กรณีเด็กปั้มรุมทำร้ายเด็กที่ขอเติมน้ำมัน ๒๐ บาท โดยไม่อะลุ่มอล่วย ถ้าเป็นมุมมองของผม ผมคิดว่า เด็กปั้มมักจะมีภาพของเจ้าของปั้มไม่ดีเท่าไหร่ คือ เวลาเขาทำผิดที่เจ้าตัวรู้สึกว่าเล็กน้อย แต่เจ้าของปั้มที่ชอบนั่งดูทีวีในห้องแอร์ มักจะมองว่าเด็กปั้มมันโง่มากๆซะเหลือเกิน งานง่ายๆก็ทำผิด เลยมักจะมีคำสั่งแบบเด็ดขาดเสมอๆ ทำให้เด็กปั้มที่ตากแดดตากลมตัวดำ ทำตัวเป็นหุ่นยนต์เครียดๆ บางทีเหมือนไม่มีวิจารณญาณอีกต่างหาก (อาจเพราะใช้ทีไรก็โดนทุกที) ทีนี้พอมีเด็กกว่ามารบเร้านานๆ จนเหมือนพูดไม่รู้ภาษาคน ก็เลยระเบิดออกมาแบบ แจ๊กพอตแตก ความฉิบหายก็ตกอยู่กับปั้มไป
รูปแบบความเสียหายที่มีต้นเหตุมาจาก เจ้านายกร้าวร้าว ลูกน้องไม่อยากมีปัญหา หรือคนตัวใหญ่ถูกต้องเสมอ มีทั่วไป เช่น หัวหน้าทำเรื่องซื้อเครื่องมือมาเครื่องนึง ให้ลูกน้องใช้งาน แต่มันไม่เวิร์ค แต่ก็ไม่ยอมแจ้งผลกลับไป เพราะภาพที่ผ่านมาหัวหน้าชอบจิกกัดคนรอบข้างประจำ และตัวหัวหน้าคงไม่ยอมรับผิดอยู่แล้ว เลยสรุปว่า พูดไปอาจจะเข้าเนื้อตัวเอง ก็เลยนิ่งดูดาย สุดท้ายบริษัทเสียประโยชน์ที่ควรได้
หรืออย่างพ่อแม่ที่ชอบดุลูก จนลูกกลัวมากๆ ก็จะทำตัวให้อยู่ในกรอบตลอดเวลา แต่ในชีวิตจริง มันต้องมีบ้างที่มีโจทย์แบบ ที่ต้องเสียสละเล็กน้อยเพื่อคุณธรรมที่ใหญ่กว่า แต่เด็กก็จะไม่ยอม เพราะสมองมันมีชุดคำสั่งพ่อแม่ดักไว้ตั้งแต่แรก
หรือ สามีกับภรรยา บางทีสามีก็ไม่ใช้เหตุผล เพราะเคยใช้แล้วไม่เวิร์ค ก็เลยยอมเสียหายเล็กน้อย เพื่อซื้อความเงียบ
เห็นด้วยครับ, เจ้าของปั๊มน่ะ โง่เบอร์หนึ่งเลย... หากตัวเองอยู่ที่ปั๊มตลอดเวลาได้ มันก็ไม่เกิดเรื่อง เพราะมีตัวเองคอยบอกโน่น คอยสั่งนี่ แต่เมื่อตัวเองไม่อยู่ปั๊ม มันก็ต้องมีการมอบหมายให้"ผู้ดูแลปั๊ม"ให้เป็นคนดูแล แล้วคนนี้ต้องสามารถตัดสินใจได้ในระดับหนึ่ง พร้อมกับสามารถควบคุมเด็กปั๊มให้อยู่ในร่องอยู่ในรอยได้ ไม่ใช่ไปกระทืบคนอื่น ซึ่งตรงนี้เป็นผู้เริ่มต้นทำผิดเลยล่ะ...
สำหรับเด็กปั๊มนั้น ต้องยอมรับก่อนว่าเด็กปั๊มคือเด็กปั๊ม หากเด็กมันคิดแบบผู้ใหญ่ได้ มันก็ไม่ใช่เด็กปั๊ม หากทุกคนสามารถทำงานตามหน้าที่ได้อย่างไม่มีข้อบกพร่องได้... นั่นก็แปลว่าไม่ต้องมี"ผู้จัดการ" มาคอยชี้นิ้วสั่ง, ก็ผู้จัดการมีหน้าที่"ชี้นิ้วสั่ง"แต่ไม่ต้องทำเอง, ตรงนี้เป็นเรื่องสำคัญทำนองเดียวกับนักบอลต้องรู้ว่าโค้ชบอลลงมาวิ่งในสนามเองไม่ได้ นักบอลที่เถียงโค้ชว่า"สั่งดีนัก" ทำไมไม่ลงมาวิ่งเอง แสดงว่านักบอลไม่รู้หน้าที่ และไม่รู้ว่าหากให้โค้ชลงไปวิ่งที่หน้าโกล แนวรับข้างหลังก็จะหลุด ซึ่งโค้ชต้องเห็นภาพรวม ดังนั้นห้ามลงไปวิ่งในสนามฯ...
ทีนี้เจ้าของปั๊มโง่เบอร์ 1 ต้องมีวิธีบริหารจัดการไม่ให้เกิดเรื่องแบบโง่ๆ, วิธีปกครองคนก็ไม่ใช่ต้องสั่งเด็ดขาดแบบทหาร แต่มันต้องมีวิธีจัดการกับเด็กปั๊มได้, หากอ้างว่าเด็กปั๊มกลัวโดนเจ้านายด่า เลยไม่กล้าอลุ้มอล่วย 20 บาท... ก็ต้องถามเด็กปั๊มว่ามันโง่หรือฉลาด ที่เลือกกระทืบเด็กขี่มอเตอร์ไซค์ แล้วก็ตกงานเพราะทำให้เกิดเรื่องใหญ่ที่ปั๊ม(หากเจ้าของปั๊มไม่ไล่ออก ก็ยิ่งโง่เข้าไปใหญ่)...
เด็กปั๊มก็คือเด็กป๊ม มันก็คิดแบบเด็กปั๊ม ถึงต้องมีคนคอยควบคุมดูแล, สำหรับพ่อแม่ที่ดุลูกจนลูกไม่รู้จัดคิดเองนั่นคือพ่อแม่โง่เบอร์หนึ่งอีกเช่นกัน... เด็กดื้อส่วนหนึ่งเกิดจากพ่อแม่โง่ อธิบายให้ลูกเข้าใจไม่ได้ว่าทำไมต้องอย่างนั้น ทำไมต้องอย่างนี้ ขี้เกียจอธิบายเพราะเด็กมันย้อนถามว่าแต่ก่อนทำไมบอกอีกอย่างนึง พ่อแม่อธิบายไม่ได้เพราะโง่เกินแยกแยะ เลยดุบอกว่าให้ทำตามก็แล้วกัน ไม่งั้นโดนตี... ดังนั้นพ่อแม่โง่เบอร์หนึ่งเลย...