กฎหมายเด็กทำให้ตำรวจทำงานยากขึ้นครับ พอจับเด็กแล้วต้องส่งศาลภายใน24ชั่วโมงและต้องไปเบิกความประกอบการจับด้วย ผิดกับการจับผู้ใหญ่ส่งศาลภายใน48ชั่วโมงและไม่ต้องเบิกความเกี่ยวกับการจับรอเบิกความวันสืบพยานเลย ผมคิดว่านักสิทธิมนุษชนไม่ค่อยเข้าใจการทำงานของตำรวจและอาชญากรรมในประเทศเราตอนนี้มีแนวโน้มสูงขึ้นไม่สัมพันธ์กับการทำงานของระบบกระบวนการยุติธรรมเลย คิดแต่กฎหมายคุ้มครองสิทธิผู้ต้องหา แต่ไม่เห็นคิดกฎหมายคุ้มครองผู้เสียหายกับเจ้าพนักงานมั้ง
ที่จริงเรื่องความรับผิดทางอาญานั่นเป็นแค่ส่วนเดียวครับ แต่ผู้คนไปให้ความสนใจตรงนี้มากเกินควร ทำให้มองข้ามภาพรวมทั้งระบบ... ผู้กระทำผิดที่เป็นเด็ก หากได้ข้อเท็จจริงเป็นที่ยุติว่ามีความผิดจริง ถึงแม้จะโทษไม่มาก แต่ความรับผิดทางแพ่งก็ยังอยู่ และผู้ปกครองก็ต้องรับชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่งด้วยครับ...
หรือพูดแบบบ้านๆ ก็คือเด็กไปตีรันฟันแทงกับลูกบ้านอื่น แล้วลูกตัวเองเข้าสถานพินิจฯ ไปแล้วก็ตาม... แต่พ่อแม่ก็ต้องใช้หนี้ให้ลูกกันอาจถึงกับ"ยากจนหัวโตกันไปหลายปี"เชียวครับ ยิ่งหากไปเจอเรื่องหนักๆ แล้วทางฝ่ายผู้เสียหายเขาเป็นงาน แต่งทนายฟ้องศาลแพ่งเอาให้ถึงที่สุดนี่อาจถึงกับทำงานหาเงิน"ใช้หนี้กันจนแก่ยันเกษียณ"ก็สามารถเป็นไปได้ครับ...
คน"ส่วนใหญ่"ของประเทศไทยมองกันแค่ติดคุกก็จบเรื่อง หรือเข้าบ้านเมตตาก็จบเรื่อง... แล้วที่เหลือก็แค่ยกพานดอกไม้ขอขมาฯ ก็จบเรื่องเพราะคนทำผิดก็ติดคุก/เข้าสถานพินิจฯ กันไปแล้วก็มักพอใจ, แล้วพ่อแม่ผู้เสียหายก็เลี้ยงลูกตัวเองต่อไป ทั้งที่ลูกตัวเองโดนยิง โดนฟัน จนร่างกายไม่สมบูรณ์ ทำงานทำการประกอบอาชีพก็ได้ไม่เหมือนปรกติ แล้วก็ถือว่าตนเองมีกรรม...
แล้วเมื่อเวลาผ่านไป จนกระทั่งตระหนักว่าความ"ไม่สมบูรณ์ของร่างกาย"นั้นส่งผลทำให้ทำมาหากินไม่คล่อง ต้องทนทุกข์ระกำลำบากไปตลอดชีวิต ก็มักสายไปแล้ว... แล้วก็เคียดแค้นสังคม เคียดแค้นสิ่งรอบข้าง ฯลฯ...
จุดเริ่มต้นอยู่ที่"มงคล 38 ประการ"ครับ... ข้อที่ 1 และข้อที่ 2 เลยคือ ไม่คบคนชั่ว และคบบัณฑิต, เอาแค่ 2 ข้อนี่ก็จะทำให้วัยรุ่นเลี่ยงความเสี่ยงได้แยะ...
ส่วนที่ว่าเลี่ยงแล้วก็ยังอุตส่าห์โดนวัยรุ่นเลวๆ เกะกะระราน จนต้องเดือดร้อน... ก็ต้องเล่นงานด้วยกฎหมายให้ถึงที่สุด จบเรื่องอาญาแล้วก็เล่นทางแพ่งให้ถึงที่สุดครับ อย่าให้อภัยแก่คนอื่นจนตัวเองต้องเดือดร้อน เพราะอย่างนั้นเรียกว่าตัวเองเบียดเบียนตนเอง ซึ่งก็เป็นพฤติกรรมที่ไม่สมควรกระทำ...