"เรื่องของ OV-10 ของเรา เมื่อครั้งที่ร่มเกล้า"

(1/4) > >>

physics teacher:
..ถ้าไม่เหมาะสม  วมต.ลบทิ้ง เผื่อยังไม่มีผู้ยังไม่ทราบ..
   
   ;)รายละเอียด :
เจอข้อมูลนี้โดยบังเอิญ  วีรบุรุษนักบิน โอวีเทน2 ท่าน

๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๑ ก่อนวันแห่งความรักเพียงหนึ่งวัน ช่วงเวลานี้ประชาชนคนไทยกำลังส่งความรักและความห่วงใย ไปให้เหล่าทหารหาญที่กำลังทำศึกสงครามอยู่ตามแนวชายแดนไทย-ลาว บริเวณบ้านร่มเกล้า จังหวัดพิษณุโลก การรบเกิดขึ้นมาแล้วหลายวัน กองทัพบกส่งกองกำลังทั้งทหารราบ ทหารม้า และ ทหารปืนใหญ่จำนวนมากเข้าพื้นที่การรบเพื่อหวังชัยชนะในดินแดนบ้านร่มเกล้า ที่สำคัญคือการรบเพื่อปกป้องอธิปไตยของไทย แม้ชีวิตทหารเหล่านี้เขาก็สละได้เพื่อประเทศไทย และประชาชนที่อยู่แนวหลัง

เช้าวันนี้ เครื่องบินโจมตีจาก ฝูงบิน ๔๑๑ กองบิน ๔๑ เชียงใหม่ ซึ่งถูกส่งมา ปฏิบัติหน้าที่สนามชายแดนที่กองบิน ๔๖ พิษณุโลก เพื่อเข้าทำการลาดตระเวณและใช้อาวุธทั้งระเบิด ปืนกลอากาศ และจรวดสนับสนุนกองกำลังภาคพื้นดินอย่างใกล้ชิดตามร้องขอ น.ท. สมนึก เยี่ยมสถาน ผู้บังคับฝูงบินขับไล่ยุทธวิธีที่ ๔๑๑ ทำหน้าที่นักบินในวันนี้ โดยมี ร.อ.ไพโรจน์ เป้าประยูร รองผู้บังคับหมวดบิน ๒ ฝ่ายยุทธการ ฝูงบิน ๔๑๑ เป็นนักบินที่ ๒ ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา ให้นำหมู่บิน บ.จ.๕ เข้าโจมตีทางอากาศต่อเป้าหมายภาคพื้นบริเวณบ้านนากอก ขณะที่นำหมู่บินเข้าโจมตีเป้าหมาย ด้วยการดำลงเพื่อทิ้งลูกระเบิดและยิงจรวดตามยุทธวิธีของเครื่องบินโจมตีแบบ โอวี-๑๐ ที่จ็อกกี้ม้าป่าเหล่านี้ฝึกฝนมาเป็นแรมปีจนจำขั้นตอนได้เป็นอย่างดีนั้น ข้าศึกซึ่งได้เตรียมอาวุธต่อสู้อากาศยานและมีการป้องกันทางอากาศที่ดีที่คาดว่า ฝ่ายเราจะต้องใช้ยุทธวิธีโจมตีทางอากาศก่อนที่กองกำลังภาคพื้นจะลุกตามมา จึงหันปืนต่อสู้อากาศยานและจรวดนำวิถีแบบ เอสเอ-๗ หรือ แซม-๗ ยิงระดมเข้ามาใส่เครื่องบินหัวหน้าหมู่ที่ดำลงมาเป็นเครื่องแรก ด้วยความกล้าหาญเด็ดเดี่ยว ยอมเอาชีวิตเข้าแลกโดยมิได้หวั่นไหวเกรงต่ออันตรายที่จะได้รับ มุ่งมั่นที่จะปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จให้ได้ ทั้งกระสุนปืนต่อสู้อากาศยานและปืนเล็กประจำกาย มากมาย ไปจนถึงจรวดต่อสู้อากาศยานระดมยิงเข้ามาที่เครื่องบินโจมตี โอวี-๑๐ ซี หมายเลข ทอ. บ.จ.๕-๘/๑๔ ( Sel. No. 158403 ) ของ หัวหน้าหมู่บิน น.ท.สมนึก เยี่ยมสถาน ไม่ต่างไปจากเวลาเรานั่งดูหนังสงครามหรือเวลาเราเล่นเกมส์ซิมมูเรเตอร์ อย่างไงอย่างนั้น จะต่างกันตรงที่นี่คือชีวิตจริง ถ้าพลาดคือ GAME OVER จริงๆ เมื่อดูจาก ห่ากระสุนมากมายที่ระดมยิงขึ้นมาก็แทบจะเอาตัวไม่รอดอยู่แล้ว และแล้วจรวดนำวิถีด้วยความร้อนแบบประทับบ่ายิงรุ่น เอสเอ-๗ หรือ แซม-๗ จากฝีมือการยิงของ สหายสอนเพ็ชร ก็พุ่งเข้าที่เครื่องยนต์ขวา ปีกขาดและไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็วทันที เลข ๑๓ หรือ ลักกี้นัมเบอร์ก็เป็นเลขนำโชค์ของฝ่ายข้าศึกจนได้ มีการบันทึกของฝ่ายทหารลาวผู้ทำการยิงไว้ว่า เขายิงเครื่องบินแบบ โอวี-๑๐ ซี ของ กองทัพอากาศไทย ได้เมื่อเวลา ๑๓ .๑๓ น. ของวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๑ ปีกที่ขาดและเกิดเพลิงลุกไหม้ทันที ทำให้เครื่องบินเสียการทรงตัว น.ท.สมนึก มีความรู้สึกหน้ามืดและกำลังจะหมดสติ แต่ก็ยังสามารถกำหนดอาการหมุนของ ม้าป่า พิการ ได้ว่าหมุนไปแล้ว ๓ รอบ ในขณะที่หมุนและกำลังจะขาดสติอยู่นั้น น.ท.สมนึก ก็ได้ยินเสียงนักบินผู้ช่วย ร.อ.ไพโรจน์ ตะโกนใส่ปากพูดว่า "ครูโดด" ซ้ำหลายครั้ง เพื่อให้ น.ท.สมนึก ทำการดีดตัวสละเครื่องก่อนที่จะตกถึงพื้นระเบิด น.ท.สมนึก รวบรวมกำลัง ดึงสายฉุกเฉินเพื่อทำการดีดตัวออกจากเครื่อง เครื่องบินโจมตีแบบ โอวี-๑๐ ซี เป็นเครื่องบินโจมตีใบพัดที่ติดตั้งเก้าอี้ดีดตัวทั้งสองตัว โดยที่นักบินไม่ต้องปีนออกมาที่ปีกเครื่องบินก่อนจะพุ่งตัวลงมาให้พ้นเครื่องเพื่อทำการกางร่มช่วยชีวิตเหมือนกับเครื่องบินโจมตีแบบ เอที-๖ และ เอที-๒๘ รุ่นพี่ที่บริษัทนอร์ธอเมริกันผู้สร้าง โอวี-๑๐ ได้สร้างออกมาก่อนหน้านี้และมีประจำการในกองทัพอากาศไทย ระบบเก้าอี้ดีดตัวของ โอวี-๑๐ ซี นั้น ระบบนี้จะถูกตั้งไว้ให้ทำงานแบบ ถ้านักบินที่สองหรือนักบินผู้ช่วยดึงระบบฉุกเฉินในการดีดตัวหรือสละเครื่องนี้ นักบินที่สองจะดีดตัวออกไปเพียงคนเดียวโดยนักบินที่หนึ่งจะติดไปกับเครื่องบิน แต่ถ้านักบินที่หนึ่งดึงระบบฉุกเฉินดีดตัวเพื่อสละเครื่องนี้ นักบินผู้ช่วยจะถูกดีดตัวออกไปก่อน ๐.๔ วินาที และนักบินที่หนึ่งจะดีดตัวออกตามไปพร้อมกับเก้าอี้ นักบินทั้งสองสามารถดีดตัวออกมาได้อย่างปลอดภัย แต่ตกไม่ไกลจากเป้าหมายซึ่งเป็นพื้นที่ยึดครองของข้าศึกขณะนี้ เครื่องบินวีรบุรุษตกระเบิดสนั่นเขา ในขณะที่นักบินหนุ่มทั้งสอง ถูกจับเป็นเชลยอยู่ ๑๒ วัน จนกระทั่งการเจรจาระหว่างนายทหารไทย กับ นายทหารลาว เพื่อสงบศึกมีขึ้น นักบินวีรบุรุษบ้านร่มเกล้าทั้งสองท่าน จึงเดินทางกลับประเทศไทย และมีพิธีต้อนรับวีรบุรุษทั้งสองท่านที่สนามบินดอนเมืองอย่างสมเกียรติ อนึ่งในวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๓๒ ได้มีพิธีพระราชทานเหรียญกล้าหาญจากเหตุการณ์รบเพื่อปกป้องแผ่นดินไทยดังกล่าว กับวีรบุรุษบ้านร่มเกล้าทั้งสองท่านด้วย ส่วนเครื่องบิน โอวี-๑๐ ซี ที่ถูกยิงตก ทางการลาวได้รวบรวมชิ้นส่วนไปจัดแสดงให้ประชาชนได้ชมกัน เก็บค่าดูคนละ ๑๐ กีบ ข่าวว่า งานนี้เก็บเงินได้มากกว่า หมื่นกีบทีเดียว

 

               เรื่องนี้ทำให้คิดถึงเจ้าม้าป่า จัง แถมมะกัน กำลังจะนำ เจ้าม้าป่ามาใช้ในภาระกิจ ทำหน้าที่ลาดตระเวณ สนับสนุนการโจมตีอย่างใกล้ชิด เป็นอากาศยานส่วนหน้า เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการปฎิบัติการต่ำ.. :OO.
 

kok-krab:
OV-10 รับใช้กองทัพมานานแล้ว มีวีรกรรมมากมาย นับถือครับผม 8) 8)

BANCHA34:
ตอนนี้ ทราบว่า บริจาคให้ ทอ.ฟิลิปปินส์ไป 1 ฝูงครับ

papa.n:
 >:( ให้เขาเอาหน้าว่าเป็นผู้นำอาเซียน เครื่องบินรบซักฝูงยุคเขาก็ไม่เคยซื้อ เอาเเต่เงินไปหว่านประชานิยมจนต้องเอาสนามบินไปเเลก F-16 เก่าๆเขามาไม่ถึงฝูง ไอ้ข้างใต้เราซื้อ ซู-30 กับf-18d พม่าซื้อ j-10 เราเเค่เงินทำmlu f-16 ไม่มีมีแต่เงินซื้อ ไทยคู่ฟ้า

มือปืน อีโบ๊ะ:
นักบินทั้ง 2 ท่านคือ "วีระบุรุษ" ในสนามรบที่แท้จริงครับ พูดถึง OV 10  พวกผมเรียกว่า"ไอ้ปากหมา" ครับไม่ใช่ดูถูกเหยียดหยามนะครับ เป็นชื่อที่ ผกค.,ขจก.,จคม. ในป่ามันเรียก ได้ยินมันพูดบอกกันใน ว. เลยเรียกตามเล่นๆ OV 10 เคยร่วมรบกับผมมาหลายสมรภูมิ ตั้งแต่  เขาค้อ,ยุทธการ "ใต้ร่มเย็น 9,11,15" และในเขตงานอิสานใต้ ปี 27-28 และ สมรภูมิ "ร่มเกล้า" OV 10 มีส่วนช่วยทางภาคพื้นดินมาก ตั้งแต่ การเปิดเครื่องขยายเสียงพูดบ้าง เปิดเพลงบ้างกล่อมขวัญพี่หาญทั้งหลายที่อยู่ในป่าเป็นแรมเดือน และพูด ปจว. ให้พวกไอ้เปีย,ไอ้จ่อย,ไอ้ไข่นุ้ย ฯลฯ ที่อยู่ในป่าเหมือนกันออกมามอบตัวซะ อย่ารบกันเลยเราคนไทยด้วยกัน ฯลฯ ผมไม่ทราบว่าใครเป็นนักบินเพราะอยู่กันคนละหน่วย แต่ก็เคารพและนับถือ.โดยเฉพาะ ฝูงบินปีกหมุนที่ 1 ได้เคยช่วยพวกผมรบ ( มากกว่า OV10 ) จนได้ชัยชนะมาทุกสมรภูมิ ขอขอบคุณทุกท่านมา ณ โอกาสนี้ และขอขอบคุณท่าน จขกท.มากครับ :)

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป