๏ฟฝ๏ฟฝ็บบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝสน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาปืน

Bull Pup Daystate CR94
ในระยะแรกที่กระแสปืนลม pcp หรือ Pre-Charged Pneumatic เข้าเริ่มมามีบทบาทในวงการแข่งขันแบบ FT หรือ Field Target นั้น Daystate จากประเทศอังกฤษ นับว่าอยู่แถวหน้าเนื่องด้วยจากมีการออกแบบ regulator ซึ่งเป็นตัวปรับความดันที่มีประสิทธิภาพสูงสุด  แต่ก็มีข้อเสียคือ ซ่อมยากเพราะการปรับนั้น ถ้าจะให้เนี้ยบจริง ๆ ต้องมีอุปกรณ์ทดสอบการทำงานของ regulator ที่ราคาแพงลิบ อย่างไรก็ตามนักแข่งมักนิยมจึงทำให้ Daystate คว้ารางวัลมาครองมากกว่ายี่ห้ออื่น ๆ

(http://i7.photobucket.com/albums/y271/tanasit/AIRGUNS/Bull%20Pup%20CR94/L1080577Medium.jpg)
Below without sun shade:
(http://i7.photobucket.com/albums/y271/tanasit/AIRGUNS/Bull%20Pup%20CR94/L1080601Medium.jpg)

พอดีตอนนั้น ที่ผมเคยเล่าแล้วว่า ได้มีแชมป์โลก FT จากอังกฤษมาติดต่อขอทำเรื่องตัวผมลงแม็กกาซีน Airgun World และเขาก็ได้แย้มออกมาว่า เขามี Daystate CR94 prototype serial No. CR 003 ผมอยากจะลองทดสอบหรือไม่ ผมนั้นตอบตกลงโดยไม่ต้องคิด  พักหนึ่งผ่านไปผมประทับใจเจ้ากระบอกนี้มาก เลยขอซื้อเขาต่อ (แกมบังคับ) และก็ได้คิดทำด้ามและพานท้ายเสียใหม่ ลักษณะนี้เรียกกันว่า Bull Pup คือด้วยแนวคิดที่ว่า หากเราสามารถ “ร่นระยะ” จากไกถึงปลายลำกล้อง ก็เท่ากับเราลดโอกาสที่ปืนจะส่ายลงไปได้ เพราะโดยทั่งไปแล้ว ปืนลมยาวระยะจากไกถึงปลายลำกล้องประมาณ 26-32 นิ้ว แต่สำหรับ Bull Pup Daystate CR94 กระบอกนี้ แค่ 12 นิ้ว นอกจากนี้ปืนแบบนี้ทั้งกระบอกขนาดจะสั้นมาก ผมเลยใช้กล่องที่ซื้อจากร้านขายเครื่องดนตรีมาใส่ เข้าใจว่าเขาเอาไว้ใส่แซ็กโซโฟน...555 

(http://i7.photobucket.com/albums/y271/tanasit/AIRGUNS/Bull%20Pup%20CR94/L1080605Medium.jpg)
(http://i7.photobucket.com/albums/y271/tanasit/AIRGUNS/Bull%20Pup%20CR94/L1080606Medium.jpg)
(http://i7.photobucket.com/albums/y271/tanasit/AIRGUNS/Bull%20Pup%20CR94/L1080607Medium.jpg)
(http://i7.photobucket.com/albums/y271/tanasit/AIRGUNS/Bull%20Pup%20CR94/L1080609Medium.jpg)


ผมเริ่มออกแบบเอง โดยยึดแนวสามเหลี่ยมมุมฉากทรงสูงเป็นที่ตั้ง จากนั้นก็กำหนดตำแหน่งด้าม แนบแกม และพานท้าย ขั้นต่อมาคือการออกแบบรูปทรง ซึ่งผมต้องการให้เรียบง่าย แต่ดูมีเสน่ห์หรือจะเรียกว่าเซ็กซี่ก็ได้  จุดปัญหามีอยู่ 2 จุดคือ ที่ปรับรองมือด้านหน้าและที่แนบแก้ม เพราะจะต้องกลมกลืนและเข้ากัน ที่ปรับด้านหน้าผมเน้นว่าเมื่อปิดสนิทแล้วจะต้องดูเสมือนไม่มีตัวปรับจึงต้องใช้ไม้ชิ้นเดียวกัน ส่วนที่แนบแก้มหรือ cheek piece นั้น จำเป็นต้องออกแบบโดยใช้บานพับขนาดเล็กมาช่วย  ทั้งนี้เพราะตอนขึ้นลำจะต้องยกคันแล้วดึงถอยหลังก่อนใส่กระสุน ส่วนการปรับตำแหน่งให้สายตาตรงกับกล้องนั้นจะมาปรับกันตอนหลัง  ประทับบ่า หรือ  butt plate ก็ต้องปรับขึ้นลงได้ด้วย

(http://i7.photobucket.com/albums/y271/tanasit/AIRGUNS/Bull%20Pup%20CR94/L1080613Medium.jpg)
(http://i7.photobucket.com/albums/y271/tanasit/AIRGUNS/Bull%20Pup%20CR94/L1080615Medium.jpg)
(http://i7.photobucket.com/albums/y271/tanasit/AIRGUNS/Bull%20Pup%20CR94/L1080617Medium.jpg)

สิ่งสำคัญที่สุดในการแปลงปืนให้มาเป็นรูปแบบ Bull Pup ก็คือ การสร้างกลไกโยงไกตัวจริงซึ่งจะถูกเลื่อนให้ไปอยู่ด้านหน้า มายังไกที่เราจะใช้นิ้วสัมผัส (ดูภาพประกอบนะครับ) งานนี้ผมเลือกใช้ ball linkและ link ของ ¼ scale radio controlled models คือเป็นตัวโยงระหว่าง servo กับส่วนที่จะบังคับ เช่นถ้าเป็นของเครื่องบิน ก็อาจเป็นปีกหรือหาง ถ้าเป็นของรถก็จะเป็นระบบคันส่งสำหรับเลี้ยว ที่เลือกใช้เพราะ นอกจากจะถอดใส่สะดวกแล้ว ยังมีการเคลื่อนไหวที่นิ่มนวล แน่นอน โดยไม่มี free play หรือ slack ซึ่งหมายถึงความหลวมโพลกในระบบ อันจะทำให้การควบคุมบังคับไกผิดพลาด

(http://i7.photobucket.com/albums/y271/tanasit/AIRGUNS/Bull%20Pup%20CR94/L1080620Medium.jpg)
(http://i7.photobucket.com/albums/y271/tanasit/AIRGUNS/Bull%20Pup%20CR94/L1080621Medium.jpg)


อีกชิ้นหนึ่ง ซึ่งก็ถือเป็นจุดยากที่สุดในการทำและสำคัญยิ่งคือ ฐานกล้อง ด้วยเหตุที่ว่า ตอนนี้จุดยึดฐานกล้องเดิมได้ถูกย้ายมาอยู่ติดกับแก้มไปเสียแล้ว ดังนั้นจึงต้องเลื่อนฐานกล้องไปด้านหน้าเหนือลำกล้อง แต่ไม่สามารถติดกับลำกล้องโดยตรงได้ ด้วยเหตุผล 2 ประการคือ การที่เราจะทำอะไรไปติดกับลำกล้อง จะทำให้กล้องเกิดการอึดอัด หรือ mass stress ผลก็คือ ทำให้ยิงไม่แม่น  ส่วนประการที่สองก็คือ Daystate CR94 กระบอกนี้ ออกแบบเป็นประเภท free floating barrel คือลำกล้องจะติดยึดกับฐานเท่านั้น และส่วนตลอดลำกล้องที่เหลือจะมีอะไรไปแตะต้องไม่ได้  จากรูปจะเห็นได้ว่า ฐานกล้องทรงสี่เหลี่ยมนั้น ทำหน้าที่ถึง 3 อย่างคือ 1 นอกจากเป็นฐานสำหรับติดตั้งกล้องแล้ว  2 ยังใช้เป็นตัวยึดตัวปืนเข้ากับด้ามไม้ และ 3 เป็นตัวกันกระแทกของลำกล้อง จากรูปจะเห็นได้ว่า ตัวฐานกล้องนี้ มีรูให้ลำกล้องรอดผ่าน โดยที่ลำกล้อง “ไม่แตะต้อง” กับฐาน ตัวยึดกล้อง หรือ scope mount เป็นของ RWS double adjustable ส่วนกล้องผมเลือกใช้ BSA Platinum 8.5x34 rubber  coated หมายเหตุ การแข่งขัน FT นั้น กล้องที่ใช้ควรต้องมีกำลังสูงและสามารถวัดโฟกัสหรือหาระยะได้แม่นยำ  บางคนอาจใช้เพียง 9x แต่ผมชินกับอย่างน้อย 24x ขึ้นไปถึงราว 40x เลย

(http://i7.photobucket.com/albums/y271/tanasit/AIRGUNS/Bull%20Pup%20CR94/L1080625Medium.jpg)
(http://i7.photobucket.com/albums/y271/tanasit/AIRGUNS/Bull%20Pup%20CR94/L1080627Medium.jpg)
(http://i7.photobucket.com/albums/y271/tanasit/AIRGUNS/Bull%20Pup%20CR94/L1080628Medium.jpg)
(http://i7.photobucket.com/albums/y271/tanasit/AIRGUNS/Bull%20Pup%20CR94/L1080631Medium.jpg)

ไม้ที่ใช้ ผมเลือก American walnut โดยเลือกสีออกเข้ม และหลังจากออกแบบทางคอมฯแล้วเสร็จ ผมก็ส่งไปให้ หนึ่งเดียวคือ B&M ที่ประเทศอังกฤษเป็นคนทำ  หลังจากติดต่อพูดคุยและแก้ไขก็ใช้เวลาทั้งหมดราว  6 เดือน จึงเสร็จ การประกอบนั้นจะมีขั้นตอนที่ยากที่สุดก็คือ การยึดฐานกล้องที่ทำพิเศษขึ้นมาเข้ากับตัวปืน โดยที่ด้านบนที่จะมีตัวติดกล้องมายึดนั้น จะต้องอยู่ตรงกลางด้านบนของลำกล้องพอดี ผิดเพี้ยนแม้แต่เสี้ยวองศาก็ไม่ได้ ผมไม่ขอลงรายละเอียดนะครับ เพียงแต่บอกคร่าว ๆ ว่าต้องใช้กระจกหนาบานเขื่อง ไม้โปรแทร๊กเต้อร์ เหล็กฉาก สายวัด และ venial caliper กับเวลาอีกราว 2 วันเต็ม ๆ  ด้วยเหตุผลนี้ตอนแรกผมลังเลใจ ไม่อยากจะถอดแยกตัวปืนและด้ามออกมาถ่ายภาพที่เห็นเหล่านี้  แต่ก็เกรงว่าจะไม่เข้าใจคำบรรยาย  อีกอย่างจากประสพการณ์ที่ผ่านมา ทุกครั้ง ที่ผมทำการถอดแยกแบบนี้ แม้กับปืนอื่นก็ตาม มักจะต้องตั้งกล้องใหม่เสมอ

(http://i7.photobucket.com/albums/y271/tanasit/AIRGUNS/Bull%20Pup%20CR94/L1080638Medium.jpg)
(http://i7.photobucket.com/albums/y271/tanasit/AIRGUNS/Bull%20Pup%20CR94/L1080639Medium.jpg)
(http://i7.photobucket.com/albums/y271/tanasit/AIRGUNS/Bull%20Pup%20CR94/L1080636Medium.jpg)

อ้อ..เกือบลืม bolt handle หรือคันกระเดื่องสำหรับขึ้นลำนั้น ผมใช้มือ ตะไบและกระดาษทราย เริ่มจากแท่งทองเหลืองทรง 6 เหลี่ยมยาวประมาณ 5 นิ้ว ใช้เวลา 3 วันเต็ม ๆ เลยครับ ของเดิมน่าเกลียดมากเลย...555

ตอนแรกผมลองติดกล้องอีกตัวหนึ่ง แต่ดูไม่เข้ากันครับ
(http://i7.photobucket.com/albums/y271/tanasit/AIRGUNS/Bull%20Pup%20CR94/CR94BullPup.jpg)

ลองใส่ sun shade แบบยาว ๆ ดูเล่น ๆ ...
(http://i7.photobucket.com/albums/y271/tanasit/AIRGUNS/Bull%20Pup%20CR94/CR94-BSA-01.jpg)

อนึ่ง Bull Pup Daystate CR94 กระบอกนี้ ผมตั้งไว้ ยิง Crosman Premier Heavy 10.5 gr. ที่ 850 fps ปลายกระบอกติด flip compensator ซึ่งตอนแรกพ่นไอน้ำมันจากน้ำมันหล่อลื่นกระสุน (วันหลังจะคุยเรื่องการเตรียมกระสุนสำหรับแข่งขันให้ฟังนะครับ) เข้าไปยังเลนส์หน้า (objective lens) ของกล้อง ผมเลยต้องเติมที่บังหน้าเลนส์ หรือ sun shade ขนาด 5 นิ้วเข้าไปด้วย

รูปร่างดีไซด์สวยงามมากเลยครับ ดูเล็กกระทัดรัดดี กลุ่มกระสุนตัวนี้ท่าทางจะไม่ธรรมดานะครับ

สวยมากเลย...ออกแบบลงตัวจริงๆ...โดยเฉพาะที่รองแก้ม กับ ระบบไกครับ....ชอบจริงๆไม่ยุ่งยากซับซ้อน...

  น้ำลายไหล  น้ำลายย้อย :D~ :D~ :D~  สุดยอดครับท่านดร.ธนาสิทธิ์

อนึ่ง Bull Pup Daystate CR94 กระบอกนี้ ผมตั้งไว้ ยิง Crosman Premier Heavy 10.5 gr. ที่ 850 fps ปลายกระบอกติด flip compensator ซึ่งตอนแรกพ่นไอน้ำมันจากน้ำมันหล่อลื่นกระสุน (วันหลังจะคุยเรื่องการเตรียมกระสุนสำหรับแข่งขันให้ฟังนะครับ) เข้าไปยังเลนส์หน้า (objective lens) ของกล้อง ผมเลยต้องเติมที่บังหน้าเลนส์ หรือ sun shade ขนาด 5 นิ้วเข้าไปด้วย

  รออย่างใจจดจ่อเลยครับอาจารย์...เพราะตอนนี้มือพระกาฬ ลงแข่งเยอะเหลือเกิน..สู้ไม่ไหวแล้วครับ... ขอสูตรเด็ด อาจารย์ด้วยนะครับ...

 ::014::ขอบคุณครับ
และรอตอนต่อไป+1ครับ ::014::

ขอบคุณท่านดร.ธนาสิทธิ์ มากเลยค่ะ ::014::

เข้ามาหาความรู้ใหม่ๆ ครับ  ขอขอบอาจารย์มากครับ ::014:: ::014::

ขอบคุณท่านดร.ธนาสิทธิ์ มากเลยครับ สนใจติดตามครับ

เหมือนอ่านบทความในหนังสือเลยครับ  รอการเตรียมกระสุนเช่นกัน

เฝ้ารอด้วยอีกคนครับ........ผมว่าพวกที่ติดตามผลงานของ ดร.ธนาสิทธิ์ เหมือนเด็กน้อยรอหนังสือการ์ตูนรายสัปดาห์เลย..... ผมก็เป็นคนหนึ่งในนั้น

รออ่านตอนเตรียมกระสุนสำหรับแข่งขันครับ

อีกครั้งนะครับ ขออย่าได้ใช้คำว่า "ท่าน" กับผมเลย  ฟังแล้ว "มานม่ายช่าอ่ะ" .... แค่ "อ." เฉย ๆ ก็โอเคแล้วครับ
ส่วนเรื่องการเตรียมกระสุน ผมคิดเหมือนตอนไปสั่งอาหารตามสั่ง ยิ่งรอนานยิ่งอาหร่อยยย... แต่คงไม่ให้ถึงกับรอนานจนต้องเดินออกจากร้านหรอกครับ   เขียนไปแล้วกลับมานึกดู เรื่องร้านอาหารตามสั่ง  ถ้าเค้าไม่ทำตามสั่ง แล้วเราจะเข้าไปกินมั้ยเนี่ย??...555

รับทราบครับ อาจารย์..... :D :D

ถ้าเราไปสั่งพิชซ่าในร้านอาหารตามสั่งเขาคงทำไม่ได้แน่ครับ และก็ทำให้เราไม่ได้ทานด้วย
และเราก็ไม่เข้าร้านนั้นอีก

แต่ถ้าเป็นเรื่องการเตรียมกระสุนไปซ้อม ผมว่าอาจารย์ทำได้ง่าย ๆ เลยครับ
ถ้วยรางวัลที่อาจารย์ได้มาตั้งเรียงรายก็เป็นอนุสรณ์ยืนยันได้ว่าอาจารย์มีวิชาตรงนี้แน่นอนครับ
แม้ว่าอาจารย์ไม่บอกในวันนี้ ผมก็จะรอ รอ และ รอ ไม่ออกไปไหนจนกว่าจะรู้ครับผม :D

สิ่งสำคัญที่สุดในการแปลงปืนให้มาเป็นรูปแบบ Bull Pup ก็คือ การสร้างกลไกโยงไกตัวจริงซึ่งจะถูกเลื่อนให้ไปอยู่ด้านหน้า มายังไกที่เราจะใช้นิ้วสัมผัส (ดูภาพประกอบนะครับ) งานนี้ผมเลือกใช้ ball linkและ link ของ ¼ scale radio controlled models คือเป็นตัวโยงระหว่าง servo กับส่วนที่จะบังคับ เช่นถ้าเป็นของเครื่องบิน ก็อาจเป็นปีกหรือหาง ถ้าเป็นของรถก็จะเป็นระบบคันส่งสำหรับเลี้ยว ที่เลือกใช้เพราะ นอกจากจะถอดใส่สะดวกแล้ว ยังมีการเคลื่อนไหวที่นิ่มนวล แน่นอน โดยไม่มี free play หรือ slack ซึ่งหมายถึงความหลวมโพลกในระบบ อันจะทำให้การควบคุมบังคับไกผิดพลาด

(http://i7.photobucket.com/albums/y271/tanasit/AIRGUNS/Bull%20Pup%20CR94/L1080620Medium.jpg)
(http://i7.photobucket.com/albums/y271/tanasit/AIRGUNS/Bull%20Pup%20CR94/L1080621Medium.jpg)


อีกชิ้นหนึ่ง ซึ่งก็ถือเป็นจุดยากที่สุดในการทำและสำคัญยิ่งคือ ฐานกล้อง ด้วยเหตุที่ว่า ตอนนี้จุดยึดฐานกล้องเดิมได้ถูกย้ายมาอยู่ติดกับแก้มไปเสียแล้ว ดังนั้นจึงต้องเลื่อนฐานกล้องไปด้านหน้าเหนือลำกล้อง แต่ไม่สามารถติดกับลำกล้องโดยตรงได้ ด้วยเหตุผล 2 ประการคือ การที่เราจะทำอะไรไปติดกับลำกล้อง จะทำให้กล้องเกิดการอึดอัด หรือ mass stress ผลก็คือ ทำให้ยิงไม่แม่น  ส่วนประการที่สองก็คือ Daystate CR94 กระบอกนี้ ออกแบบเป็นประเภท free floating barrel คือลำกล้องจะติดยึดกับฐานเท่านั้น และส่วนตลอดลำกล้องที่เหลือจะมีอะไรไปแตะต้องไม่ได้  จากรูปจะเห็นได้ว่า ฐานกล้องทรงสี่เหลี่ยมนั้น ทำหน้าที่ถึง 3 อย่างคือ 1 นอกจากเป็นฐานสำหรับติดตั้งกล้องแล้ว  2 ยังใช้เป็นตัวยึดตัวปืนเข้ากับด้ามไม้ และ 3 เป็นตัวกันกระแทกของลำกล้อง จากรูปจะเห็นได้ว่า ตัวฐานกล้องนี้ มีรูให้ลำกล้องรอดผ่าน โดยที่ลำกล้อง “ไม่แตะต้อง” กับฐาน ตัวยึดกล้อง หรือ scope mount เป็นของ RWS double adjustable ส่วนกล้องผมเลือกใช้ BSA Platinum 8.5x34 rubber  coated หมายเหตุ การแข่งขัน FT นั้น กล้องที่ใช้ควรต้องมีกำลังสูงและสามารถวัดโฟกัสหรือหาระยะได้แม่นยำ  บางคนอาจใช้เพียง 9x แต่ผมชินกับอย่างน้อย 24x ขึ้นไปถึงราว 40x เลย

(http://i7.photobucket.com/albums/y271/tanasit/AIRGUNS/Bull%20Pup%20CR94/L1080625Medium.jpg)
(http://i7.photobucket.com/albums/y271/tanasit/AIRGUNS/Bull%20Pup%20CR94/L1080627Medium.jpg)
(http://i7.photobucket.com/albums/y271/tanasit/AIRGUNS/Bull%20Pup%20CR94/L1080628Medium.jpg)

      ถามอาจารย์ครับ
       ฐานยึดกล้องที่ทำขึ้นใหม่  มันเกี่ยวข้องกับระบบไกด้วยหรือป่าวครับ แล้วระบบไกที่ทำขึ้นใหม่เป็นยังไงครับ
                ball linkและ link ของ ¼ scale radio controlled models (พอจะเข้าใจนิดๆครับ ไม่รู้จะถูกหรือป่าว555 )  ในไทยจะมีไม๊ครับ ขอบคุณครับอาจารย์  ::014:: ::014:: ::014::

อ้างถึง....ฐานยึดกล้องที่ทำขึ้นใหม่  มันเกี่ยวข้องกับระบบไกด้วยหรือป่าวครับ แล้วระบบไกที่ทำขึ้นใหม่เป็นยังไงครับ

จากรูปสุดท้ายด้านบน ฐานยึดกล้อง (ซึ่งความจริงคือฐานยึดของฐานกล้องอีกทีนะครับ) ด้านล่างนอกจะมีรูเกลียวสำหรับยึดด้ามแล้ว ยังมีรูสีเหลี่ยม สำหรับใส่แกนของไกเทียม (แกนสีขาว  ยึดด้วยหมุดสีขาวจากรูป) ด้านหน้าของแกนจะเป็นไกเทียม ส่วนด้านหลังจะมีน๊อตสำหรับสวม ball link ซึ่งจะมีลวดเปียโนดัดเข้ารูปโยงไปสู่ไกตัวจริงด้านหลังอีกที

(http://i7.photobucket.com/albums/y271/tanasit/AIRGUNS/Bull%20Pup%20CR94/L1080631Medium.jpg)

อ้างจากรูป...ฐานยึดกล้อง (ซึ่งความจริงคือฐานยึดของฐานกล้องอีกทีนะครับ) ทำเป็นเหมือนแค๊มป์รัดกระบอกลม (คล้ายๆกับแหวนรัดกล้อง) ใช่หรือเปล่าครับ.

             ขอบคุณครับ อาจารย์    ::002::::014::
  ดีใจครับที่ อาจารย์นำความรู้มาแนะนำให้ ส.ม.ช. ป.ล.   ::014:: ::014:: ::014::

ขุดกระทู้เก่าออกมาคับ
พี่ ดุก ครับ มารอแล้วครับ
ทำแบบนี้ได้มั๊ยครับ....
ตัวโยงไก และรางยึดสโคป....

(http://i7.photobucket.com/albums/y271/tanasit/AIRGUNS/Bull%20Pup%20CR94/L1080625Medium.jpg)

พี่แทน นิ สุดยอด  วันหลัง มาพบปะกันหน่อย พี่

ทำมัยหรอโต้ง....
จะเลี้ยงเหลล้ากะ...........พี่หรอ..... ::007::

เอากี่เรื่องดี พี่  เล้าเรื่องผี หรอ  55

ช่างคิดจังนะ.....

    ส่วนประการที่สองก็คือ Daystate CR94 กระบอกนี้ ออกแบบเป็นประเภท free floating barrel คือลำกล้องจะติดยึดกับฐานเท่านั้น และส่วนตลอดลำกล้องที่เหลือจะมีอะไรไปแตะต้องไม่ได้  จากรูปจะเห็นได้ว่า ฐานกล้องทรงสี่เหลี่ยมนั้น ทำหน้าที่ถึง 3 อย่างคือ 1 นอกจากเป็นฐานสำหรับติดตั้งกล้องแล้ว  2 ยังใช้เป็นตัวยึดตัวปืนเข้ากับด้ามไม้ และ 3 เป็นตัวกันกระแทกของลำกล้อง จากรูปจะเห็นได้ว่า ตัวฐานกล้องนี้ มีรูให้ลำกล้องรอดผ่าน โดยที่ลำกล้อง “ไม่แตะต้อง” กับฐาน

ขอบคุณครับอาจารย์ ::014:: ::014::
   อย่างนี้ Daystate AirRanger ของผม ก็คงออกแบบเป็นประเภท free floating barrel ใช่ไหมครับ คือต้องไม่มีอะไรไปยึดปลายลำกล้องเลยใช่ไหมครับ

พี่ หน่อง ครับ  โครงการ Bullpup ไปถึงใหนแล้วครับ...(หาแนวร่วม)
ชอบแบบนี้มั๊ยครับ....

(http://image.ohozaa.com/i/b9e/KkQ4w.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/65dn9)

(http://image.ohozaa.com/i/d1b/YrHbt.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/65dpt)

(http://image.ohozaa.com/i/c64/655OI.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/65dps)

(http://image.ohozaa.com/i/c72/aC5P7.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/65dpv)


หรือแบบนี้ครับ.....

(http://image.ohozaa.com/i/3e6/nCtnJ.jpg) (http://image.ohozaa.com/view/65alb)

            ชอบกระบอกสุดท้าย +1ให้กับปืนสวยครับ

ดูแล้วอันตรายครับ จุดลมรั่วท้ายลำกล้องตรงกันลูกนัยตาเราพอดี
ถ้าลมไม่รั่วก็แล้วไป ถ้ารั่วมันอาจเป่าเศษตะกั่วหรือฝุ่นคมเข้าตาเราได้ครับ

หวังว่าความเห็นผมคงไม่ทำให้หมดอารมณ์กันไปก่อนนะครับ

ด้วยเหตุผลนี้แหละครับ ที่ผมต้องออกแบบประทับแก้มแบบบานพับดังกล่าว เพราะบานพับนอกจากจะผลิกออกสำหรับขึ้นลำ และยังพลิกกลับป้องกันลมรั่วมาทำรู้จักกับลูกตาและใบหน้าของเรา

ถูกต้องครับ  แต่ AirRanger 80 จะมีห่วงรัดกับถังลมด้วย ก็ไม่เป็น free floating barrel
ส่วนตัวผมแล้ว free floating barrel ยังไม่พิสูจน์จนแจ่มใจว่าทำให้แม่นยำมากขึ้น มันมีปัจจัยอื่น ๆ อีกหลายอย่างที่เข้ามาร่วมวงด้วย

สมัยดูรูป ปืนอาจารย์ตอน เวปเก่าเมื่อ 3-4 ปีก่อน
ไม่ค่อยคุ้นชื่อปืนสักเท่าไหร่ พอมา ถึงปัจจุบัน ปืนเหล่านั้นล้วนเป็นปืนที่มีดีกรีแชมป์ทั้งนั้น
แต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อ ล้วนเป็นปืนที่เหล่าสาวกปืนลมไฝ่ฝันที่จะได้ครอบครอง
อีกทั้งยังใส่รายละเอียดและการปรับจูนมาแล้วทั้งนั้น ซึ่งหมายถึงประสิทธิภาพที่เหนือกว่าปืนที่ใหม่ออกห้าง
มันไม่ได้มีแค่ความสวยงามอย่างเดียว
ผมเคยนึกอยากได้ปืนที่สั่งจาก custom shop หรือ จากแหล่งปรับจูน ค่ายต่างๆ
แต่สำหรับเมืองไทยคงเป็นไปได้ยาก

ระบบ free floating barrel  เห็นแต่ปืนไรเฟิลลำกล้องยาวๆ (ในยูทรูฟ ทีเอาแบงค์ รูดใต้ลำกล้อง)
เท่าที่ฟัง เหมือนกับ เค้าบอกแรงหมุนของลูกปืนในลำกล้อง ทำให้ลำกล้องสั่นๆ ตามจังหวะไม่ไปฝืนลูกปืนที่หมุนอยู่ในลำกล้อง ทำให้แม่นยำมากขึ้น
 หากปลายลำกล้องถูกยึด จังหวะการหมุนของลูกปืนจะสะดุด อาจทำให้กลุ่มแตกออกไป(ในยูทรูป ทดสอบfree floating barrel )

แต่ผมงง  ว่า   40 ฟุต/ปอนด์ กับ 80 ฟุต/ปอนด์ ของDaystate  ถึงออกแบบไม่เหมือนกัน
หรือว่าประการที่1  80ฟุต/ปอนด์  แรงสั่นภายในลำกล้องมีมากกว่า เลยต้องยึดไว้นิดนึง
ประการที่2  80ฟุต/ปอนด์ อาจเป็น free floating barrel  เพราะลำกล้อง มันอยู่ด้านในท่อครอบลำกล้องอีกทีครับ อาจารย์

(http://i7.photobucket.com/albums/y271/tanasit/AIRGUNS/Air-Ranger-1-0709.jpg)

(http://i7.photobucket.com/albums/y271/tanasit/AIRGUNS/Air-Ranger-3-0709.jpg)

Air Ranger มี option ให้เลือกหลายอย่าง แต่ที่เรากำลังพูดถึงคือ free floating กับ barrel shroud จากรูปข้างบนทั้งสอง จะเห็นได้ว่ารุ่น 40 จะมี barrel shroud แต่รุ่น 80 จะไม่มีขนาดลำกล้องจึงเล็กกว่า และมีห่วงรัดไว้จึงไม่เป็น free floating
ส่วนที่มี barrel shroud นั้น แยกเป็น 2 แบบคือครอบไว้สวย ๆ กับแบบที่มี baffle ข้างในทำหน้าที่เก็บเสียงด้วย
ถ้ามี baffle ก็จะมีผลต่อหน้าที่หลักของ free floating ดังนี้

การทำ free floating เพื่อเป็นการเพิ่มความแม่นยำนั้น มีเหตุผลมาจาก....เวลายิงปืน กระสุนจะวิ่งผ่านลำกล้องด้วยความเร็วสูง กระสุนอยากวิ่งไปตรง ๆ ไม่หมุนรอบตัว
แต่ rifle บนผนังด้านในลำกล้อง"บังคับ" ให้มันต้องหมุน เพื่อเป็นการควงสว่าน เพิ่มความเที่ยงตรงในเส้นทางเดิน สิ่งแรกที่ลำกล้องเผชิญจากการดันอย่างรุนแรงของกระสุนเรียกว่า oscillation ซึ่งไม่สามารถกำจัดได้ อีกแรงลับหนึ่งเรียกว่า harmonic วึ่งเป็นการสั่นสะเทือนแบบความถี่สูงนั้น เราสามารถ "ปรับให้คงที่" ได้
สาเหตุที่ harmonic เปลี่ยนแปลง ทำให้ POI (point of impact) เปลี่ยนไป คือเล็งที่เดิม แต่กระสุนไม่ถูกที่เดิม เพราะ harmonic เปลี่ยนไปเพราะ แรงกดดันต่อลำกล้อง ที่เกิดขึ้นระหว่าง "ผิวสัมผัส" ของลำกล้องกับ stock บริเวณด้านหน้าที่ติดกับลำกล้อง แรงกดดันที่ว่ามาจาก 2 กรณีหลักคือการจับถือหรือพาดวางที่ต่างกันจากการยิงครั้งก่อน อีกกรณีคือการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ (อากาศเปลี่ยน หรือความร้อนที่เกิดขึ้นจากการยิงหลายครั้งเข้า) ทำให้ stock ที่ส่วนใหญ่ทำจากไม้เกิดการยืดหยุ่น ทำให้จุดสัมผัสดังกล่าวเปลี่ยนแรงกดดัน  ดังนั้นจึงแก้ไขด้วยการ กำจัดจุดสัมผัสดังกล่าว
นอกจากนี้ ยังมีอีกวิธีหนึ่ง เรียกว่า glass bedding คือการยึดบริเวณโคนของลำกล้องด้วย fibreglass หรือ aluminum ที่ทนทานความเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิได้ดีกว่าไม้
บางทีก็ใช้ทั้ง 2 วิธีรวมกันเลย

คำว่า floationg มันคุ้นๆหูมานาน ผมพอจำได้แบบไม่แน่ใจว่ามันเป็นคำเรียกสำหรับการ
ดัดลำกล้องปืนให้มีความแม่นยำที่สุด ลำกล้องปืนพอทำออกมาทดสอบยิงแล้วก็ floating ไปเรื่อยๆ
จนกว่าจะได้ความแม่นยำมากที่สุด  ตัวแปรในภาษาซีแบบ float ก็เก็บค่าทศนิยมได้หกตำแหน่ง
นัยว่าละเอียดมาก

ปืน s400 ของผมก็มีรอย floating มาเหมือนกัน เป็นรอยผ่าขีดเล็กๆ ขวางข้างลำกล้อง
คิดว่าคงทำให้เวลาดัดเนื้อเหล็กลำกล้องไม่ย่นเสียความราบเรียบ

ทีนี้ free floating barrel เท่าที่รู้เป็นลำกล้องแบบแขวนลอยไม่สัมผัสอะไรนอกจากโคนลำกล้อง
ติดกับโครงปืน ผมว่าเขาทำไว้เพื่อเวลายิงปืนพวกกระสุนแรงๆ กระสุนจะดันลำกล้องบวมออกมา
นิดนึงซึ่งยังไม่ถึงจุดวิกฤตของเหล็กลำกล้อง พอกระสุนผ่านไปลำกล้องก็หดกลับคืน
ตอนบวมนี้แหละถ้าไปสัมผัสกับอะไรก็จะทำให้ลำกล้องเบี่ยงได้ ทำให้เสียความแม่นยำ

หรือถ้ายิงปืนมากๆ ลำกล้องร้อน ถ้าไม่ free floating ลำกล้องก็จะขยายตัวไปดันกับตัวประคองลำกล้อง
ทำให้ลำกล้องเบี่ยงไปได้อีก

บอกตรง ๆ  เดาล้วนๆ มั่ว ครับผม


 

ปืนลมสปริงก็มี harmonic vibration ที่เกิดจากการดีดหรือคลายตัวของสปริงอย่างรวดเร็ว แล้วไปดันลูกสูบ(piston) ผลักอากาศในห้องเก็บอากาศ (air chamber) อากาศถูกอัดอย่างแรง มีทางออกทางเดียวคือ transfer port ที่ส่งลม (อากาศที่ถูกอัดอย่างเร็ว) ความเร็วสูงไปยังก้นกระสุนที่ถูกบรรจุล่วงหน้าไว้แถว ๆ โคนลำกล้อง ในที่สุดลูกสูบก็จะไปกระทบก้นบึ้งของห้องเก็บอากาศอย่างรุนแรง (จะรุนแรงกว่านี้ ถ้าท่านลืมบรรจุกระสุนหรือทดลองยิงโดนไม่ใส่กระสุน (dry fire) โดยคิดว่าไม่น่าจะเป็นอะไร

ด้วยที่ว่าในกระบวนการยิงปืนลมสปริงมีแรงสั่นสะเทือนมากมายเช่นนี้ ตัวปืนหรือโครงปืน (action) จึงต้องถูกยึดติดกับพานท้าย (stock) อย่างมั่นคงแน่นหนา นั่นหมายถึงแรงสั่นสะเทือนก็จะถูกถ่ายทอด (คนละอย่างกับถ่ายทอดทางดาวเทียมนะครับ) หรือส่งผ่านโดยทางพื้นสัมผัสระหว่างตัวปืนกับลำกล้องและตัวปืนกับพานท้าย และในบางกรณีลำกล้องกับพานท้ายอีกด้วย

เวลายิงการจับพานท้ายปืนของแต่ละคนก็จะต่างกันออกไป ไม่มากก็น้อย หรือการพาดแท่นยิงก็มีเทคนิคและลีลาต่างกัน แถมยังใช้วัสดุในการรองต่างกันอีก ในการนี้ส่วนอื่นใดที่มาจับต้องหรือสัมผัสกับพานท้ายก็จะได้รับช่วงการถ่ายทอดความสั่นสะเทือนดังกล่าวไปด้วย นักกีฬายิงปืนโอลิมปิคเขาจะใส่ถุงมือยิงปืนด้วย???

ดังนั้น ถ้าเราต้องการยิงด้วยความสม่ำเสมอของคุณลักษณะของการสั่นสะเทือนเพื่อเป้าหมายสุดยอดคือความแม่นยำแล้วละก็  เราก็ต้องพยายามทุกวิถีทางที่จะควบคุม harmonic vibration ของการยิงทุกครั้งให้ใกล้เคียงกันมากที่สุด  ตัวแปรแรกเลยก็คือ ท่าทางการจับปืนของเรานั่นเอง นอกจาก “ตำแหน่ง” การวางมือทั้งสองแล้ว “ความแน่น” ในการจับกุมก็จะมีผลด้วย ปืนลมสปริงบางชนิดชอบให้จับแน่น ๆ แต่ส่วนมากมักจะชอบให้จับแค่ประคองไม่ให้เคลื่อนไหว

ท่านที่อยากยิงปืนลมสปริงให้มีความแม่นยำ ก็ต้องทดลองจับปืนที่ตำแหน่งต่าง ๆ และความแน่นต่างๆ กัน จนกว่าจะเจอจุดที่เหมาะสมที่สุด

ตัวแปรภายนอกที่เราควบคุมไม่ได้ เช่น อุณหภูมิโดยรอบ หรือความชื้นในอากาศ ก็มีผลต่อความแม่นยำ

อนึ่ง อย่าลืมว่าคุณภาพของปืนต้องมาก่อนอื่น เพราะถ้าปืนของเราไม่มีความแม่นยำเป็นพื้นฐาน ต่อให้เอาพาดแท่น มัดเชือก ล่ามโซ่ ก็มิอาจจะยิงถูกเป้าตามที่เราต้องการได้ไม่

ธนาสิทธิ์ ศิริลักษณ์
๑๗ ธันวาคม ๒๕๕๔

ขอบคุณอาจารย์ครับ

ถ้าเรื่องคุณภาพปืนก็ต้องยอมรับครับว่าคุณภาพของปืนและอุปกรณ์ประกอบต้องมาก่อนอื่นใด
จะมาใช้ปืนด้อยกว่าแล้วเอาฝีมือเข้าชดเชยแบบนี้โอกาสแพ้สูงมาก

ผมก็ไม่แปลกใจที่แข่งขันกันที่ผ่านมาชัยชนะเป็นของปืนสไตเออร์ (พรานทศ)
ในขณะที่คู่แข่งส่วนใหญ่เป็นปืนชาวบ้านเกรดรองลงไป 

คนที่ซื้อปืนอัดลมแล้วต้องซื้ออีกกระบอก ก็เพราะคุณภาพปืนที่มีอยู่เริ่มไม่พอกับ
ฝีมือของตนที่พัฒนาดีขึ้นไปจนเห็นข้อบกพร่องของปืนกระบอกเก่า

ขอบคุณอาจารย์ธนาสิทธิ์ครับ ที่ช่วยอธิบายเรื่องยากๆ ให้เข้าใจได้ง่ายๆ

+1 พี่สิทธา  วันนี้มาแบบสุขุม เยือกเย็น ตามอุณหภูมิเลยนะครับ

คือช่วงนี้คงต้องสงบเสงี่ยมเจียมตัวเก็บหอมรอมริบ เพื่อเป็นทุนสู่ขอสไตเออร์ ฮั้นติ้ง ครับ

ขอบพระคุณอาจารย์มากครับ...

เชียครับ

ตอนก่อนที่ผมจะตัดสินใจซื้อ Steyr-LG 100ZM ผมเห็นได้ชัดว่าผู้เข้าแข่งขันส่วนใหญ่มักใช้เจ้า Steyr-LG 100ZM และตำแหน่งต้น ๆ ในกาารแข่งขันก็มักจะตกเป็นของ Steyr-LG 100ZM ผมจึงคุยกับ ZM  หรือ Allan Zasadny (ZM ย่อมาจาก Zasadny Modified) ซึ่งเป็นคนโมเจ้า Steyr-LG 100ZM โดยเขาจะสั่งมาครั้งละ 6-10 กระบอกแล้วโมพร้อม ๆ กันเลย แต่จะมีลูกค้าบางคนที่สั่งบางอย่างเป็นพิเศษ ก็ว่ากันไป
พอตั้งปืนและกล้องได้ที่ ผมก็เอาไปแข่งและก็ชนะมาตลอด จนครั้งหลัง ๆ พอแบกเจ้า Steyr-LG 100ZM ไป คนอื่น ๆ เขาก็แหยง ๆ ผมก็เลยต้องท้าทายตัวเองโดยการใช้ปืนอื่น ๆ เข้าแข่งขัน โดยเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ เพราะในใจก็รู้ดีว่า เมื่อใช้ Steyr-LG 100ZM เข้าแข่งก็เหมือนกับเอาเปรียบชาวบ้าน เพราะเหมือนจะ "ง่ายเกินไป" เพราะพอเล็งเข้าเป้า ลั่นไก ก็ถูก 95 % ขึ้นไป ที่ผิดก็อาจจะเป็นเพราะลม, แสงแดด, หรือแม้แต่กระทั่งความประมาท เช่นมีเป้าที่เป็นนกกระจิบ (warbler) เกาะบนเสาสูง ซึ่งถ้าจะยิงกลางลำตัวก็ถูกได้ง่าย ๆ แต่ส่วนหัวโดยเฉพาะจงอยปากที่ยังมีสีสดสวยเพราะไม่่มีใครยิงถูก  ผมก็เลยเล็งยิงที่ปากซะเลย...555

อีกอย่างเมื่อเรามีความมั่นใจในปืน เราจะยิงได้ดีกว่าปืนที่เรา "สั่งไม่ได้"  หลายครั้งผมเดินผ่านเป้าโหดที่หลายคนยิงเท่าไหร่ก็ไม่ถูก เห็นคนอื่นเพิ่งยิงผิด ถ้าผมพอจะรู้จักเขาดี ผมก็จะถามว่าอยากลองยิงด้วย Steyr-LG 100ZM ของผมไหม  หลายคนลอง นัดแรกจะผิดเสมอ เพราะผมตั้งไกไว้โดยมี first stage travel น้อยมาก คือแตะก็ลั่นเลย แต่พอนัดต่อ ๆ มา ก็ยิงถูกกันส่วนใหญ่ ...

ขอบคุณครับอาจารย์
ชัดเจนครับ +1

มีผู้รู้มายืนยันแบบนี้   ก็เหมือนเทน้ำมันเข้ากองไฟ  ทำให้ Steyr-LG 100 ร้อนขึ้นมาอีกแล้ว  หลังจากที่  เพลิงได้มอดลงเพราะกระแสเงินขาดมือ  ทำให้ความสนใจเงียบหายไป  แต่ตอนนี้ต้องบอกว่า   ตื่นๆกันได้แล้ว  เดี๋ยวไม่ทันรถไฟขบวนนี้นะครับ

 ::014:: ขอบคุณครับอาจารย์ สำหรับความรู้เพิ่มเติมหลายๆเรื่อง

ถ้างั้นผมก็คงต้องเลือก Steyr-LG 110 แบบอาจารย์บ้างแล้ว..เผื่อๆอาจจะได้อยู่เลื่อนตำแหน่งไปอยู่ใกล้หัวแถวกะเขาบ้างครับ... ;D ;D


ปล. ผมยังสงสัยอยู่ว่า อาจารย์ ปรับแต่งปืนที่ลงแข่งขันของอาจารย์เกือบทุกกระบอกนั้น ซึ่งเป็นขนาดเบอร์ 1 ( 4.5 มม.) ใชู้ลูกขนาดน้ำหนัก 10.5 เกรน และความเร็วของลูกวิ่งอยู่ประมาณ 850-900 ฟุต/วินาที ผมไปโุที่กระทู้ FWB P70 สีแดง ถ้าตามตารางคำนวณจะได้พลังงานประมาณ 22-25 จูลนั้น พอจะบอกได้ไหม ครับเพราะด้วยเหตุผลอะไร หรือว่าเป็นเพราะจากการทดลองหลายๆครั้ง ครับ

พี่ "หน่อง" ครับ...
โครงการ Hatsan Bull Pup ไปถึงใหนแล้วครับ...
อยากเห็นต้นแบบ...(จะได้ลอกแบบ..อิอิ)

ยังครับ..ตอนนี้..ใจหมดงบ..แล้วเดี๋ยวรอใจมาก่อน..5555

ด้วยเหตุผลนี้ ผมจึงต้องออกแบบให้มีที่ประทับแก้มที่พับได้ และให้มีทรง "โค้ง" อ้อมคลุมไปอีกด้านเพื่อเป็นการป้องกันลมรั่วตอนยิงที่"อาจ"ออกมาจากทางด้านหลังดังกล่าว

::014:: +1 ครับ ดร.ธนาสิทธิ์ เข้ามาให้ความรู้บ่อยๆนะครับ ::002:: ::014::