 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ขออนุญาตสอบถามคดีสัญญาชดใช้ทุนการศึกษา  (อ่าน 1186 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
p23-504 รักในหลวง
Sr. Member
****

คะแนน 82
ออฟไลน์

กระทู้: 545


« เมื่อ: มกราคม 02, 2016, 11:04:10 PM »

เจ้าหน้าที่ อบต.ขอทุนเรียนต่อระดับ ป.ตรี  นายก ปลัด  ชุดเก่าอนุญาติให้ทุน โดย ปลัดเป็นผู้ค้ำประกัน  พอเรียนจบนายกครบวาระ  ปลัดย้ายไปที่อื่น  เจ้าหน้าที่คนนี้ยังรับราชการชดใช้ทุนไม่ครบตามสัญญา  แต่ได้ขอโอนย้ายไปรับราชการต่างกรม  นายกคนใหม่  ปลัดคนใหม่  ก็อนุญาติให้โอนย้ายได้   ต่อมาในภายหลังพบว่ายังรับราชการชดใช้ทุนไม่ครบตามสัญญา  จึงได้แจ้งให้ชดใช้ทุนพร้อมค่าปรับ  แต่เจ้าตัวเพิกเฉย  จึงได่้ยื่นเรื่องฟ้องศาลปกครอง  ขอให้ชดใช้ทุนตามสัญญา รวมทั้งปลัดที่เป็นคนค้ำประกันในฐานะผู้บังคับบัญชา  ขออนุญาตเรียนถามว่าคดีแบบนี้เป็นคดีที่อยู่ในอำนาจศาลปกครองหรือไม่  และนายกคนใหม่  กับปลัดคนใหม่ไม่ตรวจสอบให้ดี อนุญาตให้โอนย้ายไปได้ จะโดนข้อหาละเลยการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่  เพราะไม่ตรวจสอบให้ดีพอมีเรื่องดันไปยื่นฟ้องปลัดคนเก่าที่เป็นผู้ค้ำประกันซึ่งได้ค้ำประกันทุนการศึกษาในฐานะผู้บังคับบัญชาของผู้รับทุน
บันทึกการเข้า
rambo1th
Hero Member
*****

คะแนน 142
ออฟไลน์

กระทู้: 1349


« ตอบ #1 เมื่อ: มกราคม 02, 2016, 11:38:49 PM »

คำวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล   ที่ 6/2547
      ปัญหาที่จะต้องพิจารณา คือ คดีที่หน่วยงานทางปกครองฟ้องข้าราชการแพทย์ในสังกัดให้รับผิดตามสัญญาลาศึกษาหรือฝึกอบรม เป็นข้อพิพาทอันอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรมหรือศาลปกครอง
      คณะกรรมการพิจารณาแล้วเห็นว่า เหตุแห่งการฟ้องคดีนี้ สืบเนื่องมาจากที่หน่วยงานของรัฐยื่นฟ้องข้าราชการในสังกัด ซึ่งทำสัญญาลาศึกษาหรือฝึกอบรม โดยตกลงว่าเมื่อสำเร็จการศึกษาหรือฝึกอบรมแล้ว จะเข้าปฏิบัติราชการชดใช้ทุนตามระยะเวลาที่กำหนดเอาไว้ในสัญญา แต่หากไม่สามารถกลับเข้าปฏิบัติราชการได้ จำเลยจะต้องชดใช้เงินและเบี้ยปรับเป็นจำนวนไม่น้อยกว่า ๒ เท่า ของเงินทุน เงินเดือน เงินเพิ่มหรือเงินค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ได้รับในระหว่างการลาศึกษาหรือฝึกอบรม หรือหากกลับมาแต่ปฏิบัติราชการได้ไม่ครบกำหนดจะยินยอมชดใช้เงินคืนแก่โจทก์โดยลดลงตามส่วน
      พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๓ และมาตรา ๙ วรรคหนึ่ง (๔)  บัญญัติให้ศาลปกครองมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีพิพาทเกี่ยวกับสัญญาทางปกครอง ซึ่งสัญญาทางปกครองหมายความรวมถึง “สัญญาที่คู่สัญญาอย่างน้อยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
เป็นหน่วยงานทางปกครองหรือเป็นบุคคลซึ่งกระทำแทนรัฐ และมีลักษณะเป็นสัญญาสัมปทาน สัญญาที่ให้จัดทำบริการสาธารณะ หรือจัดให้มีสิ่งสาธารณูปโภคหรือแสวงประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ”  คดีนี้โจทก์ซึ่งเป็นหน่วยงานทางปกครองยื่นฟ้องข้าราชการในสังกัด เนื่องจากการไม่ปฏิบัติตามสัญญาลาศึกษาหรือฝึกอบรมที่จำเลยได้กระทำไว้ต่อโจทก์ ซึ่งกำหนดว่าภายหลังจากที่จำเลยสำเร็จการศึกษาหรือฝึกอบรมแล้ว จะต้องกลับเข้าปฏิบัติราชการให้แก่หน่วยงานในสังกัดของโจทก์ตามระยะเวลาที่กำหนดเอาไว้ในสัญญา สัญญาดังกล่าวมีวัตถุแห่งสัญญาคือการให้จำเลยกลับมาปฏิบัติราชการในตำแหน่งแพทย์ เพื่อดำเนินการหรือมีส่วนร่วมในการรักษาพยาบาล อันเป็นการจัดทำบริการสาธารณะอย่างหนึ่งที่รัฐจะตัองจัดให้มีขึ้น  ดังนั้น สัญญาระหว่างโจทก์และจำเลยจึงมีลักษณะเป็นสัญญาทางปกครอง  พฤติการณ์ที่จำเลยขอลาออกจากราชการและยินยอมรับผิดชดใช้เงินให้แก่โจทก์ตาม
สัญญานั้น ก็เป็นการปฏิบัติการชำระหนี้วิธีหนึ่งตามที่สัญญากำหนดเอาไว้เท่านั้น หาได้ทำให้สัญญาซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักที่ให้จำเลยกลับมารับราชการในตำแหน่งแพทย์เปลี่ยนไปไม่  เมื่อคดีนี้เป็นกรณีพิพาทเนื่องจากการเรียกร้องให้จำเลยชำระเงินตามสัญญาลาศึกษาหรือฝึกอบรม จึงเป็นเรื่องที่จำต้องพิจารณาวินิจฉัยถึงสิทธิและหน้าที่ของโจทก์และจำเลยตามสัญญาพิพาทซึ่งเป็นสัญญาทางปกครอง
คดีจึงอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครอง ตามมาตรา ๙ วรรคหนึ่ง (๔) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒
      จึงวินิจฉัยชี้ขาดว่า คดีฟ้องขอให้รับผิดตามสัญญาลาศึกษาหรือฝึกอบรม ระหว่าง สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข โจทก์ และจำเลย อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครอง ซึ่งในคดีนี้ได้แก่ ศาลปกครองกลาง
**********************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************
                 ข้อ 2.  นายกคนใหม่  กับปลัดคนใหม่ไม่ตรวจสอบให้ดี อนุญาตให้โอนย้ายไปได้ จะโดนข้อหาละเลยการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่   กรณีนี้ก็ขึ้นกับข้อเท็จจริงนะครับว่าจงใจ หรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงหรือไม่  หากส่งผลให้ทางราชการได้รับความเสียหาย ก็ใช้หลักความรับผิดทางละเมิดมาปรับใช้
บันทึกการเข้า
p23-504 รักในหลวง
Sr. Member
****

คะแนน 82
ออฟไลน์

กระทู้: 545


« ตอบ #2 เมื่อ: มกราคม 02, 2016, 11:48:34 PM »

ขอบคุณครับ   ไหว้
บันทึกการเข้า
p23-504 รักในหลวง
Sr. Member
****

คะแนน 82
ออฟไลน์

กระทู้: 545


« ตอบ #3 เมื่อ: มกราคม 04, 2016, 09:11:59 PM »

ขออนุญาตสอบถามเพิ่มเติมนะครับ   กรณีนี้ทางปลัดคนเก่าในฐานะผู้ค้ำประกันโดยตำแหน่ง   จะต่อสู้คดีอย่างไรได้บ้างครับ   เพราะในตอนที่จะให้โอนนั้น  ทั้งหัวหน้าสำนักปลัด  รองปลัด และ ปลัดคนปัจจุบัน  ก็ได้ลงนามในหนังสือรับรองบุคคลว่าไม่มีหนี้สินผูกพันธ์กับทางราชการ  ยินดีให้โอน  นายกคนใหม่ลงนามในหนังสือให้โอนรับรองว่าไม่มีหนี้สินผูกพันธ์เช่นเดียวกัน
ปลัดคนที่ค้ำประกันไม่ได้รู้เรื่องนี้  ถ้ารู้ก็คงแจ้งทักท้วงในฐานะผู้ค้ำประกันสัญญาแล้ว 
บันทึกการเข้า
ค..ควาย...ใส่ชฎา
Hero Member
*****

คะแนน -15861
ออฟไลน์

กระทู้: 13585


No justice No peace


« ตอบ #4 เมื่อ: มกราคม 04, 2016, 09:15:51 PM »



ขออนุญาตสอบถามเพิ่มเติมนะครับ   

กรณีนี้ทางปลัดคนเก่าในฐานะผู้ค้ำประกันโดยตำแหน่ง   จะต่อสู้คดีอย่างไรได้บ้างครับ   

เพราะในตอนที่จะให้โอนนั้น  ทั้งหัวหน้าสำนักปลัด  รองปลัด และ ปลัดคนปัจจุบัน 

ก็ได้ลงนามในหนังสือรับรองบุคคลว่าไม่มีหนี้สินผูกพันธ์กับทางราชการ  ยินดีให้โอน 

นายกคนใหม่ลงนามในหนังสือให้โอนรับรองว่าไม่มีหนี้สินผูกพันธ์เช่นเดียวกัน

ปลัดคนที่ค้ำประกันไม่ได้รู้เรื่องนี้  ถ้ารู้ก็คงแจ้งทักท้วงในฐานะผู้ค้ำประกันสัญญาแล้ว 



55555  ยายว่าแค่โดน  " เลินเล่อ "  ปรับวินัย  ไม่ต้องผูกพัน กับคดีแพ่ง เพราะไม่ได้ประโยชน์ อ่ะฮา 555
บันทึกการเข้า

หัว...ฆรวย

หัวโขนมิวางออก              เจ้าหลงครอบไปทุกที่
อ่าองค์ว่าโสภี                  นฤดีปริ่มเปรมใจ
ลืมไปว่าที่ครอบ                ต้องวางออกนหทัย
สวมครอบตัวตนไว้             ก็แค่ควายใส่ชฎา
p23-504 รักในหลวง
Sr. Member
****

คะแนน 82
ออฟไลน์

กระทู้: 545


« ตอบ #5 เมื่อ: มกราคม 04, 2016, 09:26:22 PM »



ขออนุญาตสอบถามเพิ่มเติมนะครับ   

กรณีนี้ทางปลัดคนเก่าในฐานะผู้ค้ำประกันโดยตำแหน่ง   จะต่อสู้คดีอย่างไรได้บ้างครับ   

เพราะในตอนที่จะให้โอนนั้น  ทั้งหัวหน้าสำนักปลัด  รองปลัด และ ปลัดคนปัจจุบัน 

ก็ได้ลงนามในหนังสือรับรองบุคคลว่าไม่มีหนี้สินผูกพันธ์กับทางราชการ  ยินดีให้โอน 

นายกคนใหม่ลงนามในหนังสือให้โอนรับรองว่าไม่มีหนี้สินผูกพันธ์เช่นเดียวกัน

ปลัดคนที่ค้ำประกันไม่ได้รู้เรื่องนี้  ถ้ารู้ก็คงแจ้งทักท้วงในฐานะผู้ค้ำประกันสัญญาแล้ว 



55555  ยายว่าแค่โดน  " เลินเล่อ "  ปรับวินัย  ไม่ต้องผูกพัน กับคดีแพ่ง เพราะไม่ได้ประโยชน์ อ่ะฮา 555

ยาย  ไม่ได้ประโยชน์แต่ทำให้ทางราชการได้รับความเสียหาย  วินัยร้ายแรงนะครับยาย   โดนปลดกันมาเยอะแล้วครับ   ไหว้
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.114 วินาที กับ 22 คำสั่ง